สถานที่ท่องเที่ยว

เยือน (วัด) ภูเก็ต ณ เมืองน่าน

เยือน (วัด) ภูเก็ต ณ เมืองน่าน วัดภูเก็ต อยู่ตำบลวรนคร อำเภอปัว ที่ชื่อวัดภูเก็ตเป็นการเรียกชื่อตามหมู่บ้านที่ชื่อว่า “หมู่บ้านเก็ต” และเนื่องจากเป็นวัดตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งทางเหนือ เรียกว่า “ดอย” หรือ “ภู” จึงมีชื่อว่า “วัดภูเก็ต” หมายถึง วัดบ้านเก็ตที่อยู่บนภู หรือ ดอย จุดเด่นของวัดนี้มีระเบียงชมวิวด้านหลังวัด ติดกับทุ่งนากว้าง พร้อมด้วยฉากหลังเป็นภูเขาของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง ด้านล่างมีแม่น้ำไหลผ่าน ทางวัดได้จัดให้เป็นเขตอภัยทาน สามารถให้อาหารจากลานข้างบน ผ่านท่อไหลลงไปให้กับฝูงปลาได้ บริเวณวัดมีอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์ จิตรกรรม ฝาผนังสามมิติ ประดิษฐาน “หลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา” หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก นอกจากนี้ ทางวัดยังสร้าง ภูเก็ตสนธยา เทมเพิล สเตย์ เป็นอาคารที่พักที่มีลักษณะเป็นโรงแรมธรรมะ สำหรับผู้ที่มาปฎิบัติธรรมร่วมกับทางวัด ในวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา วันเข้าพรรษา วันมาฆบูชา ได้ทำบุญตักบาตร และยังได้ศึกษาวิถีชีวิตของพระ เณร เหตุที่เรียกว่าเทมเพิล สเตย์ เพราะที่นี่จัดห้องพักลักษณะเดียวกับโรงแรม มีเครื่องใช้ภายในห้องเหมือนโรงแรมทั่วไป มีห้องพักรวม ซึ่งรองรับผู้เข้าพักได้ถึง 60 คน และห้องเดี่ยว สำหรับรองรับผู้เข้าพักอีก 8 ห้อง ตอนเช้ายังมีบริการอาหารเช้า (ข้าวต้ม) และกาแฟ ให้แก่ผู้เข้าพัก อาคารนี้มี 4 ชั้น 8 ห้องนอน โดยในชั้นที่ 4 จะเป็นห้องปฏิบัติธรรม ตัวโรงแรมสร้างอยู่ใต้โบสถ์บริเวณลานโบสถ์เป็นดาดฟ้า โรงแรมนี้ไม่มีจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งแตกต่างจากโรงแรมอื่น ช่วงปฏิบัติธรรมไม่ต้องเสียค่าเข้าพัก (หรืออาจบริจาควัดตามแต่จิตศรัทธา) ส่วนใครต้องการไปพักผ่อนนอกเหนือช่วงที่จัดปฏิบัติธรรมต้องเสียค่าเข้าพัก (ค่าบำรุงวัดและสถานที่) สอบถามข้อมูล โทร. 08 9552 4503, 08 4046 9745 การเดินทาง จากอำเภอปัวขับรถตรงไปกลับรถที่เทสโก โลตัส แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว วัดภูเก็ต อยู่เยื้องกับโรงพยาบาล

