สถานที่ท่องเที่ยว

เที่ยวพิษณุโลก 3 วัน 2 คืน

เที่ยวพิษณุโลก 3 วัน 2 คืน.วันที่ 1– น้ำตกหมันแดง– โรงเรียนการเมืองการทหาร– กังหันน้ำ– ลานหินแตก.วันที่ 2– ทุ่งดอกเปราะภู– ลานหินปุ่ม– ผาชูธง– ล่องแก่งลำน้ำเข็ก– สวนบัวอมรรัตน์.วันที่ 3– วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร– วัดนางพญา วันที่ 1.ในวันแรกเราจะเดินทางไปที่ “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” กันค่ะ สำหรับอุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์นั่นเองค่ะ.ซึ่งที่นี่ก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย แต่ก่อนอื่นเรามาเริ่มต้นที่ “น้ำตกหมันแดง” กันก่อนดีกว่าค่ะ น้ำตกหมันแดง เป็นน้ำตกที่มีความงดงามมากที่สุดของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีทั้งหมด 32 ชั้น แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแค่บริเวณชั้น 1 ถึง 9 เท่านั้น.สำหรับการเดินทางไปยังน้ำตกหมันแดงนั้นจะต้องเดินเท้าเข้าไป ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงและจำเป็นจะต้องให้เจ้าหน้าที่ของทางอุทยานนำทางเท่านั้นนะคะ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยนั่นเองค่ะ สำหรับจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปชมกันมากที่สุด ก็คือบริเวณชั้น 5 ค่ะ เนื่องจากในชั้นนี้นอกจากจะได้ชมความสวยงามของน้ำตกแล้วยังจะได้ได้พบกับ “ดอกลิ้นมังกรสีชมพู” อีกด้วย ดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ที่หาชมได้ยาก มักบานในช่วงเดือนกรกฎาคม – ตุลาคมของทุกปี ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะบานประมาณปลายเดือนสิงหาคมค่ะ.เพื่อนๆ ที่สนใจจะเดินทางไป แอดขอแนะนำให้โทรไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนเดินทางประมาณ 3-5 วันนะคะ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้เตรียมอำนวยความสะดวกให้เรานั่นเองค่ะ  สถานที่ต่อมาเป็น “โรงเรียนการเมืองการทหาร” ค่ะ โรงเรียนการเมืองการทหารมีลักษณะเป็นบ้านไม้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ให้การศึกษาของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย.สำหรับที่แห่งนี้ หากเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันในช่วงฤดูหนาวก็จะได้พบกับใบเมเปิล ที่พร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีแดงและร่วงหล่นลงมาจนทำให้เกิดเป็นภาพที่น่าชมมากค่ะ ตรงข้ามกับโรงเรียนการเมืองการทหาร เพื่อนๆ จะพบกับ “กังหันน้ำ” ที่สร้างขึ้นโดยนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่หนีเข้าป่าภายหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ค่ะ สถานที่สุดท้ายของวันนี้เราจะไปยัง “ลานหินแตก” กันค่ะ ลานหินแตกมีลักษณะเหมือนแผ่นดินที่แยกแตกเป็นแนว เป็นร่อง สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการโก่งตัวหรือเคลื่อนตัวของผิวโลกนั่นเองค่ะ.ซึ่งในบริเวณนี้เพื่อนๆ สามารถเดินชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและถ่ายรูปเล่นได้ค่ะ  วันที่ 2.ในเช้าวันนี้เรายังอยู่กันที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าค่ะ แอดแนะนำให้ตื่นเช้าหน่อยนะคะ เพราะเราจะไปชมความงามของ “ทุ่งดอกเปราะภู” กัน .ดอกเปราะภู เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ต้องไปชมเมื่อมาเยือนอุทยานภูหินร่องกล้า ดอกเปราะภูมีลักษณะเป็นสีขาว มักจะผลิบานในช่วงหน้าฝนหรือประมาณเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ของทุกปี.จุดที่นิยมไปชม จะอยู่ตรงบริเวณทางเดินเข้าไปยังลานหินปุ่มนั่นเองค่ะ และนอกจากความงามของดอกเปราะภูแล้วเพื่อนๆ ยังจะได้สัมผัสกับไอหมอกที่ปกคลุมทุ่งแห่งนี้ในยามเช้าอีกด้วยค่ะ เมื่อเดินผ่านทุ่งดอกเปราะภูมาแล้ว เพื่อนๆ ก็จะพบกับ “ลานหินปุ่ม” ลานหินที่มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มกลมๆ ซึ่งขนาดของแต่ละปุ่มนั้นจะแตกต่างกันไป คาดว่าอาจเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหินนั่นเอง.หากเพื่อนๆ ชื่นชอบในการชมวิว  แอดคิดว่าบริเวณนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ห้ามพลาดเลยล่ะค่ะ  ถัดมาเป็น “ผาชูธง” ผาแห่งนี้มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล นอกจากนี้ผาชูธงยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งด้วยค่ะ .อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลกเปิดเวลา 08.00-16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาทโทร 081 596 5977  ต่อมาเราจะไปล่องแก่งที่ “ลำน้ำเข็ก” กันค่ะ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดล่องแก่งยอดนิยมของจังหวัดพิษณุโลก เพราะตลอดเส้นทางจะได้สัมผัสกับความสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลา.ลำน้ำแห่งนี้เป็นลำน้ำที่ไม่ใหญ่มาก แต่มีแก่งมากถึง 18 แก่งและมีระยะทางยาวถึง 8 กิโลเมตร ดังนั้นจึงใช้เวลาล่องประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งความรุนแรงก็จะแตกต่างกันไปตั้งแต่ระดับ 1-5 สลับกันตลอดทั้งเส้นทาง  ช่วงเวลาที่นิยมล่องแก่งก็คือ ระหว่างเดือนกรกฎาคม – ตุลาคมของทุกปี หากเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบความท้าท้าย แอดว่าการพิชิตลำน้ำเข็กก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ.ปล.การล่องแก่งลำน้ำเข็ก มีผู้ประกอบการให้บริการหลายเจ้า สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานพิษณุโลก โทร. 055 252 742-3.ล่องแก่งลำน้ำเข็กที่ตั้ง สะพานข้ามลำน้ำเข็กบ้านท่าข้าม ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก  หลังจากสนุกสนานกันอย่างหนักหน่วงกับการพิชิตลำน้ำเข็กแล้ว เรามาเที่ยวแบบสบายๆ กันต่อที่ “สวนบัวอมรรัตน์” ดีกว่าค่ะ.บัวของที่นี่ คือ บัวพันธุ์วิคตอเรีย หรือบัวกระด้งยักษ์ เป็นบัวที่สามารถรองรับน้ำหนักของคนที่ลงไปยืนอยู่ตรงกลางบัวได้อย่างสบายๆ เลยล่ะค่ะ .สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจอยากจะลงไปถ่ายรูปคู่กับบัวกระด้งยักษ์นี้ก็สามารถทำได้นะคะ โดยจะเสียค่าบริการ สำหรับผู้ใหญ่คนละ 100 บาท เด็กคนละ 50 บาทค่ะ แต่หากเข้าไปชมบัวอย่างเดียวก็จะเสียค่าเข้าชมคนละ 10 บาทเท่านั้นค่ะ.สวนบัวอมรรัตน์ ตำบลบ้านคลอง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลกเปิดเวลา 08.00-17.00 น.ค่าเข้าชมคนละ 10 บาทโทร. 083 162 0988 วันที่ 3.เมื่อมาเยือนถึงจังหวัดพิษณุโลกทั้งทีหากเราจะไม่แวะเข้าไปกราบไหว้ขอพร “พระพุทธชินราช” ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดใหญ่” ก็เหมือนมาไม่ถึง.เพราะพระพุทธรูปองค์นี้คือพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวพิษณุโลก อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยค่ะ   พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่หล่อด้วยสำริด มีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปที่สวยที่สุดในโลก ดังนั้นจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปชมและสักการบูชากันเป็นจำนวนมาก.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลกเปิดเวลา 06.30-18.00 น. และสถานที่สุดท้ายของทริปนี้ก็คือ “วัดนางพญา” สำหรับวัดแห่งนี้ถือเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อจังหวัดพิษณุโลกเป็นอย่างมาก.สันนิษฐานว่าผู้สร้างคือ พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระมเหสีของพระมหาธรรมราชา หรือพระราชมารดาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั่นเองค่ะ  ภายในพระอุโบสถของวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระสมเด็จนางพญาเรือนแก้ว พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอีกองค์หนึ่งของชาวพิษณุโลก.นอกจากนี้วัดนางพญายังมีชื่อเสียงในด้านพระเครื่อง คือ พระนางพญา สุดยอดเบญจภาคีที่ขึ้นชื่อในด้านเมตตามหานิยม .วัดนางพญา ถนนจ่าการบุญ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลกเปิดเวลา 07.00-17.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 31 กรกฎาคม

