สถานที่ท่องเที่ยว

7 ภูยอดฮิต ที่ควรไปพิชิตให้ได้

7 ภูยอดฮิต ที่ควรไปพิชิตให้ได้ ภูเรือภูกระดึงภูอีเลิศภูบ่อบิดภูลมโลภูป่าเปาะภูทอก ภูเรือ.ภูเรือ หรือ อุทยานแห่งชาติภูเรือ เป็นภูที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งถ้าปีไหนหนาวมากเป็นพิเศษ เพื่อนๆ ก็จะมีโอกาสชมแม่คะนิ้งบนภูแห่งนี้ด้วยนะคะ บอกเลยว่าฟินสุดๆ และนอกจากการชมแม่คะนิ้งแล้ว ที่นี่ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาด นั่นก็คือการชมพระอาทิตย์ขึ้นนั่นเองค่ะ อุทยานแห่งชาติภูเรือที่ตั้ง : ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ จังหวัดเลยโทร. 088 509 5299พิกัด : https://goo.gl/maps/yZny24Y3tKToi17k8 ภูกระดึง.ภูกระดึง หรือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นภูที่ใครหลายคนอยากจะไปพิชิตให้ได้สักครั้งหนึ่ง เพื่อวัดใจตนเองว่าจะสามารถเดินเท้าในระยะไกลและปีนป่ายเขาสูงชัน ขึ้นไปพบกับความสวยงามบนยอดภูได้หรือไม่.บนภูกระดึง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ “ผานกนางแอ่น” และชมพระอาทิตย์ตกที่ “ผาหล่มสัก” ค่ะ หากเพื่อนๆ มีโอกาสต้องไปชมให้ได้เลยนะคะ ถ้าไม่ไปถือว่าผิด เพราะไม่งั้นคุณจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง อุทยานแห่งชาติภูกระดึงที่ตั้ง : หมู่ที่ 1 บ้านศรีฐาน ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลยโทร. 042 810 833, 042 810 834พิกัด : https://goo.gl/maps/vycrWSfyY6cjxfMfA ภูอีเลิศ.ภูอีเลิศ คือภูน้องใหม่มาแรงแซงทุกทางโค้ง เนื่องจากเพิ่งเปิดให้เที่ยวชมเมื่อไม่นานมานี้เอง หลายคนจึงอยากลองเดินทางมาพิชิต แถมการเดินทางก็ไม่ลำบาก สามารถนั่งรถอีแต๊กขึ้นไปได้เลย.ภูอีเลิศมีเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณ ระหว่างทางเดินขึ้นไปมีจุดท่องเที่ยวให้แวะชมหลายจุด เพื่อนๆ สามารถถ่ายรูปพร้อมกับโพสต์ท่าสวยๆ ได้เลยค่ะ ภูอีเลิศที่ตั้ง : 78 หมู่ที่ 4 ตำบลปากหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยโทร. 098 169 0326, 061 053 1561, 085 461 7230พิกัด : https://goo.gl/maps/6TkpcZB9ymRtuvxp6 ภูบ่อบิด.ภูบ่อบิด เป็นภูที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองเลย จึงทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบๆ ตัวเมืองเลยได้ ซึ่งจุดชมวิวของภูบ่อบิดนั้นมีอยู่ 3 จุด ด้วยกัน โดยแต่ละจุดจะอยู่ไม่ไกลกัน.การขึ้นไปยังภูบ่อบิดสามารถทำได้ 2 วิธี คือ1.เดินเท้าขึ้นไป2.นั่งรถขึ้นไปครึ่งทาง จากนั้นต้องลงเดินต่ออีกครึ่งทางสามารถติดต่อรถได้ที่คุณลุงแว่น โทร. 089 620 1373 ภูบ่อบิดที่ตั้ง : ตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลยโทร. 089 620 1373พิกัด :  https://goo.gl/maps/nV7Ct8FXFg7Kajkz8 ภูลมโล.ภูลมโล ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ภูแห่งนี้เป็นภูที่แสนโรแมนติก เพราะเมื่อยามที่ดอกนางพญาเสือโคร่งพร้อมใจกันเบ่งบานต้อนรับลมหนาว ทั่วทั้งภูแห่งนี้จะดูคล้ายถูกย้อมให้กลายเป็นสีชมพูหวานแหว๋ว ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเดินเล่นอยู่ในดินแดนเทพนิยายยังไงยังงั้น.โดยปกติดอกนางพญาเสือโคร่งจะเริ่มบานตั้งแต่ราวปลายเดือนธันวาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ แต่หากเพื่อนๆ สนใจจะเดินทางไปชม แนะนำให้โทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทางนะคะ เพราะแต่ละปีช่วงเวลาที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานจะไม่ตรงกัน ภูลมโลที่ตั้ง : ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลยโทร. 062 557 0912พิกัด : https://goo.gl/maps/9hRUuj3DJdTL6QCK8 ภูป่าเปาะ.ภูป่าเปาะ เป็นภูที่สามารถชมวิวที่แตกต่างกันได้ถึง 3 ฤดู โดยฤดูร้อนจะมองเห็นทุ่งหญ้าและภูเขาเป็นสีเหลืองทอง ฤดูฝนจะมองเห็นภูเขาและท้องนาเป็นสีเขียวขจี ส่วนฤดูหนาวจะมองเห็นทะเลหมอกสีขาวแบบ 360 องศา.นอกจากนี้ภูป่าเปาะยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็น “ภูหอ” ได้สวยงามที่สุดอีกด้วย ซึ่งภูหอที่ว่าก็คือ ภูที่มีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิของประเทศญี่ปุ่น จนได้รับสมญานามว่า “ฟูจิเมืองเลย” นั่นเอง ถ้าอยากรู้ว่าเหมือนจริงมั้ย ต้องลองไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองดูนะคะ ภูป่าเปาะที่ตั้ง : ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลยพิกัด : https://goo.gl/maps/BPoYyzrRfLqXXVmA9 ภูทอก.ภูทอก เป็นภูที่ไม่สูงนัก แต่มีจุดชมวิวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเลย เพราะบนภูทอกแห่งนี้สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างสวยงามไม่แพ้ภูไหนๆ.อีกทั้งยังสามารถชมทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนได้ไกลสุดสายตา และยังมองเห็นแก่งคุดคู้ ภูหมอน ผาแบ่น ลำน้ำโขง และประเทศลาวได้อีกด้วย เรียกว่าไปภูเดียวครบ ฟินไปหลายวันเลยละค่ะ ภูทอกที่ตั้ง : ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลยพิกัด : https://goo.gl/maps/266dv7wHGeEArZ556 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 24 สิงหาคม 2562

