รื่นรมย์บุรีรัมย์ 2 วัน 1 คืน
วันที่ 1– ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์– เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง– บุรีรัมย์ คาสเซิล– วัดป่าเขาน้อย.วันที่ 2– เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก– อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง– ปราสาทหินเมืองต่ำ วันที่ 1ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์.เป็นศาลหลักเมืองที่มีความโดดเด่นมาก มองครั้งแรกก็รู้ว่าที่นี่คือบุรีรัมย์ เป็นการออกแบบจากกรมศิลปากรโดยนำปราสาทหินพนมรุ้งมาเป็นต้นแบบ เพื่อเชิดชูเอกลักษณ์ของจังหวัด ศาลหลักเมืองที่เราเห็นปัจจุบันเป็นหลังใหม่ที่สร้างขึ้นมาทดแทนหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรมไป ภายในประดิษฐานเสาหลักเมืองถึง 2 เสาด้วยกัน สันนิษฐานว่า เสาหลักเมืองต้นด้านหน้า (ต้นที่เอียง) เป็นเสาหลักเมืองต้นแรก ตั้งขึ้นเมื่อครั้งสร้างเมืองแปะ ราวสมัยกรุงธนบุรี ส่วนเสาหลักเมืองต้นด้านหลัง เป็นเสาหลักเมืองที่ตั้งขึ้นเมื่อครั้งถูกยกฐานะให้เป็นจังหวัดบุรีรัมย์ ในช่วงรัชกาลที่ 5 สมัยรัตนโกสินทร์.ทุกวัน จะมีชาวบุรีรัมย์และนักท่องเที่ยวต่างเมืองแวะเวียนมาสักการะบูชาศาลหลักเมืองกันอย่างต่อเนื่อง.ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ ที่ตั้ง : ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/QsDwU59xTqhHyLXh8 เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง.จังหวัดบุรีรัมย์ มีภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว 8 ลูก หนึ่งในนั้นคือ “ภูเขาไฟกระโดง” นี่แหละ.ภูเขาไฟกระโดง สูงจากระดับน้ำทะเล 265 เมตร เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว แต่ยังปรากฏปากปล่องภูเขาไฟที่เห็นได้ชัดเจน เป็นรูปพระจันทร์ครึ่งซีก ปัจจุบันมีสภาพเป็นแอ่งน้ำ.เดิมเขาลูกนี้ชื่อว่า “พนมกระดอง” คำว่า “พนม” เป็นภาษาเขมร แปลว่า ภูเขา ส่วน “กระดอง” ก็คือ กระดองเต่า รวมแล้วก็แปลว่า ภูเขาที่คล้ายกระดองเต่า หรือ ภูเขากระดอง และเพี้ยนเป็น ภูเขากระโดง ในเวลาต่อมา บนปากปล่องภูเขาไฟ มีสะพานชื่อว่า “สะพานแขวนลาวา” สามารถไปยืนถ่ายรูปสวย ๆ ด้านบน และยังสามารถชมปากปล่องภูเขาไฟได้อีกด้วย นอกจากนี้ บนภูเขาไฟกระโดงยังมีความน่าสนใจอื่น ๆอีก อันได้แก่ พระสุภัทรบพิตร ปราสาทเขากระโดง พระพุทธบาทจำลอง ฯลฯ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวเมืองบุรีรัมย์ในมุมสูงที่สวยงามมาก ๆ จุดหนึ่งทีเดียว.ภูเขาไฟกระโดง สามารถขึ้นได้ 2 วิธีคือ โดยการเดินขึ้นบันได ที่เรียกว่า “บันไดนาคราช” จำนวน 297 ขั้น หรืออีกหนึ่งวิธีคือนำรถขึ้นไปจอดบริเวณจุดชมวิวด้านบนได้เลย.นอกจากนี้ ในทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี จะมีงานประเพณีขึ้นเขากระโดงอีกด้วย.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง ที่ตั้ง : ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชมโทร. 044 637 349: https://goo.gl/maps/WeKzup9CEDeq51eG6 บุรีรัมย์ คาสเซิล.บุรีรัมย์ คาสเซิล เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัด ตั้งอยู่ระหว่าง สนามฟุตบอลช้างอารีนา และสนามแข่งรถช้าง อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต ภายในเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ ออกแบบโดยอิงรูปแบบจากหมูบ้านที่ตั้งอยู่รายรอบปราสาทหินในอดีต กลางคอมมูนิตี้มอลล์ มีการสร้างปราสาทหินที่จำลองรูปแบบของปราสาทหินพนมรุ้งมาไว้ด้วย โดยในช่วงเย็นถึงค่ำ จะมีการเปิดไฟส่องสว่างรอบปราสาท สวยงามมากเลยล่ะ.