เที่ยวพิษณุโลก 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวอุบล ยลน้ำตก

เที่ยวอุบล..ยลน้ำตก 1.น้ำตกลงรู หรือ น้ำตกแสงจันทร์ อ.โขงเจียม สถานที่ท่องเที่ยวมีชื่ออีกแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ลักษณะเด่นคือเป็นน้ำตกแห่งเดียวในไทยที่ไหลผ่านช่องหินที่ธรรมชาติเว้นไว้ให้อย่างพอเหมาะพอดี ก่อนตกลงสู่เพิงผาด้านล่าง หากเดินทางมาชมในช่วงเที่ยงซึ่งแสงอาทิตย์ลอดผ่านรูพอดี จะมองเห็นสายน้ำตกเหมือนแสงจันทร์ เพื่อนๆ หลายคนอาจจะคุ้นตากับน้ำตกแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องสาปพระเพ็งนั่นเอง จุดจอดรถกับตัวน้ำตกอยู่ไม่ไกลกันมากนัก สามารถเดินทางไปชมได้อย่างสะดวก 2.น้ำตกสร้อยสวรรค์ อ.โขงเจียม เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงประมาณ 20 เมตร เกิดจากลำธาร 2 สาย คือห้วยสร้อยและห้วยไผ่ ไหลมาบรรจบกัน จากจุดจอดรถต้องเดินเท้าต่อเข้ามาอีกประมาณ 500 เมตร จึงจะถึงจุดเล่นน้ำ ที่นี่มีร้านอาหารให้บริการด้วยนะ 3.น้ำตกห้วยหลวง หรือ น้ำตกถ้ำบักเตว อ.นาจะหลวย เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงประมาณ 40 เมตร ลักษณะเป็นหน้าผาหินที่มีน้ำไหลตกจากที่สูงลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ใต้หน้าผามีซอกหินที่เราสามารถเดินลงไปชมน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด บริเวณแอ่งน้ำด้านล่างสามารถลงเล่นน้ำได้ ซึ่งจากกระแสน้ำที่ไหลตกลงมาจากที่สูงทำให้เกิดเป็นหาดทรายเล็กๆ แวดล้อมด้วยป่าไม้ที่ร่มรื่น นับเป็นหาดทรายกลางป่าที่สวยงามไม่เหมือนที่ไหน น้ำตกห้วยหลวงจะสวยงามที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งในช่วงหน้าฝนจะมีปริมาณน้ำมาก เวลาน้ำตกลงจากหน้าผาเสียงจะดังกึกก้องไปทั่วป่าเลยทีเดียว 4. น้ำตกประโอนละออ หรือ น้ำตกจุ๋มจิ๋ม อ.นาจะหลวย อยู่ห่างจากน้ำตกห้วยหลวงประมาณ 100 เมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็กแต่ก็น่าชมไม่น้อย สายน้ำไหลตกลงจากหน้าผาที่แม้ไม่สูงนัก แต่มีหน้ากว้าง ทำให้น้ำไหลลงมาเต็มพื้นที่ดูสวยงาม ด้านล่างมีแอ่งน้ำที่เหมาะสำหรับลงเล่น แวดล้อมไปด้วยป่าที่ร่มรื่น เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 30 กรกฎาคม 2562

