✨ เที่ยวเมืองโบราณริมโขง ชมสองวัฒนธรรมไทยลาว ณ หนองคาย ✨

#หนองคาย เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่ยุคอาณาจักรขอม อาณาจักรล้านช้าง จนถึงเมืองใหม่ในปัจจุบัน โดยเห็นได้จากโบราณสถานและวัดวาอารามมากมายที่ส่งต่อประวัติศาสตร์เหล่านั้นมาให้คนรุ่นปัจจุบันอย่างเราได้ชื่นชม

ทริปนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ คติความเชื่อ และชมบรรยากาศริมโขงยามเย็นกัน

•  วันที่ 1
  • 1. สักการะพระคู่บ้านคู่เมือง ณ วัดโพธิ์ชัย
  • 2. ไหว้พระธาตุกลางน้ำ ณ พระธาตุหล้าหนอง
  • 3. ชมประติกรรมผสมผสานขนาดใหญ่ ณ ศาลาแก้วกู่
  • 4. รับลมริมโขง ชมอาทิตย์ตกดิน ณ สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1

•  วันที่ 2
  • 5. สักการะอัฐิหลวงปู่เทสก์ ณ วัดหินหมากเป้ง
  • 6. เลาะถ้ำใต้ดิน ณ วัดถ้ำศรีมงคล
  • 7. ชมวิวโขงบนสกายวอล์ก ณ วัดผาตากเสื้อ

• การเดินทาง 
•  รถโดยสารประจำทาง : ขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต สอบถามรายละเอียด ตารางเดินรถของบริษัทต่าง ๆ ได้ที่เบอร์โทร. 02 936 2852 หรือสอบถามได้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดหนองคาย โทร. 042 412 679

•  รถไฟ : มีขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯ – หนองคาย ทุกวัน สอบถามรายละเอียด โทร. 1690 การรถไฟแห่งประเทศไทย

•  เครื่องบิน : ไม่มีเที่ยวบินตรงไปยังหนองคาย แต่สามารถนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินนานาชาติอุดรธานี แล้วต่อด้วยรถโดยสารหรือเช่ารถขับไป ระยะทาง 51 กิโลเมตร
  • สายการบินไทยสมายล์ สอบถามโทร. 02 118 8888, 1181 หรือจองออนไลน์ https://www.thaismileair.com/
  • สายการบินนกแอร์ สอบถามโทร. 1318 หรือจองออนไลน์ https://www.nokair.com/
  • สายการบินแอร์เอเชีย สอบถามหรือจองออนไลน์ https://www.airasia.com/th/th
  • สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ สอบถามโทร. 02 529 9999 หรือจองออนไลน์ https://www.lionairthai.com/th/
  • สายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ สอบถามโทร. 02 089 1909 หรือจองออนไลน์ https://th.vietjetair.com/

 วันที่ 1

วัดโพธิ์ชัย 

เริ่มต้นทริปด้วยการไปไหว้พระคู่บ้านคู่เมืองกันที่ “วัดโพธิ์ชัย” วัดเก่าแก่ของจังหวัดหนองคาย เดิมชื่อ “วัดผีผิว” เป็นวัดร้างและใช้เป็นสถานที่เผาศพ จนกระทั่งสมัยรัตนโกสินทร์ มีการบูรณะวัดขึ้นมาและยกฐานะเป็นพระอารามหลวง

ด้านหน้าพระอุโบสถมีเจดีย์พระธาตุอรหันต์องค์สีขาว ประดับปูนปั้นรูปหน้ายักษ์สีทองเด่น จึงเรียกพระธาตุองค์นี้กันว่า “พระธาตุยักษ์”

ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระประธาน “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่สร้างในสมัยที่อาณาจักรล้านช้างปกครองพื้นที่แถบนี้ หล่อด้วยทองสีสุก คือโลหะสัมฤทธิ์ที่มีส่วนผสมหลักเป็นทองคำ 

ตามตำนานกล่าวว่า พระธิดาทั้ง 3 พระองค์ของกษัตริย์ล้านช้างได้ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ ได้แก่ “พระสุก พระเสริม และพระใส” ประดิษฐานอยู่นครเวียงจันทน์ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 3 ได้อัญเชิญมาที่หนองคายด้วยแพไม้ไผ่ ระหว่างทาง แพของพระสุกแตกและหายไปในแม่น้ำโขง ส่วนพระเสริมและพระใส ได้อัญเชิญมาไว้ที่วัดโพธิ์ชัยแห่งนี้ จนกระทั่งสมัยรัชกาลที่ 4 ได้อันเชิญพระเสริมไปที่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ภายในพระอุโบสถยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามมาก เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ เทพชุมนุม ตำนานพื้นบ้านต่าง ๆ รวมถึงประวัติพระสุก พระเสริม พระใส และประเพณีฮีตสิบสอง (ประเพณี 12 เดือนที่เกี่ยวเนื่องกับหลักทางพุทธศาสนา และความเชื่อของชาวอีสาน)

