อาหารท้องถิ่น

อุดรธานี..เมืองนี้ม่วนหลาย 2 วัน 1 คืน

วันที่ 1หนองประจักษ์กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอกตลาดผ้าบ้านนาข่าส้มตำเจ๊ไก่Dose Factory วันที่ 2ทะเลบัวแดงวัดสันติวนารามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียงStreet Art บ้านเชียง วันที่ 1 จุดแรกแอดจะพาเพื่อน ๆ ไปยังสถานที่ยอดนิยมของอุดรธานี ใครมาเที่ยวที่นี่ก็ต้องมาแวะถ่ายรูปกับเป็ดเหลืองกลางบึงหนองประจักษ์กันแทบทุกคน ที่นี่เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมือง ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี.หนองประจักษ์มีหลายมุมให้เราได้เก็บภาพสวย ๆ ทั้งสะพานแขวน และสวนดอกไม้ รวมทั้งภาพการออกมาพักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกายของชาวเมืองอุดรธานี.ที่ตั้ง : ถนนเพาะนิยม ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ผ้าย้อมสีกลีบบัว กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ถัดมาแอดจะพามาชมมหัศจรรย์บัวแดงสู่ผ้าทอที่ กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก นักท่องเที่ยวสามารถมาทำกิจกรรมย้อมผ้าได้ แต่เดิมกลุ่มทอผ้าบ้านโนนกอกก็มีอาชีพทอผ้าอยู่แล้ว ต่อมาได้พัฒนาต่อยอดด้วยการนำก้านและกลีบของดอกบัวแดงมาใช้เป็นสีย้อมเส้นฝ้าย ในการย้อมสี จะใช้ส่วนของดอกบัวและก้านบัวหรือสายบัวมาต้มเพื่อให้เกิดสี สีที่ได้นั้นสวยงามและติดทนนาน การต้มจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ดอกบัวเมื่อผ่านการต้มแล้ว สีที่ได้จะออกมาเป็นสีทอง ส่วนก้านบัวหลังจากต้มจะออกเป็นสีเงิน ลวดลายการทอส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ใครอยากมาทำกิจกรรมย้อมผ้า สามารถติดต่อล่วงหน้าได้เลย กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอกที่ตั้ง : 63 หมู่ 18 บ้านโนนกอก ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีโทร. 09 3547 8255, 06 1942 8808เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/efpC6uc93VS2AmLt8เว็บไซต์ : www.nairobroo.com/shopping/silk-of-baan-non-kok/ ตลาดผ้านาข่า จังหวัดอุดรธานีขึ้นชื่อเรื่องงานหัตถกรรมโดยเฉพาะผ้าขิด แอดเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปชอปปิ้งผ้าขิดที่ตลาดผ้าบ้านนาข่า ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ และหมู่บ้าน OTOP ท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานี.ตลาดผ้าบ้านนาข่าเป็นแหล่งรวมสินค้าหัตถรรมพื้นบ้าน มีทั้งผ้าหมี่ขิด ผ้าไหมลายขิด ซึ่งมีลวดลายสวยงาม มีความมัน วาว และนูน อันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของจังหวัดอุดรธานี นอกจากนี้ ยังจำหน่ายสินค้าอื่น ๆ เช่น เสื้อผ้าฝ้าย หมอนอิง กระเป๋า ผ้าพันคอ เพื่อน ๆ เลือกช้อปกันได้ในราคาไม่ล้มละลาย .ที่ตั้ง : ตำบลบ้านขาว อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีโทร. 08 5013 1060, 08 7230 0300 (กลุ่มตลาดผ้านาข่า)เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/fbcubE5XZmaE1nnY8 ร้านส้มตำเจ๊ไก่ มาดูร้านอร่อยเด็ดกันบ้าง ส้มตำเจ๊ไก่ ถูกปากทั้งชาวเมืองอุดรและนักท่องเที่ยว ว่ากันว่าร้านนี้แซ่บนัว ถึงใจ แอดเองก็ไม่ยอมพลาด แต่ขอบอกว่าอย่าไปใกล้มื้ออาหาร เพราะอาจจะต้องรอคิวนานสักหน่อย.เมนูห้ามพลาดที่ทางร้านแนะนำมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเมนูส้มตำต่าง ๆ ตำกุ้งสด ตำหอยแครง ตำโคตรมั่ว รวมทั้งเมนูแซ่บอื่น ๆ อย่างต้มแซ่บกระดูกอ่อน แกงหน่อไม้ หอยต้ม เป็นต้น .ส้มตำเจ๊ไก่ อุดรธานีมี 2 สาขาสาขา 1ที่ตั้ง : 230/28 ซอยศาลเจ้าแม่ทับทิม ถนนอัศวมิตร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีเปิดทุกวัน 10.00-16.00 น.โทร. 08 7373 2128 สาขา 2ที่ตั้ง : 167/16 ถนนนเรศวร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีเปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.โทร. 08 6239 2244 . ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ ส้มตำเจ๊ไก่อุดรธานี สาขา 1 Dose Facetory แซ่บกับส้มตำเจ๊ไก่แล้ว อย่าเพิ่งรีบอิ่มกันนะ เพราะแอดจะพามาต่อที่ร้าน Dose Factory ร้านนี้ดัดแปลงมาจากโรงงานเก่า ตกแต่งแบบ Loft ดูเท่ ๆ ถูกใจทั้งวัยรุ่น วัยเก๋า.อาหารเป็นสไตล์ฟิวชั่น มีทั้งไทยและอิตาเลียนให้เลือก เห็นแล้วหิวอีกรอบ ส่วนกาแฟก็เป็นกาแฟพิเศษจากโรงคั่วของร้านเอง ปิดท้ายกับขนมหวานที่น่ากินไปทุกเมนู ว่ากันว่าใครไปอุดรธานีก็ต้องแวะไปร้านนี้สักมื้อ.ที่ตั้ง : 112/1 ถนนนเรศวร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีเปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.โทร. 09 8661 4642พิกัด : https://g.page/dosefactory?share . ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ Dose Factory วันที่ 2 ทะเลบัวแดงเช้านี้เราจะไปชมอีกหนึ่งไฮไลท์ นั่นคือ ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี ใครไปถึงอุดรธานีจะต้องห้ามพลาด ที่นี่เราจะได้เห็นบัวแดงที่ออกดอกบานสะพรั่งเต็มบึงหนองหานสุดลูกหูลูกตา นี่เองเป็นที่มาของคำว่า “ทะเลบัวแดง” บึงหนองหานเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์ปลา พันธุ์นกนานาชนิด และเป็นจุดที่ยังพอจะได้เห็นวิถีการทำประมงพื้นบ้านอีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมทะเลบัวแดงของปีคือ ช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ดอกบัวแดงจะบานสวยงามที่สุด หากอยากชมดอกบัวแดงอย่างใกล้ชิด สามารถใช้บริการเรือพาเที่ยวชมได้ เรือนี้เป็นเรือของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรอบบึงหนองหาน ให้บริการอยู่ที่ท่าเรือบ้านเดียม แนะนำให้ล่องเรือในตอนเช้า ช่วงเวลา 06.00-11.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ดอกบัวจะบานสวยเต็มที่ และสภาพอากาศก็ยังไม่ร้อนมากด้วยค่ะกลุ่มเรือบริการท่องเที่ยว ท่าเรือบ้านเดียมโทร. 08 1964 5420, 08 9395 0871– เรือพาเที่ยว (รอบใหญ่) ใช้เวลา 90 นาที ราคา 500 บาท/ลำ นั่งได้ไม่เกิน 10 คน– เรือพาเที่ยว (รอบเล็ก) ใช้เวลา 45 นาที ราคา 300 บาท/ลำ นั่งได้ไม่เกิน