บุรีรัมย์ คาสเซิลแบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็นส่วนต่าง ๆ เช่น สวนสาธารณะ ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ฯลฯ รวมทั้งตลาดนัด “อินดี้ มาร์เก็ต” ที่เปิดให้ชิมและช้อปเฉพาะในวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 15.00-21.00 น..บุรีรัมย์ คาสเซิล ที่ตั้ง : ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-21.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชมโทร. 093 559 5588พิกัด : https://goo.gl/maps/WeKzup9CEDeq51eG6 วัดป่าเขาน้อย.วัดป่าเขาน้อย เป็นวัดป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พัฒนาขึ้นตามปณิธานของพระโพธิธรรมาจารย์เถร หรือหลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ อดีตเจ้าอาวาสและวิปัสสนาจารย์ผู้เป็นที่เลื่อมใสของพุทธศาสนิกชน.เมื่อเข้ามาในบริเวณวัด สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์ศรีสุวจนคุณานุสรณ์ เป็นเจดีย์ที่มีศิลปกรรมโดดเด่น งดงาม ใหญ่โต มีรูปทรงคล้ายปราสาทหิน ที่แสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรมของอีสานใต้.ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ศรีสุวจนคุณานุสรณ์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและอัฐิธาตุของหลวงปู่สุวัจน์.ในวันสำคัญทางศาสนา และในโอกาสสำคัญต่าง ๆ ประชาชน และผู้ที่มีจิตศรัทธานิยมเข้ามาบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน บำเพ็ญจิตตภาวนา ภายในวัดแห่งนี้อยู่เสมอ.วัดป่าเขาน้อย ที่ตั้ง : ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/5N8MmZzicDB8sm4o6 วันที่ 2เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก เดิมเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 มีการทำคันกั้น จึงทำให้กลายเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จากสภาพพื้นที่ที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีความร่มรื่นสมบูรณ์ ทำให้มีนกหลากหลายสายพันธุ์มาอาศัยอยู่ เช่น นกกระสา นกกระยาง เป็ดน้ำ ฯลฯ และที่สำคัญคือ ที่นี่ยังเป็นศูนย์อนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยอีกด้วย.ในอดีตนกกระเรียนพันธุ์ไทยเคยสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในประเทศไทย ต่อมาทางองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันนำพ่อแม่นกกระเรียนพันธุ์ไทยที่หายาก มาเพาะในกรงเลี้ยง จากนั้นนำปล่อยสู่ธรรมชาติ โดยปล่อยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2554 จนปัจจุบัน ได้ปล่อยนกคืนสู่ธรรมชาติแล้วนับร้อยตัว จากการเฝ้าติดตาม พบว่าบางส่วนของนกกระเรียนเหล่านี้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาติได้ รวมทั้งพบว่ามีลูกนกกระเรียนเกิดในธรรมชาติมากกว่าสิบตัว อันเป็นสัญญาณดีที่แสดงให้เห็นว่า นกกระเรียนพันธุ์ไทยได้หวนคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้งหลังจากที่เคยสูญพันธุ์ไปนานกว่า 50 ปีทีเดียว.ในบริเวณศูนย์อนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทย จะมีจุดดูนก อุปกรณ์ดูนก และเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับนกกระเรียนพันธุ์ไทยไว้ให้บริการ ซึ่งเวลาที่เหมาะกับการไปดูนกก็คือ 06.00 – 09.00 น. และ 15.00-18.00 น..นอกจากนี้ ในทุกวันจะมีผู้คนทั้งจากบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียง แวะเวียนมาปั่นจักรยาน เดิน วิ่ง ออกกำลังกาย นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากอยู่เสมอ.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ที่ตั้ง : ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์เปิดให้บริการทุกวัน
รื่นรมย์บุรีรัมย์ 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม