สถานที่ท่องเที่ยว

บางกะเจ้า : สวนศรีนครเขื่อนขันธ์

บางกะเจ้า ตั้งอยู่ในอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ใกล้ๆ กรุงเทพฯ นี่เอง สามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ เลย บางกะเจ้าไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีต้นไม้ให้เราชมเยอะแยะเท่านั้นนะ แต่ยังมีแหล่งเรียนรู้ ร้านอาหาร ที่พัก ตลาด และชุมชนอีกด้วย ใครอยากจะเที่ยววันเดียวเก๋ๆ งบน้อยๆ ที่นี่ก็น่าสนใจอยู่นะ .ที่ตั้ง : 73 ซอย วัดราษฎร์รังสรรค์ ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการเปิดทุกวัน เวลา 05.00 – 19.00 น.โทร. 02 461 0972 บางกะเจ้า มีลักษณะเป็นคุ้งน้ำอยู่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา มีรูปร่างคล้ายกับกระเพาะหมู.ที่นี่เปรียบเสมือนปอดกลางเมืองขนาดใหญ่ ที่แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวของป่าชุมชน ไม่มีการสร้างอาคารหรือตึกสูง จนได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Time Asia ว่าเป็น The Best Urban Oasis of Asia ปี 2006 เลยทีเดียว สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจในบางกะเจ้า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาปั่นจักรยานท่องเที่ยวรอบเกาะ ชมวิถีชีวิตชุมชนและเก็บบรรยากาศรอบๆ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ซึ่งบริเวณทางเข้าสวนก็มีจักรยานให้เช่าด้วย สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เป็นสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ สำหรับให้ผู้คนได้มาพักผ่อนและออกกำลังกาย ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ มองไปทางไหนก็เขียวขจีไปหมด ภายในสวนมีการจัดสภาพภูมิทัศน์อย่างสวยงาม และยังคงรักษาสภาพดั้งเดิมที่เคยเป็นสวนผลไม้เก่าเอาไว้ด้วย อย่าลืมมุมถ่ายรูปยอดฮิตนะ สะพานเขื่อนขันธ์มรรคา สะพานไม้ทอดยาวข้ามสระน้ำ กับอีกหนึ่งจุดคือ หอชมวิว สูง 7 เมตร ใครไปแล้วถ่ายรูปมาอวดแอดมั่งล่ะ นอกจากขี่จักรยานชมธรรมชาติแล้ว ที่บางกะเจ้าก็ยังมีอีกหลายกิจกรรมให้เราได้ทำ เช่น ชมพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยสายพันธุ์ต่างๆ ทำกิจกรรมที่บ้านธูปหอมสมุนไพร แวะชอปกันที่ตลาดบางน้ำผึ้ง ฯลฯ.สำหรับจุดเช่าจักรยานนั้นมีอยู่หลายจุด ราคาเริ่มต้นที่ 50-100 บาท สามารถเช่าเป็นรายชั่วโมงหรือเต็มวันเลยก็ได้ค่ะ การเดินทางสามารถไปได้ทั้งรถยนต์และเรือ แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางโดยเรือข้ามฟาก – เรือข้ามฟาก มีท่าเรือที่ให้บริการอยู่หลายท่า ได้แก่ – ท่าเรือวัดบางนานอก ไปท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอกท่าเรือตั้งอยู่ที่ถนนสรรพาวุธ เขตบางนา จากรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา ตรงไปทางสี่แยกบางนา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสรรพาวุธ จากนั้นตรงไปสุดทางจะพบท่าเรือวัดบางนานอก เรือจากท่านี้เป็นเรือขนาดใหญ่ สามารถนำจักรยานและจักรยานยนต์ลงเรือไปได้– เส้นทางนี้จะใกล้กับตลาดน้ำบางน้ำผึ้งและบ้านธูปหอมสมุนไพรพิกัด : https://goo.gl/maps/a813snLyZN2rSBEw5 – ท่าเรือวัดคลองเตยนอก ไปท่าเรือบางกะเจ้า (กำนันขาว)ท่าเรือตั้งอยู่ที่ถนนเกษมราษฎร์ เขตคลองเตย เรือจากท่านี้เป็นเรือหางยาว สามารถนำจักรยานลงเรือไปได้– เส้นทางนี้จะใกล้กับพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยและสวนศรีนครเขื่อนขันธ์พิกัด : https://goo.gl/maps/GX6dD26AKdG77z639 – ท่าเรือสาธุประดิษฐ์ ไปท่าเรือวัดโปรดเกศเชษฐารามท่าเรือตั้งอยู่ที่ถนนพระรามที่ 3 เขตยานนาวา เรือจากท่านี้เป็นเรือขนาดใหญ่ สามารถนำจักรยานและจักรยานยนต์ลงเรือไปได้– เส้นทางนี้ค่อนข้างไกลจากแหล่งท่องเที่ยวในบางกะเจ้า โดยอยู่บริเวณสวนสุขภาพลัดโพธิ์และช่วงต้นของถนนเพชรหึงษ์ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 13 พฤษภาคม 2562 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 13 พฤษภาคม 2562