อุดรธานี..เมืองนี้ม่วนหลาย 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

ด่านซ้าย-เชียงคาน 2 วัน 1 คืน

ไหน ๆ 2 วันที่ผ่านมา แอดก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำโขงมานำเสนอเพื่อน ๆ แล้ว วันนี้แอดเลยอยากนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดหนึ่งริมฝั่งโขง และเป็นที่นิยมของคนหลายวัยมานำเสนอ นั่นก็คือจังหวัด “เลย” นั่นเอง . พูดถึง จ.เลย แอดมักจะนึกถึงความสงบ และมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น ยิ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยิ่งสวยงาม จึงทำให้เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวต่างนิยมมาเยี่ยมเยียน วันนี้แอดจะนำที่เที่ยวที่ไหนมานำเสนอบ้าง ตามไปอ่านกันเลย วันที่ 11. พระธาตุศรีสองรัก2. พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย3. แก่งคุดคู้4. ถนนคนเดิน.วันที่ 25. ภูทอก6. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ วันที่1พระธาตุศรีสองรัก.สร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทร์) เป็นเจดีย์ที่สร้างเพื่อถวายเป็นอุเทสิกเจดีย์ (เจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้ศาสนา ไม่มีกำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด) ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญ เป็นสัญลักษณ์และตราประจำจังหวัดเลย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน เป็นวัดที่ไม่มีพระภิกษุพำนักอยู่.ตัวพระธาตุ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ย่อมุมไม้สิบสอง ระฆังทรงบัวเหลี่ยม ตามแบบฉบับเจดีย์แถบลุ่มน้ำโขง และมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะทิเบตประดิษฐานอยู่อีกด้วย.ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลยเปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.30 น. ทุกปีจะมีงานประเพณีสมโภชพระธาตุศรีสองรัก ในวันวิสาขบูชา วันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 6 (พฤษภาคม) โดยชาวด่านซ้ายจะนำต้นผึ้งซึ่งทำมาจากโครงไม้ไผ่ กรุด้วยกาบกล้วย ประดับแผ่นเทียนและดอกไม้อย่างสวยงามมาถวายองค์พระธาตุ.สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเกี่ยวกับพระธาตึศรีสองรัก ก็คือ ห้ามมีสีแดง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายด้วยชุดสีแดง การนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชา เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงถือเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง วัดโพนชัย (พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน).พูดถึง จ.เลย สิ่งที่หลายคนมักจะนึกถึงก็คือ “ผีตาโขน” แอดเลยอยากพาเพื่อน ๆ มาที่ วัดโพนชัย ซึ่งเป็นแหล่งรวมประวัติความเป็นมา ภูมิปัญญา ภาษา ประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อของชาวด่านซ้าย และยังมี พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ซึ่งมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับผีตาโขน มีภาพเกี่ยวกับงานเทศกาล ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ รวมไปถึงจัดแสดงหุ่นจำลองใส่ชุดผีตาโขนไว้ด้วย.วัดโพนชัย ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลยเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.โทร. 0 4289 1094 (กศน.ด่านซ้าย) นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ผีตาโขนยังมีกิจกรรมวาดลวดลายและลงสีบนหน้ากากผีตาโขนขนาดเล็ก ให้นักท่องเที่ยวได้สร้างผีตาโขนในแบบฉบับของตัวเอง และมีร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับผีตาโขนด้วย.ค่าใช้จ่ายในการวาดหน้ากากผีตาโขน ราคากลุ่มละประมาณ 200 บาท (ราคาจะแตกต่างกันไปตามจำนวนคน แนะนำให้โทรสอบถามล่วงหน้า) แก่งคุดคู้.มา จ.เลย ทั้งทีจะพลาดมา อ.เชียงคาน ได้ไง สถานที่ต่อมาที่แอดแนะนำก็คือ แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่อยู่กลางน้ำบริเวณช่วงโค้งของแม่น้ำโขง ยิ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม จะเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน.บริเวณแก่งคุดคู้ มีสวนสาธารณะ หอชมวิว ลานกิจกรรม ร้านค้า และอาคารนิทรรศการที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับ จ.เลย สามารถชมแก่งคุดคู้และนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ทั้งวัน.ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย 42110โทร. 08 1137 6051, 06 2197 0269, 09 2885 3975 (ชมรมเรือนำเที่ยวไทย-สปป.ลาว) ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือยนต์ชมแม่น้ำโขงสองฝั่งไทย-ลาวได้อีกด้วย โดยจะใช้เวลาไป-กลับ ราว ๆ 1 ชั่วโมง ราคาเหมาลำประมาณ 800 บาท ถนนคนเดินเชียงคาน.สถานที่ยอดฮิต ที่รวบรวมเสน่ห์ของเมืองเชียงคานเอาไว้ให้เพื่อน ๆ ได้สัมผัสมากมาย กิจกรรมยอดฮิตที่แอดอยากแนะนำก็คือ การปั่นจักรยานชมวิวริมฝั่งโขง มีเส้นทางปั่นจักรยานเลียบริมโขง สามารถชมวิวได้ยาว ๆ อย่างจุใจ จากถนนคนเดินเชียงคาน หากใครมีแรงเยอะสามารถปั่นยาวไปจนถึงแก่งคุดคู้ได้เลยทีเดียว ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร.ส่วนการเช่าจักรยานก็ง่ายแสนง่าย เพื่อน ๆ สามารถเช่าได้จากร้านค้าและที่พักหลายแห่งบนถนนคนเดิน นอกจากนี้ การชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นก็ถือเป็นไฮไลท์ของการมาถนนคนเดินเชียงคาน บรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่เชียงคานเป็นอะไรที่โรแมนติกสุด ๆ เพื่อน ๆ จะได้เห็นภาพแม่น้ำโขง ภูเขา และท้องฟ้าฉาบสีทอง อย่างที่เพื่อนแอดมักจะพูดบ่อย ๆ กับแอดเวลาเห็นวิวริมโขงแบบนี้ว่า “แม่น้ำโขง ท้องฟ้า พระอาทิตย์ เป็นของใครไม่รู้ ภูเขาตรงนู้นเป็นของคนลาว แต่วิวทั้งหมดที่เห็นเป็นของพวกเรา” ปิดท้ายวันกับการเดินชม ชิม ชอปที่ถนนคนเดินเชียงคาน ซึ่งจริง ๆ ถนนคนเดินเปิดตั้งแต่หัววันแล้ว แต่ตอนเย็นจะคึกคักกว่ามาก เพื่อน ๆ อาจจะคิดว่า ถนนคนเดินที่ไหนก็เหมือนกัน แต่ถนนคนเดินที่นี่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่รู้ว่าเพราะร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านของฝาก หรือผู้คน ที่พวกแอดต่างมาแล้วต้องพูดว่า หลงรักเลย ไปตาม ๆ กัน วันที่ 2.เริ่มต้นวันกับอีกกิจกรรมที่แอดแนะนำก็คือ ตักบาตรข้าวเหนียวที่ถนนชายโขง ซึ่งเป็นประเพณีที่ชาวเมืองเชียงคานทำกันมานานแล้ว ในปัจจุบัน เพื่อน ๆ สามารถใส่ข้าวเหนียวและกับข้าวลงในบาตรพร้อมกันได้เลยเพื่อความสะดวก.แต่ในอดีต วิธีการตักบาตรข้าวเหนียวที่ทำกันมาแต่โบราณ ก็คือ หยิบข้าวเหนียวขึ้นมาให้พอดีคำโดยไม่ต้องปั้นเป็นก้อน จากนั้นใส่ลงไปในบาตร ใส่เฉพาะข้าวเท่านั้นนะ ไม่นิยมใส่กับข้าวลงไป.ใครกลัวว่า พระท่านจะได้ฉันแค่ข้าวเหนียวเปล่า ๆ ไม่ต้องกังวลไป เพราะหลังจากที่พระบิณฑบาตเสร็จแล้ว ชาวบ้านถึงจะนำ “กับข้าว” ที่ทำเสร็จใหม่ ๆ เดินตามไปจัด “จังหัน” ที่วัด ซึ่งเป็นการตักอาหารใส่ถ้วยเล็กๆ แล้วนำไปวางบนถาดกลมคล้ายกับ “ขันโตก” ทางภาคเหนือ แยกไว้เป็นสำรับให้พระแต่ละรูปได้ฉันนั่นเอง.หากเพื่อน ๆ ต้องการตักบาตรข้าวเหนียว อาจต้องตื่นเช้าหน่อย เพราะเวลาที่เหมาะสมในการมาตักบาตรข้าวเหนียวคือ 05.30-07.00 น. แต่รับรองว่าอิ่มใจคุ้มกับการตื่นเช้าแน่นอน ภูทอก (เชียงคาน).หลังจากตักบาตรให้ใจอิ่มแล้ว แอดจะพาเพื่อน ๆ มาดูอะไรให้อิ่มตากันหน่อย

