สถานที่ท่องเที่ยว

ไปเที่ยวต(ห)ลาดใต้โหนดกันหว่า?

ถึงตลาดปุ๊บก็หาขนมทานกันก่อนเลย ขนมกรวย มีส่วนผสมหลักๆ คือ แป้งข้าวเจ้า แป้งถั่วเขียว และกะทิ เนื้อขนมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยด้านล่างเป็นแป้งข้าวเจ้าผสมแป้งถั่วเขียว ส่วนด้านบนเป็นหน้ากะทิผสมแป้ง เวลานึ่งจะนึ่งแป้งด้านล่างให้สุกก่อนแล้วค่อยหยอดหน้ากะทิ คล้ายขนมถ้วยของภาคกลาง แต่ใช้ใบตองมาห่อเป็นกรวยแทน  สินค้าภายในตลาดนัดแห่งนี้มีตั้งแต่ผักผลไม้ อาหารพื้นบ้าน ขนมท้องถิ่นหาทานยาก ไปจนถึงของใช้ ของฝาก ผลงานศิลปะ และของแฮนด์เมดน่ารักๆ จุดเด่นของที่นี่คือแนวคิดรักสิ่งแวดล้อม มีการรณรงค์ให้เจ้าของร้านค้าลดใช้ถุงพลาสติก และนำวัสดุธรรมชาติมาทำเป็นภาชนะใส่อาหารแทน อาหารที่นี่เยอะมาก เลือกทานไม่ถูกเลย อยากซื้อไปซะหมด มีทั้งข้าวยำ เมี่ยงปลาเผา ไก่ย่าง ส้มตำ ขนมจีนน้ำยา ข้าวราดแกงใต้ชนิดต่างๆ น้ำพริก และอีกมากมาย ให้แอดบอกจนหมด ตลาดก็คงปิดพอดี เอาเป็นว่ามาเดินเลือกซื้อกันเองจะดีกว่าค่ะ  ของหวานก็ไม่น้อยหน้า ขนทัพกันมาเต็มกำลัง แอดขอยกตัวอย่างมาให้ดูสักเล็กน้อย เพื่อเป็นการกระตุ้นต่อมความอยากของหวาน หัวครกราดน้ำผึ้ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ราดน้ำตาลกวนหรือน้ำผึ้ง หวาน มัน เคี้ยวเพลินสุดๆ ขนมโค หลากสีสัน แป้งหนึบหนับ เคี้ยวเพลิน รสชาติเหมือนขนมต้มของภาคกลางเลยค่ะ ตลาดใต้โหนดมีพื้นที่เปิดกว้างสำหรับศิลปินทุกวัย ที่มีดีแล้วอยากโชว์ของ สามารถมาเล่นดนตรีเปิดหมวกได้ ใครไปเที่ยวตลาดใต้โหนดก็ไปให้กำลังใจน้องๆ กันนะคะ ถ้าเพื่อนๆ ไปเที่ยวจังหวัดพัทลุง อย่าลืมแวะไปตลาดใต้โหนดกันนะคะ คุณยายและชาวบ้านที่น่ารักรอต้อนรับผู้มาเยือนทุกคนอยู่ 

ไปเที่ยวต(ห)ลาดใต้โหนดกันหว่า? อ่านเพิ่มเติม

ชวนล่องแพแก่งไฮ จังหวัดพิษณุโลก

การเดินทางจากอำเภอเมืองพิษณุโลกมุ่งหน้าอำเภอนครไทย เลี้ยวซ้ายที่แยกบ้านแยง ไปตามทางเรื่อยๆ จนเจอป้ายแก่งไฮ เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทาง พร้อมแล้วก็ไปล่องแพกัน! เรือหางยาวจะลากแพพาเราออกไปกลางอ่างเก็บน้ำ ให้ได้พักผ่อน เล่นน้ำ ตกปลา รวมทั้งยังมีอาหารเดลิเวอรี่ สั่งปุ๊บมาส่งถึงที่ ราคาสบายกระเป๋าด้วย^^ แพของที่นี่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น โดยใช้ไม้ไผ่นำมาต่อเป็นแพและมุงหลังคาด้วยหญ้าคา บนแพมีอุปกรณ์ความปลอดภัย ทั้งเสื้อชูชีพและห่วงยางให้ เพื่อความปลอดภัยในการลงเล่นน้ำ เนื่องจากน้ำค่อนข้างลึก และยังเน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดอีกด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านสะดวกซื้อและห้องน้ำไว้คอยบริการอย่างครบครัน สำหรับการล่องแพแก่งไฮ สามารถมาล่องแพเล่นน้ำได้ตั้งแต่ 09.00 – 18.00 น. หากอยากพักค้างคืนที่นี่ก็ย่อมได้ เพราะเค้ามีบ้านพักที่รองรับได้ถึง 10-15 คน มากับเดอะแก๊งรับรองสนุกแน่นอน ทำอาหารก็ได้ ตกปลาก็ดี ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ก็จะฟินๆ หน่อย ได้มาสูดอากาศเย็นๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่ล้อมรอบด้วยขุนเขา สดชื่นสุดๆ ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook ล่องแพแก่งไฮ at ไฮแลนด์ ส่วนใครที่ชอบกางเต็นท์พักแรม ที่นี่ก็มีบริการจ้า เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งชมพระอาทิตย์ตก ในช่วงแดดร่มมลมตก ก็ชิลไปอีกแบบ ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook ล่องแพแก่งไฮ at ไฮแลนด์ สำหรับผู้ที่สนใจล่องแพแก่งไฮ มีผู้ประกอบการหลายรายให้บริการ ได้แก่ 