•  ถนนประจักษ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
•  เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
•  042 461 123, 042 411 128
• https://goo.gl/maps/LaQAGpkFc74zFrKT6

ใกล้ ๆ กับวัดมีลานพญานาคสีเขียว 2 ตนหันหน้าเข้าหากัน เปรียบดั่งประตูสู่ฝั่งโขง นับเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย

ช่วงเย็น บริเวณนี้จะครึกครื้น ผู้คนออกมาเดินเล่นรับลม และออกกำลังกายกัน

•  ตรงข้ามวัดลำดวน ซอยริมโขง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
• https://goo.gl/maps/9KswKUWW6YyXKhtB6

พระธาตุหล้าหนอง 

ถัดมา แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลางแม่น้ำโขงที่ “พระธาตุหล้าหนอง” หรือพระธาตุกลางน้ำแห่งเมืองหนองคาย สันนิษฐานว่าสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 20–22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวนที่มีการค้นพบว่าสร้างในสมัยนั้น

พระธาตุหล้าหนองแห่งนี้ แต่เดิมตั้งอยู่ที่วัดธาตุ ชุมชนวัดธาตุ ริมฝั่งแม่น้ำโขง จนกระทั่งปี พ.ศ. 2390 องค์พระธาตุได้พังทลายและเอียงล้มลงจากการถูกน้ำกัดเซาะ ปัจจุบัน เหลือเพียงองค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนที่จมอยู่กลางแม่น้ำโขง จะปรากฏให้เห็นในช่วงที่น้ำลด

การชมพระธาตุหล้าหนอง สามารถชมได้ในระยะไกลจากฝั่ง หรือจะนั่งเรือไปชมและสักการะใกล้ ๆ ก็ได้ โดยจะมีเรือให้บริการ 200 บาท/ลำ นั่งได้ 10-15 คน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที 

ปัจจุบันมีการสร้างพระธาตุหล้าหนององค์จำลองไว้บนฝั่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากองค์จริงมากนัก ยอดปลีฉัตรเป็นรูปดอกบัว 9 ชั้น ประดับประดาด้วยอัญมณีมงคลอย่างสง่างาม และได้มีการบรรจุชิ้นส่วนพระธาตุองค์จริงไว้ข้างใน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้

•  ตำบลหาดคำ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
• https://goo.gl/maps/8cJtrqiXFXRAjSVF8

ในตัวเมือง มีร้านอาหารมากมายให้เลือก ทั้งอาหารไทย-อีสาน และอาหารเวียดนาม มาถึงหนองคายทั้งที อย่าพลาดโอกาสที่จะลองอาหารถิ่นกันนะ 

ศาลาแก้วกู่ 

ถัดมา แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมอุทยานเทวาลัย “ศาลาแก้วกู่” หรือ วัดแขก ซึ่งเป็นเทวาลัยแห่งศรัทธา ตามคติความเชื่อที่ว่า ทุกศาสนาสามารถผสมผสานกันได้ ภายในอุทยานมีรูปปั้นแปลกตามากมาย ทั้งในทางพุทธศาสนา พราหมณ์-ฮินดู รูปปั้นเกี่ยวกับรามเกียรติ์และตำนานพื้นบ้าน รูปปั้นเหล่านี้สร้างโดยหลวงปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ เมื่อปี พ.ศ. 2521 รวมทั้งสิ้น 208 องค์

ปัจจุบัน ร่างของหลวงปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ ถูกเก็บรักษาไว้ที่ชั้น 3 ของอาคารศาลาแก้วกู่ และไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปกราบไหว้ด้านในได้

แม้ว่ารูปภาพที่เราได้เห็นกันนั้นอาจจะดูน่ากลัว แต่หากได้ไปชมที่ศาลาแก้วกู่จริง ๆ จะเห็นว่า รูปปั้นแต่ละจุด มีความสวยงามและประณีตอย่างยิ่ง ถ้าเป็นสายถ่ายรูป รับรองเช็คอินถ่ายรูปกันได้หลายมุมเลยล่ะ

• ชุมชนสามัคคี ตำบลวัดธาตุ อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
•  เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
•  ค่าเข้าชม 20 บาท (ทั้งคนไทยและต่างชาติ)
•  081 369 5744
• https://goo.gl/maps/VdWCbVS2KMLkfABK9

สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1

ตกเย็น แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันที่ “สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1”

สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นโดยความร่วมมือของประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และประเทศออสเตรเลีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว โดยเชื่อมระหว่างอำเภอเมืองหนองคายกับเมืองท่าเดื่อของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ช่วงพลบค่ำ เพื่อน ๆ จะได้เห็นแสงไฟจากสะพานกระทบกับผิวน้ำ สวยไปคนละแบบกับช่วงกลางวัน นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ ยังมีร้านอาหารหลายร้านให้เราได้เลือกดื่มด่ำกับบรรยากาศมื้อค่ำและวิวแม่น้ำโขงอีกด้วย 

