สถานที่ท่องเที่ยว

สรรค์สร้าง สังคโลก

สังคโลก” เป็นชื่อที่ใช้เรียกเครื่องปั้นดินเผาที่ผลิตขึ้นในเขตจังหวัดสุโขทัย ซึ่งถือเป็นสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองรุ่งอรุณแห่งความสุขแห่งนี้  ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถไปลงมือทำกิจกรรม DIY วาดสังคโลกได้ ใครที่อยากมีลายสังคโลกเป็นของตัวเอง แอดแนะนำให้ไปที่สุโขทัยเลย  แอดได้ไปชมการทำสังคโลกที่อุษาสังคโลก ได้เห็นกระบวนการต่างๆ ทั้งการตกแต่งผลิตภัณฑ์ให้มีความสมบูรณ์ก่อนที่จะนำไปเผา และการเขียนลวดลายหลังจากเผาแล้ว สำหรับดินที่นิยมใช้ทำสังคโลกนั้นมีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ ดินสีน้ำตาลจากสุโขทัย และดินขาวจากศรีสัชนาลัย ซึ่งเมื่อเผาแล้วดินสุโขทัยจะให้สีที่เข้มกว่าเล็กน้อย ลายที่เป็นที่นิยมก็คือ ปลา กงจักร และดอกไม้ ซึ่งสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของดินแดนสุโขทัยนั่นเอง ที่อุษาสังคโลก มีกิจกรรม DIY คือการวาดลายสังคโลกด้วยตัวเอง อุปกรณ์ก็จะมี 1. ถ้วยดินเผาที่ผ่านการเผามาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบมีหูและไม่มีหู2. สีเขียนลาย ปกติแล้วจะเป็นสีดำ แต่ถ้าอยากได้สีอื่นๆ เค้าก็เตรียมให้ได้นะ แต่ต้องแจ้งล่วงหน้านิดนึง 3. ดินสอสำหรับร่างแบบ4. พู่กันขนาดต่างๆ สำหรับเขียนลาย เริ่มต้นก็คือ วาดลายที่เราอยากจะวาดลงไปด้วยดินสอ ซึ่งสามารถใส่จินตนาการได้เต็มที่เลย ฮ่าๆๆๆ ถ้ามือลั่นวาดผิดก็ไม่ต้องตกใจ เพราะถ้าเราไม่ใช้สีเขียนลายทับ ลวดลายที่ร่างไว้ด้วยดินสอก็จะหายไปเองตอนที่เผาจ้า เมื่อได้ลายที่เราพอใจแล้ว ก็ใช้พู่กันจุ่มสีแล้วเขียนทับได้ นี่คือผลงานการวาดลายสังคโลกฝีมือแอดและเพื่อนๆ สวยใช่มั้ยล่ะ หลังจากนี้ก็เหลือขั้นตอนสุดท้ายคือการชุบน้ำเคลือบและนำไปเผา ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เมื่อได้ชิ้นงานออกมาเรียบร้อย ทางอุษาสังคโลกก็จะจัดส่งไปให้เราถึงบ้านเลย นอกจากกิจกรรม DIY แล้ว ภายในร้านก็ยังมีเครื่องสังคโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม ถ้วย ช้อน หรือของประดับตกแต่งต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้มาเลือกซื้อจับจองเป็นเจ้าของได้อีกด้วย ได้มาแล้ววว สังคโลกฝีมือแอดเอง ลวดลายอาจจะไม่ได้สวยงามเท่าที่ทางร้านทำขาย แต่นี่ก็เป็นฝีมือของเราเอง มีชิ้นเดียวในโลกนะ 

สรรค์สร้าง สังคโลก อ่านเพิ่มเติม

ชวนคน”ศีลเสมอกัน” ไปเที่ยว”ดอยเสมอดาว”

กิจกรรมที่หลายๆ คนนิยมทำเมื่อไปเยือนดอยเสมอดาวก็คือ การกางเต็นท์นอนนับดาวยามค่ำคืนและชมทะเลหมอกในยามเช้า  หากไปกันเป็นกลุ่มหลายๆ คน กิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ การร้องเพลง เล่นกีต้าร์ กับเพื่อนๆ ค่ะ ซึ่งแอดก็เป็นคนนึงที่ชื่นชอบกิจกรรมนี้มากเป็นพิเศษ เพราะมันทั้งสนุก เพลิดเพลิน และมีความสุขมากๆเลย แต่ต้องระวังไม่ให้เสียงดังรบกวนเต็นท์ข้างเคียงด้วยนะคะ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าดอยเสมอดาวจะไม่ใช่จุดที่สูงที่สุด แต่ก็สามารถมองเห็นดาว⭐ ได้ชัดเจนที่สุดอีกจุดหนึ่งของประเทศไทย หากฟ้าฝนเป็นใจ เพื่อนๆ ก็อาจจะได้เห็นทางช้างเผือกที่โกโบริไปรออังศุมาลินอยู่อีกด้วยค่ะ เป็นที่รู้กันดีว่าทะเลหมอกนั้นต้องชมในฤดูฝนถึงจะสวยที่สุด แต่สำหรับดอยเสมอดาวนั้น เพื่อนๆ สามารถชมทะเลหมอกได้ทุกฤดูค่ะ เพราะที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี  นอกจากกางเต็นท์นอนนับดาวยามค่ำคืน และชมทะเลหมอกยามเช้าแล้ว บนดอยเสมอดาวยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้อีกด้วย เห็นมั้ยละคะว่าดอยเสมอดาวเป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากขนาดไหน สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะไปกางเต็นท์นอนที่ดอยเสมอดาว ทางอุทยานฯ ก็มีเต็นท์พร้อมอุปกรณ์ให้เช่าด้วยค่ะ – เต็นท์สำหรับ 3 คน ราคา 405 บาท – เต็นท์สำหรับ 2 คน ราคา 345 บาท.แต่ถ้านำเต็นท์ไปเอง ทางอุทยานฯ ก็จะเก็บค่าธรรมเนียมคนละ 30 บาทค่ะ

