สถานที่ท่องเที่ยว

งานมหาทานบารมี ประเพณีบุญผะเหวด

“งานมหาทานบารมี ประเพณีบุญผะเหวด” เป็นประเพณีที่ทางจังหวัดร้อยเอ็ดร่วมกับคณะสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกันจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ พ.ศ.2534 เพื่อเป็นการระลึกถึงพระพุทธศาสนาและคุณงามความดีของพระศาสดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาวจังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย..โดยปีนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 2-4 มีนาคม พ.ศ. 2561 บริเวณลานสาเกตุนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์บึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด …อยากพลาดไปม่วนซื่นพร้อมอิ่มบุญด้วยกันนะครับ

งานมหาทานบารมี ประเพณีบุญผะเหวด อ่านเพิ่มเติม

วัดถ้ำผาแด่น

วัดถ้ำผาแด่น ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านดงน้อย ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ในอดีตมีพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานหลายท่านมาจำพรรษาและปฏิบัติธรรมที่วัดนี้ เช่น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ปัจจุบันภายในวัดเต็มไปด้วยงานประติมากรรมแกะสลักหินทรายขนาดใหญ่ โดยมักแกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา จากในรูปนี้ คือ ภาพแกะสลักหินทรายหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ซึ่งแกะจากหินขนาดใหญ่ทั้งก้อน มีช้างหมอบด้านข้างคอยปกป้อง ภาพแกะสลักหินทรายรูปพญาครุฑเวสสุวรรณ  จุดนี้ถือเป็นศูนย์กลางของวัด เจดีย์ขนาดเล็กสีทองตั้งอยู่บนก้อนหินสีทองโดดเด่น เปรียบเสมือนเขาพระสุเมรุ คือ ภูเขาที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของโลกหรือจักรวาล ตามคติความเชื่อในศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธ บริเวณโดยรอบถูกประดับตกแต่งด้วยน้ำตกจำลองและไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม ด้านหลังก้อนหินอันเป็นที่ตั้งของเขาพระสุเมรุจำลอง คือ ภาพแกะสลักพระนอนองค์ใหญ่ นามว่า “พระพุทธสีหไสยาสน์โลกนาถธาตุภูผาแด่น” นอกจากนี้ภายในวัดยังมีภาพแกะสลักพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนากรรมชื่อดังอีกหลายรูป ภาพแกะสลักพระพุทธรูปปางประจำวันเกิด บริเวณจุดชมวิววัดถ้ำผาแด่น มีเก้าอี้ให้นั่งพักหลบร้อนและรับลมเย็น ทั้งยังมีร้านขายเครื่องดื่มให้บริการอยู่ใกล้ ๆ กัน การเดินทางไปวัดถ้ำผาแด่น : จากอำเภอเมืองสกลนคร ใช้ทางหลวงหมายเลข 213 เส้นทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์ ผ่านสี่แยกบายพาส ตรงไปจะพบสามแยกบ้านศรีวิชา ให้เลี้ยวซ้ายสู่ทางหลวงชนบทหมายเลข 2339 ตรงไปจนถึงโรงเรียนบ้านนากับแก้ จะพบสี่แยกให้เลี้ยวขวา ตรงไปจนสุดทางจะพบลานจอดรถวัดถ้ำผาแด่น จากนั้นต้องเปลี่ยนไปใช้บริการนั่งรถสองแถวของทางวัด ระยะทาง ๔ กิโลเมตร ค่าบริการรับ-ส่ง คนละ 20 บ. เพื่อขึ้นไปยังวัดซึ่งตั้งอยู่บนเขาและมีที่จอดรถด้านบนไม่เพียงพอ รวมระยะทางจากอำเภอเมืองสกลนคร ประมาณ 21 กิโลเมตร

วัดถ้ำผาแด่น อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวตามรอยละครบุพเพสันนิวาส

ออเจ้าดู “บุพเพสันนิวาส” หรือไม่?..เพลานี้ใครๆ ต่างก็พูดถึงละคร “บุพเพสันนิวาส” กันทั้งเมือง เพราะนอกจากนักแสดงนำคุณภาพและเนื้อเรื่องที่สนุกสนานแล้ว สถานที่สำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ปรากฏอยู่ในละครยังสวยงามสมจริงอีกด้วย วันนี้ข้าจะขอพาออเจ้าไปเยี่ยมชม 5 สถานที่ถ่ายทำและถูกพูดถึงในละครเรื่องนี้กัน ..วันหยุดมาฆบูชานี้ไปเที่ยวอยุธยาตามรอยคุณพี่หมื่นและแม่หญิงการะเกดกันเถิดขอรับ..ขอขอบคุณภาพจากละคร บุพเพสันนิวาส(ช่อง3) วัดไชยวัฒนาราม..ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์กรุงศรีอธุยธยาองค์ที่ 24 เมื่อปี พ.ศ.2173 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก โดยปัจจุบันอยู่ในพื้นที่การดูแลของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สิ่งที่น่าสนใจได้แก่ พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธานตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส และที่มุมฐานมีปรางค์ทิศประจำอยู่ทั้งสี่มุม ด้วยการบูรณะของกรมศิลปากรทำให้วัดไชยวัฒนารามแห่งนี้สวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา ไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชมอย่างยิ่ง..ขอขอบคุณภาพจากละคร บุพเพสันนิวาส(ช่อง3) วัดพุทไธศวรรย์..ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าอู่ทอง เพื่อเป็นพระราชอนุสรณ์ในการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ถือเป็นพระอารามหลวงที่ใหญ่โตและวัดที่มีชื่อเสียงอีกวัดหนึ่ง และเนื่องจากวัดพุทไธศวรรย์เป็นอีกวัดหนึ่งที่ไม่ได้ถูกข้าศึกทำลายเหมือนวัดอื่นๆ เมื่อครั้งเสียกรุงฯ ทุกวันนี้โบราณสถานแห่งนี้จึงยังมีสภาพดีไว้ให้ชม วัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา..ขอขอบคุณภาพจากละคร บุพเพสันนิวาส(ช่อง3) วิหารมงคลบพิตร..เป็นวัดที่ประดิษฐาน หลวงพ่อมงคลบพิตร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้ถูกบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่5 หลังจากที่ถูกทิ้งร้างตามกาลเวลาเมื่อครั้งเสียกรุงฯ ครั้งที่2 ปัจจุบันวัดมงคลบพิตรจึงถือเป็นวัดสำคัญในการท่องเที่ยวไหว้พระจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกวัดหนึ่งที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศไปกราบไหว้ขอพรอย่างหนาแน่นทุกวัน นอกจากนี้บริเวณโดยรอบวัดยังเป็นตลาดของฝากขนาดใหญ่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย..ขอขอบคุณภาพจากละคร บุพเพสันนิวาส(ช่อง3) ป้อมเพชร..เป็นป้อมปราการป้อมเดียวที่ยังเหลืออยู่จาก 16 ป้อม ตามแนวกรุงเก่า อยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเมืองอยุธยา นับได้ว่าเป็นป้อมปราการที่อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในการป้องกันข้าศึกของอยุธยาที่จะเข้ามาทางแม่น้ำ เพราะตั้งอยู่ทางปากน้ำ ปัจจุบันได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากร และยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่เป็นส่วนใหญ่ ..ขอขอบคุณภาพจากละคร บุพเพสันนิวาส(ช่อง3) พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา..ตั้งอยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นสถานที่สำคัญที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในสมัยกรุงศรีอยุธยาได้เป็นอย่างดี เพราะได้มีการรวบรวมและเก็บรักษาพระพุทธรูป ข้าวของเครื่องใช้และโบราณวัตถุล้ำค่าจำนวนมาก เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา เปิดให้เข้าชมวันพุธ – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. ..ขอขอบคุณภาพจากละคร บุพเพสันนิวาส(ช่อง3)