ด่านซ้าย-เชียงคาน 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

ไปเที่ยวกัน เที่ยวกันตัง(ตรัง) 2 วัน 1 คืน

พูดถึงจังหวัดตรัง เพื่อน ๆ ร้อยทั้งร้อยคงต้องคิดถึงทะเล ทะเล แล้วก็ทะเล แต่รู้ไหมว่า จังหวัดตรังยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้ทะเลอยู่ด้วย วันนี้แอดจะมาแนะนำให้รู้จัก นั่นก็คือ “กันตัง” . กันตัง เป็นอำเภอที่มีอาคารเก่าแก่กระจายอยู่ทั่วอำเภอ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง นอกจากทะเลสวย ๆ ที่นักท่องเที่ยวปักหมุดตั้งใจมาเที่ยวแล้ว กันตังยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมให้ได้เข้าไปสัมผัสอีกด้วย . ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาทำให้เพื่อน ๆ ยังไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปกติ และเป็นโอกาสที่ธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้พักและฟื้นฟู รอให้เราออกเดินทางอีกครั้ง และเมื่อการเดินทางครั้งใหม่ของเราได้เริ่มขึ้น คุณจะพบว่าเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม วันที่ 1– สถานีรถไฟกันตัง– ต้นยางคาเฟ่– ล่องแพ กินปู ดูวิว โดย “วิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ”.วันที่ 2– Matou Hostel & Cafe– เยี่ยมชม และทำกิจกรรมที่ “ชุมชนบ้านย่านซื่อ” สถานีรถไฟกันตัง.จุดนี้เป็นจุดที่ต้องมาเช็คอิน พลาดไม่ได้เลย “สถานีรถไฟกันตัง” เป็นสถานีรถไฟสถานีสุดท้ายบนเส้นทางรถไฟฝั่งอันดามัน เริ่มเปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 นับอายุก็กว่าร้อยปีแล้ว มีความสำคัญมากในสมัยนั้น เพราะเป็นศูนย์กลางการรับ-ส่งสินค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยผ่านท่าเรือกันตัง ซึ่งอยู่เลยจากสถานีรถไฟไปประมาณ 500 เมตร ตัวอาคารเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล คงเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ที่สำคัญได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรแล้ว ปัจจุบันสถานีรถไฟกันตังยังให้บริการเดินรถทุกวัน วันละ 1 เที่ยว โดยขบวนรถเร็วเที่ยวไป ออกจากสถานีกรุงเทพเวลา 18.30 น. และขบวนรถเที่ยวกลับ ออกจากสถานีกันตังเวลา 12.40 น. ใช้เวลาประมาณ 16-17 ชั่วโมง.สำหรับเพื่อน ๆ สายชิลล์ที่ไม่อยากนั่งเครื่องบิน ก็สามารถนั่งรถไฟมาลงที่นี่ได้เลย แต่อย่าลืมตรวจสอบเวลาเดินรถอีกครั้งก่อนเดินทางนะคะ.โทร. 075 251 015, 1690ที่ตั้ง ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ใกล้กับสถานีรถไฟ มีร้านกาแฟน่ารักน่าแวะชื่อ สถานีรัก Love Station ตัวร้านเป็นไม้ทาสีเหลือง ตกแต่งย้อนยุคคล้ายกับสถานีรถไฟกันตัง บรรยากาศชิลล์มาก สถานีรัก Love Stationเปิดทุกวัน เวลา 08.30-19.00 น.โทร. 081 979 6806ที่ตั้ง ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ต้นยาง คาเฟ่ .แอดจะพาไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ ต้นยางคาเฟ่ ร้านนี้อยู่ใกล้กับต้นยางพาราต้นแรกของเมืองไทย จุดท่องเที่ยวอีกจุดของกันตัง มีเมนูให้เลือกมากมายทั้งอาหารไทย-อีสาน สเต็ก ของหวาน และเครื่องดื่ม ร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ ผนังร้านโดดเด่นมากเพราะเป็นภาพวาดที่เล่าเรื่องราวของเมืองกันตัง.เปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น. (ครัวปิด 19.00 น.)โทร. 089 723 1733ที่ตั้ง 253/1 ถ.ตรังคภูมิ ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ Facebook ต้นยางคาเฟ่ @กันตัง ล่องแพ กินปู ดูวิว โดยวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ.จากอำเภอกันตังไปประมาณ 24 กิโลเมตร เรามุ่งหน้าไปที่ตำบลบางสัก ที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือการล่องแพไปชมวิวเขาจมป่าและทะเลแหวก พร้อมทานอาหารทะเลกันบนแพ โดยวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ.ที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทั้งแบบครึ่งวัน และแบบเต็มวัน สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกด้วย แอดเลือกกิจกรรมแบบครึ่งวัน คือ ล่องแพไปเที่ยวเขาจมป่า และทะเลแหวก โดยเราจะล่องแพผ่านป่าชายเลน ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 3,200 ไร่ ระหว่างทางจะพบกับต้นโกงกางและต้นแสมที่ขึ้นอย่างหนาแน่น แสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแถบนี้.โปรแกรมล่องแพท่องเที่ยว จะรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นคนละ 1,350 บาท หากไปกันหลายคนก็สามารถติดต่อสอบถามก่อนได้ เนื่องจากราคาจะแตกต่างกันไปตามจำนวนคน แต่ถ้าไปน้อยกว่า 5 คน แอดแนะนำให้ท่องเที่ยวด้วยเรือหัวโทงจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า มาถึงจุดแรก พาเพื่อน ๆ เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวเขาจมป่า ตรงนี้ใช้เวลาเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวประมาณ 20 นาที ระยะทาง 400 เมตร ถึงแม้จะเป็นระยะทางสั้น ๆ แต่ก็มีหลายจุดที่ค่อนข้างชัน เดินขึ้นอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ.ด้านบนสุด สามารถชมวิวป่าชายเลนผืนใหญ่ เขียวชอุ่มสบายตา เห็นคลองที่คดเคี้ยวไปมาแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังเห็นวิวทะเลและเกาะมุกที่อยู่ไกล ๆ ได้อีกด้วย ลงจากยอดเขามาเหนื่อย ๆ เริ่มหิวก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะบนแพได้เตรียมอาหารรอไว้แล้ว มีอาหารทะเลหลายอย่าง โดยเฉพาะปูม้าตัวใหญ่ ๆ มีให้กินแบบจุใจเลยจ้า จุดเด่นของบ้านน้ำราบคือ การทำธนาคารปูม้า อาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำประมงปูม้า นานวันเข้าก็พบว่าปริมาณปูม้าลดลงมาก ชาวบ้านจึงหาทางแก้ปัญหา เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าให้กลับสู่สมดุลย์ จึงเริ่มนำแม่ปูม้าที่มีไข่นอกกระดองมาเลี้ยง รอจนแม่ปูวางไข่ แล้วจึงนำลูกปูไปปล่อยบริเวณแหล่งแนวหญ้าทะเล เพื่อให้ลูกปูเจริญเติบโตในธรรมชาติต่อไป กิจกรรมนี้สามารถช่วยรักษาประชากรปูม้าได้ไม่น้อยเลย เพราะแม่ปูแต่ละตัวนั้นมีไข่ประมาณสามแสนฟอง แต่ถ้าตัวใหญ่จะมีไข่ถึงหนึ่งล้านฟองเลยทีเดียว.นอกจากนี้ชาวบ้านยังเพาะหญ้าทะเล เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของปูม้าและเป็นอาหารของพะยูน มีการอนุบาลม้าน้ำ และลูกปลาหมึกอีกด้วย หลังจากกินจนอิ่มแปล้แล้ว ก็ไปจุดที่สอง เพื่อชมทะเลแหวกที่มีขนาดกว้างเท่าสนามฟุตบอล ซึ่งการจะชมทะเลแหวกได้นั้นต้องรอช่วงน้ำลง ราว ๆ บ่ายโมงไปจนถึงช่วงเย็น ใครไปช่วงเย็น ๆ ก็ยังสามารถรอชมพระอาทิตย์ตกดินจากจุดนี้ได้อีกด้วย.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บังยูร 080 824 9468, พี่อู๊ด 087 277 8017ที่ตั้ง ท่ากะหยง หมู่ที่ 4 ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ คาเฟ่แห่งนี้ให้บริการของหวาน และเครื่องดื่ม

ไปเที่ยวกัน เที่ยวกันตัง(ตรัง) 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

มุกดาหาร 2 วัน 1 คืน

จังหวัดมุกดาหารเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ครบเครื่องทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ชิลล์เล่นในเมือง อาหารรสอร่อย รวมถึงมีการท่องเที่ยวที่อิงกับความเชื่อท้องถิ่นที่ค่อนข้างน่าสนใจมากสำหรับแอด จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปอ่านกัน วันที่ 11.ภูผาเทิบ.วันที่ 22.ห้าแยกมุกดาหาร3.วัดภูมโนรมย์4.ตลาดอินโดจีน5.แก่งกะเบา6.ศาลพ่อปู่อนันตนาคราช7.เรือนจอมเพชร8.สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 วันที่1.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ.ภูผาเทิบอยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ถนนลาดยาง เดินทางสะดวก ช่วงที่แอดไป นักท่องเที่ยวไม่เยอะ แดดค่อนข้างแรงแม้จะเป็นช่วงเช้า ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาหินทรายลูกใหญ่สลับกับต้นไม้สูง.เมื่อถึงอุทยานแล้ว แนะนำให้ไปติดต่อที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จะมีเจ้าหน้าที่คอยนำชมอย่างเป็นมิตร ที่สำคัญมีร่มให้บริการด้วยนะ.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ บ้านคอนสาย ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร 49000เวลาทำการ 08:30-16:30 น. เปิดทุกวันโทร. 09 4289 2383, 0 4267 6474 ภายในอุทยานมีแหล่งท่องเที่ยวหลายจุด ถ้าจะเดินให้ครบ ต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันเลยล่ะ ก่อนมาอย่าลืมเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมกันด้วย แต่ถ้ามีเวลาจำกัด ก็สามารถเลือกเดินเองได้เลยว่าจะไปถึงจุดไหน แหล่งท่องเที่ยวที่แอดจะแนะนำมีดังนี้.กลุ่มหินเทิบ (20 เมตร).กลุ่มหินเทิบ เป็นผลงานประติมากรรมจากการกัดเซาะของฝน น้ำ ลม และแสงแดด ทำให้เกิดเป็นหินรูปร่างแปลกตามากมาย หินบางก้อนดูคล้ายเครื่องบิน รองเท้าบู้ท มงกุฎ สิงโต จระเข้ก็มี ดูเพลิน ๆ แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคน ลานมุจลินท์ (500 เมตร).เป็นลานหินขนาดใหญ่ หากเพื่อน ๆ มาในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะได้เจอกับ ทุ่งดอกหญ้าของพืชขนาดเล็ก เช่น สร้อยสุวรรณา หยาดน้ำค้าง หนาวเดือนห้า ดาวรวมดวง และดุสิตา แต่ถ้ามาช่วงอื่น เพื่อน ๆ ก็จะเจอลานหินโล่ง ๆ มีหญ้าแซมนิด ๆ สวยไปอีกแบบ บริเวณกลางลานสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงได้ด้วยนะ ทุ่งดอกหญ้า (บานช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี) ดอกทิพเกสรและดอกสร้อยสุวรรณา มีดอกมณีเทวา บานอยู่ในบริเวณเดียวกันด้วยนะ น้ำตกวังเดือนห้า (1000 เมตร) อยู่ทางด้านขวาของลานมุจลินทร์ เป็นน้ำตกขนาดเล็ก เกิดจากธารน้ำที่ไหลผ่านลานหินมุจลินท์ เป็นบ่อน้ำซับที่หล่อเลี้ยงพืชพันธุ์และสัตว์ป่าภายในอุทยาน ผาอูฐ (1000 เมตร) เป็นหน้าผาที่มีประติมากรรมหินรูปร่างคล้ายอูฐ เป็นจุดชมวิวที่ไม่เพียงมองเห็นผาผักหวาน และผาขี้หมูได้อย่างชัดเจนเท่านั้น แต่ยังสามารถมองเห็นภูถ้ำพระได้ในระยะไกลอีกด้วย น้ำตกภูถ้ำพระ (2000 เมตร) มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง ในหน้าแล้งจะไม่มีน้ำ ด้านบนเป็นสถานที่ที่เรียกว่าภูถ้ำพระ มีตำนานเล่าว่าที่นี่เคยเป็นหมู่บ้านขอม ก่อนจะมีย้ายถิ่นหนีภัยธรรมชาติ ได้นำพระพุทธรูปที่นับถือไปเก็บไว้ที่ถ้ำแห่งนี้ ซึ่งมีทั้ง พระเงิน พระนาก พระทองคำ รวมไปถึงพระไม้จำนวนมาก น่าเสียดายที่ปัจจุบันพระพุทธรูปหายไปเยอะแล้ว เหลือแต่พระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยไม้เท่านั้น ผาไทร (3,000 เมตร) เป็นหน้าผาสูง เป็นจุดชมวิวและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยอีกจุดของภูผาเทิบ บริเวณทางลงหน้าผามีเพิงหินที่พิงกันอยู่ดูเป็นช่องแคบ สามารถเดินลอดผ่านได้จึงเรียกกันว่า “ถ้ำลอด” บริเวณนี้เป็นจุดที่ชาวบ้านเคยขุดพบเศษถ้วยชามและของโบราณ อัตราค่าบริการคนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาทชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท.ค่าบริการพาหนะ/คันจักรยาน ฟรีจักรยานยนต์ 20 บาทรถยนต์ 4 ล้อ 30 บาทรถยนต์ 6 ล้อ 100 บาทรถยนต์ 6 ล้อขึ้นไป 200 บาท.*นักท่องเที่ยวชาวไทยลด 50 เปอร์เซ็นต์ วันจันทร์-วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์**บริเวณทางเข้าอุทยานมีบ้านพัก ช่วงนี้ไม่อนุญาติให้พักในอุทยานเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น (สอบถามเมื่อ 20/01/64)***อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบได้รับตรามาตรฐานท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วันที่ 2.ห้าแยกมุกดาหาร.ที่นี่เป็นชุมชนชาวเวียดนามขนาดใหญ่ และเป็นตลาดอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อของมุกดาหาร มีร้านอาหารที่ผสมผสานวัฒนธรรมอีสานและเวียดนามอยู่หลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นข้าวเปียก ก๋วยจั๊บญวน ข้าวต้ม เลือดแปลง หมูยอ ไส้หมูลวกจิ้ม ฯลฯ โอย…หิว และแน่นอนกองทัพต้องเดินด้วยท้อง แอดเลยพาเพื่อน ๆ มาเริ่มต้นวันที่นี่ก่อน ที่ร้านข้าวเปียกห้าแยกนั่นเอง.ที่ตั้ง บริเวณห้าแยกชุมชนเวียดนาม ถ.พิทักษ์สันติราษฎร์ ต.ศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.มุกดาหาร เวลาทำการ 6.00-10.30 น. หยุดทุกวันพุธโทร. 0 4261 2249 ข้าวเปียกที่นี่อร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปกลมกล่อมคล่องคอ หมูยอ ซี่โครงหมู นุ่มอร่อย เข้ากันไปหมด ที่สำคัญ ราคาถ้วยละ 20-30 บาทเท่านั้น (ใส่ไข่เพิ่ม 5 บาท) Simple Delicious มาก ๆ แต่ถ้ามาช้า ระวังปาท่องโก๋หมดนะ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จ.มุกดาหาร.เมื่อวานเราเข้าป่าไปแล้ว วันนี้แอดขอเปลี่ยนแนว พาไปท่องเที่ยวที่อิงกับคติความเชื่อของชาวพื้นถิ่นกันบ้าง ซึ่งที่แรกของวันนี้ก็คือ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ติดปากว่า ภูมโนรมย์ นั่นเอง.เมื่อมาถึงแล้ว เพื่อน ๆ ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถด้านล่างของวัด ตรวจอุณหภูมิ ผ่านจุดคัดกรอง แล้วใช้บริการรถสองแถวของทางวัดขึ้นไป มีรถออกตลอด ค่ารถบริจาคตามกำลังศรัทธาที่ตู้บริจาค (ปัจจุบันห้ามนำรถส่วนตัวขึ้นทุกกรณี).เหตุผลที่ต้องใช้บริการรถสองแถวของทางวัด เนื่องจากทางขึ้นเป็นภูเขาชัน มีโค้งหลายจุด รถสวนกันยาก จึงต้องใช้คนพื้นที่ขับ ซึ่งคนขับรถจะมี วอ. คอยติดต่อกัน เพื่อแจ้งว่าขับถึงจุดไหนแล้ว เพราะฉะนั้น ปลอดภัยหายห่วงงง.ที่ตั้ง หมู่ที่ 5 ต.ศรีบุญเรือง อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหารเวลาทำการ 07.00