บางกะเจ้า : สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ อ่านเพิ่มเติม

พนม 7 ที่ ดี 7 วัน

พระธาตุพนมพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงใน อ.ธาตุพนม เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ซึ่งควรหาโอกาสมาสักการะเพื่อเสริมดวงชะตาและเพื่อความเป็นสิริมงคล สำหรับผู้ที่ไม่ได้เกิดปีวอก หรือวันอาทิตย์ ก็สามารถมาสักการะได้เหมือนกัน เชื่อว่าจะได้รับกุศลผลบุญบารมี ทำการใดก็จะประสบความสำเร็จ ทั้งยังเชื่อว่าหากได้สักการบูชาพระธาตุครบทั้ง 7 ครั้ง ก็จะได้เป็น “ลูกพระธาตุ” อีกด้วย งานนมัสการพระธาตุพนม จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยถือเอาวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันแรกของงาน และไปสิ้นสุดในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ที่ตั้ง : วัดพระธาตุพนม ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนมเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-18.00 น. พระธาตุเรณูพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันจันทร์ ตั้งอยู่ในวัดธาตุเรณู ใจกลางตัวอำเภอเรณูนคร ไม่ไกลจากพระธาตุพนม สร้างขึ้นโดยจำลองจากพระธาตุพนมองค์เดิม แต่มีขนาดเล็กกว่า ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ พระไตรปิฎก พระพุทธรูปเงิน พระพุทธรูปทองคำ และของมีค่าต่างๆ รวมทั้งสิ่งของที่ประชาชนนำมาบริจาค เชื่อกันว่าผู้ที่มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงจันทร์ ที่ตั้ง : วัดธาตุเรณู ต.เรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนมเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-19.00 น. พระธาตุศรีคุณพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอังคาร เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองของชาวนาแก ตั้งอยู่ในวัดธาตุศรีคุณ ไม่ไกลจากพระธาตุพนมมากนัก มีลักษณะคล้ายพระธาตุพนมแต่ขนาดเล็กกว่า เชื่อกันว่าผู้ที่มานมัสการพระธาตุองค์นี้จะได้รับอานิสงส์ให้มีศักดิ์ศรีทวีคูณ ที่ตั้ง : วัดธาตุศรีคุณ ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนมเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-16.30 น. พระธาตุมหาชัยพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธ พระธาตุมหาชัย เป็นปูชนียสถานสำคัญซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ เชื่อกันว่าผู้ที่มานมัสการพระธาตุองค์นี้ จะประสบแต่ชัยชนะในชีวิต จะเป็นนักประสานสิบทิศ โอภาปราศรัยดี ค้าขายคล่อง พูดจามีคนเชื่อถือ วัดนี้ยังเป็นที่จำพรรษาของพระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) พระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนาที่สำคัญองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวนครพนมและชาวอีสานทั่วไป ที่ตั้ง : วัดโฆสิตาราม ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนมเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-18.00 น. พระธาตุมรุกขนครพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน นับเป็นพระธาตุประจำวันเกิดแห่งที่ 8 ของจังหวัดนครพนม ภายในองค์พระธาตุเก็บรวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ ไว้ให้ศึกษา เช่น ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อน ประตูวิหารโบราณ ฯลฯ เชื่อกันว่าผู้ที่มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้ประสบชัยชนะในชีวิต จุดที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพญานาคปูนปั้นโอบล้อมบริเวณโคนต้นเอาไว้ ซึ่งชาวบ้านนิยมมาขอพรและบนบานกันมาก ที่ตั้ง : วัดมรุกขนคร บ้านดอนนางหงส์ท่า ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนมเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-19.00 น. พระธาตุประสิทธิ์พระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี พระธาตุประสิทธิ์ เดิมเป็นเจดีย์เก่าแก่ที่ชำรุดทรุดโทรม มีเถาวัลย์ปกคลุม ภานในมีพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ ต่อมาได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ให้มีลักษณะแบบพระธาตุพนม ต่อมาได้มีการนำพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า และอรหันตธาตุ รวม 7 องค์มาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุด้วย เชื่อกันว่าผู้ที่มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้สัมฤทธิ์ผลในการทำงาน ระหว่างวันขึ้น 10 ค่ำ ถึงวันที่ 15 ค่ำ เดือน 4 จะมีงานเทศกาลนมัสการพระธาตุประสิทธิ์ เป็นประจำทุกปี ที่ตั้ง : วัดธาตุประสิทธิ์ ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนมเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-16.30 น. พระธาตุท่าอุเทนพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันศุกร์ ลักษณะขององค์พระธาตุจำลองมาจากพระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็กและสูงกว่า ภายในบรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ ซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง เชื่อกันว่าผู้ที่มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ ทุกปีจะมีงานนมัสการพระธาตุท่าอุเทน ในวันขึ้น 13 ค่ำ ถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ที่ตั้ง : วัดพระธาตุท่าอุเทน ต.ท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนมเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-16.30 น. พระธาตุนครพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันเสาร์ พระธาตุองค์นี้สร้างขึ้นใหม่แทนพระธาตุองค์เดิมเมื่อ พ.ศ.2463 ภายในบรรจุพระอรหันตธาตุ พระพุทธรูปทองคำและโบราณวัตถุที่ได้จากพระธาตุองค์เดิม รวมทั้งเครื่องรางของขลัง พระพุทธรูป และสิ่งของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้นำมาถวาย เชื่อกันว่าผู้ที่มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ส่งเสริมบุญบารมีให้มีอำนาจวาสนาเป็นเจ้าคนนายคน ร่ำรวย และมีสุขภาพแข็งแรง มีงานฉลองสมโภชซึ่งถือเป็นงานประจำปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ที่ตั้ง : วัดมหาธาตุ ถ.สุนทรวิจิตร อ.เมือง จ.นครพนมเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 7.00-18.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 11 พฤษภาคม 2562 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 11 พฤษภาคม 2562