7 ภูยอดฮิต ที่ควรไปพิชิตให้ได้ อ่านเพิ่มเติม

ลัดเลาะเที่ยวหาดที่สัตหีบ

หาดที่แอดจะมาแนะนำในวันนี้ ได้แก่– หาดบ้านอำเภอ– หาดบางเสร่– หาดทรายแก้ว– หาดเตยงาม– หาดนางรำ หาดบ้านอำเภอ เป็นชายหาดที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัว เนื่องจากผู้คนไม่พลุกพล่าน มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามและเป็นระเบียบ ร่มรื่นด้วยต้นมะพร้าวที่เรียงรายเป็นแนวยาว มีร้านค้าร้านอาหารให้บริการ สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ นอกจากนั้นยังมี กังหันลมผลิตพลังงานไฟฟ้า ที่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของชายหาดแห่งนี้ด้วย หาดบ้านอำเภอที่ตั้ง : ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หาดบางเสร่ อีกหนึ่งชายหาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นหาดที่เงียบสงบ สะอาด มีต้นมะพร้าวเรียงรายเป็นแนวยาวให้ร่มเงา สามารถนั่งหลบแดดพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ หาดแห่งนี้มีความยาวประมาณ 1,500 เมตร แต่ความกว้างของหาดค่อนข้างสั้น เนื่องจากถูกน้ำทะเลกัดเซาะมาเป็นเวลานาน ปัจจุบันเทศบาลตำบลบางเสร่จึงได้สร้างเขื่อนหินกันคลื่น เพื่อช่วยลดการกัดเซาะของน้ำทะเล ใกล้ๆ กับหาดบางเสร่เป็นท่าเรือที่ชาวประมงนำอาหารทะเลมาลง และมีสะพานปลา ใครอยากซื้ออาหารทะเลสดๆ กลับบ้าน ก็สามารถแวะเลือกซื้อกันได้เลย หาดบางเสร่ที่ตั้ง : ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หาดทรายแก้ว ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เป็นชายหาดที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ มีความยาวประมาณ 1,700 เมตร ทรายที่นี่เนียนละเอียดคล้ายหาดในฝั่งทะเลอันดามัน เนื่องจากเป็นทรายที่เกิดจากการทับถมของทรายและปะการังเหมือนกัน น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใสสะอาด มีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกทำหลากหลาย บริเวณนี้ห้ามประกอบอาหาร แต่หากใครหิวก็มีร้านอาหารให้บริการ นอกจากนี้ยังมีบ้านพักด้วย แต่ต้องโทรจองล่วงหน้านะ หาดทรายแก้วที่ตั้ง : โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีค่าบำรุงสถานที่ :ชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 10 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท เปิดทุกวันวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. (นำรถส่วนตัวเข้ามาได้)วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 07.00-18.00 น. (ต้องจอดรถไว้ที่จุดจอด และใช้บริการรถรับส่งมายังหาด)สอบถามรายละเอียดและจองบ้านพักได้ที่โทร. 096 748 4587 (ติดต่อในวันและเวลาราชการเท่านั้น) หาดเตยงาม อยู่ในเขตฐานทัพเรือสัตหีบนาวิกโยธิน เป็นอีกหนึ่งชายหาดในสัตหีบที่มีภูมิทัศน์สวยงาม หาดทรายสะอาด น้ำทะเลใส และเนื่องจากบริเวณนี้มีต้นเตยทะเลขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อ หาดเตยงาม ชายหาดแห่งนี้เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและศูนย์ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำคอยอำนวยความสะดวกและดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย บริเวณหาดมีร้านอาหารและห้องน้ำให้บริการ นอกจากนี้ใกล้ๆ กันก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน อนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน และศาลกรมหลวงชุมพร หาดเตยงามอนุญาตให้เข้ามาท่องเที่ยวได้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น และต้องแลกบัตรประชาชนก่อนเข้ามาในพื้นที่ หาดเตยงามที่ตั้ง : หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 038 438 457 ต่อ 62509 หาดนางรำ ตั้งอยู่ภายในท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นหาดที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในทะเลตะวันออกเลยทีเดียว หาดนางรำมีความยาวประมาณ 200 เมตร น้ำทะเลใสสะอาด ทรายนุ่มละเอียด มีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นเรียงรายตลอดแนวชายฝั่ง สามารถนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ทั้งวัน กิจกรรมทางน้ำก็มีให้ทำหลากหลาย เช่น พายเรือคายัค ขี่บานาน่าโบ๊ท เป็นต้น สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบครัน ทั้งร้านอาหารและห้องน้ำ หาดนางรำที่ตั้ง : ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 17 กันยายน 2562