มุกดาหาร 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

Bangkok 1 day trip พาคนพิเศษเที่ยวต้อนรับวันวาเลนไทน์

1. ทานอาหารเช้าที่ ร้านโจ๊กปรินซ์2. ไหว้พระขอพร วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก)3. ชมความสวยงามของห้องสมุดเนียลสัน เฮส์4. ดำดิ่งสู่โลกใต้น้ำที่ Sea Life Bangkok Ocean World5. ชมนิทรรการแสงสีสุดล้ำที่ House of Illumination6. ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาทานอาหารค่ำ เริ่มต้นทริปด้วยการจูงมือกันไปทานมื้อเช้าที่ ร้านโจ๊กปรินซ์ ย่านบางรัก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตำนานความอร่อยในย่านนี้ เพราะร้านเปิดมานานกว่า 60 ปี และยังอยู่ในลิสต์ บิบ กูร์มองต์ของมิชลิน อีกด้วย ทุกวันหน้าร้านจะเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าที่มาชิมความอร่อย.แค่กลิ่นหอมเตาถ่านอันเป็นเอกลักษณ์ของร้านลอยมาแตะจมูก ก็ชวนอยากให้ลิ้มลองเสียแล้ว เชื่อว่าใครลองแล้วก็ต้องติดใจกับเนื้อโจ๊กเนียนนุ่มละมุน จะเพิ่มความอร่อยด้วยไข่ หมูสับเนื้อเด้ง หรือไข่เยี่ยวม้าก็เข้ากัน รับรองอร่อยทุกแบบแทบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม ที่นี่ยังมีปาท่องโก๋ตัวเล็กด้วย สั่งมาทานคู่กับโจ๊กก็ยิ่งอร่อย โจ๊กปรินซ์.ที่ตั้ง: 1391 ถนนเจริญกรุง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 06.00-12.00 น. และ 16.30-22.00 น.พิกัด: https://goo.gl/maps/yyQrHipsdaMb6Vdx6.การเดินทาง– เรือด่วนเจ้าพระยา : ลงที่ท่าเรือสาทร และเดินต่ออีกประมาณ 550 เมตร– รถไฟฟ้าบีทีเอส : สายสีลม (สีเขียวเข้ม) ลงสถานีสะพานตากสิน และเดินต่ออีกประมาณ 550 เมตร– รถประจำทาง สาย 1, 15, 35, 75, 77, 115, 504, 547 …………………………………………………………………………… หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ไปอิ่มใจกันต่อที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก).วัดพระศรีมหาอุมาเทวี เป็นวัดในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2453-2454 โดยชาวทมิฬที่อพยพมาจากประเทศอินเดีย สถาปัตยกรรมของวัดมีความวิจิตรงดงาม ตามรูปแบบศิลปะอินเดียตอนใต้.คู่รักคู่ไหนอยากมีความรักที่ดี และความรักที่ยืนยาว มักจะมาขอพรกับพระแม่อุมาเทวี ที่เป็นองค์เทพประธานของวัด และพระแม่ลักษมี เทพแห่งความงามและความรัก ที่ตั้ง: ถนนปั้น แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 06.00-20.00 น. วันศุกร์ 06.00-21.00 น. วันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 06.00-20.30 น.พิกัด: https://goo.gl/maps/zN7uMfKmrZHRxSrs5.การเดินทาง– รถไฟฟ้าบีทีเอส : สายสีลม (สีเขียวเข้ม) ลงสถานีสุรศักดิ์ เดินต่อประมาณ 650 เมตร– รถประจำทาง สาย 15, 77, 504, 547 …………………………………………………………………………… เข้าวัดขอพรเสร็จแล้ว เราไปเดินเล่นกันต่อที่ห้องสมุดเนียลสัน เฮส์ ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที.ห้องสมุดเนียลสัน เฮส์ (Neilson Hays Library) ก่อตั้งมานานกว่าร้อยปี มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน มารีโอ ตามัญโญ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบพระที่นั่งอนันตสมาคม.บรรยากาศบริเวณห้องสมุดร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะกับการเดินถ่ายรูปเล่น และนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ภายในห้องสมุดมีการตกแต่งอย่างสวยงาม มีหนังสือให้ยืมกว่า 20,000 เล่ม ห้องสมุดแห่งนี้ถือเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของสามีภรรยาคู่หนึ่ง นั่นก็คือคุณหมอโทมัส เฮส์ และเจนนี่ เนียลสัน โดยเจนนี่ เนียลสัน เป็นชาวเดนมาร์กที่เดินทางเข้ามาเป็นมิสชันนารีในประเทศไทย และได้พบรักกับคุณหมอเฮส์ อาจารย์สอนวิชาแพทย์คนแรกของโรงพยาบาลศิริราช เจนนี่ทำงานที่สมาคมห้องสมุดสตรีกรุงเทพฯ อย่างทุ่มเทเป็นเวลายาวนานกว่า 25 ปี เมื่อเธอเสียชีวิต หมอเฮส์เห็นถึงความรักของภรรยาที่มีต่อห้องสมุดและหนังสือ จึงตัดสินใจทำห้องสมุดถาวรแห่งนี้ขึ้นมา ต่อมามีการเปลี่ยนชื่อจากห้องสมุดสตรีกรุงเทพฯ เป็นห้องสมุดเนียลสัน เฮย์ เพื่อระลึกถึงบุคคลทั้งสอง.ห้องสมุดได้ด้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ปี พ.ศ. 2525 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่ได้เข้าไปชมด้านในห้องสมุด ก็สามารถมาทานอาหาร หรือชิมขนมอร่อย ๆ ได้ที่ “ปะแล่ม ปะแล่ม” ร้านคาเฟ่ตกแต่งแบบเรียบง่าย มีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง และขนมอร่อย ๆ ให้บริการ.ที่ตั้ง: 195 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 09.30-17.00 น.หากไม่ได้เป็นสมาชิกของห้องสมุดและต้องการเข้าไปใช้บริการ ต้องเสียค่าบำรุงห้องสมุดคนละ 100 บาทพิกัด: https://goo.gl/maps/uMEY75SVzZBA1Yw5Aโทร. 0 2233 1731.การเดินทาง– รถประจำทาง สาย 1, 16, 18, 35, 36, 75, 93 …………………………………………………………………………… เปลี่ยนบรรยากาศไปท่องโลกใต้น้ำที่ SEA LIFE Bangkok Ocean World กันเถอะ.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้มีโซนจัดแสดงถึง 11 โซน มีสัตว์น้ำให้ชมมากกว่า 100 สายพันธุ์ ไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาด คือ อุโมงค์ใต้น้ำสุดอลังการที่สามารถชมความสวยงามของสัตว์น้ำหลากสายพันธุ์ โซนมหาสมุทรเขตร้อนที่จำลองมาไว้ในแทงก์น้ำขนาดใหญ่สูงกว่า 7 เมตร กิจกรรมการให้อาหารปลา และความน่ารักของเพนกวิน Gentoo ที่ใครได้เจอจะต้องรักน้อง ๆ อย่างแน่นอน.ที่นี่เคยมีคนมาขอแต่งงานและจัดงานแต่งงานด้วย คู่ไหนกำลังหาไอเดียจัดงานแต่งงาน เก็บที่นี่ไว้ในลิสต์ก็ได้นะ ที่ตั้ง: ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้นบี1-บี2 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น.ซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ https://www.visitsealife.com/bangkok/tickets/พิกัด: https://g.page/sea-life-bangkok-ocean-world-554?shareโทร. 0 2687 2000.การเดินทาง– รถไฟฟ้าบีทีเอส : นั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีสยาม– รถประจำทาง สาย 15,