เยือน (วัด) ภูเก็ต ณ เมืองน่าน อ่านเพิ่มเติม

นครพนม…นครแห่ง 8 พระธาตุประจำวันเกิด

หลายคนชอบบ่นว่าไปนครพนมไม่รู้จะไปไหนดี แล้วทุกคนรู้หรือไม่ว่า จ.นครพนมนั้น มีพระธาตุประจำวันเกิดทั้ง 7 วันไว้ในจังหวัดเดียว เหมาะสำหรับการเดินทางไป #ออมบุญ เป็นที่สุด พระธาตุพนมพระธาตุประจำวันของคนเกิดวันอาทิตย์  ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.ธาตุพนม เป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของคนเปิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดวันอาทิตย์ ซึ่งควรหาโอกาสมาสักการะเพื่อเสริมดวงชะตาและความเป็นสิริมงคล  สำหรับคนที่แม้ว่าจะไม่ได้เกิดปีวอก หรือวันอาทิตย์ ก็เชื่อว่าจะได้รับกุศลและผลบุญบารมี ทำการใดๆ ก็จะประสบความสำเร็จทั้งปวง ทั้งยังเชื่อว่าหากได้สักการะบูชาพระธาตุครบทั้ง 7 ครั้ง ก็จะได้เป็น “ลูกพระธาตุ” คาถาบูชา ให้บูชาองค์พระธาตุพนม ธูป 6 ดอก เทียน 2 เล่ม ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ  งานนมัสการพระธาตุพนม จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกุมพาพันธ์ โดยถือเอาวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันแรกของงานและไปสิ้นสุดในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 พระธาตุเรณูนคร พระธาตุประจำวันของคนเกิดวันจันทร์ ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุเรณู ใจกลางตัวอำเภอเรณูนคร ไม่ไกลจากพระธาตุพนม โดยจำลองมาจากพระธาตุพนมองค์เดิม แต่เล็กกว่า ภายในเจดีย์บรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน เพชรนิลจินดา หน่องา เครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยาและเจ้าเมือง ยังมีสิ่งของที่ประชาชนนำมาบริจาค นอกจากนั้นยังได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงจันทร์ คาถาบูชา ให้บูชาองค์พระธาตุเรณู ธูป 15 ดอก เทียน 2 เล่ม ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา พระธาตุศรีคุณพระธาตุประจำวันของคนเกิดวันอังคาร เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองของชาวนาแก ประดิษฐานิยู่ในวัดพระธาตุศรีคูณ ไม่ไกลจากพระธาตุพนมมากนัก พระธาตุองค์ดังกล่าวมีลักษณะส่วนบนคล้ายพระธาตุพนม ต่างกันตรงที่ชั้นที่ 1 มี 2 ตอน เป็นรูปสี่เหลี่ยมประดับลวดลายปูนปั้น และชั้นที่ 2 สั้นกว่าพระธาตุพนม เชื่อกันว่าผู้ที่ได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้มีศักดิ์ศรีทวีคูณ คาถาบูชา ให้บูชาองค์พระธาตุศรีคุณ ธูป 8 ดอก เทียน 2 เล่ม ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง พระธาตุมหาชัยพระธาตุประจำวันของคนเกิดวันพุธ  พระธาตุมหาชัย มีปูชนียสถานที่สำคัญยิ่ง ตั้งอยู่ที่ วัดโฆสิตาราม ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก ป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ สารีริกธาตุไว้ภายในองค์พระธาตุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่พระธาตุมหาชัย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชาวัดนี้ยังเป็นที่จำพรรษาของพระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) พระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนาที่สำคัญองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวนครพนมและชาวอีสานทั่วไป เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุมหาชัย จะประสบแต่ชัยชนะในชีวิต จะเป็นนักประสานสิบทิศ โอภาปราศรัยดี ค้าขายคล่อง พูดจามีคนเชื่อถือ คาถาบูชา ให้บูชาองค์พระธาตุมหาชัย ธูป 17 ดอก เทียน 2 เล่ม ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า ปิ สัม ระ โล ปุ สุต พุท พระธาตุมรุกขนคร พระธาตุประจำวันของคนเกิดวันพุธกลางคืน  นับเป็นพระธาตุประจำวันเกิดแห่งที่ 8 ของจังหวัดนครพนม กล่าวกันว่าเป็นพระธาตุของคนเกิดวันพุธกลางคืนคือ พระราหูที่สถิตอยู่ ณ ต้นไม้ใหญ่ เป็นเทวดาดูแลท้องฟ้า ประจำอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ณ เมืองมรุกขนคร ภายในพระธาตุเก็บรวบรวมวัตถุโบราณอันเป็นหลักฐานการดำรงชีวิตชาวนครพนมเมื่อ 100 กว่าปีก่อน เช่น ข้าวของเครื่องใช้ ซากปรักหักพังประตูวิหารโบราณ เก็บไว้ให้ศึกษาแต่ยังจัดแสดงไม่เป็นระบบ จึงได้แต่ดูผ่านๆ เท่านั้น จุดที่น่าสนใจ คือ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่บริเวณโคนต้นโอบล้อมด้วยปูนปั้นรูปพญานาค ซึ่งมีชาวบ้านนิยมไปขอพรบนบานกันมาก เชื่อกันว่าผู้ที่ได้มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้ประสบชัยชนะในชีวิต คาถาบูชา ให้บูชาองค์พระธาตุมรุกขนคร ธูป 12 ดอก เทียน 2 เล่ม ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ พระธาตุประสิทธิ์พระธาตุประจำวันเกิดวันพฤหัสบดี  พระธาตุประสิทธิ์ เดิมเป็นเจดีย์เก่าแก่ ชำรุดทรุดโทรม มีเถาวัลย์ปกคลุม ภายในอุโมงค์มีพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ ต่อมา พระธาตุประสิทธิ์ได้รับการบูรณะ โดยเลียนแบบพระธาตุพนม ในปี พ.ศ. 2515 ได้นำพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า และอรหันตธาตุรวม 7 องค์มาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้สัมฤทธิ์ผลในการปฏิบัติงาน ในวันขึ้น 10 ค่ำ ถึงวันที่ 15 ค่ำ เดือน 4 จะมีงานเทศกาลนมัสการพระธาตุประสิทธิ์ เป็นประจำทุกปี พระธาตุท่าอุเทนพระธาตุประจำวันของคนเกิดวันศุกร์  ห่างจากตัวจังหวัดนครพนม 26 กิโลเมตร ลักษณะเจดีย์จำลองมาจากพระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็ก และ สูงกว่าพระธาตุพนม ภายในบรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ ซึ่งพระอาจารย์ศรีทัตถ์ได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง  เชื่อกันว่าผู้ที่ได้มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ คาถาบูชา ให้บูชาองค์พระธาตุท่าอุเทน ธูป 21 ดอก เทียน 2 เล่ม ท่องคาถาประจำวันเกิดว่า วา โธ โน

นครพนม…นครแห่ง 8 พระธาตุประจำวันเกิด อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวเมือง “ชา ละ วัน” ใน 1 วัน

