สถานที่ท่องเที่ยว

ไปลำปาง แอ่ววัดเชียงราย

ตามประวัติกล่าวว่า วัดเชียงรายสร้างขึ้นราว พ.ศ.2200 โดยเจ้าชมภู หรือพระยาชมภู บุตรชายของเจ้าพระยามหาโยธา (เจ่ง คชเสนี) ที่อพยพจากเมืองเชียงแสนมาอยู่ที่ลำปางพร้อมครอบครัว และต่อมาได้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อรำลึกถึงเมืองเชียงรายที่จากมานั่นเองค่ะ วัดเชียงรายได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ.2552 แล้วเสร็จใน พ.ศ.2555 โดยได้มีการสร้างกำแพงวัดขึ้นใหม่ให้เป็นกำแพงเตี้ยๆ เพื่อเปิดให้เห็นบริเวณวัดที่ได้รับการปรับภูมิทัศน์ให้ดูสวยงาม สะอาด และร่มรื่นอีกด้วย ภายในวัดโดดเด่นด้วยวิหารสีขาวที่ประดับลวดลายปูนปั้นและกระจกชิ้นเล็กๆ อย่างวิจิตรงดงาม ด้านหน้าวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนา รายล้อมไปด้วยเจดีย์ 12 นักษัตร ที่จำลองมาไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้มาสักการะโดยสะดวก นับว่าวัดเชียงรายนั้นเป็นวัดที่สวยงามมากๆ อีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นในยามเช้าที่สีขาวของวิหารตัดกับสีครามสดใสของท้องฟ้า… …หรือจะเป็นยามเย็นที่มีการประดับประดาไฟหลากสีสัน ก็ดูสวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ นอกจากวิหารที่งดงามแล้ว ภายในวัดแห่งนี้ก็ยังมีพระพุทธรูปทรงเครื่องสีขาวองค์ใหญ่ และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่สวยงามและน่าสนใจอีกมากมาย .ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสไปลำปาง ก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวชมวัดเชียงรายกันนะคะ

ไปลำปาง แอ่ววัดเชียงราย อ่านเพิ่มเติม

วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน

วัดพระธาตุดอยกองมู เปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งศรัทธาของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเป็นสถานที่ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างเต็มตาอีกด้วย ตามประวัติกล่าวกันว่า วัดพระธาตุดอยกองมูสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2403 โดยนายจองต่องสู่และภรรยาได้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้นเพื่อบรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า  ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ.2417 โดยพญาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นวัดสำคัญประจำเมืองแม่ฮ่องสอน เดิมเรียกว่าวัดปลายดอย ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น วัดพระธาตุดอยกองมู ตามชื่อของสถานที่ตั้งวัด การไหว้พระธาตุดอยกองมู สามารถใช้เครื่องสักการะที่ทางวัดจัดไว้ให้ด้วยความหมายอันเป็นมงคล โดยทำบุญเข้าวัดตามศรัทธา จากนั้นเดินเวียนขวารอบพระธาตุ 3 รอบ เสร็จแล้วนำพานดอกไม้ธูปเทียนไปวางไว้ เพื่อสักการะพระประจำวันเกิดซึ่งประดิษฐานอยู่รอบเจดีย์ เชื่อกันว่าหากได้มาสักการะพระธาตุดอยกองมู จะช่วยให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และเสริมโชคชะตาราศีแก่ตนเองและครอบครัวให้มีชีวิตที่รุ่งเรืองในภายภาคหน้า จากวัดพระธาตุดอยกองมู สามารถมองเห็นภูมิประเทศและตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างสวยงามชัดเจน ซึ่งผู้ที่มาที่วัดนี้ นอกจากจะมาทำบุญแล้ว ยังนิยมขึ้นมาชมวิวอีกด้วย นอกจากนี้ที่วัดนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญประจำปีต่างๆ ของจังหวัด เช่น วันปีใหม่ วันสงกรานต์ และวันออกพรรษาที่จะมีการตักบาตรดาวดึงส์ อันเป็นประเพณีที่น่าสนใจของแม่ฮ่องสอน วัดพระธาตุดอยกองมูเปิดทุกวันตั้งแต่ 06.00 – 18.00 น. การเดินทางจากอนุสาวรีย์พญาสิงหนาทราชา ให้ขับตรงไปอีกประมาณ 150 เมตร สังเกตป้ายพระธาตุดอยกองมูทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป จะเป็นทางลาดยางขึ้นเขาไปอีก 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณวัด พิกัด : https://goo.gl/maps/QUP1ZaK1zsN2

วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน อ่านเพิ่มเติม

KIN Cafe Lampang

มาแอ่วลำปางทั้งทีแอดก็จะไม่พลาดร้านคาเฟ่ชิคๆ อย่าง Kin Cafe  ร้านอาหารบรรยากาศญี่ปุ่นสไตล์มินิมอล คุมโทนและแปลกตาด้วยลวดลายชามเซรามิกที่ไม่เหมือนใคร รสชาติอาหารและขนมก็ยังเลิศอีกด้วย สิบ สิบ สิบ ไปเลยจ้า กิมมิกของร้านที่สะดุดตาตั้งแต่ก้าวเข้ามา จานชามเซรามิกหลากหลายลวดลายในโทนขาวและน้ำเงิน ถูกนำมาตกแต่งโดยแขวนห้อยลงมาจากเพดานและประดับตามผนังของร้าน เข้ากันดีกับบรรยากาศภายในร้านไม่ว่าจะเป็นไฟหรือสีของผนัง ร้านมีขนาดใหญ่ปานกลาง 2 คูหา แบ่งออกเป็น 2 ชั้น มีที่นั่งให้เลือกหลากหลายทั้งแบบโต๊ะและเคาน์เตอร์บาร อาการหิวเริ่มมาก็ขอเริ่มที่ของคาวก่อน กับเมนูสปาเกตตีครีมซอสไข่กุ้ง เมนูนี้เด็ดมาก เกลี้ยงจานจ้าพูดเลย ไข่กุ้งจัดเต็มมาพร้อมกับกุ้งเป็นตัวๆ  จัดของคาวไปแล้ว ก็มาขนมและเครื่องดื่มกันต่อ…มัทฉะเย็น อร่อยกลมกล่อม หอมมัทฉะ ฮอกไกโดชีสเค้ก ตัวเค้กนุ่มละมุน ดีงามมาก แนะนำว่าต้องสั่งนะ  ช็อกโกแลตปั่น ราดด้วยวิปครีมฟูนุ่ม เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบหวานเกินไป ช็อกโกแลตลาวาร้อนๆ พร้อมระเบิดแล้ว เมนูขนมสุดท้าย บอกเลยว่าแอดกินคลีนมาก ไม่หลงเหลืออะไรเลยจ้า คงไม่ต้องสงสัยว่าอร่อยมากแค่ไหน ตรงนี้เป็นโซนเคาน์เตอร์บาร์ นั่งชิลๆ ขึ้นมาชั้นบนเป็นโต๊ะกลมนั่งพื้นแบบญี่ปุ่น กับโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้ ได้บรรยากาศอบอุ่นไปอีกแบบ Kin Cafe’ Lampangที่ตั้ง : 199/13-14 ถนนพหลโยธิน ตำบลหัวเวียง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (ตรงข้ามวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง)เปิดทุกวัน – วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.00 – 21.00 น. – วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 21.00 น.โทร.093 251 5353พิกัด : https://goo.gl/maps/EANCRMAt8Hs