เที่ยวอุบล ยลน้ำตก อ่านเพิ่มเติม

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี

เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า เป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว ก่อนอื่นเลยเมื่อมาถึงแล้ว เพื่อนๆ ต้องไปลงทะเบียนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนโดยใช้บัตรประชาชนอย่างเดียว เจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งกฏระเบียบต่างๆ ของการตั้งแคมป์และเข้าพักในบ้านพัก (บ้านพักต้องติดต่อล่วงหน้ามาก่อนนะ) ที่นี่ไม่มีค่าเข้านะคะ แล้วแต่ว่าใครอยากให้ค่าบำรุงสถานที่เท่าไหร่ก็ได้ ภายในศูนย์ฯ จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านค้าสวัสดิการ ลานกางเต็นท์ บ้านพัก ห้องน้ำและพื้นที่ป่า ติดต่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เราหาทำเลกางเต็นท์ในคืนนี้ แอดบอกเลยว่าอุปกรณ์พร้อมมาก ตื่นเต้นสุดๆ ฮ่าๆ หลังจากที่เรากางเต็นท์เสร็จเรียบร้อย เราก็เริ่มเตรียมอาหารเย็น ทริปนี้แอดนำอุปกรณ์เครื่องครัวและวัตถุดิบมาเองค่ะ (เตาต้องมีฐานรองด้วยนะคะ ไม่อนุญาตให้จุดกับพื้นหญ้าโดยตรง เพื่อป้องกันไฟไหม้หญ้า) เมนูมื้อเย็นของแอดวันนี้มีผัดผัก หมูย่าง และข้าวโพดปิ้ง เห็นง่ายๆ แบบนี้อร่อยสุดๆ เลยนะ หมูย่างยั่วๆ จ้า ถ้าใครไม่ได้เตรียมหมูมาเอง ที่นี่มีหมูกระทะครบชุดจำหน่ายด้วยนะ สามารถสั่งได้ที่ร้านค้าสวัสดิการเลยค่ะ พร้อมทานแล้วค่ะ หมูย่างร้อนๆ กับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ฟินมากก บรรยากาศช่วงเย็นก็จะประมาณนี้ ชิลสุดๆ แอดแนะนำเลย ที่นี่เหมาะแก่การพักผ่อนมาก ไม่ว่าจะมากับครอบครัว ชิลเอาท์กับแก๊งค์เพื่อนหรือจะเปลี่ยนบรรยากาศเมื่อยล้าจากการนั่งโต๊ะทำงานมาเป็นตั้งแคมป์ชิลๆ แบบแอดสักครั้ง แอดบอกเลย ไม่ว่าจะไปกางเต็นท์ที่ไหนพร็อบต้องแน่นนะคะทุกคน ทั้งไฟประดับ เทียน ธงตกแต่ง จัดเต็มกันได้เลย พอเริ่มมืดอากาศก็เริ่มเย็น เพราะช่วงนี้ยังอยู่ในฤดูฝน คืนนี้เราจะนอนดูดาวกันชิลๆ รับลมเย็นๆ ก่อนนอน เช้าแล้วๆๆ เช้านี้มีหมอกบางๆ ค่ะ เนื่องจากว่าเมื่อคืนมีฝนตกเล็กน้อย เช้านี้อากาศเลยเย็นเป็นพิเศษ  มานั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย แอบเสียดายถ้าหากมีหมอกเยอะกว่านี้คงจะสวยมากๆ  หมอกจางๆ ยามเช้า เช้านี้เราดื่มโอวัลตินร้อนๆ กับบรรยากาศเย็นๆ มื้อเช้าวันใหม่ของแอด เมนูง่ายๆ ตามวัตถุดิบที่มี บอกเลยว่าอิ่มท้องอยู่นะ วันนี้ต้องใช้พลังงานเยอะหน่อยค่ะ เพราะเราจะไปเดินป่าและชมน้ำตกกัน รอบๆ เต็นท์เรามีเพื่อนใหม่ด้วยแหละ พร้อมแล้ว ลุยกันเลย! วันนี้เราจะไปน้ำตกเจ็ดคดเหนือ ห่างจากจุดกางเต็นท์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร นอกจากน้ำตกเจ็ดคดเหนือแล้ว ยังมีน้ำตกเจ็ดคดกลาง เจ็ดคดใต้และเจ็ดคดใหญ่ ซึ่งระยะทางจะไกลออกไปอีกค่ะ หากจะเข้าไปชมน้ำตก สามารถเดินเข้าไปได้เลยหรือจะติดต่อเจ้าหน้าที่ให้นำทางเข้าไปก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอีกหนึ่งอย่างนั่นคือ ปั่นจักรยานรอบอ่างเก็บน้ำ สายลุยต้องไม่พลาดนะ วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า เข้าป่าทีไรจะต้องมีเพลงนี้เข้ามาในหัวทุกที ระหว่างทางก็จะเขียวๆ หน่อยเพราะเรามาในช่วงฤดูฝนพอดี ฟิน แต่ระวังกิ่งไม้แหลมๆ เกี่ยวเอาด้วยนะคะ แอดได้แผลมาแล้ว เส้นทางเดินไม่ยากค่ะ เป็นทางเรียบสลับกับขึ้นเนินบ้าง ก้อนหินเยอะพอสมควร ระมัดระวังกันด้วยนะคะ สวมรองเท้าให้รัดกุม แล้วลุยค่ะ แล้วสิ่งที่แอดแอบหวังว่าจะเจอก็เจอจนได้ “เห็ดแชมเปญ” น้องน่ารักมากเลยค่ะ รูปร่างหน้าตาเหมือนถ้วยเล็กๆ คล้ายกับแก้วแชมเปญ สีแดงอมส้ม สวยๆๆ  เห็ดแชมเปญพบเห็นได้ในช่วงฤดูฝนหรือจุดที่มีความชื้นสูง หากใครเจอแล้วก็อย่าไปจับหรือแตะต้องนะคะ เพื่อให้น้องอยู่กับธรรมชาติไปนานๆ ความจริงแล้วที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดปีเลยนะคะ แต่ละฤดูก็จะมีสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมแตกต่างกันไป  ถึงแล้วจ้า น้ำตกเจ็ดคดเหนือ ช่วงนี้พอมีน้ำบ้างแล้วค่ะ สามารถเล่นน้ำได้ แต่ต้องระมัดระวัง ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ บริเวณนี้จะมีโขดหินเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง อาจเกิดอันตรายและมีบาดแผลได้ นอกจากกางเต็นท์และเดินป่าแล้ว พื้นที่ป่าเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ยังเหมาะสำหรับส่องสัตว์อีกด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่รอยต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั่นเอง มองไปทางไหนก็เขียวไปหมด แอดเป็นประเภทธรรมชาติเลิฟเวอร์ หลายๆ คนก็คงเป็นแบบแอดเหมือนกัน ใช่มั้ย? การหาเวลาพักผ่อนและเติมพลังให้ตัวเอง มันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลยเนอะ แค่ได้มาอยู่กับเพื่อนๆ ธรรมชาติ และผู้คนที่ไลฟ์สไตล์เหมือนกัน แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว  ค่าบริการ เช่าเต็นท์– เต็นท์หลังละ 300 บาท สำหรับ 2 คน– ผ้าห่ม 50 บาท– ถุงนอน 50 บาท– แผ่นรองนอน 50 บาท– หมอน 20 บาท บ้านพักราคาเริ่มต้น 800 – 1,500 บาท/หลัง เตาปิ้งย่างราคาเตาละ 50 บาท มีค่ามัดจำ 50 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.089 801 4932, 065 342 8282 บอกเลยว่าใครไปตรงกับวันหยุด ไม่มีเหงาแน่นอนเพราะเพื่อนๆ กางเต็นท์เพียบค่ะ พูดมาซะเยอะ เตรียมแพ็คกระเป๋าแล้วออกไปลุยกันเลย!! เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 29 กรกฎาคม 2562