ลัดเลาะเที่ยวหาดที่สัตหีบ อ่านเพิ่มเติม

หลง(รัก) แหลมสัก

ชุมชนท่องเที่ยวแหลมสัก เป็นวิสาหกิจชุมชนที่เกิดจากการรวมตัวของหลายหมู่บ้าน ชุมชนแห่งนี้มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว เพราะเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมของคน 3 เชื้อชาติ ทั้งไทยพุทธ มุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน ที่เรียกกันว่า “บาบ๋า ย่าหยา” (Baba Nyonya) ชุมชนท่องเที่ยวแหลมสัก เป็นวิสาหกิจชุมชนที่เกิดจากการรวมตัวของหลายหมู่บ้าน ชุมชนแห่งนี้มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว เพราะเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมของคน 3 เชื้อชาติ ทั้งไทยพุทธ มุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน ที่เรียกกันว่า “บาบ๋า ย่าหยา” (Baba Nyonya) ก่อนอื่นเลยเราก็ต้องมาติดต่อจองโปรแกรมท่องเที่ยวชุมชนแหลมสักกันที่ “บลูเฮ้าส์” อาคารสไตล์ชิโนโปรตุกีส ซึ่งเป็นล็อบบี้ของ “บุหลัน อันดา บาบ๋า รีสอร์ท” สำหรับทริปท่องเที่ยวชุมชนแหลมสักนี้ นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ชุมชนนี้มีความสวยงามไม่เหมือนใคร การันตีด้วยรางวัลสุดยอดเส้นทางท่องเที่ยว “วิถีชุมชนวัฒนธรรมอันดามัน” จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเลยทีเดียว ทริปนี้เราจะได้นั่งเรือหัวโทงล่องไปยังจุดต่างๆ สามารถเที่ยวแบบวันเดียวหรือจะพักค้างคืนก็ได้ ค่าบริการโปรแกรม One Day เริ่มต้นที่ 1,300 บาท/คน (รับ 6 คนขึ้นไป)โปรแกรม 2 วัน 1 คืน เริ่มต้นที่ 2,800 บาท/คน (รับ 6 คนขึ้นไป)โปรแกรม 3 วัน 2 คืน เริ่มต้นที่ 3,900 บาท/คน (รับ 11 คนขึ้นไป) “แหลมสัก” โอบล้อมด้วยทะเลอันดามันสามด้าน มีเกาะต่างๆ อยู่โดยรอบ ที่นี่จึงมีลักษณะเป็น “ทะเลใน” ปลอดภัยจากคลื่นลมแรงและมรสุม ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ใช้ชีวิตเรียบง่าย ระหว่างทางเราจะเห็นเรือหาปลาด้วย จุดแรกที่เรามากันคือ “ถ้ำชาวเล” มาชมร่องรอยของภาพเขียนสีโบราณอายุกว่า 3,000 ปี เชื่อกันว่ามีการใช้ยางไม้และเลือดสัตว์มาเป็นส่วนผสมในการเขียนภาพ ภาพเขียนสีเหล่านี้วาดเป็นภาพคนกำลังทำกิจกรรมต่างๆ หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เล่นดนตรี ทานอาหาร และมีภาพคนถืออาวุธนั่งบนหลังสัตว์ ลักษณะคล้ายกำลังล่าสัตว์ จึงสันนิษฐานกันว่าสถานที่นี้ในอดีตคงเป็นที่อยู่ของมนุษย์ถ้ำนั่นเอง ถัดมาคือ “เขาเหล็กโคน” ตั้งอยู่บริเวณแนวเชื่อมต่อกับจังหวัดพังงา จุดนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กของแหลมสักเลยก็ว่าได้ ใครมาก็ต้องเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก คำว่า “เหล็กโคน” เป็นภาษาใต้แปลว่า “ตะปู” เขาเหล็กโคน จึงหมายถึง ภูเขาที่มีลักษณะคล้ายตะปูตอกอยู่กลางทะเลนั่นเอง มาชมภาพสีเขียนโบราณอีกจุดหนึ่งคือที่ “แหลมไฟไหม้” มีภาพที่โดดเด่นคือ ภาพคน 2 คนยืนอยู่ติดกัน (สังเกตได้ว่ามี 2 แขน 4 ขา) จนดูคล้ายกำลังกอดกันด้วยความรักอันเปี่ยมล้น นักท่องเที่ยวสามารถมาอธิษฐานขอให้ความรักมั่นคงดั่ง “คนคู่” ได้  ใกล้ๆ กับภาพ “คนคู่” ก็มี “หัวใจแห่งขุนเขา” เป็นช่องเขาทะลุรูปหัวใจดวงน้อยๆ แหม บริเวณนี้ช่างเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความรัก เหมาะสำหรับคู่รัก เพื่อน และครอบครัวที่จะมาเติมเต็มความรักให้แก่กันจริงๆ  ถัดมาคือ “อ่าวเหนา” เป็นเวิ้งอ่าวที่น้ำทะเลค่อนข้างนิ่ง เหมาะแก่การเลี้ยงปลาและสาหร่าย จะเห็นได้ว่าที่นี่เต็มไปด้วยกระชังเลี้ยงปลาของชาวบ้านเรียงรายเป็นแถวๆ เลย ซึ่งเราจะรับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ด้วย  จุดนี้เราจะได้เห็นกระชังสาหร่ายพวงองุ่นกันอย่างใกล้ชิด และชิมสาหร่ายพวงองุ่นกันแบบสดๆ อีกด้วย เห็นยกขึ้นมาแบบนี้บอกเลยว่าหนักมากจ้า กล้ามขึ้นเลยทีเดียว  มาดูกันใกล้ๆ นอกจากจะมีหน้าตาคล้ายพวงองุ่นแล้ว สาหร่ายพวงองุ่นยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญหลายอย่าง และที่สำคัญมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย  นอกจากสาหร่ายพวงองุ่นแล้ว ที่นี่ยังมีกระชังกุ้ง ซึ่งเราสามารถชมได้อย่างใกล้ชิดเลยล่ะ แต่อย่าเอานิ้วไปจิ้มเชียว เดี๋ยวจะบาดเจ็บได้นะ  มื้อกลางวันของเราวันนี้ อร่อยจนต้องบอกต่อ!! “ข้าวคลุกกะปิ” ของที่นี่อร่อยไม่เหมือนใคร ทางชุมชนแยกสำรับข้าวและเครื่องเคียงต่างๆ ไว้ให้เราเลือกตักได้เองเลย ส่วนประกอบก็จะมี ข้าวคลุกกะปิ กุ้ง ไข่เจียว มะม่วงซอย หอมซอย มะนาว พริกซอย กุ้งแห้ง และแตงกวา แถมยังใช้ใบตองกลัดด้วยไม้ทำเป็นกระทง ใช้เป็นภาชนะแทนจานโฟมอีกด้วย ดีมากๆ เลย ฝีมือแอดตักเอง น่าทานมั้ย หลังจากทานข้าวกลางวันกันเรียบร้อยแล้ว เราก็กลับเข้าฝั่งมาชม “วัดมหาธาตุแหลมสัก” ที่มีพระมหาธาตุเจดีย์ซึ่งถือเป็นเจดีย์เพียงองค์เดียวที่ตั้งอยู่ริมทะเลอันดามัน เจดีย์องค์นี้ก่อสร้างมากว่า 10 ปีแล้ว แม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนได้ ซึ่งจะมองเห็นทัศนียภาพได้แบบ 360 องศาทีเดียว แอดบอกเลยว่าสวยมากๆ ต้องไปดูด้วยตาตัวเองนะ “ศาลเจ้าซกโป้ซีเอี๋ย” เป็นจุดสุดท้ายที่เราจะมาชมกัน ศาลเจ้าเก่าแก่กว่า 100 ปีแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าออกสู่ทะเล สร้างขึ้นจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวจีนฮกเกี้ยน ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานบริเวณหน้าตลาดแหลมสักเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว  เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 16 กันยายน 2562

