สถานที่ท่องเที่ยว

น่าน….เต๊อะ

น่าน นครแห่งขุนเขา จุดหมายปลายทางที่ใครๆ ก็อยากเดินทางไปสักครั้ง….ทั้งสัมผัสอากาศหนาว ธรรมชาติที่สวยงาม วิถีชีวิตและความเงียบสงบ เรียบง่ายน่าอยู่ของจังหวัดนี้ ไปน่านทั้งทีเราเลยเก็บภาพและ 10 จุดเช็คอินมาฝากทุกคน …. อยากไปเที่ยวไหน แนะนำเลยว่า น่าน..เต๊อะ (เต๊อะ เป็นภาษาเหนือแปลว่า เถอะนะ) …. รับรองว่าครบ ฟิน แล้วจะตกหลุมรักนครแห่งขุนเขานี้ไปกับเราแน่นอน 10 จุดเช็คอินน่าน .1. หอศิลป์ริมน่าน2. วัดหนองบัว3. Cocoa Valley4. ดอยซิลเวอร์5. ดอยสกาด6. บ่อเกลือสินเธาว์7. ถนนหมายเลข 38. ถนนคนเดินน่าน9. วัดภูมินทร์10. วัดช้างค้ำ หอศิลป์ริมน่าน.แหล่งรวมงานศิลปะและวัฒนธรรมขนาดใหญ่ของจังหวัดน่าน บนพื้นที่กว่า 13 ไร่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน โดยมีการแสดงผลงานต่างๆ ในรูปแบบกึ่งนิทรรศการถาวรให้ได้ชมเกือบตลอดทั้งปี ในสภาพภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติ เพื่อให้คนที่มาเสพศิลปะนั้นได้ความรู้สึกสบายใจและพักผ่อนไปด้วย ภายในจัดแสดงงานศิลปะทั้งภาพวาด และงานศิลปะต่างๆ ที่จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไปตามวาระต่างๆ และด้านหลังบริเวณเฮือนศรีนวลเป็นรานกาแฟและจำหน่ายของที่ระลึก ที่สามารถนั่งพักผ่อนพร้อมชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำน่านท่ามกลางธรรมชาติได้อีกด้วย.เปิดทำการวันพฤหัสบดี-วันอังคาร ตั้งแต่เวลา 9:00-17:00 น. และปิดให้บริการทุกวันพุธเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชมคนละ 20 บาทโทร. 081 9892 912 , 054 798 046พิกัด https://goo.gl/maps/EcvxT3TJn3be8Bys8รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/holsil.rimnan วัดหนองบัว.ตั้งอยู่ในอำเภอท่าวังผา เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่ท่ามกลางหมู่บ้านชาวไทลื้อ ใครมาจังหวัดน่านแล้วไม่ได้มาวัดหนองบัวถือว่าพลาดมาก เพราะวัดนี้มีภาพเขียนสีสกุลช่างไทลื้อที่หาชมได้ยากมากๆ เพราะมีอยู่แค่ 2 แห่งเท่านั้นในจังหวัดน่านก็คือที่วัดภูมินทร์และวัดหนองบัวแห่งนี้ ภาพเขียนสีฝาผนังก็มีความงดงามมากเป็นภาพวาดที่สื่อถึงวิถีชีวิตของชาวไทลื้อ ส่วนด้านหลังของวัดก็ยังมีจุดแสดงวัฒนธรรมของชุมชน มีการทอผ้าซิ่นพร้อมทั้งจำหน่ายให้ได้เป็นของฝากกันอีกด้วย.เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/sFKg8TSyCV1kVpMm9รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/106watnongbua/ Cocoa Valley.แหล่งรวมกิจกรรม ที่พัก และค่าเฟ่น่ารักๆ พร้อมกับวิวธรรมชาติที่สวยงาม ผู้ที่ชื่นชอบช็อคโกแลตไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งการเก็บโกโก้จากสวน การชมกรรมวิธีในการผลิตช็อคโกแลต การทำช็อคโกแลตบาร์ด้วยตัวเอง การดื่มเครื่องดื่มและขนมสุดแสนอร่อยที่มาจากต้นโกโก้ที่ปลูกแบบวิถีเกษตรอินทรีย์ มาตรฐาน Earth safe จากมูลนิธิรักษ์ดิน รักษ์น้ำ มั่นใจได้เลยว่าเป็นโกโก้แท้ 100% และถ้าใครอยากซึมซับบรรยากาศกับธรรมชาติแบบชุ่มฉ่ำก็ต้องพักที่นี่เลยจ้า รับรองว่าต้องตกหลุมรักที่นี่อย่างแน่นอน.เปิดทุกวัน 10.00-18.00 น.โทร. 063 791 1619พิกัด https://goo.gl/maps/hKY1GB9EN58poNV26รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/cocoavalleyresort/ ดอยซิลเวอร์.ศูนย์หัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน และยังได้สืบสานศิลปหัตถกรรมเครื่องประดังเงินจากบรรพบุรุษ ด้วยประสบการณ์ด้านเครื่องประดับเงินมากกว่า 70 ปี เป็นแหล่งเรียนรู้การทำเครื่องเงินที่สร้างสรรค์ ที่ไม่ได้เป็นแค่สถานที่จำหน่ายเครื่องเงิน แต่ยังมีกิจกรรมการทำเครื่องประดับจากเงินให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกันอีกด้วย ทั้งสร้อย ต่างหู สามารถร่วมทำตามความชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเลยจ้า.เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.โทร. 054 791 650พิกัด https://goo.gl/maps/hHRpCaHxjndBTAK66รายละเอียดเพิ่มเติม : https://doisilver-factory.com/  ดอยสกาด.ตั้งอยู่ในอำเภอปัว หมู่บ้านเล็กๆ เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวไทยภูเขาเผ่าลัวะ ที่มีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีที่พักแบบโฮมสเตย์ สามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาดอยภูคาได้แบบพาโนรามา ใครที่อยากสัมผัสกับธรรมชาติแบบเป็นส่วนตัว เงียบสงบ ชมความสวยงามของวิวธรรมชาติ สัมผัสอากาศหนาวพร้อมกับการดริฟกาแฟ จิบชาอัสสัม (ของดีดอยสกาด) ถ่ายภาพสวยๆ จากวิวของที่พัก ต้องมาที่นี่เลย…ห้ามพลาด แถมเจ้าของบ้านก็น่ารักมากๆ เป็นกันเองและทำอาหารอร่อยมากอีกด้วยจ้า  บ่อเกลือสินเธาว์โบราณ.ตั้งอยู่ที่อำเภอบ่อเกลือ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 80 กิโลเมตร มีชื่อเสียงในการทำเกลือสินเธาว์ โดยเป็นการทำเกลือบนภูเขาที่ไม่มีที่ใดเหมือนหรือจะเรียกว่าเป็นที่เดียวในโลกก็ว่าได้ บ่อเกลือนี้มีมาตั้งแต่โบราณ แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 2 บ่อเท่านั้น คือบ่อเกลือเหนือและบ่อเกลือใต้ ที่นี่ยังคงมีการต้มเกลือแบบโบราณให้เราได้ชมกันอีกด้วย และยังมีผลิตภัณฑ์มากมายที่ทำจากเกลือให้เราได้ซื้อหากันเป็นของฝาก เช่น ดอกเกลือ เกลือพอกหน้า เกลือขัดผิว ยาสีฟันเกลือ ใครได้ไปเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมอุดหนุนผลิตภัณฑ์ดีๆ ของชุมชนนี้กันนะจ๊ะ.เปิดทุกวัน 06.30-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/Xx1v1KW1DrCcWjgD7  ถนนหมายเลข 3.ถนนที่มีความโค้งสวยงามเหมือนเลข 3 อยู่บนทางหลวงหมายเลข 1081 สายสันติสุข-บ่อเกลือ ช่วงกิโลเมตรที่ 38-39 เป็นเส้นถนนที่มีความสวยงาม ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ตามแนวธรรมชาติที่เห็นแล้วต้องร้องว้าว…… ถือว่าถนนสายนี้สวยมากจริงๆ เหมาะกับการถ่ายภาพ เช็คอินลงโชเชียลมากๆเลย ใครที่เดินทางไปเที่ยวที่อำเภอบ่อเกลือขากลับก็อย่าลืมแวะตรงนี้เพื่อถ่ายภาพสวยๆกันก่อนนะจ๊ะ.พิกัด https://goo.gl/maps/VgcAgJ8ucXE8jm2Q6  ถนนคนเดินเมืองน่าน หรือที่เรียกกันว่ากาดข่วงเมืองน่าน.แหล่งช็อปปิ้งที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ถ้าได้มาเที่ยวจังหวัดน่านแล้วไม่ได้มาเดินถนนคนเดินเมืองน่านถือว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ เพราะที่นี่ถือเป็นศูนย์รวมของอร่อย สินค้าพื้นเมือง ของแฮนด์เมดมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกัน และบริเวณด้านข้างของวัดภูมิทร์ก็มีลานกว้างให้เราได้นั่งกินอาหารกันพร้อมกับชมบรรยากาศเมืองน่าน ฟังเพลงพื้นเมืองเพราะๆ และสัมผัสอากาศดีๆ ของเมืองนี้กันด้วย รับรองว่าถ้าได้ไปเดินเที่ยวกันแล้วจะต้องทั้งอิ่มท้อง และได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านกันแน่นอน.เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลาประมาณ 17.00-22.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/qWM9SUVYbBRAUYjB9  วัดภูมินทร์.วัดนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่าน และเป็นไฮไลท์สำหรับการมาท่องเที่ยวจังหวันน่านเลยทีเดียว เพราะด้วยความสวยงามและความเป็นมาที่น่าสนใจมากๆ รวมถึงจิตกรรมฝาผนังหรือที่เรียกกันว่าฮูบแต้มที่อยู่ภายในพระอุโบสถสวยงามมากจริงๆ เป็นเหมือนการบรรยายวิถีชีวิตและตำนานพื้นบ้านของคนเมืองน่านในอดีตด้วยการวาดภาพ ส่วนภาพที่ทุกคนมาแล้วต้องดูให้ได้ก็คือภาพปู่ม่าน ย่าม่าน ตำนานแห่งคำว่าน่านกระซิบรัก และนอกจากจะไปสักการะพระพุทธรูป ชมจิตรกรรมฝาผนังอันเลื่องชื่อกันแล้วก็อย่าลืมซื้อของที่ระลึกกันนะจ๊ะ มีทั้งภาพวาดเหมือนจิตรกรรมฝาผนังของวัด ภาพปู่ม่าน-ย่าม่าน ให้เลือกกันมากมายเลยจ้า แล้วก็อย่าลืมไปลอดช่องประตูใต้ท้องพญานาคกันนะจ๊ะเพราะเชื่อกันว่าถ้าเป็นคนต่างถิ่นได้ลอดช่องประตูนี้แล้วจะได้กลับมาเยือนเมืองน่านอีกครั้ง.เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/Pcayk24NCuM3rwcj8  วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร.เดิมเรียกวัดหลวง หรือวัดหลวงกลางเวียง ตั้งอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน เป็นที่ประดิษสถานพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน ด้านในวัดมีเจดีย์ทรงลังกา (ทรงระฆังคว่ำ) ซึ่งเป็นศิลปสมัยสุโขทัย โดยรอบเจดีย์มีรูปปั้นช้างปูนปั้นเพียงครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ ปางลีลา วัดนี้ถือเป็นวัดที่มีความสวยงามมากอีกที่หนึ่งของจังหวัดน่านที่น่าแวะไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล หากใครมีเวลาเราแนะนำให้ถวายสังฆทานที่นี่เลยเพราะนอกจากหลวงพ่อจะให้ศีลให้พรเป็นภาษาเมืองเหนือแล้วหลวงพ่อก็จะเล่าประวัติความเป็นมาของวัดนี้ให้ฟังด้วย ถือว่าอิ่มบุญและได้ความรู้กลับมาด้วยจ้า.เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/rY3dRxpRWyVGrMoc8 

