สถานที่ท่องเที่ยว

พาเที่ยว สองวัน สองสมุทร

สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม 2 วัน 1 คืน.วันที่ 1– หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี– อุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์– สะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา– ตลาดน้ำคลองสนามไชย– สะพานไม้สายรุ้ง– ตลาดน้ำอัมพวา– ร้านรัญจวน.วันที่ 2– ตลาดน้ำท่าคา– อาสนวิหารแม่พระบังเกิด– ร้านคนทีริมน้ำ@ บ้านดารา– สวนมะนาวโห่ลุงศิริ หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี เกิดจากการรวมกลุ่มของคนในหมู่บ้านที่เคยทำงานในโรงงานชามตราไก่ และได้นำความรู้ในการผลิตและเขียนลายมาต่อยอด จนกลายเป็นเครื่องเบญจรงค์ดอนไก่ดีมาจนถึงทุกวันนี้.หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดีได้รับรางวัลมากมาย ทั้งรางวัลสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว รางวัลชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยว ฯลฯ.ภายในหมู่บ้านมีพิพิธภัณฑ์และร้านขายเครื่องเบญจรงค์อยู่หลายร้าน ได้แก่ อุไรเบญจรงค์ แดงเบญจรงค์ และหนูเล็กเบญจรงค์ เป็นต้น.เพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมความประณีตสวยงามของเครื่องเบญจรงค์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ สำหรับใครที่อยากทดลองลงมือวาดลายเครื่องเบญจรงค์ด้วยตัวเอง ที่ร้านอุไรเบญจรงค์ก็มีกิจกรรม workshop ให้ทำด้วย ค่าใช้จ่ายคนละ 400 บาท ใช้เวลาวาดประมาณ 1 ชั่วโมง.แต่ถ้ากล้วว่าจะยากเกินไป ที่นี่เค้าก็มีสาธิตให้ชมค่ะ.ที่ตั้ง หมู่ 1 ตำบลดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาครเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/1Auudthas7mWph1m9โทร. 081 861 4626 (ร้านอุไรเบญจรงค์) ✨อุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์✨ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความซื่อสัตย์และจงรักภักดีของพันท้ายนรสิงห์ โดยเมื่อครั้งที่พระเจ้าเสือแห่งกรุงศรีอยุธยาเสด็จประพาสปากน้ำเมืองสาครบุรี (สมุทรสาครในปัจจุบัน) ครั้นถึงคลองโคกขามซึ่งเป็นคลองที่คดเคี้ยวมากนั้น พันท้ายนรสิงห์ซึ่งเป็นนายท้ายเรือไม่สามารถคัดท้ายเรือได้ทัน ทำให้โขนเรือพระที่นั่งชนกับกิ่งไม้ใหญ่จนหัก พันท้ายนรสิงห์จึงกราบบังคมทูลพระเจ้าเสือให้ประหารชีวิตตนตามกฎมณเฑียรบาล เพื่อรักษากฎหมายและเพื่อไม่ให้ผู้ใดติเตียนพระองค์ได้.ภายในบริเวณอุทยานฯ มีศาลพันท้ายนรสิงห์ ศาลแม่ศรีนวล ภรรยาของท่าน รวมทั้งไม้ตะเคียนซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นหลักประหารเก่า นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาป่าชายเลนอีกด้วย.ที่ตั้ง ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครเปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/uixn2K7n2gz3A74c9 สะพานแดง จุดชมวิวปลาโลมา เป็นจุดชมวิวริมทะเล ที่สามารถชมป่าชายเลนและดูพระอาทิตย์ตกได้ ถ้ามาในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม เรายังสามารถชมปลาโลมาที่อพยพมาอยู่ในบริเวณนี้ได้อีกด้วย บริเวณใกล้กันมีศาลเจ้าพ่อมัจฉาณุที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ โดยเฉพาะผู้ที่ทำอาชีพประมง มักจะมากราบไหว้ก่อนออกเรือ.ที่ตั้ง ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครพิกัด : https://goo.gl/maps/gpXfx3SPJp2Jkwfw7 ตลาดน้ำคลองสนามไชย ถ้าใครเริ่มหิว ก็มาแวะหาของอร่อยทานกันได้ เพราะที่นี่มีร้านค้ามากกว่า 30 ร้าน มีทั้งอาหารและของหวานให้เลือกมากมาย แอดลองชิมมาแล้ว อร่อยทุกร้านเลยล่ะ  ที่ตั้ง ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครเปิดวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/b41VN7yPn6qxNiZH6โทร. 093 505 4554 สะพานไม้สายรุ้ง เป็นสะพานไม้สีสันสดใสที่ยืนออกไปในทะเล เหมาะสำหรับชมวิวและไปถ่ายรูปเก๋ๆ.