หลง(รัก) แหลมสัก อ่านเพิ่มเติม

ใช่…เลย : 10 ที่ต้องห้ามพลาดจังหวัดเลย

10 ที่ต้องห้ามพลาดจังหวัดเลย  บ้านผีบุ้งเต้า พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ต้นเซียงใหญ่ รุกขมรดกเมืองเลย พระใหญ่ภูคกงิ้ว ภูบ่อบิด อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อำเภอเชียงคาน วัดเนรมิตวิปัสสนา พระธาตุศรีสองรัก อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง บ้านผีบุ้งเต้า.หลายคนอาจจะสงสัยว่าแอดเอาหน้ากากอะไรมาใส่? สิ่งนี้เค้าเรียกว่า “ผีบุ้งเต้า” เป็นหน้ากากรูปยักษ์ที่ทำจากน้ำเต้านั่นเอง มีทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ ปกติจะใช้แขวนบนหัวทุง (หรือตุง) เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธนาวาบรรพต พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ประดิษฐานอยู่บนยอดภูเรือ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์.น้ำเต้า หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ ความร่ำรวยยักษ์ หมายถึง ทวารบาล ผู้ป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาในเขตพุทธสถาน ทุง หรือ ตุง หมายถึง ความสำเร็จและชัยชนะ.ซึ่งหน้ากากผีบุ้งเต้านี้เกิดจากความคิดของครูวัชรินทร์ อาจสมบาล ครูหนุ่มชาวบ้านไฮตาก ที่นำลูกน้ำเต้ามาประยุกต์ทำเป็นหน้ากากนั่นเอง นอกจากจะใช้แขวนบนหัวทุงแล้ว ยังนำมาใส่เล่นน่ารักๆ ได้อีกด้วย ที่นี่มีกิจกรรมให้ลองวาดหน้ากากผีบุ้งเต้าด้วยนะ อันใหญ่ 250 บาท อันเล็ก (โมบายแขวน) 100 บาท ใช้เวลาทำประมาณ 2 ชั่วโมง เหมือนจะนาน แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ทำงานศิลปะแบบแอด 2 ชั่วโมงนี่แหละ กำลังดี .ถ้าใครไม่ถนัดวาดหน้ากากเอง ที่นี่เขาก็มีขาย อันใหญ่ 350 บาท อันเล็ก 150 บาท.ที่ตั้ง : บ้านไฮตาก ต.ลาดค่าง อ.ภูเรือ จ.เลยโทร. 088 300 8048 (คุณจุ๋ม), 098 6616 764 พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน.ผีตาโขน เป็นการละเล่นประจำจังหวัดเลยที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ถ้าอยากรู้ประวัติของผีตาโขน ต้องไปที่ พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดโพนชัย อ.ด่านซ้าย ที่นี่จะมีน้องๆ มัคคุเทศก์คอยนำชมและให้ความรู้เกี่ยวกับผีตาโขน รวมทั้งเรื่องราวในหลายๆ แง่มุมของจังหวัดเลย ไม่ว่าจะเป็นภาษาหรือวัฒนธรรม เป็นต้น นอกจากนี้ เรายังสามารถลองวาดหน้ากากผีตาโขนจิ๋วตามสไตล์ที่เราชอบได้ด้วยนะ โดยวัสดุที่นำมาใช้ เป็นผ้ากาวที่หาซื้อได้ไม่ยาก นำมาตัดให้เป็นรูปหน้ากาก แล้วใช้สีโปสเตอร์ระบาย ใช้เวลาทำประมาณ 45 นาทีก็เสร็จแล้ว .ค่าใช้จ่ายในการวาดหน้ากากผีตาโขน ราคากลุ่มละประมาณ 200 บาท (ราคาจะแตกต่างกันไปตามจำนวนคน แนะนำให้โทรสอบถามล่วงหน้า).ที่ตั้ง : วัดโพนชัย ถ.แก้วอาสา ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลยเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.โทร. 042 891 094 (กศน.ด่านซ้าย) ต้นเซียงใหญ่ รุกขมรดกเมืองเลย.เป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเลย มีอายุประมาณ 200 ปี ตั้งอยู่ในป่าชุมชนของวัดสีลธราราม มีเส้นรอบวงประมาณ 22 เมตร หรือขนาด 17 คนโอบเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังได้รับการขึ้นบัญชีให้เป็น “รุกขมรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี” อีกด้วย.ที่ตั้ง : วัดป่าวิเวกบำเพ็ญ ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมือง จ.เลยพิกัด : https://goo.gl/maps/KUpfHLn9dizk7epb8 พระใหญ่ภูคกงิ้ว หรือ พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์.เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาภูคกงิ้ว ซึ่งเป็นบริเวณที่ปากลำน้ำเหืองจรดกับแม่น้ำโขง และยังเป็นจุดแรกของภาคอีสานที่แม่น้ำโขงไหลผ่านอีกด้วย.จากจุดนี้เราสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขง และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้ ซึ่งปัจจุบันมีการสร้าง sky walk เป็นทางเดินกระจกสำหรับชมวิว คาดว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวใช้บริการได้ปลายปีนี้ .ที่ตั้ง : บ้านท่าดีหมี ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย ภูบ่อบิด.เป็นจุดชมวิวที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเลยเพียง 5 กิโลเมตร เดินทางไปง่าย และใช้เวลาไม่นานในการขึ้นไปถึงยอดภู แม้เส้นทางเดินขึ้นจะค่อนข้างลาดชัน แต่ก็มีราวจับให้ตลอดแนว และถ้าใครกลัวเหนื่อย ระหว่างทางขึ้นยอดภูยังมีถ้ำให้แวะชมและแวะพักด้วย.การขึ้นภูบ่อบิดมี 2 วิธี คือ 1. เดินขึ้น ระยะทาง 670 เมตร 2. ใช้บริการรถกระบะ ซึ่งจะจอดบริเวณจุดชมวิวที่ 1 จากนั้นต้องเดินขึ้นไปอีก 200 เมตร (ค่าบริการรถกระบะ ไป-กลับ คนละ 40 บาท) บนยอดภูมีจุดชมวิว 2 จุด คือด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่งจุดชมวิวทิศตะวันตกนอกจากจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกแล้ว ยังสามารถมองเห็นวิวภูป่าเปาะ ภูกระดึง ภูหลวง และถ้ามาหน้าหนาวยังจะได้เห็นทะเลหมอกสุดอลังการด้วย.ที่ตั้ง : ถ.เลย-นาด้วง ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมือง จ.เลยเปิดทุกวัน เวลา 05.00 – 18.00 น.โทร. 089 620 1373 (ลุงแว่น รถกระบะขึ้นภู) อุทยานแห่งชาติภูกระดึง.ภูสุดฮิตที่ใครๆ ก็อยากมาพิชิต ถือเป็นภูสำหรับคนที่เริ่มเดินป่าเลยก็ว่าได้ ที่นี่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีระบบนิเวศและภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งทุ่งหญ้า ป่าดิบ ป่าสนเขา มีต้นเมเปิ้ลที่สวยงามหลายชนิด น้ำตก และหน้าผาชมวิว.ภูกระดึงเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นสำรวจธรรมชาติระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคมของทุกปี และจะปิดช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู.ที่ตั้ง : บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลยเปิดให้ขึ้นภูกระดึง เวลา 07.00 – 14.00 น.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทร. 042 810 833 อำเภอเชียงคาน.อำเภอเล็กๆ เงียบสงบริมฝั่งโขง มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น แก่งคุดคู้ วัดศรีคุณเมือง พระพุทธบาทภูควายเงิน ภูทอก หาดนางคอย ถนนคนเดินเชียงคาน ฯลฯ.ถ้าใครมีโอกาสต้องลองมาพักผ่อนที่เชียงคาน และชมพระอาทิตย์ตกริมฝั่งโขง บอกเลยว่าฟินสุดๆ.อ่านรีวิว “เชียงคานเที่ยวยาวๆ เช้ายันค่ำ” ได้ที่ >> https://www.facebook.com/TATContactcenter/posts/2892305994174795 วัดเนรมิตวิปัสสนา.ตั้งอยู่ในอำเภอด่านซ้าย สิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดล้วนแล้วแต่สร้างด้วยศิลาแลงทั้งสิ้น ที่สำคัญได้แก่.มณฑปพระครูภาวนาวิสุทธิญาณ ภายในมีหุ่นขี้ผึ้งของพระครูภาวนาวิสุทธิญาณ หรือหลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ ผู้ริเริ่มสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น และยังมีสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อ ให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้อีกด้วย พระอุโบสถ ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม มีภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบ และมีพระพุทธชินราชจำลองประดิษฐานเป็นพระประธาน.ที่ตั้ง : 20