ชวนคน”ศีลเสมอกัน” ไปเที่ยว”ดอยเสมอดาว” อ่านเพิ่มเติม

10 พิกัดแอ่วลำปาง

ไหนใครเคยไปเที่ยวลำปางกันมาแล้วบ้างคะ?  ใครที่มาแอ่วลำปางแล้วไม่ได้มาสักการะพระธาตุที่ “วัดพระธาตุลำปางหลวง” ก็เหมือนมาไม่ถึงลำปางค่ะ เพราะวัดแห่งนี้คือวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปาง มีวิหารเก่าแก่หลายหลัง มีซุ้มประตูโขงที่ประดับลวดลายปูนปั้นงดงาม นอกจากนี้พระธาตุลำปางหลวงยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีฉลู (วัว ถ้าเพื่อนๆ มาลำปางและอยากชื่นชมธรรมชาติในบรรยากาศเงียบสงบ แอดแนะนำให้มาที่ “น้ำตกแม่แก้” เพราะผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน เสน่ห์ของน้ำตกแห่งนี้คือเป็นน้ำตกขนาดเล็กที่โอบล้อมด้วยพรรณไม้นานาชนิด เมื่อแสงจากพระอาทิตย์ตกกระทบลงมาก็จะสวยงามสุดๆ เลยค่ะ “บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน” เป็นบ่อน้ำร้อนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เมื่อไปบ่อน้ำพุร้อน เพื่อนๆ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับการนำไข่ไปลวกและนำมาทานกัน แต่ที่นี่เค้ามีเมนูที่เด็ดกว่านั้นนั่นก็คือ “ยำไข่น้ำแร่แจ้ซ้อน” ค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าจะเด็ดและถูกปากแค่ไหน ต้องลองไปทานกันดูนะคะ อีกที่นึงที่แอดว่าไม่ควรพลาดเมื่อมาลำปางนั่นก็คือ “ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย” ค่ะ ที่นี่เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก  ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เรื่องหลวงพี่แจ๊ส 4G ก็คงคุ้นตากับวัดนี้เป็นอย่างดี วัดนี้มีชื่อว่า “วัดพุทธบาทสุทธาวาส” หรือเดิมคือ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” มีเจดีย์สีขาวหลายองค์ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เป็นภาพที่ดึงดูดให้ใครหลายคนอยากเดินทางไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้ง “วัดพระธาตุดอยพระฌาน” เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขา เป็นวัดเก่าแก่ที่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพนับถือ ทุกปีจะมีประเพณีขึ้นดอยพระฌานเพื่อสักการะพระธาตุ ยามเช้าในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวจะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกัน แต่ถ้าเป็นฤดูอื่น เพื่อนๆ ก็สามารถชมทิวทัศน์ของ อ.แม่ทะ ได้ แอดว่าก็สวยงามไปอีกแบบนะคะ “วัดพระเจดีย์ซาวหลัง” ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาแอ่วลำปางค่ะ “ซาว” เป็นภาษาเหนือแปลว่า ยี่สิบ ดังนั้นชื่อวัดพระเจดีย์ซาวหลังจึงหมายถึง วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์นั่นเองค่ะ  วัดนี้เป็นอีกหนึ่งวัดของลำปางที่มีความงดงาม มีคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี เนื่องจากมีหลักฐานว่ามีการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์เจดีย์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดนี้สร้างมานานกว่าพันปีแล้ว เพื่อนๆ ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดนะคะ ในภาษาเหนือคำว่า “ป่อง” หมายถึง “หน้าต่าง” คำว่า “นัก” หมายถึง “มาก” ดังนั้น “บ้านป่องนัก” จึงหมายถึง บ้านที่มีหน้าต่างจำนวนมากนั่นเองค่ะ บ้านป่องนักเป็นสถาปัตยกรรมยุโรปแบบคลาสสิกผสมผสานกับสถาปัตยกรรมไทย ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงอาวุธและของใช้บางส่วน ที่เคยใช้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ค่ะ ถ้าเพื่อนๆ จะรู้สึกคุ้นตากับอาคารหลังนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจไปนะคะ เพราะที่นี่ถูกใช้เป็นฉากในละครหลายเรื่องแล้ว เช่น หนึ่งในทรวง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายปวรรุจ เป็นต้น สำหรับใครที่อยากจะสัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุคที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของอดีตแล้วละก็ แอดขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ “สะพานรัษฎาภิเศก” หรือ “สะพานขาว” สะพานข้ามแม่น้ำวังที่อยู่คู่กับเมืองลำปางมาช้านานแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตสำหรับแวะถ่ายรูปและเช็คอิน เก๋ๆ ไปอีก  “กาดกองต้า” หรือถนนคนเดินลำปาง คืออีกหนึ่งไฮไลท์ของลำปางค่ะ เพราะมีทั้งของกิน ของใช้ รวมไปถึงของฝากให้ได้ซื้อหากัน แต่ที่ขึ้นชื่อเลยก็คือ “ขนมจีนน้ำเงี้ยว” เป็นเมนูที่มาแล้วต้องทานให้ได้เลย นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังจะได้สัมผัสกับบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ ที่มีอายุนับร้อยปีอีกด้วย 