สะพานนี้ตั้งอยู่ที่ชายทะเลบ้านกาหลง ซึ่งบริเวณนี้มีสะพาน 2 แห่ง เป็นสะพานไม้และสะพานปูนตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน มีชื่อว่า “สะพานสายรุ้ง” ทั้งคู่ โดย “สะพานไม้สายรุ้ง” นั้นตลอดพื้นทางเดินของสะพานทาด้วยสีสันที่สดใส ส่วน “สะพานสายรุ้ง” ที่เป็นสะพานปูนจะทาสีบริเวณขอบปูนริมทางเดิน.ที่ตั้ง ตำบลกาหลง อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครพิกัด : https://goo.gl/maps/pmN5cmDEordVySk49 ตลาดน้ำอัมพวา จากสมุทรสาคร เราเดินทางต่อมาที่สมุทรสงคราม มาชอปปิ้งกันที่ตลาดน้ำอัมพวา ใกล้กับวัดอัมพวันเจติยาราม ที่นี่เป็นตลาดน้ำยามเย็นริมคลอง มีร้านค้าตั้งเรียงรายตลอดสองฟากฝั่ง ถ้าเพื่อนๆ มาที่นี่รับรองได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน.ที่ตั้ง ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามเปิดวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 12.00-20.00 น.พิกัด : https://g.page/amphawa?share ร้านรัญจวน ปิดท้ายวันแรกของการเดินทางกับร้านรัญจวน ร้านอาหารไทยริมแม่น้ำแม่กลองแห่งนี้ เจ้าของร้านตั้งใจนำเสนออาหารสูตรของคุณย่าที่ได้ทานมาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งวัตถุดิบขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา กะปิ และมะพร้าว .ที่ตั้ง ถนนวัดนางวัง ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์ ยกเว้นวันจันทร์ที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 12.00-22.00 น.โทร. 099 242 6566 ที่นี่มีอาหารอร่อยหลายเมนู แต่ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ เมนู “ทะเลเผา” ประกอบด้วย กุ้งแม่น้ำเผา กุ้งแชบ๊วยเผา และหมึกย่าง  ซึ่งกุ้งแม่น้ำก็เป็นกุ้งที่ชาวบ้านตกกันริมเขื่อนนี่แหละ บอกเลยว่าทั้งกุ้งและปลาหมึกเนื้อสดและเด้งมาก น้ำจิ้มก็แซ่บ ฟินสุดๆ “ชุดน้ำพริกกะปิกุ้งต้มเค็ม” พระเอกของเมนูนี้ก็คือ น้ำพริกกะปิที่ทำจากกะปิคลองโคนแท้ๆ รสชาติเข้มข้น เผ็ดจี๊ดจ๊าดถึงใจ ยิ่งทานคู่กับกุ้ง ผักสด และชะอมชุบไข่ทอด ยิ่งอร่อย ตลาดน้ำท่าคา เริ่มต้นวันที่ 2 ด้วยการไปหาของอร่อยทานที่ตลาดน้ำท่าคากันดีกว่าค่ะ ตลาดน้ำแห่งนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้านเอาไว้มาก โดยจะมีชาวบ้านพายเรือมาขายอาหาร และพืชผลทางการเกษตรต่างๆ อาหารจานเด็ดที่ต้องห้ามพลาดคือ หอยทอดสูตรโบราณและผัดไทยกุ้งสด.นอกจากนี้ยังมีบริการล่องเรือชมสวนมะพร้าว ค่าเรือลำละ 200 บาทด้วย.ที่ตั้ง ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามเปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 06.00-15.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/94NDutGTWu8W3Fg87 อาสนวิหารแม่พระบังเกิด เป็นโบสถ์คริสต์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2433 โดยบาทหลวงเปาโลซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 6 ปี ภายในประดับด้วยกระจกสีงดงาม มีรูปปั้น ธรรมาสน์เทศน์ และรูปแกะสลักบรรยายเกร็ดประวัติในศาสนาคริสต์.ที่ตั้ง ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงครามเปิดวันพุธ-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์-อังคาร หรือวันที่มีพิธีกรรมในโบสถ์ **แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้า)– วันพุธ-เสาร์ เวลา 08.00-16.00 น.– วันอาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/2WfrHPBW3jU33KfG7โทร. 034 761 346-7, 085 955 7783 ร้านคนทีริมน้ำ@ บ้านดารา ร้านอาหารไทยพื้นบ้านริมแม่น้ำแม่กลอง ถ้าใครอยากทานอาหารไทยโบราณรสชาติจัดจ้าน แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ เมนูแนะนำได้แก่ มัสมั่นไก่