เที่ยวตามรอยละครบุพเพสันนิวาส อ่านเพิ่มเติม

Cafe Dé Forest : ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์น

Cafe Dé Forest : ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์น จังหวัดสระบุรีบ้านไร่ใบเฟิร์น จ.สระบุรี by Yunsita & Mam ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์นแห่งนี้ ตั้งอยู่ระหว่างทางไปศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จิบกาแฟเสร็จก็สามารถไปปิกนิกหรือกางเต็นท์พักแรมต่อกันได้  การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ตรงไปจังหวัดสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) มุ่งหน้าเข้าตำบลทับกวาง และกลับรถตรงสะพานเกือกม้าหน้าเทศบาลทับกวาง เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบท 1003 (เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า) เลยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแก่งคอยประมาณ 200 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือ จากบ้านไม้หลังใหญ่ ได้รับการรีโนเวทให้กลายเป็นร้านกาแฟสุดฮิปชิค แบ่งเป็น 2 ชั้น พร้อมมุมถ่ายรูปอีกเพียบ แค่หน้าร้านก็แชะภาพได้เยอะเลยล่ะ นอกจากนี้ที่นี่เค้ายังเปิดให้มากางเต็นท์พักแรมริมลำธารได้ด้วยนะ บรรยากาศดีมากๆ เลย แอบเสียดายที่วันที่แอดไปมีฝนตก ท้องฟ้าก็เลยดูขมุกขมัวเล็กน้อย แต่ก็ทำให้อากาศเย็นสบายมากเลยค่ะ ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวคงจะฟินน่าดู สงสัยต้องมาจัดอีกสักรอบแล้ว ชั้นล่างบริเวณใต้ถุนบ้านมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้ โซฟา แม้แต่ชิงช้าหรือเปลญวนก็มี ภายในร้านตกแต่งแนววินเทจ มีรูปถ่าย ของกระจุกกระจิกน่ารักๆ ที่มุมนั้นมุมนี้เต็มไปหมด ดูแล้วเข้ากัน ลงตัวไปหมดทุกอย่าง ส่วนที่ชั้น 2 ก็มีระเบียงให้ชมวิวภูเขาด้านหลังร้านด้วย วิวดีมากๆ เลย  ร้านเปิดแค่วันเสาร์-อาทิตย์ จึงทำให้มีผู้มาเยือนเเน่นร้านเลยล่ะ ได้ยินเจ้าของร้านเปรยๆ ว่า เร็วๆ นี้อาจจะเปิดวันธรรมดาด้วย ยังไงก็รอติดตามกันต่อไปนะคะ ^^ ขึ้นมาชั้น 2 ของร้านกันบ้าง ใครชอบถ่ายรูปบอกเลยว่า 5 นาทีจัดไป 20-30 ภาพแน่นอน มองไปก็เห็นวิวภูเขาอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมที่นั่งเก๋ๆ จิบกาแฟกันได้เพลินๆ เลย มาฝากท้องมื้อหนักที่นี่ได้ เพราะเค้ามีทั้งอาหารคาวและเครื่องดื่มให้บริการ ทุกเมนูเจ้าของร้านทำเองและยังเสิร์ฟเองอีกด้วย เป็นกันเองสุดๆ เหมือนมาเที่ยวบ้านญาติจริงๆ เลย ^^