10 พิกัดแอ่วลำปาง อ่านเพิ่มเติม

บุหงาบูดะ ขนมพื้นบ้านจากชาววัง

ขนมบุหงาบูดะ “ขนมบุหงาบูดะ” เป็นขนมพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของสตูล มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 170 ปี ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศมาเลเซีย และในอดีตเป็นขนมที่ทำกันเฉพาะในวังเจ้าเมืองเท่านั้น แม้บุหงาบูดะจะดูคล้ายกับขนมเกสรลำเจียก ทั้งหน้าตาและวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ แต่ถ้าดูกันในรายละเอียดแล้วจะพบว่ามีความแตกต่างกันอยู่มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมของแป้ง หรือวิธีการทำไส้ ขนมบุหงาบุดะ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคล้ายหมอน มีส่วนประกอบหลักที่สำคัญอยู่ 2 ส่วนด้วยกันคือ แผ่นแป้งที่ใช้ห่อภายนอก และไส้หวานๆ ที่อยู่ภายในนั่นเองค่ะ โดยไส้ทำจากเนื้อมะพร้าวขูดผสมกับน้ำตาลทราย ใส่สีผสมอาหารเพื่อเพิ่มสีสัน เติมเกลือลงไปเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่น้ำใบเตยหอมและกวนจนส่วนผสมแห้งสนิทค่ะ ส่วนแผ่นแป้งที่ใช้ห่อไส้นั้นทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมกับน้ำเกลือนวดพอหมาดๆ จากนั้นตั้งกระทะโดยใช้ไฟอ่อนถึงไฟกลาง นำแป้งที่เตรียมไว้ไปใส่กระชอน ค่อยๆ ร่อนลงบนกระทะจนได้ความหนาตามที่ต้องการ พอแป้งสุกจึงนำไส้ที่เตรียมไว้มาใส่ลงไป ห่อเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดพอดีคำแล้วพักไว้ให้เย็น มักทานคู่กับน้ำชาค่ะ ในอดีตชาวมุสลิมในจังหวัดสตูล จะทำขนมชนิดนี้รับประทานกันเฉพาะในวันสำคัญทางศาสนาหรือพิธีสำคัญๆ เท่านั้น เพราะเป็นขนมที่ทำยาก ต้องใช้ความประณีตเป็นอย่างมาก เช่น เทศกาลเฉลิมฉลองหลังจากถือศีลอด หรือที่เรียกว่า ฮารีรายอ พิธีแต่งงาน และเทศกาลอื่นๆ นอกจากนี้ยังใช้เป็นขนมต้อนรับแขกที่มาเยือนอีกด้วยค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอช่วงเทศกาลแล้ว เพราะเราสามารถหาขนมบุหงาบูดะทานได้ทั่วไปในจังหวัดสตูลค่า ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีโอกาสแวะไปเที่ยวจังหวัดสตูล ก็อย่าลืมไปลองทาน และซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่เพื่อนๆ รักกันด้วยนะคะ

