สถานที่ท่องเที่ยว

เส้นทางท่องเที่ยว ระนอง-ชุมพร 3 วัน 2 คืน

ระนอง – ชุมพร 3 วัน 2 คืน  วันที่ 1– ภูเขาหญ้า– ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการร่อนแร่ ชุมชนหาดส้มแป้น– น้ำนองฮอทสปา วันที่ 2 – วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลม่วงกลวง คลองลัดโนด– บ้านไร่ไออรุณ– จุดชมวิวเขามัทรี– บาติกผาแดง ครูอนงค์ วันที่ 3– จุดชมวิวป่าเขาเขียว– เจียฟาร์ม– หาดทุ่งวัวแล่น วันที่ 1.สถานที่แรกที่แอดไปก็คือ ภูเขาหญ้าตั้งอยู่ใน อ.เมือง มีลักษณะเป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น มีแต่ต้นหญ้าปกคลุม จึงเป็นที่มาของชื่อภูเขาหญ้า มีทางเดินเท้าขึ้นสู่สันเขาเพื่อชมวิวได้ 360 องศา ภูเขาแต่ละลูกไม่สูงมาก สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้.ภูเขาหญ้าสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน-เมษายน) ภูเขาหญ้าจะเป็นสีน้ำตาลทอง แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม) ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว หลายคนจึงนิยมเรียกว่า “ภูเขาหญ้าสองสี”.ที่ตั้ง ม.1 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวันไม่เสียค่าธรรมเนียม ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการร่อนแร่ ชุมชนหาดส้มแป้น.หาดส้มแป้น อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 10 กิโลเมตร เป็นตำบลเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขา ที่ยังคงเสน่ห์เฉพาะตัวของความเป็นหมู่บ้านที่มีแหล่งแร่ดีบุกเอาไว้ ที่สำคัญหากไปเที่ยวที่นี่ เราสามารถทำกิจกรรมร่อนแร่ได้ด้วยนะ.ที่ตั้ง ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน 09.00-16.00 น. (นัดล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน)โทร. 080 040 2425, 090 424 8513 (พี่สมโชค)Facebook : https://www.facebook.com/BaanHatsompaen/ “หาดส้มแป้น” เป็นชุมชนทำเหมืองเก่าที่สำคัญของ จ.ระนอง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การทำเหมืองของที่นี่เป็นลักษณะของเหมืองฉีด (คือใช้กระบอกสูบน้ำ สูบดินทรายและแร่ขึ้นมาจากเหมือง) และเหมืองแล่น (ใช้น้ำฉีดไปที่หน้าดินเพื่อหาแร่) มีเพียงส่วนน้อยที่มีการทำแบบเหมืองหาบ (ใช้คนขุดและหาบแร่ไปล้าง) ชื่อ “หาดส้มแป้น” เพี้ยนมาจากคำว่า “ห้วยซัมเปียน” ในภาษาจีน ที่แปลว่าลึกเข้าไปในหุบเขา เนื่องจากการค้นหาแร่ดีบุกจะต้องเดินลึกเข้าไปเพื่อหาแร่ในหุบเขา ปัจจุบันแม้แร่ดีบุกจะลดน้อยลง แต่ก็มีการค้นพบแร่ดินขาวคุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของเอเชีย ที่มีชื่อเสียงด้านความโปร่งใสของเนื้อดิน สามารถส่งออกขายทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย ปิดท้ายวันแรกด้วย น้ำนองฮอทสปา.สปาน้ำแร่ร้อนธรรมชาติแห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน จุดเด่นของที่นี่คือ การใช้น้ำแร่ที่ต่อตรงมาจากบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ซึ่งถือเป็นน้ำแร่คุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว มีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่มีกลิ่นกำมะถัน สามารถใช้ดื่มได้และอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย.ที่ตั้ง ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.โทร. 084 625 3444, 077 828 388, 081 666 2285 ประโยชน์ของการแช่น้ำแร่– กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยขยายหลอดเลือด– คลายความปวดเมื่อย– บำรุงผิวพรรณ– กระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย. ที่นี่ยังมีบริการอื่น ๆ อีก เช่น– นวดคลายกล้ามเนื้อ-คลายเส้น– นวดแผนไทย– นวดหน้า– นวดเท้า– ขัดผิว วันที่ 2.วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลบ้านม่วงกลวง คลองลัดโนด.หากใครอยากสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดและทำกิจกรรมที่หลากหลาย แอดแนะนำให้มาที่นี่ เพราะมีทั้งล่องเรือชมวิว ปลูกป่าชายเลน กินอาหารทะเลสดอร่อยบนกระชังปลา และล่องแพเปียก.ที่ตั้ง ม.3 ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.โทร. 087 885 7965 (พี่ปรีชา), 082 278 6099 (ผู้ใหญ่ทวน) กิจกรรมแรกคือการนั่ง “เรือพรีส” ชมวิว เรือนี้มีลักษณะคล้ายเรือหางยาวลำเล็ก ๆ นั่งได้ไม่เกิน 3 คน รวมคนขับ.วันที่แอดไปมีฝนตกลงมา สมกับที่เป็น “เมืองฝนแปดแดดสี่” จริง ๆ เพราะฉะนั้นใครมาเที่ยวระนองต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะ เช็คสภาพอากาศล่วงหน้าด้วย แต่จริง ๆ นั่งเรือกลางสายฝนก็สนุกไปอีกแบบเลยล่ะ อีกจุดของที่นี่ ที่แอดชอบมากก็คือ กระชังปลา หรือเรียกว่าศูนย์เรียนรู้ลอยน้ำ ซึ่งเป็นจุดรับประทานอาหารกลางวันของเรา มาถึงระนองทั้งที ถ้าไม่กินอาหารทะเลก็อาจถูกแซวว่ามาไม่ถึง ขอบอกเลยว่าอาหารที่นี่อลังการมาก กุ้ง หอย ปู ปลา ละลานตาไปหมด แถมรับประกันความสดและความอร่อย เมนูที่ไม่อยากให้เพื่อน ๆ พลาดเลยก็คือ “แกงกุ้งใส่ใบส้มป่อย” ซุปใสรสชาติคล่องคอ อมเปรี้ยวนิด ๆ เนื้อกุ้งก็หวานเด้ง รสชาติเข้ากันมาก ๆ ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า อย่ากินเพลินจนลืมชมวิวนะ เพราะถึงแม้ว่าตอนล่องเรือฝนจะตก แต่พอฝนหยุดแล้ว สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาเป็นอะไรที่สุดยอดมากกก หมอกจาง ๆ บนภูเขา น้ำใส ๆ สะท้อนภาพท้องฟ้าที่เริ่มเปิด ลมเย็นพัดเอื่อย ๆ และอาหารอร่อย ๆ วางเต็มโต๊ะ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม กิจกรรมถัดไปตามโปรแกรมก็คือ การล่องแพเปียกชมสันหลังปึ้งกือ(สันหลังกิ้งกือ) ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อนี้ตั้งขึ้นเพื่อให้คล้องกับทะเลแหวกสันหลังมังกรที่ จ.สตูล และไฮไลท์สำคัญก็คือ การปลูกป่าชายเลน ที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังเป็นการช่วยเพิ่มทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย.แต่น่าเสียดายที่ฝนตกอีกรอบ ไม่สามารถล่องแพเปียกและปลูกป่าชายเลนได้ แต่ไม่ต้องห่วงนะ แอดหาภาพมาให้เพื่อน ๆ ดูแล้ว.แพ็กเกจ 1 วัน สำหรับ 2 – 60 คน เดินทางเอง ราคา 1,350 ต่อคนบริการรับ-ส่ง เมืองระนอง 1,900 ต่อคน.โปรแกรมกิจกรรม ณ คลองลัดโนดจุดนัดพบ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ท่าเรือคลองลัดโนด–