KIN Cafe Lampang อ่านเพิ่มเติม

5 จุดดูหมอกสุด FIN IN CHIANGRAI

ยามเมื่อสายลมหนาวพัดมาเยือน จุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้สำหรับคนชอบเที่ยว คือ จุดชมทะเลหมอก  เชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของไทย มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว สามารถพบเห็นทะเลหมอกตามเทือกดอยต่าง ๆ ซึ่งมีให้ได้เที่ยวชมกันอยู่หลายจุด รีวิวนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จัก 5 จุดชมทะเลหมอกที่น่าสนใจของเชียงราย รับรองว่าหากได้ไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตาตัวเองแล้วนั้น จะต้องร้องว้าว!! ไม่ผิดหวังกันแน่นอน 1. ภูชี้ฟ้า ที่ตั้ง : ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นภูเขาที่มียอดแหลมชี้เฉียงขึ้นฟ้าและยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูชี้ฟ้า” บนยอดภูเป็นทุ่งหญ้ากว้างและแนวหน้าผา สามารถชมทัศนียภาพได้โดยรอบ 360 องศา ทั้งทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  หากมาเที่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะพบดอกเสี้ยวขาวหรือดอกชงโคป่าบานสะพรั่งให้ได้ชมด้วย การขึ้นภูชี้ฟ้าแนะนำให้ติดต่อกับที่พักในหมู่บ้านด้านล่างที่เป็นทางขึ้นภู เช่น บ้านร่มฟ้าไทย บ้านร่มฟ้าทอง เพื่อเช่ารถกระบะรับ-ส่งขึ้นไปยังจุดเริ่มเดิน ซึ่งรถจะให้บริการตั้งแต่เวลา 04.30 น. เป็นต้นไป ค่ารถคนละ 60 บาท ใช้เวลา 10 นาที ก็จะถึงจุดเริ่มเดิน จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูชี้ฟ้า ระยะทางประมาณ 800 เมตร  การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงราย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 (เชียงราย-เทิง) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1021 (เทิง-บ้านปี้) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 ผ่านบ้านปางค่า จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1093 จนถึงภูชี้ฟ้า 2. ภูชี้ดาว ที่ตั้ง : ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ระหว่างภูชี้ฟ้าและดอยผาตั้ง บริเวณยอดเขามีลักษณะเป็นปลายแหลมชี้เฉียงขึ้นฟ้าจึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูชี้ดาว” สามารถชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้ในจุดเดียวกัน ทั้งยังมองเห็นภูชี้ฟ้า ภูชี้เดือน และดอยผาหม่น ได้อย่างชัดเจน ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของภูชี้ดาว คือ มีหมุดหลักเขตแดนไทย-ลาว ตั้งอยู่บริเวณจุดสูงสุดบนยอดภู และมีระเบียงไม้กันตกกั้นเป็นแนวยาวสำหรับชมวิวด้วย ที่นี่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี การขึ้นภูชี้ดาว จากถนนสายหลักคือทางหลวงหมายเลข 1093 ไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ เนื่องจากถนนแคบและที่จอดรถด้านบนไม่เพียงพอ ต้องจอดรถส่วนตัวไว้บริเวณลานที่จัดไว้ให้ และใช้บริการรถกระบะของชาวบ้านขึ้นไปยังจุดเริ่มเดิน มีรถให้บริการตั้งแต่เวลา 04.30 น. เป็นต้นไป ค่ารถไป-กลับ คนละ 100 บาท ใช้เวลา 10 นาที ก็ถึงจุดเริ่มเดิน จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูชี้ดาว ระยะทาง 350 เมตร  สำหรับที่พักใกล้ภูชี้ดาวนั้น มีที่พักของเอกชนตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1093 บริเวณลานจอดรถขึ้นภูชี้ดาว และมีร้านอาหารให้บริการด้วย การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงราย ใช้เส้นทางเดียวกับไปภูชี้ฟ้า ไปจนถึงทางหลวงหมายเลข 1093 ให้เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางไปดอยผาตั้ง จนถึงบ้านร่มโพธิ์เงิน จะพบถนนทางขึ้นภูชี้ดาวอยู่ขวามือ 3. ภูชี้เดือนที่ตั้ง : ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย อยู่ห่างจากภูชี้ดาวเพียง 1 กิโลเมตร ความโดดเด่นของภูชี้เดือนคือ จากบริเวณจุดชมวิว นอกจากจะได้ชมทั้งพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก และพระอาทิตย์ตกแล้ว หากมองไปทางขวาจะเห็นยอดภูชี้ฟ้าและภูชี้ดาว ส่วนทางซ้ายจะเห็นยอดดอยผาหม่นได้อย่างชัดเจน  การเดินเท้าจากลานจอดรถขึ้นมายังจุดชมวิวก็สะดวกมาก เพราะเดินขึ้นเนินที่ไม่ชันเพียง 50 เมตรเท่านั้น สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี การขึ้นภูชี้เดือนนั้นมีขั้นตอนเหมือนการขึ้นภูชี้ดาวคือ จากทางหลวงหมายเลข 1093 ไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ ต้องจอดรถส่วนตัวไว้บริเวณลานที่จัดไว้ให้ และใช้บริการรถกระบะของชาวบ้านขึ้นไปยังจุดเริ่มเดิน มีรถให้บริการตั้งแต่เวลา 04.30 น. เป็นต้นไป ค่ารถไป-กลับ คนละ 100 บาท ใช้เวลา 10 นาที ก็ถึงจุดเริ่มเดิน จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิว ระยะทางเพียง 50 เมตร 4. ดอยผาตั้ง ที่ตั้ง : ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นแนวเขาคดเคี้ยว บนยอดดอยเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้า ท่ามกลางทิวเขาสลับซับซ้อน และยังมองเห็นแม่น้ำโขงซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างไทย-ลาว นอกจากนี้ยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกในเวลาเย็นได้เช่นกันที่นี่เปิดให้ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  จากลานจอดรถ ต้องเดินเท้าเลียบเลาะไปตามแนวสันเขาระยะทาง 200 เมตร จะถึงจุดชมวิวจุดแรก คือ “ผาบ่องประตูสยาม” ตามด้วย “ศาลาเก๋งจีน” “ช่องผาขาด” “เนิน 102” และไกลสุดคือ “เนิน 103” ซึ่งห่างจากลานจอดรถประมาณ 1 กิโลเมตร หากมาเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ก็จะได้เห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งสวยงามไปทั่วทั้งดอยผาตั้งด้วย บริเวณทางขึ้นไปจุดชมวิวดอยผาตั้ง มีที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกให้บริการมากมาย  การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงราย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1233 (เชียงราย-เวียงชัย) และทางหลวงหมายเลข 1173 (เวียงชัย-พญาเม็งราย) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1152 (พญาเม็งราย-บ้านต้า) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 (บ้านต้า-บ้านท่าเจริญ) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1155 (บ้านท่าเจริญ-เวียงแก่น-ปางหัด) และทางหลวงชนบท ชร. 4029 จนถึงดอยผาตั้ง 5. จุดชมวิวดอยช้างมูบที่ตั้ง : ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จุดชมวิวดอยช้างมูบตั้งอยู่ที่ “ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ” ในพื้นที่กองร้อยทหารม้าที่ 2 บนความสูง 1,485 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง  เป็นจุดชมวิวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ใกล้แนวเขตชายแดนไทย-เมียนมา ในยามเช้ามักพบทะเลหมอกปกคลุมหุบเขาเบื้องล่าง และมีสายลมเย็นพัดผ่านตลอดทั้งปี บริเวณจุดชมวิวยังมีแปลงไม้ดอกไม้ประดับเล็ก ๆ ให้ถ่ายรูปด้วย บริเวณจุดชมวิวสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ แต่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งเป็นผู้ดูแลฐานปฏิบัติการ หรือหากใครพักบริเวณดอยตุง ก็สามารถขึ้นมาชมทะเลหมอกยามเช้าของที่นี่ได้