พนม 7 ที่ ดี 7 วัน อ่านเพิ่มเติม

เกาะกูด Feel Good

ช่วงนี้ทะเลทางฝั่งภาคตะวันออกกำลังสวย แอดเลยอยากจะชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวเกาะกูดกัน ที่นี่เงียบสงบ มีธรรมชาติที่สวยงาม และน้ำทะเลใสสุดๆ เหมาะแก่การไปพักผ่อนมากๆ เอาล่ะ เราไปชมความสวยงามของเกาะกูดกันเลยดีกว่า เกาะกูด ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ห่างจากตัวเมืองตราด 80 กิโลเมตร ถือเป็นเกาะที่อยู่ไกลจากตัวเมืองตราดที่สุด.การเดินทางสามารถขึ้นเรือโดยสารได้ที่ท่าเรือแหลมศอก ไปยังท่าเรืออ่าวสลัด เกาะกูด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง 15 นาที (ขึ้นอยู่กับประเภทเรือ).เวลาเดินเรือ ขาไป จากท่าเรือแหลมศอก-ท่าเรืออ่าวสลัด– รอบ 10.45 น. เรือบุญศิริ / ราคาคนละ 500 บาท / ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที– รอบ 12.30 น. เรือปริ๊นเซส / ราคาคนละ 350 บาท / ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที– รอบ 12.45 น. เรือซุปเปอร์เจท / ราคาคนละ 500 บาท / ใช้เวลาประมาณ 45 นาที– รอบ 13.00 น. เรือเอ็กซ์เพรส / ราคาคนละ 500 บาท / ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที– รอบ 14.20 น. เรือบุญศิริ / ราคาคนละ 500 บาท / ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ขากลับ จากท่าเรืออ่าวสลัด-ท่าเรือแหลมศอก– รอบ 09.00 น. เรือบุญศิริ / ราคาคนละ 500 บาท / ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที– รอบ 10.00 น. เรือปริ๊นเซส / ราคาคนละ 350 บาท / ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที– รอบ 10.00 น. เรือเอ็กซ์เพรส / ราคาคนละ 500 บาท / ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที– รอบ 11.00 น. เรือซุปเปอร์เจท / ราคาคนละ 500 บาท / ใช้เวลาประมาณ 45 นาที– รอบ 12.00 น. เรือบุญศิริ / ราคาคนละ 500 บาท / ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที เกาะกูดขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลที่ใสเป็นประกาย และมีหาดสวยๆ หลายหาด เช่น หาดคลองเจ้า หาดง่ามโข่ หาดคลองระหาน อ่าวบางเบ้า และอ่าวยายกี๋ เป็นต้น จนได้รับฉายาว่า ทะเลอันดามันแห่งภาคตะวันออก นอกจากการนอนชิลๆ ริมหาดให้คลื่นซัดเล่นแล้ว กิจกรรมที่เป็นที่นิยมคือ การพายเรือคายัค และพายแพดเดิ้ลบอร์ด เป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่จะทำให้เราได้ซึมซับบรรยากาศสวยๆ ของทะเล.การดำน้ำก็เป็นอีกกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่ ซึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปดำน้ำดูปะการังก็คือ บริเวณเกาะแรด และหมู่เกาะรัง (เกาะยักษ์เล็ก เกาะรัง เกาะยักษ์ใหญ่) เพราะเป็นจุดที่มีปะการังสวย และมีปลาหลายชนิด บอกเลยว่าฟินแน่นอน ถ้าใครอยากได้บรรยากาศร่มรื่น ลองเปลี่ยนจากพายเรือคายัคในทะเล มาพายที่คลองเจ้ากันดูสิ บริเวณนี้เราสามารถพายเรือเที่ยวชมป่าชายเลน และชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมคลองได้ด้วยนะ ที่นี่นอกจากจะมีทะเลสวยๆ แล้ว ก็ยังมีน้ำตกคลองเจ้า ที่สวยไม่แพ้กัน.น้ำตกคลองเจ้ามีน้ำตลอดทั้งปี แต่ถ้าให้ดี แนะนำไปช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม เพราะจะมีน้ำเยอะ กระโดดเล่นน้ำสนุกแบบในรูปเลยล่ะค่ะ มาเที่ยวเกาะกูดแล้ว ก็อย่าลืมรอชมพระอาทิตย์ตกที่ริมชายหาดกันนะคะ สวยจนละสายตาไม่ได้เลยล่ะ มาเที่ยวเกาะกูดไม่ต้องกังวลเรื่องที่พัก เพราะมีให้เลือกหลายที่เลย แต่แอดขอแนะนำที่พักเด็ดๆ วิวสวยๆ สัก 5 ที่แล้วกัน 1. Rest Sea Resortพิกัด : https://goo.gl/maps/7soKF2ii2nBeVcYC8ราคา 2,200 – 6,200 บาทโทร. 090 897 8844https://www.facebook.com/restseakohkood/ 2. Koh Kood Paradise Beach Resortพิกัด : https://goo.gl/maps/kkU4DSpv4Cqjs2v88ราคา 3,300 – 5,800 บาทโทร. 082 448 8448https://www.facebook.com/KohKoodParadiseBeach/ 3. To The Sea Resortพิกัด : https://goo.gl/maps/9rGDHqT9kmjxrnuGAราคา 2,600 –

