สถานที่ท่องเที่ยว

5 ชุมชนผ้าทอมือ ลำพูน

ลำพูน จังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน มีธรรมชาติงดงามตระการตา มีวัดวาอารามที่สวยงามและทรงคุณค่า เป็นเมืองที่น่าค้นหาที่ไม่ควรเลยผ่าน . นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้วลำพูนยังมีชุมชนทอผ้าที่สำคัญ ๆ กระจายตัวอยู่ทั่วจังหวัด ล้วนผลิตผ้าที่คุณภาพดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดนเด่นไม่ซ้ำใคร . จะมีชุมชนใจและโดดเด่นเรื่องไหน อ่านต่อกันได้เลย  ผ้าฝ้ายทอมือชุมชนชาวยอง ศูนย์หัตถกรรมทอผ้าแม่สารบ้านตอง ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นหนึ่งในหมู่บ้านท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของจังหวัด ที่มีชื่อเสียงทางด้านผ้าทอยกดอกอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว.การทอผ้าของชุมชนแห่งนี้มีความเป็นมายาวนานสิบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งคนในชุมชนจะทอผ้าทำหลังจากที่ปฏิบัติภารกิจประจำวันเสร็จแล้ว โดยจะมารวมกลุ่มกันทอผ้าที่วัดต้นแก้ว.การทอผ้าที่นี่ไม่ใช่เป็นการทอเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปขายอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นการอนุรักษ์การทอผ้าในรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวยองที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษไว้.ผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของชุมชนแห่งนี้คือ ผ้าฝ้ายยกดอกเอกลักษณ์ของเมืองลำพูน นอกจากนั้นยังทอผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย เช่น ผ้าขาวม้า ผ้าคลุมไหล่ ย่าม ฯลฯ สามารถไปชม และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของชุมชนได้ที่วัดต้นแก้ว รวมไปถึงสามารถเดินชมพิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณเฮือนยองวัดต้นแก้วได้อีกด้วย . ที่ตั้ง: ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูนโทร. 08 7181 8296พิกัด: https://goo.gl/maps/2TT6vwzM5ChPZnyu9 หมู่บ้านหัตถกรรมบ้านดอนหลวง ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นแหล่งผลิตงานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือรายใหญ่อีกแห่งหนึ่งของประเทศ.กลุ่มทอผ้าบ้านดอนหลวงเกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชนเพื่อการอนุรักษ์และคงอยู่ของการทอผ้าฝ้าย โดยชาวบ้านที่นี่จะแบ่งกลุ่มออกตามความถนัด เช่น กลุ่มทอผ้าสี่ตะกอ กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้าย กลุ่มตัดเย็บ กลุ่มบาติกมัดย้อม เป็นต้น.เมื่อแต่ละกลุ่มได้ทำผลิตภัณฑ์เสร็จแล้วจะส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองมาจำหน่ายที่ร้านค้าที่ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน ทำให้ผลิตภัณฑ์ของชุมชนมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ผ้าคลุมไหล่ ปลอกหมอน ผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ ผ้าปูเตียง เป็นต้น.และในเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดงาน “แต่งสีอวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง” ซึ่งกิจกรรมภายในงานจะเน้นไปที่รูปแบบของหมู่บ้านหัตถกรรมและวัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิตของคนป่าซาง โดยงานจะจัดทั้งกลางวันและกลางคืนเลยล่ะ.ที่ตั้ง: ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูนโทร. 08 4503 3877, 09 7921 6997 พิกัด: https://goo.gl/maps/jhooEu3h1Zn5HZxp7 ศูนย์หัตถกรรมบ้านห้วยต้ม.ศูนย์หัตถกรรมบ้านห้วยต้ม ตั้งอยู่ที่ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน นอกจากอาชีพหลักอย่างการทำสวนทำไร่แล้ว ชาวบ้านที่นี่ยังมีฝีมือในงานหัตถกรรมหลายรูปแบบ เช่นการทอผ้าโดยใช้เอวเป็นกี่ในการทอ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ.ซึ่งผ้าฝ้ายทอมือของชุมชนแห่งนี้เป็นกะเหรี่ยงลายโบราณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีการถักทอเส้นสีโดยเลียนแบบธรรมชาติ ทำให้รู้สึกถึงสีสันของฤดูทั้ง 3 ฤดูในผืนผ้าแต่ละผืน.นอกจากนี้ยังมีการทำเครื่องเงินแท้ 100% ที่มีการออกแบบลวดลายที่สะท้อนวิถีชีวิตชาวบ้าน โดยลวดลายต่าง ๆ ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เช่น ปลา ใบไม้ ดอกไม้ เมล็ดข้าว เป็นต้น.เมื่อชาวบ้านทำผลิตภัณฑ์เสร็จแล้วจะนำมาวางจำหน่ายที่ศูนย์หัตถกรรมบ้านห้วยต้มกลางหมู่บ้าน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อสินค้าของชุมชนได้จากศูนย์หัตถกรรมนี้เลย.ที่ตั้ง: ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูนโทร. 08 7173 8152, 06 2308 2689พิกัด: https://goo.gl/maps/WeJwrXhCz83xAZv69  ชุมชนผ้าทอบ้านหนองเงือก.บ้านหนองเงือก ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงในเรื่องการทอผ้าที่สืบสานการทอผ้าฝ้ายและกรรมวิธีจากบรรพบุรุษ.ชาวหนองเงือกมีบรรพบุรุษเป็นชาวยอง อาศัยอยู่ในมณฑลยูนนาน แคว้นสิบสองปันนา ประเทศจีน อพยพมาตั้งถิ่นฐานในที่ราบลุ่มแม่น้ำทา อำเภอป่าซาง และได้เริ่มการทอผ้าฝ้ายเพื่อใช้เองในครอบครัว ซึ่งทอโดยวิธีการใช้กี่แบบโบราณ.ชาวหนองเงือกได้นำเทคนิคการทอผ้าแบบโบราณมาพัฒนาและปรับปรุงลวดลายให้ดูทันสมัยมากขึ้นโดยการเพิ่มความสลับซับซ้อนและใช้สีสันในลวดลาย เช่น ลายเกล็ดเต่าลูกอม ลายเกล็ดเต่าหมู่ ลายเกล็ดเต่าจิ๋ว ลายเกล็ดเต่าตา ลายดอกช้าง ลายดอกนก ลายดอกบัวเครือ ลายดอกขอลายไทย เป็นต้น ทำให้ผ้าทอของชุมชนแห่งนี้มีความทันสมัยอยู่เสมอ.บ้านหนองเงือกไม่เพียงเป็นแหล่งทอผ้าฝ้ายที่สำคัญของลำพูนเท่านั้น ยังเป็นแหล่งผลิตชิ้นงานส่งจำหน่ายในเมืองท่องเที่ยวในภาคเหนืออย่างเชียงใหม่ รวมถึงกรุงเทพฯ อีกด้วย.ที่ตั้ง: ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูนโทร. 06 1449 9645พิกัด: https://goo.gl/maps/MiT9RyCPrm5ej9pV6 กลุ่มทอผ้ากระเหรี่ยงแม่ขนาด.หมู่บ้านกะเหรี่ยงแม่ขนาด ตั้งอยู่ที่ตำบลทากาศ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงปากะญอ มีชีวิตความเป็นอยู่เรียบง่าย.ชาวบ้านในชุมชนยังคงแต่งกายด้วยชุดชาวเผ่า ผู้หญิงที่มีครอบครัวแล้วนุ่งผ้าถุงสีแดง คาดลายสีต่าง ๆ ที่ทอขึ้นเอง ปักด้วยลูกเดือยและตกแต่งด้วยผ้าสีแดง ผู้หญิงโสดใส่ชุดยาวสีขาว แต่งลวดลายด้วยสีต่าง ๆ ส่วนผู้ชายใส่เสื้อโพล่งสีแดง กางเกงสะดอหรือโสร่ง.ชาวบ้านส่วนใหญ่ทอผ้าใช้เอง ลงมือทำตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกฝ้าย ปั่นด้าย ทอผ้า และประดับลูกเดือย และยังมีการสืบทอดวิธีการ เทคนิคต่าง ๆ ต่อกันมาจนถึงรุ่นลูกหลาน.ภายในหมู่บ้านมีกลุ่มทอผ้า และศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ สินค้าที่ไดเรับความนิยม เช่น มีทั้งเสื้อ ผ้าซิ่น ผ้าคลุมทีวี ผ้าคลุมไหล่ขนาดต่าง ๆ เป็นต้น.ที่ตั้ง: ตำบลทากาศ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูนโทร. 08 1961 8741พิกัด: https://goo.gl/maps/CB99qSJPUhS29yAf9

5 ชุมชนผ้าทอมือ ลำพูน อ่านเพิ่มเติม

ไหว้ ๑๒ พระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีนักษัตร

“พระบรมธาตุเจดีย์” เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ คือ อัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า โดยมีการอัญเชิญและสร้างเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน ณ สถานที่ต่าง ๆ และจัดพิธีสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตามคติความเชื่อของชาวล้านนา เชื่อว่าการสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุเสมือนการได้ “ชุธาตุ” หรือกราบไหว้บูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีคติความเชื่อว่า “นามเปิ้ง” คือนามของสัตว์ที่เป็นพาหนะในการนำมาเกิดตามราศี จึงกำหนดพระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีเกิดนักษัตร เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลในการสักการบูชา พระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีเกิดนักษัตรส่วนใหญ่จึงอยู่ในภาคเหนือ และมีหนึ่งแห่งอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑. พระธาตุประจำปีเกิด ปีชวด (ปีหนู) ธาตุน้ำ“พระธาตุศรีจอมทอง” วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ถนนเชียงใหม่-ฮอด ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พระธาตุศรีจอมทอง ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า โดยพระบรมสารีริกธาตุนี้มิได้ถูกบรรจุฝังไว้ใต้ดินเช่นที่อื่น แต่ถูกบรรจุไว้ในพระโกศห้าชั้น ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารหลวงซึ่งอยู่ด้านหลังองค์พระธาตุเจดีย์ศรีจอมทอง และในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ (เหนือ) หรือก็คือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ (ประมาณเดือนมิถุนายน) ของทุกปี ที่วัดจะมีการจัดงานประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุศรีจอมทอง.การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘ เส้นทางเชียงใหม่-ฮอด จนถึงตัวอำเภอจอมทอง จะพบวัดตั้งอยู่ซ้ายมือ มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถเมล์และรถสองแถว สายเชียงใหม่-จอมทอง วิ่งผ่านหน้าวัด สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งช้างเผือกในตัวเมืองเชียงใหม่ ๒. พระธาตุประจำปีเกิด ปีฉลู (ปีวัว) ธาตุดิน“พระธาตุลำปางหลวง” วัดพระธาตุลำปางหลวง ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทย จากตำนานกล่าวว่า วัดอยู่บนซากเมืองโบราณลัมพกัปปะนคร พระนางจามเทวีได้เสด็จมาโปรดฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ มีพระธาตุเจดีย์ทรงลังกาบุทองเหลืองฉลุลาย ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ได้แก่ พระเกศาธาตุ (ผม) พระนลาฏ (หน้าผาก) ข้างขวา และส่วนพระศอด้านหน้าและด้านหลังของพระพุทธเจ้า การสักการบูชามักจัดให้มีขึ้นในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา.การเดินทาง : จากตัวเมืองลำปาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๑ (ลำปาง-เถิน) จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าตัวอำเภอเกาะคา และข้ามแม่น้ำวัง จะพบที่ว่าการอำเภอเกาะคา ให้เลี้ยวขวาและตรงไป ๓ กิโลเมตร ถึงวัด ๓. พระธาตุประจำปีเกิด ปีขาล (ปีเสือ) ธาตุไม้“พระธาตุช่อแฮ” วัดพระธาตุช่อแฮ ถนนช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐาน พระเกศาธาตุและพระบรมธาตุส่วนพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า ในวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ (ประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม) ของทุกปี ทางวัดจะจัด “งานประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่ แห่ตุงหลวง” มีริ้วขบวนเครื่องสักการะ ผ้าห่มพระธาตุ ๑๒ ราศี ตุง ๑๒ ราศี และเทศน์มหาชาติ.การเดินทาง : จากสี่แยกบ้านทุ่งในตัวเมืองแพร่ ไปตามถนนช่อแฮ รวมระยะทางจากตัวเมืองประมาณ ๙ กิโลเมตร ๔. พระธาตุประจำปีเกิด ปีเถาะ (ปีกระต่าย) ธาตุน้ำ“พระธาตุแช่แห้ง” วัดพระบรมธาตุแช่แห้ง บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงติ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐาน พระเกศาธาตุและพระบรมธาตุส่วนข้อมือซ้ายของพระพุทธเจ้า ในวันขึ้น ๑๑-๑๕ ค่ำ และ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ (ประมาณเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม) จะมีการจัด “งานนมัสพระธาตุแช่แห้ง” โดยมีการแห่ตุงถวายพระบรมธาตุ และจุดบอกไฟ (ลักษณะเดียวกับบั้งไฟ ประทัด หรือดอกไม้ไฟ) ถวายเป็นพุทธบูชา.การเดินทาง : จากตัวเมืองน่าน ข้ามสะพานแม่น้ำน่าน ไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๑๖๘ ระยะทางประมาณ ๓ กิโลเมตร ๕. พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะโรง (ปีงูใหญ่) ธาตุดิน“พระมหาธาตุเจดีย์ หรือ พระธาตุหลวง” วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ภายในพระบรมธาตุเจดีย์ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และบริเวณใกล้กันยังเป็นที่ตั้งของพระวิหารลายคำ ซึ่งภายในประดิษฐาน “พระสิงห์” (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปคู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระวิหารลายคำนี้ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น เพราะมีลวดลายปิดทองล่องชาด เทคนิคการฉลุลายปรากฏบนฝาผนังหลังพระประธานและเสากลางพระวิหาร เสาระเบียงด้านหน้าพระวิหาร ตลอดถึงบางส่วนของโครงไม้ บนฝาผนังภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง สังข์ทองและสุวรรณหงส์ เขียนด้วยสีฝุ่นมีความงดงามมาก.การเดินทาง : วัดพระสิงห์อยู่ใกล้บริเวณคูเมืองด้านใน ตรงบริเวณจุดบรรจบระหว่างถนนสามล้าน ถนนสิงหราช และถนนราชดำเนิน หรือใช้บริการรถโดยสารสองแถวแดงที่ให้บริการในตัวเมืองเชียงใหม่ ๖. พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะเส็ง (ปีงูเล็ก) ธาตุน้ำ“พระเจดีย์เจ็ดยอด” วัดโพธารามมหาวิหาร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พระเจดีย์เจ็ดยอด จำลองแบบจากมหาวิหารเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย สร้างสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งราชวงศ์มังราย พระองค์ทรงให้แบ่งหน่อพระศรีมหาโพธิ์ที่พระสงฆ์สิงหลนิกายลังกาวงศ์นำมาจากลังกาแล้วปลูกไว้ที่เชิงดอยสุเทพ ให้นำมาปลูกไว้ใกล้กับพระเจดีย์เจ็ดยอดด้วย จึงมีสองสิ่งสำคัญในการเป็นที่สักการะประจำปีเกิดปีมะเส็ง คือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระมหาเจดีย์เจ็ดยอด.การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ถนนห้วยแก้วจนถึงสี่แยกรินคำ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่-ลำพูน) ตรงไปประมาณ ๑ กิโลเมตร จะพบวัดตั้งอยู่ซ้ายมือ ๗. พระธาตุประจำปีเกิด ปีมะเมีย (ธาตุไฟ)พระบรมธาตุ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ตำบลเกาะตะเภา อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก มีตำนานกล่าวถึงสถานที่ตั้งของพระบรมธาตุเจดีย์ว่า สมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาที่แห่งนี้ และตรัสว่าเมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้วให้นำพระเกศาธาตุมาประดิษฐานไว้ที่นี่ ต่อมาจึงมีการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้น โดยภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ในวันขึ้น ๑๔-๑๕ ค่ำ เดือน ๙ เหนือ (ประมาณปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน) ของทุกปี

ไหว้ ๑๒ พระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีนักษัตร อ่านเพิ่มเติม

ร้านใบบัว อาหารเหนือ-เชียงตุง

ร้านนี้ขายอาหารเหนือและอาหารเชียงตุง แล้วอาหารเชียงตุงกับอาหารเหนือเกี่ยวข้องกันยังไง แอดจะเล่าให้ฟัง ในอดีตพ่อค้าทางภาคเหนือนิยมใช้เส้นทางเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย แม่สาย เชียงตุงในการค้าขาย บางทีก็ยาวไปถึงยูนนาน หรืออาจถึงสิบสองปันนาเลยก็ได้ จึงมีการผสมผสานวัฒนธรรมการกินอาหารของท้องถิ่นต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และมีการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบหลายอย่างให้เข้ากับยุคสมัย แต่ร้านใบบัวยังคงใช้สูตรเชียงตุงดั้งเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง . แอดเลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์การกินอาหารกับเพื่อน ๆ ให้รู้ว่ารสชาติที่มีมาตั้งแต่อดีตจะเป็นยังไง แต่ถ้ายังลังเลอยู่ว่าจะไปลองดีไหม? ลองอ่าน ลองดูความฟินของอาหารที่แอดจะนำเสนอกันก่อน . ที่ตั้ง : ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 9 แขวง ห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310เปิด 11.00 – 21.30 น.โทร. 02-690-3166, 02-690-3167พิกัด : https://www.facebook.com/BaibuaNorthernThaifood/.วิธีเดินทาง : ใช้ MRT ห้วยขวาง ทางออกที่ 1 เดินเข้าซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 9 ร้านจะอยู่ซ้ายมือ ถ้าไม่อยากเดิน สามารถใช้บริการมอเตอร์ไซค์ (15 บาท) “ร้านใบบัว” เป็นร้านอาหารเชียงตุงขนาด 2 คูหา เปิดมาแล้วกว่า 30 ปี แอดมาถึงร้าน 11:00 ตรงเป๊ะ ร้านเพิ่งจะเปิด ระหว่างรอให้ร้านพร้อม เจ้าของร้านเลยมานั่งคุยด้วย พร้อมแนะนำรสชาติและอาหารเมนูต่าง ๆ ให้เราได้รู้จักอย่างเป็นกันเอง นับเป็นเสน่ห์ที่น่ารักของร้านที่แอดประทับใจ เจ้าของร้านชื่อพี่อร เป็นชาวไทยเขิน จากเมืองเชียงตุง แต่มาอยู่ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สูตรอาหารส่วนใหญ่จึงมีความเป็นเชียงตุงอยู่มาก และวัตถุดิบต่าง ๆ ก็นำเข้ามาจากเชียงตุง โดยผ่านทางญาติเจ้าของร้านที่อยู่ที่แม่สายนั่นเอง.พี่อรบอกว่า ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ต้องมาเร็วหน่อย เพราะอาหารจะหมดไวมาก โดยเฉพาะอุ๊บไก่ (แกงไก่ที่เคี่ยวจนเปื่อย) ทางร้านแนะนำให้กินอุ๊บไก่คู่กับข้าวเหลือง ข้าวเหนียวที่นึ่งกับชาดอกกุ๊ด (密蒙花) ดอกไม้ป่าคล้าย ๆ กับดอกราชาวดีที่ต้องนำเข้าจากเชียงตุงเท่านั้น เมื่อนำมานึ่งกับข้าวเหนียว จะได้สีเหลืองสวย มีกลิ่นน้ำผึ้งอ่อน ๆ.ในแต่ละวัน ที่นี่จะเปลี่ยนเมนูไปเรื่อย ๆ ไม่ต่ำกว่า 40 เมนูเลยทีเดียว ใช่แล้วเพื่อน ๆ ไม่ได้อ่านผิด 40 เมนูจริง ๆ !!.ตามไปดูเมนูที่แอดสั่งวันนี้กันเลยยย ข้าวซอยน้อย มีแบบธรรมดา และแบบทรงเครื่อง แอดเลือกแบบธรรมดา ร้านนี้เขาทำกันสด ๆ ที่หน้าร้านเลย วิธีทำคือ นำแป้งผสมน้ำใส่ถาด จุ่มถาดลงในหม้อน้ำร้อน ไม่กี่นาทีแป้งก็สุก ตลบแป้งพับเป็นสามเหลี่ยม เนื้อแป้งสัมผัสหยุ่นนิ่ม กินกับน้ำจิ้มรสเผ็ดแต่อร่อย . ถ้าเป็นข้าวซอยน้อยทรงเครื่อง เพื่อน ๆ สามารถเลือกใส่เครื่องเพิ่มเติม ทั้งหมูสับ ผักต่าง ๆ ไส้กรอก ปูอัด ไข่ ฯลฯ น้ำเงี้ยว น้ำเงี้ยวถ้วยนี้ รสชาติแบบว่า…เหนือถูกใจแอดมาก หมูสับเอย ซี่โครงเอย เคี่ยวจนเปื่อยสุด ๆ น้ำซุปกระดูกหมูหอมถั่วเน่ากำลังดี ยิ่งบีบมะนาวแล้วใส่กะหล่ำซอยฝอยยิ่งฟิน  ข้าวซอยไก่ เส้นหมี่เหนียวนุ่มกำลังดี น่องไก่เนื้อนุ่มชิ้นใหญ่ ราดน้ำซุปหอมเครื่องเทศ หวานน้อย กะทิไม่มันเลี่ยน รสชาติเผ็ดกำลังดี กินกับผักกาดฮ่อ (ผักดองแบบจีนยูนนาน รสหวานสดชื่น มีทั้งแบบเผ็ดและไม่เผ็ด) แถมโรยหน้าด้วยหมี่กรอบ ฟินมาก ยำข้าวแรมฟืน (ยำข้าวฟืน) สำหรับแอด หากไม่ไป อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก็ไม่รู้จะไปหากินข้าวฟืนจากที่ไหน แต่ร้านนี้มีให้กิน ข้าวฟืน หรือข้าวแรมฟืนเป็นอาหารถิ่นของชาวไทลื้อ ไทเขิน และไทใหญ่ ที่แพร่หลายมาจนถึงภาคเหนือของไทย และกลายเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวเชียงราย โดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย.ทางร้านใบบัวใช้แป้งข้าวเจ้ามาทำข้าวฟืนสีขาว มีกลิ่นควันไฟหอมอ่อน ๆ นวล ๆ ข้าวฟืนสีเหลืองคือแป้งถั่วชิคพี รสชาติจะเข้มข้นขึ้นมาหน่อย บางสูตรใช้ถั่วเหลืองและข้าวโพดมาทำ ส่วนข้าวฟืนสีม่วงอ่อน, สีเทา ทำมาจากถั่วลิสง หอมถั่วมาก และมีรสมันของถั่ว.ข้าวฟืนจะมีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ลักษณะคล้ายเยลลี่ ปกติสามารถหั่นแล้วจิ้มน้ำจิ้มกินได้เลย แต่วันนี้แอดสั่งยำข้าวฟืน ทางร้านจึงนำมายำใส่พริก ถั่ว งา น้ำส้มสายชู น้ำสู่ (น้ำหมักจากผลไม้) น้ำมะเขือเทศ ถั่วเน่า ฯลฯ รสชาติอร่อยล้ำเต็มปากเต็มคำสุด ๆ กินไปได้สักพัก พี่อรก็นำข้าวฟืนถั่วลิสงทอดมาให้ชิม ข้าวฟืนทอดร้อน ๆ จิ้มน้ำจิ้มถั่ว อร่อยมาก จานนี้เป็นเมนูใหม่ หาทานไม่ได้จากที่ไหน เพราะแม้แต่ร้านที่แม่สาย ส่วนใหญ่ก็จะใช้ข้าวฟืนแบบทั่วไปสีเหลืองนำมาทอดเท่านั้น ถ้าจะบรรยายความอร่อย เอาเป็นว่าเพื่อน ๆ ลองจินตนาการถึงเฟรนช์ฟรายทอดสดใหม่เวอร์ชั่นกินแล้วรู้สึกสุขภาพดีดู นั่นแหละคำจำกัดความของข้าวฟืนทอดจานนี้ น้ำพริกอ่อง รสชาติเหนือแบบออริจินัลเลย ไม่ออกหวานเหมือนร้านทั่วไปในกรุงเทพฯ กินคู่กับผักสดอร่อยมาก ลาบหมู รสชาติเผ็ด เค็มเข้มข้น หอมพริกลาบชัดเจน เข้าปากที กลิ่นพริกแห้ง มะแขว่น เม็ดผักชี และพริกไทยดำฟุ้งขึ้นจมูก เป็นจานที่เผ็ดร้อนเครื่องเทศ แต่กินกับข้าวเหนียวแล้วหยุดไม่ได้เลย แกงหอย ใครที่เคยดูเรื่อง “กลิ่นกาสะลอง” แล้วเจอฉากที่มีประโยคเด็ด “น้องไค่กิ๋นแก๋งหอย” แล้วนึกอยากกินขึ้นมา ที่ร้านใบบัว มีแกงหอยสูตรของทางเหนือให้มาลองชิมกันนะ.ตัวน้ำแกงเป็นสีใส ไม่ใส่กะทิแบบแกงคั่วหอยขมทั่วไป รสออกเค็มนิด ๆ เผ็ดเล็กน้อย วิธีกินก็คือดูด หรือไม่ก็เอาไม้จิ้มฟันจิ้มตัวหอยออกมา

ร้านใบบัว อาหารเหนือ-เชียงตุง อ่านเพิ่มเติม

7 พิกัดเกาะสวย ทะเลตะวันออก

ทะเลฝั่งตะวันออก มีเกาะสวยน่าเที่ยวอยู่หลายเกาะ ถ้าเพื่อน ๆ คิดถึงบรรยากาศแสนชิลล์บนหาดทรายสีขาว และน้ำทะเลใส ๆ เหมือนแอด ล้อมวงกันเข้ามา แอดรวบรวม 7 พิกัดเกาะสวยของทะเลภาคตะวันออกมาให้แล้ว . หาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวทั่วไทยผ่าน E-Book คู่มือท่องเที่ยวครบทุกจังหวัดได้แล้วที่ www.amazingthailandebook.com หรือดาวน์โหลดในรูปแบบ Application : Amazing Thailand eBook ได้ทั้งระบบ iOS และ Android https://mobile.amazingthailandebook.com/redirect/ 1. เกาะหมาก จังหวัดตราด2. เกาะช้าง จังหวัดตราด3. เกาะกูด จังหวัดตราด4. เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี5. เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี6. เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี7. เกาะทะลุ จังหวัดระยอง เกาะหมาก จังหวัดตราด.เสน่ห์ของเกาะหมากอยู่ที่บรรยากาศเงียบสงบ น้ำทะเลใสแจ๋ว มีชายหาดให้เล่นน้ำหลายแห่ง เช่น อ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวแดง และมีจุดถ่ายรูปสุดฮิตอย่างสะพานสู่ฝัน ที่อยู่บริเวณอ่าวตั๋น เป็นสะพานไม้ทอดยาวลงไปในทะเล.ถ้าเพื่อน ๆ เป็นสายรักษ์โลกต้องรักเกาะหมากอย่างแน่นอน เพราะที่นี่เป็นเกาะ “Low Carbon” ที่ทุกคนบนเกาะต่างร่วมใจกันลดขยะจากพลาสติก ลดมลภาวะด้วยการปั่นจักรยาน รวมทั้งจัดให้มีรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ให้บริการพาเที่ยวบนเกาะ.การเดินทางไปท่าเรือแหลมงอบ – นั่งรถโดยสารประจำทางหรือรถตู้ เส้นทางกรุงเทพฯ-แหลมงอบ จากสถานีขนส่งเอกมัยหรือสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง – หากขับรถยนต์ส่วนตัวไปยังท่าเรือแหลมงอบ จังหวัดตราด สามารถจอดรถไว้ที่ท่าเรือได้ ค่าบริการคันละ 50 บาท/คืน ท่าเรือแหลมงอบ : https://goo.gl/maps/wenQwGjxasTaE2rq7 – จากท่าเรือแหลมงอบ นั่งสปีดโบ๊ทต่อไปยังเกาะหมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-60 นาที เกาะช้าง จังหวัดตราด.เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตราด สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี บนเกาะมีแหล่งท่องเที่ยวหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว น้ำตกคลองพลู น้ำตกธารมะยม วัดสลักเพชร ป่าชายเลนบ้านนาใน ปีนป่ายต้นไม้ท้าทายความสูงที่ ทรี ทอป แอดเวนเจอร์ ปาร์ค เกาะช้าง หรือจะไปนอนโฮมเสตย์ ล่องเรือมาดชมบ้านชายเลนที่บ้านสลักคอกก็ฟินไปอีกแบบ.การเดินทาง ขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามไปเกาะได้ 2 แห่ง– ท่าเรือเฟอร์รี่เซ็นเตอร์พอยท์ มีเรือออกทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00 น. – ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ มีเรือออกทุก 45 นาที ตั้งแต่เวลา 06.30-19.00 น..สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมท่าเรืออ่าวธรรมชาติโทร. 0 3955 5188, 0 3951 2528, 08 1943 5872 ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์โทร. 0 3953 8196, 0 3959 7198, 08 6056 9555 เกาะกูด จังหวัดตราด.เกาะกูดขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลที่ใสเป็นประกาย และมีหาดสวยๆ หลายหาด เช่น หาดคลองเจ้า หาดง่ามโข่ หาดคลองระหาน อ่าวบางเบ้า และอ่าวยายกี๋ เป็นต้น จนได้รับฉายาว่า ทะเลอันดามันแห่งภาคตะวันออก บนเกาะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งการพายเรือคายัค พายแพดเดิ้ลบอร์ด การดำน้ำดูปะการัง ซึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปดำน้ำคือ บริเวณเกาะแรด และหมู่เกาะรัง เพราะเป็นจุดที่มีปะการังสวย และมีปลาหลายชนิด.การเดินทาง ขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมศอก ไปยังท่าเรืออ่าวสลัด เกาะกูด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง 15 นาที (ขึ้นอยู่กับประเภทเรือ) เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี.เกาะแสมสารเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอสัตหีบ เป็นทะเลฝั่งอ่าวไทยที่สวยไม่แพ้ฝั่งอันดามันเลยทีเดียว เราสามารถเที่ยวเกาะแสมสารแบบ One day trip ได้ และเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หาดที่เปิดให้เที่ยวชมมีอยู่ 2 หาด คือ หาดเทียน และหาดลูกลม ซึ่งมีจุดดำน้ำที่สวยงาม ปะการังหลากสีสัน และหาดทรายสีขาวนวล ที่นี่ไม่อนุญาตให้พักค้าง แต่มีร้านขายขนมและแครื่องดื่มให้บริการ.การเดินทาง ซื้อตั๋วได้ที่อาคารต้อนรับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย (ไม่มีบริการจองตั๋วล่วงหน้า) ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งไปยังเกาะแสมสารประมาณ 30 นาที.รอบเรือไปเกาะแสมสาร09.00 / 10.00 / 11.00 / 12.00 และ 13.00 น.รอบเรือเที่ยวกลับ11.30 / 12.30 / 13.30 / 15.30 และ 16.00 น..สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมฝ่ายประชาสัมพันธ์เกาะแสมสาร โทร. 0 3843 2475 เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี.เกาะสีชังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิค บรรยากาศดี และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เพราะเป็นสถานที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6.ไปถึงเกาะสีชังต้องไปถ่ายรูปตรงสะพานอัษฎางค์ สะพานไม้สีขาวที่ทอดยาวไปในทะเล ถ้าใครพักค้างคืนที่เกาะสีชัง อย่าลืมมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สะพานอัษฎางค์กันนะ โรแมนติกสุด ๆ.นอกจากสะพานอัษฎางค์แล้ว บนเกาะสีชังยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น – ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นถ้ำที่ดัดแปลงมาเป็นศาลเจ้า ผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยจีนเข้าด้วยกัน จากบริเวณศาลสามารถมองเห็นทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้อย่างชัดเจน – ช่องอิศริยาภรณ์ (ช่องเขาขาด) อดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่

7 พิกัดเกาะสวย ทะเลตะวันออก อ่านเพิ่มเติม

ชวนมา Slowlife ที่อุทัยธานี

เมื่อพูดถึงจังหวัดอุทัยธานี หลายคนก็จะแบบ…เอ๊ะ! อุทัยธานีมีอะไรให้เที่ยวด้วยหรอ? เเต่ความจริงเเล้วที่อุทัยธานีมีที่เที่ยวเยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ชุมชนนวัตวิถี วัดวาอารามต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งความสโลว์ไลฟ์ชั้นดีเลยทีเดียว สามารถมาปั่นจักรยานชิลล์ ๆ ริมแม่น้ำสะแกกรัง หรือจะปั่นไปเที่ยวรอบเกาะเทโพ ดูวิถีชีวิตชุมชนชาวแพที่เป็นเอกลักษณ์ของอุทัยธานี เรื่องอาหารการกินก็มีเสน่ห์ มีร้านขนมปังสังขยาเจ้าดั้งเดิมที่อร่อยมาก ๆ ปลาเค็มย่างสูตรเด็ด รวมถึงปลาส้มที่รสชาติไม่เหมือนใคร หืม เปรี้ยวปาก! วันนี้แอดมินจะพาไปรู้จัก 10 จุดเช็คอินห้ามพลาด เมื่อมาเยือนเมืองอุทัยธานี เริ่ม!!! #อุทัยธานี #slowlife #เที่ยวไทยแบบการ์ดไม่ตก วัดจันทาราม หรือวัดท่าซุง เป็นวัดเก่าเเก่ของจังหวัดอุทัยธานีมีความสวยงามมาก เอกลักษณ์ของวัดนี้คือมีพระวิหารเเก้วซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราชจำลอง เเละสังขารของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อย.พิกัด: https://goo.gl/maps/qFM1DZ8WquBxXcvL9เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น. ภายในพระวิหารแก้ว ถนนคนเดินตรอกโรงยา สถานที่ที่สะท้อนเรื่องราวเเละความเป็นมาของจังหวัดอุทัยธานี มีบ้านไม้เก่าแก่สุดคลาสสิคที่ถูกปรับปรุงให้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ต่าง ๆ ในตอนเย็นจะมีร้านอาหารทั้งคาวเเละหวาน ขนมโบราณ เเละของที่ระลึกน่ารัก ๆ สำหรับซื้อไปเป็นของฝากได้. พิกัด https://goo.gl/maps/qM7MYV4nffBkyC2TA เปิดวันเสาร์ เวลา 15.00-20.00 น. เขาสะแกกรัง แต่เดิมเรียกกันว่าเขาแก้ว เป็นที่ตั้งของวัดสังกัสรัตนคีรี บนยอดเขาสามารถจุดชมวิวเมืองอุทัยธานีได้ และมีศาสนสถานหลายแห่ง ทั้งวิหารพระพุทธรูปสำคัญ วิหารพระบรมสารีริกธาตุ ศาลเจ้าจีน นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ด้านหน้ามีระฆังใบใหญ่ที่พระปลัดใจ ที่ชาวอุทัยธานีร่วมกันสร้าง ถือกันว่าเป็น ระฆังศักดิ์สิทธิ์ใครมาแล้วต้องตีเพื่อความเป็นสิริมงคล.พิกัด https://goo.gl/maps/HTejDV288RPrWAMG9เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. ในปัจจุบันวิถีชีวิตริมแม่น้ำสะแกกรังยังมีการคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของวิถีชีวิตแบบชุนชนชาวแพ สองข้างของแม่น้ำสะแกกรังเต็มไปด้วยบ้านเรือนแพทอดยาวไปตามแนวโค้งของแม่น้ำ สามารถเดินชมวิถีชีวิตชาวแพได้ หรือใช้บริการเรือนำเที่ยวชมวิถีชีวิตริมน้ำซึ่งท่าเรือจะตั้งอยู่บริเวณตลาดสดเทศบาล หรือจะไปปั่นจักรยานชิลล์ ๆ ชมนกชมไม้.พิกัด https://goo.gl/maps/DPikbQi9gcFZZKuf7เปิดให้เข้าชมทุกวัน ชุมชนชาวแพตลอดริมสองฝั่งของแม่น้ำสะแกกรัง วัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ เป็นวัดเก่าแก่ริมแม่น้ำสะแกกรัง ภายในโบสถ์เเละวิหารมีจิตรกรรมฝาผนังในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เเละมีมณฑปทรงแปดเหลี่ยมทลักษณะคล้ายสถาปัตยกรรมตะวันตก ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความสวยงามมาก ๆ.พิกัด https://goo.gl/maps/Hyne4hQSRfeZ1X3XAเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น. หุบป่าตาด ดินแดนดึกดำบรรพ์ สถานที่ Unseen ของจังหวัดอุทัยธานี หุบป่าตาดมีลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ มีหินงอก หินย้อย ภายในคือผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นตาดและพืชพันธุ์โบราณแปลกตา ขึ้นปกคลุมตลอดเส้นทางเดิน เเละยังมีกิ้งกือมังกรสีชมพู ที่หาชมได้ยากมาก ๆ เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจศึกษาเส้นทางธรรมชาติ.พิกัด https://goo.gl/maps/CipzWLN1tKKjQpvd6เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. บ้านชายเขา สวิสเซอร์แลน์เมืองไทย บ้านชายเขา แหล่งทางเที่ยวเปิดใหม่ของอุทัยธานี อยู่ห่างจากหุบป่าตาดเพียง 2 กิโลเมตร เราจะได้เห็นวิวภูเขาหินปูนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ล้อมรอบเราไว้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ที่มีทั้ง อาหารจานเดียว ส้มตำ ลาบหมู น้ำตก ไว้บริการอีกด้วย.พิกัด https://goo.gl/maps/6sF2uws7j416Wm2d9เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. ต้นไม้ยักษ์อายุหลายร้อยปี ต้นไม้ต้นนี้อยู่ที่ชุมชนบ้านสะนำ ชาวบ้านเรียกว่าต้นผึ้งหรือต้นเชียง ซึ่งคุณลุงเจ้าของบอกว่า จะอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชมกัน ระหว่างทางเดินเข้าไปจะมีร้านค้าของชาวบ้าน นำสินค้าชุมชนมาขาย ถือเป็นอีกนึงจุดเช็คอินที่มีความน่าสนใจ สามารถหามุมถ่ายรูปแบบชิค ๆ ได้เยอะมาก.พิกัด https://goo.gl/maps/aGhZfAigUVVZwifd7เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.  ตลาดซาวไฮ่ แหล่งรวมสินค้าชุมชนราคาถูก ทั้งผักสดพื้นบ้าน ขนมโบราณ ผ้าทอ เครื่องจักสาน เสื้อผ้า งานคราฟท์ มัดย้อมต่าง ๆ ให้ผู้ที่มาเยือนได้เลือกซื้อ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็น่ารักมาก ๆ เป็นกันเองสุด ๆ บอกได้เลยว่าของเขาดีจริง ๆ.พิกัด https://goo.gl/maps/cJx2Ffs4EruxWfZb7เปิดให้เข้าชมวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น.  วัดถ้ำเขาวง วัดนี้ถือเป็น Unseen ของอุทัยธานีอีกที่ วัดถ้ำเขาวงมีลักษณะเป็นเรีอนไทยประยุกต์สวยงาม สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตัววัดตั้งอยู่ติดริมเขา ด้านหลังเป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ นอกจากนี้หน้าวัดยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ และมีสะพานข้าม มีจุดนั่งและยืนชมวิวที่สามารถมองเห็นตัววัดได้จากสะพานกลายเป็นภาพที่งดงาม.พิกัด https://goo.gl/maps/iqaYz1mFtJkB6dk76เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น. หากเพื่อน ๆ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถ Scan QR Code นี้ เพื่อดู E-Book ของจังหวัดอุทัยธานีได้เลย หรือดาวน์โหลดได้ที่ E-Book อุทัยธานี: https://bit.ly/3pA1l0Q

ชวนมา Slowlife ที่อุทัยธานี อ่านเพิ่มเติม

สุขใจใกล้กรุง เที่ยวอ่างทอง-สิงห์บุรี 2 วัน 1 คืน

ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวใกล้กรุง แอดอยากชวนให้ไปเที่ยวจังหวัดอ่างทองและสิงห์บุรี เพราะเดินทางง่าย ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว . หลายคนอาจคิดว่าสองจังหวัดนี้มีแต่วัดให้เที่ยว แอดไม่เถียงค่ะ ก็มีวัดเยอะจริง ๆ ด้วย แต่วัดของอ่างทองและสิงห์บุรีเป็นวัดที่สวยงามน่าเที่ยว และยังเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาชนิดที่ใคร ๆ ต่างก็เดินทางไปขอพรกันนะคะ แต่ทริปนี้เราไม่ได้เที่ยวแต่วัดแน่นอน เพราะแอดมีตลาดย้อนยุคเก๋ ๆ กับคาเฟ่น่ารัก ๆ มาเอาใจสายกินกันด้วย #TravelLikeaLocal อ่างทอง1. บ้านหุ่นเหล็ก2. พิพิธภัณฑ์ตำนานเมืองอ่างทอง3. วัดม่วง4. ตลาดศาลเจ้าโรงทอง5. อินทร์โตฟาร์ม สิงห์บุรี6. Inkit Cafe Analog7. อุทยานวีรชนค่ายบางระจัน8. ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน9. วัดพิกุลทอง วันที่ 1.บ้านหุ่นเหล็ก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของ คุณไพโรจน์ ถนอมวงษ์ ที่นำเศษเหล็กและอะไหล่รถยนต์เก่า ๆ มาประดิษฐ์เป็นประติมากรรมหุ่นยนต์หลายแบบจนโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ เมื่อเข้าไปด้านในบ้านหุ่นเหล็กจะพบกับอาณาจักรหุ่นยนต์และสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ไม่ว่าเป็น หุ่นยนต์ซุปเปอร์ฮีโร่จากภาพยนตร์ดังอย่าง ไอรอนแมน ฮัลค์ สไปเดอร์แมน หุ่นทรานส์ฟอเมอร์ส กันดั้ม และยังมีหุ่นสัตว์ประหลาด รถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ ยานอวกาศ สัตว์ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ เป็นความคิดและฝีมือการประดิษฐ์ที่น่าทึ่งมาก ๆ.ที่ตั้ง: 41/2 หมู่ 6 ตำบลตลาดกรวด อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทองพิกัด: https://goo.gl/maps/hhvXzsxyqLwcNJ9p9 เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.โทร. 08 1339 3345 พิพิธภัณฑ์ตำนานเมืองอ่างทอง ถ้าอยากรู้จักอ่างทองให้มากขึ้น แอดขอแนะนำพิพิธภัณฑ์ตำนานเมืองอ่างทองค่ะ เป็นทางลัดที่จะทำความรู้จักได้ในเวลาแสนสั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ ตำนานในแง่มุมต่าง ๆ ประวัติบุคคลสำคัญของจังหวัด ศิลปวัฒนธรรม เทศกาลงานประเพณี และอาหารการกินของเมืองอ่างทอง. ที่ตั้ง: ถ.อยุธยา-อ่างทอง ต.บางแก้ว อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทองพิกัด: https://goo.gl/maps/95YP6oU2TyQV4GP86เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.โทร. 0 3561 1484 จากอำเภอเมืองอ่างทอง เราไปเที่ยวต่อกันที่อำเภอวิเศษชัยชาญ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที.วัดม่วง เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ นามว่า พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามความเชื่อ ถ้าใครอยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ให้มาขอพรและสัมผัสที่ปลายพระหัตถ์หลวงพ่อใหญ่ สักการะหลวงพ่อใหญ่แล้ว อย่าลืมชมความสวยงามส่วนอื่น ๆ ของวัด เช่น อุโบสถที่ล้อมรอบไปด้วยกลีบดอกบัวปูนปั้นขนาดยักษ์ วิหารแก้วที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อเงิน” พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่สร้างด้วยเนื้อเงินแท้ และสวนรูปปั้นที่จำลองภาพของนรกภูมิ เป็นต้น.ที่ตั้ง: ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทองพิกัด: https://goo.gl/maps/U2zrBfGxTG7DqQJK7 ไปหาของกินอร่อย ๆ กันดีกว่า มาถึงอำเภอวิเศษชัยชาญทั้งที ต้องไปเดินตลาดเก่าวิเศษชัยชาญ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ตลาดศาลเจ้าโรงทอง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย ที่นี่เป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมอาหารคาวหวานที่สายกินต้องถูกใจอย่างแน่นอน.แอดขอพาไปชิมขนมไทยกันก่อน ที่นี่มีร้านขายขนมเยอะมาก เมื่อมาถึงตลาดนี้ ต้องมาชิมขนมเกสรลำเจียก ขนมขึ้นชื่อของจังหวัดอ่างทอง นอกจากนี้ยังมีขนมบ้าบิ่น ขนมลูกเต๋า ขนมไข่ปลาโบราณ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และอีกสารพัดขนมที่แอดบรรยายได้ไม่หมด อยากให้เพื่อน ๆ ไปชิมด้วยตัวเองจะดีกว่า.ทางฝั่งของอาหารคาวก็ไม่น้อยหน้า มีร้านอาหารที่ต้องห้ามพลาดคือ ร้านป้าแสง ก๋วยเตี๋ยวโต๊ะเดียว เป็นร้านบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงรสเด็ด ที่คนต่อแถวยาวววว และด้วยความที่ทั้งร้านมีโต๊ะเพียงโต๊ะเดียว ดังนั้นถ้าใครอยากลิ้มรสความอร่อย ต้องอดใจรอกันหน่อยนะคะ.ที่ตั้ง: ซ.วัดนางใน ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทองพิกัด: https://goo.gl/maps/YP8oeGvao3FGdaUQ6เปิดทุกวัน เวลา 04.00-16.00 น. เราเดินหน้าตามหาของกินกันต่อที่ อินทร์โตฟาร์ม ฟาร์มเมล่อนบรรยากาศสุดชิล มีแปลงเมล่อนญี่ปุ่นหลายสายพันธุ์กว่า 40 โรงเรือน มีสวนดอกไม้น่ารัก ๆ ให้ถ่ายรูป.ที่ตั้ง: 5/9 หมู่ 1ต.ศรีพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง พิกัด:  https://goo.gl/maps/HjhgUJ9DDQh4p5ZG7เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.30 น.โทร. 08 2649 7929 นอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว อาหารก็อร่อยไม่แพ้กัน เกือบทุกเมนูจะมีเมล่อนเป็นส่วนประกอบ เช่น เค้กเมล่อน บิงซูเมล่อน ไอศกรีมเมล่อน สลัดกุ้งทอดเมล่อน และยำเมล่อน เป็นต้นขอบอกเลยว่าเมล่อนของที่นี่หอมหวานจนต้องหิ้วกลับบ้านไปทานต่อ สัก 2-3 ลูกเลยค่ะ.ขอบคุณรูปภาพจาก ร้านอินทร์โตฟาร์ม หลังจากเที่ยวจังหวัดอ่างทองกันอย่างสนุกสนานแล้ว ก่อนจะไปเที่ยวต่อที่จังหวัดติด ๆ กันอย่างสิงห์บุรี เราจะมานอนพักค้างคืนกันก่อนที่ตัวเมืองสิงห์บุรี เพราะมีที่พักให้เลือกหลากหลาย ใช้เวลาเดินทางจากจังหวัดอ่างทองประมาณ 30 นาทีค่ะ วันที่ 2 สวัสดีวันที่ 2 ที่สิงห์บุรีค่ะ กินอาหารเช้าแล้วก็ขอเอาใจคอกาแฟกันสักหน่อยด้วยการพาไปที่ร้าน Inkit Café Analog ร้านกาแฟเล็ก ๆ สไตล์วินเทจที่พิถีพิถันในการชงกาแฟ เมื่อเข้าไปในร้านเราจะได้กลิ่นหอมอบอวลของกาแฟ พร้อมเสียงเพลงย้อนยุคที่คลอเบา ๆ ทางร้านใช้กาแฟสายพันธุ์ไทยเป็นหลัก และมีหลายชนิดให้เลือก แถมเจ้าของร้านคั่วเองกับมือ เพื่อน ๆ อยากดื่มกาแฟดริป กาแฟ cold brew กาแฟคั่วอ่อน หรือคั่วกลาง ที่นี่มีให้ชิมแน่นอน.ที่ตั้ง: 255/7 ถ.ธรรมโชติ ต.บางพุทรา อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรีพิกัด: https://goo.gl/maps/Rt5r3horpNGEb3DQ9เปิดทุกวัน เวลา 10.00-16.00 น.โทร. 08 9459 4009.ขอบคุณรูปภาพจาก ร้าน Inkit Café Analog พูดถึงจังหวัดสิงห์บุรี เราก็นึกถึงชาวบ้านบางระจันขึ้นมาทันที ในอดีต

สุขใจใกล้กรุง เที่ยวอ่างทอง-สิงห์บุรี 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

ยลวิถีเมืองลำพูน 2 วัน 1 คืน

จังหวัดลำพูน เมืองเล็ก ๆ ทางภาคเหนือที่หลายคนมองว่าเป็นเมืองทางผ่าน และถูกมองข้ามเสมอ แต่จริง ๆ แล้ว ลำพูนเป็นเมืองน่าสนใจที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งรอให้ทุกคนไปสัมผัสความสวยงามอยู่ . วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปแอ่วลำพูน ชมวัดวาอารามสวย ๆ และสัมผัสวิถีชีวิตผู้คน แบบ 2 วัน 1 คืน รับรองว่าทุกคนจะตกหลุมรักลำพูนอย่างแน่นอนค่ะ . เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อาจทำให้เพื่อน ๆ เดินทางไปเที่ยวไม่สะดวก หากสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว อย่าลืมออกมาเที่ยวเมืองไทยกันนะคะ #TravelLikeaLocal . อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย และพกเจลล้างมือทุกครั้งที่ออกเดินทาง วันที่ 11. พระบรมราชานุสาวรีย์พระนางจามเทวี2. พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน3. วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร4. ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นน้ำลำไย5. กาดขัวมุงท่าสิงห์6. หอศิลป์ “อุทยานธรรมะ”.วันที่ 27. วัดพระพุทธบาทผาหนาม 8. ชุมชนบ้านพระบาทห้วยต้ม พระบรมราชานุสาวรีย์พระนางจามเทวี.ทริปนี้เริ่มกันที่อำเภอเมือง แอดจะพาทุกคนไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระนางจามเทวีกันก่อนจังหวัดลำพูนเดิมมีชื่อว่า “นครหริภุญชัย” มีอายุประมาณ 1,300 ปี เป็นรัฐอิสระในแถบลุ่มแม่น้ำปิง ต่อมาถูกรวมเข้ากับอาณาจักรล้านนา และกลายเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรไทยจนถึงปัจจุบัน กษัตริย์พระองค์แรกของนครหริภุญชัยคือ พระนางจามเทวี พระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี กษัตรีผู้มีคุณธรรม มีความสามารถทั้งในการปกครอง และการรบ มีความเด็ดขาดและกล้าหาญ ทั้งยังเป็นผู้อุปถัมภ์พุทธศาสนาจนมีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ฉากหลังของพระบรมราชานุสาวรีย์เป็นซุ้มโคปุระดินเผา มีภาพประติมากรรมนูนต่ำเล่าประวัติความเป็นมาของเมืองลำพูน ตั้งแต่การสร้างเมือง จนถึงยุคการปกครองของเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ ในปี พ.ศ. 2486. ที่ตั้ง: ถ.รอบเมืองใน อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมือง .เดิมคือคุ้มเจ้าราชสัมพันธวงศ์ พระอนุชาของเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 10 สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2455 พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยแห่งนี้จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดลำพูน ในแบบที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีตอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงประวัติคุ้มเจ้าราชสัมพันธ์วงษ์ แผนที่พัฒนาการของเมืองลำพูน ภาพถ่ายวิถีชีวิตผู้คนและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ การจำลองโรงภาพยนตร์เก่าที่เคยเป็นที่นิยมอย่าง “หริภุญชัยรามา” และจำลองบรรยากาศโรงแรมศรีลำพูน โรงแรมแห่งแรกของเมืองลำพูน .ที่ตั้ง: ซ.วังซ้าย อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูนพิกัด: https://goo.gl/maps/kARoxnYFo96wtEqb8  เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น.โทร. 0 5351 4500 วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร .เป็นพระอารามหลวง ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวลำพูน สร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 ภายในวัดมีพระบรมธาตุหริภุญชัย ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และมีวิหารหลวงที่ประดิษฐาน “พระมหามุนีศรีหริภุญชัย” พระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นองค์พระประธาน  วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ถือเป็นวัดประจำปีระกา ใครที่เกิดปีระกาต้องมาสักการะเสริมความเป็นสิริมงคลให้ได้เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้แก่ ซุ้มประตู หอธรรม หอระฆัง และสุวรรณเจดีย์หรือปทุมวเจดีย์ ที่มีความเก่าแก่และสวยงามตามแบบศิลปะล้านนา จนต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง.ที่ตั้ง: ถ.รอบเมืองใน อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นน้ำลำไย (บ้านเวียงยอง) .พักเติมพลังที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นน้ำลำไย (บ้านเวียงยอง) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร แค่เดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำกวงที่อยู่หน้าวัดก็ถึงแล้ว ลำไยถือเป็นของดีประจำจังหวัดลำพูน ทางร้านนำเนื้อลำไยอบแห้งมาตุ๋นกับน้ำซุป จนได้รสชาติหวานกลมกล่อม มีกลิ่นหอมลำไยอ่อน ๆ ยิ่งกินคู่กับหมูตุ๋นนุ่ม ๆ ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก ถือเป็นเมนูห้ามพลาดเมื่อไปเที่ยวจังหวัดลำพูนเลยค่ะ.ที่ตั้ง: ถ.ลำพูน-ป่าซาง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูนพิกัด: https://goo.gl/maps/s1ZqQPqkehh1yMH66เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 15.00 น.โทร. 08 7549 2229.ขอบคุณรูปภาพจากร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นน้ำลำไย (บ้านเวียงยอง) กาดขัวมุงท่าสิงห์.ถ้าอิ่มแล้ว แอดจะพาไปละลายทรัพย์กันที่กาดขัวมุงท่าสิงห์ ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่น ตั้งอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำ กวง มุงหลังคากระเบื้องดินเผาและตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านนา สินค้าที่วางขายในตลาดมีมากมาย ทั้งอาหาร ขนม ของฝาก รวมถึงเครื่องประดับและผ้าทอของกลุ่มแม่บ้านจากอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดลำพูน ใครไปเดินตลาดนี้แล้วไม่เสียเงินสักบาท เรียกได้ว่าเป็นคนจิตแข็งมากพอสมควร.ที่ตั้ง: ถ.รอบเมืองใน อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูนพิกัด: https://goo.gl/maps/PkGJGDaWAogEyduu5เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น. ก่อนจบทริปท่องเที่ยวในวันแรก เราแวะไปเสพงานศิลป์กันที่ หอศิลป์ “อุทยานธรรมะ” (The Dhamma Park Gallery) ของอ.อินสนธิ์ วงศ์สาม ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (วิจิตรศิลป์) ประติมากรรม ผู้มีประสบการณ์ด้านงานศิลปะมายาวนาน ฝีมือของท่านเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ.หอศิลป์อุทยานธรรมะ เป็นสวนร่มรื่น จัดแสดงงานประติมากรรม จิตรกรรมที่สอดแทรกเรื่องราวพระพุทธศาสนาและสัจธรรมชีวิตที่ดูแล้วเข้าใจง่าย และสนุกสนาน กว่า 500 ชิ้น นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ชุมชนในท้องถิ่นด้านอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีการสาธิตการปั่นฝ้าย ย้อมสี ทอผ้า และการทำบ้านดินอีกด้วย.ที่ตั้ง: 109/2 หมู่ 1 บ้านป่าซางน้อย ต.บ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูนพิกัด: https://goo.gl/maps/wcwXSVyFevKKhYgA6เปิดวันพุธ-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-16.00 น.โทร. 092 263 6121.ขอบคุณรูปภาพจาก หอศิลป์ “อุทยานธรรมะ” วันแรกของการท่องเที่ยวจังหวัดลำพูนก็จบลงไปแล้ว ที่พักในค่ำคืนนี้ของเราอยู่ที่อำเภอลี้ อำเภอที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาและอยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว แนะนำว่าอย่าออกจากตัวเมืองเย็นมากนะคะ วันที่สองนี้เราต้องตื่นเช้ากันหน่อย เพื่อไปชมวิวทะเลหมอกและแสงแรกของวันที่วัดพระพุทธบาทผาหนาม วัดพระพุทธบาทผาหนาม ตั้งอยู่บนดอยผาหนาม มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก และเมืองลี้แบบ 360 องศา การขึ้นไปชมวิวบนยอดดอยมี 2 วิธีคือ เดินขึ้นบันไดนาค 432 ขั้นมาจากด้านล่าง หรือขับรถขึ้นไปจอดใกล้ ๆ จุดชมวิว โดยทางขึ้นจะอยู่ด้านข้างวัด เป็นถนนลูกรังและค่อนข้างแคบ ต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง แอดแนะนำให้ขึ้นมารอตั้งแต่เวลา 05.30-06.00 น. จะได้ไม่พลาดวิวสวย ๆ นะคะ

ยลวิถีเมืองลำพูน 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

Songkhla Street Art

Songkhla Street Art.เพื่อนๆ น่าจะเคยเห็น Street Art กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับวันนี้แอดจะชวนเพื่อนๆ มาเดินชม Street Art แถวย่านเมืองเก่าสงขลากัน เมืองเก่าสงขลาเป็นชุมชนเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ ทั้งห้องแถวไม้แบบจีนและตึกเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีส (Sino-Portuguese) เดิมย่านเมืองเก่ามีถนน 2 สาย คือ “ถนนนครนอก” เป็นถนนเส้นนอกที่ติดกับทะเลสาบสงขลา และ “ถนนนครใน” เป็นถนนเส้นในที่ขนานกับถนนนครนอก ต่อมามีการตัดถนนอีกสายหนึ่งคือ “ถนนนางงาม” ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งรวมร้านอาหารต่างๆ มากมาย ในอดีตย่านนี้เป็นย่านการค้าที่คึกคัก เพราะเป็นจุดจอดเรือประมงและเรือสินค้าที่เข้ามาค้าขายนั่นเอง อาคารบ้านเรือนแถบนี้มีอายุยาวนานกว่าร้อยปี มีทั้งห้องแถวไม้แบบจีนชั้นเดียวและสองชั้น บ้างก็เป็นตึกแถวก่ออิฐถือปูน นอกจากความสวยงามของสถาปัตยกรรมในย่านเมืองเก่าแล้ว เรายังสามารถเพลิดเพลินกับ Street Art ตามผนังบ้านหรืออาคารต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่ บอกเลยว่าเดินถ่ายรูปเพลินสุดๆ ภาพเด็ก 3 เชื้อชาติ ไทย จีน และมุสลิม เป็นตัวแทนคน 3 เชื้อชาติที่มาอยู่รวมกันที่นี่ ภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านในสมัยก่อน  ภาพสุดคลาสสิกที่ใครมาก็ต้องห้ามพลาดชม กับภาพอาแปะเปิดประตูยื่นหมวกกันน็อค แอดบอกเลยว่าแต่ละภาพมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สวยงามมากๆ Street Art ย่านเมืองเก่าสงขลายังมีอีกมากมายหลายจุด ซึ่งเราสามารถเดินชมความสวยงาม ความเท่ และความฮิปกันได้เพลินๆ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 30 ธันวาคม 2562

Songkhla Street Art อ่านเพิ่มเติม

“ชุมชนบ้านบางหมาก” จังหวัดชุมพร

ทำไมแอดถึงแนะนำให้เพื่อนๆ มาเที่ยวที่ “ชุมชนบ้านบางหมาก” จังหวัดชุมพร นั่นก็เพราะที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงาม เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนเป็นที่สุด.แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเงียบเหงาเกินจนไป เพราะที่นี่มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้เราได้ชมและได้ลองทำดูด้วยค่ะ กิจกรรมอย่างแรกเลยก็คือ “ชมการสาธิตสอนลิงปีนต้นมะพร้าว” จริงอยู่ที่ปกติแล้วลิงสามารถปีนต้นไม้ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่หากจะให้เจ้าจ๋อช่วยเราเก็บลูกมะพร้าวให้นั้นก็ต้องมีการฝึกฝนกันบ้าง ชุมชนบ้านบางหมากเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยต้นมะพร้าวมากมาย ดังนั้นเจ้าจ๋อจึงเป็นตัวช่วยที่ดีเลยทีเดียวค่ะ โดยปกติแล้วชาวบ้านมักจะใช้เวลาว่างในช่วงหลังเลิกงานตอนเย็นมาฝึกสอนเจ้าจ๋อ หากเพื่อนๆ สนใจก็สามารถไปชมได้นะคะ ***ชมฟรี*** ต่อมาคือ “การล่องเรือชมธรรมชาติ” ใช้เวลาล่องประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเรือจะล่องไปจนถึงปากแม่น้ำและวนกลับมาที่จุดเดิม ระหว่างทางเราจะได้ชมธรรมชาติ วัดที่อยู่ริมแม่น้ำ รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนอีกด้วยค่ะ.หากเพื่อนๆ สนใจต้องโทรจองล่วงหน้าที่คุณเอก โทร. 087 884 9136 หรือคุณปุ๊ โทร. 081 607 6552 ค่ะ ค่าใช้จ่ายคนละ 250 บาท ปล.ต้องมีผู้โดยสารตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปนะคะ ระหว่างล่องเรือเราอาจจะได้เห็นชาวบ้านกำลังตกกุ้ง และถ้าเพื่อนๆ อยากลองทำบ้าง แอดก็ขอบอกว่าฝันของคุณเป็นจริงแล้วค่ะ เพราะที่นี่เค้ามี “กิจกรรมตกกุ้งกับชาวบ้าน” ด้วย.ค่าทำกิจกรรมคนละ 500 บาท ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงค่ะ ต่อมาคือ “การชมสาธิตการทำขนมหวาน” เช่น ขนมถ้วย ขนมต้มคลุก ขนมหัวล้าน เป็นต้น ชมฟรีเด้อจะบอกให้ และที่สำคัญหากเพื่อนๆ ติดใจก็สามารถซื้อกลับบ้านได้ด้วยนะ  คอกาแฟเชิญทางนี้เลยค่ะ เพราะที่นี่เค้ามีกิจกรรม workshop กาแฟให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการชิมกาแฟ ชงกาแฟ รวมไปถึงเรียนรู้เรื่องของกาแฟอย่างลึกซึ้งอีกด้วย .สำหรับกิจกรรมนี้เพื่อนๆ สามารถทำได้ที่ Villa Varich Resort ค่าทำกิจกรรมคนละ 700 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งจะมี 2 รอบคือ 10.30-12.30 น. และ 14.00-16.00 น. แต่ไม่ได้มีทุกวันนะคะ แนะนำให้โทรสอบถามล่วงหน้าที่ โทร. 081 543 0344 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 26 ธันวาคม 2562

“ชุมชนบ้านบางหมาก” จังหวัดชุมพร อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวม่วนใจ…ไปม่อนแจ่ม

เที่ยวม่วนใจ…ไปม่อนแจ่ม 2 วัน 1 คืน.– ไร่ดอกลมหนาว– ภูเก็บตะวัน– เล่นล้อเลื่อนไม้– ไร่ภูผาร่มเย็น ไร่ดอกลมหนาว.สถานที่แรกที่เราเลือกมาก็คือ “ไร่ดอกลมหนาว” นั่นเองจ้า ที่นี่เป็นสวนดอกไม้สีม่วงอมชมพู นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาชื่นชมความสวยงาม ถ่ายรูป และเช็คอินกันเป็นจำนวนมาก สำหรับชื่อ “ดอกลมหนาว” นั้น อันที่จริงแล้วไม่ใช่ชื่อดอกไม้แต่อย่างใด เพราะเจ้าดอกไม้ชนิดนี้มีชื่อว่า “ดอกเวอร์บีน่า” นั่นเองค่ะ . ไร่ดอกลมหนาว ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.30 น.ค่าเข้า 20 บาท/คน ภูเก็บตะวัน.สถานที่ต่อมาคือ “ภูเก็บตะวัน” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับไร่ดอกลมหนาว สามารถเดินถึงกันได้ ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด นอกจากนี้ยังมีลานสำหรับชมวิวในมุมสูงอีกด้วยค่ะ.ภูเก็บตะวัน ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.30 น.ค่าเข้า 20 บาท/คน เล่นล้อเลื่อนไม้.หลังจากที่เราได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามกันไปแล้ว แอดว่าเรามาหากิจกรรมสนุกๆ ตื่นเต้นและแปลกใหม่ทำกันดีกว่า กิจกรรมที่ว่านั้นก็คือ “การเล่นล้อเลื่อนไม้” หรือที่เรารู้จักกันในอีกชื่อนึงว่า “ฟอร์มูล่าม้ง” นั่นเอง.ล้อเลื่อนไม้ ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 17.30 น.บัตรสำหรับ 1 คน ราคา 50 บาท/คัน บัตรสำหรับ 2 คน ราคา 80 บาท/คัน ไร่ภูผาร่มเย็น.มาเที่ยวม่อนแจ่มทั้งที ก็ต้องหาที่พักให้สวยสมกับบรรยากาศสักหน่อย ซึ่งก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย แต่สำหรับที่พักที่แอดเลือกในวันนี้ก็คือ “ไร่ภูผาร่มเย็น”.ทำไมถึงต้องเป็นที่นี่? อย่างแรกเลยก็คือได้นอนเต็นท์กระโจมหลังสีขาวแบบในฝัน สองคือมีไฟฟ้าให้ใช้ตลอด สามคือมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และสุดท้ายคือมีห้องน้ำในตัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย .ไร่ภูผาร่มเย็น ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่กระโจมขาวพัก 2 คน ราคา 2,200 บาท เสริมได้ 1 คน เพิ่ม 300 บาท (ราคารวมอาหารเช้า)โทร. 093 154 8691, 082 860 4919 การที่เราได้มานอนกางเต็นท์ที่แม้จะไม่ได้กางเอง เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศที่หนาวเย็นนั้น แอดเชื่อว่าคงทำให้หลายคนนึกอยากทานหมูกระทะขึ้นมาอย่างแน่นอน .จะรอช้าอยู่ไย สั่งมาทานกันดีกว่า เพราะที่นี่เค้ามีหมูกระทะไว้บริการด้วย ราคาชุดละ 450 บาทเท่านั้น  พอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน แต่อดทนไว้ก่อน อย่าเพิ่งหลับนะคะ ไม่เช่นนั้นเราจะพลาดกับอีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญ ซึ่งก็คือ “การนอนดูดาว” นั่นเองค่ะ กลางคืนนอนดูดาว ตื่นเช้ามาก็ต้องชมทะเลหมอกสิคะ ทริปนี้ถึงจะฟินและครบรสอย่างที่เราต้องการ ซึ่งแอดไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆ ก็อยากมาสัมผัสกับอากาศหนาวและชมทะเลหมอกที่ม่อนแจ่ม เพราะมันดีย์มาก สวยมาก จนแอดไม่อยากกลับเลยทีเดียว .และหลังจากที่ชื่นชมทะเลหมอกกันจนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ก็อย่าลืมไปทานข้าวต้มร้อนๆ ให้อิ่มท้อง ก่อนที่จะเดินทางกลับกันด้วยนะคะ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 25 ธันวาคม 2562

เที่ยวม่วนใจ…ไปม่อนแจ่ม อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top