บุหงาบูดะ ขนมพื้นบ้านจากชาววัง อ่านเพิ่มเติม

Kalasin ฟินอีหลีเด้อ

Kalasin ฟินอีหลีเด้อ บ้านด่านเหนือแพรฝ้าย ถ้าพูดถึงกาฬสินธุ์ หลายคนก็คงนึกถึงไดโนเสาร์กันใช่มั้ย แต่ผ้าทอของกาฬสินธุ์ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน  แอดจะพาไปทำความรู้จักกับชุมชนกลุ่มทอผ้ามัดหมี่และหมอนขิด ที่ อ.ด่านเหนือ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าขาวม้า ผ้าห่ม ผ้ามัดหมี่ และตุ๊กตาไดโนเสาร์นั่นเองค่ะ ในครั้งนี้ แอดได้มีโอกาสลงมือทำกิจกรรม DIY เกี่ยวกับการทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ และพวงกุญแจด้วย บอกเลยว่าทั้งสนุกและได้ความรู้มากมายเลยค่ะ สำหรับแอด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสใช้จักรเย็บผ้า วินาทีที่เท้าสัมผัสแป้นเหยียบที่ใช้ควบคุมการเย็บนั้น แอดทั้งตื่นเต้นและกังวลมากเลยค่ะ เพราะกลัวว่าจะทำของเค้าพัง  ตุ๊กตาที่แอดเย็บเองก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย (ฝีมือก็ใช้ได้อยู่นะ) หลังจากทำกิจกรรม DIY เสร็จ เราก็เดินชอปปิงกันต่อเลย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจของฝากน่ารักๆ และราคาถูก แอดแนะนำที่นี่เลย เพราะจะได้ซื้อสินค้าของฝากในราคาส่ง แหม ถูกและน่ารักขนาดนี้ทำให้แอดอดใจไม่ไหว ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านหลายชิ้นเลย หากเพื่อนๆคนไหนสนใจกิจกรรม DIY การทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ หรือพวกกุญแจ ต้องติดต่อล่วงหน้านะคะ บ้านท่าเรือภูสิงห์ ใครว่ากาฬสินธุ์ไม่มีกุ้ง…ที่นี่มีกุ้งเด้อ และไม่ใช่กุ้งธรรมดาๆ ด้วยนะ เป็นกุ้งก้ามกรามตัวโตๆ เนื้อแน่นๆ เลยทีเดียวแหละ โดยทางจังหวัดได้นำพันธุ์กุ้งก้ามกรามมาปล่อยในพื้นที่บริเวณเขื่อนลำปาว เพื่อสร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสมากินกุ้งเผาที่นี่ แอดรับรองว่าทั้งขนาดและความสดของกุ้งไม่แพ้กุ้งแม่น้ำที่อยุธยาแน่นอน แต่สำหรับพวกเราจะให้ไปนั่งรอกินกันแบบธรรมดาๆ ก็กระไรอยู่..มา Go Local กันที่ชุมชนบ้านท่าเรือภูสิงห์ทั้งที ก็ต้องลองย่างกุ้งด้วยตัวเองสิ ก่อนเดินทางแอดแนะนำให้ติดต่อจองคิวกันล่วงหน้า เนื่องจากกุ้งแม่น้ำจะมีเยอะที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ส่วนช่วงฤดูอื่นๆ สามารถสอบถามได้ที่☎ คุณไก่ (ผู้ใหญ่บ้านท่าเรือภูสิงห์) โทร.098 532 2258, 096 719 8243☎ ปลัดตั้ง โทร.095 987 4698 นอกจากกุ้งและปลาสดๆ แล้ว ที่นี่ยังมีเมนูอื่นๆ อย่างส้มตำปลาร้าแซ่บๆ ปลาส้มใบตองมัดตอกโบราณย่าง ทอดมันปลากราย ปลาเนื้ออ่อนทอด ปลาส้ม แจ่วบอง ปลาตากแห้ง ฯลฯ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์แปรรูปฝีมือพี่ๆ กลุ่มแม่บ้านท่าเรือภูสิงห์นั่นเอง สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ แอดแอบกระซิบดังๆ ว่า อาหารที่นี่ราคามิตรภาพสุดๆ กุ้งก้ามกรามที่เขื่อนลำปาวมีขายกันตลอดทั้งปี ถ้าเพื่อนๆ ไม่สะดวกเข้าไปทานที่ชุมชน ก็สามารถไปหากุ้งทานกันได้ที่บริเวณใกล้ๆ สะพานเทพสุดา (สะพานข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว) โดยจะมีร้านอาหารเป็นแพริมน้ำให้เลือกอยู่หลายร้าน เรียกได้ว่าฟินทั้งกุ้งเผาสดๆ และบรรยากาศสุด exclusive สวนปันบุญ ออร์แกนิคฟาร์ม เป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์ ที่สามารถเข้าไปดูได้ทั้งวิธีการปลูกผัก ปลูกข้าว และเลี้ยงไก่ ผักของที่นี่ปลูกตามฤดูกาล อย่างช่วงหน้าฝนแบบนี้ ผักส่วนใหญ่จะเป็นผักชี ต้นหอม ผักกวางตุ้ง ขึ้นฉ่าย ผักบุ้ง สลัดคอส กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรียกได้ว่ามีผักสดๆ ทานตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน ข้าวที่ปลูก จะเป็นข้าวแดง มะลินิลสุรินทร์ แอดลองชิมแล้ว ทั้งหอม นุ่ม และอร่อยสุดๆ และสุดท้าย ไก่ไข่ของที่สวนปันบุญใหญ่เป็นพิเศษ เพราะเลี้ยงไก่อย่างดี ทำให้ไก่อารมณ์ดีและออกไข่ใบโต ใครที่สนใจอยากจะเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ สามารถมาที่สวนปันบุญได้เลยค่ะ ที่นี่จะให้ความรู้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การทำปุ๋ยหมักจากใบไม้ และการทำจุลินทรีย์คืนความสาวให้ผักสดกรอบ Sing Farm Coffee Roaster ร้านกาแฟเล็กๆ สุดฮิป ที่มีโรงคั่วกาแฟอยู่ภายในร้าน คั่วกาแฟกันสดๆ โดยเมล็ดกาแฟที่นำมาใช้ ได้มาจากการปลูกและเก็ฐเกี่ยวผลผลิตเองที่ไร่ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย เมนูแนะนำ อเมริกาโน่ สเปเชียล เทคนิคในการดื่มคือ ค่อยๆ ชิมให้ได้ 3 ระดับ กาแฟจะมีความหอมและหวานขึ้นเรื่อยๆ  นอกจากนี้ทางร้านยังมีกาแฟอีกหลากหลายเมนู ที่รอให้นักชิมทุกท่าน ได้มาดื่มด่ำรสชาติกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ Minibox Café คาเฟ่น้องใหม่สไตล์เรโทร มีตู้คอนเทนเนอร์หลากสีโดดเด่นสะดุดตา ภายในร้านตกแต่งด้วยโมเดลรถและมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ มากมาย ร้านมี 2 ชั้น มีโซนห้องแอร์และโซนด้านนอก จิบกาแฟรับลมชิลๆ ได้สบาย ทางร้านใช้กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนที่แอดไปถือว่าโชคดีมาก เพราะเจ้าของร้านได้สาธิตวิธีชงกาแฟแบบ Syphon และ Mokapot ให้ดูด้วย ☕ การชงกาแฟแบบ Syphon เป็นการชงแบบสุญญากาศ รสชาติที่ได้ จะเป็นกาแฟดำ หอม เข้มสะใจ ☕ การชงกาแฟแบบ Mokapot เป็นการใช้แรงดันน้ำที่เดือดจัด กลั่นกาแฟออกมา จะได้กาแฟรสเข้ม และหอม แต่จะเบาบางกว่าการชงแบบ Syphon ใครที่อยากลองมาชิมกาแฟแบบต่างๆ และเรียนรู้วิธีการชงกาแฟ สามารถมาที่ร้านได้เลยค่ะ เจ้าของร้านใจดี ยินดีตอบทุกคำถาม  ฮุ่งเฮือง Hung Huang OTOP Life Style ถ้าเพื่อนๆ มองหาของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน แอดแนะนำให้ลองแวะมาที่ ฮุ่งเฮือง Hung Huang OTOP Life Style อ.กมลาไสย ตรงข้ามสถานีตำรวจอำเภอกมลาไสย Hung Huang OTOP Life Style เป็นศูนย์ส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในชุมชน ของฝากของที่ระลึกของที่นี่เก๋ไก๋สไลเดอร์ โดนใจวัยรุ่นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาและหมอนไดโนเสาร์ เสื้อผ้า เสื้อคลุม พวงกุญแจ เครื่องปั้นดินเผา ของตกแต่งบ้าน รวมไปถึงกระเป๋าถือสำหรับคุณผู้หญิง  ร้านแตงอาหารเช้า เป็นอีกร้านหนึ่งที่ต้องแวะมาชิม ร้านนี้เปิดมานานกว่า 37 ปีแล้ว รับรองว่าอร่อยแน่นอน  ทางร้านมีต้มเลือดหมู ไข่กระทะ โจ๊ก และเครื่องดื่มสุดคลาสสิก อย่างกาแฟโบราณ ชาโบราณ ให้เลือกทานกัน เมนูแนะนำคือ เซี่ยงจี้เลือดหมู ใครที่ชอบทานเครื่องในต้องห้ามพลาด เพราะเครื่องใน สด สะอาด ไม่มีกลิ่น แถมให้มาแบบชิ้นใหญ่ จุใจ ส่วนน้ำซุปต้มเลือดหมูก็หอม รสชาติกลมกล่อม ตลาดทุ่งนาทอง

Kalasin ฟินอีหลีเด้อ อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวตามคำขวัญ : นครราชสีมา