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี อ่านเพิ่มเติม

สักการะสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี ศรัทธาแห่งบ้านสองคอน มุกดาหาร

สักการะสถานพระมารดาแห่งมรณสักขีสองคอน หรือ วัดสองคอน เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเทิดพระเกียรติบุญราศี 7 ท่าน ได้แก่ ซิสเตอร์อักแนส พิลา ทิพย์สุข, ซิสเตอร์ลูซีอา คำบาง สีคำพอง, ครูฟิลิปสีฟอง อ่อนพิทักษ์, คุณแม่อากาทา พุดทา ว่องไว, นางสาวเซซีลีอา บุดสี ว่องไว, นางสาวบีบีอานา คำไพ ว่องไว และเด็กหญิงมารีอา พร ว่องไว ที่ได้พลีชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า.วัดสองคอน มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงาม จนได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมป์ ปี พ.ศ. 2539 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส และเกิดความเข้าใจผิดว่า ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของฝรั่งเศส เพราะบาทหลวงส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส.ชาวบ้านสองคอนที่นับถือศาสนาคริสต์ ถูกทางการบังคับให้ละทิ้งศาสนาของตน แต่มีคนกลุ่มหนึ่งไม่ยอม จึงถูกลอบยิง ถือเป็นการพลีชีพที่แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาที่มีต่อพระเจ้าอันยิ่งใหญ่.บริเวณทางเข้าของวัดสองคอนจะมีกางเขนเหล็กอันใหญ่ 8 อัน สูงลดหลั่นกัน อันที่สูงที่สุดแทนพระเยซู มีความสูง 24.83 เมตร (เป็นปีที่บุญราศีทั้ง 7 คนถูกยิงเสียชีวิต) ส่วนกางเขนอีก 7 อัน จะมีความสูงเท่ากับอายุของแต่ละคนตอนที่เสียชีวิต.บนกำแพงโค้งที่ทำจากหินทราย จะมีประติมากรรมนูนต่ำเล่าเรื่องราววีรกรรมการสละชีพของบุญราศีทั้ง 7 อยู่ด้วย ตัวโบสถ์เป็นกระจกใส ด้านหลังแท่นประกอบพิธี เป็นห้องที่มีโลงแก้ว 7 โลง ซึ่งภายในบรรจุหุ่นขี้ผึ้งและอัฐิของบุญราศีทั้ง 7 ท่านเอาไว้ เราสามารถเข้าไปกราบและขอพรได้ค่ะ.โดยวีรชนทั้ง 7 ท่าน ได้รับการประกาศให้เป็น “บุญราศี” (คำนำหน้าชื่อเพื่อยกย่องคริสตชนที่เสียชีวิตไปแล้ว) เมื่อปี พ.ศ. 2532 จากสมเด็จพระสันตปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 . นอกจากนี้บริเวณวัด ยังจัดแสดงบ้านพักของบุญราศีอักเนสและลูซีอา ซึ่งเป็นบ้านไม้ และมียุ้งข้าวแบบสมัยก่อน บนบ้านมีการจัดแสดงประวัติของท่าน และมีข้าวของเครื่องใช้ที่ท่านเคยใช้ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 27 กรกฎาคม 2562

สักการะสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี ศรัทธาแห่งบ้านสองคอน มุกดาหาร อ่านเพิ่มเติม