ชวนล่องแพแก่งไฮ จังหวัดพิษณุโลก อ่านเพิ่มเติม

วัดดังคำชะอี เจดีย์ห้ายอด วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จังหวัดมุกดาหาร

วัดป่าวิเวกวัฒนารามที่อยู่ : บ้านห้วยทราย หมู่ที่ 9 ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร พิกัด : https://goo.gl/maps/C3eRc2HYM2K2 การเดินทาง : จากตัวเมืองมุกดาหาร ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 วิ่งตรงมาประมาณ 44 กิโลเมตร ผ่านโรงเรียนบ้านห้วยทราย 1 ตรงมาอีก 1 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาก็จะถึงวัด เมื่อเข้ามาในวัด ก็ต้องสะดุดตากับ “เจดีย์บู่ทองกิตติ” เจดีย์ศิลปะแบบประยุกต์ ทรงสูง มียอด 5 ยอด  ที่มาของเจดีย์องค์นี้ เกิดจากความฝันของหลวงปู่จามที่ได้ฝันเห็นเจดีย์รูปร่างแปลกประหลาด เมื่อตื่นขึ้นจึงได้ให้ลูกศิษย์ที่มีความสามารถในการวาดภาพวาดขึ้น จากนั้นก็นำไปให้ช่างคำนวณค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง แต่ในตอนนั้นทางวัดขาดแคลนกำลังทรัพย์จึงยังไม่สามารถสร้างได้  ต่อมาคุณแม่บู่ทอง กิตติบุตร ได้มากราบหลวงปู่และเห็นภาพวาดเจดีย์ จึงเกิดศรัทธาแรงกล้าและได้บริจาคเงินเพื่อสมทบทุนในการสร้างเจดีย์เป็นจำนวนมาก เริ่มสร้าง เมื่อ พ.ศ.2527 แล้วเสร็จใน พ.ศ.2530 ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุของพระสาวกหลายองค์ รวมทั้งยังเป็นที่เก็บพระพุทธรูปและวัตถุโบราณอีกหลายอย่าง สามารถเข้าไปกราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ไม่ไกลจากเจดีย์จะมีพระอุโบสถ ซึ่งล้อมรอบไปด้วยแมกไม้ดูร่มรื่น อุโบสถทาด้วยสีออกม่วงนิดๆ และสีส้มอ่อนดูแปลกตา ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยและพระพุทธรูปอีกหลายองค์ นอกจากนี้ใกล้ๆ พระอุโบสถยังมีส่วนจัดแสดงอัตประวัติของหลวงปู่จามและหลักธรรมคำสอนของท่านด้วย

วัดดังคำชะอี เจดีย์ห้ายอด วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จังหวัดมุกดาหาร อ่านเพิ่มเติม

พญาศรีมุกดาฯ แลนด์มาร์คใหม่แห่งลุ่มแม่น้ำโขง

พญาศรีมุกดาฯ ออกแบบโดยนายประพัฒน์ มะนิสสา หรืออาจารย์ปื้ด ศิลปินปูนปั้นพื้นบ้านที่มีความศรัทธาในองค์พญานาคเป็นอย่างมาก มีลักษณะเป็นรูปปั้นพญานาคเศียรเดียวองค์ใหญ่ ลำตัวยาว 122 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร มีรูปลักษณ์น่าเกรงขาม ชูคอหันไปทางแม่น้ำโขงเบื้องล่าง ลำตัวขดไปมาอย่างพลิ้วไหว มีการลงสีไล่ระดับอย่างสวยงาม ทำให้ดูมีมิติและสมจริงราวกับมีชีวิต ว่ากันว่าพญาศรีมุกดาฯ เป็นพญานาคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วย พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ที่ตั้ง : หมู่ที่ 5 ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหารการเดินทางห่างจากตัวเมืองมุกดาหารประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 2034 (มุกดาหาร-ดอนตาล) แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสายบ้านมโนรมย์-คำอาฮวน ประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายขึ้นไปสู่ยอดภู จะมีลานจอดรถของวัดบริเวณเชิงเขา จากตรงนี้สามารถเดินขึ้นไปได้ไม่ไกล ผู้มาเยือนสามารถสักการะขอพรองค์พญานาค ด้วยการตั้งจิตอธิษฐาน แล้วเดินลอดท้องพญานาคทั้ง 7 ช่องที่มีความหมายมงคลต่างๆ จากนั้นนำดอกไม้ธูปเทียนไปบูชา และนำผ้าแดงที่เขียนชื่อตัวเองไปผูกไว้ที่ต้นไม้รอบๆ พญานาค เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นอกจากพญาศรีมุกดาฯ แล้ว ภายในวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ รอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัด พระธาตุภูมโนรมย์ และพระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาภูมโนรมย์  นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองมุกดาหาร แม่น้ำโขง รวมไปถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ได้ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของจังหวัดมุกดาหารอีกแห่งหนึ่งด้วย ขอบคุณภาพจาก : Facebook วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร 