เส้นทางท่องเที่ยว ระนอง-ชุมพร 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวสุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน

เส้นทางท่องเที่ยวสุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน วันที่ 1– ตลาดบางลี่– สุ่มปลายักษ์ ตลาดน้ำสะพานโค้ง– คาเฟ่ เจดีย์– วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร.วันที่ 2– พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผา)– ร้านอาหาร Three of us– วัดเขาดีสลัก– ตลาดสีเขียว ณ สวนสวรรค์สุพรรณบุรี ตลาดบางลี่.ตลาดบางลี่เป็นตลาดเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ริมคลองสองพี่น้อง ภายในมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ.ตลาดเปิดตั้งแต่เช้ามืดไปจนถึง 5 ทุ่ม โดยในตอนเช้าจะเป็นตลาดสด พ่อค้าแม่ค้าจะเริ่มตั้งแผงขายกันตั้งแต่ตี 4 พอช่วงสาย ร้านรวงต่างๆ ก็จะเปิดให้บริการ มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของชำ ส่วนตอนเย็นตลาดแห่งนี้ก็จะกลายเป็นตลาดโต้รุ่งที่มีอาหารหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารตามสั่ง ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว และของหวาน ถึงแม้ว่าตลาดบางลี่จะดูเหมือนตลาดธรรมดาทั่วๆ ไป แต่ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจ.เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นแอ่งกระทะ ในอดีตเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำในคลองสองพี่น้องจะมีระดับสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดบางลี่มีน้ำท่วมสูงตลอดทุกปี ชาวบ้านจึงต้องอพยพขึ้นไปอยู่อาศัยและค้าขายบนชั้นสองของบ้าน รวมทั้งใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจรเพื่อติดต่อและซื้อขายสินค้ากัน และเมื่อถึงช่วงหน้าแล้งชาวบ้านก็จะกลับมาขายสินค้าที่ชั้นล่างเหมือนเดิม ตลาดแห่งนี้จึงได้รับการขนานนามว่า “ตลาดสองฤดู” .แต่ภายหลังได้มีการปรับพื้นที่บริเวณตลาดให้สูงขึ้น และปรับปรุงบ้านเรือนใหม่เกือบทั้งหมด ภาพตลาดดังกล่าวจึงกลายเป็นเพียงความทรงจำ.ที่มารูปภาพ: https://www.facebook.com/songpeenongmuni/ นอกจากนี้ บริเวณท่ารถในตลาด ยังมีอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ประชาชนได้กราบสักการะอีกด้วย .ถนนราษฎร์ดำรง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีเปิดทุกวัน เวลา 04.00-23.00 น.  ที่ต่อมาแอดจะพาเพื่อนๆ ไปเดินหาของกินอร่อยๆ พร้อมชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศากัน.สุ่มปลายักษ์ ตลาดน้ำสะพานโค้ง.ตลาดน้ำสะพานโค้ง เป็นตลาดที่มีทางเดินที่ทำจากไม้ไผ่ลัดเลาะไปมาตามแนวริมคลองสองพี่น้อง และมีสะพานโค้งที่ทอดข้ามไปยังฝั่งวัดทองประดิษฐ์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “ตลาดน้ำสะพานโค้ง” นั่นเอง.ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. ภายในตลาดมีทั้งอาหาร ขนมไทย ขนมหวาน เครื่องดื่มสมุนไพร และของฝากจากฝีมือของคนในชุมชน  ไฮไลต์ของตลาดน้ำแห่งนี้ก็คือ “สุ่มปลายักษ์”.สุ่มปลายักษ์ เป็นหอชมวิวขนาดใหญ่ สูง 20 เมตร มีรูปทรงแบบสุ่มจับปลา เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชนที่นำไม้ไผ่จำนวนมากมาใช้ในการก่อสร้าง ด้านในสุ่มมีบันไดไม้ไผ่ให้เดินขึ้นไปจนถึงด้านบนสุดเพื่อชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศา.สุ่มจับปลา เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำมาหากินที่บ่งบอกถึงความเป็นชุมชนเกษตรกรรมของชาวอำเภอสองพี่น้องมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน สมกับเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำอีกด้วย เมื่อเดินมาจนสุดตลาดน้ำ ก็จะมีสะพานไม้ข้ามไปยังอีกฝั่งของคลอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดทองประดิษฐ์ และยังมีคาเฟ่ที่แอดจะพาเพื่อนๆ ไปกัน คาเฟ่ เจดีย์ .ริมคลองสองพี่น้อง ตำบลบางเลน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีโทร. 086 537 7761เปิดวันพฤหัสบดี-อังคาร เวลา 08.00-17.00 น. (ปิดทุกวันพุธ) คาเฟ่ เจดีย์ เป็นคาเฟ่เล็กๆ ภายในตกแต่งแบบเรียบง่าย มีที่นั่งทั้งด้านในร้านและระเบียงริมน้ำ คาเฟ่ เจดีย์ ให้บริการของหวานและเครื่องดื่ม น่าทานทั้งนั้น .เมนูแนะนำต้องนี่เลย “เค้กมะพร้าวอ่อน” รสชาติหวานกำลังดี กลิ่นหอม เนื้อเค้กก็นุ่มมากๆ  เครื่องดื่มของที่นี่ก็มีหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ หรือน้ำผลไม้โซดา ก็มีครบเลยจ้า บอกเลยว่าบรรยากาศของร้านดีมาก นอกจากอากาศจะดี ลมพัดเย็นสบายแล้ว ยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวตลาดน้ำและสุ่มปลายักษ์ได้อย่างสวยงามอีกด้วย ออกเดินทางไปที่อำเภอเมืองสุพรรณบุรีกัน .วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร.หากใครได้มาจังหวัดสุพรรณบุรีแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดที่จะมากราบสักการะหลวงพ่อโต ณ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร.วัดเก่าแก่แห่งนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีการสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ และประดับตราพระราชลัญจกรในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รูปพระมหาพิชัยมงกุฏไว้ที่หน้าบันของพระวิหารด้วย ภายในพระวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางป่าเลไลยก์ ศิลปะอู่ทอง มีความสูงถึง 23.47 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สันนิษฐานว่าเดิมหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา แต่ภายหลังชำรุดจึงได้บูรณะซ่อมแซมใหม่ให้เป็นปางป่าเลไลยก์ นับเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี วัดแห่งนี้ ยังมีความเกี่ยวข้องกับวรรณคดีเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” โดยเป็นวัดที่ตามเรื่องกล่าวว่าขุนแผนเคยเล่าเรียน ซึ่งที่ระเบียงคดรอบพระวิหารก็มีการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องขุนช้างขุนแผนเอาไว้อย่างสวยงาม.นอกจากนี้ ภายในวัดยังมี “เรือนขุนช้าง” เป็นเรือนไทยประยุกต์หลังใหญ่ สร้างจำลองให้เป็นเรือนของขุนช้างตามในวรรณคดี บนเรือนมีภาพวาดเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน และมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยก่อนให้ได้ชม.ที่ตั้ง 249 ถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรีโทร. 092 590 9595 เริ่มต้นการเดินทางในวันที่สอง แอดจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันที่อำเภออู่ทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณในวัฒนธรรมทวารวดี อันเป็นยุคเริ่มแรกของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้ามาในดินแดนสุวรรณภูมิ.พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผา).“พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” หรือ “หลวงพ่ออู่ทอง” เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักบนหน้าผา อยู่ในบริเวณวัดเขาทำเทียม ซึ่งเดิมพื้นที่นี้เป็นเหมืองหินเก่าที่หมดสัมปทานไปแล้ว ต่อมา พ.ศ.2557 เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหารได้เข้ามาพัฒนาและสร้างเป็นพุทธมณฑลของจังหวัดสุพรรณบุรี.องค์หลวงพ่ออู่ทองนั้นเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะอู่ทอง มีความสูงถึง 108 เมตร ฐานกว้าง 88 เมตร และหน้าตักกว้าง 65 เมตร นับว่าเป็นพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณด้านหลังองค์พระ มีการเจาะอุโมงค์เข้าไปในหน้าผาเป็นถ้ำ เรียกว่า “ถ้ำมังกรบิน” ภายในมีรอยพระพุทธบาท และพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่.แอดได้ยินมาว่า เร็วๆ นี้ทางวัดจะมีการสร้างสกายวอล์กสำหรับชมทัศนียภาพรอบหน้าผาด้วย ซึ่งในช่วงเวลาที่มีการก่อสร้าง พื้นที่บริเวณนี้ก็จะปิดชั่วคราวนะคะ ต้องรีบไปชมกันแล้วล่ะ.ที่ตั้ง ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง สุพรรณบุรี ร้านอาหาร Three of us .เป็นร้านอาหารเล็กๆ ตกแต่งสไตล์อิงลิช คอทเทจ ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศสวนอันร่มรื่น ใครเห็นเป็นต้องอยากถ่ายรูปเช็คอินก่อนเข้าร้านแน่นอน ร้านนี้มีที่นั่งให้เลือก 2 โซน ด้านในร้านจะให้อารมณ์เหมือนอยู่ในบ้านสไตล์อังกฤษ หรือถ้านั่งในสวนก็จะชิลๆ เก๋ๆ ไปอีกแบบ นอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว อาหารของร้านนี้ก็น่าทานมากเช่นกันค่ะ ที่ร้านให้บริการอาหารไทย-ยุโรป ของหวาน และเครื่องดื่มหลากหลายเมนู.เมนูที่แอดสั่งมาได้แก่ ไก่อบ Three of us ซึ่งเป็นเมนู Signature ของร้าน เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ฟินมากกก ยำมะม่วงปลาทับทิมทอด รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ตามด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจเลยจ้า.ที่ตั้ง ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรีโทร

เส้นทางท่องเที่ยวสุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวพังงา 2 วัน 1 คืน

เส้นทางท่องเที่ยวพังงา 2 วัน 1 คืน วันที่ 1– สะพานไม้เก่า หาดเขาปิหลาย– วัดท่าไทร หรือ วัดเทสก์ธรรมนาวา– หาดเขาหลัก– Better Surf Thailand วันที่ 2– สะพานเหล็กโคกขนุน– เมืองเก่าตะกั่วป่า– ล่องเรือคลองสังเน่ห์ วันที่ 1.เริ่มกันที่ สะพานไม้เก่า หาดเขาปิหลาย.สะพานแห่งนี้ เดิมสร้างขึ้นเพื่อใช้สำหรับขนแร่ดีบุกจากแหล่งแร่ในทะเลมายังโรงแยกแร่บนฝั่ง ซึ่งสะพานแห่งนี้ถูกใช้งานมายาวนานกว่า 100 ปี เมื่อหมดยุคเหมืองแร่ สะพานแห่งนี้ก็ถูกปล่อยทิ้งร้างจนชำรุดทรุดโทรมลง และกลายมาเป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวและเหล่าช่างภาพต่างแวะเวียนมาอยู่เสมอ.สะพานไม้เก่า หาดเขาปิหลายที่ตั้ง ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงาเปิดทุกวัน ที่ต่อมาเรามากันที่ วัดท่าไทร หรือ วัดเทสก์ธรรมนาวา.ในอดีตบริเวณนี้เรียกว่า “ป่าท่าไทร” เนื่องจากมีต้นไม้ขึ้นอยู่เต็มพื้นที่ และยังเคยเป็น “ป่าช้า” ที่ชาวบ้านในพื้นที่และละแวกใกล้เคียงนำศพมาเผาหรือฝัง.ภายหลังป่าท่าไทรได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นวัด ชื่อว่า วัดท่าไทร และต่อมาเปลี่ยนเป็น วัดเทสก์ธรรมนาวา สิ่งที่น่าสนใจในวัดแห่งนี้ก็คือ อุโบสถที่สร้างจากไม้สัก ตกแต่งด้วยลวดลายแกะสลักอ่อนช้อยสวยงาม.โดยรูปแบบของอุโบสถนั้นถอดแบบมาจาก อุโบสถวัดอรัญวาสี อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ผสมผสานกับการแกะสลักไม้จากช่างชาวเชียงใหม่ ภายในประดิษฐานพระประธานคือ พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา แกะสลักจากหินหยกขาว มีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 55 นิ้ว สูงประมาณ 2.15 เมตร และพระพุทธปางต่าง ๆ ใกล้กับอุโบสถ มีชายหาดทอดยาว สามารถเดินเล่นรับลมทะเลได้ บริเวณชายหาดแห่งนี้ยังเป็นจุดที่เต่าทะเล มาวางไข่ในฤดูวางไข่อีกด้วย.วัดเทสก์ธรรมนาวาที่ตั้ง บ้านท่าแตง ตำบลนาเตย อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงาเปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น. ถัดมาที่ หาดเขาหลัก.หาดแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรู้จักและได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ.บริเวณนี้มีหาดทรายกว้างและก้อนหินก้อนเรียงรายอยู่มากมาย ร่มรื่นด้วยต้นสน ต้นมะพร้าว บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน.บริเวณริมชายหาดยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งที่สร้างได้กลมกลืนกับบรรยากาศของชายทะเล.หาดเขาหลักอุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาเปิดทุกวัน อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในบริเวณหาดเขาหลักคือ การเล่นกิจกรรมโต้คลื่น.การเตรียมตัวก่อนเรียนโต้คลื่น1. ก่อนเรียนควรรับประทานอาหารและดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดอาการจุกระหว่างเล่น2. สำหรับผู้เริ่มเรียน แนะนำให้ใส่ชุดว่ายน้ำแบบ Rash guard (ชุดว่ายน้ำแขนยาว) เพื่อลดการเสียดสีระหว่างร่างกายกับกระดานโต้คลื่น ไม่แนะนำให้ถอดเสื้อ หรือใส่ชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่ (Bikini) เนื่องจากอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้3. สำหรับผู้เริ่มเล่น แนะนำให้ใช้กระดานโต้คลื่นแบบ Soft-top ซึ่งเป็นโฟมที่มีผิวนุ่ม เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ แต่สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานแล้ว สามารถใช้กระดานแบบ Hard Board ที่ทำจาก Fiberglass PU หรือ Epoxy จะเป็นพื้นผิวสัมผัสที่แข็งกว่าได้4. ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมสำหรับการเล่นโต้คลื่น ในครั้งนี้แอดใช้บริการของ Better Surf Thailand ราคาเริ่มต้นที่ 1,200 บาท ต่อคน.ราคานี้รวมการสอนทฤษฎีบนบก 30-45 นาที และลงเล่น Surf จริงในน้ำอีก 1 ชั่วโมง.สำหรับใครที่ไม่มีพื้นฐานในการเล่น Surf ก็สามารถลองเล่นได้ เพราะจะมีการสอนทฤษฎีก่อน และเมื่อลงเล่นจริงครูฝึกก็จะคอยประกบอยู่ข้าง ๆ ตลอดเลยล่ะ สำหรับผู้ที่เล่นเป็นหรือมีพื้นฐานแล้ว สามารถเช่ากระดานเล่นได้ ค่าเช่ากระดานชั่วโมงละ 300 บาท หรือเหมาจ่ายทั้งวัน 500 บาท.Better Surf Thailandที่ตั้ง Memories Beach ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาเปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.โทร. 082 424 9257Facebook: Better Surf ThailandLine : @Bettersurf หรือ กดที่นี่ http://bit.ly/2QAoEbSดูข้อมูลภาพกิจกรรมและวิดีโอได้ที่ www.bettersurfthailand.com วันที่ 2 เริ่มต้นที่ สะพานเหล็กโคกขนุน.สะพานเหล็กโคกขนุน หรือ สะพานเหล็กบุญสูง เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเส้นทางให้ชาวบ้านสัญจรข้ามแม่น้ำตะกั่วป่าในสมัยทำเหมือง มีความยาวประมาณ 200 เมตร ตัวสะพานทำจากเหล็กของเรือขุดแร่ที่ไม่ได้ใช้การแล้ว ซึ่งเปิดให้รถจักรยานและรถจักรยานยนต์สัญจรไปมาได้เท่านั้น.ปัจจุบัน สะพานเหล็กแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวหรือผู้คนที่ผ่านไปมามักจะแวะถ่ายรูปอยู่เสมอ.สะพานเหล็กโคกขนุนตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาเปิดทุกวัน ไปต่อกันที่เมืองเก่าตะกั่วป่า.ย้อนวันวานอันงดงามของตะกั่วป่า ด้วยการเดินถ่ายรูปบนถนนศรีตะกั่วป่า ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถนนสายนี้ สะท้อนถึงความสวยงามในอดีตของเมืองตะกั่วป่าได้เป็นอย่างดี มีตึกเก่าเรียงรายอยู่อย่างสวยงาม มองไปตรงไหนก็ดูคลาสสิก ถ่ายรูปได้หลายมุมเลย นอกจากนั้นยังมี Street Art ให้เราไปถ่ายรูปด้วยนะ เมืองเก่าตะกั่วป่าถนนศรีตะกั่วป่า ตำบลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาเปิดทุกวัน ปิดท้ายกันที่ กิจกรรมล่องเรือคลองสังเน่ห์.ในอดีตคลองสังเน่ห์ เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่สามารถล่องไปได้จนถึงทะเลอันดามัน ปัจจุบัน คลองแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม กิจกรรมหลักคือล่องเรือพายหรือเรือยนต์ขนาดเล็กไปชมลำคลอง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง.ระหว่างทางจะพบอุโมงค์ต้นไทรขึ้นปกคลุมทั้งสองฝั่งคลอง ทัศนียภาพคล้ายกับลุ่มน้ำอะเมซอน จนหลาย ๆ คนเรียกที่นี่ว่า “ลิตเติ้ลอะเมซอน (Little Amazon)” กิจกรรมล่องเรือคลองสังเน่ห์ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาค่าบริการ– เรือพาย ลำละ 500 บาท นั่งได้ 2 คน– เรือยนต์ ลำละ 700 บาท นั่งได้ 2 คนเปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.โทร. 086 953 1789 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 12 สิงหาคม 2563

เส้นทางท่องเที่ยวพังงา 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน

เส้นทางท่องเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน วันที่ 1– RAVI RIVA Café– เมืองมัลลิกา ร.ศ.124– The For Rest Resort วันที่ 2– สถานีรถไฟน้ำตก– ถ้ำกระแซ– สะพานข้ามแม่น้ำแคว– ต้นจามจุรียักษ์– BRAME Tea & Taste RAVI RIVA Café.กองทัพต้องเดินด้วยท้อง แอดขอเริ่มต้นการเดินทางที่คาเฟ่ริมน้ำ “ราวี รีวา” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เป็นร้านกาแฟสไตล์สวนอังกฤษ วินเทจเบา ๆ มุมถ่ายรูปเยอะมาก ๆ สำหรับคนรักการถ่ายรูป บอกเลยว่าถูกใจแน่นอน ร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนเรือนกระจกและโซนริมน้ำ สำหรับโซนเรือนกระจกมีประมาณ 3 หลัง แต่ละหลังตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด รวมไปถึงของสะสมหลากหลายชิ้น มีทั้งเซรามิก แก้ว จาน ชามแนววินเทจตั้งโชว์อย่างสวยงาม สำหรับโซนริมน้ำจะติดกับแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งจะแยกออกมาจากตัวร้านและข้ามถนนมาอีกฝั่ง จะเป็นมุมถ่ายรูปที่ทางร้านได้จัดเตรียมไว้ให้แล้ว มีทั้งเก้าอี้ไม้ เปลตาข่าย ที่เราสามารถไปนั่งแช่เท้ากันได้อย่างชิล ๆ บอกเลยว่าชุดต้องจัดเต็มนะคะ สวยทุกมุมจริง ๆ เมนูอาหารมีความหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง อาหารจานเดียว ของกินเล่น เบเกอรีและเครื่องดื่มก็มีพร้อมเสิร์ฟทุกเมนู เลือกกันได้ตามชอบเลย.ที่ตั้ง 87/2 หมู่ 2 ท่าแค ซอย 3 ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.โทร. 09 0909 8950 เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 เมืองมัลลิกา เป็นเมืองจำลองย้อนยุคในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่ร.ศ.124 ที่ยกมาทั้งวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ อาคารบ้านเรือนต่าง ๆ อีกทั้งยังมีอาหารและขนมโบราณหากินยากให้เราได้ลิ้มลองกันอีกด้วย ซึ่งเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดสุดคือ การเลิกทาส ภายในเมืองมัลลิกามีจุดที่น่าสนใจให้เราได้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านการค้า สะพานหัน หอชมเมือง เรือนคหบดี เรือนเดี่ยว เรือนหมู่ เรือนแพ โรงครัว ลานมะลิ และห้องเล่าเรื่อง ในย่านค้าขายภายในเมืองจะใช้ “เงินรู” เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นเงินตราที่ใช้กันในสมัยโบราณทั้งสมัยสุโขทัยและอยุธยา ไฮไลต์ห้ามพลาดคือการแต่งชุดไทย ห่มสไบให้เข้ากับบรรยากาศ นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดไทยได้ที่จุดบริการเช่าชุดไทย หรือใครจะแต่งมาเองก็ได้เช่นกัน เราจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าที่เมืองมัลลิกาแต่งชุดไทยกันทุกร้าน แม้แต่ภาษาที่ใช้สื่อสารจะลงท้ายด้วยขอรับและเจ้าค่ะ เข้ากับบรรยากาศสุด ๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังให้บริการอาหารไทยโบราณแบบบุฟเฟต์ มีทั้งอาหารกลางวันและอาหารเย็นสำหรับช่วงเย็นจะมีการแสดงนาฏศิลป์ด้วยนะคะ หากใครซื้อบัตรอาหารเย็นพร้อมชมการแสดง ก็จะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้เลย**สำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน** ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 200 บาท เด็กและผู้สูงอายุ 100 บาทบัตรเข้าชม+ชุดไทย 350 บาทบัตรเข้าชม+อาหารกลางวัน(บุฟเฟต์) 450 บาทบัตรเข้าชม+อาหารกลางวัน(บุฟเฟต์)+ชุดไทย 600 บาท.168 หมู่ 5 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตร 17.00 น.)โทร. 034 540 884, 063 221 4564 The For Rest Resort.สำหรับเย็นวันนี้เราเดินทางมาที่ The For Rest Resort ตั้งอยู่ที่อำเภอไทรโยค ริมน้ำแคว หากใครเหนื่อยล้าจากการทำงาน อยากพักผ่อนชิล ๆ ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจท่ามกลางป่าเขาและสายน้ำ บรรยากาศดีสุด ๆ ยิ่งได้มากับแก๊งค์เพื่อนยิ่งสนุกเลยละ ที่นี่เป็นที่พักแบบแพริมน้ำแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ ห้องธรรมดา ห้อง Sweet Rooms และห้อง VIP Rooms ซึ่งทุกห้องจะมีระเบียงชมวิวส่วนตัว รวมถึงเปลตาข่ายที่เป็นจุดเด่นของแพริมน้ำแห่งนี้ด้วยราคาเริ่มต้น 1,200 – 1,500 บาท ราคานี้รวมอาหารเย็น อาหารเช้า(บุฟเฟต์) และล่องแพเรียบร้อย.นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายไม่ว่าเป็น สระว่ายน้ำ จุดจำหน่ายของใช้ส่วนตัวและขนมต่าง ๆ สำหรับไฮไลต์ห้ามพลาด คือกิจกรรมยอดฮิตอย่างล่องแพเปียก บอกเลยว่าใครไปแล้วต้องห้ามพลาด ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่ามาไม่ถึงนะ สำหรับการล่องแพนักท่องเที่ยวจะต้องสวมชูชีพเพื่อความปลอดภัยทุกครั้ง แพจะถูกลากไปตามแม่น้ำ ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที จนถึงจุดปล่อยให้นักท่องเที่ยวโดดน้ำกันได้อย่างสนุกสนาน ว่ายน้ำลอยคอกลับรีสอร์ทกันเอง สำหรับรอบล่องแพมีทั้งหมด 3 รอบรอบที่ 1 เวลา 15.30 น.รอบที่ 2 เวลา 16.30 น.รอบที่ 3 เวลา 17.30 น. บรรยากาศระหว่างทางบอกได้เลยว่าดีมาก มองทางไหนก็สดชื่นไปหมด แล้วสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่หากไปในช่วงฤดูฝนจะมีหมอกยามเช้าสวยงามไม่แพ้ฤดูหนาวเลยละ.99/15 หมู่ 8 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรีเปิดทุกวัน 08.00-22.00 น.โทร. 06 1545 7887, 09 5526 4478 สถานีรถไฟน้ำตก.แวะถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่ “สถานีรถไฟน้ำตก” เดิมชื่อ “สถานีท่าเสา” ซึ่งมาจากชื่อของหมู่บ้าน สร้างในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเปลี่ยนจากชื่อ สถานีท่าเสาเป็นสถานีน้ำตก เนื่องจากเป็นชื่อที่คล้องกับสถานีรถไฟท่าเสา ของจังหวัดอุตรดิตถ์ และเพื่อให้คล้องกับสถานที่ใกล้เคียงของสถานีรถไฟน้ำตก คือน้ำตกไทรโยคน้อย (น้ำตกเขาพัง)