ตะลุยกิน ริมเจ้าพระยา…ท่าสาทร

เกร็ดความรู้ :.ท่าเรือสาทร ถือเป็นจุดเชื่อมต่อการคมนาคมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครของเราเลยก็ว่าได้ เนื่องจากที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองในย่านธุรกิจไม่ว่าจะเป็นตลาดบางรัก ถนนเจริญกรุง ถนนสีลม และนอกจากนี้ท่าเรือแห่งนี้ยังตั้งอยู่ไม่ไกลจาก ICON SIAM อีกด้วยค่ะ เพื่อนๆ ที่ต้องการเดินทางมายังท่าเรือแห่งนี้ แอดขอแนะนำ 2 วิธีง่ายๆ นั่นก็คือ การเดินทางโดยเรือโดยสาร (เรือธงสีส้ม สีเขียวและสีเหลือง) เลือกลงที่ “ท่าสาทร” และการเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS สายสีลม เลือกลงที่ “สถานีสะพานตากสิน” ค่ะ Sarnies Bangkok (ห่างจากท่าเรือ 700 เมตร).สำหรับ Sarnies คือคาเฟ่แบรนด์ดังจากประเทศสิงคโปร์ ที่ได้ขยายสาขาเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย จุดเด่นของร้านนี้ก็คือรสชาติกาแฟที่กลมกล่อมจนหลายๆ คนต่างต้องยกนิ้วให้ Sarnies Bangkok ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 44 ซึ่งเดิมพื้นที่ของร้านนี้เคยเป็นร้านขายของที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี.ดังนั้นการตกแต่งจึงยังคงโครงสร้างเดิมที่มีความคลาสสิกทั้งภายในและภายนอกเอาไว้ และเพิ่มการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นเข้าไป เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียวค่ะ เมนูแนะนำ– Coconut Long Black – กาแฟ Long Black ที่มีส่วนผสมของน้ำมะพร้าว รสเข้ม นุ่มลิ้น ไม่หวานมาก และหอมมะพร้าวนิดๆ – Banana Peanut Butter Shake – สมูทตี้กล้วยหอมผสมเนยถั่ว รสชาติหวานมัน ใครชอบเนยถั่ว ต้องแก้วนี้เลย – F**king Good Brownie – บราวนี่รสชาติเข้มข้น ตัดรสหวานด้วยเกลือที่โรยมาให้เล็กน้อย เนื้อเค้กฉ่ำมากๆ – Natural Rooibos Tea – ชารอยบอสเป็นชาแดงที่มีต้นกำเนิดจากแอฟริกาใต้ มีความหวานเล็กน้อย ดื่มง่าย ไม่ขมมาก และไม่มีคาเฟอีน ดีต่อสุขภาพสุดๆ.Sarnies Bangkokที่ตั้ง ซอยเจริญกรุง 44 แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน 08.00 – 17.30 น. บ้านผัดไทย (ห่างจากท่าเรือ 650 เมตร).บ้านผัดไทย ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 44 (ซอยเดียวกันกับ Sarnies Bangkok) มีลักษณะเป็นตึกแถว 2 คูหา สะดุดตาด้วยการทาสีฟ้าทั้งหลัง ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ โปสเตอร์โฆษณาและข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ ค่ะ.นอกจากนี้ภาชนะที่ใช้ยังมีกลิ่นอายของความเป็นไทยในสไตล์วินเทจอีกด้วย เรียกได้ว่านี่ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของร้านนี้เลยทีเดียว มาร้านบ้านผัดไทยทั้งทีเมนูแนะนำก็คงหนีไม่พ้น “ผัดไทย” ซึ่งเมนูผัดไทยของที่นี่เค้ามีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ผัดไทยเจ ผัดไทยหมูย่าง ผัดไทยกุ้งแม่น้ำย่าง เป็นต้น.ต้องบอกเลยว่ารสชาติของผัดไทยนั้นกลมกล่อมอร่อยเหมือนกันทุกจาน เพื่อนๆ สามารถเลือกชิมได้ตามใจชอบเลยค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเมนูอาหารไทยอีกหลายอย่างให้เลือกชิม หากเพื่อนๆ สนใจก็สามารถแวะมาทานกันได้นะคะ.ปล.แนะนำว่าให้มากันหลายๆ คนเพราะนอกจากจะได้ชิมหลายเมนูแล้วยังสามารถช่วยกันหารได้อีกด้วยค่ะ.บ้านผัดไทยที่ตั้ง ซอยเจริญกรุง 44 แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น. บุญทรัพย์ (ห่างจากท่าเรือ 550 เมตร).ร้านบุญทรัพย์ เป็นร้านขนมไทยที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยสงรามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปัจจุบันมีการสืบทอดกิจการกันมาแล้ว 3 รุ่น.เนื่องจากร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ดังนั้นการตกแต่งจึงเน้นตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการนั่งทานขนมพร้อมมองดูวิถีชีวิตของผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา สำหรับเมนูขึ้นชื่อของร้านนี้คือ ข้าวเหนียวมูน เนื่องจากข้าวเหนียวมีรสชาติที่หวานมันกำลังดี และไม่ว่าจะทานคู่กับมะม่วง สังขยา หรือปลาแห้งก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี.บุญทรัพย์ที่ตั้ง 1478 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 07.00-17.00 น. (ปิดวันอาทิตย์) โจ๊กปรินซ์บางรัก (ห่างจากท่าเรือ 600 เมตร).โจ๊กปรินซ์บางรัก เรียกได้ว่าเป็นตำนานความอร่อยในย่านนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะร้านนี้เค้าเปิดมากว่า 60 ปีแล้ว แม้ว่าภายในร้านจะไม่ได้ตกแต่งให้ดูสวยหรูแต่ก็ยังเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่ต้องการมาทานโจ๊กแสนอร่อยของร้านนี้ โจ๊กที่อื่นอาจจะใช้หมูเด้ง แต่สำหรับโจ๊กของที่นี่เค้าใช้หมูสับที่ปรุงรสแล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ต้มไปพร้อมกับโจ๊ก เรียกได้ว่านี่คือ Gimmick ที่ทำให้โจ๊กปรินซ์มีรสชาติที่อร่อยมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ.โจ๊กปรินซ์ที่ตั้ง 1391 ถนนเจริญกรุง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 12.00 น. และ 16.30 – 22.00 น. ทิพ หอยทอดภูเขาไฟ (ห่างจากท่าเรือ 450 เมตร).ทิพ หอยทอดภูเขาไฟ เป็นอีกหนึ่งร้านเก่าแก่ย่านเจริญกรุงที่เปิดมานานกว่า 40 ปี อาหารที่ขึ้นชื่อของร้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูหอย เพราะหอยของที่นี่ตัวใหญ่ สดและสะอาด สำหรับเมนูแนะนำของร้านก็คือ “หอยทับหอย” หรือก็คือหอยแมลงภู่ทอดราดทับด้วยหอยนางรมนั่นเองค่ะ และต้องบอกเลยว่าแป้งของร้านนี้เค้าบาง กรอบ อร่อยมากๆ ยิ่งทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้านด้วยแล้ว ฟินสุดๆ.ทิพ หอยทอดภูเขาไฟที่ตั้ง ซอยเจริญกรุง 50 แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานครเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.00 – 20.00 น. (ปิดวันอาทิตย์) เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 26 กรกฎาคม 2562

ตะลุยกิน ริมเจ้าพระยา…ท่าสาทร อ่านเพิ่มเติม

วัดคีรีวงศ์ @นครสวรรค์

เจดีย์องค์นี้มีชื่อว่า “พระจุฬามณีเจดีย์” ตั้งอยู่บนยอดเขาดาวดึงส์ ซึ่งอยู่ภายในเขตวัดคีรีวงศ์ค่ะ.พระจุฬามณีเจดีย์ สร้างโดยพระราชพรหมาจารย์ (หลวงพ่อมหาบุญรอด) อดีตเจ้าอาวาสวัดคีรีวงศ์ ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 17 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2533-2550 โดยสร้างบนฐานของเจดีย์เก่าแก่สมัยสุโขทัยนั่นเองค่ะ เจดีย์องค์นี้มีความสูง 4 ชั้น.ชั้นที่ 1 มีเจดีย์องค์เล็กประดับอยู่ 4 มุม และมีพระพุทธรูปปางต่างๆ รวมทั้งเทพเจ้าประดิษฐานอยู่หลายองค์ชั้นที่ 2 เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง 12 ราศีชั้นที่ 3 ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้ แต่ไม่อนุญาตให้ปิดทองค่ะ ต่อมาเป็นชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดค่ะ ตรงกลางมีเจดีย์ทรงระฆังองค์เล็กที่ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งนำมาจากประเทศศรีลังกา.และเมื่อแหงนมองขึ้นไปด้านบนเพื่อนๆ จะพบกับเพดานที่มีลักษณะเป็นโดม โดยจะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติค่ะ  นอกจากนี้ด้านนอกของชั้นที่ 4 ยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมทิวทัศน์ของเมืองนครสวรรค์ได้อีกด้วยค่ะ  ตอนกลางคืนเพื่อนๆ ก็ยังสามารถมองเห็นองค์พระเจดีย์องค์นี้ได้นะคะ เพราะตัวองค์พระเจดีย์จะถูกประดับตกแต่งด้วยไฟที่สวยงามค่ะ . วัดคีรีวงศ์ ถ.มาตุลี ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. ใกล้กับพระจุฬามณีเจดีย์ เพื่อนๆ จะพบกับหอชมเมืองสูงที่มีขนาดสูงถึง 10 ชั้น ซึ่งเพื่อนๆ สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์รอบตัวเมืองนครสวรรค์ได้ 360 องศาเลยทีเดียวค่ะ และไม่ต้องกลัวเมื่อยนะคะ เพราะเค้ามีลิฟต์ไว้คอยให้บริการด้วยค่ะ.หอชมเมืองเปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-16.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-19.00 น.ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 25 กรกฎาคม 2562