5 จุดดูหมอกสุด FIN IN CHIANGRAI อ่านเพิ่มเติม

Yelo Cafe Bangkok

YELO Cafe  – ที่ตั้ง : 20/2 ซอยเกษมสันต์ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ – เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 22.00 น. – โทร. 095 956 6926 . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .  จากโกดังโรงพิมพ์เก่ากลายมาเป็นคอมมูนิตี้ที่ให้ผู้คนได้มาพบปะกัน และเป็นแกลเลอรีแสดงงานศิลปะ ในนาม YELO House ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมรวมทั้งเวิร์คช็อปต่างๆ ที่น่าสนใจหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่แห่งจินตนาการและงานสร้างสรรค์ทางศิลปะ มาที่นี่ได้ทั้งชื่นชมงานศิลป์และอิ่มอร่อยกับคาเฟ่ ครบเลย  ภายในร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นจุดสั่งอาหารและเครื่องดื่ม ตกแต่งแบบวินเทจผสมโมเดิร์นเท่ๆ ด้วยผนังสีเหลืองตัดกับสีขาว และมีกระจกใสที่สามารถมองเห็นเรือแล่นผ่านและสตรีทอาร์ตเท่ๆ ตามทางเดินเลียบริมคลองได้ เป็นมุมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ต้องถ่ายภาพเก็บไว้เลยล่ะ  ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ YELO Cafe ที่นี่มีอาหารหลากหลาย รวมไปถึงของหวานและเครื่องดื่มอีกด้วย รับรองอิ่มท้องแน่ๆ  แอดสั่ง Yuzu Sparkling Soda เป็นเนื้อส้มยูซุผสมกับโซดา คนให้เข้ากันแล้วดื่ม มีเนื้อส้มเป็นเกล็ดๆ ให้ได้เคี้ยว และได้รสชาติเปรี้ยวๆ ซาบซ่า สดชื่นเลยทีเดียว ที่ร้านยังรณรงค์เรื่องการลดใช้หลอด การใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบปลอดสาร และการแยกขยะด้วยล่ะ ดีมากๆ เลย นอกจากเมนูโซดาแล้ว เครื่องดื่มแบบอื่นเค้าก็มีนะ แก้วที่สองที่แอดสั่งเป็น โกโก้เย็น รสชาติเข้มข้นกำลังดี ไม่หวานจนเกินไป แอดชอบมากๆ เลย ไปที่ไหนก็ต้องสั่งโกโก้ อะ..อันนี้ส่วนตัวไปหน่อย ถัดมาเป็นขนมหวานบ้างนะ บราวนีไอศกรีมวานิลลา รสชาติเข้ากันได้ดีเลย บราวนีเข้มๆ ทานคู่กับไอศกรีมวานิลลาหวานๆ ดีงามมมมม ว่าแต่เพื่อนๆ เห็นกระดาษรองจานสีขาวนั่นมั้ย เราสามารถวาดรูปหรือเขียนข้อความต่างๆ ลงไปได้ด้วยนะ มีสีเทียนไว้ให้พร้อม เติมเต็มจินตนาการลงไปได้เลย  ชั้นบนของร้านก็มีที่นั่งให้เลือกหลายมุม บรรยากาศจะเงียบกว่าชั้นล่าง และยังได้เห็นวิวเรือแล่นจากมุมสูงด้วยนะ นี่ไงล่ะ จังหวะเรือผ่านมาพอดี หากใครอยากจะมาชิลๆ ที่นี่ การเดินทางก็มากันได้ง่ายๆ เลย รถประจำทางสาย 11, 15, 47, 93 ลงที่ป้ายสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วเดินข้ามถนนมายังซอยเกษมสันต์ 1 รวมระยะทางประมาณ 400 เมตร  รถไฟฟ้า BTSสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออกที่ 3 เข้าซอยเกษมสันต์ 1 เดินตรงมาจนสุดซอยแล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะถึง yelo house รวมระยะทางประมาณ 300 เมตร เรือคลองแสนแสบท่าสะพานหัวช้าง ออกจากท่าเรือ เลี้ยวขวาเข้าซอยเกษมสันต์ 1 เดินตรงมาจนสุดซอยแล้วเลี้ยวขวา ก็จะถึง yelo house รวมระยะทางประมาณ 250 เมตร

Yelo Cafe Bangkok อ่านเพิ่มเติม

ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน และศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี

ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นจุดศูนย์รวมอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีบรรพบุรุษ และหลักปรัชญาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานี. ก่อนจะไปเที่ยวชมศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน เราไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันที่ศาลเจ้าปู่-ย่า ที่อยู่ใกล้ๆ กันก่อน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าปู่-เจ้าย่า นอกจากนี้ยังถือเป็นศาลเจ้าที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ✨แต่งตัวด้วยชุดจีนประยุกต์✨  ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ มีบริการให้เช่าชุดจีนหลายแบบ หลายไซส์ ราคาตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป ใครฝันอยากเป็นฮ่องเต้และฮองเฮา ฝันของคุณเป็นจริงแล้ว เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.โทร. 082 7070 666, 042 242 333, 042 242 444 ขอบคุณรูปภาพจาก ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี ✨เดินเล่นใน “สวนคุณธรรมพันปี 24 กตัญญู” ✨ สวนสไตล์จีนบรรยากศร่มรื่น ที่ตกแต่งด้วยไม้มงคลของจีน เช่น ต้นเครามังกร ต้นหลิว โป๊ยเซียน และต้นไผ่ดำ เป็นต้น มีบ่อปลาคาร์ฟจักรพรรดิ ที่นักท่องเที่ยวสามารถมาให้อาหารปลาได้ นอกจากนี้ รอบๆ สวนยังมีประติมากรรมนูนสูงที่บอกเล่าเรื่องราว ตำนานสุดยอด 24 กตัญญูของแผ่นดินจีน พร้อมคำบรรยายเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของผู้คนที่มาเที่ยวอีกด้วย ชมรูปปั้นหินอ่อนสีหยกขาว รูปปั้นหินอ่อนสีหยกขาวรูปท่านมหาปราชญ์ “ขงจื๊อ” นี้ แกะสลักจากหินที่นำมาจากเมืองชวีฟู่ มณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน บ้านเกิดของท่านขงจื๊อ ซึ่งสภาวัฒนธรรมไทย-จีนได้มอบให้แก่ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ถือเป็นของขวัญจากรัฐบาลจีน  จากนั้นมาการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีนก็ได้ก่อกำเนิดขึ้น โดยมีการประสานความร่วมมือกับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน จนทำให้ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน จังหวัดอุดรธานี กลายเป็นศูนย์รวมและต้นแบบทางด้านวัฒนธรรมจีนในระดับประเทศมาจนทุกวันนี้ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์คุณธรรม พิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 2 ชั้นด้วยกัน ชั้นบนบอกเล่าเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานี วิถีชีวิตในสมัยก่อน รวมถึงประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ ตามความเชื่อของชาวจีน ชั้นล่าง บอกเล่าเรื่องราวของมหาปราชญ์ขงจื๊อ ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของท่าน ไปจนถึงคำสอนและคติเตือนใจที่เราสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตได้

ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน และศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี อ่านเพิ่มเติม

วัดถ้ำผาแด่น ประติมากรรมหินแกะสลักแดนอีสาน

วัดถ้ำผาแด่น ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน บ้านดงน้อย ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับร้อยปี ในอดีตมีพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานหลายท่านมาจำพรรษา และปฏิบัติธรรมที่วัดนี้ เช่น หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นต้น สิ่งแรกที่เราจะเห็นเมื่อมาถึงวัดก็คือ เจดีย์ขนาดเล็กสีทองที่สร้างอยู่บนก้อนหิน เหนือหน้าผาหินขนาดใหญ่ ด้านล่างล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ดอกไม้ต่างๆ เปรียบได้กับเขาพระสุเมรุ ภูเขาที่เป็นหลักของโลกและจักรวาล ตามคติความเชื่อในพุทธศาสนานั่นเอง บริเวณหน้าผาหินทรายด้านล่างของเจดีย์ เต็มไปด้วยประติมากรรมแกะสลักขนาดใหญ่มากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องในพระพุทธศาสนา อย่างในภาพนี้คือ พระนอนองค์ใหญ่ มีนามว่า “พระพุทธสีหไสยาสน์โลกนาถธาตุภูผาแด่น” นอกจากนี้ยังมีภาพแกะสลักหินทรายเป็นรูปพญาครุฑ ภาพหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ อริยสงฆ์รูปต่างๆ ของไทย รอยพระพุทธบาท และอื่นๆ อีกมากมาย  บริเวณรอบๆ วัดเต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้ ที่จัดวางไว้อย่างลงตัวสวยงาม ร่มรื่น ภายในวัดยังมีจุดชมทิวทัศน์ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา มองเห็นตัวเมืองสกลนครและทะเลสาบหนองหาร มีเก้าอี้ให้นั่งพักรับลมเย็นๆ และมีร้านขายเครื่องดื่มให้บริการ การเดินทางจากอำเภอเมืองสกลนคร ใช้ทางหลวงหมายเลข 213 เส้นทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์ ผ่านสี่แยกบายพาส ตรงไปจะพบสามแยกบ้านศรีวิชา ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบทหมายเลข 2339 ตรงไปจนถึงโรงเรียนบ้านนากับแก้ จะพบสี่แยกเล็กๆ ให้เลี้ยวขวา ตรงไปจนสุดทางจะพบลานจอดรถวัดถ้ำผาแด่น  จากนั้นต้องเปลี่ยนไปใช้บริการรถสองแถวเพื่อขึ้นไปยังวัด ระยะทาง 4 กิโลเมตร ค่าบริการรับ-ส่ง คนละ 20 บาท