Bangkok 1 day trip พาคนพิเศษเที่ยวต้อนรับวันวาเลนไทน์ อ่านเพิ่มเติม

“ข้าวเปียกเส้น” อาหารถิ่น จ.อุดรธานี

เวลาไปเที่ยวจังหวัดอุดรธานี นอกจากแหล่งท่องเที่ยวที่เราตามเก็บแล้ว เราก็ต้องตามล่าอาหารอร่อยกันด้วย อาหารยอดฮิตที่มักจะเด้งขึ้นมาในหัวเพื่อน ๆ ก็คือแหนมเนืองอันโด่งดังใช่ไหม.แต่แท้จริงแล้วอุดรธานียังมีอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่ออื่น ๆ อีก วันนี้ แอดจะขอแนะนำ “ข้าวเปียกเส้น” .ข้าวเปียกเส้น หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า ก๋วยจั๊บญวน เส้นทำมาจากแป้งข้าวเจ้า ราดด้วยน้ำซุปรสชาติกลมกล่อมและเครื่องเคียงต่าง ๆ เช่น หมูยอ เครื่องใน กระเทียมเจียว ต้นหอม ผักชี เป็นต้น.ข้าวเปียกเส้นเป็นอาหารที่เข้ามาพร้อมกับชาวเวียดนามที่ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากในไทย เดิมเมนูนี้เรียกว่า “จ๋าว” ซึ่งชาวอุดรธานีนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า.ถ้าใครไปอุดรแล้วนึกไม่ออกว่าจะไปทานข้าวเปียกเส้นร้านไหนดี แอดมีพิกัดร้านมาฝาก ดังนี้เลย.ร้านข้าวเปียกสี่แยกโรงเรียนหมากแข้งที่ตั้ง : ถนนศรีสุข ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/k4NEcyeyHMAvSbPq5 ข้าวเปียกอาโกที่ตั้ง : ถนนศรีชมชื่น ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/qxmBxLjEFQeyZDtH8 ล้านแม่โต๋นรวยข้าวเปียกที่ตั้ง : ถนนตำรวจ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/WyBLVVXUwbFkP7UM9 ร้านก๋วยจั๊บ เจ้าเก่าที่ตั้ง : ถนนตำรวจ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/64HkQb1L48qV6LmTA อร่อยเช้านี้ที่ตั้ง : ถนนเทศา ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/sZfpUUtyntHGg93a7.นอกจากจังหวัดอุดรธานีแล้ว เพื่อน ๆ ยังสามารถหารับประทานข้าวเปียกในจังหวัดอื่น ๆ แถบภาคอีสานได้ เช่น จังหวัดเลย ขอนแก่น อุบลราชธานี เป็นต้น

“ข้าวเปียกเส้น” อาหารถิ่น จ.อุดรธานี อ่านเพิ่มเติม

ชิมอาหารถิ่น อิ่ม “วิวยอ”

หากให้เพื่อนชาวพัทลุงระบุรายชื่อร้านอาหารยอดนิยม บวกเพิ่มด้วยการขอวิวดีๆ เลิศๆ ในช่วงพระอาทิตย์ตก เชื่อได้ว่าร้อยทั้งร้อยจะต้องเอ่ยนาม “ร้านวิวยอ” แถบทะเลน้อยแบบพร้อมเพียงกัน เรียกได้ว่า ยืนหนึ่งทั้งรสชาติอาหารและบรรยากาศ . วิวยอเริ่มเปิดร้านพร้อมกับรีสอร์ทมาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นพัทลุงยังไม่เด่นในแง่ของการท่องเที่ยว ชาวพัทลุงเองก็แอบน้อยใจหน่อยๆ ว่า เป็นจังหวัดทางภาคใต้ทั้งทีแต่กลับไม่มีพื้นที่ติดทะเลเลย กระนั้นเสน่ห์อันงดงามที่ไม่เหมือนที่ใดอย่างวิวยอยักษ์แถวบ้านปากประนี่ล่ะที่ช่วยส่องประกาย กลายเป็นภาพจำที่นักท่องเที่ยวต่างพากันปักหมุดหมาย เพื่อมาเห็นถึงวิถีชีวิตชาวประมงที่อยู่คู่เคียงกับความงดงามอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ คลองปากประถือเป็นคลองธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ไม่ต่างอะไรกับแม่น้ำ โดยรับน้ำจากเทือกเขาบรรทัดและที่ตั้งของบ้านปากประก็อยู่ในทำเลดีที่ชุมนุมของปลาลูกเบร่ หรือ ปลาซิวแก้ว ทำให้ชาวประมงสร้างเป็นยอยักษ์ขนาดใหญ่เพื่อช้อนปลาเหล่านั้น โดยไม่ต้องอาศัยเหยื่อล่อใดๆ เมื่อได้สถานที่ที่มอบวิวอันยิ่งใหญ่และเปรียบดั่งสัญลักษณ์ท่องเที่ยวของจังหวัด ร้านวิวยอจึงอยากนำเสนอความเป็นท้องถิ่นตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุไม้ กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมอย่างไม่แปลกแยก โดยเริ่มกิจการไปพร้อมๆ กับ 6 ห้องพักที่มองเห็นวิวยอยักษ์เช่นกัน บรรยากาศริมน้ำกับโต๊ะประมาณ 60 โต๊ะที่มองไปทางไหนก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของคนไทยแบบครอบครัวใหญ่ ทางร้านต้องการให้ที่นี่เป็นเหมือนห้องรับแขกที่สามารถรองรับคนได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ชาวบ้านที่เพิ่งเสร็จกิจจากงาน จนถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยากมาจัดงานเลี้ยง ที่นี่ก็มีห้องประชุมอย่างดีไว้รองรับ สายลมจากสายน้ำพัดพาความเย็นให้โซนเอาท์ดอร์ของร้านแน่นขนัดไปเกือบทุกโต๊ะ มองไปเห็นเหล่ายอยักษ์ที่ยังมีชาวประมงคอยกระดกขึ้นลงทุก 5 – 10 นาที ทางร้านจะรับปลาลูกเบร่ของชาวประมงเหล่านั้น รวมถึงกุ้งตัวโตๆ เนื้อแน่นๆ และปลาต่างๆ ที่ชาวประมงจับได้มาทำอาหารให้ลูกค้า เรียกได้ว่า ช่วยอุดหนุนชุมชน และทำให้ผู้บริโภคได้อิ่มหนำกับอาหารสดๆ วันต่อวัน ใกล้โพล้เพล้ เสียงเพลงดนตรีเพื่อชีวิตที่เล่นกันสดๆ ก็พร้อมขับกล่อมให้ทุกคนซึมซับกับบรรยากาศ เราได้ยินเพลง “ทะเลน้อย” เป็นครั้งแรก แม้ฟังเนื้อหาแล้วรู้สึกทึมเทา แต่ก็น่าสนใจจนต้องตามสืบได้ว่าศิลปินต้นแบบคือ วงแฮมเมอร์ วงในตำนานขวัญใจของคนใต้ทุกคน อาหารแนะนำแบบชาวพัทลุงแท้ๆ เราเลือก “แกงน้ำเคยยอดหวาย” ซึ่งไม่เคยกินจากที่ไหนมาก่อน และเป็นเมนูหารับประทานยาก เพราะวัตถุดิบคือ เคยปลา ซึ่งไม่ค่อยมีคนทำขาย เมนู “แกงน้ำเคย” มีที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและพัทลุง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความหอมและอร่อย ในขณะที่คนสุราษฎร์ฯจะเรียกแกงชนิดนี้ว่า “แกงเคยปลา” ส่วนคนแถวสงขลาจะใช้ “น้ำเคย” นี้ราดข้าวยำเสียมากกว่า ใครที่เคยชิมแกงไตปลาก็อยากให้ลองเปิดใจให้เมนูนี้ดู วิธีทำน้ำเคยทำจากปลาน้ำจืดที่ตาย ซึ่งภาษาใต้เรียกว่า พอง มาถนอมอาหารด้วยการต้ม จากนั้นตำให้ละเอียดทั้งตัว ปั้นเป็นก้อนแล้วนำไปตากแดด จนได้ที่แล้วจึงค่อยเอามาทำน้ำแกง สีที่ได้คล้ายกะปิ แต่น้ำจะออกใสกว่า จากนั้นจะนำยอดอ่อนของหวายมาตำให้ละเอียดรวมกันแล้วต้มไป ยอดหวายเพิ่มรสชาติความขมฝาดเฝื่อนตัดกับความเค็มของน้ำเคย ใส่กับปลาย่าง และมะเขือเปราะ มีผักสดแนมมาแกล้มด้วย ส่วนตัวชิมแล้วคิดว่า อาจจะไม่แซ่บเท่าแกงส้ม แต่เป็นเมนูแปลกใหม่มาก ที่อยากให้ผู้มาเยือนพัทลุงทุกคนได้ชิมเช่นกัน มาถึงเมืองยอยักษ์ต้องไม่พลาดเมนูจากปลาลูกเบร่ ทางร้านนำมาทอดขมิ้น โดยใช้ปลาลูกเบร่สดมาทอดกรอบ ส่วนขมิ้นเพิ่มความหอม จานนี้ถูกใจเป็นพิเศษกินแล้วมันหยุดไม่ได้จริง ๆ มาถึงเมืองยอยักษ์ต้องไม่พลาดเมนูจากปลาลูกเบร่ ทางร้านนำมาทอดขมิ้น โดยใช้ปลาลูกเบร่สดมาทอดกรอบ ส่วนขมิ้นเพิ่มความหอม จานนี้ถูกใจเป็นพิเศษกินแล้วมันหยุดไม่ได้จริง ๆ .เมนูไฮไลท์ที่ไม่อยากให้พลาดคือ “ตำรากบัวกุ้งสด” รากบัวคือไหลบัวหลวง ที่แตกแล้วชอนไปใต้ดินเพื่อแตกต้นใหม่ ใครที่ชอบทำอาหารจะรู้ว่า ไหลบัวนี่แหละคือ วัตถุดิบชั้นยอดในการประกอบอาหาร เนื้อสัมผัสของไหลบัวนำมาแทนที่มะละกอในส้มตำปูได้ดี ความกรอบฉ่ำได้โอบอุ้มน้ำส้มตำรสชาติจัดจ้านหวานเค็มเผ็ดเอาไว้ กัดกินไปแต่ละคำได้ใจไปเต็มๆ และปูเค็มของทีนี่ก็ไม่เค็มแหลม รวมๆ แล้วลงตัวอย่างที่สุด อีกจานเด่นยกให้ “ปลาดุกร้า” แถบทะเลน้อย ใน อ.ควนขนุน จ.พัทลุงนั้น ถือเป็นแหล่งผลิตปลาดุกร้าสำคัญ และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ เป็นเมนูที่ชาวบ้านนิยมทำกินกันเยอะมาก รสชาติคล้ายปลาเค็ม แต่มีรสชาติเฉพาะตัวและกลิ่นที่แตกต่างคือ มีรสเค็มหวานปะแล่มๆ ที่สำคัญคือมีกลิ่นหมัก เมื่อนำไปทอดเพิ่มกลิ่นหอมยั่วๆ เราบีบมะนาว กินกับเครื่องเคียงอย่างพริกหอมซอย เมนูนี้ถ้านำไปทานกับข้าวต้มกุ๊ยคิดว่า น่าจะเหมาะ ส่วนคนพัทลุงบอกว่า ต้องกินกับข้าวสวยร้อนๆ และแกงส้มจัดเป็น Perfect bite ของเขากันเลย ทางร้านเน้นความสะอาดถูกอนามัยมีบริการแพ็คขายเผื่อติดใจนำกลับไปฝากคนที่บ้าน เสียงเพลงเพื่อชีวิตยังคงขับกล่อม ชาวพัทลุงที่ไม่เร่งรีบยังคงนั่งชิลล์มองสายน้ำและแสงอาทิตย์ที่กำลังอำลาหน้าที่ในวันนี้ไป เราอยากให้ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นเช่นนี้ มีความถ้อยทีถ้อยอาศัยของชุมชนและคนทำธุรกิจ หากวิวยอจะเป็นหนึ่งในร้านที่ประสบความสำเร็จต่อไปเรื่อยๆ ก็คงไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด.ที่ตั้ง 223 ตำบล พนางตุง อำเภอ ควนขนุน พัทลุงเปิดทุกวัน 10.00-22.00 น.โทร. 09 4598 2944Facebook : www.facebook.com/ViewYorRestaurant