เส้นทางท่องเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

ลัดเลาะริมทะเล ชลบุรี-ระยอง 2 วัน 1 คืน

วันที่ 1– จุดชมวิวเขาสามมุข– ร้าน Red Temp Coffee– จุดชมวิวเขาพระตำหนัก– หาดนางรำ-หาดนางรอง วันที่ 2– พระเจดีย์กลางน้ำ– จุดชมวิวเขาแหลมหญ้า– ตลาดบ้านเพ วันที่ 1จุดชมวิวเขาสามมุข จุดชมวิวเขาสามมุขมีลักษณะเป็นทางเดินริมถนนเลียบทะเล เริ่มตั้งแต่บริเวณโรงแรมสามมุขรีสอร์ท ยาวไปจนถึงศาลเจ้าแม่สามมุขจีน ประกอบด้วยจุดชมวิว จุดถ่ายรูป ที่นั่งพักผ่อน และพื้นที่ออกกำลังกาย เป็นต้น ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของบางแสน แต่จริง ๆ แล้วจุดชมวิวเขาสามมุขมีมานานแล้วค่ะ เพียงแต่ปรับโฉมใหม่ให้กว้างขวางและเก๋ไก๋ขึ้น มีการทำทางเดินเป็นอุโมงค์ตัวอักษรที่เขียนว่า “Bangsaen Kaosammuk” บอกเลยว่าดูสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ.ที่ตั้ง ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ร้าน Red Temp Coffee.ใครชมวิวเสร็จแล้ว สามารถมานั่งจิบกาแฟและกินขนมได้ที่ร้าน Red Temp Coffee(เรด เทมป์ คอฟฟี่) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดชมวิวเขาสามมุข.ร้านคาเฟ่แห่งนี้ตกแต่งสไตล์มินิมอล แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนห้องแอร์และโซนที่นั่งด้านนอกซึ่งมองเห็นวิวทะเลและพระอาทิตย์ตกได้ นอกจากวิวสวย ๆ แล้ว บนดาดฟ้าของร้านยังมีประภาคารสีขาวอันโดดเด่นที่ต้องห้ามพลาดไปถ่ายรูปเลยละค่ะ ทางร้านให้บริการขนมและเครื่องดื่มหลายประเภท โดยเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์คือ กาแฟ เพราะใช้กาแฟคั่วแบบ Red Temp Blends ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของร้าน มีรสชาตินุ่มละมุนลิ้น ใครเป็นคอกาแฟต้องลองมาชิมให้ได้นะคะ.ใกล้จุดชมวิวเขาสามมุข ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. จุดชมวิวเขาพระตำหนัก.จุดชมวิวเขาพระตำหนักเป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเขาพระตำหนักสามารถมองเห็นอ่าวเมืองพัทยาและวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้ นอกจากนี้ ด้านบนเขายังเป็นที่ตั้งของวัดเขาพระบาท และอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อน ๆ อย่าลืมกราบสักการะท่านเพื่อความเป็นสิริมงคลกันนะคะ หาดนางรำและหาดนางรอง.ชายหาดทั้งสองแห่งตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือจุกเสม็ด เป็นหาดยาวประมาณ 200 เมตร สามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณชายหาดมีต้นสนขึ้นอยู่โดยรอบ ทำให้บรรยากาศร่มรื่นน่าพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและที่พักของสโมสรทหารเรือให้บริการอีกด้วย หาดนางรองมีรูปปั้นผีเสื้อสมุทร พระอภัยมณี ม้านิลมังกร และฤๅษีตั้งอยู่ ซึ่งบริเวณนั้นยังเป็นจุดชมวิวอีกด้วย เพื่อน ๆ อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับพวกเขานะคะ .ที่ตั้ง ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.ค่ารถยนต์และรถตู้คันละ 30 บาท หาดนางรำ-หาดนางรอง วันที่ 2 เราไปเที่ยวจังหวัดระยองกันต่อเลยค่ะ ที่แรกที่เราจะแวะคือ พระเจดีย์กลางน้ำ พระเจดีย์กลางน้ำเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ชาวเรือหรือผู้โดยสารเรือที่เดินทางผ่านถึงบริเวณนี้ได้ทราบว่ามาถึงเมืองระยองแล้ว.ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีงานทอดกฐินและงานห่มผ้าพระเจดีย์กลางน้ำ.ที่ตั้ง ตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เขาแหลมหญ้า เขาแหลมหญ้า ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ที่นี่มีทั้งจุดชมวิว ลานกางเต็นท์ และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเลียบชายหาด เราไปชมบรรยากาศกันดีกว่าค่ะ ว่าจะสวยแค่ไหน ก่อนที่เราจะเข้าไปเที่ยวที่เขาแหลมหญ้าได้นั้น ต้องลงทะเบียนจองเที่ยวอุทยานฯ ล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ก่อนค่ะ เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ตอนไปถึงอุทยานฯ ให้แจ้งชื่อกับเจ้าหน้าที่และทำการตรวจวัดไข้ ที่สำคัญอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยด้วยนะคะ เมื่อเข้าไปด้านในอุทยานฯ เพื่อน ๆ ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถ จากนั้นนั่งรถสองแถวของทางอุทยานฯ ไปยังแหล่งท่องเที่ยว ที่นี่มีลิงหลายตัว อย่าเผลอถือขนมหรือวางของทิ้งไว้นะ เดี๋ยวจะโดนเจ้าลิงแย่งไปแบบไม่ทันตั้งตัว บริเวณเขาแหลมหญ้ามีจุดชมวิวซึ่งตรงสุดปลายทางเดินมีหอคอยสีขาวตั้งโดดเด่น จุดนี้เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม ที่ต้องต่อแถวรอถ่ายรูปกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ลักษณะเป็นสะพานไม้ทอดยาวลัดเลาะไปตามแนวภูเขา ถ้าเดินไปจนสุดทางจะพบกับทุ่งหญ้าสะวันนา.ระหว่างทางมีลานหิน ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องมาถ่ายรูป แอดบอกเลยว่า ได้รูปเก๋ ๆ ชิก ๆ กลับไปอย่างแน่นอน.ที่ตั้ง ตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองเปิดทุกวัน เวลา 08.30-18.00 น.ค่าเข้าชมอุทยานฯ– ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท– ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท– ค่ารถยนต์ คันละ 30 บาท ตลาดบ้านเพ ก่อนกลับบ้านต้องมีของกินและของฝากติดไม้ติดมือกลับไปซะหน่อย เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึงระยอง เราไปแวะซื้อของฝากกันที่ตลาดบ้านเพ.ตลาดบ้านเพมีสินค้าให้เลือกหลายประเภท ทั้งอาหารสด อาหารตากแห้ง ผลไม้ ขนม เสื้อผ้า และของใช้ แต่สินค้ายอดฮิตที่ห้ามพลาดคือ ทุเรียนทอด ขนุนทอด ปลาหมึกตากแห้งปรุงรส.แหม พูดแล้วก็หิว ขอตัวไปหยิบทุเรียนทอดมากินสักหน่อยละกันนะคะ.ที่ตั้ง ตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 23 กรกฎาคม 2563