ใช่…เลย : 10 ที่ต้องห้ามพลาดจังหวัดเลย อ่านเพิ่มเติม

เที่ยว 5 ป่าสน #ปลายฝนต้นหนาว

5 ป่าสนที่แอดหยิบยกมาในวันนี้ ได้แก่– สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว จ.เชียงใหม่– ป่าสนวัดจันทร์ โครงการบ้านวัดจันทร์ จ.เชียงใหม่– อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์– โครงการพระราชดำริปางตอง 2 จ.แม่ฮ่องสอน– ถนนเลียบหาดสวนสน จ.ระยอง สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว จ.เชียงใหม่ “สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว” หรือชื่อที่หลายๆ คนรู้จักก็คือ “สวนสนบ่อแก้ว” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษ ภายในสถานีจึงมีการปลูกพืชจำพวกสนและยูคาลิปตัส เรียงรายเป็นระเบียบอยู่ทั่วบริเวณ มองแล้วสวยงามราวกับอยู่ต่างประเทศเลยล่ะ นอกจากนั้น อากาศของที่นี่ยังหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 27.3 องศาเซลเซียส และอุณหภมิเฉลี่ยต่ำสุดคือ 16.8 องศาเซลเซียส ไม่ต้องรอหน้าหนาวก็สามารถไปเที่ยวแบบคูลๆ ได้เลย สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้วที่ตั้ง : ต.บ่อหลวง อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. ป่าสนวัดจันทร์ โครงการบ้านวัดจันทร์ จ.เชียงใหม่ “ป่าสนวัดจันทร์ โครงการบ้านวัดจันทร์” เป็นพื้นที่ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป) เข้ามาดำเนินการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากไม้สนเขาและยางธรรมชาติ โดยมีการปลูกป่าทดแทน และฟื้นฟูป่าไม้บริเวณแหล่งต้นน้ำให้กลับคืนสู่สภาพเดิม บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านกะเหรี่ยงมูเส่คี (ซึ่งมีความหมายว่า ต้นน้ำแม่แจ่ม) ผู้ดูแลรักษาป่าแห่งนี้เป็นอย่างดีราวกับผืนป่าคือส่วนหนึ่งของชีวิต ทุกครั้งที่มีเด็กเกิดใหม่ ชาวบ้านจะนำสายสะดือของเด็กไปผูกไว้ที่ต้นไม้ใหญ่ และจะไม่มีการตัดต้นไม้ต้นนั้น ดังนั้นป่าสนวัดจันทร์จึงยังคงความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อยู่ ในช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนพฤศิจกายน – มกราคมของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางเข้ามาสัมผัสความสวยงามของป่าสนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งที่นี่สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปั่นจักรยาน พายเรือยางในทะเลสาบ หรือเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ ป่าสนวัดจันทร์ โครงการบ้านวัดจันทร์ที่ตั้ง : ต.บ้านจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.สอบถามข้อมูล และจองที่พักได้ที่โทร. 053 249 349 อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ “ภูสอยดาว” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของไทย โดยยอดสูงสุดของภูสอยดาวมีความสูง 2,102 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ไฮไลท์ของที่นี่คือ การเดินป่าผจญภัยขึ้นสู่ลานสนสามใบ ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายนของทุกปี บริเวณลานสนสามใบจะมีดอกไม้สีสันต่างๆ บานสะพรั่งสวยงามเต็มท้องทุ่ง ทั้งดอกหงอนนาคสีม่วง ดอกสร้อยสุวรรณาสีเหลือง และดอกหญ้ารากหอมสีม่วงเข้ม ส่วนเดือนพฤศจิกายน – มกราคม ก็สามารถมาชมดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ และใบเมเปิลที่เปลี่ยนเป็นสีแดง รวมทั้งยังชมดาวได้อีกด้วย บริเวณลานสนสามใบมีลานกางเต็นท์และห้องสุขาไว้บริการ แต่ไม่มีร้านอาหาร ต้องเตรียมอาหารขึ้นไปเอง ส่วนใครที่ไม่ได้นำเต็นท์ไป ทางอุทยานฯ ก็มีเต็นท์ให้เช่าด้วย อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวที่ตั้ง : ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์เปิดให้เดินขึ้นเขา เวลา 08.00 – 14.00 น.สอบถามข้อมูล และจองที่พักได้ที่โทร. 095 629 9528, 095 024 7633, 091 024 7633 โครงการพระราชดำริปางตอง 2 จ.แม่ฮ่องสอน “ปางอุ๋ง” หรือ “โครงการพระราชดำริปางตอง 2” จ.แม่ฮ่องสอน เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงส่งเสริมให้ราษฎรชาวเขาปลูกพืชชนิดอื่นแทนการปลูกฝิ่น และหันมาฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืน ปัจจุบันปางอุ๋งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของแม่ฮ่องสอน เพราะมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีอ่างเก็บน้ำที่แวดล้อมไปด้วยป่าสนสองใบ อากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี ในช่วงเช้าจะมีหมอกบางๆ ลอยขึ้นเหนือผืนน้ำ บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมากางเต็นท์พักแรมที่นี่ โครงการพระราชดำริปางตอง 2ที่ตั้ง : ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอนเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-20.00 น.สอบถามข้อมูลได้ที่โทร. 080 847 8456, 087 661 8594 ถนนเลียบหาดสวนสน จ.ระยอง ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณนี้ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถนนเลียบหาดสวนสน จ.ระยอง” เป็นถนนที่สวยที่สุดของระยอง เนื่องจากตลอดเส้นทางเลียบชายหาดหลายกิโลเมตรมีต้นสนปกคลุมราวกับเป็นอุโมงค์ บรรยากาศร่มรื่นสวยงามมาก ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านถนนเส้นนี้มักจะแวะถ่ายภาพเก็บไว้ นอกจากนั้นบริเวณชายหาดที่มีความโค้งกว่า 4 กิโลเมตร ยังสามารถลงเล่นน้ำได้ และตรงข้ามชายหาดก็มีร้านอาหารและที่พักบริการอย่างครบครัน หาดสวนสนที่ตั้ง : ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยองเปิดทุกวัน เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 14 กันยายน 2562