ชิมอาหารถิ่น อิ่ม “วิวยอ” อ่านเพิ่มเติม

Flowers Café คาเฟ่ดอกไม้

วันนี้แอดขอเอาใจสายหวานฟรุ้งฟริ้งด้วย 3 คาเฟ่ดอกไม้ต้อนรับวาเลนไทน์ ที่สวยกันไปคนละแบบ รวมถึงเมนูที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ 3 ร้านนี้ด้วย รับรองว่าเพื่อน ๆ จะได้สัมผัสบรรยากาศราวกับอยู่ในสวนดอกไม้ และอิ่มท้องจนลืมอ้วนเลยทีเดียว คอระฆัง Kor Ra Kang.คอระฆัง มี 4 สาขาสาขาบางลำพู (ปากซอยไกรสีห์ จุดสังเกตไปรษณีย์บางลำพู)สาขาห้วยขวาง (สามแยกตลาดห้วยขวาง)สาขาอารีย์ (พหลโยธิน 7)สาขาประตูผี (ใกล้ผัดไทยทิพย์สมัยตรงข้ามวัดเทพธิดาราม).สาขาที่แอดมาคือ สาขาอารีย์ที่ตั้ง : 29 ซอยพหลโยธิน 7 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.โทร. 09 2571 5555  เริ่มต้นร้านแรกที่ร้านคอระฆังค่ะ คอระฆังเป็นคาเฟ่ดอกไม้ชมพู้วว…ชมพู สวยหวานน้ำตาลขึ้นเลยทีเดียว ไฮไลท์ของร้านนี้คือมวลหมู่ดอกไม้ตกแต่งร้านที่จะเป็นโทนชมพูทั้งร้าน ไล่สีตั้งแต่ชมพู ม่วง ขาว และแดง ไม่ว่าจะหันไปมุมไหนก็จะเจอดอกไม้เหมือนยกมาทั้งสวนเลยค่ะ ในส่วนของเมนู ขอบอกว่าอร่อยลืมอ้วนกันเลย ที่นี่มีทั้งอาหารคาว ขนมหวาน และเครื่องดื่ม เสิร์ฟมาแบบไทย ๆ สไตล์ชาววังด้วยเครื่องทองเหลือง ไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม ช้อนส้อม และยังตกแต่งด้วยดอกไม้ช่อเล็ก ๆ อีกด้วย น่ารักมาก โอดิบ : นมสดเย็นโปะด้วยโอวัลติน คล้าย ๆ กับโอวัลตินภูเขาไฟ ไม่หวานเกินไป หอม มันกำลังดี โรตีรวม : เป็นโรตีรวมมิตร มีทั้งฝอยทอง แป้งกรอบ วิปครีมไมโล โรตีชีส และตรงกลางเป็นต้นตำรับ โรตีชีส : ใครเป็นสายชีส ต้องลองโรตีชีสยืด ๆ เลยล่ะ Floral Café at at Napasorn.“นภสร” เป็นร้านดอกไม้ชื่อดังย่านปากคลองตลาดที่เปิดมานานกว่า 20 ปี ด้วยความชอบส่วนตัวของเจ้าของร้าน จึงเปิดส่วนที่เป็นร้านกาแฟขึ้นมา โดยใช้ความถนัดของตัวเอง หยิบเอาบรรยากาศของร้านดอกไม้นภสรด้านล่างมาตกแต่งใน Floral Café โซนคาเฟ่จะอยู่บริเวณชั้น 2 และชั้น 3 ประดับประดาด้วยต้นไม้ ดอกไม้สด และดอกไม้แห้ง คุมโทนด้วยสีเอิร์ธโทนของผนังอิฐมอญ เฟอร์นิเจอร์ไม้ มีทั้งตู้กระจก เซรามิก ของสะสมย้อนยุคมีดีเทล กิ๊บเก๋ไม่เหมือนใคร รวมถึงแชนเดอเลียร์สุดอลังการกลางห้อง พร็อพแน่นและสวยจริง ๆ ค่ะ เมนูของทางร้าน เป็นการครีเอทจากวัตถุดิบต่าง ๆ ตามฤดูกาล ทำให้ลูกค้าได้เมนูที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นขนมเค้ก หรือไอศกรีมโฮมเมด ชาและกาแฟคัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญ เช่น ชาดอกไม้ที่เบลนด์เป็นพิเศษเพื่อให้กลิ่นหอมเฉพาะของร้าน Brownie Raspberry : บราวนีราสเบอร์รีกินคู่กับกาแฟ เข้ากันได้ดีเลยค่ะ เนื้อช็อกโกแลตเข้มข้น หนุบหนับตัดกับรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ใครเป็นบราวนี่เลิฟเวอร์ต้องลอง Sparkling Honey : อเมริกาโน่ผสมน้ำผึ้งมะนาว กินกับบราวนี่เข้ากันได้ดีเลยค่ะ Green Apple Mint Smoothie : ใครที่ชอบดื่มสมูทตี้ แอดแนะนำ Green Apple Mint Smoothie แอปเปิ้ลเขียวปั่นเย็น ๆ ได้รสชาติอมเปรี้ยวอมหวานของแอปเปิ้ลและกลิ่นของมิ้นท์เพิ่มความสดชื่น ที่ตั้ง : 67 ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.โทร. 0 2222 6895, 0 2221 2039, 06 1852 8866 ทองย้อยคาเฟ่.เดิมทองย้อยเป็นแบรนด์เสื้อผ้ามานานกว่า 10 ปี แต่ด้วยความอยากทำสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคยมาแต่เด็กในเรื่องของขนมไทย เจ้าของร้านทองย้อยจึงทำคาเฟ่ขนมไทยขึ้นมาด้วย ในคอนเซ็ปต์ Sunset กับ Sky ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ประกอบกับกลิ่นอายฮาวายหน่อย ๆ ของเม็กซิโกและเกาะมาดากัสการ์ เกิดเป็นกำแพงดอกไม้หลากสีโดดเด่น กลายเป็นจุดที่ลูกค้าชอบมาถ่ายรูปกันเยอะเลยทีเดียว ทองย้อยคาเฟ่เน้นความเป็นกันเอง เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยใช้สโลแกนว่า “ทองย้อย for all” หรือคาเฟ่สำหรับทุกคนนั่นเอง.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ Thongyoy Cafe ขนมไทยที่นี่รสชาติหวานมัน กลมกล่อม ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยทองคำเปลวขนาดเล็กติดที่ตัวขนม ไม่ว่าจะเป็นตะโก้ ขนมชั้น ลูกชุบ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเบเกอรี่ที่ผสมผสานระหว่างขนมฝรั่งกับขนมไทย หาทานไม่ได้ที่ไหน เช่น เค้กรวมมิตร เค้กลอดช่องแตงไทย เค้กลูกตาลมันเชื่อม เค้กทับทิมกรอบ เค้กทุเรียน เค้กเงาะ ชีสเค้กส้มโอ ชีสเค้กเลมอน เป็นต้น เสริร์ฟมาในภาชนะทองเหลืองทั้งหมด เรียกได้ว่าคงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ Thongyoy Cafe อัญชันทองคราม : เมนูสุดซ่าของร้าน ใครชอบเครื่องดื่มสดชื่น ๆ ต้องลอง.ทองย้อยคาเฟ่มี 3 สาขา– สาขาซอยอารีย์สัมพันธ์ 7โทร. 08 3298 7288– สาขาสยามพารากอน ชั้น G หน้ากูเมร์ฝั่งเหนือโทร. 08 9262 4661, 08 4110 9865– สาขาเซนทรัลลาดพร้าว ชั้น 4