วัดถ้ำผาแด่น ประติมากรรมหินแกะสลักแดนอีสาน อ่านเพิ่มเติม

รวมที่พักกับซี้สี่ขา @ พัทยา

ก่อนที่จะไปชมที่พัก แอดก็มีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกัน– สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักกับทางที่พักก่อนล่วงหน้า– เตรียมอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงไปด้วย เช่น พวกผ้าปูต่างๆ เพราะทางที่พักอาจไม่ได้มีเตรียมไว้ให้– รักษาความสะอาดทั้งในห้องพักและรอบๆ ที่พักด้วยนะ Mercure Pattaya Hotel โรงแรมขนาดใหญ่ใจกลางเมืองพัทยา ตั้งอยู่ใกล้ชายหาด walking street และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในที่พักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมทั้งกิจกรรมมากมาย เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส โต๊ะพูล ฯลฯ เหมาะสำหรับพาสัตว์เลี้ยงตัวโปรดมาพักมากๆ เลย ที่ตั้ง : 484 หมู่ 10 ถ.พัทยาสาย 2 ซอย 15 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร : 038 425 050เว็บไซต์ : https://www.mercurepattaya.com/Facebook : https://www.facebook.com/MercureHotelPattayaราคาห้องพัก : 1,700-5,700++ บาทราคาสัตว์เลี่ยง : ตัวละ 500 บาทต่อคืน พักได้ห้องละไม่เกิน 2 ตัว (สัตว์เลี้ยงหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม)พิกัด : https://goo.gl/maps/xf9L6ZBt9Dy ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : คุณหมู โรงแรม Mercure Pattaya The Circle Residence Jomtien ที่พักใกล้หาดจอมเทียน ไม่ไกลจากตัวเมืองพัทยา เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบสถานที่เงียบสงบที่คนไม่พลุกพล่าน ภายในที่พักมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกทั้งยังพร้อมต้อนรับสัตว์เลี้ยงอย่างเป็นกันเองด้วย ที่ตั้ง : 356/64 ถ.จอมเทียนสาย 2 ซ.วัดบุญกาญจนาราม อ.บางละมุง จ.ชลบุรีโทร : 038 231 262, 038 231 264เว็บไซต์ : https://www.thecircleresidence.com/Facebook : https://www.facebook.com/The-Circle-Residence-Jomtien-1317497328359106/Email : circleresidence@gmail.comราคาห้องพัก : 567-1100 บาทราคาสัตว์เลี้ยง : ตัวละ 300 บาทต่อคืน พักได้ห้องละไม่เกิน 2 ตัว (เฉพาะสุนัขหนักไม่เกิน 8 กิโลกรัม)พิกัด : https://goo.gl/maps/npxgEkGnenS2 ขอบคุณภาพจาก : เพจเฟสบุ๊ค The Circle Residence Jomtien The Magnolias Pattaya Boutique Resort รีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในย่านพัทยากลาง ใกล้อ่างเก็บน้ำมาบประชัน เป็นทำเลที่เงียบสงบ บรรยากาศดี มีห้องพักให้เลือกหลากหลาย สำหรับผู้ที่ต้องการนำสัตว์เลี้ยงเข้าพักด้วยนั้น  ทางรีสอร์ทก็มีห้องจูเนียร์สวีทไว้รองรับ เพื่อความสะดวกสบาย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำแบบลากูน รวมทั้งสไลเดอร์เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้แก่ผู้เข้าพักด้วย ที่ตั้ง : 4/6 หมู่ 9 อ่างเก็บน้ำมาบประชัน ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร. : 038 072 070, 086 341 6404, 087 692 8255, 038 072 070เว็บไซต์ : https://www.themagnoliaspattaya.com/Facebook : https://www.facebook.com/themagnoliaspattaya/ราคาห้องพัก : 1200-3500 บาทราคาสัตว์เลี้ยง : ตัวละ 300 บาทต่อคืน (เฉพาะห้องแบบจูเนียร์สวีท)พิกัด : https://goo.gl/maps/FuADeS5p9nC2 ขอบคุณภาพจาก : เพจเฟสบุ๊ค The Magnolias Pattaya Boutique Resort Viking Resort Pattaya รีสอร์ทในตัวเมืองพัทยา อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มากนัก เป็นที่พักราคาประหยัด มีสระว่ายน้ำ ห้องพักก็กว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งยังยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆ ด้วย ที่ตั้ง : 43/5 หมู่ 10 พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีโทร. : 038 423 164, 089 226 8682 : : เว็บไซต์ : https://www.vikingresortpattaya.com/Email : info@ecomthaihotels.comราคาห้องพัก : 1,000-1,400 บาทราคาสัตว์เลี้ยง : สามารถพักได้ห้องละ 1 ตัว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายพิกัด : https://goo.gl/maps/YREuRg58YUm ขอบคุณภาพจาก : Viking Resort Mirabel resort and mini golf Pattaya ที่พักเพื่อคนรักสัตว์และผู้รักกิจกรรม ภายในมีบริเวณกว้างขวางเหมาะสำหรับพาสัตว์เลี้ยงเดินเล่น และยังมีสระว่ายน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ส่วนผู้ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ ที่นี่ก็มีสนามมินิกอล์ฟไว้ให้ได้ประลองฝีมือด้วย ที่ตั้ง : 144/14 หมู่ 8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรีโทร. : 084 149 2186 (อังกฤษ), 081 301 4842

รวมที่พักกับซี้สี่ขา @ พัทยา อ่านเพิ่มเติม

นับดาว จับหมอก บนดอยที่ชื่อมี “ดาว”