เที่ยวตามคำขวัญ : นครราชสีมา “เมืองหญิงกล้า” ท้าวสุรนารีมีนามเดิมว่า คุณหญิงโม เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา เมื่อ พ.ศ.2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช คุณหญิงโมได้รวบรวมชาวบ้านเข้าสู้รบและต่อต้านกองทัพเจ้าอนุวงศ์ไม่ให้ยกมาตีกรุงเทพฯ ได้เป็นผลสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็น “ท้าวสุรนารี”  ในเวลาต่อมา ย่าโมกลายเป็นสัญลักษณ์ของชาวโคราช จึงเป็นที่มาของอีกชื่อที่เรียกขานนครราชสีมาว่า “เมืองย่าโม” นั่นเอง  อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของท้าวสุรนารี วีรสตรีไทยผู้อยู่ในหัวใจของชาวโคราชทุกคน ทุกปีในวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน จะมีการจัดงานวันฉลองชัยชนะของท้าวสุรนารี ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาร่วมงานอันยิ่งใหญ่นี้ได้ พิกัด : https://goo.gl/maps/ztHWmetefzJ2 “ผ้าไหมดี” ผ้าไหมโคราชนั้นไม่เป็นสองรองใคร อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เป็นอำเภอหนึ่งที่เป็นแหล่งผลิตผ้าไหมและผลิตผลจากรังไหมที่มีชื่อเสียงมากในภาคอีสาน  ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงมีร้านผ้าไหมมากมาย และมีหลายเนื้อผ้าให้เลือก ทั้งผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมพิมพ์ลาย ผ้าไหมหางกระรอก และผ้าพื้น ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด นับเป็นภูมิปัญญาของชาวปักธงชัยที่ได้รับความนิยม จนสามารถส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้ในปริมาณมาก ช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีการจัดงานผ้าไหมปักธงชัยและของดีเมืองโคราช ภายในงานมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการออกร้านจำหน่ายผ้าไหม การประกวดธิดาผ้าไหม การแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไหม การออกร้านผลิตภัณฑ์ของดีปักธงชัยและของดีเมืองโคราช การประกวดผ้าไหมประเภทต่างๆ และการแสดงดนตรี เป็นต้น “หมี่โคราช” หมี่โคราช หนึ่งในเมนูสุดขึ้นชื่อ ที่เมื่อมาโคราชก็ต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก หมี่โคราชนั้นหน้าตาอาจจะดูคล้ายกับผัดไทย แต่ความแตกต่างอยู่ที่ ผัดไทยใช้เส้นเล็กหรือเส้นจันท์ในการผัด และใส่เครื่องเยอะกว่า  ส่วนหมี่โคราชจะใช้เส้นที่เรียกว่า เส้นหมี่โคราช และจะไม่ใส่ไข่ กุ้งแห้ง ถั่ว และเต้าหู้ แบบผัดไทย นอกจากนี้ความโดดเด่นของหมี่โคราชที่ไม่เหมือนใครก็คือ ตัวเส้นที่นุ่มเหนียว ไม่แฉะ และรสชาติที่เข้มข้น จัดจ้าน ปัจจุบันเราสามารถหาซื้อหมี่โคราชไปเป็นของฝาก หรือนำกลับไปทำทานเองที่บ้านได้ เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์แบบกึ่งสำเร็จรูปวางขายอยู่ทั่วไปนั่นเอง “ปราสาทหิน” นครราชสีมาเป็นที่ตั้งของปราสาทหินหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ ปราสาทหินพิมาย ปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทยและมีความเกี่ยวข้องกับอาณาจักรขอมโบราณ ปราสาทหินพิมาย เป็นพุทธสถานในนิกายมหายานที่ตั้งอยู่กลางเมืองพิมาย มีลักษณะพิเศษคือ สร้างหันหน้าไปทางทิศใต้ ต่างจากปราสาทหลังอื่นที่มักหันหน้าไปทางทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าเพื่อให้รับกับเส้นทางที่ตัดมาจากเมืองพระนคร เมืองหลวงของอาณาจักรขอมนั่นเอง อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เปิดทุกวัน เวลา 07.30 – 18.00 น.ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างประเทศ 100 บาท (มีบริการนำชมฟรีจากนักเรียนโรงเรียนพิมายวิทยา) พิกัด : https://goo.gl/maps/EzfLeNjHsF92 “ดินด่านเกวียน” บ้านด่านเกวียน อำเภอโชคชัย เป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่ความแข็งแกร่ง ทนทาน และพื้นผิวที่มีความมันวาวสวยงามไม่เหมือนที่ไหน เพราะดินที่ชาวด่านเกวียนนำมาใช้ในการปั้นนั้นเป็นดินเนื้อละเอียดที่มีแร่เหล็กและแร่ธาตุอื่นๆ เจือปน  เมื่อผ่านการเผาด้วยความร้อนสูง แร่เหล็กและแร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นส่วนผสมในดินจะหลอมละลายและเคลือบผิวภาชนะ จนทำให้ได้ชิ้นงานที่มีสีดำมัน สีน้ำตาลแดง หรือสีเลือดปลาไหล ซึ่งเป็นสีที่ได้รับความนิยมว่าสวยที่สุด นอกจากนี้เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนยังมีความน่าสนใจอยู่ที่ มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่แปลกใหม่อยู่เสมอ