Flowers Café คาเฟ่ดอกไม้ อ่านเพิ่มเติม

ขนมไทยในงานมงคลสมรส 9 ชนิด

เดือนแห่งความรักแบบนี้ มองไปทางไหนก็อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความรักชวนให้รู้สึกถึงความหวาน คู่ไหนที่ความรักสุกงอมพร้อมแต่งงานแล้ว แอดมินก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ แอดมินมีเรื่องขนมไทยในงานแต่งงานมาฝากค่ะ . ไปดูกันว่าขนมไทยในงานมงคลสมรสปัจจุบันมีอะไรบ้าง และมีความหมายเป็นมงคลยังไง แถมท้ายด้วยพิกัดคาเฟ่ขนมไทยให้เพื่อน ๆ ชวนหวานใจไปลองชิมกันอีกด้วย ขนมทองหยิบ.ทองหยิบเป็นขนมไทยโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา วัตถุดิบหลักคือแป้งและไข่แดงที่นำมาตีจนขึ้นฟู จากนั้นนำไปหยอดลงในน้ำเชื่อมเดือด เมื่อสุกแล้วจึงนำมาใส่ถ้วย จับจีบเป็นรูปดอกไม้ จัดใส่ถ้วยเล็ก ๆ.สื่อถึงความร่ำรวย มีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือ หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด ขนมทองหยอด.รสชาติเหมือนทองหยิบ ต่างกันที่หน้าตา โดยการหยอดตัวขนมเป็นหยดน้ำกลม ๆ ลงน้ำเชื่อมเดือดแทน.ทองหยอดเปรียบเสมือนทองคำ อวยพรให้คู่บ่าวสาวมั่งคั่งร่ำรวย มีเงินมีทองใช้จ่ายไม่รู้หมด ขนมฝอยทอง.เป็นขนมอีกหนึ่งชนิดที่มีวัตถุดิบหลักคือไข่แดงและแป้ง แต่จะใช้กรวยสำหรับโรยฝอยทองให้เป็นเส้นลงในน้ำเชื่อมเดือด แล้วจับเป็นแพเรียงสวยงาม.สื่อความหมายถึงการครองรักครองเรือนที่ยาวนานเหมือนเส้นฝอยทองนั่นเอง ขนมเม็ดขนุน.ขนมไทยอีกหนึ่งในขนมตระกูลทอง รูปร่างลักษณะคล้ายกับเม็ดขนุน ด้านในสอดไส้ถั่วเขียวบดละเอียด รสหวานมัน เคลือบด้วยไข่แดงด้านนอกให้เป็นสีเหลืองทอง ก่อนนำลงไปต้มในน้ำเชื่อมเดือด.ชื่อของขนมเม็ดขนุนช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้มีคนคอยเกื้อหนุน ทั้งเรื่องของการดำเนินชีวิต หน้าที่การงาน รวมถึงกิจการต่าง ๆ ขนมทองเอก.เป็นหนึ่งในขนมตระกูลทองที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น หลังจากกวนขนมจนแป้งจับตัวปั้นได้ นำไปกดในพิมพ์ ก่อนจะเพิ่มความพิเศษด้วยการติดทองคำเปลวบนขนม.คำว่า “เอก” หมายถึง การเป็นที่หนึ่ง ทองเอกจึงมีความหมายว่าเป็นที่หนึ่ง มีความมงคลทั้งในเรื่องการงาน และชีวิตครอบครัว ขนมดาราทอง.หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “จ่ามงกุฎ” เป็นขนมที่มีขั้นตอนการทำซับซ้อน หลายขั้นตอน เริ่มจากอบแป้งส่วนฐาน ก่อนจะทำส่วนตัวขนมซึ่งวิธีทำเหมือนขนมทองเอก ติดเมล็ดแตงโมรอบชิ้น แล้วติดแผ่นทองคำเปลวด้านบน หน้าตาสง่างามมาก.ขนมชนิดนี้คล้ายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เป็นรูปดาว จึงสื่อถึงความสง่างาม ได้อยู่ตำแหน่งสูงสุด มีชื่อเสียงเกียรติยศ เป็นการอวยพรให้คู่แต่งงานมีความก้าวหน้า และชื่อเสียงเกียรติยศ ขนมชั้น.ขนมที่เราซื้อหารับประทานได้ทั่วไปชนิดนี้ ก็เป็นขนมมงคลอีกหนึ่งชนิดที่นำมาใช้ในงานมงคลสมรส มีลักษณะเป็นชั้นๆ ปกติทำเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม แต่ปัจจุบันมีรูปร่างหน้าตาหลากหลายตามความคิดสร้างสรรค์.ขนมชั้นเปรียบเสมือนตำแหน่งชั้นยศ จึงนำมาใช้อวยพรให้คู่แต่งงานมีความก้าวหน้า ได้รับการเลื่อนขั้นในหน้าที่การงาน ขนมเสน่ห์จันทน์.เป็นขนมไทย ทำจากแป้ง น้ำตาล ไข่แดง กะทิ และเพิ่มความหอมด้วยจันทน์เทศป่น กวนจนเหนียวพอปั้นได้ ปั้นเป็นทรงกลมแบนเลียนแบบหน้าตาของผลลูกจัน.สื่อถึงเสน่ห์ ที่ทำให้คนรักและเอ็นดูนั่นเอง ขนมลูกชุบ.ขนมลูกชุบก็เป็นขนมมงคลอีกหนึ่งชนิดที่หาซื้อได้ทั่วไป ซึ่งเดิมก็จะทำเป็นรูปผลไม้ แต่ในปัจจุบันก็มีหน้าตาแปลกใหม่หลากหลายมากขึ้น เป็นขนมที่คล้ายขนมเม็ดขนุน แต่ด้านนอกชุบด้วยวุ้นหลาย ๆ ชั้น.สื่อถึงให้คู่บ่าวสาวมีชีวิตคู่ที่เจริญรุ่งเรืองงอกงามเหมือนผลไม้ต่าง ๆ ที่นำมาปั้นเป็นขนมลูกชุบนั่นเอง หมายเหตุ : เดิมพานขันหมากมักมีขนมถ้วยฟูเป็นหนึ่งในขนมมงคล แต่ปัจจุบัน ร้านรับทำพานขันหมากหลายแห่งเริ่มเปลี่ยนมาใช้ลูกชุบแทน เนื่องจากขนมถ้วยฟูนั้นหาซื้อได้ยาก และเสียง่าย รู้จักกับขนมไทยในงานแต่งงานกันแล้ว มาเก็บพิกัดคาเฟ่ขนมไทยกันค่ะ ถ้ามีจังหวะเหมาะๆ ค่อยไปลองกันนะคะ.เวฬาฌา.คาเฟ่เล็ก ๆ แต่น่ารักมาก ตกแต่งสไตล์ไทย-จีน โทนสีน้ำเงิน เรียบหรูดูดี ให้บริการขนมไทยและเครื่องดื่มหลากหลายชนิด โดยเฉพาะขนมไทยมงคล ใครยังไม่เคยไป ต้องไปลอง แอดไปมาแล้ว อร่อยทั้งขนมและเครื่องดื่มเลยค่ะ.เปิดทุกวัน เวลา 11.00-20.30 น.โทร. 063 087 8888ที่ตั้ง ซอย อารีย์ 1 แขวง สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร บ้านขนมปังขิง เสาชิงช้า .ย่านพระนครก็มีคาเฟ่ขนมไทยเหมือนกัน บ้านขนมปังขิงเป็นบ้านไม้หลังเก่าสไตล์ Ginger Bread House ที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ไปร้านนี้ไม่เพียงจะได้รับประทานขนมไทยอร่อย ๆ เท่านั้น แต่ยังได้ชื่นชมกับความสวยงามของตัวบ้านและบรรยากาศอดีตอีกด้วย.เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00-20.00 น. (ปิดวันจันทร์)โทร. 097 229 7021ที่ตั้ง 47 ซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เสน่ห์จันทร์.ไปรอบนอกกรุงเทพฯ กันบ้าง คาเฟ่สุดคลาสสิกริมแม่น้ำ ผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับสวนสไตล์อังกฤษ ที่นี่ให้บริการทั้งทั้งอาหารไทยแบบดั้งเดิม และอาหารฟิวชั่น ส่วนเมนูขนมนั้นเป็นขนมไทยชาววัง ดูน่ารับประทานมาก ๆ.เปิดทุกวัน เวลา 08.30-21.00 น.โทร. 062 464 6415ที่ตั้ง ถ.สวนตะไคร้ ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม.ขอบคุณรูปขนมไทยสวยๆ จาก House of Chandra – เสน่ห์จันทน์  ร้านคนทีริมน้ำ&ขนมไทยบ้านดารา.ร้านสุดท้าย เอาใจคนรักขนมไทยแบบจัดเต็ม ที่นี่เป็นร้านอาหารพื้นบ้านริมแม่น้ำแม่กลอง แต่ความพิเศษไม่ได้อยู่ที่อาหารอย่างเดียว เพราะที่นี่มีบุฟเฟ่ต์ขนมไทยด้วยจ้า.ขนมไทยของทางร้านเป็นสูตรของคุณย่า มีขนมไทยให้เลือกหลายอย่าง บางอย่างก็หาทานได้ยาก ใครมีโอกาสได้ไปสมุทรสงคราม ต้องไม่พลาดร้านนี้ค่ะ.บุฟเฟ่ต์ขนมไทย ราคาคนละ 79 บาทมี 2 รอบ ได้แก่ 10.30-13.00 น. และ 13.30-15.30 น.เปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.30 น.โทร. 091 446 3532ที่ตั้ง ตำบลบางคนที อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