พิจิตร จุดเชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน เราจะใช้เส้นทางนี้ที่จะขึ้นภาคเหนือ ใน 1 วันที่พิจิตรเราก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยว สิ่งที่น่าสนใจมีอะไรให้เที่ยวกัน นอกจากเรื่องกินแล้วแอดมินก็สายบุญนะคะ แอ่วเหนือภาคกลางนิดเดียว ไม่ไกลเลยเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆจากกรุงเทพโดยรถยนต์ หรือเพื่อนๆอยู่จังหวัดไม่ไกลแต่ยังไม่ได้เข้าไปเยือน ลองเเวะเข้าไปนะคะ มีอะไรให้เที่ยวมากกว่าเป็นทางผ่านอีก เช้ามืดนี้เราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เราแวะกันที่แรกสักการะหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม เดิมชื่อ วัดวังตะโก ริมแม่น้ำน่าน อยู่ที่อำเภอโพทะเล  หลวงพ่อเงินท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากและขึ้นชื่อวัตถุมงคลของชาวพิจิตรเลื่องลือทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นที่นิยมของเหล่าเซียนพระมากมายที่ต้องหามาบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล จุดที่น่าสนใจภายในวัดนี้คือ พิพิธภัณฑ์นครไชยบวร พิพิธภัณฑ์นครไชยบวร เป็นมณฑป 2 ชั้น ชั้นบนได้ประดิษฐานรูปหล่อเท่าองค์จริงหลวงพ่อเงิน เกจิอาจารย์ที่ประชาชนเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง และท่านเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ส่วนชั้นล่าง จะจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ เช่น พระพุทธรูป เครื่องปั้นดินเผา สามารถมาเที่ยวชมได้ทุกวันเปิดตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. เราเดินทางเข้าสู่อ.เมืองจึงพลาดไม่ได้ที่จะเเวะ วัดท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร อยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก ใกล้ศาลากลางจังหวัด สร้างขึ้นสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อประมาณ พ.ศ.2388 ภายในอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อเพชร หลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง เรามาพิจิตรต้องไม่พลาดที่จะมากราบหลวงพ่อเพชร สวยงามอะไรเบอร์นี้คะถือว่าเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตร งดงามมากค่ะ พระอุโบสถเปิดให้เข้านมัสการหลวงพ่อเพชรได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. ออกมาไม่ไกลกันมากก็เดินทางมาที่ บึงสีไฟ อยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่อันดับสามของประเทศและยังเป็นบึงที่เพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด โดยปกติประชาชนทั่วไปชาวพิจิตรหรือนักท่องเที่ยวต่างจังหวัดก็มาชมพระอาทิตย์ตกกันที่นี่ ถือว่าเป็นสถานที่พักผ่อน นั่งที่ศาลาริมน้ำชมสีของน้ำที่สะท้อนกับแสงพระอาทิตย์กำลังจะตกประหนึ่งว่าเป็นสีของไฟ สวยงามตามท้องเรื่องเลยค่ะเพื่อนๆ ส่วนของด้านหน้าบึงสีไฟนั้น เพื่อนๆก็จะเห็นรูปปั้นพญาชาละวันยักษ์ใหญ่ของที่นี่ อ้าปากให้เรามาแต่ไกล มาถึงแล้วก็ต้องแชะภาพคู่ด้วยกันหน่อยค่ะ เดี๋ยวหาว่าไม่ถึง บริเวณโดยรอบจะจัดทำเป็นสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ พิจิตร สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 80 พรรษา วัดโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง วัดนี้แค่เห็นก็สะดุดตามากค่ะเป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่ได้ขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรแล้ว สร้างสมัยสมเด็จพระสุริเยนทราธิบดี หรือพระพุทธเจ้าเสือ พระนามเดิมคือขุนหลวงสรศักดิ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา คุณพระ! 300 ปีมาแล้ว พระเจ้าเสือทรงโปรดให้สร้าง เป็นอนุสรณ์ระลึกสถานที่พระองค์ประสูติ ณ สถานที่แห่งนี้ สิ่งที่ได้เห็นนั้น ขนาดของวัดนั้นค่อนข้างใหญ่ ซุ้มประตูวัดมีขนาดสูงใหญ่ มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้นซึ่งเป็นศิลปะสมัยอยุธยา  ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปเป็นพระประธานประจำอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้างเรียกกันว่า “หลวงพ่อโต” ก่อนกลับแวะซื้อของฝากจากกลุ่มแม่บ้านเกษตรสามัคคีโพธิ์ประทับช้างได้เลยค่ะ ของเด็ดเมืองพิจิตร ส้มโอท่าข่อย หรือมีผลิตภัณฑ์แปรรูปเป็นส้มโอแก้วสี่รสเปรี้ยวปาก ฟินเฟ่อ!

เที่ยวเมือง “ชา ละ วัน” ใน 1 วัน อ่านเพิ่มเติม

ภูทอก บันไดไม้แห่งศรัทธาสู่ภูเขาแห่งธรรม

ภูทอก ตั้งอยู่ที่บ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ เป็นภูเขาหินทรายที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เชิงภูทอกเป็นที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูทอก บันไดทางขึ้นภูทอกมี 7 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะเป็นสะพานไม้สลับกับบันไดไม้เวียนรอบเขา ตลอดทางเดินจะผ่านป่า โขดหิน และบางช่วงทางเดินจะลัดเลาะเรียบริมหน้าผา ชวนให้รู้สึกตื่นเต้นหวาดเสียว การเดินบนสะพานไม้เลียบริมหน้าผา ควรเดินด้วยความระมัดระวัง ไม่วิ่งเล่นหรือยืนพิงระเบียงไม้ เพราะอาจเกิดอันตรายพลัดตกลงไปได้ แม้บางช่วงของทางเดินจะค่อนข้างหวาดเสียว แต่ทิวทัศน์สวยงามที่ได้ชมนั้นแสนจะคุ้มค่า มีลานหินริมหน้าผาสำหรับชมวิว มองลงไปจะเห็นเจดีย์พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ตั้งเด่นสง่าอยู่เบื้องล่าง นอกจากนี้ยังมองเห็นบ้านเรือนของชาวบ้านในเขตอำเภอศรีวิไล ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกพืชไร่และยางพารา ไฮไลท์เด่นของภูทอก คือ พุทธวิหาร ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีลักษณะแปลก คือ เป็นหินที่แยกตัวออกมาจากหินก้อนใหญ่ แต่ไม่ตกลงมา เพราะตั้งอยู่อย่างได้ฉากกับพื้นโลกพอดี คล้ายกับพระธาตุอินทร์แขวนที่พม่า ภูทอก เปิดให้ขึ้นไปชมทุกวัน และจะปิดในวันที่ 10-16 เมษายน ของทุกปี (ช่วงสงกรานต์) สำหรับการเดินทางจากตัวเมืองบึงกาฬ ใช้ทางหลวงหมายเลข 222 ถึงอำเภอศรีวิไล มีทางแยกซ้ายอีก 30 กิโลเมตร ผ่านบ้านอู่คำ บ้านนาสิงห์ บ้านสันทรายงาม บ้านแสงเจริญ สู่บ้านนาคำแคน ถึงภูทอก