เที่ยวตามคำขวัญ : นครราชสีมา อ่านเพิ่มเติม

อีสาน cool cool : เที่ยวสารคาม

มหาสารคาม ดินแดนที่อยู่กึ่งกลางของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนถูกเรียกว่าเป็น “สะดือแห่งอีสาน” และยังได้รับฉายาว่าเป็น “ตักสิลานคร” หรือเมืองแห่งการศึกษานั้น จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย.ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ หมอลำหุ่น คณะเด็กเทวดา มาถึงมหาสารคามแล้วก็ต้องไม่พลาดมาสักการะ “พระธาตุนาดูน” ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น พุทธมณฑลแห่งอีสาน ในอดีตที่ตั้งของอำเภอนาดูนคือ เมืองจัมปาศรี (หรือจำปาศรี) ซึ่งเจริญรุ่งเรืองอยู่ในสมัยทวารวดี เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่มีประวัติมายาวนาน  การสร้างพระธาตุนาดูนมีที่มาจากการขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ทำด้วยทองสำริด หลังจากนั้นจึงได้มีการสร้างพระธาตุขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ในบริเวณที่ขุดพบสถูป โดยรูปทรงของพระธาตุนาดูนได้จำลองแบบมาจากสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวนั่นเอง  ที่ตั้ง : ตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคามโทร. 043 797 021, 043 777 231พิกัด : https://goo.gl/maps/48PoY2y384U2 เดินเล่นบนสะพานไม้เก่าแก่ร้อยปี “สะพานไม้แกดำ” เป็นสะพานไม้ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ทอดยาวข้ามบึงบัวจากฝั่งวัดดาวดึงษ์ไปยังหมู่บ้านหัวขัว หรือ บ้านหัวสะพาน (ขัว ภาษาอีสาน แปลว่า สะพาน บ้านหัวขัว ก็คือ บ้านหัวสะพาน นั่นเอง)  จุดเริ่มต้นของสะพานแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านที่ร่วมกันสร้างสะพานไม้เล็กๆ นี้ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นทางสัญจรไปมาระหว่างสองหมู่บ้านที่อยู่คนละฟากฝั่งของหนองแกดำ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งหนึ่งของจังหวัด ที่ตั้ง : ตำบลแกดำ อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคามโทร. 043 227 714 – 5 (ททท. สำนักงานขอนแก่น)พิกัด : https://goo.gl/maps/ak9pT9j3VUM2 ชม “สิมวัดโพธาราม” วัดโพธารามเป็นวัดเก่าแก่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ไฮไลท์ที่ต้องชมก็คือ สิมโบราณที่มีอายุกว่าร้อยปี ทั้งภายในและภายนอกอาคารมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง หรือที่ภาษาอีสานเรียกว่า ฮูปแต้ม ที่ตั้ง : ตำบลดงบัง อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคามโทร. 043 227 714 – 5 (ททท. สำนักงานขอนแก่น)พิกัด : https://goo.gl/maps/JuUkXGWfJgA2 ฮูปแต้มที่นี่เป็นฝีมือช่างท้องถิ่น วาดเป็นเรื่องราวต่างๆ เช่น พุทธประวัติ พระเวสสันดรชาดก และสินไซ เป็นต้น ซึ่งภาพวาดต่างๆ เหล่านี้นอกจากจะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ตามเนื้อเรื่องแล้ว ก็ยังสะท้อนสภาพสังคมในอดีตของชาวอีสานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ ฯลฯ สีที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นสีฟ้า สีคราม สีขาว สีดินแดง และสีเขียว ชมหมอลำหุ่นกระติ๊บข้าวแบบคูลๆ ศิลปวัฒนธรรมแห่งภาคอีสาน ของกลุ่มละครเล็กๆ ที่ใช้ชื่อว่า “หมอลำหุ่น คณะเด็กเทวดา” ที่เกิดขึ้นบริเวณโรงละครหมอลำหุ่นเพื่อชุมชน โฮมทองศรี บ้านหนองโนใต้ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ที่ตั้ง : ตำบลนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม โทร. 093 083 5298พิกัด : https://goo.gl/maps/z6fRcNBw2qm จุดเริ่มต้นภูมิปัญญาสร้างสรรค์นี้เกิดขึ้นจาก ครูเซียง หัวหน้าคณะหมอลำหุ่นเด็กเทวดา ที่นำเอาวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสานอย่างหมอลำและศิลปะการเชิดหุ่นมาประยุกต์ โดยนำเอาวัสดุพื้นบ้านที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวันอย่างกระติ๊บข้าวเหนียว มาใช้ในการประดิษฐ์หุ่นเชิด โดยทำเป็นส่วนลำตัวและส่วนหัว แต่งตัวหุ่นด้วยชุดผ้าขาวม้าและผ้าพื้นเมือง ซึ่งการแสดงหมอลำหุ่นกระติ๊บข้าวนั้นจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านอีสาน ตำนาน และวรรณกรรมต่างๆ ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ หมอลำหุ่น คณะเด็กเทวดา การเชิดหุ่นกระติ๊บข้าวแต่ละตัวนั้น เป็นฝืมือของเด็กๆ ในชุมชน ซึ่งได้รับการถ่ายทอดความรู้และได้รับการฝึกฝนจากครูเซียง  ปัจจุบันคณะหมอลำหุ่นเด็กเทวดา จัดแสดงตามงานในจังหวัดมหาสารคามและทั่วประเทศ พร้อมสาธิตการประดิษฐ์หุ่นกระติ๊บข้าวอีกด้วย ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ หมอลำหุ่น คณะเด็กเทวดา “กาแฟขี้ช้าง หรือ กาแฟช้างทองคำ” หนึ่งเดียวในภาคอีสานตั้งอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้าง ช้างทองคำ จังหวัดมหาสารคาม ที่นี่เป็นแหล่งผลิตกาแฟขี้ช้างคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ซึ่งนอกจากจะผลิตกาแฟขี้ช้างแล้ว ยังมีกิจกรรมให้เราสามารถมาทำร่วมกับช้างได้ด้วย ที่ตั้ง : 212 หมู่ 1 ตำบลนาข่า อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคามโทร. 093 686 9016, 043 706 572พิกัด : https://goo.gl/maps/jxjDi224jGT2 ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ คาเฟ่ช้างทองคำCafeChangthongkhum ผลิตกาแฟขี้ช้าง-ElephantCoffee หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่ากาแฟขี้ช้างเป็นยังไง ความจริงแล้วกาแฟขี้ช้างก็มีกรรมวิธีในการผลิตคล้ายๆ กาแฟขี้ชะมดนั่นแหละค่ะ คือ เริ่มจากการนำผลกาแฟสุกมาให้ช้างกิน ซึ่งทางศูนย์อนุรักษ์ฯ จะใช้เมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าที่สุกแดงจัดที่ปลอดสารเคมี เมื่อช้างขับถ่ายออกมาก็จะนำไปคัดแยกเฉพาะเมล็ดกาแฟออก และนำไปผ่านกระบวนการบ่มต่างๆ ร่วม 3 ปี จนออกมาเป็นเมล็ดกาแฟที่พร้อมสำหรับนำไปชงดื่มนั่นเอง  กาแฟขี้ช้างมีเอกลักษณ์ที่เเตกต่างจากกาแฟทั่วไป คือ – มีกลิ่นหอมละมุน เนื่องจากกระบวนการบ่มและย่อยด้วยกระเพาะช้าง ทำให้มีกลิ่นหอมพิเศษ– มีรสขมลดลงและมีรสเปรี้ยวน้อยกว่ากาแฟปกติมากพอสมควร เมื่อเทียบกับในระดับการคั่วเดียวกัน – เมื่อดื่มแล้วจะมีความหวานติดอยู่ที่ปลายลิ้น อยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง ต่างกับกาแฟขี้ชะมดมั้ย ต้องไปลองนะคะ  ในอำเภอกันทรวิชัย มีพระพุทธรูปเก่าแก่ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านอยู่ 2 องค์ เรียกกันว่า “หลวงพ่อพระยืน” มีนักท่องเที่ยวสายบุญมากมายเดินทางมาสักการะกันอยู่เสมอ ตามตำนานเล่าว่า ในอดีตอำเภอกันทรวิชัยเป็นเมืองขอม มีผู้ครองเมือง ชื่อ “ท้าวสิงโตดำ” มีอุปนิสัยใจคอโหดร้ายอำมหิต ทรมานบิดามารดาจนเสียชีวิตเพราะต้องการแย่งราชสมบัติ แต่เมื่อได้ขึ้นครองเมืองแล้วบ้านเมืองก็มีแต่ความวุ่นวาย ไม่มีความสงบ ท้าวสิงโตดำจึงให้โหรทำนายเพื่อหาวิธีแก้ไข โหรทำนายว่าต้องสร้างพระพุทธรูปเพื่อเป็นการล้างบาป ท้าวสิงโตดำจึงสร้างพระพุทธรูปขึ้น 2 องค์ เพื่อระลึกถึงบิดาและมารดา ซึ่งก็คือ พระพุทธมงคล และ พระพุทธมิ่งเมือง นั่นเอง  ซ้ายพระพุทธมงคล ประดิษฐานอยู่ที่ลานโพธิ์ วัดพุทธมงคล เป็นพระพุทธรูปยืนศิลปะทวารวดี แกะสลักจากหินทราย เป็นที่เคารพสักการะของชาวอำเภอกันทรวิชัยมาแต่โบราณ เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล ที่ตั้ง : หมู่ 2 ตําบลคันธารราษฎร์ อําเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคามพิกัด : https://goo.gl/maps/d3hCVsuGaAB2 ขวาพระพุทธมิ่งเมือง วัดสุวรรณาวาส เป็นพระพุทธรูปยืนศิลปะทวารวดี แกะสลักจากหินทราย เช่นเดียวกับพระพุทธมงคล เป็นที่นับถือในความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน ซึ่งนอกจากจะมีผู้คนมากราบสักการะขอพรแล้ว ยังนิยมมาบนบานศาลกล่าวกันอีกด้วย