Cafe Dé Forest : ร้านกาแฟในป่า@บ้านไร่ใบเฟิร์น อ่านเพิ่มเติม

เขาหน่อ เขาแก้ว จ.นครสวรรค์

เขาหน่อ เขาแก้ว ตั้งอยู่ในบริเวณวัดเขาหน่อ ตำบลบ้านแดน อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ห่างจากตัวเมืองนครสวรรค์ประมาณ 45 กิโลเมตร เป็นเขาหินปูนที่สวยงามแปลกตา ในส่วนของเขาหน่อจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เขานางพันธุรัต และเขาพระพุทธบาทหรือเขาหน่อ มาเริ่มที่แรกกันที่เขานางพันธุรัต เป็นเขาลูกเล็ก อยู่ห่างจากเขาพระพุทธบาทประมาณ 300 เมตร ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระนอนขนาดใหญ่และยังมีถ้ำที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นถ้ำพญานาค มีทางเข้าออกเพียงทางเดียว หากสนใจจะเข้าไปชมควรพกไฟฉายไปด้วย หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ให้พาเข้าไปนะคะ พระนอนขนาดใหญ่บนเขานางพันธุรัต มาต่อกันที่เขาพระพุทธบาท ที่เรียกว่าเขาพระพุทธบาทก็เพราะที่นี่มีรอยพระพุทธบาทจำลองอยู่ด้านบน แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่า เขาหน่อค่ะ… และก็มาถึงช่วงทดสอบกำลังกายและกำลังใจแล้ว ช่วงแรกๆ ทางขึ้นเขาหน่อจะเป็นบันไดปูนนะคะ แต่พอช่วงหลังๆ จะเป็นบันไดลิงแบบในภาพนี้เลยค่ะ ทั้งสูงทั้งชัน แอดเคยได้ยินแต่ยิ่งสูงยิ่งหนาว แต่นี่..ยิ่งสูงยิ่งเหนื่อยค่ะ และไม่แน่ใจว่าที่ขาสั่นเพราะเหนื่อยหรือว่าแอดตื่นเต้นกันแน่ แฟนเพจอย่าลืมพกน้ำดื่ม ยาดม ยาหอมกันมาด้วยนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าแอดไม่เตือน ! พอขึ้นถึงจุดชมวิวแล้ว ก็รู้สึกคุ้มที่ปีนขึ้นมาเลย มันเป็นความเจ็บปวดที่งดงามมากๆ ค่ะ ฮ่าๆๆ มองเห็นทุ่งนาและสวนของชาวบ้านในบริเวณรอบๆ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวสวยงามมากๆ เลยค่ะ นั่งพักให้หายเหนื่อยสักครู่ แล้วเดินมาสักการะรอยพระพุทธบาทจำลองบนเขาหน่อแห่งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตนะคะ แอดไม่ได้พาวาร์ปมาลพบุรีนะคะ เรายังอยู่กันที่เขาหน่อนี่แหละค่ะ เจ้าถิ่นของที่นี่อยู่กันเป็นครอบครัว เป็นฝูง เป็นนิคมเลยก็ว่าได้ บางตัวก็เป็นมิตรน่ารักทักทายได้ แต่บางตัวก็แสบซนตามประสาลิง เพราะฉะนั้นแฟนเพจต้องระวังด้วยนะคะ ส่วนเขาแก้วนั้นเป็นที่ตั้งของถ้ำหลายถ้ำ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวนับหมื่นตัว ในช่วงเย็นๆ โพล้เพล้ๆ จะมีฝูงค้างคาวจำนวนมากบินออกมาจากเขาแก้ว จนดูเหมือนเส้นริบบิ้นสีดำตัดกับสีของท้องฟ้าสวยงามมากค่ะ เขาหน่อ เขาแก้ว เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 การเดินทาง : จากตัวเมืองนครสวรรค์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ไปทางเส้นนครสวรรค์-กำแพงเพชร เขาจะอยู่ด้านขวามือ ให้สังเกตป้ายวัดเขาหน่อค่ะ