วัดคีรีวงศ์ @นครสวรรค์ อ่านเพิ่มเติม

ฝนนี้ที่ภูสอยดาว

ภูสอยดาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นยอดเขาที่สูงอันดับ 4 ของประเทศ โดยยอดสูงสุดของภูสอยดาวมีความสูง 2,102 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง.อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวที่ตั้ง : ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์เปิดให้เดินขึ้นเขา เวลา 08.00 – 14.00 น.โทร. 095 629 9528, 095 024 7633, 091 024 7633 ทำไมต้องไปภูสอยดาวหน้าฝน เพื่อเดินขึ้นภู ไปดูดอกหงอนนาค ช่วงหน้าฝนแบบนี้ เราสามารถเดินขึ้นไปถึงลานสน และไปดูดอกหงอนนาคได้ โดยดอกหงอนนาคจะบานในช่วงหน้าฝนเท่านั้น และจะออกดอกเยอะที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ทำไมต้องไปภูสอยดาวหน้าฝน ไปแช่น้ำให้เย็นชื่นใจ น้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตก 5 ชั้น ที่มีน้ำไหลตลอดปี โดยเฉพาะหน้าฝน น้ำจะเยอะกว่าช่วงอื่น จะลงไปแช่น้ำ หรือนั่งเล่นชิลๆ ก็ฟินสุดๆ ทำไมต้องไปภูสอยดาวหน้าฝน ไปทดสอบกำลังกาย และกำลังใจ จะขึ้นไปถึงลานสนสามใบได้ ต้องฝ่าฟันเนินทั้ง 5 เนินไปให้ได้ ได้แก่ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร.ถ้าใครไม่ได้เดินป่าบ่อยๆ อาจจะมีหอบ และเมื่อยล้ากันบ้าง แต่เราก็ยังมีวิวสวยๆ ให้ดูระหว่างทาง ดูแล้วหายเหนื่อยเลยล่ะ จะบอกให้ นอกจากวิวสวยๆ แล้ว ช่วงหน้าฝน หมอกเยอะไม่แพ้ช่วงหน้าหนาว ทำให้ธรรมชาติสวยไปอีกแบบ แถมเหมาะกับการถ่ายรูปเก๋ๆ มากเลยล่ะ ทำไมต้องไปภูสอยดาวหน้าฝน ไปนอนกางเต็นท์ใกล้ชิดธรรมชาติ บรรยากาศที่ลานสนค่อนข้างคึกคัก บอกเลยว่า แต่ละคนไม่มีใครยอมใคร นำอาหารสดขึ้นมาปรุงบนเขากันอย่างสนุกสนาน ทั้งหมูกระทะ กุ้งเผา บาร์บีคิว.เมื่อถึงจุดกางเต็นท์บนลานสน ให้ทุกคนไปติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่องเต็นท์และสัมภาระต่างๆ อุปกรณ์ทำอาหาร ขัน ถังน้ำ สามารถเช่าได้ที่จุดนี้เลย แล้วค่อยไปจ่ายเงินด้านล่าง หลังจากลงจากเขาค่ะ ข้างบนนี้มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง ถ้าจะอาบน้ำ ต้องตักจากลำธารใกล้ๆ มาอาบ ส่วนน้ำสำหรับดื่ม จะมีแท็งก์น้ำแยกไว้โดยเฉพาะค่ะ ทำไมต้องไปภูสอยดาวหน้าฝน ไปดูหมอกยามเช้า จุดชมทะเลหมอกอยู่ห่างจากจุดกางเต็นท์ไม่ไกล สามารถเดินไปได้.นอกจากนี้ ยังมีจุดห้ามพลาดอื่นๆ ที่ต้องไปเช็คอินบนลานสนจุดชมวิวตรงป้ายผู้พิชิตลานสนภูสอยดาวน้ำตกสายทิพย์หลักกิโลเมตรแบ่งเขตไทย-ลาว คำแนะนำในการไปเที่ยวภูสอยดาว เมื่อถึงที่ทำการอุทยานฯ เราต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อลงทะเบียนก่อน ถ้าไม่ได้นำเต็นท์ เครื่องนอน และอุปกรณ์ทำอาหารมาเอง สามารถมาเช่าได้ที่นี่ โดยเจ้าหน้าที่จะจดรายการสิ่งของที่เราเช่าเอาไว้ แล้วค่อยขึ้นไปรับของที่ลานสน ถ้าใครแบกสัมภาระทั้งหมดไม่ไหว สามารถจ้างลูกหาบได้ โดยต้องชั่งกิโลสิ่งของ แล้วเจ้าหน้าที่จะให้บัตรคิวรับของมา จากนั้นเราก็ขึ้นไปรอรับสัมภาระของเราได้ที่ด้านบน จากที่ทำการไปถึงศูนย์บริการ 2 หรือจุดเริ่มเดิน ต้องนั่งรถอีแต๊กขึ้นไปค่ะ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 21 กรกฎาคม 2562