อีสาน cool cool : เที่ยวสารคาม อ่านเพิ่มเติม

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : จากสุ่มไก่ สู่สปาบ้านทุ่ง ชุมชนบ้านดอกบัว จังหวัดพะเยา

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : จากสุ่มไก่ สู่สปาบ้านทุ่ง ชุมชนบ้านดอกบัว จังหวัดพะเยา บ้านดอกบัวหรือบ้านบัว เป็นชุมชนต้นแบบแห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยา เคยได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประเภทชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ชนะเลิศระดับประเทศมาแล้ว อาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำเกษตรกรรม แต่ด้วยสภาพพื้นที่บริเวณรอบๆ หมู่บ้านมีต้นไผ่รวกที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ชาวบ้านจึงได้นำเอาต้นไผ่เหล่านั้นมาจักสานเป็นสุ่มไก่และเข่ง เพื่อหารายได้เสริมจากช่วงนอกฤดูทำนา ซึ่งปัจจุบันชุมชนก็ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการย่อขนาดของเข่งและสุ่มไก่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อหากลับไปเป็นของฝากของที่ระลึกเก๋ๆ ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาด้วย โดยทำเป็นกระเป๋าหลากหลายรูปทรง สีสันสดใส น่ารักทุกใบเลย งานจักสานและการทำสุ่มไก่ ถือเป็นอาชีพเสริมที่ทำรายได้ให้กับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีตลาดรองรับที่แน่นอน มีการส่งไปจำหน่ายทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดด้วย เอาล่ะ!!! ถึงเวลาที่เรารอคอย หลังจากตากแดดตากฝนกันมา ก็ได้เวลาบำรุงผิวกันแล้ว…ถ้าเพื่อนๆ สนใจทำสปาบ้านทุ่งแบบนี้ ก็เปลี่ยนชุดแล้วเตรียมอบตัวกันเลย ข้างในสุ่มก็จะมีเก้าอี้นั่งอบตัว และหม้อดินสำหรับต้มสมุนไพรสูตรเฉพาะของชุมชนบ้านดอกบัว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็สวยแล้ว ☺️ นอกจากงานจักสานและสปาสุ่มไก่แล้ว ที่นี่ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ และมีฐานการเรียนรู้อื่นๆ ให้เพื่อนๆ ได้ลองเล่น ลองจับ ลองทำ และลองของกันจริงๆ อีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ เรียนรู้เศรษฐกิจตามรอยพ่อ พลังงานทดแทน ฝายชะลอน้ำ การเพาะเลี้ยงด้วงกว่าง การผลิตข้าวอินทรีย์ และการปลูกองุ่น ฯลฯ.สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร: 082 694 0939 หรือทางเว็บไซต์: th-th.facebook.compgBanbua

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : จากสุ่มไก่ สู่สปาบ้านทุ่ง ชุมชนบ้านดอกบัว จังหวัดพะเยา อ่านเพิ่มเติม