เที่ยว 5 ป่าสน #ปลายฝนต้นหนาว อ่านเพิ่มเติม

หมอกขาวที่ด้ามขวาน

ฆูนุงซีลีปัต เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รอยต่อของตำบลอัยเยอร์เวงและตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มียอดสูง 607 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง อย่างที่แอดบอกไปแล้วว่า ที่นี่มีหมอกให้ชมได้เกือบทุกวันตลอดทั้งปี เพราะพื้นที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและป่าฝนดิบชื้น จึงทำให้เกิดหมอกได้ง่ายมากๆ นั่นเอง การเดินทางขึ้นไปยังฆูนุงซีลีปัต จะต้องนั่งรถโฟร์วีลหรือรถจี๊ปขึ้นไป จากนั้นต้องเดินเท้าต่อ สามารถขึ้นได้ 2 ทาง คือ เส้นทางที่ 1 ขึ้นทางฝั่ง ต.อัยเยอร์เวง : จุดขึ้นรถอยู่ที่ร้านอนาเซีย (ร้านอาหารอิสลาม) หมู่บ้าน กม.28 ซึ่งดำเนินการโดยวิสาหกิจชุมชนทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต (ดูแลโดย อบต.อัยเยอร์เวง) เส้นทางนี้จะต้องขึ้นตั้งแต่ตอนบ่าย เพื่อไปกางเต็นท์นอนด้านบน ซึ่งเพื่อนๆ ควรมาถึงจุดขึ้นรถก่อน 15.00 น. ทางขึ้นเขาเป็นทางค่อนข้างวิบาก มีดินโคลน บอกเลยว่าสายลุยต้องชอบแน่ๆ นั่งไปประมาณ 3 กิโลเมตร ก็ถึงจุดเริ่มเดินเท้า ซึ่งจะต้องเดินขึ้นเขาผ่านป่าสลับกับสวนยางและสวนทุเรียนของชาวบ้านอีก 2 กิโลเมตร ไปยังจุดกางเต็นท์ ซึ่งเป็นลานโล่งเล็กๆ ในสวนยาง ห่างจากยอดเขาที่เป็นจุดชมวิวแค่ 200 เมตรเท่านั้น หากเราทำเวลาได้ดี ก็จะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินและได้ภาพสวยๆ กลับไปอวดเพื่อนด้วยค่ะ.ค่าใช้จ่าย (ราคารวมรถรับ-ส่ง+อาหาร 2 มื้อ+เต็นท์พร้อมหมอน (มีคนกางให้) พร้อมเจ้าหน้าที่นำทางที่คอยดูแลตลอดทริป)– ถ้ามามากกว่า 5 คน ราคาจะอยู่ที่คนละ 800 บาท– ถ้าน้อยกว่า 5 คน ราคาจะอยู่ที่คนละ 1,000 บาท.จองทริปหรือสอบถามข้อมูล โทร. 081 093 8549 (เฮง), 082 265 6900 (ซู)*ควรโทรจองทริปล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วันนะคะ* ที่ตั้ง : ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เส้นทางที่ 2 ขึ้นทางฝั่ง ต.ตาเนาะแมเราะ : จุดขึ้นรถอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) ใกล้กับด่านความปลอดภัย หมู่บ้าน กม.23 ดำเนินการโดยชาวบ้านเจ้าของสวนยางที่อยู่ใกล้ๆ จุดชมวิว เส้นทางนี้สามารถขึ้นตอนเช้ามืดได้ ไม่ต้องค้างคืน โดยรถจะพาขึ้นเขาทางฝั่ง ต.ตาเนาะแมเราะ ไปยังจุดเริ่มเดินเท้า จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงจุดกางเต็นท์บนเขา ที่ห่างจากจุดชมวิวเพียง 200 เมตรเช่นเดียวกับเส้นทางแรก ค่าใช้จ่าย : ค่ารถไป-กลับ คันละ 1,000-1,500 บาท (นั่งได้ 10 คน/คัน).จองทริปหรือสอบถามข้อมูล โทร. 089 595 6642, 093 615 6998*ควรโทรจองทริปล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วันนะคะ* **บริเวณจุดกางเต็นท์มีห้องน้ำให้บริการ 2 ห้อง แต่ไม่สามารถอาบน้ำได้เพราะน้ำมีน้อย และควรเตรียมไฟฉาย รวมทั้งยากันยุงไปด้วยนะคะ**  แอดเดินทางโดยใช้เส้นทางแรก ขึ้นไปค้างคืนด้านบน ตอนเช้าก็ตื่นมาชิลๆ 05.30 น. เดินไปจุดชมวิวใช้เวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้นเอง ที่นี่เพื่อนๆ สามารถดื่มด่ำบรรยากาศของไอหมอกและอ้อมกอดของภูเขาได้อย่างหนำใจ ระหว่างรอพระอาทิตย์ขึ้นก็มาโบกสะบัดธงชาติไทย ถ่ายรูปกันเก่ๆ  ยิ่งเวลาผ่านไป ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติก็ยิ่งเผยออกมาให้เห็น ราวกับทะเลหมอกกำลังหยอกเล่นกับภูเขาอยู่ตรงหน้าเราเลยล่ะ บางจังหวะธรรมชาติที่ได้เห็นตรงหน้าก็สวยจนแอดคิดว่า การถ่ายภาพคงเก็บความสวยงามแบบนี้ไว้ได้ไม่หมด เราต้องมาสัมผัสและเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ.ประมาณ 08.30 น. ก็ได้เวลาบอกลาทะเลหมอก และเตรียมตัวกลับบ้านแล้ว ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาส ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเองดูสักครั้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าความสวยงามสุดยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ จะซ่อนอยู่ในเมืองเล็กๆ ของด้ามขวานไทยได้อย่างแนบเนียนขนาดนี้ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 12 กันยายน 2562