ฝนนี้ที่ภูสอยดาว อ่านเพิ่มเติม

“วัดอุโมงค์” (สวนพุทธธรรม) จ.เชียงใหม่

“วัดอุโมงค์” (สวนพุทธธรรม) เป็นอีกหนึ่งวัดในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีความเก่าแก่และงดงาม ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ เดิมชื่อ “วัดเวฬุกัฏฐาราม” ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นในสมัยพญามังราย ปฐมกษัตริย์ของล้านนา เพื่อเป็นที่จำพรรษาของคณะสงฆ์จากลังกา.ต่อมาในสมัยพญากือนา ได้ทรงบูรณะวัดและซ่อมแซมเจดีย์ นอกจากนี้ยังได้สร้างอุโมงค์ขึ้นเพื่อให้พระมหาเถรจันทร์ได้ใช้เป็นที่วิปัสสนากรรมฐานอีกด้วย ผู้คนจึงเรียกวัดแห่งนี้ว่า “วัดอุโมงค์” หรือ “วัดอุโมงค์เถรจันทร์” ในช่วงหน้าฝนบริเวณด้านหน้าอุโมงค์จะมีมอสสีเขียวขึ้นปกคลุมอยู่เต็มไปหมด ดูสวยงามแปลกตา กลายเป็นเอกลักษณ์และความงดงามที่ไม่เหมือนใครของวัดแห่งนี้ อุโมงค์ที่นี่มีขนาดใหญ่และมีทางเข้าหลายทาง เมื่อเข้าไปแล้วสามารถเดินทะลุถึงกันได้หมด ในบางช่วงของผนังเพื่อนๆ จะเห็นร่องรอยของจิตรกรรมฝาผนังด้วยนะคะ แต่ส่วนใหญ่ลบเลือนไปมากแล้ว.ระหว่างทางเดินเข้าไปภายในอุโมงค์ เราจะพบกับความมืดและเงียบสงบ มีเพียงแสงสว่างจากช่องหลังคาเป็นบางช่วงและแสงไฟดวงน้อยเป็นระยะๆ เท่านั้น บริเวณด้านบนของอุโมงค์เยื้องไปทางทิศใต้ เป็นที่ตั้งของเจดีย์เก่าแก่อายุประมาณ 700 ปี สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพญามังราย และได้รับการปฏิสังขรณ์ในสมัยพญากือนา.มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังศิลปะล้านนาที่ได้รับอิทธิพลจากพุกาม สังเกตได้จากบริเวณท้องไม้ของฐานกลมทั้ง 3 ฐานที่ประดับด้วยช่องสี่เหลี่ยมตลอดแนว และส่วนของปลียอดก็คล้ายกับที่พบในเจดีย์แบบพม่า ปัจจุบันวัดอุโมงค์นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามแปลกตาของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ยังเป็นสถานปฏิบัติธรรมสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการแสวงหาความสงบในชีวิตอีกด้วย.หากเพื่อนๆ สนใจก็สามารถไปเที่ยวชมได้นะคะ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 20 กรกฎาคม 2562

“วัดอุโมงค์” (สวนพุทธธรรม) จ.เชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

ตะลุยกินริมเจ้าพระยา…ท่าวัดวรจรรยาวาส

ทริปนี้เรานั่งเรือด่วนเจ้าพระยา ธงสีส้ม ราคา 15 บาท หรือเรือด่วนเจ้าพระยา แบบไม่มีธง ราคา 9/11/13 บาท (ตามระยะทาง) มาลงที่ท่าเรือวัดวรจรรยาวาส.เรือด่วนเจ้าพระยา ธงสีส้ม เดินเรือทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น. เรือด่วนเจ้าพระยา แบบไม่มีธง เดินเรือวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.45-07.30 น. และ 16.00-16.30 น. ร้านคั่ว (ห่างจากท่าเรือประมาณ 700 เมตร).“คั่ว” ร้านอาหารที่เกิดจากเพื่อน 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นทำอาหารอร่อย จนเพื่อนคนอื่นๆ ต้องชวนให้เปิดร้านอาหาร ร้านนี้เหมาะกับการมานั่งทานของอร่อยหลังเลิกงานกับเพื่อน หรือครอบครัว เพราะร้านจะเปิดช่วงเย็นๆ ชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วว่า ต้องถนัดเรื่องคั่วๆ แน่นอน ซึ่งทางร้านก็มีอาหารเมนูคั่วให้เลือกหลากหลาย.เริ่มจากเมนูก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ (89 บาท) ใช้วิธีการคั่วด้วยเตาถ่าน ตัวเส้นจะมีความกรอบนอก นุ่มใน อร่อยมากจริงๆ  เครื่องที่ใส่มาในก๋วยเตี๋ยวคั่ว ทางร้านให้มาชิ้นใหญ่ แบบไม่มีกั๊ก ซึ่งนอกจากไก่แล้ว ยังมีหอยเชลล์ญี่ปุ่น กุ้ง เนื้อหมักน้ำมันงา ไข่ปลาหมึก แฮม และเบคอน ให้เลือกด้วย.อย่าลืม ทานคู่กับซุปมะนาวดอง ที่หอมกลิ่นมะนาวดอง รสชาติออกเปรี้ยวๆ เค็มๆ (แต่อร่อยนะ) ซึ่งให้มาฟรี และเติมได้เรื่อยๆ นอกจากเมนูก๋วยเตี๋ยวคั่วแล้ว ยังมีเมนูเกาเหลาคั่ว ซึ่งจะมีแต่เนื้อ ไม่มีเส้น แอดสั่ง “เกาเหลาคั่วไข่ปลาหมึก” (139 บาท) ใครที่ชอบไข่ปลาหมึกต้องฟินมากแน่นอน เพราะไข่ปลาหมึกชิ้นใหญ่ เนื้อแน่นมากๆ.เมนู “คั่วพริกเกลือ” เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดของร้าน มีทั้ง ข้าวผัดคั่วพริกเกลือ หรือจะเลือกปูนิ่ม หอยเชลล์ญี่ปุ่น กุ้ง ไก่ และสันคอหมู มาคั่วพริกเกลือก็ได้ แอดสั่ง “หอยเชลล์ญี่ปุ่นคั่วพริกเกลือ” (289 บาท) หอยเชลล์ตัวใหญ่ เนื้อแน่น คลุกเคล้าด้วยเครื่องพริกเกลือที่หอมกระเทียม และรสชาติกลมกล่อม ฟินมาก ยกนิ้วให้เลย จบจากเมนูคั่วทั้งหลายแล้ว ก็มาลองเมนูทอดกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ซาลาเปาไข่เค็มลาวา ซาลาเปาครีมมินิ หมั่นโถว ถุงทอง และเกี๊ยวกุ้งทอด ต้องบอกเลยว่าของทอดของทางร้านดีงามไม่แพ้ของคั่วเลยล่ะ.ที่ตั้ง : ปากซอยเจริญกรุง 73 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 17.30-23.30 น.โทร. 098 819 7974 ตวง ติ่มซำ (ห่างจากท่าเรือประมาณ 450 เมตร).ร้านติ่มซำคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ โดยฝีมือของ “เชฟยิป” เชฟชาวฮ่องกงที่อดีตเคยเป็นเชฟประจำโรงแรมแชงกรีล่า เห็นประสบการณ์ของเชฟแล้ว ก็รู้เลยว่า รสชาติติ่มซำต้องเด็ดแน่นอน ขนมจีบหมูเห็ดหอม (ชุดละ 25 บาท) ฮะเก๋า (เข่งละ 50 บาท) เสี่ยวหลงเป่า (เข่งละ 40 บาท) ลูกใหญ่ อร่อยเต็มปากเต็มคำ รสชาติกลมกล่อม ส่วนซาลาเปาก็ไส้แน่นและมีให้เลือกหลายรส ** วันที่ 1 สิงหาคม 2562 ทางร้านจะปรับราคาอาหารขึ้นนะจ๊ะ**.ที่ตั้ง : ถนนเจริญกรุง (ระหว่างซอยเจริญกรุง 77 กับ 77/1) แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯเปิดวันพุธ-วันอาทิตย์ (หยุดวันจัทร์และอังคาร) เวลา 07.00-17.00 น.โทร. 089 603 0980 ข้าวขาหมู ปากซอยเจริญกรุง 77/1 (ห่างจากท่าเรือประมาณ 400 เมตร).ข้าวขาหมูถือเป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่หาทานง่ายมาก แต่ก็ใช่ว่าจะอร่อยทุกร้าน สำหรับร้านนี้แอดคอนเฟิร์มว่าเด็ดจริง ถึงจะเป็นร้านตั้งข้างทาง แต่มีความอร่อยซ่อนอยู่ ทั้งเนื้อหมูและหนังหมูมีความนุ่ม น้ำซุปรสชาติกลมกล่อม และอย่าลืมทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด ฟินสุดๆ.ทางร้านรับทำข้าวกล่องด้วยนะ สามารถโทรไปสั่งได้เลย.ที่ตั้ง : ปากซอยเจริญกรุง 77/1 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 06.00-14.00 น.โทร. 02 289 2697 ร้านก๋วยเตี๋ยวคุณอา (ห่างจากท่าเรือประมาณ 400 เมตร).ร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่ เปิดมานานกว่า 38 ปี แอดเห็นลูกค้าแน่นร้าน เลยคิดในใจว่า ร้านนี้ต้องเด็ดแน่นอน ว่าแล้วก็ขอเข้าไปลิ้มลองความอร่อยสักหน่อย.ที่ตั้ง : ฝั่งตรงข้าม เยื้องกับร้านตวง ติ่มซำ ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.โทร. 096 916 6249  เมนูเด็ดของร้านคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ และก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ.แอดสั่งบะหมี่ต้มยำ (45-55 บาท) มาลองทาน บอกเลยว่าเครื่องเยอะ รสชาติกลมกล่อม ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยล่ะ.นอกจากนี้ ยังมีเมนูก๋วยจั๊บด้วยนะ ลองสั่งมาทานกันได้ นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังมีอาหารทานเล่นอย่างเปาะเปี๊ยะทอด (40-50 บาท) ที่ทอดมาใหม่ๆ แป้งกรอบ ไส้แน่น ไม่อมน้ำมัน ยิ่งทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด ยิ่งอร่อย.แอดถึงขั้นจะสั่งเพิ่ม แต่น่าเสียดายที่ของหมดแล้ว แสดงว่าขายดีจริงๆ นะเนี่ย เมี่ยงคำ (ชุดละ 50 บาท) อีกหนึ่งเมนูที่ไม่น่าจะหาทานได้บ่อยๆ ในร้านก๋วยเตี๋ยว แต่ร้านนี้มีให้ทานจ้า ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มเมี่ยงคำรสชาติเข้มข้น