พาเที่ยว สองวัน สองสมุทร อ่านเพิ่มเติม

ร้านโกปี๊ฮับ : บางแสน

โกปี๊ฮับ คือร้านติ่มซำชื่อดังของบางแสน ที่มีติ่มซำให้เราเลือกทานมากกว่า 30 เมนู และต้องบอกเลยว่าแต่ละเมนูเด็ดๆ ทั้งนั้น “โกปี๊” เป็นภาษามลายู แปลว่า กาแฟ ส่วน “ฮับ” (hub) ก็คือศูนย์รวม “โกปี๊ฮับ” จึงหมายถึง สภากาแฟ ที่รวมความอร่อยเอาไว้นั่นเอง ซึ่งนอกเหนือจากความอร่อยแล้ว ที่นี่ยังตกแต่งร้านในบรรยากาศสบายๆ สไตล์ย้อนยุค ดูแล้วสะดุดตามากๆ  เมื่อเข้ามาในร้าน ทางร้านก็จะนำน้ำชาร้อนๆ มาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะแบบฟรีๆ และถ้าดื่มหมดแล้วก็ยังสามารถขอเติมได้อีกด้วย มาดูเมนูอาหารกันบ้าง.สำหรับเมนูขึ้นชื่อต้องยกให้จานนี้ “ก๋วยเตี๋ยวหลอด” ซึ่งอร่อยจนหลายคนยกให้เป็นนัมเบอร์วันของร้าน ต่อมาก็ต้องเป็น “กุ้งเส้นลุยสวน” มองเผินๆ อาจจะดูคล้ายกุ้งอบวุ้นเส้น แต่พอได้ลองชิมแล้วกลับไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะรสชาติของน้ำซอสออกหวานนำ แถมยังเข้มข้นมากๆ โดยรวมแล้วแอดชอบมากเลย  “บะหมี่หยกหมูทรงเครื่อง” ก็เป็นอีกเมนูที่ไม่ควรพลาด เพราะเส้นมีความเหนียวนุ่ม หมูก็ละมุนลิ้นสุดๆ นอกจากติ่มซำแล้ว ที่นี่ก็ยังมีเมนูทานเล่นอื่นๆ อีกนะคะ อย่าง “เกี๊ยวซ่าหมู” จานนี้ บอกเลยว่าเค้าทอดออกมาได้กรอบมาก ส่วนไส้ก็แน่นเวอร์ อยากให้ลองจริงๆ ค่ะ สำหรับใครที่ไม่ชอบดื่มชาร้อน ร้านโกปี๊ฮับเค้าก็มีเครื่องดื่มเย็นๆ อย่างโอเลี้ยง กาแฟเย็น ชานมเย็น และอื่นๆ ให้เลือกด้วย ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวบางแสน ก็อย่าลืมแวะทานติ่มซำที่ร้านโกปี๊ฮับนะคะ รับรองว่าจะต้องถูกใจแน่นอน ร้านโกปี๊ฮับ ที่ตั้ง 420 ถนนลงหาดบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน– วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 19.30 น.– วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 07.30 – 20.00 น.โทร. 087 893 7435พิกัด https://goo.gl/maps/BwfhgBJ3DcakVrwW7

ร้านโกปี๊ฮับ : บางแสน อ่านเพิ่มเติม

อุทยานหินเขางู : ราชบุรี

อุทยานหินเขางู จังหวัดราชบุรี แต่เดิมที่นี่เป็นแหล่งระเบิดหินและย่อยหินที่สำคัญของไทย แต่หลังจากที่ได้มีการยกเลิกสัมปทาน เขางูแห่งนี้ก็มีสภาพทรุดโทรมลง ภายหลังจึงได้มีการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์ กลายเป็นสวนสาธารณะที่สวยงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดราชบุรี มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากันอย่างไม่ขาดสาย.มุมสะพานแขวนนี้ก็ถือว่าเป็นมุมที่ฮอตมากๆ สำหรับนักท่องเที่ยวเลย มาแล้วก็ต้องเช็คอินกันหน่อยล่ะ กิจกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอุทยานหินเขางู ก็คือการปั่นเรือถีบในบึง ได้ทั้งชมวิวแถมยังได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย ไฮไลท์อีกอย่างที่ทุกคนห้ามพลาดก็คือ การถ่ายรูปเก๋ๆ บนสะพานไม้ที่ทอดยาวข้ามบึงน้ำ และลัดเลาะไปตามแนวเขาหินปูนของเขางู บนภูเขาในบริเวณนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวประเภทถ้ำอยู่หลายแห่ง สามารถไปเที่ยวชมกันได้ ที่สำคัญได้แก่ ถ้ำฤาษี ถ้ำฝาโถ ถ้ำจาม และถ้ำจีน หากเข้ามาทางฝั่งสวนสาธารณะเขางู เพื่อนๆ จะพบกับพระพุทธรูปปางลีลาแบบนูนต่ำขนาดใหญ่ ที่สร้างโดยการยิงแสงเลเซอร์บนหน้าผาหินด้วยนะ