พญาศรีมุกดาฯ แลนด์มาร์คใหม่แห่งลุ่มแม่น้ำโขง อ่านเพิ่มเติม

สรรค์สร้าง สังคโลก

สังคโลก” เป็นชื่อที่ใช้เรียกเครื่องปั้นดินเผาที่ผลิตขึ้นในเขตจังหวัดสุโขทัย ซึ่งถือเป็นสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองรุ่งอรุณแห่งความสุขแห่งนี้  ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถไปลงมือทำกิจกรรม DIY วาดสังคโลกได้ ใครที่อยากมีลายสังคโลกเป็นของตัวเอง แอดแนะนำให้ไปที่สุโขทัยเลย  แอดได้ไปชมการทำสังคโลกที่อุษาสังคโลก ได้เห็นกระบวนการต่างๆ ทั้งการตกแต่งผลิตภัณฑ์ให้มีความสมบูรณ์ก่อนที่จะนำไปเผา และการเขียนลวดลายหลังจากเผาแล้ว สำหรับดินที่นิยมใช้ทำสังคโลกนั้นมีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ ดินสีน้ำตาลจากสุโขทัย และดินขาวจากศรีสัชนาลัย ซึ่งเมื่อเผาแล้วดินสุโขทัยจะให้สีที่เข้มกว่าเล็กน้อย ลายที่เป็นที่นิยมก็คือ ปลา กงจักร และดอกไม้ ซึ่งสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของดินแดนสุโขทัยนั่นเอง ที่อุษาสังคโลก มีกิจกรรม DIY คือการวาดลายสังคโลกด้วยตัวเอง อุปกรณ์ก็จะมี 1. ถ้วยดินเผาที่ผ่านการเผามาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบมีหูและไม่มีหู2. สีเขียนลาย ปกติแล้วจะเป็นสีดำ แต่ถ้าอยากได้สีอื่นๆ เค้าก็เตรียมให้ได้นะ แต่ต้องแจ้งล่วงหน้านิดนึง 3. ดินสอสำหรับร่างแบบ4. พู่กันขนาดต่างๆ สำหรับเขียนลาย เริ่มต้นก็คือ วาดลายที่เราอยากจะวาดลงไปด้วยดินสอ ซึ่งสามารถใส่จินตนาการได้เต็มที่เลย ฮ่าๆๆๆ ถ้ามือลั่นวาดผิดก็ไม่ต้องตกใจ เพราะถ้าเราไม่ใช้สีเขียนลายทับ ลวดลายที่ร่างไว้ด้วยดินสอก็จะหายไปเองตอนที่เผาจ้า เมื่อได้ลายที่เราพอใจแล้ว ก็ใช้พู่กันจุ่มสีแล้วเขียนทับได้ นี่คือผลงานการวาดลายสังคโลกฝีมือแอดและเพื่อนๆ สวยใช่มั้ยล่ะ หลังจากนี้ก็เหลือขั้นตอนสุดท้ายคือการชุบน้ำเคลือบและนำไปเผา ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เมื่อได้ชิ้นงานออกมาเรียบร้อย ทางอุษาสังคโลกก็จะจัดส่งไปให้เราถึงบ้านเลย นอกจากกิจกรรม DIY แล้ว ภายในร้านก็ยังมีเครื่องสังคโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม ถ้วย ช้อน หรือของประดับตกแต่งต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้มาเลือกซื้อจับจองเป็นเจ้าของได้อีกด้วย ได้มาแล้ววว สังคโลกฝีมือแอดเอง ลวดลายอาจจะไม่ได้สวยงามเท่าที่ทางร้านทำขาย แต่นี่ก็เป็นฝีมือของเราเอง มีชิ้นเดียวในโลกนะ 

สรรค์สร้าง สังคโลก อ่านเพิ่มเติม

ชวนคน”ศีลเสมอกัน” ไปเที่ยว”ดอยเสมอดาว”