เกาะกูด Feel Good อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวตามคำขวัญ : ตรัง

เที่ยวตามคำขวัญ : ตรัง เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างรสเลิศ ถิ่นกำเนิดยางพารา เด่นสง่าดอกศรีตรัง ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม น้ำตกสวยตระการตา ใครจะไปเชื่อว่า จังหวัดเดียว แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่โดดเด่นครบถ้วน ซึ่งคำขวัญประจำจังหวัดก็ได้ยกเอาสิ่งเหล่านั้นมาชูให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น “เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง” พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี หรือ นายคอซิมบี๊ ณ ระนอง คือผู้สร้างคุณูปการให้แก่เมืองตรังมากมายหลายด้าน อาทิ การคมนาคม เกษตรกรรม กสิกรรม การศึกษา การปกครอง ฯลฯ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมชาวตรังจึงเคารพรักและระลึกถึงท่านอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สำหรับใครที่ไปเมืองตรัง สามารถย้อนอดีตไปสู่ความรุ่งเรืองในวันวานกับ “จวนเก่าเจ้าเมืองตรัง” ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ภายในพิพิธภัณฑ์มีหุ่นขี้ผึ้งของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี และจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของท่านเอาไว้อย่างครบถ้วน โดยมีทายาทตระกูล ณ ระนอง เป็นผู้ดูแลรักษา พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีที่ตั้ง : เทศบาลกันตัง อ.กันตัง จ.ตรังไม่เสียค่าเข้าชมเปิดวันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)ตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.30 น. “หมูย่างรสเลิศ” ตรัง เมืองเล็กๆ ที่น่ารัก ได้รับการนิยามว่าเป็นยุทธจักรแห่งการกิน เพราะแต่ละมุมเมืองล้วนมากมายไปด้วยร้านเด็ดน่าชิม ซึ่งเมนูเด็ดที่ไปแล้วห้ามพลาดเลยก็คือ “หมูย่างเมืองตรัง” ที่ไม่ว่าใครที่ได้ลิ้มลอง ต่างก็พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อย!! ความโดดเด่นของหมูย่างเมืองตรังคือ ความกรอบของหนังหมูที่กรอบกำลังพอดี เนื้อนุ่ม รสชาติอร่อยกลมกล่อม ทำให้นักชิมติดใจมานักต่อนักแล้ว “ถิ่นกำเนิดยางพารา” การนำต้นยางพารามาปลูกในไทยเป็นครั้งแรกนั้น เกิดจากความคิดของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) เมื่อครั้งที่ท่านไปดูงานที่มลายู ต่อมา พ.ศ.2444 ท่านจึงได้ให้พระสถลสถานพิทักษ์ หลานชายของท่าน นำเมล็ดของต้นยางพารามาจากอินโดนีเซีย มาปลูกที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นที่แรก ก่อนแพร่หลายไปสู่หลายๆ จังหวัดในภาคใต้ จึงถือกันว่าพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีเป็น “บิดาแห่งยางพาราไทย” ปัจจุบันต้นยางพารากลุ่มแรกที่ได้ปลูกไว้ที่อำเภอกันตัง เหลือให้เห็นเพียงต้นเดียว อยู่บริเวณหน้าสหกรณ์การเกษตรกันตังนั่นเอง “เด่นสง่าดอกศรีตรัง” พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) เป็นผู้ที่นำต้นศรีตรังมาปลูกที่เมืองตรังเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2444 และในเวลาต่อมาดอกศรีตรังก็ได้รับการกำหนดให้เป็นพันธุ์ไม้พระราชทานประจำจังหวัด และยังเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดตรังอีกด้วย ต้นศรีตรังเป็นไม้ที่ปลูกง่าย เติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ชอบแดดจัด แต่ก็ต้องให้น้ำเป็นประจำ สามารถปลูกได้ด้วยการเพาะเมล็ด ระหว่างปลายเดือนธันวาคม ถึงเดือนมีนาคมของทุกปี ต้นศรีตรังจะออกดอกบานสะพรั่งสวยงามทั่วจังหวัดตรัง ใครไปเที่ยวช่วงนั้นแอดบอกเลยว่า มองไปทางไหนก็จะเห็นดอกสีม่วงๆ ไปทั่วทุกพื้นที่ สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ เลยล่ะ “ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม” จังหวัดตรังตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นทะเลที่มีน้ำใสสีคราม มีสัตว์น้ำนานาพันธุ์ ปะการังหลากหลายชนิด และหาดทรายยาวขาวละเอียด สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลของตรังหลายๆ ที่ มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เช่น เกาะมุก ถ้ำมรกต เกาะเชือก เกาะแหวน เกาะเหลาเหลียง และเกาะกระดาน เป็นต้น “น้ำตกสวยตระการตา” นอกจากทะเลที่สวยงามแล้ว จังหวัดตรัง ก็ยังมีน้ำตกอีกหลายแห่ง ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเล่นน้ำและชมความงดงามของธรรมชาติได้ เช่น น้ำตกโตนเต๊ะ น้ำตกโตนตก น้ำตกไพรสวรรค์ และน้ำตกกะช่อง เป็นต้น ในภาพคือ น้ำตกกะช่อง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ บนหน้าผาชั้นที่ 7 ของน้ำตกกะช่อง ยังมีจารึกพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และ สก. ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงจารึกไว้เมื่อครั้งเสด็จฯ เยี่ยมราษฏรภาคใต้ครั้งแรก พ.ศ.2502 แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี แต่จารึกนั้นยังคงชัดเจนจวบจนปัจจุบัน น้ำตกกะช่องที่ตั้ง : ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 28 พฤษภาคม 2562