ภูทอก บันไดไม้แห่งศรัทธาสู่ภูเขาแห่งธรรม อ่านเพิ่มเติม

ล่องแพพะโต๊ะ ผจญไพรไปกับสายน้ำเชี่ยว

ล่องแพพะโต๊ะ ผจญไพรไปกับสายน้ำเชี่ยว อำเภอพะโต๊ะของชุมพรเป็นพื้นที่ ธรรมชาติซึ่งได้ชื่อว่าดินแดนแห่งภูผาเขียว หมอกปก น้ำตกงาม มองไปทางไหนก็เห็น แต่ผืนป่าห่มปกทิวเขาสลับซับซ้อน จนเป็น บ่อเกิดของสายน้ำฉ่ำเย็นหลากหลายสาย จึงเป็นแหล่งที่จัดกิจกรรมล่องแพมานาน หลายสิบปี  โดยในอดีตเป็นการล่องแพ ไม้ไผ่ ทุกวันนี้เปลี่ยนเป็นแพท่อพลาสติก เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ทว่าความสนุก ตื่นเต้นของการล่องแพกลางสายน้ำเชี่ยว และความงามของพงไพรสองฟากฝั่งยังคง มีอยู่เต็มร้อย “การล่องแพพะโต๊ะ” ใช้เวลา ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ผ่านแก่งระดับความ แรง 1-3 ซึ่งถือว่าสนุก ไม่อันตราย สำหรับการมาล่องแพพะโต๊ะ นักท่องเที่ยวอาจเลือกพักแบบโฮมสเตย์ซึ่งอาศัยอยู่กินกับชาวบ้าน หรือพักกับรีสอร์ทเอกชนก็ได้แล้ว ใช้บริการล่องแพของบริษัทเอกชนที่ให้บริการในอำเภอพะโต๊ ค่าล่องแพประมาณคนละ 450-500 บาทรวมอาหาร มื้อ ใช้เวลาล่องแพประมาณ 2-3 ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติมที่ – เทศบาลตำบลพะโต๊ะ บริการล่องเรือยาง โทร. 0 7753 9072– ชมรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศป่าต้นน้ำพะโต๊ะ โทร. 08 7821 8700-ที่ทำการปกครองอำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร โทร 0 7753 9040, 0 7753 9240, 08 1979 1448, 08 2326 3688, 08 5472 8300