กิจกรรมที่หลายๆ คนนิยมทำเมื่อไปเยือนดอยเสมอดาวก็คือ การกางเต็นท์นอนนับดาวยามค่ำคืนและชมทะเลหมอกในยามเช้า  หากไปกันเป็นกลุ่มหลายๆ คน กิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ การร้องเพลง เล่นกีต้าร์ กับเพื่อนๆ ค่ะ ซึ่งแอดก็เป็นคนนึงที่ชื่นชอบกิจกรรมนี้มากเป็นพิเศษ เพราะมันทั้งสนุก เพลิดเพลิน และมีความสุขมากๆเลย แต่ต้องระวังไม่ให้เสียงดังรบกวนเต็นท์ข้างเคียงด้วยนะคะ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าดอยเสมอดาวจะไม่ใช่จุดที่สูงที่สุด แต่ก็สามารถมองเห็นดาว⭐ ได้ชัดเจนที่สุดอีกจุดหนึ่งของประเทศไทย หากฟ้าฝนเป็นใจ เพื่อนๆ ก็อาจจะได้เห็นทางช้างเผือกที่โกโบริไปรออังศุมาลินอยู่อีกด้วยค่ะ เป็นที่รู้กันดีว่าทะเลหมอกนั้นต้องชมในฤดูฝนถึงจะสวยที่สุด แต่สำหรับดอยเสมอดาวนั้น เพื่อนๆ สามารถชมทะเลหมอกได้ทุกฤดูค่ะ เพราะที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี  นอกจากกางเต็นท์นอนนับดาวยามค่ำคืน และชมทะเลหมอกยามเช้าแล้ว บนดอยเสมอดาวยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้อีกด้วย เห็นมั้ยละคะว่าดอยเสมอดาวเป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากขนาดไหน สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะไปกางเต็นท์นอนที่ดอยเสมอดาว ทางอุทยานฯ ก็มีเต็นท์พร้อมอุปกรณ์ให้เช่าด้วยค่ะ – เต็นท์สำหรับ 3 คน ราคา 405 บาท – เต็นท์สำหรับ 2 คน ราคา 345 บาท.แต่ถ้านำเต็นท์ไปเอง ทางอุทยานฯ ก็จะเก็บค่าธรรมเนียมคนละ 30 บาทค่ะ

ชวนคน”ศีลเสมอกัน” ไปเที่ยว”ดอยเสมอดาว” อ่านเพิ่มเติม

10 พิกัดแอ่วลำปาง

ไหนใครเคยไปเที่ยวลำปางกันมาแล้วบ้างคะ?  ใครที่มาแอ่วลำปางแล้วไม่ได้มาสักการะพระธาตุที่ “วัดพระธาตุลำปางหลวง” ก็เหมือนมาไม่ถึงลำปางค่ะ เพราะวัดแห่งนี้คือวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปาง มีวิหารเก่าแก่หลายหลัง มีซุ้มประตูโขงที่ประดับลวดลายปูนปั้นงดงาม นอกจากนี้พระธาตุลำปางหลวงยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีฉลู (วัว ถ้าเพื่อนๆ มาลำปางและอยากชื่นชมธรรมชาติในบรรยากาศเงียบสงบ แอดแนะนำให้มาที่ “น้ำตกแม่แก้” เพราะผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน เสน่ห์ของน้ำตกแห่งนี้คือเป็นน้ำตกขนาดเล็กที่โอบล้อมด้วยพรรณไม้นานาชนิด เมื่อแสงจากพระอาทิตย์ตกกระทบลงมาก็จะสวยงามสุดๆ เลยค่ะ “บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน” เป็นบ่อน้ำร้อนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เมื่อไปบ่อน้ำพุร้อน เพื่อนๆ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับการนำไข่ไปลวกและนำมาทานกัน แต่ที่นี่เค้ามีเมนูที่เด็ดกว่านั้นนั่นก็คือ “ยำไข่น้ำแร่แจ้ซ้อน” ค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าจะเด็ดและถูกปากแค่ไหน ต้องลองไปทานกันดูนะคะ อีกที่นึงที่แอดว่าไม่ควรพลาดเมื่อมาลำปางนั่นก็คือ “ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย” ค่ะ ที่นี่เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก  ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เรื่องหลวงพี่แจ๊ส 4G ก็คงคุ้นตากับวัดนี้เป็นอย่างดี วัดนี้มีชื่อว่า “วัดพุทธบาทสุทธาวาส” หรือเดิมคือ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” มีเจดีย์สีขาวหลายองค์ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เป็นภาพที่ดึงดูดให้ใครหลายคนอยากเดินทางไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้ง “วัดพระธาตุดอยพระฌาน” เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา เป็นวัดเก่าแก่ที่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพนับถือ ทุกปีจะมีประเพณีขึ้นดอยพระฌานเพื่อสักการะพระธาตุ ยามเช้าในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวจะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกัน แต่ถ้าเป็นฤดูอื่น เพื่อนๆ ก็สามารถชมทิวทัศน์ของ อ.แม่ทะ ได้ แอดว่าก็สวยงามไปอีกแบบนะคะ “วัดพระเจดีย์ซาวหลัง” ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาแอ่วลำปางค่ะ “ซาว” เป็นภาษาเหนือแปลว่า ยี่สิบ ดังนั้นชื่อวัดพระเจดีย์ซาวหลังจึงหมายถึง วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์นั่นเองค่ะ  วัดนี้เป็นอีกหนึ่งวัดของลำปางที่มีความงดงาม มีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี เนื่องจากมีหลักฐานว่ามีการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์เจดีย์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดนี้สร้างมานานกว่าพันปีแล้ว เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดนะคะ ในภาษาเหนือคำว่า “ป่อง” หมายถึง “หน้าต่าง” คำว่า “นัก” หมายถึง “มาก” ดังนั้น “บ้านป่องนัก” จึงหมายถึง บ้านที่มีหน้าต่างจำนวนมากนั่นเองค่ะ บ้านป่องนักเป็นสถาปัตยกรรมยุโรปแบบคลาสสิกผสมผสานกับสถาปัตยกรรมไทย ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงอาวุธและของใช้บางส่วน ที่เคยใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ค่ะ ถ้าเพื่อนๆ จะรู้สึกคุ้นตากับอาคารหลังนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจไปนะคะ เพราะที่นี่ถูกใช้เป็นฉากในละครหลายเรื่องแล้ว เช่น หนึ่งในทรวง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายปวรรุจ เป็นต้น สำหรับใครที่อยากจะสัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุคที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของอดีตแล้วละก็ แอดขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ “สะพานรัษฎาภิเศก” หรือ “สะพานขาว” สะพานข้ามแม่น้ำวังที่อยู่คู่กับเมืองลำปางมาช้านานแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตสำหรับแวะถ่ายรูปและเช็คอิน เก๋ๆ ไปอีก  “กาดกองต้า” หรือถนนคนเดินลำปาง คืออีกหนึ่งไฮไลท์ของลำปางค่ะ เพราะมีทั้งของกิน ของใช้ รวมไปถึงของฝากให้ได้ซื้อหากัน แต่ที่ขึ้นชื่อเลยก็คือ “ขนมจีนน้ำเงี้ยว” เป็นเมนูที่มาแล้วต้องทานให้ได้เลย นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังจะได้สัมผัสกับบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ ที่มีอายุนับร้อยปีอีกด้วย 