อุทยานหินเขางู : ราชบุรี อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวชิคๆ @ปราจีนบุรี

หากคิดถึงที่เที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพนัก จังหวัดปราจีนบุรีก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางไปพักผ่อน จะไปแบบ One day Trip เช้าไปเย็นกลับ หรือจะพักสักคืน ให้ได้บรรยากาศชิลๆ ก็ได้หมด ถ้าสดชื่น วันนี้แอดมีที่เที่ยวแบบชิคๆ ของจังหวัดปราจีนบุรีมาแนะนำ พร้อมแล้วก็ไปกันเลยจ้า… ก่อนจะไปเที่ยวก็ขอเติมพลังสักหน่อยกับ “Cafe’ Kantary 304” ร้านกาแฟสุดชิคของจังหวัดปราจีนบุรี ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มและอาหาร มีโต๊ะให้นั่งทั้งด้านในและด้านนอก และมีมุมขายของที่ระลึกของทางร้าน พอเดินขึ้นมาชั้นสองจะเป็นโซนที่นั่งสไตล์ชิลๆ ขึ้นมาอีกนิด บนผนังภายในร้านตกแต่งด้วยงานศิลปะกราฟฟิตี้ของเจ้า “มาร์ดี (Mardi)” ที่ทำให้ไม่ว่ามุมไหนๆ ก็น่าถ่ายรูปไปหมด อยากจะบอกว่านอกจากที่นี่จะเป็นคาเฟ่สุดน่ารักแล้ว ก็ยังครบในเรื่องกินอีกด้วย มีทั้งเครื่องดื่ม เค้ก เครป แพนเค้ก อาหารฟิวชัน คือดีย์ ชมบรรยากาศร้านไปแล้วก็มาลองชิมเครื่องดื่มกันบ้าง กับ Chocolate Cream Frappé (ราคา 100 บาท) รสชาติเข้มข้น หวานกำลังดี ท็อปด้วยวิปครีมจุกๆ และเอาใจคนรักชาเขียว อย่าง Iced Milk Green Tea (ราคา 100 บาท) ชาเขียวเข้มข้นมากขอบอกเลยค่า ร้านคาเฟ่ แคนทารี สาขา 304 ปราจีนบุรีที่อยู่ : 689 หมู่ 10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 07.00-22.00 น.โทร. 037 239 777 มาต่อกันที่ “กลุ่มจักสานใบลานบ้านทับลาน” ที่นำเอาใบลานมาแปรรูป สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์สุดเก๋ไก๋ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า หมวก โคมไฟ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตามความต้องการของลูกค้า ราคาเริ่มต้นที่ 25 บาท ไปจนถึง 4,500 บาท ถือเป็นอะไรที่ว้าวมากสำหรับแอด ที่ผลิตภัณฑ์จากใบลานสามารถสร้างมูลค่าได้มากขนาดนี้ ยังไม่พอนะ ทุกวันนี้ยังมีหน่วยงานต่างๆ ให้ความสนใจมาศึกษาดูงานอีกเป็นจำนวนมากเลยด้วย . กลุ่มจักสานใบลานบ้านทับลานที่อยู่ : 525 หมู่ที่ 1 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีโทร. 089 831 3369 เอาใจคนรักบอนไซกับ “สวนลุงประเสริฐ” ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการจัดบอนไซและสวนถาดมะสัง ที่หมู่บ้านดงบัง แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้นชื่อของปราจีนบุรี เข้ามาในสวนก็เห็นคุณลุงกำลังนั่งตกแต่งบอนไซและต้นมะสัง แถมยังสาธิตวิธีการดัดกิ่งบอนไซให้เราดูด้วย ที่นี่มีต้นบอนไซหลากหลายชนิด ซึ่งกว่าจะได้ออกมาเป็นต้นบอนไซแต่ละต้นใช้เวลาเป็นปีเลยนะคะ นับว่าต้องอาศัยทั้งความรักและความอดทนมากทีเดียวค่ะ สุดยอดมากๆ เลย. สวนบอนไซลุงประเสริฐ กลุ่มไม้ดอก-ไม้ประดับที่อยู่ : บ้านดงบัง ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีโทร. 096 925 6250 เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากจะแนะนำให้ไปจริงๆ ค่ะ สำหรับ “อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา” อ่างเก็บขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวสวยสุดลูกหูลูกตา และที่สำคัญเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรด้วย บรรยากาศดี น่าไปสัมผัสมากๆ เลยค่ะ ใครที่ชอบถ่ายรูปจะต้องฟินแน่ๆ เพราะทิวทัศน์ริมเขื่อนสวยมากทีเดียวค่ะ. อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาที่อยู่ : ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีโทร. 037 629 277 “วัดรัตนเนตตาราม (วัดล้านหอย)” ทำไมถึงต้องล้านหอย? พอมาถึงวัดก็ต้องร้องอ๋ออออ…แบบลากเสียงยาวเลยทีเดียว เพราะสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในวัดนั้นล้วนตกแต่งด้วยเปลือกหอยสีสันต่างๆ นั่นเอง สวยงามแปลกตามากๆ เลย ซึ่งการนำเปลือกหอยนานาชนิดมาประดับตกแต่งสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดนั้น ก็เป็นไอเดียของเจ้าอาวาสที่ต้องการให้คนเข้าวัดกันมากขึ้น ซึ่งนับว่าได้ผลมากทีเดียว เพราะในแต่ละวันมีประชาชนมาเยี่ยมเยือนวัดนี้กันอย่างไม่ขาดสาย เรียกว่ามาที่เดียวได้ทั้งเที่ยวและยังได้บุญด้วย. วัดรัตนเนตตาราม (วัดล้านหอย)ที่อยู่ : ซ.เทศบาลตำบลนาดี 30 ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีโทร. 089 963 9323 มาเที่ยวปราจีนฯ ทั้งที เราก็มีที่พักชิคๆ มาแนะนำ อย่าง “Serenity Hotel & Spa Onsen Kabinburi” ที่พักพร้อมออนเซ็นในสไตล์ญี่ปุ่น สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบมาก แถมเดินทางสะดวก เพราะอยู่ติดถนนสายหลักกบินทร์บุรีเลย ภายในตกแต่งคุมโทนด้วยสีพาสเทลอบอุ่นสบายตา ให้ความรู้สึกผ่อนคลายในวันพักผ่อนจริงๆ ค่ะ ยิ่งได้แช่ออนเซ็นหลังจากเที่ยวเหนื่อยมาทั้งวันแบบนี้ หลับสบายสุดๆ.สำหรับใครที่ไม่ได้มาพัก ก็สามารถมาใช้บริการออนเซ็นได้นะคะ คิดค่าบริการ วันจันทร์-ศุกร์ ราคาคนละ 250 บาท และวันเสาร์-อาทิตย์ ราคาคนละ 300 บาท. เซเรนิตี้ โฮเทล แอนด์ สปา กบินทร์บุรีที่อยู่ : 222 หมู่ที่ 9 ถ.สุวรรณศร ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีโทร. 063 216 3668, 037 625 444, 037 625 445