ลัดเลาะริมทะเล ชลบุรี-ระยอง 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

ทุ่งหยีเพ็ง ชุมชนสายน้ำสามเวลา

เกร็ดความรู้ :.บ้านทุ่งหยีเพ็ง ตั้งอยู่ริมทะเลทางฝั่งตะวันออกของเกาะลันตา ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม อาชีพหลักคือ การทำประมงและการทำสวนยางพาราค่ะ บ้านทุ่งหยีเพ็ง เป็นชุมชนที่มีความโดดเด่นในเรื่องของป่าชายเลนและสายน้ำ ดังนั้นหากอยากสัมผัสกับความสวยงามเหล่านี้อย่างใกล้ชิด แอดแนะนำให้เที่ยวโดยการนั่งเรือหางยาว พายเรือคายัค หรือนั่งเรือแจวค่ะ .ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเดินทางมาลงเรือได้ที่บ้านทุ่งหยีเพ็ง ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ และในวันนี้แอดก็เลือกเที่ยวโดยการนั่งเรือแจว เพราะอยากจะดื่มด่ำกับความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ไปอย่างช้าๆ และเงียบสงบค่ะ นอกจากจะได้ล่องเรือสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบแล้ว เรายังจะได้รับประทานอาหารบนเรือด้วย แม้ว่าหน้าตาอาหารอาจจะดูธรรมดา แต่ถ้าได้ชิมพร้อมกับชมวิวที่อยู่ตรงหน้า บอกเลยว่าระดับภัตตาคารยังต้องยอม เรือแจว 1 ลำ สามารถนั่งได้ 4-7 คน (รวมคนแจว) เป็นเรือแบบมีหลังคาตรงกลางลำ และมีโต๊ะตัวเล็กๆ ตั้งไว้เพื่อใช้เป็นที่รับประทานอาหารนั่นเองค่ะ.นอกจากนี้ยังมีม่านสำหรับกันลมกันฝนอีกด้วย ดูแล้วแอบคล้ายกับเจ้าขุนมูลนายในสมัยก่อนอยู่เหมือนกันนะเนี่ย  ทำไมชุมชนแห่งนี้จึงเป็นชุมชนสายน้ำสามเวลา? นั่นก็เพราะเราสามารถมาล่องเรือชมธรรมชาติที่สวยงามได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลย แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาด้วยกัน.ช่วงแรกคือ “เวลาเช้าตรู่” เป็นทริปสำหรับตอนเช้า ซึ่งต้องบอกเลยว่าสำหรับแอดช่วงนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะเราจะได้เห็นแสงแรกของวัน และได้เห็นการเริ่มต้นในเช้าวันใหม่ของสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัวเราอีกด้วย ช่วงที่สองคือ “เวลากลางวัน” เพื่อนๆ จะได้เห็นความสวยงามของป่าชายเลนที่เปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามตามแสงอาทิตย์ นับเป็นความงามอีกอย่างหนึ่งของธรรมชาติที่ห้ามพลาด นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นเจ้าปูตัวน้อย เจ้าปลาตีน และบรรดาลิงที่ห้อยโหนไปมาอยู่บนต้นโกงกางอีกด้วย แต่ต้องระวังให้ดีเพราะเจ้าลิงเหล่านี้เค้าไม่กลัวน้ำเด้อ บางตัวถึงขั้นกระโดดลงมาบนเรือให้เราสัมผัสอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว.ปล.หากล่องเรือในทริปเช้าก็มีโอกาสเห็นได้เหมือนกัน แต่ช่วงกลางวันจะเยอะกว่า ช่วงเวลาที่สามคือ “เวลาพลบค่ำ” เป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบความโรแมนติก เพราะนี่คือทริปล่องเรือชมจันทร์ ซึ่งจะมีเพียง 4 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น .นั่นคือในวันขึ้น14 ค่ำ ขึ้น 15 ค่ำ ขึ้น 1 ค่ำ และขึ้น 2 ค่ำ ของทุกเดือน บอกเลยว่าฟินสุดๆ ค่าทำกิจกรรม– ทริปเช้า (+อาหารเช้า) คนละ 900 บาท– ทริปกลางวัน (+อาหารกลางวัน) คนละ 900 บาท– ทริปชมจันทร์ (+อาหารเย็น) คนละ 900 บาท.ปล.แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันก่อนเดินทางนะคะ โทร. 089 590 9173 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 30 กันยายน 2562