เที่ยวตามคำขวัญ : ตรัง อ่านเพิ่มเติม

จุดชมวิวเนินนางพญา จ.จันทบุรี

“จุดชมวิวเนินนางพญา” ตั้งอยู่ริมถนนเฉลิมบูรพาชลทิต บริเวณหาดคุ้งวิมาน จ.จันทบุรี.ที่นี่เป็นจุดชมวิวยอดฮิต ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ทั้งที่จอดรถ ร้านอาหาร และยังมีเลนสำหรับจักรยานตลอดแนวถนนอีกด้วย.ที่จุดชมวิวเนินนางพญาแห่งนี้ สามารถมองเห็นวิวทะเลกับถนนที่คดเคี้ยวสวยงาม รวมทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยล่ะ อีกฝั่งของจุดชมวิว เราจะเห็นท้องทะเลสีฟ้า เห็นแหลมของหาดคุ้งวิมานที่ยื่นออกไปในทะเล และเกาะเล็กเกาะน้อยต่างๆ สวยงามมากๆ นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกับวิวสวยๆ ที่นี่กันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคู่รักนิยมนำกุญแจมาคล้องที่รั้ว ตามความเชื่อที่ว่าจะทำให้ความรักยืนยาว โรแมนติกไปอีก ซึ่งหากไปตอนเย็นๆ เราจะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม ทั้งยังได้เห็นแนวถนนเฉลิมบูรพาชลทิตที่คดโค้งเป็นรูปตัวเอส (s) ลัดเลาะตามแนวชายทะเลได้อย่างชัดเจน สวยไม่แพ้ตอนกลางวันเลยล่ะ.จุดชมวิวเนินนางพญาการเดินทางจากตัวเมืองชลบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 344 และทางหลวงหมายเลข 3 มุ่งหน้าไปยังจันทบุรี ถึงสามแยกประแสร์ เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3162 เมื่อถึงแยกคลองปูน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ขับไปตามทางเรื่อยๆ เลยอ่าวคุ้งวิมานไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงเนินนางพญา เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 16 เมษายน 2562