น่าน….เต๊อะ อ่านเพิ่มเติม

Hua Hin Surf

“หัวหิน เป็นถิ่นมีหอย​“ แต่ตอนนี้นอกจากจะมีหอยที่ทะเลแล้ว ก็ยังมีชาว Surfer อยู่เต็มทะเลหาดเขาตะเกียบฝั่งซอยอ่าวหัวดอนเต็มไปหมดเลยจ้า กีฬาทางน้ำยอดนิยมสุดฮิตที่ตอนนี้หลาย ๆ คนน่าจะรู้จัก และอยากลองพิชิตกัน ก็คือ Surf นั่นเอง โดยปกติคนส่วนใหญ่จะรู้จักว่าประเทศไทยสามารถเซิร์ฟได้ที่ฝั่งอันดามันเท่านั้น นั่นเกิดจากที่ช่วง พ.ค.-ต.ค. อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ก่อเกิดมวลคลื่นจากมหาสมุทรอินเดียพัดเข้าสู่ฝั่งตะวันตกของไทย จึงทำให้จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ได้รับคลื่นเพราะอยู่ติดกับทะเลฝั่งอันดามัน และยังส่งผลให้จังหวัดที่อยู่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้รับคลื่นลม นั่นก็คือ จังหวัดระยอง จันทบุรี ซึ่งก็มีโรงเรียนสอนเซิร์ฟด้วย แต่ในช่วงเดือน พ.ย.- ก.พ. ลมมรสุมได้เปลี่ยนทิศ เป็นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากฝั่งทะเลจีนใต้พัดเข้ามา จึงทำให้เกิดคลื่นเข้ามายังอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นั่นก็คือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สงขลา (ก็น่าจะมีอีกหลายจังหวัดที่ได้รับคลื่นถ้าดูตามแผนที่แล้วนะ แต่ที่สามารถเล่นเซิร์ฟได้ชัวร์และมีคนเคยลองเล่นจริง ๆ ก็จังหวัดตามนี้เลย) หัวหินหนึ่งในพื้นที่สุดฮ็อตของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จึงเป็นจุดหมายของเหล่านักเซิร์ฟเข้ามาโต้คลื่นกันมากเพราะอยู่ใกล้ กทม. เดินทางสะดวก ที่พักพร้อม อาหารการกินเพียบ แต่การมาเซิร์ฟที่นี่ต้องคอยเช็คคลื่นให้ดี เดี๋ยวนี้มีตัวช่วยเพิ่มคือการดูพยากรณ์คลื่นผ่านแอพต่าง ๆ แต่เอาให้ชัวร์ก็ลองถามกับทางพื้นที่กันก่อน เพราะคลื่นที่หัวหินไม่ได้มีมาอย่างต่อเนื่อง เวลาคลื่นมาหัวหินก็จะได้รับปลาย ๆ เพราะมีประเทศเวียดนามกับกัมพูชากั้นเอาไว้ก่อนจึงทำให้ไม่ได้รับคลื่นเต็ม ๆ ต้องอาศัยช่วงที่มีลมมรสุมหรือพายุกำลังแรงจริง ๆ พัดเข้ามาจากทางทะเลจีนใต้ ที่จะทำให้หัวหินได้รับคลื่น และอาจจะเป็นจุดสปอตที่ดีเลยในช่วงพายุ เพราะตรงทะเลหาดเขาตะเกียบฝั่งซอยอ่าวหัวดอน มีเขาตะเกียบคอยกั้นลมไว้ให้ จึงทำให้เห็น swell สวย ๆ และคลื่นก็มีลักษณะนุ่มนวล ไม่ครอบง่าย อยากเจอของดีก็ต้องรอกันหน่อย อีกอย่างด้วยจำนวนคนที่ไปเล่นเยอะมากขึ้น อยากให้ระวังกันและกัน ก่อนจับคลื่นมองซ้าย มองขวา ไม่มีใครกำลังมา แล้วเราก็ไม่ได้ Drop in (ไปแย่งคลื่น) เขานะ จะได้ไม่ชนกัน และคอยดูแลบอร์ดตัวเองให้ดีดี อย่าให้หลุดจากตัวบ่อยเพราะมันอาจจะไปชนเอาคนข้าง ๆ หรือคนที่กำลังเล่นกันได้ ถือเป็นสิ่งแรก ๆ ที่น่าจะต้องคำนึงถึงเวลาไป surf ในที่คนเยอะ ๆ จ้า ถ้าใครอยากจะลองเรียน ลองโต้คลื่นที่หัวหิน ที่นี่ก็มีโรงเรียนเปิดให้เช่าบอร์ดและสอนเซิร์ฟเบื้องต้น สามารถติดตาม และสอบถามได้ที่ Weekend Surf Club Logger’s Paradise Hua Hin Surf Club ถ้าจะให้ดีควรสอบถามก่อนและจองเช่าบอร์ดล่วงหน้านะ ถามกันรายสัปดาห์ไปเลย ถ้า walk-in เข้าไปบอร์ดอาจจะมีไม่เพียงพอ

Hua Hin Surf อ่านเพิ่มเติม

กางเต็นท์ใต้ร่มเงาป่าสนเขา ตื่นเช้าท่ามกลางไอหมอกคละคลุ้งเหนือผิวน้ำ ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี

ป่าสนวัดจันทร์ หรือโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติ ในช่วงฤดูหนาวป่าสนวัดจันทร์จะเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศหนาวท่ามกลางทิวทัศน์ของป่าสน ซึ่งที่นี่ มีทั้งสนสองใบและสนสามใบ สลับกันไป ไฮไลต์ซึ่งเป็นที่กล่าวขานมากที่สุดของป่าสนวัดจันทร์คือ การได้สัมผัสกับลมหนาวที่พัดผ่านใบหน้าในช่วงเช้าท่ามกลางไอหมอกลอยละล่องเหนืออ่างเก็บน้ำ โอบล้อมด้วยผืนป่าเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นด้วยทิวสนเขาแผ่กิ่งก้านสาขากระจัดกระจายอยู่รายรอบ ในช่วงสายเมื่อไอหมอกจางหายไปก็จะได้ชมความงามของทิวทัศน์ยามแสงแดดส่องกระทบทิวสนเขา สะท้อนเงาสู่ผืนน้ำใสเบื้องล่าง มองไปคล้ายกับกระจกเงา (ช่วงเวลาที่แนะนำคือ 6.00-8.00 น) ป่าสนบ้านวัดจันทร์ มีกิจกรรมหลากหลายให้ได้เพลิดเพลินท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติ เช่น ตั้งแคมป์พักแรมกลางผืนหญ้า ริมสายน้ำ ใต้ร่มเงาสนเขา ปั่นจักรยานชมธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ นอนดูดาวเฝ้ารอดาวตก ลัดเลาะไปในผืนป่าในเส้นทางศึกษาธรรมชาติสั้น ๆ หรือจะพาย SUP Board ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดฮิตในช่วงนี้ และในช่วงต้นปีประมาณเดือนมกราคม-เดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่ป่าสนวัดจันทร์มีความสวยงามมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับความงามของไอหมอกคละคลุ้งเหนืออ่างเก็บน้ำแล้วนั้น ยังเป็นช่วงที่บรรดาดอกไม้นานาพรรณต่างแข่งขันกันออกดอกบานสะพรั่ง แต่งแต้มผืนดินทั่วทั้งบริเวณด้วยสีสันสดใส ทั้งสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่ง และสีเหลือง ส้ม แดง เขียว ของใบเมเปิล สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน การเดินทางไปป่าสนวัดจันทร์ มีให้เลือกอยู่สองเส้นทาง1-เส้นทางสะเมิง (ใต้) ขับจากแยกสะเมิงตามถนนหมายเลข 1269 จนถึงที่ว่าการอำเภอสะเมิง แล้วเลี้ยวไปตามถนนหมายเลข 1349 อีกประมาณ 96 กิโลเมตร2-เส้นทางปาย (จ.แม่ฮ่องสอน) จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าไปอำเภอแม่แตง เลี้ยวซ้ายแยกเลี่ยงเมืองแม่มาลัย-ปาย เข้าสู่ถนนหมายเลข 1095 เมื่อถึงจุดตรวจ อส อ.ปาย เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 1265 ประมาณ 40 กิโลเมตร.ป่าสนวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ 58130 FB : https://www.facebook.com/PasonWatchan/

กางเต็นท์ใต้ร่มเงาป่าสนเขา ตื่นเช้าท่ามกลางไอหมอกคละคลุ้งเหนือผิวน้ำ ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี อ่านเพิ่มเติม

ชิล | ชิม | ริม | คลอง กับคลองที่ดังที่สุดในตอนนี้ “คลองโอ่งอ่าง”

ที่มาที่ไปของคลองโอ่งอ่างนี้ ก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล เดิมคือพื้นที่ที่เราเรียกว่าย่านสะพานเหล็ก แหล่งขายเครื่องเล่นเกมส์และแผ่นเกมส์ต่างๆ สุดฮิตแห่งยุค 90 นั่นเอง ต่อมากรุงเทพมหานครได้ปรับปรุงภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่าง โดยย้ายร้านค้าเดิมที่ตั้งปิดคลองทั้งหมดออกไปและฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้เป็นระเบียบสวยงาม กลายมาเป็นสถานที่เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจให้กับชุมชนและนักท่องเที่ยว โดยมีผลงานสตรีทอาร์ตเท่ ๆ เก๋ ๆ ตลอดแนวคลองให้ได้มาถ่ายภาพสวย ๆ ไปอวดเพื่อน ๆ และถ้าใครอยากได้บรรยากาศความคึกคักต้องมาในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เพราะจะมีการจัดกิจกรรม “ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง” ที่เราจะพบทั้งของกินหลากหลาย สินค้าน่ารักๆ ดนตรีเปิดหมวก ผู้คนถ่ายรูปกับผลงานสตรีทอาร์ต เรียงรายตลอดแนวริมคลอง และกิจกรรมล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้มีคือ พายเรือคายัค หรือจะพายซับบอร์ดเท่ ๆ ในคลองโอ่งอ่างก็ได้ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นี้ ไม่ได้ไปไหน มาเดินชิล ชิม ริมคลองโอ่งอ่างกัน ช้าเดี๋ยวตกเทรนด์นะ .ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่างเปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เวลาสี่โมงเย็น – สี่ทุ่ม การเดินทาง : รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด | ทางออก 1

ชิล | ชิม | ริม | คลอง กับคลองที่ดังที่สุดในตอนนี้ “คลองโอ่งอ่าง” อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวแม่ฮ่องสอน มูฟออนเป็นวงกลม

เมื่อเริ่มเข้าสู่หน้าหนาว หลายคนก็คงวางแผนที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อไปผ่อนคลายและสัมผัสกับความหนาวเย็นท่ามกลางธรรมชาติและสายลม ซึ่งแน่นอนว่า “ภาคเหนือ” คงเป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน . จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเยอะมากกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) และเป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือที่ผู้คนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เนื่องด้วยบรรยากาศของธรรมชาติที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย มีทิวทัศน์ที่สวยงาม อยู่ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำ และถูกปกคลุมด้วยหมอกตลอดทั้งปี จึงได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหมอก 3 ฤดู หรือเมืองสามหมอก” นั่นเอง… . และครั้งนี้ แอดจะพาทุกคนไปมูฟออน (เป็นวงกลม) กับ 10 สถานที่น่าสนใจในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าแล้วตามแอดไปกันเลยค่ะ เที่ยวแม่ฮ่องสอน จะมูฟออนเป็นวงกลมอย่างไร ปกติแล้วเวลาเราไปแม่ฮ่องสอน เรามักจะเริ่มต้นเดินทางจากเชียงใหม่ ถ้าตามแผนที่นี้เราเดินทางเรียงลำดับจาก 1-10 เราจะวนกลับมาจบที่เชียงใหม่ได้โดยไม่ต้องย้อนกลับไปทางเดิมเลยนะจ๊ะ สถานที่แรกที่เราจะแนะนำนั่นก็คือ บ้านห้วยห้อม.เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้ มีหุบเขาล้อมรอบ อยู่ในเขตความรับผิดชอบของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย.จุดเด่นของที่นี่ก็คือกาแฟห้วยห้อม ซึ่งเป็นกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่มีรสชาติความเข้มข้น เป็นเอกลักษณ์ของห้วยห้อมโดยเฉพาะ และยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้าโอท็อประดับ 5 ดาวอีกด้วย.นอกเหนือจากกาแฟห้วยห้อมแล้ว ที่หมู่บ้านยังมีการผลิตผ้าทอขนแกะ ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อประดับห้าดาวเช่นเดียวกันกับกาแฟห้วยห้อม โดยผ้าทอขนแกะของที่นี่ถูกจำหน่ายและส่งออกไปทั่วประเทศและทั่วโลก โดยที่นี่จะใช้วิธีการทอผ้าด้วยเครื่องทอแบบโบราณ และมีลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ที่ถูกถ่ายทอดและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ได้แก่ ลายเมล็ดฟักทอง ลายดอกพริก ลายแมงมุม เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ที่ได้ก็มีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ เสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวแม่ฮ่องสอน ฯลฯ.นอกจากนี้ บ้านห้วยห้อมยังมีโฮมสเตย์ไว้ให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเข้ามาสัมผัสวิถีชิวิตของชาวเขาเผ่าปกาเกอะญออีกด้วย.บ้านห้วยห้อม ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอนโทร. 089-5553900 (ป้ามะลิวัลย์) ในช่วงนี้ แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดที่พลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ…ทุ่งดอกบัวตอง ณ ดอยแม่อูคอ.เป็นสถานที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว เนื่องจากดอกบัวตองจะบานสะพรั่งปกคลุมเต็มเทือกเขาในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ซึ่งทุ่งดอกบัวตองของที่นี่นับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย โดย 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และในช่วงที่แอดไปมานี้ก็นับว่าโชคดีมาก เพราะเป็นช่วงที่ดอกบัวตองบานเต็ม 100% เลยด้วย ว้าวมั้ยล่ะ!! ><.ใครที่อยากไปสัมผัสความสวยงามของดอกบัวตองของที่นี่ต้องรีบเลยน้า เพราะถ้าพลาดแล้ว ต้องรอไปถึงปีหน้าเลยนะจ๊ะ.โดยที่นี่สามารถเดินทางมาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือถ้าใครอยากจะกางเต็นท์นอนบนยอดดอยแล้วรอชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าก็ฟินไปอีกแบบจ้า ^^.ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนช่วงเวลาท่องเที่ยว : ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปีโทร. 053-612982 หากมาเที่ยวที่ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอแล้ว ขับรถต่อมาอีกประมาณ 10 นาที ก็จะเจอกับร้าน Pasoho Café กาแฟเด็กน้อยทำอร่อย.เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับบรรยากาศท้องทุ่งนา นั่งห้อยขาแบบชิล ๆ โดย “โพส่าโฮ” (Posaho) เป็นภาษาปกาเกอะญอ มีความหมายว่า “เด็กน้อย” ซึ่งเป็นชื่อของร้านกาแฟ.โดยร้านกาแฟแห่งนี้นั้น เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างคุณครูและนักเรียนจากโรงเรียนบ้านหัวแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อบริการกาแฟให้นักท่องเที่ยวหรือคอกาแฟได้ลิ้มรสนั่นเอง ภายในร้านเราจะเห็นเด็ก ๆ มาทำหน้าที่ต่าง ๆ อย่างคล่องแคล่ว เริ่มตั้งแต่การแนะนำเมนู เป็นบาริสต้าทำกาแฟ และเสิร์ฟเครื่องดื่มให้แก่ลูกค้า.ส่วนเรื่องรสชาติ เห็นเด็ก ๆ ชงแบบนี้ก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะว่าเด็ก ๆ และคุณครูได้ผ่านการอบรมการชงกาแฟมาเป็นอย่างดีจนได้ใบประกาศมาติดร้านด้วย รับรองว่าอร่อยและได้มาตรฐานแน่นอนค่ะ.ความพิเศษของร้านกาแฟแห่งนี้นั่นก็คือ ร้านจะเปิดเพียงแค่ 1 เดือน เฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวชมทุ่งดอกบัวตองเท่านั้นจ้า เพราะฉะนั้นใครที่มาชมทุ่งดอกบัวตองแล้ว ต้องห้ามพลาดเลยนะ.Posaho Café’ กาแฟเด็กน้อยทำอร่อย ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนเวลาเปิด-ปิด : 09.00-17.00 น. เปิดเพียงแค่ 1 เดือน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปีโทร. 052-049213 “โครงการพระราชดำริปางตอง 2” หรือที่ใคร ๆ มักจะรู้จักกันในชื่อว่า “ปางอุ๋ง” นั้น.เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร.โดยปางอุ๋งถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเป็นสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ล้อมรอบไปด้วยป่าสนและดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด และในช่วงเช้า ก็จะมองเห็นภาพแสงอาทิตย์ที่สาดสะท้อนผืนน้ำ ผสานกับไอหมอกจาง ๆ ที่ลอยเรี่ยผืนน้ำ และบรรยากาศที่เย็นสบาย บอกได้คำเดียวว่าฟินแบบสุด ๆ ไปเลยค่ะและด้วยความสวยงามของปางอุ๋งนี้เอง จึงถูกขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” นั่นเอง.ซึ่งนอกจากความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่ปางอุ๋งเองยังมีกิจกรรมยอดฮิตที่ให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัส นั่นก็คือ การล่องแพชมทัศนียภาพบริเวณโดยรอบปางอุ๋ง ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำสุดประทับใจ .นอกจากนี้แล้ว ปางอุ๋งยังมีที่พักและมีจุดกางเต้นท์ไว้คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาค้างแรม เพื่อดูดาวเต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืนและสัมผัสกับไอหมอกในยามเช้าได้อีกด้วย.ปางอุ๋ง หมู่บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอนเวลาเปิด-ปิด : 05.30-18.00 น.โทร. 053-611244, 080-847-8456, 087-661-8594 บ้านรักไทย ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ใครที่ได้ไปที่แม่ฮ่องสอนไม่ควรพลาดที่จะมาชมความสวยงามของที่นี่.โดยบ้านรักไทยเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ตั้งอยู่ท่ามกลางไร่ชา ปกคลุมไปด้วยสายหมอก มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของขุนเขา อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,776 เมตร ทำให้มีอากาศที่เย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะหน้าหนาว ก็จะหนาวมากเป็นพิเศษ เหมาะแก่การเดินทางมาท่องเที่ยว หรือผ่อนคลายจากการเหนื่อยล้าแบบสุด ๆ.ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของชาและพืชเมืองหนาวเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าถูกใจขาช้อปของฝากอย่างแน่นอน เพราะมีการนำมาแปรรูปเพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้นำติดมือกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นไวน์ประเภทต่าง ๆ อาทิ ไวน์ลูกหม่อน ไวน์ลูกท้อ ไวน์มะขามป้อม ฯลฯ รวมไปถึงชาพันธุ์ต่าง ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งชาเขียว ชาอู่หลง และผลไม้อบแห้งนานาชนิดอีกด้วย.นอกจากนี้ บ้านรักไทยยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัส เช่น การเรียนรู้วัฒนธรรมไทย-จีน, การเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติโดยมีมัคคุเทศก์น้อยในหมู่บ้านเป็นผู้นำทาง, การปั่นจักรยานชมบรรยากาศภายในหมู่บ้าน การขี่ม้าพาข้ามแดนไปชมทิวทัศน์ฝั่งพม่า, การศึกษาวิธีปลูกและทดลองเก็บใบชา ฯลฯ เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ครบจบแน่นอน.บ้านรักไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน น้ำตกผาเสื่อ.เป็นน้ำตกขนาดกลาง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ มีต้นกำเนิดมาจากลำน้ำแม่สะงาจากประเทศพม่า มีน้ำตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูฝนน้ำจะเยอะ กระแสน้ำจะไหลแผ่ลงมาจนเต็มน้ำผาด้านล่าง แต่กระแสน้ำจะไม่นิ่ง ทำให้ไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ.โดยที่มาของชื่อน้ำตกผาเสื่อนั้นมีหลายกระแส เช่น

เที่ยวแม่ฮ่องสอน มูฟออนเป็นวงกลม อ่านเพิ่มเติม

เตยปาหนัน…ภูมิปัญญางานจักสานจากภาคใต้

เครื่องจักสานเป็นงานหัตถกรรมที่เราคุ้นเคย ถ่ายทอดส่งต่อมาแต่โบราณ วัสดุที่นำมาใช้ทำเครื่องจักสานส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นแต่ละแห่ง เช่น ไม้ไผ่ หวาย ต้นกก ใบลาน ย่านลิเภา ผักตบชวา กระจูด รวมถึง เตยปาหนัน.ว่าแต่…เพื่อน ๆ รู้จักเตยปาหนันกันไหม ถ้ายังไม่รู้จัก ตามมาค่ะ แอดจะพาไปทำความรู้จัก เพราะนี่เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่นำมาทำเครื่องจักสานได้สวยไม่แพ้พืชชนิดอื่น ๆ จนเพื่อน ๆ จะต้องร้องว้าวกับความสวยงามของงานจักสานเตยปาหนันอย่างแน่นอน เตยปาหนัน หรือต้นลำเจียก หรือเตยทะเล พบมากในภาคใต้ เป็นพืชตระกูลปาล์ม มักขึ้นตามริมชายหาด ชายทะเล ป่าโกงกาง ใบของเตยปาหนันมีสีเขียว ยาว มีหนามที่ขอบใบ คุณสมบัติพิเศษคือ มีความเหนียว และเมื่อเอาหนามออกและนำไปลนไฟ เส้นใยจะนุ่ม มีความยืดหยุ่น มันเงา และไม่มีเชื้อรา จึงเหมาะที่จะนำมาทำงานจักสาน.ใครที่มีภูมิลำเนาอยู่ทางภาคใต้ต้องคุ้นเคยกับเครื่องจักสานจากเตยปาหนันอย่างแน่นอน เพราะนิยมนำมาสานเป็นเสื่อ กระสอบ หรือกระเชอใส่ข้าวสาร เรียกได้ว่าเป็นของที่ทุกบ้านต้องมี ปัจจุบันมีการนำเตยปาหนันมาสานเป็นเครื่องใช้หลายแบบ และออกแบบลวดลายให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น สานเป็นกระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเงิน หมวก พวงกุญแจ ปลอกหมอน โคมไฟ กรอบรูป เป็นต้น.หากเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสเดินทางไปภาคใต้ อย่าลืมอุดหนุนสินค้าจากเตยปาหนันกันนะคะ จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์จากเตยปาหนัน คือ จังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง โดยมีกลุ่มแม่บ้านที่รวมตัวกันผลิตสินค้าจากเตยปาหนัน เช่น – กลุ่มผลิตภัณฑ์เตยปาหนัน บ้านหลังสอด ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่โทร. 0 6267 6865, 0 7561 1066 – กลุ่มหัตถกรรมเตยปาหนัน บ้านวังหิน ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่องใต้ จ.กระบี่ โทร. 08 5782 6574 – กลุ่มจักสานเตยปาหนัน บ้านดุหุน ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง โทร. 08 1777 5557.ขอบคุณรูปภาพจาก สานสาด https://www.facebook.com/sarnsard นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ และทำให้ผู้คนรู้จักเตยปาหนันมากขึ้น ผ่านแบรนด์ “สานสาด” ซึ่งใช้วัตถุดิบเตยปาหนันจากจังหวัดตรัง และสานโดยช่างฝีมือจากกลุ่มจักสานเตยปาหนัน บ้านดุหุน จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจาก สานสาด https://www.facebook.com/sarnsard ด้วยความโดดเด่นที่น่าสนใจ แบรนด์สานสาดถูกเลือกให้เป็นหนึ่งใน Young Thai Designers ของ Talent Thai & Designers’room 2019 นอกจากนี้ยังไปสะดุดตาดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส จนได้รับการชักชวนให้นำผลงานไปเป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ใน Mahanakhon Bangkok SkyBar กรุงเทพฯ.หากสนใจผลิตภัณฑ์ของ สานสาด สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 09 4636 4542 หรือ Facebook: SarnSard.ขอบคุณรูปภาพจาก สานสาด https://www.facebook.com/sarnsard

เตยปาหนัน…ภูมิปัญญางานจักสานจากภาคใต้ อ่านเพิ่มเติม

ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ประตู สู่ “เยาวราช”

ย่านเยาวราช แหล่งรวมของกินอร่อยในยามค่ำคืนที่มีผู้คนล้นหลามไปตะลุยกินไม่เว้นในแต่ละวัน เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ไปเยาวราชนั้นจะต้องได้ผ่านหรือแวะไปเช็คอินถ่ายรูปกันที่ “ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา” หรือ “ซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีน” กันมาบ้าง . เดิมที บริเวณนี้เคยเป็นวงเวียนน้ำพุ หรือ “วงเวียนโอเดียน” ซึ่งเป็นการเรียกชื่อตามโรงภาพยนตร์โอเดียนที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ต่อมามีการปรับปรุงพื้นที่ และสร้างเป็นซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีนขึ้นมา โดยมีชาวไทยเชื้อสายจีน และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ร่วมใจกันจัดสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ในปี พ.ศ. 2542 . ซุ้มประตูแห่งนี้เป็นจุดตัดของถนนเจริญกรุง ถนนเยาวราช และถนนมิตรภาพไทย-จีน เป็นสัญลักษณ์ของเยาวราช และเปรียบเสมือนเป็นประตูสู่เยาวราช ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ออกแบบโดยช่างผู้ชำนาญด้านศิลปกรรมของจีน ที่พิถีพิถันสร้างสรรค์ซุ้มแห่งนี้ขึ้นมาอย่างสวยงาม แต่ละจุดล้วนน่าสนใจและแฝงไปด้วยความหมายอันเป็นสิริมงคล.– ยอดหลังคาของซุ้มประตู ประกอบด้วยมังกร 2 ตัว ชูตราสัญลักษณ์ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 และทองคำบริสุทธิ์ หนัก 99 บาท ที่หุ้มพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. สื่อความหมายถึงชาวไทยเชื้อสายจีนที่เทิดทูนองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้เหนือเกล้า – บริเวณเพดานซุ้มประตู มีคำจารึกบนแผ่นทองเหลืองอ่านว่า “เทียน” ที่หมายถึงฟ้า มุมทั้งสี่มีรูปค้างคาว 4 ตัว หรือ “ฟู่” พ้องเสียงกับคำว่าโชคลาภในภาษาจีนกลาง ส่วนที่พื้น มีคำว่า “ตี้” หมายถึงดิน และมีต้นไผ่ล้อมรอบ ต้นไผ่ หรือ “เต็ก” ในภาษาแต้จิ๋ว หมายถึงคุณธรรม ซึ่งตรงจุดนี้ถือได้ว่าเป็นจุดรับพลังชีวิต คือการรับพรที่มาจากฟ้าดิน – สิงโตหยกขาวแกะสลัก 1 คู่ เป็นของขวัญจากรัฐบาลจีนที่มอบให้กับไทยเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา เป็นสิงโตหยกขาวเพศผู้ ที่เท้าเหยียบลูกแก้ว หมายถึง การมีลาภยศ อำนาจบารมี ชื่อเสียง ส่วนสิงโตหยกขาวเพศเมีย ที่เท้ากุมลูกสิงโต หมายถึง มีลูกหลาน บริวารมากมาย อยู่ในกรอบแห่งความดีงาม สร้างแต่ชื่อเสียงที่ดีให้วงศ์ตระกูล.มีผู้คนนิยมมาขอพรจากสิงโตทั้งสองนี้เป็นจำนวนมาก โดยการนำกระเป๋าสตางค์ไปวางไว้ที่ปากสิงโตทั้งเพศผู้และเพศเมีย เชื่อกันว่าจะทำให้เงินทองไหลมาเทมา – กระต่ายหยกขาวแกะสลัก เป็นของขวัญจากรัฐบาลจีนที่มอบให้กับไทยเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา (7 รอบ) ซึ่งในปีนั้นตรงกับปีนักษัตรเถาะ

ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ประตู สู่ “เยาวราช” อ่านเพิ่มเติม

คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อไปเยี่ยมชมวัด

คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อไปเยี่ยมชมวัด.ในการไปเที่ยววัด ไม่ว่าจะเป็นวัดในกรุงเทพฯ หรือวัดต่างจังหวัด เพื่อน ๆ ควรศึกษาก่อนสักนิดว่าแต่ละวัดมีข้อห้ามหรือข้อควรปฏิบัติอะไรบ้าง เพื่อเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม  วันนี้แอดมินมีข้อปฏิบัติเบื้องต้นในการเยี่ยมชมวัดมาแนะนำเพื่อน ๆ ค่ะ 1. แต่งกายสุภาพเรียบร้อยเพื่อเป็นการให้เกียรติกับสถานที่ ควรสวมกางเกงขายาว กระโปรงคลุมเข่า ผู้หญิงไม่ควรใส่เสื้อสายเดี่ยว เกาะอก แขนกุด หรือเสื้อที่รัดรูปจนเกินไป. 2. ถอดรองเท้าก่อนเข้าอุโบสถวัดวางไว้ที่ชั้นวาง หรือจุดที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้. 3. สำรวมกาย วาจา และใจเมื่อเข้าไปในวัดควรอยู่ในความสงบ ทำจิตใจให้ว่าง ไม่พูดคุยกันเสียงดังจนเกินไป. 4. ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงโทรศัพท์ไปรบกวนผู้ที่มาทำบุญ นั่งสมาธิหรือสวดมนต์. 5. ถ่ายรูปกับพระพุทธรูปอย่างสำรวมถ้าต้องการถ่ายรูปกับพระพุทธรูป ควรโพสท่าที่สุภาพเรียบร้อย. 6. ไม่ควรถ่ายรูปผู้อื่นที่กำลังทำกิจกรรมทางศาสนาเนื่องจากการถ่ายรูปผู้อื่นโดยไม่ได้รับการอนุญาตถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว. 7. ไม่ควรนั่งและปีนป่ายโบราณสถานภายในวัดโบราณสถานภายในวัดส่วนใหญ่มีความเก่าแก่ บางแห่งมีอายุนับร้อยปี ซึ่งทางวัดมักจะมีป้ายติดกำชับว่าห้ามปีนป่าย แต่ถึงจะไม่มีป้ายติด เราก็ไม่ควรขึ้นไปปีนป่าย นั่งเล่น เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหาย และยังถือเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่ตามความเชื่อของชาวพุทธอีกด้วย. 8. ไม่ควรนำสุราของมึนเมา สารเสพติด รวมถึงอุปกรณ์เล่นพนันทุกชนิดเข้าไปในวัด

คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อไปเยี่ยมชมวัด อ่านเพิ่มเติม

ด่านซ้าย-เชียงคาน 2 วัน 1 คืน

ไหน ๆ 2 วันที่ผ่านมา แอดก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำโขงมานำเสนอเพื่อน ๆ แล้ว วันนี้แอดเลยอยากนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดหนึ่งริมฝั่งโขง และเป็นที่นิยมของคนหลายวัยมานำเสนอ นั่นก็คือจังหวัด “เลย” นั่นเอง . พูดถึง จ.เลย แอดมักจะนึกถึงความสงบ และมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น ยิ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยิ่งสวยงาม จึงทำให้เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวต่างนิยมมาเยี่ยมเยียน วันนี้แอดจะนำที่เที่ยวที่ไหนมานำเสนอบ้าง ตามไปอ่านกันเลย วันที่ 11. พระธาตุศรีสองรัก2. พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย3. แก่งคุดคู้4. ถนนคนเดิน.วันที่ 25. ภูทอก6. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ วันที่1พระธาตุศรีสองรัก.สร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทร์) เป็นเจดีย์ที่สร้างเพื่อถวายเป็นอุเทสิกเจดีย์ (เจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้ศาสนา ไม่มีกำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด) ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญ เป็นสัญลักษณ์และตราประจำจังหวัดเลย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน เป็นวัดที่ไม่มีพระภิกษุพำนักอยู่.ตัวพระธาตุ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ย่อมุมไม้สิบสอง ระฆังทรงบัวเหลี่ยม ตามแบบฉบับเจดีย์แถบลุ่มน้ำโขง และมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะทิเบตประดิษฐานอยู่อีกด้วย.ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลยเปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.30 น. ทุกปีจะมีงานประเพณีสมโภชพระธาตุศรีสองรัก ในวันวิสาขบูชา วันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 6 (พฤษภาคม) โดยชาวด่านซ้ายจะนำต้นผึ้งซึ่งทำมาจากโครงไม้ไผ่ กรุด้วยกาบกล้วย ประดับแผ่นเทียนและดอกไม้อย่างสวยงามมาถวายองค์พระธาตุ.สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเกี่ยวกับพระธาตึศรีสองรัก ก็คือ ห้ามมีสีแดง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายด้วยชุดสีแดง การนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชา เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงถือเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง วัดโพนชัย (พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน).พูดถึง จ.เลย สิ่งที่หลายคนมักจะนึกถึงก็คือ “ผีตาโขน” แอดเลยอยากพาเพื่อน ๆ มาที่ วัดโพนชัย ซึ่งเป็นแหล่งรวมประวัติความเป็นมา ภูมิปัญญา ภาษา ประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อของชาวด่านซ้าย และยังมี พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ซึ่งมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับผีตาโขน มีภาพเกี่ยวกับงานเทศกาล ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ รวมไปถึงจัดแสดงหุ่นจำลองใส่ชุดผีตาโขนไว้ด้วย.วัดโพนชัย ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลยเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.โทร. 0 4289 1094 (กศน.ด่านซ้าย) นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ผีตาโขนยังมีกิจกรรมวาดลวดลายและลงสีบนหน้ากากผีตาโขนขนาดเล็ก ให้นักท่องเที่ยวได้สร้างผีตาโขนในแบบฉบับของตัวเอง และมีร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับผีตาโขนด้วย.ค่าใช้จ่ายในการวาดหน้ากากผีตาโขน ราคากลุ่มละประมาณ 200 บาท (ราคาจะแตกต่างกันไปตามจำนวนคน แนะนำให้โทรสอบถามล่วงหน้า) แก่งคุดคู้.มา จ.เลย ทั้งทีจะพลาดมา อ.เชียงคาน ได้ไง สถานที่ต่อมาที่แอดแนะนำก็คือ แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่อยู่กลางน้ำบริเวณช่วงโค้งของแม่น้ำโขง ยิ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม จะเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน.บริเวณแก่งคุดคู้ มีสวนสาธารณะ หอชมวิว ลานกิจกรรม ร้านค้า และอาคารนิทรรศการที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับ จ.เลย สามารถชมแก่งคุดคู้และนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ทั้งวัน.ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย 42110โทร. 08 1137 6051, 06 2197 0269, 09 2885 3975 (ชมรมเรือนำเที่ยวไทย-สปป.ลาว) ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือยนต์ชมแม่น้ำโขงสองฝั่งไทย-ลาวได้อีกด้วย โดยจะใช้เวลาไป-กลับ ราว ๆ 1 ชั่วโมง ราคาเหมาลำประมาณ 800 บาท ถนนคนเดินเชียงคาน.สถานที่ยอดฮิต ที่รวบรวมเสน่ห์ของเมืองเชียงคานเอาไว้ให้เพื่อน ๆ ได้สัมผัสมากมาย กิจกรรมยอดฮิตที่แอดอยากแนะนำก็คือ การปั่นจักรยานชมวิวริมฝั่งโขง มีเส้นทางปั่นจักรยานเลียบริมโขง สามารถชมวิวได้ยาว ๆ อย่างจุใจ จากถนนคนเดินเชียงคาน หากใครมีแรงเยอะสามารถปั่นยาวไปจนถึงแก่งคุดคู้ได้เลยทีเดียว ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร.ส่วนการเช่าจักรยานก็ง่ายแสนง่าย เพื่อน ๆ สามารถเช่าได้จากร้านค้าและที่พักหลายแห่งบนถนนคนเดิน นอกจากนี้ การชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นก็ถือเป็นไฮไลท์ของการมาถนนคนเดินเชียงคาน บรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่เชียงคานเป็นอะไรที่โรแมนติกสุด ๆ เพื่อน ๆ จะได้เห็นภาพแม่น้ำโขง ภูเขา และท้องฟ้าฉาบสีทอง อย่างที่เพื่อนแอดมักจะพูดบ่อย ๆ กับแอดเวลาเห็นวิวริมโขงแบบนี้ว่า “แม่น้ำโขง ท้องฟ้า พระอาทิตย์ เป็นของใครไม่รู้ ภูเขาตรงนู้นเป็นของคนลาว แต่วิวทั้งหมดที่เห็นเป็นของพวกเรา” ปิดท้ายวันกับการเดินชม ชิม ชอปที่ถนนคนเดินเชียงคาน ซึ่งจริง ๆ ถนนคนเดินเปิดตั้งแต่หัววันแล้ว แต่ตอนเย็นจะคึกคักกว่ามาก เพื่อน ๆ อาจจะคิดว่า ถนนคนเดินที่ไหนก็เหมือนกัน แต่ถนนคนเดินที่นี่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่รู้ว่าเพราะร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านของฝาก หรือผู้คน ที่พวกแอดต่างมาแล้วต้องพูดว่า หลงรักเลย ไปตาม ๆ กัน วันที่ 2.เริ่มต้นวันกับอีกกิจกรรมที่แอดแนะนำก็คือ ตักบาตรข้าวเหนียวที่ถนนชายโขง ซึ่งเป็นประเพณีที่ชาวเมืองเชียงคานทำกันมานานแล้ว ในปัจจุบัน เพื่อน ๆ สามารถใส่ข้าวเหนียวและกับข้าวลงในบาตรพร้อมกันได้เลยเพื่อความสะดวก.แต่ในอดีต วิธีการตักบาตรข้าวเหนียวที่ทำกันมาแต่โบราณ ก็คือ หยิบข้าวเหนียวขึ้นมาให้พอดีคำโดยไม่ต้องปั้นเป็นก้อน จากนั้นใส่ลงไปในบาตร ใส่เฉพาะข้าวเท่านั้นนะ ไม่นิยมใส่กับข้าวลงไป.ใครกลัวว่า พระท่านจะได้ฉันแค่ข้าวเหนียวเปล่า ๆ ไม่ต้องกังวลไป เพราะหลังจากที่พระบิณฑบาตเสร็จแล้ว ชาวบ้านถึงจะนำ “กับข้าว” ที่ทำเสร็จใหม่ ๆ เดินตามไปจัด “จังหัน” ที่วัด ซึ่งเป็นการตักอาหารใส่ถ้วยเล็กๆ แล้วนำไปวางบนถาดกลมคล้ายกับ “ขันโตก” ทางภาคเหนือ แยกไว้เป็นสำรับให้พระแต่ละรูปได้ฉันนั่นเอง.หากเพื่อน ๆ ต้องการตักบาตรข้าวเหนียว อาจต้องตื่นเช้าหน่อย เพราะเวลาที่เหมาะสมในการมาตักบาตรข้าวเหนียวคือ 05.30-07.00 น. แต่รับรองว่าอิ่มใจคุ้มกับการตื่นเช้าแน่นอน ภูทอก (เชียงคาน).หลังจากตักบาตรให้ใจอิ่มแล้ว แอดจะพาเพื่อน ๆ มาดูอะไรให้อิ่มตากันหน่อย

ด่านซ้าย-เชียงคาน 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

ไปเที่ยวกัน เที่ยวกันตัง(ตรัง) 2 วัน 1 คืน

พูดถึงจังหวัดตรัง เพื่อน ๆ ร้อยทั้งร้อยคงต้องคิดถึงทะเล ทะเล แล้วก็ทะเล แต่รู้ไหมว่า จังหวัดตรังยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้ทะเลอยู่ด้วย วันนี้แอดจะมาแนะนำให้รู้จัก นั่นก็คือ “กันตัง” . กันตัง เป็นอำเภอที่มีอาคารเก่าแก่กระจายอยู่ทั่วอำเภอ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง นอกจากทะเลสวย ๆ ที่นักท่องเที่ยวปักหมุดตั้งใจมาเที่ยวแล้ว กันตังยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมให้ได้เข้าไปสัมผัสอีกด้วย . ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาทำให้เพื่อน ๆ ยังไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปกติ และเป็นโอกาสที่ธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้พักและฟื้นฟู รอให้เราออกเดินทางอีกครั้ง และเมื่อการเดินทางครั้งใหม่ของเราได้เริ่มขึ้น คุณจะพบว่าเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม วันที่ 1– สถานีรถไฟกันตัง– ต้นยางคาเฟ่– ล่องแพ กินปู ดูวิว โดย “วิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ”.วันที่ 2– Matou Hostel & Cafe– เยี่ยมชม และทำกิจกรรมที่ “ชุมชนบ้านย่านซื่อ” สถานีรถไฟกันตัง.จุดนี้เป็นจุดที่ต้องมาเช็คอิน พลาดไม่ได้เลย “สถานีรถไฟกันตัง” เป็นสถานีรถไฟสถานีสุดท้ายบนเส้นทางรถไฟฝั่งอันดามัน เริ่มเปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 นับอายุก็กว่าร้อยปีแล้ว มีความสำคัญมากในสมัยนั้น เพราะเป็นศูนย์กลางการรับ-ส่งสินค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยผ่านท่าเรือกันตัง ซึ่งอยู่เลยจากสถานีรถไฟไปประมาณ 500 เมตร ตัวอาคารเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล คงเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ที่สำคัญได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรแล้ว ปัจจุบันสถานีรถไฟกันตังยังให้บริการเดินรถทุกวัน วันละ 1 เที่ยว โดยขบวนรถเร็วเที่ยวไป ออกจากสถานีกรุงเทพเวลา 18.30 น. และขบวนรถเที่ยวกลับ ออกจากสถานีกันตังเวลา 12.40 น. ใช้เวลาประมาณ 16-17 ชั่วโมง.สำหรับเพื่อน ๆ สายชิลล์ที่ไม่อยากนั่งเครื่องบิน ก็สามารถนั่งรถไฟมาลงที่นี่ได้เลย แต่อย่าลืมตรวจสอบเวลาเดินรถอีกครั้งก่อนเดินทางนะคะ.โทร. 075 251 015, 1690ที่ตั้ง ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ใกล้กับสถานีรถไฟ มีร้านกาแฟน่ารักน่าแวะชื่อ สถานีรัก Love Station ตัวร้านเป็นไม้ทาสีเหลือง ตกแต่งย้อนยุคคล้ายกับสถานีรถไฟกันตัง บรรยากาศชิลล์มาก สถานีรัก Love Stationเปิดทุกวัน เวลา 08.30-19.00 น.โทร. 081 979 6806ที่ตั้ง ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ต้นยาง คาเฟ่ .แอดจะพาไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ ต้นยางคาเฟ่ ร้านนี้อยู่ใกล้กับต้นยางพาราต้นแรกของเมืองไทย จุดท่องเที่ยวอีกจุดของกันตัง มีเมนูให้เลือกมากมายทั้งอาหารไทย-อีสาน สเต็ก ของหวาน และเครื่องดื่ม ร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ ผนังร้านโดดเด่นมากเพราะเป็นภาพวาดที่เล่าเรื่องราวของเมืองกันตัง.เปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น. (ครัวปิด 19.00 น.)โทร. 089 723 1733ที่ตั้ง 253/1 ถ.ตรังคภูมิ ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ Facebook ต้นยางคาเฟ่ @กันตัง ล่องแพ กินปู ดูวิว โดยวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ.จากอำเภอกันตังไปประมาณ 24 กิโลเมตร เรามุ่งหน้าไปที่ตำบลบางสัก ที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือการล่องแพไปชมวิวเขาจมป่าและทะเลแหวก พร้อมทานอาหารทะเลกันบนแพ โดยวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ.ที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทั้งแบบครึ่งวัน และแบบเต็มวัน สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกด้วย แอดเลือกกิจกรรมแบบครึ่งวัน คือ ล่องแพไปเที่ยวเขาจมป่า และทะเลแหวก โดยเราจะล่องแพผ่านป่าชายเลน ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 3,200 ไร่ ระหว่างทางจะพบกับต้นโกงกางและต้นแสมที่ขึ้นอย่างหนาแน่น แสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแถบนี้.โปรแกรมล่องแพท่องเที่ยว จะรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นคนละ 1,350 บาท หากไปกันหลายคนก็สามารถติดต่อสอบถามก่อนได้ เนื่องจากราคาจะแตกต่างกันไปตามจำนวนคน แต่ถ้าไปน้อยกว่า 5 คน แอดแนะนำให้ท่องเที่ยวด้วยเรือหัวโทงจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า มาถึงจุดแรก พาเพื่อน ๆ เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวเขาจมป่า ตรงนี้ใช้เวลาเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวประมาณ 20 นาที ระยะทาง 400 เมตร ถึงแม้จะเป็นระยะทางสั้น ๆ แต่ก็มีหลายจุดที่ค่อนข้างชัน เดินขึ้นอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ.ด้านบนสุด สามารถชมวิวป่าชายเลนผืนใหญ่ เขียวชอุ่มสบายตา เห็นคลองที่คดเคี้ยวไปมาแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังเห็นวิวทะเลและเกาะมุกที่อยู่ไกล ๆ ได้อีกด้วย ลงจากยอดเขามาเหนื่อย ๆ เริ่มหิวก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะบนแพได้เตรียมอาหารรอไว้แล้ว มีอาหารทะเลหลายอย่าง โดยเฉพาะปูม้าตัวใหญ่ ๆ มีให้กินแบบจุใจเลยจ้า จุดเด่นของบ้านน้ำราบคือ การทำธนาคารปูม้า อาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำประมงปูม้า นานวันเข้าก็พบว่าปริมาณปูม้าลดลงมาก ชาวบ้านจึงหาทางแก้ปัญหา เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าให้กลับสู่สมดุลย์ จึงเริ่มนำแม่ปูม้าที่มีไข่นอกกระดองมาเลี้ยง รอจนแม่ปูวางไข่ แล้วจึงนำลูกปูไปปล่อยบริเวณแหล่งแนวหญ้าทะเล เพื่อให้ลูกปูเจริญเติบโตในธรรมชาติต่อไป กิจกรรมนี้สามารถช่วยรักษาประชากรปูม้าได้ไม่น้อยเลย เพราะแม่ปูแต่ละตัวนั้นมีไข่ประมาณสามแสนฟอง แต่ถ้าตัวใหญ่จะมีไข่ถึงหนึ่งล้านฟองเลยทีเดียว.นอกจากนี้ชาวบ้านยังเพาะหญ้าทะเล เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของปูม้าและเป็นอาหารของพะยูน มีการอนุบาลม้าน้ำ และลูกปลาหมึกอีกด้วย หลังจากกินจนอิ่มแปล้แล้ว ก็ไปจุดที่สอง เพื่อชมทะเลแหวกที่มีขนาดกว้างเท่าสนามฟุตบอล ซึ่งการจะชมทะเลแหวกได้นั้นต้องรอช่วงน้ำลง ราว ๆ บ่ายโมงไปจนถึงช่วงเย็น ใครไปช่วงเย็น ๆ ก็ยังสามารถรอชมพระอาทิตย์ตกดินจากจุดนี้ได้อีกด้วย.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บังยูร 080 824 9468, พี่อู๊ด 087 277 8017ที่ตั้ง ท่ากะหยง หมู่ที่ 4 ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ คาเฟ่แห่งนี้ให้บริการของหวาน และเครื่องดื่ม

ไปเที่ยวกัน เที่ยวกันตัง(ตรัง) 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top