ทุ่งหยีเพ็ง ชุมชนสายน้ำสามเวลา อ่านเพิ่มเติม

Go 5 Adventures

Go 5 Adventures.ปีนผา อ่าวไร่เลย์ จังหวัดกระบี่.สำหรับกิจกรรมปีนผาเป็นอะไรที่ท้าทาย โดนใจวัยรุ่น และเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งนอกจากจะได้ท้าทายความสูงแล้ว ยังได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกายเลยนะ แถมยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ อีกด้วย ซึ่งที่อ่าวไร่เลย์นี้ก็นับว่ามีแนวหินปูนสวยงามที่เหมาะแก่การปีนผาเป็นอย่างยิ่ง มีนักท่องเที่ยวมาท้าทายความสูงที่นี่กันอย่างมากมายเลยล่ะ ล่องแก่งลำน้ำว้า จังหวัดน่าน อีกหนึ่งกิจกรรมสุดพีค ที่ไม่มีไม่ได้เลยค่ะ ล่องแก่งลำน้ำว้าเป็นสถานที่ล่องแก่งที่ตื่นเต้นและสนุกที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ลำน้ำว้าแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ลำน้ำว้าตอนบน ตอนกลางและตอนล่าง สามารถล่องได้ตลอดทั้งปี ซึ่งลำน้ำว้าแต่ละช่วงจะมีฤดูการล่องแก่งที่แตกต่างกัน มีระดับความยากตั้งแต่ระดับ 3 – 5 หากใครยังไม่เคยมาลอง ครั้งหน้าอย่าพลาดนะ รับประกันความมันแน่นอน ขับรถ ATV จังหวัดนครนายก.สายลุย สายผจญภัย ต้องห้ามพลาดกิจกรรมนี้! กับการขับรถ ATV บนพื้นที่โดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีครบทุกรสชาติ เพื่อนๆ จะได้ลุยโคลน ลงคลอง ผ่านหลุมขรุขระ ทั้งแนวราบและแนวสูงชัน สนุกสนานเต็มที่แน่นอน บอกไว้ก่อนเลยว่าตลอดเส้นทางมีทั้งความตื่นเต้นและความเสียวปะปนกันไป และเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดนะคะ ขี่ช้าง สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี.มาดูโหมดผจญภัยเบาๆ กันบ้างค่ะ การขี่ช้างเป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมอย่างหนึ่ง เพราะเราจะได้ใกล้ชิดกับช้างท่ามกลางธรรมชาติ ได้ข้ามลำห้วย บุกป่า ขึ้นเขาผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยง ซึ่งเราจะได้อยู่บนหลังช้างประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเลยล่ะ Tree Top Adventure Park กิจกรรมสุดท้ายกลางป่าใหญ่ เป็นกิจกรรมที่ให้เราได้ปืนป่ายไปบนสะพานแขวนแคบๆ ซึ่งจะพาเราลัดเลาะไปตามยอดไม้ โดยมีสายรัดตัวที่ใช้ล็อกกับลวดสลิงเพื่อความปลอดภัยให้สวมใส่ อาจจะดูหวาดเสียวแต่ไม่น่ากลัวเลย ถ้าเราปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่บอกค่ะ นอกจากเราจะได้ความตื่นเต้นแล้ว ยังได้ชมวิวจากมุมสูงอีกด้วยนะ หวาดเสียวคูณสองไปเลย สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายแล้ว เล่นได้ทั้งวันไม่มีเบื่อแน่นอน Tree Top Adventure Park มีให้บริการอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงราย กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) ตราด(เกาะช้าง) และกระบี่ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้เลย เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 28 กันยายน 2562

Go 5 Adventures อ่านเพิ่มเติม

ชุมชนบ้านน้ำราบ : ล่องแพ ปีนเขา กินปู ชมเล

ชุมชนบ้านน้ำราบตั้งอยู่ในอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง บริเวณนี้เคยประสบเหตุการณ์สึนามิ ทำให้ธรรมชาติถูกทำลายไปหลายส่วน แต่ชาวบ้านในชุมชนก็ช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติให้กลับมาสมบูรณ์ได้เหมือนเดิม.จุดเด่นของบ้านน้ำราบคือ การทำธนาคารปูม้า เนื่องจากอาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำประมงปูม้า เมื่อทำไปเรื่อยๆ ก็พบว่าปริมาณปูม้าลดลง จึงทำให้ชาวบ้านเริ่มเพาะพันธุ์ปูม้า โดยนำแม่ปูที่ไข่นอกกระดองมาเลี้ยง แม่ปู 1 ตัว มีไข่ประมาณสามแสนฟอง ถ้าตัวใหญ่จะมีไข่ถึงหนึ่งล้านฟอง!! เมื่อถึงระยะที่ไข่ใกล้ฟักตัวชาวบ้านก็จะนำไปปล่อยลงทะเล ให้ลูกปูเจริญเติบโตในธรรมชาติต่อไป.นอกจากนี้ชาวบ้านยังเพาะหญ้าทะเล เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของปูม้าและเป็นอาหารของพะยูน มีการอนุบาลม้าน้ำ และไข่ปลาหมึกอีกด้วย  การท่องเที่ยวชุมชนบ้านน้ำราบ สามารถเที่ยวได้ตลอดปี.กิจกรรมที่เราจะไปทำคือการล่องแพ โดยโปรแกรมล่องแพนั้นมีทั้งแบบครึ่งวันและเต็มวัน แอดเลือกโปรแกรมแบบครึ่งวัน ซึ่งมีจุดหลักๆ ที่จะแวะคือ เขาจมป่า และทะเลแหวก.เราล่องแพผ่านป่าชายเลนบ้านน้ำราบ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 3,200 ไร่ ระหว่างทางจะพบกับต้นโกงกางและต้นแสมที่ขึ้นอย่างหนาแน่น แสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแถบนี้ โปรแกรมล่องแพท่องเที่ยว จะรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นคนละ 1,350 บาท (ยิ่งไปด้วยกันหลายคน ราคาจะยิ่งถูก เพราะตัวหารเยอะขึ้น) ถ้าไปเที่ยวกันกลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 5 คน แนะนำให้ท่องเที่ยวด้วยเรือหัวโทงจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า.ใครอยากล่องแพสุดชิลแบบนี้ ติดต่อได้ที่บังยูร 080 824 9468พี่อู๊ด 087 277 8017.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ จุดแวะแรก เดินขึ้นจุดชมวิวเขาจมป่า ใช้เวลาเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวประมาณ 15-20 นาที ระยะทาง 400 เมตร เห็นระยะทางไม่ค่อยไกล แต่ก็เหนื่อยใช่เล่นเลยล่ะ เพราะมีหลายจุดที่ค่อนข้างชัน ต้องใช้ทักษะในการปีนป่ายเข้าช่วย ด้านบนสามารถชมวิวป่าชายเลนอันเขียวชอุ่ม เห็นคลองที่คดเคี้ยวไปมาแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังเห็นวิวทะเลและเกาะมุกที่อยู่ไกลๆ ได้อีกด้วย หลังจากลงมาจากจุดชมวิว ท้องก็ร้องทันที แต่ไม่ต้องห่วง บนแพมีอาหารเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ทั้งแกงส้มปลากระบอกรสจัดจ้าน ปลาทอดราดพริก วายคั่ว (หมึกต้มกะทิ) และมื้อนี้ทางชุมชนยังจัดปูม้านึ่งมาให้แบบไม่อั้นด้วย เติมได้เรื่อยๆ เลย จุดแวะที่สอง ทะเลแหวก หลังจากทานอาหารกันอิ่มแล้ว เราก็ล่องแพไปชมทะเลแหวกที่มีขนาดกว้างเท่าสนามฟุตบอล ซึ่งการจะชมทะเลแหวกได้นั้นต้องรอช่วงน้ำลง ราวๆ บ่ายโมงไปจนถึงช่วงเย็นๆ.ทะเลแหวกที่นี่เขากว้างใหญ่จริงๆ แถมน้ำทะเลก็ใสมากด้วย ถ้าใครไม่รีบ จะอยู่รอชมพระอาทิตย์ตกก็ได้ บอกเลยว่าบรรยากาศดีสุดๆ.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 27 กันยายน 2562

ชุมชนบ้านน้ำราบ : ล่องแพ ปีนเขา กินปู ชมเล อ่านเพิ่มเติม

เกาะเหลายา จ.ตราด

หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ บรรยากาศเงียบสงบ และผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน แอดขอแนะนำที่นี่เลยจ้า เกาะเหลายา.เกาะเหลายา ตั้งอยู่ที่ จ.ตราด นับได้ว่าเป็นอีกเกาะหนึ่งที่มีธรรมชาติสวยงามแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเล หาดทราย หรือแม้กระทั่งภูเขา .และเพราะความสวยที่ธรรมชาติให้มานี้ ที่นี่จึงได้สมญานามว่า “เพชรเม็ดงามแห่งทะเลตะวันออก” นั่นเอง.สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะมาเที่ยวที่นี่จะต้องซื้อแพ็กเกจทัวร์เท่านั้นนะคะ ซึ่งจะมี 2 แบบคือ.แพ็กเกจแบบ 2 วัน 1 คืน (รวมอาหาร 3 มื้อ)▪ ราคาสำหรับ 2 คน/ห้อง คนละ 4,000 บาท ▪ ราคาสำหรับ 3-4 คน/ห้อง คนละ 3,500 บาท แพ็กเกจแบบ 3 วัน 2 คืน (รวมอาหาร 6 มื้อ)▪ ราคาสำหรับ 2 คน/ห้อง คนละ 7,500 บาท ▪ ราคาสำหรับ 3-4 คน/ห้อง คนละ 6,000 บาท.***ปล.โดยปกติจะไม่มีการรับนักท่องเที่ยวแบบ Walk in จะรับตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป ซึ่งในกรณีที่เดินทางไม่ถึง 30 คน จะเป็นการจอยกรุ๊ปกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ค่ะ การเดินทาง .สำหรับเพื่อนๆ ที่ซื้อแพ็กเกจทัวร์แล้ว จะต้องเดินทางไปพร้อมกันที่ “ท่าเรือกรมหลวงชุมพร” เพื่อขึ้นเรือไปยังเกาะเหลายา ซึ่งในแต่ละวันจะมีเพียงรอบเดียวเท่านั้นคือ เวลา 09.00 น. โดยเราจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง.ส่วนเที่ยวกลับเรือจะออกจากเกาะเวลาประมาณ 10.00 น. มีรอบเดียวเหมือนกันค่ะ การมาเที่ยวที่เกาะเหลายา สำหรับแอดดูคล้ายกับการติดเกาะอยู่เหมือนกันนะคะ .เนื่องจากเราจะต้องค้างคืนเท่านั้น ไม่สามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้เหมือนเกาะอื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะเราจะได้ใช้เวลาในการดื่มด่ำกับธรรมชาติและพักผ่อนได้อย่างเต็มที่เลย  สำหรับเกาะเหลายานั้นประกอบไปด้วย 3 เกาะย่อยด้วยกัน คือ เกาะเหลายาใน เกาะเหลายากลาง และเกาะเหลายานอก.ซึ่งจากเกาะเหลายาในเพื่อนๆ สามารถเดินข้ามไปยังเกาะเหลายากลางได้ด้วยนะคะ โดยใช้สะพานไม้เป็นทางเชื่อม และต้องบอกเลยว่านี่ถือเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเกาะเหลายาเลยทีเดียวค่ะ  ซึ่งนอกจากการชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามบริเวณรอบๆ เกาะแล้ว เพื่อนๆ ยังสามารถไปดำน้ำเพื่อทักทายเจ้าปลาตัวน้อย และเหล่าปะการังที่สวยงามบริเวณเกาะหวายได้อีกด้วย.ปล.ค่าทำกิจกรรมรวมอยู่ในแพ็กเกจแล้วค่ะ ในส่วนของที่พักนั้น บนเกาะแห่งนี้มีเพียงแห่งเดียวก็คือ “Laoya Coco Island” ซึ่งการตกแต่งห้องพักของที่นี่นั้นจะเป็นแบบเรียบง่ายในสไตล์ร่วมสมัย อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน.ขอบคุณรูปสวยๆ จากเพจ Laoya Coco Island หากเพื่อนๆ ไม่ชอบนอนอาบแดด แต่อยากชมธรรมชาติสวยๆ น้ำทะเลใสๆ ในช่วงกลางวันก็สามารถนั่งชมจากตรงระเบียงที่พักได้ด้วยนะคะ.ขอบคุณรูปสวยๆ จากเพจ Laoya Coco Island และนี่ก็คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่แอดอยากจะชวนเพื่อนๆ ให้ลองออกมาสัมผัสกับความสวยงามกัน ซึ่งรับรองเลยว่านี่จะเป็นการติดเกาะ ที่ทุกคนจะต้องติดใจอย่างแน่นอน… เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 26 กันยายน 2562

เกาะเหลายา จ.ตราด อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน

นครราชสีมา หรือ เมืองโคราช เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย และยังถือเป็นประตูสู่ภาคอีสานอีกด้วย จุดแรกเรามาที่ “ทุ่งกังหันลมห้วยบง” ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอด่านขุนทดและอำเภอเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย เราจึงมองเห็นกังหันลมเรียงรายกันอย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถมาแวะชมภูมิทัศน์โดยรอบ และพักผ่อนชิลๆ ได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอากาศจะเย็นสบาย เดินทางสู่อำเภอเมือง แวะสักการะ “อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” หรือ “ย่าโม” เมื่อ พ.ศ.2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช คุณหญิงโมได้รวบรวมชาวบ้านเข้าสู้รบและต่อต้านกองทัพเจ้าอนุวงศ์ไม่ให้ยกมาตีกรุงเทพฯ ได้สำเร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็น “ท้าวสุรนารี” วันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน ของทุกปี จะมีการจัดงานวันฉลองชัยชนะของท้าวสุรนารี ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เราเดินไปต่อกันที่ร้าน “Yellow Pumpkin Cafe” ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ บนถนนจอมพล อาจจะดูลึกลับไปสักหน่อย แต่ไม่น่ากลัวนะคะ ฮ่าๆ ร้านนี้โดดเด่นในเรื่องของขนม ที่ใช้ฟักทองมาเป็นวัตถุดิบหลัก ภายในร้านตกแต่งด้วยของสะสมสไตล์วินเทจ เข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้และผนังอิฐสีขาวเท่ๆ ดูสบายๆ สไตล์เอิร์ธโทน เปิดวันจันทร์-พุธ และวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดวันพฤหัสบดี) เราเดินทางสู่อำเภอปากช่อง แวะถ่ายรูปกันที่ “Toscana Valley” ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมสไตล์อิตาลี ที่เรียกได้ว่าอลังการจริงๆ มีทั้งหอเอนปิซ่าจำลองขนาดเท่าของจริง และยังโอบล้อมไปด้วยภูเขา บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอกยังไงยังงั้น ถ้าใครมีโอกาสมาปากช่อง ต้องอย่าลืมแวะมาเซลฟี่นะ ขับรถต่อมาไม่ไกล เราก็จะพบกับ “Primo Piazza” อีกหนึ่งจุดต้องเช็คอิน ที่นี่เป็นสถานที่จำลองหมู่บ้านโบราณของอิตาลี มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของฝาก และยังมีมุมถ่ายรูปเพียบเลยล่ะ เหมือนอยู่เมืองนอกกันเลยทีเดียว มาที่นี่แอดแนะนำว่าชุดต้องแน่นนะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้เราทำด้วย ไม่ว่าจะเป็นให้อาหารแกะ ลา หรือจะเดินเล่นชิลๆ ก็ยังได้ เปิดทุกวันเวลา 09.00-18.00 น.ค่าเข้าชมชาวไทย : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ออกจาก Primo Piazza ก็มาแวะจิบกาแฟกันที่ “The Birder’s Lodge” ที่่อยู่ใกล้ๆ กัน ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดของเหล่าวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ แอดก็เลยต้องมาเช็คอินซะหน่อย มีมุมเก๋ๆ สำหรับเหล่าฮิปสเตอร์เยอะมาก ห้ามพลาดนะ เปิดทุกวันเวลา 08.30-18.00 น. ที่สุดท้ายก่อนกลับ เรามากันที่ “ไร่องุ่น PB Valley” สวรรค์ของคนรักไวน์ ภายในมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย ตามนี้เลย กิจกรรมไวน์ทัวร์ ราคาคนละ 350 บาท– นั่งรถรางชมไร่ รับฟังเรื่องการปลูกองุ่นและกระบวนการผลิตไวน์จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมชิมไวน์แบบสดๆกิจกรรมตัดองุ่น ราคาคนละ 400 บาท-นั่งรถรางชมไร่ พร้อมกิจกรรมตัดองุ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้องุ่นกลับบ้านไปเลยคนละ 1 กิโลกรัม นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหาร ที่พัก จักรยานให้เช่า และร้านขายของที่ระลึก ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากองุ่น ไม่ว่าจะเป็นไวน์ องุ่นสด น้ำผลไม้ และแยม เป็นต้น เปิดทุกวันเวลา 07.30-16.30 น.โทร. 081 733 8783, 085 481 1741 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 25 กันยายน 2562

เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top