10 พิกัดแอ่วลำปาง อ่านเพิ่มเติม

บุหงาบูดะ ขนมพื้นบ้านจากชาววัง

ขนมบุหงาบูดะ “ขนมบุหงาบูดะ” เป็นขนมพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของสตูล มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 170 ปี ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศมาเลเซีย และในอดีตเป็นขนมที่ทำกันเฉพาะในวังเจ้าเมืองเท่านั้น แม้บุหงาบูดะจะดูคล้ายกับขนมเกสรลำเจียก ทั้งหน้าตาและวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ แต่ถ้าดูกันในรายละเอียดแล้วจะพบว่ามีความแตกต่างกันอยู่มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมของแป้ง หรือวิธีการทำไส้ ขนมบุหงาบุดะ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคล้ายหมอน มีส่วนประกอบหลักที่สำคัญอยู่ 2 ส่วนด้วยกันคือ แผ่นแป้งที่ใช้ห่อภายนอก และไส้หวานๆ ที่อยู่ภายในนั่นเองค่ะ โดยไส้ทำจากเนื้อมะพร้าวขูดผสมกับน้ำตาลทราย ใส่สีผสมอาหารเพื่อเพิ่มสีสัน เติมเกลือลงไปเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่น้ำใบเตยหอมและกวนจนส่วนผสมแห้งสนิทค่ะ ส่วนแผ่นแป้งที่ใช้ห่อไส้นั้นทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมกับน้ำเกลือนวดพอหมาดๆ จากนั้นตั้งกระทะโดยใช้ไฟอ่อนถึงไฟกลาง นำแป้งที่เตรียมไว้ไปใส่กระชอน ค่อยๆ ร่อนลงบนกระทะจนได้ความหนาตามที่ต้องการ พอแป้งสุกจึงนำไส้ที่เตรียมไว้มาใส่ลงไป ห่อเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดพอดีคำแล้วพักไว้ให้เย็น มักทานคู่กับน้ำชาค่ะ ในอดีตชาวมุสลิมในจังหวัดสตูล จะทำขนมชนิดนี้รับประทานกันเฉพาะในวันสำคัญทางศาสนาหรือพิธีสำคัญๆ เท่านั้น เพราะเป็นขนมที่ทำยาก ต้องใช้ความประณีตเป็นอย่างมาก เช่น เทศกาลเฉลิมฉลองหลังจากถือศีลอด หรือที่เรียกว่า ฮารีรายอ พิธีแต่งงาน และเทศกาลอื่นๆ นอกจากนี้ยังใช้เป็นขนมต้อนรับแขกที่มาเยือนอีกด้วยค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอช่วงเทศกาลแล้ว เพราะเราสามารถหาขนมบุหงาบูดะทานได้ทั่วไปในจังหวัดสตูลค่า ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีโอกาสแวะไปเที่ยวจังหวัดสตูล ก็อย่าลืมไปลองทาน และซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่เพื่อนๆ รักกันด้วยนะคะ