เขาหน่อ เขาแก้ว จ.นครสวรรค์ อ่านเพิ่มเติม

5 ที่ล่องแก่งแดนใต้ การผจญภัยตะลุยหน้าฝน

ล่องแก่งน้ำตกโตนปริวรรต จ.พังงา หนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ฝั่งอันดามันอย่างพังงา ที่หลายคนอาจจะคิดถึงแค่การไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ ชายหาดและทะเลที่สวยงาม แต่หารู้ไม่ว่าพังงายังมืผืนป่าใหญ่ที่เขียวขจี มีลำธารใสไหลเย็น อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนปริวรรต ต.สองแพรก อ.เมือง นี่เอง ซึ่งที่นี่ยังมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและมีน้ำตกโตนปริวรรต เป็นต้นกำเนิดแหล่งน้ำคลองสองแพรก จุดเริ่มต้นความสนุกของเราในวันนี้ ที่นี่มีกิจกรรมล่องแก่งเรือยาง ที่นักผจญภัยทั้งหลายจะได้ตื่นเต้น ท้าท้าย และสนุกสนานไปกับกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ที่ไหลผ่านไปตามโขดหินเล็กใหญ่และแก่งขนาดต่างๆ รวมไปถึงยังมีป่าไม้อันร่มรื่นและสวยงามตลอดทั้งสองฝั่งด้วย ที่ตั้ง : ต.สองแพรก อ.เมือง จ.พังงาพิกัด : https://goo.gl/maps/G6reeg3nd222ติดต่อสอบถาม : ททท. สำนักงานพังงา โทร. 076 413 400-2 ล่องแก่งหนานมดแดง จ.พัทลุง หนึ่งในสถานที่ล่องแก่งในพัทลุงที่น้อยคนจะรู้จัก แต่สำหรับสายผจญภัยบอกเลยว่าไม่ควรพลาด ที่นี่นักผจญภัยจะได้ตื่นเต้นและสนุกสนานกับเกาะแก่งต่างๆ ที่มีมากมายกว่า 40 แก่ง ในระดับความยากง่ายที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตลอดสองฝั่งคลอง ทั้งความเขียวขจีของป่าไม้ ความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ รวมไปถึงสัตว์ประจำถิ่นชนิดต่างๆ ด้วย ที่นี่มีบริการห้องอบสมุนไพรไว้ให้ได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการล่องแก่ง และหากใครอยากพักค้างคืนที่นี่ก็มีบริการห้องพัก และลานกางเต็นท์ไว้บริการด้วย ที่ตั้ง : ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุงพิกัด : https://goo.gl/maps/GdGAg1mAFX22Website : www.nhanmoddang.com/index.htmติดต่อสอบถาม : -คุณโยธิน เขาไข่แก้ว โทร. 089 873 1464, 081 370 2123, 081 082 0206-ททท. สำนักงานนครศรีธรรมราช โทร. 075 346 515-6 ล่องแก่ง-ล่องแพ พะโต๊ะ จ.ชุมพร  เมื่อกล่าวถึงประตูสู่ภาคใต้ ก็ต้องนึกถึงจังหวัดชุมพร เมืองผ่านของใครหลายคน แต่ถ้าได้ลองแวะเวียนเข้าไปก็จะพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย สำหรับในหน้าฝนกิจกรรมที่เราไม่ควรพลาดของจังหวัดนี้ก็คือ การล่องแก่ง-ล่องแพ ที่อำเภอพะโต๊ะนั่นเอง ที่นี่นักผจญภัยจะได้ตื่นเต้นและสนุกสนานกับการล่องแก่งไปตามธารน้ำที่เย็นฉ่ำ ผ่านเกาะแก่งต่างๆ ที่มีความยากง่ายแตกต่างกัน ท่ามกลางบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำที่เต็มไปด้วยป่าเขาเขียวขจี  นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น การเดินป่าชมต้นน้ำที่สามารถพักค้างแรมแบบแคมป์ปิ้งได้ โดยระหว่างทางเดินเราอาจจะได้เห็นสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นนกเงือก นกกระเต็น และค่างแว่นถิ่นใต้ เป็นต้น หรือจะนั่งช้างไปชมสวนผลไม้ที่เราสามารถชิมผลไม้สดๆ จากต้นได้ด้วย  ที่ตั้ง : ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพรพิกัด : https://goo.gl/maps/LJz5W3kLZwpติดต่อสอบถาม :– เทศบาลตำบลพะโต๊ะ (บริการล่องเรือยาง) โทร. 077 539 072– ชมรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศป่าต้นน้ำพะโต๊ะ โทร. 087 821 8700 ล่องแก่งคลองกลาย จ.นครศรีธรมราช คลองกลาย สายน้ำที่สำคัญของชุมชนบ้านพิตำ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ มีต้นน้ำมาจากป่ากรุงชิง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขานันและอุทยานแห่งชาติเขาหลวง นอกจากจะเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของชุมชนแล้ว ยังเป็นเส้นทางล่องแก่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย ตลอดระยะทาง 2.5 กิโลเมตร จากปากคลองพิตำไปถึงลานหินดาน นักผจญภัยจะต้องเจอกับแก่งต่างๆ ที่มีความแรงของกระแสน้ำทีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังมีความเขียวชอุ่มของป่าไม้สองข้างลำธาร ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินและสดชื่นเมื่อได้มอง  หลังจากล่องแก่งเสร็จแล้ว ก็สามารถไปทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ ไม่ว่าจะเป็นชมความสวยงามในถ้ำหงษ์ หรือผ่อนคลายที่บ่อน้ำร้อนกรุงชิง  ที่ตั้ง : ม.3 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราชพิกัด : https://goo.gl/maps/E524BcuqzVoติดต่อสอบถาม : -ล่องแก่งกรุงชิงกับชุมชนบ้านพิตำ โทร. 084 443 6867, 087 267 2787Facebook : www.facebook.com/KrungChingrafting/ ล่องแก่งคลองลำโลน จ.สตูล จากต้นน้ำเทือกเขาบรรทัด ไหลลงมาผ่านน้ำตกวังสายทองก่อนจะลงสู่คลองลำโลน สายน้ำหลักของบ้านวังนาใน ต.น้ำผุด อ.ละงู อีกหนึ่งสถานที่สำหรับผู้ที่ชอบความตื่นเต้นท้าทายของการล่องแก่ง โดยตลอดระยะทาง 8 กิโลเมตร นักผจญภัยจะได้พบแก่งน้อยใหญ่มากมายโดยมีความยากง่ายสลับกัน รวมไปถึงยังมีบรรยากาศทั้งสองฝั่งที่เต็มไปด้วยป่าเขาและพรรณไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกสดชื่น  ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการชมความงามของถ้ำภูผาเพชร ถ้ำเจ็ดคต และน้ำตกวังสายทอง รวมไปถึงชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมน้ำและชนเผ่ามานิ ที่เรารู้จักกันในนาม ชนเผ่าเซมัง (ซาไก)  ที่ตั้ง : 230 หมู่ที่ 10 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูลพิกัด : https://goo.gl/maps/qo9d6m5QX8T2ติดต่อสอบถาม : ชุมชนท่องเที่ยวบ้านวังนาใน โทร. 086 946 9229 (คุณไก่ เลชาชมรมฯ)ททท. สำนักงานหาดใหญ่ โทร. 074 231 055, 074 238 518, 074 243 747