ขนมไทยในงานมงคลสมรส 9 ชนิด อ่านเพิ่มเติม

1 Day Trip ไหว้พระขอพร ต้อนรับปีใหม่

เคยสงสัยไหมว่า…ทำไมถึงต้องทำบุญ 9 วัด? . การทำบุญไหว้พระ 9 วัดนั้นเริ่มขึ้นจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนา และได้รับความนิยมอย่างมากมาจนถึงปัจจุบัน บวกกับคติความเชื่อของคนไทย เลข 9 ถือว่าเป็นเลขมงคล เป็นตัวเลขที่พ้องเสียงกับคำว่า “ก้าว” หมายถึงก้าวหน้า จึงมีการนำเสนอเส้นทางไหว้พระ 9 วัดใน 1 วันขึ้นมา . ความจริงแล้ว การทำบุญไหว้พระจะทำกี่วัดก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสบายใจ ขอแค่เราได้รับความสุขและประสบการณ์ดี ๆ จากการทำบุญไหว้พระก็พอ สำหรับแอดเอง นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจและอยากลองทำดูสักครั้ง . เรื่องความเชื่อถือเป็นวิจารณญาณส่วนบุคคลนะคะ เนื่องจากแต่ละวัดอยู่ใกล้กัน เดินทางสะดวก แอดจึงเลือกเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ แต่หากจะขับรถไปเอง แอดต้องบอกก่อนว่าบางวัดไม่มีที่จอดรถ เพื่อน ๆ อาจจะต้องไปหาที่จอดรถในละแวกนั้นแทน เส้นทางไหว้พระ 9 วัด พร้อมจุดเช็คอิน ถ่ายรูป ร้านอาหารอร่อย ๆ.– โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่ ณ เสาชิงช้า– วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร– เสาชิงช้า– วัดพระศรีรัตนศาสดาราม– วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร– วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร– วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร– ร้านอาหารต้นมะกอก– วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร– วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร– วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร– วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร สำหรับทริปวันนี้ แอดจะพาไปหลายที่ แนะนำว่าให้เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่เช้านะคะ แต่ก่อนอื่นแอดจะพาไปหาอะไรเบา ๆ รองท้องกันก่อน.โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่ ณ เสาชิงช้า .ร้านเก่าแก่คู่พระนครอายุอานามกว่า 60 ปี มีต้นกำเนิดมาจากร้านโชห่วย ก่อนจะกลายมาเป็นร้านกาแฟ เฮี้ยะไถ่กี่ในปัจจุบันมีหลายสาขา ซึ่งร้านที่แอดพาไปนั้นเป็นสาขาแรก.เปิดทุกวัน 07.00-20.00 น.โทร. 02 629 0646, 091 979 1498ที่ตั้ง ถนนศิริพงษ์ แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ร้านนี้มีอาหารหลากหลายเมนูให้เลือก ทั้งของว่างทานเล่นและเมนูอาหารเช้า ไม่ว่าจะเป็นไข่กระทะ สเต็กหมู สเต็กปลา ข้าวต้ม ข้าวปลาแซลมอน ขนมปังปิ้ง โรตี ฯลฯ  ความโดดเด่นของร้านคือเครื่องดื่มสไตล์โบราณที่ผสมผสานความร่วมสมัย มีทั้งชา กาแฟ นมเย็น โอเลี้ยง ให้เลือกดื่มได้ตามใจชอบ เติมพลังยามเช้ากันแล้ว เรามาเริ่มต้นเดินทางกันเลย วัดแรกอยู่ไม่ไกลจากร้านโกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่ ออกจากร้านแล้วเลี้ยวซ้าย เดินมาเพียง 300 เมตรเท่านั้น.วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร.วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันติดปากว่า “วัดสุทัศน์” เป็นวัดที่ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 3 รัชกาลทีเดียวกว่าจะเสร็จสมบูรณ์.ความน่าสนใจของวัดนี้คือ “พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต)” ที่อัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จ.สุโขทัย เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยแบบหล่อสำริดที่นับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย วัดสุทัศน์เป็นวัดที่ไม่มีเจดีย์เหมือนวัดอื่นๆ เพราะมีสัตตมหาสถานเป็นอุเทสิกเจดีย์ (สถานที่สำคัญ 7 แห่งที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเสวยวิมุตติสุขหลังตรัสรู้).ความเชื่อ : หากมาสักการะที่นี่ จะช่วยให้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป.เปิดทุกวัน 08.00-16.00 น.โทร. 02 222 6932, 02 222 9635ที่ตั้ง ถนนบำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาวัดนี้ คือ แวะไปถ่ายรูป “เสาชิงช้า” แลนด์มาร์กขนาดใหญ่หน้าวัด วัดต่อมา แอดจะพาเพื่อน ๆ มาไหว้พระที่.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม.พระอารามหลวง ณ ใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ เป็นวัดที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระแก้ว” ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน “พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” (พระแก้วมรกต) เป็นวัดหลวงที่ไม่มีพระจำพรรษา และยังเป็นวัดสำคัญที่พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จมาประกอบพระราชพิธีสำคัญนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ความเชื่อ : หากมาสักการะพระแก้วมรกตด้วยดอกบัวคู่และธูปเทียนแล้ว ชีวิตจะมีแต่ความรุ่งเรือง มั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติ เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย.จากวัดสุทัศน์มาวัดพระแก้ว เพื่อนๆ สามารถเดินทางได้หลายวิธี จะเดินหรือใช้บริการ MRT ก็ได้ แต่ถ้าอยากประหยัดเวลา แนะนำให้นั่งรถประจำทางสาย 12 จากหน้าวัดสุทัศน์ไปที่ลงป้ายบริเวณใกล้เคียงกับวัดพระแก้วได้เลย .เปิดทุกวัน เวลา 08.30-15.30 น.โทร. 02 623 5500 ต่อ 3100, 02 224 3290ที่ตั้ง ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ออกจากวัดพระแก้วแล้ว เราไปต่อที่.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์).“วัดโพธิ์” เป็นวัดเก่าแก่ประจำรัชกาลที่ 1 ซึ่งต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะวัดโพธิ์ใหม่ทั้งหมด มีการนำศิลปะจีนมาผสมผสานในการสร้างพระอารามครั้งนี้ด้วย สังเกตได้ตั้งแต่เดินเข้าวัดมา ไม่ว่าจะเป็นซุ้มประตู หน้าบัน เก๋งจีน รวมถึงตุ๊กตาอับเฉาที่สำคัญวัดโพธิ์ยังมีชื่อเสียงในเรื่องการนวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ และบำบัดอาการเจ็บป่วย เป็นที่รู้จักของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอีกด้วย ไฮไลท์สำคัญของวัดนี้คือ “พระพุทธไสยาสน์” หรือ “พระนอน” ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ นับเป็นพระนอนที่งดงามองค์หนึ่งของไทย.ความเชื่อ : เชื่อว่าหากได้มานมัสการที่นี่ จะทำให้อยู่ดีกินดี มีความร่มเย็นเป็นสุข ดุจอยู่ใต้ร่มโพธิ์นั่นเอง.เปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.30 น.โทร. 02 226 0335, 02 226 0369ที่ตั้ง ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร วัดต่อไป แอดจะพาเพื่อน ๆ นั่งเรือจากท่าเตียน ข้ามฟากไปยังฝั่งธนฯ กันบ้าง.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร.วัดอรุณฯ หรือวัดแจ้ง สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เป็นวัดสำคัญในสมัยกรุงธนบุรี เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวัง โดยเอาป้อมวิชัยประสิทธิ์ฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้ง แล้วขยายเขตพระราชฐาน วัดแจ้งจึงกลายเป็นวัดในพระราชวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ในสมัยอยุธยา และวัดพระศรีรัตนศาสดารามในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ความโดดเด่นของวัดนี้ก็คือพระปรางค์องค์ใหญ่ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย “พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก” และกล่าวกันว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงปั้นพระพักตร์ด้วยพระองค์เองอีกด้วย.ความเชื่อ : หากใครได้มาไหว้พระในวัดนี้ จะมีชีวิตรุ่งโรจน์ทุกวันคืน.เปิดทุกวัน

1 Day Trip ไหว้พระขอพร ต้อนรับปีใหม่ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top