ตะลุยกินริมเจ้าพระยา…ท่าวัดวรจรรยาวาส อ่านเพิ่มเติม

“บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร”

บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร.บ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของสมุนไพรหลังนี้ เดิมเป็นของครอบครัวเปี่ยมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางและพ่อค้าเก่าแก่ของปราจีนบุรี ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ได้มอบบ้านหลังนี้ให้แก่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเพื่อใช้ประโยชน์ จึงเกิดเป็นบ้านเล่าเรื่อง ที่เป็นทั้งร้านอาหารเพื่อสุขภาพและพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ที่นำเสนอเรื่องราวของสมุนไพรผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงภายในร้านด้วย เมื่อเดินเข้าไปในร้าน ห้องแรกที่เราจะได้พบก็คือห้องรับแขก ซึ่งมีหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพร ประวัติความเป็นมาของบ้านหลังนี้ รวมทั้งเมนูอาหารของร้าน ซึ่งล้วนเป็นเมนูที่ทำจากสมุนไพร วางเรียงรายเอาไว้ให้ชมด้วย ระหว่างทางเดินไปยังห้องอาหาร จะผ่านโถงที่จัดแสดงนิทรรศการบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ ที่เคยเสด็จฯ มาเยือนจังหวัดปราจีนบุรี ได้แก่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้น และแล้วเราก็เข้ามาถึงภายในห้องอาหาร ซึ่งตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมทั้งยังแทรกเรื่องราวของสมุนไพรเอาไว้ตามส่วนต่างๆ ของห้อง ทำให้รู้สึกว่าสมุนไพรนั้นน่าสนใจและไม่ได้อยู่ไกลตัวเราเลย มาดูเมนูอาหารกันบ้าง เริ่มที่ “ปลากะพงผัดขึ้นฉ่าย” รสชาติกลมกล่อม เหมาะสำหรับคนไม่ทานเผ็ด แค่จานแรกก็บอกเลยว่าดีค่ะ เสิร์ฟตามมาติดๆ กับ “แกงเลียง” เมนูสุขภาพ รสชาติเข้มข้น “ไก่ทอดขมิ้น” ทอดมาร้อนๆ กรอบๆ ทานคู่กับสลัด ยกนิ้วให้เลยค่ะ ชุดน้ำพริกกะปิ” พร้อมผักต้มหลากหลายชนิด กะปิรสนัวมากขอบอก ยิ่งทานกับผักต้มและข้าวไรซ์เบอร์รีเพื่อสุขภาพ ยิ่งแซ่บมากจ้า มาถึงเครื่องดื่มที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงที่นี่ก็คือ “อัญชันโซดา” เสิร์ฟมาเป็นชุดให้ปรุงเองเลย ใครชอบหวานมากหวานน้อย ก็เติมได้ตามใจชอบเลยค่า ดื่มแล้วชื่นใจหายเหนื่อย ด้านหน้าร้านปลูกสมุนไพรหลากหลายชนิด และยังมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละอย่างด้วย ถ้าใครมาเที่ยวปราจีนบุรี แอดแนะนำเลยว่าต้องมาที่นี่ บรรยากาศดี อาหารอร่อย แถมได้ความรู้เรื่องสมุนไพรด้วย ครบเลยค่ะ.บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร ปราจีนบุรีที่ตั้ง 51 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.โทร. 097 021 1037  เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 17 กรกฎาคม 2562

“บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร” อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top