จุดชมวิวเนินนางพญา จ.จันทบุรี อ่านเพิ่มเติม

จุดชมวิวเนินนางพญา จ.จันทบุรี

“จุดชมวิวเนินนางพญา” ตั้งอยู่ริมถนนเฉลิมบูรพาชลทิต บริเวณหาดคุ้งวิมาน จ.จันทบุรี.ที่นี่เป็นจุดชมวิวยอดฮิต ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ทั้งที่จอดรถ ร้านอาหาร และยังมีเลนสำหรับจักรยานตลอดแนวถนนอีกด้วย.ที่จุดชมวิวเนินนางพญาแห่งนี้ สามารถมองเห็นวิวทะเลกับถนนที่คดเคี้ยวสวยงาม รวมทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยล่ะ อีกฝั่งของจุดชมวิว เราจะเห็นท้องทะเลสีฟ้า เห็นแหลมของหาดคุ้งวิมานที่ยื่นออกไปในทะเล และเกาะเล็กเกาะน้อยต่างๆ สวยงามมากๆ นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกับวิวสวยๆ ที่นี่กันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคู่รักนิยมนำกุญแจมาคล้องที่รั้ว ตามความเชื่อที่ว่าจะทำให้ความรักยืนยาว โรแมนติกไปอีก ซึ่งหากไปตอนเย็นๆ เราจะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม ทั้งยังได้เห็นแนวถนนเฉลิมบูรพาชลทิตที่คดโค้งเป็นรูปตัวเอส (s) ลัดเลาะตามแนวชายทะเลได้อย่างชัดเจน สวยไม่แพ้ตอนกลางวันเลยล่ะ.จุดชมวิวเนินนางพญาการเดินทางจากตัวเมืองชลบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 344 และทางหลวงหมายเลข 3 มุ่งหน้าไปยังจันทบุรี ถึงสามแยกประแสร์ เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3162 เมื่อถึงแยกคลองปูน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ขับไปตามทางเรื่อยๆ เลยอ่าวคุ้งวิมานไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะถึงเนินนางพญา เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 16 เมษายน 2562

จุดชมวิวเนินนางพญา จ.จันทบุรี อ่านเพิ่มเติม

Long time no SEA : หาดวนกร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พูดถึงทะเลประจวบฯ เพื่อนๆ ก็คงจะนึกถึงชายหาดหัวหินกันใช่มั้ย แต่ถ้าไม่ใช่หัวหินล่ะ จะไปที่ไหนกันดี?.แอดแนะนำที่นี่เลย หาดวนกร ภายในอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปแล้วไม่มีผิดหวังแน่นอน เพราะสวยไม่แพ้หัวหิน แถมยังเงียบสงบเหมาะสำหรับการมาพักกายพักใจสุดๆ ภายในอุทยานมีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์อยู่ริมทะเลเลยล่ะ ท่ามกลางสวนสนที่เรียงรายเป็นแถวสวยงาม นอกจากเต็นท์แล้วก็ยังมีบ้านพักไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย.พอมาถึง ใจแอดก็วิ่งลงทะเลไปซะเเล้ว แต่ต้องอดใจไว้ก่อน เพราะเราต้องไปจัดแจงกางเต็นท์ และเคลียร์สัมภาระให้เสร็จ จากนั้นก็ลุยเลยจ้า.แต่!! มาถึงที่นี่แล้ว ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่แอดไม่อยากให้พลาด นั่นก็คือ การดำน้ำดูปะการังที่เกาะจาน-เกาะท้ายทรีย์นั่นเอง แนะนำว่าต้องติดต่อจองคิวล่วงหน้ากับทางอุทยานฯ นะคะ เพราะว่าเต็มเร็วมากๆ นักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์มาเอง หรือจะเช่าของอุทยานฯ ก็ได้ ได้เต็นท์แล้วก็เลือกทำเลกันได้เลย ส่วนบ้านพักอุทยานฯ ก็อยู่ไม่ไกลกัน บริเวณด้านหลังจุดกางเต็นท์นี่เอง.ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะนำอุปกรณ์มาทำอาหารทานกันเองด้วย ซึ่งมาแบบนี้ก็ต้องล้อมวงทานบาร์บีคิวหอมๆ และอาหารทะเลสดๆ พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดน่ะสิ แต่สำหรับใครที่่ไม่อยากทำเอง ที่นี่เค้าก็มีร้านค้าสวัสดิการด้วย เปิดทุกวันเวลา 08.00 – 17.00 น. ถ้าใครอยากมาเที่ยวพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มานอนรับลมชิลๆ ดูต้นสนพลิ้วไหวไปมา ได้เล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการัง ที่นี่ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ———————————————————–หาดวนกรที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติหาดวนกร หมู่ 7 ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 15 เมษายน 2562

Long time no SEA : หาดวนกร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อ่านเพิ่มเติม