เที่ยวชิคๆ @ปราจีนบุรี อ่านเพิ่มเติม

วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่กลางเมืองสุโขทัย เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ถือเป็นวัดที่สำคัญที่สุดในเมืองสุโขทัย และในอดีตยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีต่างๆ อีกด้วย วัดมหาธาตุเป็นวัดสำคัญ จึงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างเพิ่มเติมอยู่เสมอ ทำให้ภายในวัดประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างหลายยุคหลายสมัย ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์ประธาน วิหารหลวง อุโบสถ มณฑป และเจดีย์รายกว่า 200 องค์ เป็นต้น ในศิลาจารึกหลักที่ 1 ตอนหนึ่งระบุว่า “…กลางเมืองสุโขทัยนี้ มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฎฐารศ มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันราม…” วิหารกลางเมืองสุโขทัยที่กล่าวถึงนั้น สันนิษฐานว่าคือวิหารหลวงวัดมหาธาตุแห่งนี้ ดังนั้นจึงเชื่อกันว่าพระพุทธรูปทองก็คือพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารหลวง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานที่วิหารหลวงวัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามว่า “พระศรีศากยมุนี”  ส่วนพระอัฎฐารส ซึ่งหมายถึงพระพุทธรูปยืนสูง 18 ศอก ก็คือพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ภายในมณฑปทั้งสองข้างของเจดีย์ประธานนั่นเอง เจดีย์ประธาน เป็นเจดีย์ทรงยอดดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ซึ่งเป็นเจดีย์ที่เป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัย สันนิษฐานว่าเจดีย์รูปแบบนี้พัฒนามาจากศิลปะขอม ล้านนา พุกาม และลังกา แต่ได้ดัดแปลงให้มีรูปลักษณ์ที่สูงชะลูดยิ่งขึ้น รอบๆ เจดีย์ประธานบนฐานไพทีเดียวกัน มีเจดีย์ประจำทิศเป็นเจดีย์ทรงปราสาท และเจดีย์ประจำมุมเป็นเจดีย์ทรงปราสาทห้ายอด รวมทั้งหมด 8 องค์ ที่ฐานไพทีของกลุ่มเจดีย์ประธาน ยังประดับประติมากรรมปูนปั้นรูปพระสาวกพนมมือเดินประทักษิณรอบองค์พระธาตุอีกด้วย วัดแห่งนี้มีคูน้ำล้อมอยู่ 3 ด้าน ส่วนด้านหน้าวัดมีสระน้ำหรือที่เรียกว่าตระพัง ซึ่งสามารถชมภาพของเจดีย์ที่สะท้อนบนผิวน้ำได้อย่างสวยงาม  ในช่วงเวลาโพล้เพล้ บริเวณสระน้ำหน้าวัดมหาธาตุนี่แหละคือสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักถ่ายภาพ ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่งเลย วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่ตั้ง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.**วันเสาร์จะมีการเปิดไฟส่องโบราณสถาน ระหว่างเวลา 18.30-21.00 น.** (จำหน่ายบัตรเข้าชมถึงเวลา 18.00 น.)ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาทพิกัด https://goo.gl/maps/gXY72BkyneK2

วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อ่านเพิ่มเติม

หลงเสน่ห์… เกาะพยาม

“เกาะพยาม” ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้าง ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง จังหวัดระนอง ว่าแต่ชื่อ “เกาะพยาม” นั้นมีที่มาที่ไปยังไงนะ?ว่ากันว่าในอดีตเกาะนี้เรียกว่า “เกาะพิยาม” มาจากคำว่า “พอยาม” (“ยาม” เป็นการนับเวลาในสมัยโบราณ โดย 1 ยามเท่ากับ 3 ชั่วโมง) “พอยาม” จึงหมายถึง การเดินทางมายังเกาะนี้ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงจึงจะถึง ภายหลังเพี้ยนมาเป็น “เกาะพยาม” แต่บ้างก็ว่าที่มาของชื่อ “เกาะพยาม” มาจากคำว่า “พยายาม” เพราะในสมัยก่อนการเดินทางไปยังเกาะพยามมีความยากลำบาก ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ชาวบ้านจึงเรียกเกาะนี้ว่า “เกาะพยายาม” ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น “เกาะพยาม” นั่นเอง การเดินทางมายังเกาะพยาม สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองระนองมาประมาณ 15 นาที เรือมี 2 แบบ ได้แก่– เรือธรรมดา ราคาคนละ 200 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง– เรือสปีดโบ๊ท ราคาคนละ 350 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที สำหรับการเดินทางบนเกาะพยาม ต้องใช้รถจักรยานหรือรถจักรยานยนต์ ซึ่งบนเกาะก็มีบริการให้เช่าพร้อม เกาะพยาม เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัดระนอง และมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันมาก ที่นี่มีอ่าวหลักๆ อยู่ 4 อ่าวด้วยกัน คือ อ่าวแม่หม้าย อ่าวใหญ่ อ่าวเขาควาย และอ่าวกวางปีบ ซึ่งแต่ละอ่าวตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ห่างกันประมาณ 10 นาทีเท่านั้น สำหรับอ่าวแรกคือ “อ่าวแม่หม้าย” อ่าวนี้เรียกได้ว่าเป็นประตูด่านแรก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของท่าเรือหลัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก เรือเช่าเที่ยวรอบเกาะ รถจักรยานยนต์ให้เช่า เป็นต้น จุดเด่นของอ่าวนี้คือ หน้าหาดหันไปทางทิศตะวันออก จึงสามารถชมทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ขึ้นได้ ที่เกาะพยามสามารถพายเรือคายัคได้ด้วยนะ ถือว่าเป็นกิจกรรมยอดฮิตเลยล่ะ ถัดมาคือ “อ่าวใหญ่” ซึ่งเป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุดในเกาะพยาม โดยมีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น อ่าวใหญ่เหนือและอ่าวใหญ่ใต้ โดยมีลำคลองเล็กๆ คั่น ยามน้ำลด เมื่อคลื่นซัดสาด เราจะมองเห็นหาดทรายที่เป็น 2 สี กลายเป็นริ้วสีขาวดำ ดูสวยแปลกตามาก ต่อมาคือ “อ่าวเขาควาย” อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะมีลักษณะเป็นอ่าวที่โค้งเข้าหากันคล้ายกับเขาควาย ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร อ่าวเขาควายแบ่งออกเป็น อ่าวเขาควายเหนือ และอ่าวเขาควายใต้ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่ฝั่งใต้ เพราะมีมุมสุดฮิตอย่าง “หินทะลุ” ซึ่งเป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายภาพกันมาก เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์กของอ่าวนี้เลยก็ว่าได้ และสุดท้ายคือ “อ่าวกวางปีบ” เป็นอ่าวที่ไกลที่สุด บอกเลยว่าต้องใช้ความพยายามกันสักนิด กว่าที่เราจะได้เห็นชายหาดสวยๆ แบบนี้ หลังจากแวะไปเที่ยวมาครบ 4 อ่าวแล้ว ก็ได้เวลามารอชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่อ่าวใหญ่ สวยมากๆ เลย