บุหงาบูดะ ขนมพื้นบ้านจากชาววัง อ่านเพิ่มเติม

Kalasin ฟินอีหลีเด้อ

Kalasin ฟินอีหลีเด้อ บ้านด่านเหนือแพรฝ้าย ถ้าพูดถึงกาฬสินธุ์ หลายคนก็คงนึกถึงไดโนเสาร์กันใช่มั้ย แต่ผ้าทอของกาฬสินธุ์ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน  แอดจะพาไปทำความรู้จักกับชุมชนกลุ่มทอผ้ามัดหมี่และหมอนขิด ที่ อ.ด่านเหนือ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าขาวม้า ผ้าห่ม ผ้ามัดหมี่ และตุ๊กตาไดโนเสาร์นั่นเองค่ะ ในครั้งนี้ แอดได้มีโอกาสลงมือทำกิจกรรม DIY เกี่ยวกับการทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ และพวงกุญแจด้วย บอกเลยว่าทั้งสนุกและได้ความรู้มากมายเลยค่ะ สำหรับแอด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสใช้จักรเย็บผ้า วินาทีที่เท้าสัมผัสแป้นเหยียบที่ใช้ควบคุมการเย็บนั้น แอดทั้งตื่นเต้นและกังวลมากเลยค่ะ เพราะกลัวว่าจะทำของเค้าพัง  ตุ๊กตาที่แอดเย็บเองก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย (ฝีมือก็ใช้ได้อยู่นะ) หลังจากทำกิจกรรม DIY เสร็จ เราก็เดินชอปปิงกันต่อเลย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจของฝากน่ารักๆ และราคาถูก แอดแนะนำที่นี่เลย เพราะจะได้ซื้อสินค้าของฝากในราคาส่ง แหม ถูกและน่ารักขนาดนี้ทำให้แอดอดใจไม่ไหว ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านหลายชิ้นเลย หากเพื่อนๆคนไหนสนใจกิจกรรม DIY การทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ หรือพวกกุญแจ ต้องติดต่อล่วงหน้านะคะ บ้านท่าเรือภูสิงห์ ใครว่ากาฬสินธุ์ไม่มีกุ้ง…ที่นี่มีกุ้งเด้อ และไม่ใช่กุ้งธรรมดาๆ ด้วยนะ เป็นกุ้งก้ามกรามตัวโตๆ เนื้อแน่นๆ เลยทีเดียวแหละ โดยทางจังหวัดได้นำพันธุ์กุ้งก้ามกรามมาปล่อยในพื้นที่บริเวณเขื่อนลำปาว เพื่อสร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสมากินกุ้งเผาที่นี่ แอดรับรองว่าทั้งขนาดและความสดของกุ้งไม่แพ้กุ้งแม่น้ำที่อยุธยาแน่นอน แต่สำหรับพวกเราจะให้ไปนั่งรอกินกันแบบธรรมดาๆ ก็กระไรอยู่..มา Go Local กันที่ชุมชนบ้านท่าเรือภูสิงห์ทั้งที ก็ต้องลองย่างกุ้งด้วยตัวเองสิ ก่อนเดินทางแอดแนะนำให้ติดต่อจองคิวกันล่วงหน้า เนื่องจากกุ้งแม่น้ำจะมีเยอะที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ส่วนช่วงฤดูอื่นๆ สามารถสอบถามได้ที่☎ คุณไก่ (ผู้ใหญ่บ้านท่าเรือภูสิงห์) โทร.098 532 2258, 096 719 8243☎ ปลัดตั้ง โทร.095 987 4698 นอกจากกุ้งและปลาสดๆ แล้ว ที่นี่ยังมีเมนูอื่นๆ อย่างส้มตำปลาร้าแซ่บๆ ปลาส้มใบตองมัดตอกโบราณย่าง ทอดมันปลากราย ปลาเนื้ออ่อนทอด ปลาส้ม แจ่วบอง ปลาตากแห้ง ฯลฯ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์แปรรูปฝีมือพี่ๆ กลุ่มแม่บ้านท่าเรือภูสิงห์นั่นเอง สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ แอดแอบกระซิบดังๆ ว่า อาหารที่นี่ราคามิตรภาพสุดๆ กุ้งก้ามกรามที่เขื่อนลำปาวมีขายกันตลอดทั้งปี ถ้าเพื่อนๆ ไม่สะดวกเข้าไปทานที่ชุมชน ก็สามารถไปหากุ้งทานกันได้ที่บริเวณใกล้ๆ สะพานเทพสุดา (สะพานข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว) โดยจะมีร้านอาหารเป็นแพริมน้ำให้เลือกอยู่หลายร้าน เรียกได้ว่าฟินทั้งกุ้งเผาสดๆ และบรรยากาศสุด exclusive สวนปันบุญ ออร์แกนิคฟาร์ม เป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์ ที่สามารถเข้าไปดูได้ทั้งวิธีการปลูกผัก ปลูกข้าว และเลี้ยงไก่ ผักของที่นี่ปลูกตามฤดูกาล อย่างช่วงหน้าฝนแบบนี้ ผักส่วนใหญ่จะเป็นผักชี ต้นหอม ผักกวางตุ้ง ขึ้นฉ่าย ผักบุ้ง สลัดคอส กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรียกได้ว่ามีผักสดๆ ทานตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน ข้าวที่ปลูก จะเป็นข้าวแดง มะลินิลสุรินทร์ แอดลองชิมแล้ว ทั้งหอม นุ่ม และอร่อยสุดๆ และสุดท้าย ไก่ไข่ของที่สวนปันบุญใหญ่เป็นพิเศษ เพราะเลี้ยงไก่อย่างดี ทำให้ไก่อารมณ์ดีและออกไข่ใบโต ใครที่สนใจอยากจะเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ สามารถมาที่สวนปันบุญได้เลยค่ะ ที่นี่จะให้ความรู้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การทำปุ๋ยหมักจากใบไม้ และการทำจุลินทรีย์คืนความสาวให้ผักสดกรอบ Sing Farm Coffee Roaster ร้านกาแฟเล็กๆ สุดฮิป ที่มีโรงคั่วกาแฟอยู่ภายในร้าน คั่วกาแฟกันสดๆ โดยเมล็ดกาแฟที่นำมาใช้ ได้มาจากการปลูกและเก็ฐเกี่ยวผลผลิตเองที่ไร่ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย เมนูแนะนำ อเมริกาโน่ สเปเชียล เทคนิคในการดื่มคือ ค่อยๆ ชิมให้ได้ 3 ระดับ กาแฟจะมีความหอมและหวานขึ้นเรื่อยๆ  นอกจากนี้ทางร้านยังมีกาแฟอีกหลากหลายเมนู ที่รอให้นักชิมทุกท่าน ได้มาดื่มด่ำรสชาติกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ Minibox Café คาเฟ่น้องใหม่สไตล์เรโทร มีตู้คอนเทนเนอร์หลากสีโดดเด่นสะดุดตา ภายในร้านตกแต่งด้วยโมเดลรถและมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ มากมาย ร้านมี 2 ชั้น มีโซนห้องแอร์และโซนด้านนอก จิบกาแฟรับลมชิลๆ ได้สบาย ทางร้านใช้กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนที่แอดไปถือว่าโชคดีมาก เพราะเจ้าของร้านได้สาธิตวิธีชงกาแฟแบบ Syphon และ Mokapot ให้ดูด้วย ☕ การชงกาแฟแบบ Syphon เป็นการชงแบบสุญญากาศ รสชาติที่ได้ จะเป็นกาแฟดำ หอม เข้มสะใจ ☕ การชงกาแฟแบบ Mokapot เป็นการใช้แรงดันน้ำที่เดือดจัด กลั่นกาแฟออกมา จะได้กาแฟรสเข้ม และหอม แต่จะเบาบางกว่าการชงแบบ Syphon ใครที่อยากลองมาชิมกาแฟแบบต่างๆ และเรียนรู้วิธีการชงกาแฟ สามารถมาที่ร้านได้เลยค่ะ เจ้าของร้านใจดี ยินดีตอบทุกคำถาม  ฮุ่งเฮือง Hung Huang OTOP Life Style ถ้าเพื่อนๆ มองหาของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน แอดแนะนำให้ลองแวะมาที่ ฮุ่งเฮือง Hung Huang OTOP Life Style อ.กมลาไสย ตรงข้ามสถานีตำรวจอำเภอกมลาไสย Hung Huang OTOP Life Style เป็นศูนย์ส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในชุมชน ของฝากของที่ระลึกของที่นี่เก๋ไก๋สไลเดอร์ โดนใจวัยรุ่นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาและหมอนไดโนเสาร์ เสื้อผ้า เสื้อคลุม พวงกุญแจ เครื่องปั้นดินเผา ของตกแต่งบ้าน รวมไปถึงกระเป๋าถือสำหรับคุณผู้หญิง  ร้านแตงอาหารเช้า เป็นอีกร้านหนึ่งที่ต้องแวะมาชิม ร้านนี้เปิดมานานกว่า 37 ปีแล้ว รับรองว่าอร่อยแน่นอน  ทางร้านมีต้มเลือดหมู ไข่กระทะ โจ๊ก และเครื่องดื่มสุดคลาสสิก อย่างกาแฟโบราณ ชาโบราณ ให้เลือกทานกัน เมนูแนะนำคือ เซี่ยงจี้เลือดหมู ใครที่ชอบทานเครื่องในต้องห้ามพลาด เพราะเครื่องใน สด สะอาด ไม่มีกลิ่น แถมให้มาแบบชิ้นใหญ่ จุใจ ส่วนน้ำซุปต้มเลือดหมูก็หอม รสชาติกลมกล่อม ตลาดทุ่งนาทอง