ลมหนาวมาถึงแล้ว โดยเฉพาะภาคเหนือที่อุณหภูมิลดลงฮวบๆ อย่างไม่น่าเชื่อ.แอดขอต้อนรับลมหนาวด้วยการพาไปนอนชมดาว ตื่นมาดูทะเลหมอก บนดอยที่ชื่อมีดาว – ภูชี้ดาว– ดอยหลวงเชียงดาว– ภูสอยดาว– ดอยเสมอดาว– ม่อนเคียงดาว 1. ภูชี้ดาว จ.เชียงราย ตั้งอยู่ในอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ใกล้ๆ กับภูชี้ฟ้าและดอยผาตั้ง สาเหตุที่ชื่อภูชี้ดาว เพราะยอดเขาเป็นปลายแหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้านั่นเอง – การเดินทางไปภูชี้ดาวไม่ยากอย่างที่คิด เส้นทางไปภูชี้ดาวอยู่ทางเดียวกับภูชี้ฟ้า จากด้านล่างของภูไปยังจุดจอดรถด้านบน ต้องใช้รถบริการท้องถิ่นเท่านั้น เพราะทางค่อนข้างลาดชัน (ค่ารถไปกลับ คนละ 70 บาท สามารถติดต่อรถได้ที่รีสอร์ทใกล้ภูชี้ดาว) เมื่อถึงจุดจอดรถด้านบนแล้ว ต้องเดินเท้าไปยังยอดภูชี้ดาวประมาณ 300 เมตร ภูชี้ดาว ที่ตั้ง : ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงรายพิกัด : https://goo.gl/maps/CX44Cwk6aN32องค์การบริหารส่วนตำบลปอ โทร. 053 602 742, 053 602 743 ………………………………………………  2. ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีความสูง 2,225 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง เป็นดอยที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายเดินป่า เพราะเส้นทางค่อนข้างสูงชัน ต้องใช้เวลาเดินประมาณ 7-8 ชั่วโมง เพื่อขึ้นไปถึงยอดดอย วิธีการจองขึ้นดอย มีอยู่ 2 แบบ 1. จองผ่านเว็บไซต์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว http://chiangdao-wildlife.com/สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 053 456 623 หรือ facebook เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ การจองผ่านเจ้าหน้าที่ ต้องเตรียมสัมภาระส่วนตัวและส่วนรวมไปเอง ส่วนเรื่องลูกหาบและรถ 4WD สามารถติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ได้ 2. ทัวร์ท้องถิ่นเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับคนที่จองกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวไม่ทัน มีตัวเลือกมากมาย เช่น – Chiang Dao Camping– ลุงแกละแปดริ้ว โทร.081 993 8397– Ashi Guesthouse ChiangDao การเดินทางจากกรุงเทพ นั่งรถโดยสารสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มาลงที่ขนส่งช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นนั่งรถสายเชียงใหม่-ท่าตอน ไปลงที่ตัวอำเภอเชียงดาว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง-2 ชั่วโมง แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถ 4WD เพื่อเดินทางต่อไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ซึ่งเราจะต้องนัดกับคนขับรถเองว่าจะเจอกันตรงจุดไหน.ดอยหลวงเชียงดาวที่ตั้ง : ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่พิกัด :https://goo.gl/maps/BM8EUXthYDQ2เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว โทร. 053 456 623 ………………………………………………  3. ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ ตั้งอยู่ในอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศ โดยยอดสูงสุดของภูสอยดาวมีความสูง 2,102 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ช่วงหน้าหนาวแบบนี้ (เดือนพฤศจิกายน-มกราคม) เราสามารถเดินขึ้นไปถึงลานสน เพื่อไปดูดาว ดูดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ และใบเมเปิลที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง  รวมทั้งยังสามารถเดินขึ้นสู่ยอดสูงสุดของภูสอยดาวได้ จากจุดเริ่มเดินถึงลานสนสามใบ ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร จากลานสนไปถึงยอดภูสอยดาว ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร โดยจุดนี้ต้องปีนหน้าผา ไต่สลิงขึ้นไป ถือเป็นการทดสอบความกล้าของตัวเองก็ว่าได้ การเดินทางจากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก มาลงที่จังหวัดพิษณุโลก จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถรับจ้างเหมาไปยังอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว  อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวที่ตั้ง : ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์พิกัด : https://goo.gl/maps/Z1NAyY31v4T2เปิดให้เดินขึ้นเขา เวลา 08.00 – 14.00 น.โทร. 095 629 9528, 095 024 7633, 091 024 7633 ………………………………………………  4. ดอยเสมอดาว จ.น่าน ตั้งอยู่ในอำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ขึ้นชื่อในเรื่องของวิวที่สวยงามและเป็นสถานที่ที่มองเห็นดาวเยอะไม่แพ้ดอยอื่นๆ ดอยนี้ไม่ต้องปีนป่ายเขาให้เหนื่อยก็สามารถใกล้ชิดกับทะเลหมอกและทะเลดาวได้ นักท่องเที่ยวสามารถนำรถเข้าไปจอดบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีน่านได้ ที่นี่มีจุดกางเต็นท์อยู่ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ สะดวกมากๆ  การเดินทางจากกรุงเทพ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต สายกรุงเทพฯ-เวียงสา มาลงที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เพื่อนั่งรถประจำทางท้องถิ่นต่อไปยังอำเภอนาน้อย จากนั้นสามารถติดต่อรถรับจ้างหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างของชาวบ้าน เพื่อขึ้นไปยังดอยเสมอดาวได้เลย.ดอยเสมอดาวที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ต.ศรีษะเกษ อ.นาน้อย จ.น่านพิกัด : https://goo.gl/maps/Ya3oE6tULZ42โทร. 093 242 2914, 054 731 714 ………………………………………………  5. ม่อนเคียงดาว จ.น่าน ตั้งอยู่ในอำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน อยู่ห่างจากดอยเสมอดาวประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นแห่งใหม่ของอำเภอนาน้อย  จุดเด่นของที่นี่คือมีระเบียงไม้ไผ่ยื่นออกไปตรงเชิงเขา ทำให้ได้ใกล้ชิดกับสายหมอกมากขึ้น แถมถ่ายรูปออกมาสวยสุดๆ บริเวณม่อนเคียงดาวมีบ้านพักหลักร้อยให้บริการ ทั้งแบบกระท่อมไม้ไผ่ บ้านพักกระโจม เต็นท์ให้เช่า โดยบ้านพักเหล่านี้จะเปิดให้พักแค่ช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์เท่านั้น ม่อนเคียงดาวที่ตั้ง : ต.ศรีสะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน พิกัด : https://goo.gl/maps/Hr3GQa1YMcrโทร. 064 248 4131