สำหรับที่พัก แนะนำให้เลือกพักในตัวเมือง เพราะมีที่พักให้เลือกหลายแห่งหลายราคา

•  ตำบลมีชัย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
• https://goo.gl/maps/bQqacwdLmGyHudXg8

 วันที่ 2

วัดหินหมากเป้ง 

จากตัวเมืองหนองคาย เราเดินทางไปที่อำเภอศรีเชียงใหม่ ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง จุดหมายแรกก็คือ “วัดหินหมากเป้ง” วัดเก่าแก่อายุกว่า 80 ปี บรรยากาศร่มรื่น มีต้นไม้มากมายทั้งพืชดอกพืชผล นอกจากนี้ ยังมีสกายวอล์กขนาดเล็กยื่นออกจากหน้าผาให้เพื่อน ๆ ได้ถ่ายรูปวิวแม่น้ำโขงได้

“หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี” พระเกจิสายวิปัสสนากรรมฐาน เป็นผู้พัฒนาวัดแห่งนี้ โดยจัดตั้งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของภิกษุ แม่ชี และผู้แสวงบุญทั้งหลาย

หลังจากที่หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี มรณภาพ ทางวัดได้สร้างเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิของท่าน ท่ามกลางป่าอันร่มรื่น
นอกจากนี้ ยังมีรูปปั้นของหลวงปู่เทสก์ เครื่องอัฐบริขารและการจัดแสดงชีวประวัติของท่านอีกด้วย เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปกราบสักการะ และชื่นชมกับบรรยากาศอันร่มรื่นโดยรอบได้

• วัดหินหมากเป้ง 
•  บ้านไทยเจริญ ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
• https://goo.gl/maps/aqrtKHTx3pmxqQ9a8

วัดถ้ำศรีมงคล 

ต่อมาแอดจะพาเพื่อน ๆ ไปผจญภัยในถ้ำที่กล่าวกันว่าเป็นถ้ำพญานาคที่ “วัดถ้ำศรีมงคล”

วัดถ้ำศรีมงคล เป็นที่ตั้งของ “ถ้ำดินเพียง” มีตำนานเล่าว่า เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าต่อกันมาอีกว่า ที่นี่เคยเป็นเส้นทางที่พระธุดงค์จากฝั่งประเทศลาวลอดผ่านแม่น้ำโขงมายังฝั่งไทย แต่พระที่ผ่านเข้า-ออกได้ จะต้องเป็นพระอภิญญาผู้มีศีลอันแก่กล้าเท่านั้นที่จะมองเห็นเส้นทางนั้นได้

ถ้ำแห่งนี้เปิดให้เข้าชมโดยมีเจ้าหน้าที่ของวัดเป็นผู้นำชม ผู้เข้าชมโปรดปฏิบัติตามกฎของวัดอย่างเคร่งครัด ใช้เวลาในการชมถ้ำประมาณ 15-20 นาที

ภายในถ้ำมีลักษณะเป็นโพรงถ้ำซับซ้อน ขนาดโพรงไม่ใหญ่มาก บางช่วงเป็นช่องแคบ ๆ อาจจะต้องมุดผ่าน บนพื้นถ้ำมีน้ำไหลผ่าน ทำให้มีความชื้นอยู่ตลอดเวลา ถ้ำแห่งนี้จึงกลายเป็นตำนานเล่าขานมายาวนาน โปรดใช้วิจารณญาณในการชม

• วัดถ้ำศรีมงคล 
  •  ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
  •  เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
  •  ค่านำชม คณะละ 100 บาท
  •  093 067 7959
  • https://goo.gl/maps/4z54nXZGnhZJLtJv5

วัดผาตากเสื้อ 

สถานที่สุดท้ายของทริป เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของหลาย ๆ คนที่เดินทางมาจังหวัดหนองคายเลย นั่นก็คือ “วัดผาตากเสื้อ”

วัดผาตากเสื้อ เดิมชื่อ “วัดถ้ำพระ” สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและบำเพ็ญเพียรของพระสงฆ์ ต่อมาได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานในมณฑปเมื่อปี พ.ศ. 2550 เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะ

ไฮไลต์ที่ห้ามพลาด คือ “สกายวอล์ก” เป็นทางเดินพื้นกระจกใสรูปเกือกม้ายื่นออกไปตรงบริเวณหน้าผา ระยะทางเดินรวม 16 เมตร สามารถรองรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 20 คน หรือประมาณ 2,500 กิโลกรัม จุดนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยมาก สามารถมองเห็นสายน้ำโขงทอดยาวสุดสายตา ตัดกับป่าสีเขียวฝั่งลาวอย่างงดงาม 

หากมาเดินเล่นที่นี่ในช่วงเย็น ก็จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินและท้องฟ้าสีทองด้วยนะ บอกเลยว่าใครที่มาหนองคาย ต้องมาที่วัดผาตากเสื้อแห่งนี้ 

•  บ้านดงต้อง ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
•  042 901 013
•  เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
• https://goo.gl/maps/YjChJmgzBa22