Kalasin ฟินอีหลีเด้อ อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวตามคำขวัญ : นครราชสีมา

เที่ยวตามคำขวัญ : นครราชสีมา “เมืองหญิงกล้า” ท้าวสุรนารีมีนามเดิมว่า คุณหญิงโม เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา เมื่อ พ.ศ.2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช คุณหญิงโมได้รวบรวมชาวบ้านเข้าสู้รบและต่อต้านกองทัพเจ้าอนุวงศ์ไม่ให้ยกมาตีกรุงเทพฯ ได้เป็นผลสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็น “ท้าวสุรนารี”  ในเวลาต่อมา ย่าโมกลายเป็นสัญลักษณ์ของชาวโคราช จึงเป็นที่มาของอีกชื่อที่เรียกขานนครราชสีมาว่า “เมืองย่าโม” นั่นเอง  อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของท้าวสุรนารี วีรสตรีไทยผู้อยู่ในหัวใจของชาวโคราชทุกคน ทุกปีในวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน จะมีการจัดงานวันฉลองชัยชนะของท้าวสุรนารี ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาร่วมงานอันยิ่งใหญ่นี้ได้ พิกัด : https://goo.gl/maps/ztHWmetefzJ2 “ผ้าไหมดี” ผ้าไหมโคราชนั้นไม่เป็นสองรองใคร อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เป็นอำเภอหนึ่งที่เป็นแหล่งผลิตผ้าไหมและผลิตผลจากรังไหมที่มีชื่อเสียงมากในภาคอีสาน  ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงมีร้านผ้าไหมมากมาย และมีหลายเนื้อผ้าให้เลือก ทั้งผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมพิมพ์ลาย ผ้าไหมหางกระรอก และผ้าพื้น ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด นับเป็นภูมิปัญญาของชาวปักธงชัยที่ได้รับความนิยม จนสามารถส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้ในปริมาณมาก ช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีการจัดงานผ้าไหมปักธงชัยและของดีเมืองโคราช ภายในงานมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการออกร้านจำหน่ายผ้าไหม การประกวดธิดาผ้าไหม การแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไหม การออกร้านผลิตภัณฑ์ของดีปักธงชัยและของดีเมืองโคราช การประกวดผ้าไหมประเภทต่างๆ และการแสดงดนตรี เป็นต้น “หมี่โคราช” หมี่โคราช หนึ่งในเมนูสุดขึ้นชื่อ ที่เมื่อมาโคราชก็ต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก หมี่โคราชนั้นหน้าตาอาจจะดูคล้ายกับผัดไทย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ ผัดไทยใช้เส้นเล็กหรือเส้นจันท์ในการผัด และใส่เครื่องเยอะกว่า  ส่วนหมี่โคราชจะใช้เส้นที่เรียกว่า เส้นหมี่โคราช และจะไม่ใส่ไข่ กุ้งแห้ง ถั่ว และเต้าหู้ แบบผัดไทย นอกจากนี้ความโดดเด่นของหมี่โคราชที่ไม่เหมือนใครก็คือ ตัวเส้นที่นุ่มเหนียว ไม่แฉะ และรสชาติที่เข้มข้น จัดจ้าน ปัจจุบันเราสามารถหาซื้อหมี่โคราชไปเป็นของฝาก หรือนำกลับไปทำทานเองที่บ้านได้ เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์แบบกึ่งสำเร็จรูปวางขายอยู่ทั่วไปนั่นเอง “ปราสาทหิน” นครราชสีมาเป็นที่ตั้งของปราสาทหินหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ ปราสาทหินพิมาย ปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทยและมีความเกี่ยวข้องกับอาณาจักรขอมโบราณ ปราสาทหินพิมาย เป็นพุทธสถานในนิกายมหายานที่ตั้งอยู่กลางเมืองพิมาย มีลักษณะพิเศษคือ สร้างหันหน้าไปทางทิศใต้ ต่างจากปราสาทหลังอื่นที่มักหันหน้าไปทางทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าเพื่อให้รับกับเส้นทางที่ตัดมาจากเมืองพระนคร เมืองหลวงของอาณาจักรขอมนั่นเอง อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เปิดทุกวัน เวลา 07.30 – 18.00 น.ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างประเทศ 100 บาท (มีบริการนำชมฟรีจากนักเรียนโรงเรียนพิมายวิทยา) พิกัด : https://goo.gl/maps/EzfLeNjHsF92 “ดินด่านเกวียน” บ้านด่านเกวียน อำเภอโชคชัย เป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่ความแข็งแกร่ง ทนทาน และพื้นผิวที่มีความมันวาวสวยงามไม่เหมือนที่ไหน เพราะดินที่ชาวด่านเกวียนนำมาใช้ในการปั้นนั้นเป็นดินเนื้อละเอียดที่มีแร่เหล็กและแร่ธาตุอื่นๆ เจือปน  เมื่อผ่านการเผาด้วยความร้อนสูง แร่เหล็กและแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นส่วนผสมในดินจะหลอมละลายและเคลือบผิวภาชนะ จนทำให้ได้ชิ้นงานที่มีสีดำมัน สีน้ำตาลแดง หรือสีเลือดปลาไหล ซึ่งเป็นสีที่ได้รับความนิยมว่าสวยที่สุด นอกจากนี้เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนยังมีความน่าสนใจอยู่ที่ มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่แปลกใหม่อยู่เสมอ

เที่ยวตามคำขวัญ : นครราชสีมา อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top