5 ที่ล่องแก่งแดนใต้ การผจญภัยตะลุยหน้าฝน อ่านเพิ่มเติม

“พญาศรีมุกดาฯ” แลนด์มาร์คใหม่แห่งลุ่มแม่น้ำโขง

“พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช” หรือ “ปู่ศรีมุกดา” ตั้งอยู่บริเวณลานหินของวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ในเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ สร้างขึ้นโดยดำริของพระมหามงคล มังคลคุโณ รองเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน เพื่อให้ปกปักรักษาองค์พระใหญ่ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขาภูมโนรมย์ เนื่องในวาระเฉลิมฉลองการก่อตั้งวัดครบ 100 ปี และครบรอบ 36 ปีจังหวัดมุกดาหาร  เหตุที่เจ้าอาวาสมีดำริให้สร้างพญาศรีมุกดาฯ ขึ้นนั้น ก็เนื่องมาจากคำบอกเล่าของพระราชมุกดาหารคณี อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร ที่เมื่อ พ.ศ.2525 ท่านได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่สร้างฝายกั้นน้ำขึ้น เพื่อนำน้ำมาใช้ในวัด ขณะกำลังก่อสร้างได้มีงูใหญ่สีดำสนิทเลื้อยมาบริเวณใกล้ๆ แล้วชูคอดูชาวบ้านทำงาน จากนั้นก็เลื้อยไปกินน้ำที่บ่อน้ำทิพย์ แล้วเลื้อยกลับเข้าไปในถ้ำโดยไม่ได้ทำอันตรายแก่ผู้ใด สร้างความตกตะลึงให้แก่ชาวบ้านที่พบเห็น ซึ่งตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้บริเวณถ้ำอีกเล พญาศรีมุกดาฯ ออกแบบโดยนายประพัฒน์ มะนิสสา หรืออาจารย์ปื้ด ศิลปินปูนปั้นพื้นบ้านที่มีความศรัทธาในองค์พญานาคเป็นอย่างมาก มีลักษณะเป็นรูปปั้นพญานาคเศียรเดียวองค์ใหญ่ ลำตัวยาว 122 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร มีรูปลักษณ์น่าเกรงขาม ชูคอหันไปทางแม่น้ำโขงเบื้องล่าง ลำตัวขดไปมาอย่างพลิ้วไหว มีการลงสีไล่ระดับอย่างสวยงาม ทำให้ดูมีมิติและสมจริงราวกับมีชีวิต ว่ากันว่าพญาศรีมุกดาฯ เป็นพญานาคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วย ผู้มาเยือนสามารถสักการะขอพรองค์พญานาค ด้วยการตั้งจิตอธิษฐาน แล้วเดินลอดท้องพญานาคทั้ง 7 ช่องที่มีความหมายมงคลต่างๆ จากนั้นนำดอกไม้ธูปเทียนไปบูชา และนำผ้าแดงที่เขียนชื่อตัวเองไปผูกไว้ที่ต้นไม้รอบๆ พญานาค เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นอกจากพญาศรีมุกดาฯ แล้ว ภายในวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ รอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัด พระธาตุภูมโนรมย์ และพระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาภูมโนรมย์  นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองมุกดาหาร แม่น้ำโขง รวมไปถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ได้ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของจังหวัดมุกดาหารอีกแห่งหนึ่งด้วย ขอบคุณภาพจาก : Facebook วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ที่ตั้ง : หมู่ที่ 5 ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

“พญาศรีมุกดาฯ” แลนด์มาร์คใหม่แห่งลุ่มแม่น้ำโขง อ่านเพิ่มเติม

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางเพชรบุรี-หัวหิน

เพชรบุรี – หัวหิน เส้นทางท่องเที่ยวสุดคลาสสิกตลอดกาลของคุณแม่พวกเรา ก่อนออกเดินทางอย่าลืมเตรียมหมวกเก๋ๆ แว่นกันแดดสวยๆ เสื้อผ้าสีสดๆ ให้คุณแม่ เพื่อเป็นพร็อพถ่ายภาพกันด้วยล่ะ เส้นทางนี้แอดจัดทริป 2 วัน 1 คืน แวะเที่ยวกันแบบสบายๆ สไตล์แม่ลูกสายชิลล์…เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังหาโปรแกรมพาแม่ย้อนวัยหวานอยู่ละก็ เตรียมแชร์โพสและแท็กคุณแม่กันได้เลย …………………………………. วันที่ 1 อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) สร้างวังที่ประทับบนยอดเขาแห่งนี้ และได้พระราชทานนามว่า “พระนครคีรี” แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมเรียกกันติดปากว่า “เขาวัง” มาจนถึงปัจจุบัน เพื่อนๆ สามารถขึ้นชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) ได้โดยการเดินขึ้นหรือโดยสารรถรางไฟฟ้าก็ได้ ค่ารถรางไฟฟ้า (ตั๋วไป-กลับ) ชาวไทย ผู้ใหญ่ 70 บาท เด็ก 15 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 15 บาท ค่าเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท เปิดบริการทุกวันเวลา 08.30 – 16.00 น. การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) จนถึงตัวเมืองเพชรบุรี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองเพชรบุรีมาประมาณ 1 กิโลเมตร จะมองเห็นธนาคารกรุงไทย สาขาพระนครคีรีอยู่ด้านขวามือ ให้กลับรถแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลียบคลองชลประทานข้างธนาคารประมาณ 800 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งสถานีรถรางขึ้นเขาวัง พิกัด : https://goo.gl/maps/gKhhV9dLx372 พระรามราชนิเวศน์ (พระราชวังบ้านปืน) ความงดงามของพระราชวังบ้านปืนหรือพระรามราชนิเวศน์แห่งนี้ ถูกใช้เป็นฉากสำคัญของละครย้อนยุคหลายต่อหลายเรื่อง โดยพระราชวังสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่มีพระราชประสงค์ให้สร้างวังแบบยุโรป เพื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานในฤดูฝน ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท นักเรียนนักศึกษาในเครื่องแบบ 5 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00 – 16.00 น. การเดินทาง จากเขาวัง วิ่งมาตามถนนเพชรเกษมไม่ไกล ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนราชดำริ ตรงไปจนถึงสี่แยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนราชดำเนิน จากนั้นตรงไปจนถึงโรงพยาบาลค่ายรามราชนิเวศน์ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนดำรงรักษ์ ตรงมาอีกนิดจะเจอทางเข้าพระรามราชนิเวศน์อยู่ทางขวามือ พิกัด : https://goo.gl/maps/5wGSY7hGNm82 โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อพลิกฟื้นผืนดินที่แห้งแล้งสู่ความอุดมสมบูรณ์  ภายในโครงการมีการจัดเป็นพื้นที่เพาะปลูกพืชต่างๆ โดยเน้นที่พืชท้องถิ่นของเพชรบุรี นอกจากนี้ยังทรงให้ปรับปรุงระบบระบายน้ำที่อ่างเก็บน้ำหนองเสือเพื่อใช้ในโครงการอีกด้วย โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริจึงเป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตรที่ยั่งยืน ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00 – 18.00 น. การเดินทาง จากพระราชวังบ้านปืน วิ่งตามถนนเพชรเกษมลงมาจนถึงอำเภอท่ายาง ผ่านโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรีไปตามเส้นทางตำบลท่าไม้รวก ผ่านที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขากระปุก-เขาเตาหม้อ ผ่านโรงเรียนบ้านทุ่งโป่งจนถึงโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ พิกัด : https://goo.gl/maps/nT9VP2FoZbJ2 พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก ตำบลห้วยทรายเหนือ ถนนเพชรเกษม บริเวณกิโลเมตรที่ 216-217 เลยหาดชะอำมา 8 กิโลเมตร เป็นพระตำหนักที่ประทับริมทะเล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่ที่นี่ ได้รับการขนานนามว่า “พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง” ค่าเข้าชมด้านล่างและโดยรอบ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาทค่าเข้าชมด้านล่างและโดยรอบ และขึ้นชมหมู่พระที่นั่ง ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 45 บาท  โทร. 032 508 444-5, 032 508 039 เปิดบริการ : วันพฤหัสบดี – อังคาร เวลา : 08.30 – 16.00 น. (ปิดวันพุธ) การเดินทาง จากโครงการชั่งหัวมันมุ่งหน้าตรงกลับเข้าถนนเพชรเกษมอีกครั้ง โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 6005 ตรงไปจนเจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4002 จากนั้นตรงไปจนถึงสถานีอนามัยบ้านหนองโรง แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนโยธาธิการหรือทางหลวงหมายเลข 1001 ขับตรงไปจนเจอทางออกถนนเพชรเกษม จากนั้นวิ่งตามถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าไปทางหัวหิน ขับไปอีกไม่ไกลจะเจอพระราชนิเวศน์มฤคทายวันอยู่ทางซ้ายมือ พิกัด https://goo.gl/maps/JHNbYFA5gVy ตลาดโต้รุ่ง ปิดท้ายโปรแกรมวันแรก พาแม่มาย้อนวัยหวานกันที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันไปแล้วเมื่อมาเที่ยวหัวหิน ตอนกลางคืนก็ต้องมาเดินตลาดโต้รุ่ง ที่นี่เป็นถนนคนเดินที่มีร้านขายของหลากหลายไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ หรือของฝาก ท่ามกลางกลิ่นหอมของอาหารทะเลเผาสดๆ เปิดบริการทุกวันเวลา 18.00 – 24.00 น. การเดินทาง จากพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ใช้ถนนเพชรเกษมเข้าหัวหิน ตลาดโต้รุ่งตั้งอยู่บริเวณซอยหัวหิน 42 พิกัด https://goo.gl/maps/JK6tMjdzHLu วันที่ 2 เริ่มโปรแกรมกันด้วยการพาแม่มาเดินเล่นรับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าที่ริมทะเลชายหาดหัวหินกันก่อน หลังจากนั้นก็ขับรถพาแม่ออกมากินข้าวที่ถนนแนบเคหาสน์ ถนนเส้นนี้มีแต่ร้านอาหารเด็ดๆ เพียบ ทั้งอาหารทะเลสดๆ รวมไปถึงคาเฟ่นั่งชิลล์ริมทะเลด้วย าให้คุณแม่เลือกร้านที่ชอบ เมนูที่ใช่กันได้เลย สถานีรถไฟ หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย ก็ขับรถชมเมืองพาคุณแม่มารำลึกความหลังกันที่สถานีรถไฟสุดคลาสสิก และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย  “สถานีรถไฟหัวหิน” พิกัด : https://goo.gl/maps/rGj9DJ4Neqj วัดห้วยมงคล โปรแกรมวันที่ 2 แอดจะพาแม่ไปเข้าสวน ชมไร่องุ่น ชิมไวน์ กันชิลล์ๆ ที่ไร่องุ่นหัวหิน monsoon valley vineyard