ล่องแพพะโต๊ะ ผจญไพรไปกับสายน้ำเชี่ยว อ่านเพิ่มเติม

รวม 7 ที่เที่ยวเด็ดๆของหนองบัวลำภู

พูดถึงหนองบัวลำภู..คุณคิดถึงอะไร? ถ้าคุณเป็นอีกคนที่อยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ลองไปเที่ยวสถานที่ใหม่ๆ จังหวัดใหม่ๆ ลองมาเที่ยวหนองบัวลำภูดูไหม! บางทีคุณอาจหลงเสน่ห์เมืองนี้ก็ได้ แอดมินรวม 7 ที่เที่ยวเด็ดๆของหนองบัวลำภูมาให้ดูกัน อยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้างต้องตามมาๆ 1.อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ  พื้นที่ครอบคลุมริมทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิงเขาภูพานคำ เขตอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ 2 แห่ง คือ ภูเก้าและภูพานคำ  ภูพานคำ เป็นทิวเขาด้านตะวันออกของลุ่มน้ำพอง และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน ตอนบนมีทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ นักท่องเที่ยวสามารถพักแรมโดยกางเต็นท์เต็นท์ บ้านพักอุทยานฯหรือพักบริเวณศาลาพักแรมของกรมประชาสงเคราะห์บริเวณทะเลสาบท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ ภูพานคำนี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาและเป็นแหล่งตกปลาที่มีชื่อเสียงของจังหวัด  ส่วนภูเก้า ประกอบด้วยภูเขา 9 ลูก คือ ภูฝาง ภูขุมปูน ภูหัน ภูเมย ภูค้อหม้อ ภูชั้น ภูเพราะ ภูลวก และภูวัด ทั้ง 9 ลูกนี้มีความสลับซับซ้อนมาก ประกอบด้วยป่าไม้ สัตว์ป่านานาชนิด ถ้ำ น้ำตก ลานหินลาด และหินลักษณะแปลกๆ มีภาพแกะสลักของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีศาลาบนยอดหินที่เรียกว่าหอสวรรค์ สามารถชมวิวได้ นอกจากนี้ยังมีวัดพระพุทธบาทภูเก้า ซึ่งปรากฏรอยเท้าคนและสุนัขขนาดใหญ่สลักบนหินอันเกี่ยวโยงกับนิทานพื้นบ้านเรื่อง พระสุพรหมวิโมขากับหมาเก้าหาง 2.อ่างเก็บน้ำห้วยวังผา ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 บ้านไทยนิยม ต.วังทอง อ.นาวัง แยกจากทางหลวงหมายเลข 210 หนองบัวลำภู-เลย ถึงหลัก กม.34 เลี้ยวซ้าย (มุ่งหน้าไปทางจังหวัดเลย) เข้าไปประมาณ 3 ก.ม. จะพบเห็นอ่างน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงามมีภูเขาล้อมรอบมองเห็นดอกไม้เบ่งบานตามสันอ่าง ฝูงนกจำนวนมากที่บินมาอาศัยที่ภูชำน้อย เหมาะแก่การล่องแพชมนก ชมไม้ และทิวทัศน์ ปัจจุบันมีเรือนแพให้บริการแก่นักท่องเที่ยวกว่า 60 เรือน พร้อมด้วยอาหารและเครื่องดื่มครบครัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ อบต.วังทอง โทร. 042 315 865 3.วัดถ้ำกลองเพล  ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง เป็นวัดป่าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดหนองบัวลำภู มีพื้นที่ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีหน้าผาที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ภายในถ้ำเคยเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์หลวงปู่ขาวอนาลโย ปี 2526 มีการสร้างพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารของหลวงปู่ขาวให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปสักการะ การเดินทางจากตัวเมืองตามทางหลวงหมายเลข 210 (เส้นหนองบัวลำภู-อุดรธานี) ไปประมาณ 15 กิโลเมตร 4.ถ้ำผาเจาะ  ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 บ้านผาเจาะ ต.เทพคีรี อ.นาวง จ.หนองบัวลำภู เป็นถ้ำที่มีลักษณะเหมือนถูกเจาะหน้าผา แต่จริงๆ แล้วเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อขึ้นไปด้านบนแล้วจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์บริเวณบ้านผาเจาะและอำเภอนาวังได้ บนยอดถ้ำผาเจาะมีองค์พระองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่เพื่อให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา ภายในถ้ำเข้าไปชมด้วยความลำบากเนื่องจากภายในถ้ำเป็นหุบเหว ตามตำนานเล่ากันว่า ในสมัยที่สร้างพระธาตุพนมมียักษ์กุมภัณฑ์ตนหนึ่งเตรียมสิ่งของใส่ตะกร้าไว้มากมายเพื่อจะมาบรรจุในพระธาตุพนม แต่ระหว่างทางได้พบกับยักษ์อีกตนที่ผาเจาะแห่งนี้ยักษ์ตนนั้นแจ้งว่า พระธาตุพนมสร้างเสร็จแล้ว ยักษ์กุมภัณฑ์เสียใจมากจึงทิ้งตะกร้าไว้ที่นี่ก็เลยกลายเป็นผาเจาะ การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 210 (อุดรธานี-นาวัง) ห่างจากตัวเมืองหนองบัวลำภูประมาณ 40 กิโลเมตร พอถึงบ้านผาเจาะให้แยกซ้ายเข้าไปวัดพุทธบรรพตประมาน 500 เมตร 5.สิมไม้วัดเจริญทรงธรรม  ตั้งอยู่บ้านดอนปอ ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอศรีบุญเรือง เป็นสิมที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง รูปร่างกะทัดรัด ขนาดกว้างและยาวไล่เลี่ยกัน หลังคาสูงโปร่งทำให้บรรยากาศภายในเย็นสบาย มีลวดลายแกะสลักไม้สวยงามทั้งบนหลังคาและหน้าจั่วที่แกะสลักเป็นรูปพญาครุฑ การเดินทางมาสิมไม้วัดเจริญทรงธรรม ใช้เส้นทางหนองบัวลำภู-สร้างเสี่ยน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 30 กิโลเมตร 6.ถ้ำเอราวัณ  ตั้งอยู่บ้านผาอินแปลง ต.วังทอง อ.นาวัง และรอยต่อของ อ.วังสะพุง จ.เลย ตั้งอยู่บนเขาที่มีลักษณะเป็นหินแข็งที่มีกระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งถ้ามองจากที่ไกลๆจะเห็นมีลักษณะเหมือนช้างกำลังหมอบ เป็นถ้ำขนาดใหญ่มีบันไดเรียงคดโค้งไปมา จากเชิงเขาเบื้องล่างขึ้นสู่ปากถ้ำกว่า 600 ขั้น มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ อยู่บริเวณปากถ้ำ มองเห็นได้เด่นชัดจากระยะไกล ภายในถ้ำเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ที่เป็นสถานที่แห่งตำนานนิยายพื้นบ้านเรื่อง “นางผมหอม” มีหินงอกหินย้อยสวยงาม หลวงพ่อพระพุทธชัยศรีมุนีศรีโลกนาถอันเป็นพระพุทธรูปศักดิ์คู่บ้านคู่เมือง หรือจะเป็นบันไดสวรรค์ซึ่งเป็นบันไดที่จะพบตอนเดินขึ้นไปยังถ้ำ 621 ชั้นที่ลัดเลาะเลี้ยวไปตามไหล่เขาพร้อมศาลาพักชมวิวทั้งหมด 3 แห่งตลอดเส้นทางนั้น อีกทั้งยังมีกองหินวงเป็นรูปร่างคล้ายเจดีย์โดยมีเรื่องเล่าต่อๆกันมาเป็นความเชื่อว่าถ้าหากใช้หินมาก่อเป็นรูปเจดีย์ 9 ชั้นแล้วจะนำความโชคดีมาให้ เมื่อได้ขึ้นมาที่บริเวณบนหลังคาถ้ำก็จะได้พบกับปล่องดาว 3 ปล่องที่แสงสว่างสามารถส่องลอดเข้ามาถึงได้ เมื่อเดินต่อมาเรื่อยๆก็จะพบกับหินรูปพญาช้างนั่งคุกเข่าซึ่งมีเรื่องเล่าสืบต่อถึงที่มาว่าพญาช้างได้ตรอมใจตายและสาปตัวเองให้เป็นหิน นอกจากนี้ยังมีหินรูปทรงต่างๆอีกมากมาย อาทิ หินนางผมหอม เห็ดหิน อ่างหิน เป็นต้น 7.วัดถ้ำสุวรรณคูหา  หรือชาวในพื้นที่เรียกว่า “วัดถ้ำ” เป็นโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และทางโบราณคดีของจังหวัด วัดตั้งอยู่บริเวณภูเขาลูกหนึ่งภายในมีถ้ำน้อยใหญ่หลายถ้ำ ถ้ำที่สำคัญได้แก่ ถ้ำใหญ่ ถ้ำแจ้ง ถ้ำมือและถ้ำแก้ว เวลาเข้าถ้ำจะต้องผ่านถ้ำใหญ่ก่อนเสมอและใช้เป็นวิหารของวัด มีพระพุทธรูปปูนปั้นต่างๆ ประดิษฐานอยู่จำนวนหลายองค์ ที่สำคัญคือ พระพุทธไสยาสน์ ขนาดยาว 7 วา 2 ศอก มีพระปรมาภิไธยย่อของพระเจ้าแผ่นดินและพระราชวงศ์หลายพระองค์ รวมถึงโบราณวัตถุและรูปพระเจ้าไชยเชษฐาแห่งเมืองเวียงจันทน์ด้วย สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเข้าเยี่ยมชมสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมไปยัง วัดถ้ำสุวรรณคูหา บ้านคูหาพัฒนา หมู่ที่ 7 ต.นาสี อ.สุวรรณคูหา เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น.