Long time no SEA : หาดวนกร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พูดถึงทะเลประจวบฯ เพื่อนๆ ก็คงจะนึกถึงชายหาดหัวหินกันใช่มั้ย แต่ถ้าไม่ใช่หัวหินล่ะ จะไปที่ไหนกันดี?.แอดแนะนำที่นี่เลย หาดวนกร ภายในอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปแล้วไม่มีผิดหวังแน่นอน เพราะสวยไม่แพ้หัวหิน แถมยังเงียบสงบเหมาะสำหรับการมาพักกายพักใจสุดๆ ภายในอุทยานมีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์อยู่ริมทะเลเลยล่ะ ท่ามกลางสวนสนที่เรียงรายเป็นแถวสวยงาม นอกจากเต็นท์แล้วก็ยังมีบ้านพักไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย.พอมาถึง ใจแอดก็วิ่งลงทะเลไปซะเเล้ว แต่ต้องอดใจไว้ก่อน เพราะเราต้องไปจัดแจงกางเต็นท์ และเคลียร์สัมภาระให้เสร็จ จากนั้นก็ลุยเลยจ้า.แต่!! มาถึงที่นี่แล้ว ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่แอดไม่อยากให้พลาด นั่นก็คือ การดำน้ำดูปะการังที่เกาะจาน-เกาะท้ายทรีย์นั่นเอง แนะนำว่าต้องติดต่อจองคิวล่วงหน้ากับทางอุทยานฯ นะคะ เพราะว่าเต็มเร็วมากๆ นักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์มาเอง หรือจะเช่าของอุทยานฯ ก็ได้ ได้เต็นท์แล้วก็เลือกทำเลกันได้เลย ส่วนบ้านพักอุทยานฯ ก็อยู่ไม่ไกลกัน บริเวณด้านหลังจุดกางเต็นท์นี่เอง.ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะนำอุปกรณ์มาทำอาหารทานกันเองด้วย ซึ่งมาแบบนี้ก็ต้องล้อมวงทานบาร์บีคิวหอมๆ และอาหารทะเลสดๆ พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดน่ะสิ แต่สำหรับใครที่่ไม่อยากทำเอง ที่นี่เค้าก็มีร้านค้าสวัสดิการด้วย เปิดทุกวันเวลา 08.00 – 17.00 น. ถ้าใครอยากมาเที่ยวพักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มานอนรับลมชิลๆ ดูต้นสนพลิ้วไหวไปมา ได้เล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการัง ที่นี่ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ———————————————————–หาดวนกรที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติหาดวนกร หมู่ 7 ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 15 เมษายน 2562

Long time no SEA : หาดวนกร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อ่านเพิ่มเติม

10 จุดชมความงาม ยามอาทิตย์อัสดง

1. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ “พระปรางค์” ซึ่งมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่นที่สุดวัดหนึ่งของไทย หากมองจากฝั่งพระนครไปยังวัดอรุณฯ ในช่วงพลบค่ำ ก็จะเห็นภาพดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ด้านหลังของพระปรางค์พอดิบพอดี องค์ประกอบต่างๆ ล้วนทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามลงตัวอย่างน่าอัศจรรย์ วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหารที่ตั้ง : ถ.วังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 8.30-17.30 น. 2. วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงปีที่ผ่านมา วัดไชยวัฒนารามเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต เนื่องจากเป็นฉากหนึ่งในละครเรื่องบุพเพสันนิวาสทีโด่งดังไปทั่ว ทำให้มีผู้คนเดินทางมาตามรอยละครกันมากมาย วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยจำลองรูปแบบการก่อสร้างมาจากปราสาทนครวัด มีพระปรางค์องค์ใหญ่เป็นประธานของวัด และมีปรางค์บริวารอยู่ที่มุมทั้ง 4 รอบพระปรางค์ล้อมรอบด้วยระเบียงคด ซึ่งมีเมรุทิศ เมรุราย อยู่ที่มุมและด้านของระเบียงคด นับเป็นโบราณสถานที่สวยงามตระการตาอีกแห่งหนึ่ง ในยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ตกดิน แสงที่สาดส่องมายังโบราณสถาน ทำให้เกิดมุมมองที่แปลกตา สวยงามไม่แพ้กลางวันเลย วัดไชยวัฒนารามที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 3. ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ หลายๆ คนอาจจะตั้งตารอชมปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตู ซึ่งใน 1 ปีจะเกิดขึ้นเพียง 4 ครั้งเท่านั้น แต่วันนี้แอดอยากจะบอกว่า ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงเวลานั้น เราก็มีรูปสวยๆ ไปอวดเพื่อนๆ ได้เหมือนกัน ยามดวงอาทิตย์คล้อยลงต่ำ เตรียมจะลาลับขอบฟ้า เงาของปราสาทจะบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้ปราสาทดูลึกลับและเต็มไปด้วยมนต์ขลังมากยิ่งขึ้น ปราสาทหินพนมรุ้งที่ตั้ง : ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 4. สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จ.ตาก สะพานแห่งนี้ถือเป็นจุดชมวิวแม่น้ำปิงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของ จ.ตาก เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะช่วงที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตก เราจะเห็นดวงอาทิตย์อยู่ตรงกับแนวสะพานพอดี เป็นภาพที่สวยงามมากๆ นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปี บริเวณสะพานแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวง ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอีกด้วย สะพานแขวนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีที่ตั้ง : อ.เมือง จ.ตาก 5. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มรดกโลกที่สำคัญของไทย ร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัยเมื่อกว่า 700 ปีก่อน ภายในอุทยานฯ เต็มไปด้วยโบราณสถานมากมายที่แม้จะปรักหักพังแต่ก็เต็มไปด้วยคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์และทางจิตใจ ในช่วงเวลาโพล้เพล้ บริเวณสระน้ำหน้าวัดมหาธาตุนี่แหละคือสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักถ่ายภาพ ภาพความยิ่งใหญ่ของโบราณสถานยามอาทิตย์อัสดงที่สะท้อนลงบนผิวน้ำนั้น งดงามเกินบรรยายจริงๆ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่ตั้ง : ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. 6. กว๊านพะเยา จ.พะเยา กว๊านพะเยาเป็นบึงน้ำที่เกิดจากการรวมตัวของลำห้วยต่างๆ ถึง 18 สาย เป็นบึงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลากว่า 50 ชนิดด้วย คำว่า “กว๊าน” หมายถึง หนองน้ำ หรือบึงน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นคำที่ใช้เฉพาะที่จังหวัดพะเยาแห่งเดียวเท่านั้น ทัศนียภาพรอบกว๊านร่มรื่น มองเห็นแนวทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงาม บริเวณริมกว๊านมีร้านอาหารและสวนสาธารณะ ซึ่งสามารถมาเดินเล่น หรือชมพระอาทิตย์ตกดินได้ มีบริการนั่งเรือพายชมทัศนียภาพกว๊านพะเยาด้วย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท กว๊านพะเยาที่ตั้ง : ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา 7. ประภาคาร จ.ระนอง ประภาคารแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณท่าเทียบเรือด่านศุลกากรระนอง เป็นอาคารแปดเหลี่ยม สูง 50 เมตร ถือว่าเป็นประภาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย ประภาคารมีทั้งหมด 9 ชั้น โดยชั้นที่ 9 เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมสวยงามของปากน้ำระนอง ก่อนไหลออกสู่ทะเลอันดามัน โดยอีกฟากฝั่งของแม่น้ำก็คือประเทศเมียนมานั่นเอง ใกล้มากๆ ในช่วงเย็น สถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่เราสามารถมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ รับลมเย็นๆ และถ่ายรูปเล่นได้อีกด้วย บอกเลยว่าภาพประภาคารที่มีภูเขาและดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นฉากหลังนั้น สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ เลย ประภาคาร จ.ระนองที่ตั้ง : บ้านเขานางหงส์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 8.00-20.00 น. 8. สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.พัทลุง รู้หรือไม่..สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.พัทลุง เป็นสะพานที่ยาวที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมเส้นทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา เข้าด้วยกัน โดยทอดยาวผ่านทะเลน้อยอันกว้างใหญ่ ทัศนียภาพโดยรอบสะพานเป็นเวิ้งน้ำกว้างไกล สามารถมองเห็นทะเลบัวแดงในช่วงเช้า ส่วนช่วงสายก็จะพบกับนกน้ำที่ออกหากิน และถ้าโชคดีก็อาจได้พบควายน้ำด้วย ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่คือ ในช่วงเย็นเส้นทางนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นจุดถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาที่ตั้ง : ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง 9. เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เกาะเต่า จุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เนื่องจากมีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิด เกาะเต่ามีหาดทรายขาวละเอียดและสะอาดสวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นเกาะที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เกาะเต่าจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการการพักผ่อนอย่างแท้จริง ถึงแม้เกาะเต่าจะตั้งอยู่ในเขต จ.สุราษฎร์ธานี แต่เนื่องจากอยู่ใกล้ฝั่งของ จ.ชุมพรมากกว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะเต่าจึงนิยมขึ้นเรือจากชุมพรเป็นส่วนใหญ่ เกาะเต่าที่ตั้ง : อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 10.