หลงเสน่ห์… เกาะพยาม อ่านเพิ่มเติม

เสน่ห์…ทะเลไทย

เพื่อนๆ เคยสงสัยมั้ยคะว่า นอกจากวัดพระแก้วซึ่งเปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของประเทศไทยที่ชาวต่างชาติต่างเลือกมาเยือนแล้ว พวกเค้ายังชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวแบบไหนในประเทศไทยกันอีกบ้าง?.คำตอบก็คือ “ทะเล” ค่ะ แต่จะเป็นเพราะอะไรนั้น ตามแอดไปหาคำตอบกันเลยค่าาาา ถ้าถามว่าทำไมชาวต่างชาติถึงอยากมาเที่ยวทะเลไทย คำตอบแรกเลยที่แอดอยากจะบอกก็คือ เพราะบ้านเรามีหาดทรายชายทะเลที่สวยงาม เหมาะสำหรับการมาเล่นน้ำทะเล เดินเล่น และปูผ้านอนอาบแดดนั่นเองค่ะ อย่างต่อมาก็คงหนีไม่พ้นความสวยงามในท่ามกลางท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นบรรดาเกาะน้อยเกาะใหญ่ หรือแม้กระทั่งภูเขาหินปูนต่างๆ ที่ทำให้ผู้คนต่างหลงใหลและอยากไปยลโฉมใกล้ๆ สักครั้ง นอกจากนี้เรายังมีกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำชมปะการังน้ำลึก-น้ำตื้น พายเรือคายัคไปชมถ้ำกลางทะเล หรือว่ายน้ำ เป็นต้น และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลือกเดินทางมาเที่ยวทะเลไทย ยังมีอีกหลายเหตุผลที่รอให้เราออกไปค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง.#เพราะเมืองไทยสวยงามกว่าที่คุณคิด

เสน่ห์…ทะเลไทย อ่านเพิ่มเติม

สัมผัสรุ่งอรุณ ณ ผามออีแดง จ.ศรีสะเกษ

ผามออีแดงถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งแอดรับรองว่าถ้าใครได้ชมจะต้องประทับใจแน่นอน ผามออีแดง เป็นลานหินธรรมชาติที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา มีพรมแดนติดกับประเทศกัมพูชา สามารถมองเห็นทัศนียภาพของทิวเขาพนมดงรักและปราสาทเขาพระวิหารที่อยู่ในฝั่งของกัมพูชาได้.เพื่อนๆ สามารถไปเที่ยวที่นี่ได้ตลอดทั้งปี ยิ่งในช่วงฤดูหนาวจะได้เห็นทะเลหมอกด้วยนะ ในการชมพระอาทิตย์ขึ้นนั้น แอดแนะนำให้ไปตั้งแต่เช้ามืด เพราะเราจะได้เห็นท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูอมส้ม สวยงามมากๆ และถ้าโชคดี ท้องฟ้าปลอดโปร่ง เพื่อนๆ ก็จะได้เห็นพระอาทิตย์สีแดงกลมโต โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาแบบนี้เลยค่ะ  อีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ หน้าผาที่สลักประติมากรรมนูนต่ำเป็นภาพบุคคล 3 คน แต่งกายแบบขอมโบราณ เชื่อกันว่าเป็นที่ซ้อมมือของช่างก่อนแกะสลักจริงที่ปราสาทเขาพระวิหาร อายุประมาณ 1,500 ปี ซึ่งการชมภาพสลักนี้ เราจะต้องเดินลงบันไดไป แอบหวาดเสียวนิดๆ แต่ถ้าไปแล้วก็ต้องไปชมให้ได้นะ  ผามออีแดงตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อําเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เปิดให้ขึ้นชมทุกวัน เวลา 05.30-16.30 น. ค่าธรรมเนียมอุทยานฯชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท ค่าธรรมเนียมยานพาหนะรถจักรยานยนต์ 20 บาทรถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 045 816 000, 045 816 071, 098 957 5890 การเดินทางจาก อ.กันทรลักษณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 221 ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ

สัมผัสรุ่งอรุณ ณ ผามออีแดง จ.ศรีสะเกษ อ่านเพิ่มเติม

Seafood Club Bangsaen

Seafood Club Bangsaen เป็นร้านอาหารที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ไม่นาน แต่ด้วยสไตล์การตกแต่งที่สวยงามและดูมีชีวิตชีวา ก็ทำให้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากค่ะ สำหรับใครที่มาเพื่อถ่ายรูป แอดบอกเลยว่าที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เต็มไปหมด แต่อาจจะต้องรอสักนิดเพราะคนค่อนข้างเยอะ.ระหว่างนี้เราไปสั่งอาหารมาทานกันก่อนดีกว่า  สำหรับอาหารของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นซีฟู้ด เริ่มกันที่ “ข้าวผัดกุ้ง” หลายคนอาจจะคิดว่าดูธรรมดา แต่เฮ้ย อร่อยนะเนี่ย หรือถ้าอยากหาอะไรทานเล่นเบาๆ ก็ต้องนี่เลย “เฟรนช์ฟรายส์ทอด” ส่วนใครที่คิดว่ามาทะเลทั้งทีก็ต้องทานกุ้งตัวโตๆ คำใหญ่ๆ ต้องลองเมนูนี้เลย “กุ้งอบวุ้นเส้น” ดูสิคะ กุ้งตัวใหญ่น่าทานมากๆ และขอบอกเลยว่าเมื่อได้ลองชิมจะยิ่งใจละลาย เพราะฟินมาก อร่อยเว่อร์ๆ นอกจากอาหารแล้ว เมนูเครื่องดื่มต่างๆ ของที่นี่ ก็เป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง มีให้เลือกหลากหลาย น่าทานทั้งนั้นเลย อย่างที่บอกไปว่าที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ยิ่งถ้ามาช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เราจะได้เห็นแสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่ตัดกับสีครามของน้ำทะเล ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยสุดๆ.ปล.แอดไปตอนเที่ยง แอบเสียใจเบาๆ  นอกจากนี้ ในช่วงค่ำคืนยังมีการแสดงโชว์ควงกระบองไฟที่น่าตื่นตาตื่นใจ และดนตรีสดที่แสนจะไพเราะอีกด้วย บอกเลยว่าไม่ควรพลาดจ้า ขอบคุณรูปภาพสวยๆ จาก Seafood Club Bangsaen Seafood Club Bangsaen ที่ตั้ง 4/5 สุขุมวิทซอย 22 ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน เวลา 11.30 – 23.00 น.โทร. 085 678 9531

Seafood Club Bangsaen อ่านเพิ่มเติม

โกงกาง คาเฟ่ เกาะยอ

โกงกางคาเฟ่ เกาะยอ คาเฟ่ชิลๆ วิวธรรมชาติริมทะเลสาบสงขลา ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ โทนสีเทาๆ เท่ๆ มีที่นั่งทั้งในห้องแอร์และด้านนอก ที่มาของชื่อร้านก็มาจาก ต้นโกงกาง ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของร้านนั่นเอง เมนูของร้านมีทั้งของทานเล่น เค้ก และเครื่องดื่ม แอดปลื้มเค้กเป็นพิเศษ เพราะที่นี่มีให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ เริ่มต้นด้วยเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม ที่หวานกำลังดี กับบลูฮาวายเย็นๆ ทานแล้วสดชื่นนน เฟรนช์ฟรายส์ฟินๆ ก็มา ไปทะเลทั้งทีก็ต้องไม่พลาดเค้กมะพร้าว เค้กเนื้อนุ่ม ไม่หวานจนเกินไป ทานคู่กับช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รี ที่แบ่งชั้นไว้เก๋ๆ แนะนำให้คนก่อนดื่มนะ รสชาติเข้ากันได้ดีเลยล่ะ เดินมาด้านหลังร้านจะมีต้นโกงกาง เป็นมุมถ่ายรูปที่เก๋ไก๋ไม่น้อย บอกเลยอากาศดีมาก .ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ โกงกางคาเฟ่ เกาะยอ บริเวณนี้ติดกับทะเลสาบสงขลา เราสามารถมองเห็นกระชังเลี้ยงปลาของชาวบ้านเกาะยอได้ด้วย มาชมพระอาทิตย์ตกกัน บรรยากาศช่วงโพล้เพล้แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะ ที่ตั้ง 13 บ้านสวนใหม่ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 11.00-18.00 น.วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/2KcfHd4HUkVjzeEDA

โกงกาง คาเฟ่ เกาะยอ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top