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางเพชรบุรี-หัวหิน อ่านเพิ่มเติม

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางชลบุรี – เกาะสีชัง

ช่วงหยุดวันแม่ปีนี้พาคุณแม่ไปย้อนวัยหวานกันสัก 2 วัน 1 คืน กับทริปที่ไม่ไกลกรุงเทพฯ หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ เกาะสีชัง แหล่งท่องเที่ยวสุดโรแมนติกที่ฮิตมาตั้งแต่สมัยแม่เรายังสาวๆ มีความวินเทจและคลาสสิกเบาๆ รับรองว่าพาไปเที่ยวเกาะสีชังคราวนี้ตอบโจทย์แน่นอน  วันแรก กรุงเทพฯ – เกาะสีชัง การเดินทางบนเกาะส่วนใหญ่จะใช้รถสามล้อเครื่องหรือที่เรียกว่าสกายแล็บ เปิดมิติใหม่พาคุณแม่ซิ่งกันได้อย่างสนุกสนาน และเตรียมเป็นตากล้องถ่ายรูปภาพให้คุณแม่กันรัวๆ เลย แต่ก็ต้องระมัดระวังกันด้วยนะคะ เพราะเส้นทางบนเกาะมีลักษณะเป็นเนินเขาคดเคี้ยว – ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ก่อนอื่นไปสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่กันก่อน ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ตั้งอยู่บนเชิงเขาสูงทางทิศเหนือของเกาะสีชัง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือมานาน เรามารู้จักตำนานกันสักหน่อย ในยุคสมัยที่ยังใช้เรือสำเภาเพื่อติดต่อค้าขาย เกาะสีชังถือเป็นทำเลที่เหมาะสมต่อการจอดเรือ โดยเฉพาะพ่อค้าชาวจีนนิยมมาจอดพักเรือที่นี่เป็นประจำ ในช่วงค่ำจะมีคนเห็นแสงวูบวาบบนหัวเกาะ จึงมีคนไปสำรวจและพบว่าบนนั้นเป็นถ้ำ ภายในมีหินรูปร่างคล้ายคนนั่งตั้งตระหง่านอยู่ จึงเรียกขานกันต่อมาว่า “เจ้าพ่อเขาใหญ่” มีความเชื่อว่าหากผู้ใดมากราบไหว้ติดต่อกัน 3 ปีจะทำให้เกิดโชคลาภและกิจการค้าขายร่ำรวย – พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นพระราชวังบนเกาะแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย อดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่หลังจากวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 ทำให้การก่อสร้างพระที่นั่งและตำหนักต่างๆ ยุติลง ที่นี่จึงสิ้นสุดการเป็นเขตพระราชฐานนับแต่นั้น ภายในบริเวณมีสภาพภูมิทัศน์ที่งดงาม และยังคงมีสิ่งก่อสร้างที่น่าชมได้แก่ เรือนผ่องศรี เรือนวัฒนา และเรือนอภิรมย์ ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระจุฑาธุชราชฐาน ด้านหน้าเป็นชายหาดท่าวัง  – เรือนไม้ริมทะเล เรือนไม้สีเขียวเข้ม ได้ความรู้สึกวินเทจ ลักษณะเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทาสีเขียว ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้เป็นร้านกาแฟและจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจในเกาะสีชัง – อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิตร เป็นอุโบสถยอดเจดีย์สีขาวสวยงาม ผสมผสานศิลปะไทยและศิลปะตะวันตกแบบโกธิค ด้านหน้าอุโบสถมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่นำหน่อมาจากพุทธคยา – สะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานท่าเรือขนาดใหญ่ สร้างด้วยไม้สักทาสีขาวทอดยาวลงไปในทะเล รัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่สมเด็จฯ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ พระราชโอรสทรงหายจากพระอาการประชวร และเพื่อใช้เป็นท่าเทียบเรือขึ้นเกาะสีชัง ชวนคุณแม่แต่งตัวสไตล์วนิดามาแชะภาพกับสะพานอัษฎางค์ เข้ากับบรรยากาศและโรแมนติกสุดๆเลยล่ะ – ช่องอิศริยาภรณ์ หาดหินกลม (ช่องเขาขาด หรืออ่าวเขาขาด) ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ ใกล้สวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ครบ 60 พรรษา หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา มีสะพานวชิราวุธทอดยาวเลียบเชิงเขาสำหรับเดินชมทิวทัศน์ทางทะเล ตอนปลายสุดของช่องอิศริยาภรณ์มีลักษณะเป็นแหลม เรียกว่า แหลมวชิราวุธ ลักษณะคล้ายแหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม บริเวณหาดจะมีหินกลมขนาดต่าง ๆ มากมาย ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 – หาดถ้ำพัง ถึงชื่อจะบอกว่า “พัง” แต่ถ้าพาแม่ไปแม่ต้องบอกว่า “ปัง” แน่ๆ ^^  หาดถ้ำพังเป็นส่วนหนึ่งของอ่าวอัษฎางค์ เป็นชายหาดกว้าง สะอาดและสวยงาม ทรายเนื้อเนียนละเอียด นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นน้ำและรับลมเย็นๆ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกอีกจุดหนึ่ง เกาะสีชัง พิกัด : https://goo.gl/maps/hmWTwHMvsXH2 การเดินทาง จากกรุงเทพฯ 1. เส้นทางสายบางนา-ตราด ใช้ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่จังหวัดชลบุรี มุ่งตรงไปยังอำเภอศรีราชา ถึงทางเข้าหาดบางแสน ขับตรงไปประมาณ 13 กิโลเมตร จะเจอห้างโรบินสันศรีราชาอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาตรงห้างโรบินสัน จากนั้นขับตรงไปยังท่าเรือเกาะลอย ประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะถึง (หากต้องการค้างคืนสามารถจอดรถไว้ที่ฝั่งเกาะลอยได้เลย) 2. เส้นทางกรุงเทพฯ-มีนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทราเข้าสู่อำเภอบางปะกง จากนั้นเลี้ยวเข้าชลบุรีมุ่งสู่อำเภอศรีราชา เมื่อเห็นห้างโรบินสันศรีราชาทางขวามือ ให้เลี้ยวขวาตรงห้างโรบินสัน จากนั้นขับตรงไปยังท่าเรือเกาะลอย 3. เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ยูเทิร์นเข้าสู่อำเภอศรีราชา บริเวณสวนเสือศรีราชา เข้าตัวเมืองศรีราชาถึงแยกไฟแดง เลี้ยวขวาผ่านหน้าโรบินสันศรีราชา แล้วเลี้ยวซ้ายไฟแดงหน้าองค์การโทรศัพท์ตรงไปเกาะลอย (สำหรับท่านที่นำรถยนต์มาสามารถฝากรถไว้ที่จุดฝากรถทั่วไป) **ท่าเรือเกาะลอย** อัตราค่าโดยสาร คนละ 50 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีเรือออกจากฝั่งศรีราชา (เกาะลอย) เวลา 07.00 – 20.00 น.เรือออกจากเกาะสีชังเวลา 06.00 – 19.00 น. โดยมีเรือออกทุกๆ ชั่วโมง ……………….. วันที่สอง เกาะสีชัง – ชลบุรี – ทะเลบางแสน เช้าๆ สดใสแบบนี้ไปลัดเลาะแถวเลียบหาดบางแสนกันสักหน่อย ชวนให้นึกถึงบรรยากาศสมัยคุณแม่ยังสาว พักผ่อนกันชิลล์ๆ มาในช่วงวันหยุดแบบนี้ที่นี่ก็จะคึกคักเป็นพิเศษ การเดินทาง จากท่าเรือเกาะลอยศรีราชา ใช้ถนนสุขุมวิท ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงป้ายแยกเข้าบางแสน (สามารถจอดรถได้ตลอดแนวชายหาด) – ตลาดหนองมน แหล่งซื้อของฝากที่โด่งดังแห่งหนึ่ง เชื่อว่าคุณแม่ขาชอปตัวยงทั้งหลายต้องนึกถึงบรรยากาศอันหอมหวนของตลาดหนองมนแห่งนี้ ที่นี่มีของฝากมากมาย ทั้งอาหารสดและอาหารแห้งเรียงรายเต็มไปหมด โดยเฉพาะข้าวหลามนั้น คือของขึ้นชื่อประจำตลาดหนองมนที่ทุกคนไม่ควรพลาดที่ตั้ง : 166 ถนนสุขุมวิท ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 20.00 น. พิกัด : https://goo.gl/maps/Edn85e1UnWE2 การเดินทาง จากบริเวณหาดบางแสน ใช้ถนนถนนสุขุมวิท ตลาดอยู่ริมถนนสุขุมวิท (สามารถจอดรถได้ริมถนน) – ทานข้าวกลางวัน ณ เรือนปะการัง ร้านอาหารแถบบางแสนมีจำนวนไม่น้อย แต่แอดแนะนำเลยว่าถ้าพาแม่มาร้านนี้ แม่จะต้องให้รางวัลลูกดีเด่นแน่นอน ^^ ร้านนี้บรรยากาศดี ภายในแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซน outdoor ติดทะเลและโซน indoor ชิลล์ๆ นำเสนออาหารทะเลสดๆ ซีฟู้ดจัดเต็ม บริเวณร้านกว้างขวาง จอดรถได้สบาย เมนูแนะนำ คือ น้ำพริกไข่ปู กุ้งเผา และปูม้านึ่งเนื้อเน้นๆ อิ่มพุงกางก่อนกลับเลยค่ะ ที่ตั้ง : 178 บางแสนสาย 1 ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี (แหลมแท่น)เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 23.00 น.โทร. 038