นับดาว จับหมอก บนดอยที่ชื่อมี “ดาว” อ่านเพิ่มเติม

Viewpoint “ดอยผาตั้ง”

เพื่อนๆ เคยเป็นมั้ยคะ? เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวทีไร สถานที่ท่องเที่ยวที่นึกถึงมักจะหนีไม่พ้นภูเขาสักที วันนี้แอดจึงจะมาชวนเพื่อนๆ ไปสัมผัสอากาศหนาวบนภูเขากันที่ “ดอยผาตั้ง” ค่ะ รับรองว่าฟินสุดๆ  เพราะเพื่อนๆ สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศามีทั้งทะเลหมอกในยามเช้าและพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ที่ บ้านผาตั้ง หมู่ 14 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายhttps://goo.gl/maps/VWvwLRfAXJ22 เนื่องจาก “ดอยผาตั้ง” มีลักษณะเป็นสันเขาคดเคี้ยว จึงทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงาม และดูแปลกตากว่าที่อื่นๆ ค่ะ ดอยผาตั้ง เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียวค่ะ  สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบบรรยากาศในยามเช้า ก็จะได้สัมผัสกับทะเลหมอก ที่งดงามสุดอลังการ แต่ถ้าใครชื่นชอบบรรยากาศในยามเย็น ก็จะได้พบกับพระอาทิตย์อัสดง ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยค่ะ เพื่อนๆ เคยสงสัยมั้ยคะ ว่าทำไมสถานที่เดียวกันแต่ต่างเพียงช่วงเวลา จึงสามารถทำให้เราพบกับมุมมองใหม่ๆ ที่สวยงามได้  คำตอบของคำถามนี้ไม่สามารถนำอะไรมาวัดหรือกำหนดได้ เพราะนี่คือ “ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ” ค่ะ  นอกจากจุดชมวิวบริเวณดอยผาตั้งแล้ว เพื่อนๆ ยังสามารถท่องเที่ยวตามจุดชมวิวอื่นๆ บนดอยผาตั้งได้อีกด้วยนะคะ ซึ่งก็มีความสวยงามและน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ จุดชมวิวผาบ่องประตูสยาม มีลักษณะเป็นหน้าผาขนาดใหญ่ ตรงกลางมีช่องเขาเหมือนประตู  ตามตำนานว่ากันว่าบริเวณนี้เป็นประตูรักแห่งขุนเขา เต็มไปด้วยพลังรักอันบริสุทธิ์ หากจับมือกับคนรักและเดินก้าวข้ามผ่านไปด้วยกัน จะช่วยส่งเสริมให้ความรักให้แข็งแกร่งดั่งภูผา ฮั่นแน่ แอบสนใจกันอยู่ใช่ม้าาาา  จุดชมวิวช่องผาขาด จุดนี้อยู่ไม่ไม่ไกลจากจุดชมวิวผาบ่องประตูสยามมากนัก มีลักษณะเป็นผาหินที่แยกขาดจากกัน ทำให้สามารถมองลอดผ่านช่องนี้ไปได้ค่ะ  ซึ่งจะทำให้เพื่อนๆ ได้พบกับทิวทัศน์ของประเทศลาว และความสวยงามของแม่น้ำโขงค่ะ  นอกจากจุดชมวิวที่แอดแนะนำมา ก็ยังมีจุดชมวิวอีกหลายจุด ที่คอยให้เพื่อนๆ ได้ออกเดินทางไปสัมผัส และชมความงดงามเหล่านั้นผ่านดวงตาของเพื่อนๆ อยู่นะคะ ลองออกไปสัมผัสดู แล้วจะรู้ว่าเมืองไทยยังมีอะไรที่คาดไม่ถึงและชวนให้เราหลงใหลอีกมากมาย

Viewpoint “ดอยผาตั้ง” อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top