รวม 7 ที่เที่ยวเด็ดๆของหนองบัวลำภู อ่านเพิ่มเติม

ถ้ำมอง…มองถ้ำ! @ถ้ำเลสเตโกดอน

การเข้าชมภายในถ้ำต้องติดต่อล่วงหน้าที่ อบต.ทุ่งหว้า ที่เบอร์ 084-858-5100 ก่อนนะคะ เนื่องจากต้องเช็คระดับน้ำขึ้น-น้ำลงในแต่ละวัน ซึ่งบางวันก็อาจจะเข้าได้ช่วงเช้า หรือช่วงเย็น แต่วันที่เราไปคือช่วงบ่ายค่ะ ถือว่าวันนั้นมีนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร การเข้าชมถ้ำต้องนั่งเรือยางเข้าไป ระยะทางในถ้ำประมาณ 3-4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ถือว่าเป็น 3 ชั่วโมงที่ตื่นตา ตื่นใจ เพราะจะเห็นหินงอก หินย้อยรูปทรงต่างๆ และก็ซากฟอสซิลด้วยค่ะการเตรียมตัวก่อนเข้าถ้ำ-ใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่พร้อมเปียก เพราะบางช่วงเป็นน้ำตื้น มีสลับเดิน เปลี่ยนอิริยาบท แก้เมื่อยกันบ้างค่ะ-อุปกรณ์กล้อง/เครื่องมือสื่อสาร ต้องมีถุงกันเปียกด้วยนะคะ (เอาแบบกันน้ำเข้า ไม่ใช่กันน้ำออกนะคะ อิอิ)-ทางเจ้าหน้าที่จะเตรียมไฟฉาย หมวกกันกระแทกและชูชีพให้ควรสวมใส่ชูชีพตลอดระยะเวลาการเข้าชมเพื่อความปลอดภัย เพราะที่นี่จะเน้นความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก-ถ้ํานี้ไม่เหมาะสําหรับเด็กเล็กนะคะ เพราะข้างในมืดมาก และบางช่วงถ้าน้ําขึ้น ระดับน้ําจะสูงพอสมควรค่ะ นักท่องเที่ยวทุกๆคณะ พร้อมเพรียงกันปากทางเข้าถ้ำ เพื่อเตรียมตัว โดยมีเจ้าหน้าที่นัดแนะการปฏิบัติตัวระหว่างการเข้าชม เรือลำหนึ่งจะนั่งได้ 2 คน มีเจ้าหน้าพายเรือให้ทุกลําค่ะ แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่เล่าถึงประวัติความเป็นมาของถ้ำนี้ ได้รู้อะไรใหม่ๆ เยอะมากค่ะ เริ่มเข้าถ้ำแล้วค่ะ มันมืดมาก ปิดไฟแล้วมองไม่เห็นอะไรเลยจริง ๆ “อันดวงตาของฉันมันมืดมิด” แล้วเพลงนี้ก็ลอยมา ~~ แต่อากาศในถ้ำนี้ถือว่าไม่ร้อน เย็นสบายค่ะ อากาศถ่ายเทได้สะดวก ระหว่างทางเราก็จะเจอหินงอก หินย้อยรูปแบบที่สวยงามแตกต่างกัน แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคน แต่ละจุดเจ้าหน้าที่หยุดเรือให้พวกเราได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันค่ะ บรรยากาศระหว่างทาง สู่ความเว้งว้างอันไกลโพ้น ช่วงแรกๆอาจจะพอมีเปลี่ยนอิริยาบทให้ได้ลุกเดินบ้างแต่ช่วงหลังๆ นี่นั่งกันยาวๆเลยค่ะ นั่งไปซักพักเราก็เริ่มรู้สึกมีอะไรบางอย่าง ที่ขาของเรา อ่อ!! เหน็บกินนั่นเองค่ะ ฮ่าๆๆ และแล้วเราก็ได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมง แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ เรายังไม่ได้ขึ้นเรือตรงนี้ มีจุดนึงที่เจ้าหน้าที่จะพาไปชมกัน แท่นแท๊น!! และนี่ก็คือฟอสซิล นอติลอยด์เป็นสัตว์น้ำดึกดำบรรพ์จำพวกเดียวกับปลาหมึกโบราณ ที่พบในผนังถ้ำแห่งนี้ ถึงแล้วค่ะ ทางออกของเรา ก่อนเข้าถ้ำเจ้าหน้าที่ ได้ตั้งชื่อเรียกว่า ตามหาหัวใจที่ปลายอุโมงค์ เพราะปลายถ้ำคล้ายรูปหัวใจ ก็เป็นสตอรี่เล็กๆของถ้ำนี้ได้ค่ะ (มองเห็นเป็นหัวใจมั้ยคะ) ออกจากถ้ำปุ๊บ ยังค่ะการเดินทางของเรายังไม่จบ หลังจากออกมาสู่โลกภาพนอก เราก็ นั่งเรือกันต่อผ่านป่าโกงกาง คล้ายๆป่าอเมซอน บรรยากาศเงียบและสดชื่นมากๆค่ะ ปิดท้ายกันด้วยนี้ค่ะ แอบถ่ายเจ้าหน้าท่านนี้ที่ให้ความรู้คำแนะนำนักท่องเที่ยวในเดินทางครั้งนี้ อีกทั้งเป็นตากล้องถ่ายรูปหมู่ให้กลุ่มเราด้วยค่ะ …  จากเรือพายเราก็เปลี่ยนมาเป็นเรือหัวโทง ขึ้นบกที่ท่าเรือท่าอ้อย เป็นอันสิ้นสุดการผจญภัยในครั้งนี้