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางชลบุรี – เกาะสีชัง อ่านเพิ่มเติม

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางสมุทรปราการ – ฉะเชิงเทรา

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางสมุทรปราการ – ฉะเชิงเทรา วันหยุดยาวในช่วงวันแม่แห่งชาตินี้ ถ้าใครอยากพาคุณแม่ไปเที่ยวย้อนวัยหวาน ให้เหมือนสมัยยังสาวอีกครั้ง เส้นทางสมุทรปราการและฉะเชิงเทรา ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่จะสร้างความสุขให้กับเหล่าแม่ๆ ของพวกเราได้อย่างแน่นอน… ว่าแล้ว ก็ชวนคุณแม่ใส่กระโปรงบาน แต่งชุดลายดอก แล้วออกไปเที่ยวด้วยกัน !!     . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . วันที่ 1  พาคุณแม่ไปลัลลาที่บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ บางกะเจ้า เป็นพื้นที่ที่มีรูปร่างคล้ายกระเพาะหมู ตั้งอยู่บริเวณโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา มีพื้นที่ครอบคลุม 6 ตำบลของ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้แก่ ต.บางกะเจ้า บางน้ำผึ้ง บางกอบัว บางกระสอบ บางยอ และ ทรงคะนอง โดยบางกะเจ้าได้รับการขนานนามว่าเป็น ปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย ช่วงสายๆ พาคุณแม่ไปปั่นจักรยาน สูดโอโซนที่สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์ ที่นี่บรรยากาศร่มรื่นมากเพราะแวดล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ หลังจากปั่นจักรยานเสร็จ ก็น่าจะหิวกันแล้ว ช่วงเที่ยงพาคุณแม่ไปเดินเล่นพร้อมหาของอร่อยทานที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ที่อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะฯ ที่ตลาดน้ำมีทั้งของกิน ของเล่น สินค้าโอทอปให้เลือกเต็มไปหมด ต้องถูกใจคุณแม่สายชอปอย่างแน่นอน แถมมีร้านอาหาร ร้านกาแฟที่มีบรรยากาศแนววินเทจให้คุณแม่ไปถ่ายรูปสไตล์ย้อนยุคได้ด้วย สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์ เปิดทุกวัน 06.00 – 19.00 น. ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ติดกับวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.00 – 16.00 น. โทร. 092 229 3594 การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว ใช้ทางด่วนบางนา-ดาวคะนอง ลงที่ถนนสุขสวัสดิ์(พระประแดง) ขับมาจนถึงสามแยกพระประแดง-สุขสวัสดิ์ (ขวามือเป็นโรงหนังเมเจอร์ฮอลิวูด ซ้ายมือเป็นบริษัทกิฟฟารีน) เลี้ยวซ้ายมาทางที่ว่าการอำเภอพระประแดงมาเกือบสุดทางบังคับเข้าสู่ถนนเพชรหึงษ์ ตรงไปตามทางประมาณ 5 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยเพชรหึงษ์ 26 (มีป้ายบอกทางเข้าตลาดน้ำ) เข้าไปประมาณ 700 เมตร จะเจอวัดบางน้ำผึ้งใน ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งจะอยู่บริเวณเดียวกับวัด สามารถจอดรถได้ที่ อบต.บางน้ำผึ้ง หรือสถานีอนามัยบางนา . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .  อยากพาคุณแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ แต่เวลาไม่เอื้ออำนวย ไม่ใช่ปัญหา แค่มาที่เมืองโบราณก็เหมือนได้ไปเที่ยวทั่วประเทศแล้วค่ะ เพราะที่นี่จำลองสถาปัตยกรรมทั้งวัด วัง อันงดงามไว้ในที่เดียว ที่ตั้ง : 296/1 หมุ่ 7 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พิกัด : https://goo.gl/maps/wN5MdFfy4kL2 เปิดทุกวัน เวลา 09.00 -19.00 น. โทร 02 323 4094 อัตราค่าเข้าชม สำหรับคนไทย ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น.  ผู้ใหญ่ ราคา 350 บาท เด็ก 6 – 14 ปี ราคา 175 บาท ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไปลด 50% (ราคานี้รวมรถรางและ ปั่นจักรยาน) การเดินทาง จากตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ใช้ถนนเพชรหึงษ์ไปออกถนนวงแหวนอุตสาหกรรม กลับรถเพื่อข้ามสะพานภูมิพล 2 ลงจากสะพาน เลี้ยวซ้ายเข้าถนนปู่เจ้าสมิงพราย ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอถนนสุขุมวิท ให้เลี้ยวขวา แล้ววิ่งเส้นถนนสุขุมวิทไปเรื่อยๆ ระยะทางประมาณ 13

สิงหาพาแม่เที่ยว…ย้อนวัยหวาน เส้นทางสมุทรปราการ – ฉะเชิงเทรา อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top