4 ที่ขี่ม้าวิวธรรมชาติ ใกล้เมืองกรุง

ฟาร์มหมอปอ จ.นครราชสีมา ฟาร์มม้าในอำเภอปากช่องแห่งนี้ เป็นสถานที่รวบรวมม้าสวยงามหลายหลายสายพันธุ์ รวมทั้งสายพันธุ์หายากด้วย และยังเปิดสอนขี่ม้าให้แก่ผู้สนใจ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ขี่ม้าชมบรรยากาศโดยรอบฟาร์ม ซึ่งเต็มไปด้วยป่าไม้และทิวเขาร่มรื่น  นอกจากม้าแล้ว ที่นี่ก็ยังมีสัตว์อื่นๆ เช่น กระต่าย แพะ ฯลฯ ซึ่งเราสามารถให้อาหารได้ รวมทั้งยังมีแม่ไก่ให้เราเก็บไข่ไก่สดๆ จากเล้าได้อีก และสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมและอยากพักผ่อนสบายๆ ที่นี่เค้าก็มีที่พักไว้บริการด้วยนะ  บ้านคอกม้าบางพลี จ.สมุทรปราการ ฟาร์มม้าแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขี่ม้า เปิดสอนขี่ม้าสำหรับทุกเพศทุกวัย และเนื่องจากที่นี่มีสนามซ้อมทั้งแบบกลางแจ้งและในร่ม จึงสามารถฝึกได้ในทุกสภาพอากาศ สำหรับผู้ที่อยากขี่ม้าแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ทางฟาร์มก็มีบริการขี่ม้าไปชมทุ่งหญ้าเขียวขจีและบ่อปลา ซึ่งอยู่ใกล้กับฟาร์ม และยังสามารถชมวิถีชีวิตชนบทของชาวบางพลีได้ด้วย  นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอาชาบำบัด ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กพิเศษที่มีปัญหาต่างๆ ทั้งสมาธิสั้น ออทิสติก ฯลฯ และยังมีบริการอื่นๆ เกี่ยวกับม้า ไม่ว่าจะเป็น จำหน่ายอุปกรณ์ขี่ม้า รับฝากเลี้ยงม้า หรือเพาะพันธุ์ม้าสายพันธุ์ดีด้วย วัลลภาฟาร์มสเตย์ จ.ลพบุรี ห่างจากตัวเมืองลพบุรีไป 15 กิโลเมตร ใกล้สถานีรถไฟโคกมะขาม ยังมีฟาร์มเลี้ยงม้าและสวนเกษตรอินทรีย์ที่น่าสนใจ นั่นก็คือ วัลลภาฟาร์ม กิจกรรมหลักของที่นี่คือการสอนขี่ม้าให้ผู้ที่สนใจตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น และยังมีบริการขี่ม้าชมธรรมชาติของฟาร์มที่แวดล้อมไปด้วยทุ่งนา ลำคลอง และภูเขา  นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ นั่งรถม้าไปไหว้หลวงพ่อสัมฤทธิ์ประทานพรกาญจนาภิเษก สำนักบวรบรรพต (วัดศาลาแดง) หรือนั่งรถอีแต๋นชมสวนเกษตรอินทรีย์และควายทุ่งที่เชื่องมากๆ รวมทั้งทดลองทำการเกษตร เช่น ทำนาปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ เก็บไข่เป็ดไข่ไก่ในฟาร์ม ทำไข่เค็มดินสอพอง และทำของที่ระลึกจากดินเผา นอกจากนี้ยังมีที่พักไว้ให้บริการสำหรับผู้ที่อยากพักค้างแรมด้วย ฟาร์มเชาวณัฎ จ.กาญจนบุรี  ฟาร์มม้าชานเมืองกาญจนบุรี กับบรรยากาศธรรมชาติที่ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ ที่นี่เปิดสอนขี่ม้าให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีกิจกรรมป้อนอาหารม้า ขี่ม้าชมธรรมชาติ นั่งรถม้าชมรอบๆ ฟาร์ม และยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ขี่เจ็ทสกี ขับรถเอทีวี และดำนาปลูกข้าวตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีที่พักและร้านกาแฟไว้ให้บริการด้วย

4 ที่ขี่ม้าวิวธรรมชาติ ใกล้เมืองกรุง อ่านเพิ่มเติม

ภูเตาโปง ทะเลหมอกเที่ยงคืน

ภูเตาโป่ง แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นป่าชุมชนที่ได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาขึ้นโดยจิตอาสาของชุมชนบุ่งกุ่ม จนสามารถคว้าอันดับ 1 ป่าชุมชนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นเครื่องยืนยันความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะไปเดินขึ้นภู เราต้องมาติดต่อสำนักงานป่าชุมชนบ้านบุ่งกุ่มกันก่อน เพื่อเตรียมตัวและนัดแนะไกด์ แต่เพื่อความสะดวก แนะนำว่าก่อนเดินทางมา ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า จะโทรศัพท์หรือติดต่อผ่าน inbox facebook ก็ได้ เจ้าหน้าที่จะจัดเตรียมสิ่งที่เราต้องการไว้ให้  ✳ กลุ่มท่องเที่ยวป่าชุมชนบ้านบุ่งกุ่ม ตั้งอยู่ภายในวัดศรีมงคลบ้านบุ่งกุ่ม เลขที่ 146 หมู่ 1 ต.นาหอ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ☎ โทร. 095 730 3433, 080 080 8798, 087 737 9068 บรรยากาศพระอาทิตย์ตกบนจุดชมวิว ก็จะฟินประมาณนี้ เราสามารถชมทะเลหมอกบนภูเตาโปงได้ตั้งแต่ตอนเที่ยงคืน โดยแสงไฟจากตัวเมืองด่านซ้ายจะสาดส่องให้เห็นหมอกชัดขึ้น และจะเห็นหมอกได้จนถึงช่วงสายๆ หลังจากไปถึงจุดชมวิวทะเลหมอกภูเตาโปงแล้ว ไกด์ชุมชนจะพาเราเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณภูเตาโปง ไม่ว่าจะเป็น หินยก หินสามชั้น ซำอีเลิศ หินอิงรัก และจุดชมวิวหินใหญ่ ข้อดีของการไปเดินป่าหน้าฝนคือ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีเห็ดหลายชนิดขึ้นเต็มไปหมด ซึ่งเราสามารถเก็บมาทำอาหารได้ แต่ก่อนจะเก็บสอบถามพี่ๆ ไกด์ก่อนนะ เดี๋ยวเก็บผิดแล้วจะเป็นเรื่อง พี่ๆ ไกด์กระซิบมาว่า ถ้าอยากเห็นหมอกแน่นๆ แบบในรูป ต้องมาช่วงปลายฝนต้นหนาว (ประมาณช่วงหลังออกพรรษา) จะฟินสุดๆ 

ภูเตาโปง ทะเลหมอกเที่ยงคืน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top