หมอกขาวที่ด้ามขวาน อ่านเพิ่มเติม

วัดร่องเสือเต้น : เชียงราย

วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ที่ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย ในอดีตวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดร้าง มีสัตว์ป่ารวมทั้งเสืออยู่มาก จึงเป็นที่มาของชื่อวัด “ร่องเสือเต้น” ภายหลังชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะวัดขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญต่างๆ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน สิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดในวัดแห่งนี้คงหนีไม่พ้น วิหารสีน้ำเงิน ซึ่งรังสรรค์โดย “สล่านก” หรือ นายพุทธา กาบแก้ว ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2548 แล้วเสร็จ พ.ศ.2559 รวมระยะเวลาถึง 11 ปีด้วยกัน ลักษณะสถาปัตยกรรมและการประดับตกแต่งส่วนต่างๆ ของวิหาร จึงดูคล้ายคลึงกับผลงานของ อ.เฉลิมชัย รวมไปถึง อ.ถวัลย์ ดัชนี ซึ่งเป็นสองศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายนั่นเอง ภายในวิหารประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” พระประธานสีขาวปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ซึ่งภายในพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานให้ ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงระฆัง สูง 20 เมตร นามว่า “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง หากเพื่อนๆ มีโอกาสแวะเวียนไปเชียงราย ก็อย่าพลาดไปชมความงดงามของวัดแห่งนี้นะ ที่ตั้ง : ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงรายโทร. 082 026 9038เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-17.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 10 กันยายน 2562

วัดร่องเสือเต้น : เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

7 ร้านเด็ด @ท่าน้ำนนท์

7 ร้านเด็ด @ท่าน้ำนนท์ .– ข้าวเกรียบปากหม้อ/สาคู แม่ทิพย์– กุยช่าย 7 สี– ก๋วยเตี๋ยวเมืองนนท์– เกาเหลาเมืองนนท์– นนท์เบเกอรี่– นนท์ตำแหลก– ขนมฝรั่งแม่ไน้ ข้าวเกรียบปากหม้อ/สาคู แม่ทิพย์.หลายคนอาจจะคิดว่าข้าวเกรียบปากหม้อและสาคูนั้น หาทานที่ไหนก็ได้ ซึ่งก็จริง.แต่แอดอยากจะบอกว่า ข้าวเกรียบปากหม้อและสาคูของร้านแม่ทิพย์มีความพิเศษกว่าร้านอื่น ตรงที่เค้าทำขนาดพอดีคำ แป้งที่ห่อก็บางมาก แถมไส้ยังอร่อยอีกด้วย ถ้าไม่เชื่อแอดท้าให้ไปลองเลย แต่แนะนำว่าควรไปแต่เช้านะคะ ถ้าไปสายของอาจหมด จะอดกินได้ค่ะ.ที่ตั้ง ตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี ถนนประชาราษฎร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีเปิดทุกวัน เวลา 05.00 – 12.00 น. กุยช่าย 7 สี.ก่อนอื่นแอดต้องขอบอกเลยว่าร้านนี้ดังมาก เคยออกทีวีหลายช่องเลยค่ะ เพราะความอร่อยและความแปลกใหม่ของกุยช่ายที่มีถึง 7 สี 7 ไส้ให้เลือกทาน.ทั้งไส้กุยช่าย เผือก มันแกว หน่อไม้ ฟักทอง แครอท และกะหล่ำม่วง (แต่คราวนี้แอดได้ไส้กุ้งแห้งแทนแครอทล่ะ) และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือน้ำจิ้มรสเด็ด แอดชอบมาก ทานคู่กันอร่อยเว่อร์.ที่ตั้ง หน้าเซเว่นอีเลฟเว่น ถนนประชาราษฎร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีเปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 19.00 น. ก๋วยเตี๋ยวเมืองนนท์.ก๋วยเตี๋ยวเมืองนนท์ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ห้ามพลาดอีกร้านหนึ่งเมื่อมาเยือนท่าน้ำนนท์ เพราะร้านนี้เค้ามีเมนูเด็ดที่อร่อยมากกกกก ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น หรือก๋วยเตี๋ยวต้มยำ น้ำซุปเค้าเข้มข้นชนิดที่ว่าไม่ต้องปรุงเพิ่มก็อร่อย หากใครได้ลองรับรองว่าฟินเฟ่อร์.ที่ตั้ง ริมถนนประชาราษฎร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.00 น. เกาเหลาเมืองนนท์.เรียกได้ว่าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมู-เนื้อชื่อดังประจำท่าน้ำนนท์เลยทีเดียว ยิ่งใครที่ชอบทานเนื้อ แอดแนะนำร้านนี้เลย เพราะที่นี่เค้ามีสูตรเด็ดเฉพาะตัว ที่ทำให้เนื้อมีความนุ่ม เปื่อยยุ่ย และหอมน่ารับประทาน แถมราคาก็ไม่แพงด้วย.ที่ตั้ง ริมถนนประชาราษฎร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 17.00 น. นนท์เบเกอรี่.นนท์เบเกอรี่ เป็นร้านขายขนมที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของท่าน้ำนนท์ เพราะมีขนมให้เลือกซื้อมากมาย แถมพนักงานยังยิ้มแย้มเป็นกันเอง น่ารักสุดๆ สำหรับขนมที่ห้ามพลาดและอยากให้ลองก็คือ เอแคลร์ ขนมปังหน้าหมูสับไข่เค็ม และคุ้กกี้งาดำค่ะ เพราะว่ามันดีย์มากกกกก .ที่ตั้ง ริมถนนประชาราษฎร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 22.00 น. นนท์ตำแหลก.สายแซ่บไม่ควรพลาดกับร้านนนท์ตำแหลก เพราะร้านนี้เค้ามีเมนูเด็ดเมนูแซ่บหลายเมนูให้เลือกชิม ไม่ว่าจะเป็นตำกระท้อน ตำไทย ตำซั่ว ตำปูม้า ตำหอยนางรม เมี่ยงปลาเผา และอื่นๆ อีกมากมาย.หากใครสนใจอยากลองชิม แอดแนะนำให้ไปก่อน 11 โมงนะคะ เพราะไม่เช่นนั้นจะต้องรอคิวยาวเลย.ที่ตั้ง ริมถนนประชาราษฎร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 19.30 น. ขนมฝรั่งแม่ไน้.ขนมฝรั่งแม่ไน้ เป็นร้านขนมไข่อบ ที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 40 ปี ด้วยรสชาติของขนมที่หวานกลมกล่อมกำลังดี แถมยังกรอบนอกนุ่มใน และทำสดใหม่ทุกวัน.จึงทำให้ร้านนี้กลายเป็นร้านขนมขึ้นชื่อที่ไม่ว่าใครก็รู้จักและอยากลิ้มลอง เพื่อนๆ สามารถซื้อกลับบ้านไปทานคู่กับกาแฟหรือโอวัลตินร้อนๆ ได้นะคะ รับรองอร่อยแน่ .ที่ตั้ง ตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี ถนนประชาราษฎร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 5 กันยายน 2562