10 จุดชมความงาม ยามอาทิตย์อัสดง อ่านเพิ่มเติม

เกาะทะลุ : ระยอง

เกาะทะลุ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ห่างจากเกาะเสม็ดประะมาณ 12 กิโลเมตร สภาพพื้นที่บนเกาะส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ ทางทิศตะวันตกเป็นผาหินสูงชัน ส่วนทิศตะวันออกและทิศใต้มีหาดทรายขาวละเอียดเนียนนุ่ม สามารถลงเล่นน้ำได้ บนเกาะมีร้านค้าสวัสดิการของอุทยานฯ และห้องน้ำให้บริการ แต่ไม่สามารถพักค้างแรมได้นะ น้ำทะเลที่นี่ใสราวกับกระจก นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำ ดำน้ำ หรือจะนั่งกินลมชมทะเล ก็ฟินไม่แพ้กัน เกาะทะลุมีจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกหลายจุด ที่เราสามารถลงไปแหวกว่ายชมโลกใต้ทะเลที่มีปะการังและเหล่าปลาน้อยใหญ่เต็มไปหมด ขอบอกว่าสวยไม่แพ้กับทะเลใต้เลย จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำกันมาก ก็คือจุดที่อยู่ใกล้กับสะพานหินธรรมชาติ ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลจนเกิดเป็นโพรง อันเป็นที่มาของชื่อ “เกาะทะลุ” นั่นเอง จุดนี้ไม่สามารถเดินเท้ามาได้ ต้องนั่งเรือมาชมเท่านั้นนะ  การเดินทางไปยังเกาะทะลุนั้น เนื่องจากไม่มีเรือโดยสารให้บริการ นักท่องเที่ยวจึงต้องเหมาเรือจากเกาะเสม็ด ท่าเรือบ้านเพ หรือชายหาดอำเภอแกลง หรือซื้อแพคเกจดำน้ำจากบริษัททัวร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด โทร. 038 653 03ททท. สำนักงานระยอง โทร. 038 655 420-1 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 9 เมษายน 2562

เกาะทะลุ : ระยอง อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top