ถ้ำมอง…มองถ้ำ! @ถ้ำเลสเตโกดอน อ่านเพิ่มเติม

วันหยุดสุดชิวที่…Terrace Dontum

วันนี้แอดมินขอแนะนำร้านอาหารในจังหวัดนครปฐม ขับรถไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็ไปถึงแล้ว Terrace Dontum Cafe & Restaurant เป็นร้านอาหารสไตล์โฮมเมด บรรยากาศร่มรื่น เหมือนเป็น “โอเอซิสแห่งนครปฐม” ภายในร้านร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด มีน้ำตกเล็กๆและบ่อปลาคาร์ฟ ทำให้บรรยากาศภายในร้านดูเย็นสดชื่นมากยิ่งขึ้น การตกแต่งร้านเป็นสไตล์เรียบง่าย เน้นไปทางวินเทจ มีมุมให้นั่งเล่นและถ่ายรูปเก๋ๆ เมนูอาหารสไตล์ฟิวชั่นของทางร้านมีทั้งไทยและเทศ ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันเพื่อให้รสชาติถูกปากคนไทยมากที่สุด เมนูที่ทางร้านกระซิบมาว่าอยากให้ลูกค้าได้ลองชิมคือ สเต็กกระพงยำส้มโอ ที่นำส้มโอ ผลไม้ประจำจังหวัดนครปฐมมาทำเป็นเมนูอาหารฟิวชั่นได้อย่างลงตัว กินคาวแล้วต้องปิดท้ายด้วยของหวานค่ะ เดี๋ยวจะไม่ครบสูตร ทางร้านมีเมนูของหวานให้เลือกแบบละลานตา แต่ขนมซิกเนเจอร์ของทางร้านคือ โรลมะพร้าว โรลเนื้อเค้กนุ่ม คลุมด้วยครีมสดสีขาว สอดไส้มะพร้าวอ่อน ที่คุณแม่ของเจ้าของร้านเคี้ยวเองกับมือ ถ้าใครอิ่มจากของคาวมาแล้ว และมาถึงร้านช่วงบ่ายๆ สามารถมานั่งดื่มด่ำธรรมชาติ พร้อมจิบชาไปด้วยก็ดีไม่ใช่น้อย เพราะทางร้านมีชุดน้ำชาพร้อมขนมให้บริการ แต่ถ้าอยากได้อะไรคลายร้อน ต้องจัดเมนูเครื่องดื่มเย็นๆไปเลย ไม่ว่าจะเป็น สมูทตี้ ชา หรือกาแฟต่างๆ ที่ทางร้านตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดมาให้ลูกค้า Terrace Dontum ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 (สี่แยกทุ่งพิชัย) ตำบลห้วยพระ อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐมเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 20.00 น.ใครสงสัยเรื่องการเดินทางดูตามแผนที่นี้ได้เลยค่ะ หรือสอบถามได้ที่เบอร์ 085 677 7727 ให้ Terrace Dontum เป็นอีกตัวเลือกของการพักผ่อนในวันหยุดของทุกคนนะคะ

วันหยุดสุดชิวที่…Terrace Dontum อ่านเพิ่มเติม

5 เมนูแซ่บ! กินได้ที่เมืองจันท์

5 เมนูแซ่บ! กินได้ที่เมืองจันท์ จันทบุรี เมืองติดชายทะเล นอกจากอาหารทะเลที่สดใหม่ที่หากินได้ในราคาไม่แรงเหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่นๆแล้ว เมืองจันท์ยังมีอาหารแซ่บๆ ที่อยากจะแนะนำออเจ้าให้ไปลองลิ้มชิมรสกัน ร้านแรกที่จะพามาชิม คือ จันทรโภชนา มาที่เมนูแรก “แกงหมูขิงแห้ง”  แม้จะใช้ชื่อว่า “แกง” แต่ไม่มีน้ำแกงนะ พอเจอของจริงกลับเป็นหมูสับผัดเครื่องแกงแต่ไม่มันเยิ้ม รสชาติเผ็ด ร้อน แซ่บ ควันออกหูมีส่วนผสมของขิงและพริกไทยอ่อนช่วยลดน้ำหนัก (ควรกินไป 5 จาน) ขับลมดีเลิศ สนใจไปชมแนะนำให้ไปที่ “จันทรโภชนา” ร้านเก่าแก่คู่เมืองจันมากว่า 50 ปี พิกัดhttps://goo.gl/maps/CxwqTvzDhhA2 เมนูแซ่บถัดมา “ตำผักกูด” ไม่ใช่ ยำ แต่เอาผักกูดมา ตำ ไม่ต้องกลัวว่าผักจะชอกช้ำเพราะเค้าตำกำลังเหมาะ รสชาติของผักกูดผสมผสานด้วยกุ้งสดหวานชิ้นพอดีคำบวกกับน้ำมะนาว จากมะนาวสดที่ใส่มาเต็มแบบไม่หวงของทำให้อาหารจานนี้มีรสชาติแซ่บหอมมะนาว กินชาตินี้ฟินไปถึงชาติหน้าสนใจไปตามหาความฟินกันที่นี่เลย “ร้านส้มตำเจ๊เก๋อ” พิกัด https://goo.gl/maps/gNKEpPrCG4S2 เวลาไปเมืองจันท์ แอดมินอยากจะแนะนำ ออเจ้าว่าตอนเย็นๆ ให้ไปเดินตลาดน้ำพุเพื่อสรรหาของกินกันให้อิ่มหนำสำราญ เพราะแอดไปมาแล้วพบเจอของเด็ด นั่นคือ “ข้าวคลุกพริกเกลือ” เจ้าอร่อยที่ร้าน“ก๋วยเตี๋ยวขลุกขลิก” พิกัดhttps://goo.gl/maps/XrTMqxC8yGy  ข้าวสวยคลุกด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด (คนจันเค้าเรียกพริกเกลือ) ผสมผสานด้วยกุ้งลวกตัวใหญ่ หมูชิ้นพอดีคำ ปลาหมึกสดเด้งๆ บวกด้วยไข่ต้มไข่แดงสีจัด จากนี้ตามไปกินกันได้ที่ตลาดน้ำพุช่วงเย็นๆ ประมาณ 4-5 โมง ออกมาหาของแซ่บนอกเมืองกันบ้างมุ่งหน้าไปทาง อ.ท่าใหม่ หาก๋วยเตี๋ยวกั้งต้มยำแซ่บๆ กินกัน เมืองนี้เค้าอยู่ริมเลกั้งสดหายห่วง ก๋วยเตี๋ยวกั้งชามนี้ไม่ได้มีแต่กั้งแต่ยังมีน้องกุ้งมาแจมด้วยเรียกว่าสั่ง 1 ได้ 2 แถมมะนาวมาให้บีบเองให้ฟินไม่ต้องพึ่งพามะนาวขวด สนใจฟินมาที่ “ร้านก๋วยเตี๋ยวมังกร” อยู่ อ.ท่าใหม่ พิกัดนี้เลยhttps://goo.gl/maps/ntXCkqvdeBn กระเถิบต่อจากท่าใหม่มาชมวิวกันแถวเนินนางพญาเส้นทางจักยานแสนสวย ขี่จักรยานเหนื่อยๆ หิวโซแล้วแวะกินหมึกย่างโดนๆ ได้ที่รถเข็นป้าจูหมึกแดดเดียว อยู่ใกล้ๆ ทางขึ้นจุดชมวิวเนินนางพญา หมึกขาวๆ ย่างหอมๆ รสแซ่บจิ๊ดจ๊าด สดเด้งดึ๋ง สนใจมาลองชิม จอดตรงนี้เลยนะ https://goo.gl/maps/nZsYH9o8pdt แซ่บกันไปครบ 5 ที่แล้ว แอดมินขออำลาไปหา (ของ) กิน ที่อื่นๆ มานำเสนอต่อในคราวหน้านะจ๊ะ

5 เมนูแซ่บ! กินได้ที่เมืองจันท์ อ่านเพิ่มเติม

เทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย 2561

เทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย 2561 วันที่ 23-25 มีนาคม 2561 ณ โรงเรียนนายสิบทหารบก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กิจกรรมภายในงาน – ชมว่าวหลากหลายชนิดจากทั่วทุกภูมิภาคของโลกมากกว่า 10 ประเทศ อาทิ อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ จีน ไต้หวัน นิวซีแลนด์ เป็นต้น พิเศษกับว่าวซุปเปอร์ฮีโร่ ว่าวคาร์แรคเตอร์ในหนังการ์ตูน ว่าวรูปทรงเลขาคณิต ที่มีสีสันสวยงาม – ชมการแสดง Revolution kite แปรอักษรประกอบดนตรี – Stunt Kite ที่บินด้วยความเร็วสูง โชว์ทักษะการบินขั้นสูงระดับ Champion จากประเทศญี่ปุ่น – ชมการแสดงว่าวประกอบแสงเสียง (Night Fly) ในยามค่ำคืน – ชมการต่อสู้ความเป็นเอกลักษณ์ของว่าวไทย จุฬา-ปักเป้า ประกอบดนตรี – Kite Exhibition นิทรรศการที่เล่าเรื่องราวว่าวไทยแบบสนุกๆ ให้ได้รู้ภูมิปัญญาไทย ***ศิลปะว่าวสนุกและกิจกรรม DIY (Kite Art Fun)*** – กิจกรรมภาพว่าว..เราวาด (Kite kid paint) กิจกรรมเรียนรู้การทำว่าวด้วยตัวเอง การวาดภาพระบายสีภาพบนว่าว – Boomerang Workshop เรียนรู้การทำบูมเมอแรง และวิธีการร่อนบูมเมอแรงให้หมุนกลับมาหาตัว – Wind Garden กิจกรรมประดิษฐ์สวนศิลป์ โดยใช้ว่าวและวัสดุต่างๆ ที่เคลื่อนไหวได้ด้วยลม ทำให้เกิดเสียง เช่น กังหัน โมบาย กระดิ่ง ฯลฯ และชมการตกแต่ง wind garden ระดับมืออาชีพ – Family Fun Kite พื้นที่สำหรับครอบครัวให้ได้เล่นว่าวอย่างสนุกสนาน – Ring side Kite Tour กิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมว่าวในสนามได้อย่างใกล้ชิด และถ่ายรูปนักบินว่าวระดับโลก ***Food Truck & Music*** อิ่มอร่อยกับเมนู Signature ของหัวหิน จาก Food Truck ช็อปสินค้า OTOP จากชุมชน พร้อมฟังเพลงสบายๆ ผ่อนคลาย สไตล์หัวหิน ***ตลาดว่าว (Kite Weekend Market)*** ตลาดนัดว่าวที่ใหญ่ที่สุด มีว่าวหลากหลายชนิดมาจำหน่ายในราคาถูกและสามารถนำมาเล่นในสนามได้

เทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย 2561 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top