7 ร้านเด็ด @ท่าน้ำนนท์ อ่านเพิ่มเติม

วัดถ้ำเขาวง วัดสวยในหุบเขา จ.อุทัยธานี

หากมองเผินๆ เพื่อนๆ อาจจะคิดว่า ที่นี่คือรีสอร์ทหรือบ้านพักตากอากาศที่สร้างขึ้นท่ามกลางขุนเขา.แต่จริงๆ แล้วสถานที่แห่งนี้คือวัดที่มีชื่อว่า “วัดถ้ำเขาวง” นั่นเองค่ะ “วัดถ้ำเขาวง” มีลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ 4 ชั้น สร้างด้วยไม้สักและไม้มะค่า ที่ได้รับบริจาคจากชาวบ้าน รวมทั้งไม้เก่าจากเรือนไทยที่มาจากจังหวัดต่างๆ อีกด้วยค่ะ.วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นภูเขาที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังของวัด สระน้ำขนาดใหญ่ที่มีปลานับร้อยแหวกว่าย หรือสวนดอกไม้ที่จัดภูมิทัศน์และตกแต่งได้อย่างลงตัว เมื่อเข้ามาในอาคารเรือนไทย เราก็จะพบกับชั้นแรก ซึ่งมีลักษณะเหมือนใต้ถุน ใช้เป็นลานอเนกประสงค์.ชั้นที่ 2 เป็นวิหาร มีรอยพระพุทธบาทจำลองให้กราบสักการะด้วย  ชั้นที่ 3 เป็นหออริยบูชา ใช้สำหรับปฏิบัติธรรม.ในชั้นนี้จะมีห้องเล็กๆ ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายและขวา ภายในห้องมีหุ่นขี้ผึ้งของเกจิอาจารย์ตั้งอยู่ ตอนแรกแอดแอบตกใจนิดหน่อย นึกว่าพระจริงๆ เพราะเหมือนมาก  ส่วนชั้นสุดท้ายคือชั้นที่ 4 เป็นอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยที่งดงาม.บนชั้นนี้เรายังสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามรอบวัดได้อีกด้วยค่ะ วัดถ้ำเขาวง.ที่ตั้ง ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 4 กันยายน 2562

วัดถ้ำเขาวง วัดสวยในหุบเขา จ.อุทัยธานี อ่านเพิ่มเติม

ไร่ชาฉุยฟง : เชียงราย

ไร่ชาฉุยฟง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นไร่ชาชื่อดังของเชียงรายที่มีมานานกว่า 40 ปี ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ เป็นแหล่งปลูกชาชั้นดี และยังเป็นผู้ผลิตชารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงรายอีกด้วย ภายในบริเวณไร่ชาฉุยฟงจะมองเห็นแปลงชาที่ปลูกเรียงรายไปตามไหล่เขาอย่างเป็นระเบียบ ระหว่างทางจะมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เราได้แวะจอดรถลงไปถ่ายรูปกันตลอดทาง จุดนี้คือ “ฉุยฟง ที คาเฟ่” ที่มีขนมและเครื่องดื่มให้เราได้เลือกซื้อเลือกทานกัน มีทั้งโซนที่นั่งแบบเปิดโล่ง (Open air) และโซนในห้องแอร์ ส่วนด้านบนที่เหมือนดาดฟ้านั้น เราสามารถขึ้นไปชมวิวไร่ชาและถ่ายภาพสวยๆ ได้ มาดูเมนูที่แอดสั่งกันบ้าง เริ่มด้วยเครปเค้กชาไทย ที่ราดด้วยซอสชาไทยเข้มข้น อร่อยเลยทีเดียว ชาเขียวถั่วแดงปั่น แอดชอบมาก เพราะถั่วแดงที่นำมาปั่นไม่ได้ผสมน้ำเชื่อมเลย เข้ากับชาเขียวสุดๆ มาไร่ชาทั้งที แอดก็เลยสั่งเมนูชาแบบจัดหนักจัดเต็มมากๆ มีทั้งเค้กชาเขียว ชีสเค้กชาเขียว ไอศกรีมชาเขียว และชาเขียวปั่น เนื่องจากที่นี่เป็นทั้งไร่ชาและแหล่งผลิตชา ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยในเรื่องคุณภาพ เพราะมันดีมากกกกก อร่อยทุกอย่าง ละมุนลิ้นไปหมด รสชาติชาเขียวชัดเจน เข้มข้นขั้นสุด ไร่ชาฉุยฟงที่ตั้ง : ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 – 17.30 น.โทร. 053 771 563 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 3 กันยายน 2562

ไร่ชาฉุยฟง : เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top