สถานที่ท่องเที่ยว

ลัดเลาะริมทะเล ชลบุรี-ระยอง 2 วัน 1 คืน

วันที่ 1– จุดชมวิวเขาสามมุข– ร้าน Red Temp Coffee– จุดชมวิวเขาพระตำหนัก– หาดนางรำ-หาดนางรอง วันที่ 2– พระเจดีย์กลางน้ำ– จุดชมวิวเขาแหลมหญ้า– ตลาดบ้านเพ วันที่ 1จุดชมวิวเขาสามมุข จุดชมวิวเขาสามมุขมีลักษณะเป็นทางเดินริมถนนเลียบทะเล เริ่มตั้งแต่บริเวณโรงแรมสามมุขรีสอร์ท ยาวไปจนถึงศาลเจ้าแม่สามมุขจีน ประกอบด้วยจุดชมวิว จุดถ่ายรูป ที่นั่งพักผ่อน และพื้นที่ออกกำลังกาย เป็นต้น ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของบางแสน แต่จริง ๆ แล้วจุดชมวิวเขาสามมุขมีมานานแล้วค่ะ เพียงแต่ปรับโฉมใหม่ให้กว้างขวางและเก๋ไก๋ขึ้น มีการทำทางเดินเป็นอุโมงค์ตัวอักษรที่เขียนว่า “Bangsaen Kaosammuk” บอกเลยว่าดูสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ.ที่ตั้ง ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ร้าน Red Temp Coffee.ใครชมวิวเสร็จแล้ว สามารถมานั่งจิบกาแฟและกินขนมได้ที่ร้าน Red Temp Coffee(เรด เทมป์ คอฟฟี่) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดชมวิวเขาสามมุข.ร้านคาเฟ่แห่งนี้ตกแต่งสไตล์มินิมอล แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนห้องแอร์และโซนที่นั่งด้านนอกซึ่งมองเห็นวิวทะเลและพระอาทิตย์ตกได้ นอกจากวิวสวย ๆ แล้ว บนดาดฟ้าของร้านยังมีประภาคารสีขาวอันโดดเด่นที่ต้องห้ามพลาดไปถ่ายรูปเลยละค่ะ ทางร้านให้บริการขนมและเครื่องดื่มหลายประเภท โดยเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์คือ กาแฟ เพราะใช้กาแฟคั่วแบบ Red Temp Blends ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของร้าน มีรสชาตินุ่มละมุนลิ้น ใครเป็นคอกาแฟต้องลองมาชิมให้ได้นะคะ.ใกล้จุดชมวิวเขาสามมุข ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. จุดชมวิวเขาพระตำหนัก.จุดชมวิวเขาพระตำหนักเป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเขาพระตำหนักสามารถมองเห็นอ่าวเมืองพัทยาและวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามได้ นอกจากนี้ ด้านบนเขายังเป็นที่ตั้งของวัดเขาพระบาท และอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อน ๆ อย่าลืมกราบสักการะท่านเพื่อความเป็นสิริมงคลกันนะคะ หาดนางรำและหาดนางรอง.ชายหาดทั้งสองแห่งตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือจุกเสม็ด เป็นหาดยาวประมาณ 200 เมตร สามารถลงเล่นน้ำได้ บริเวณชายหาดมีต้นสนขึ้นอยู่โดยรอบ ทำให้บรรยากาศร่มรื่นน่าพักผ่อน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและที่พักของสโมสรทหารเรือให้บริการอีกด้วย หาดนางรองมีรูปปั้นผีเสื้อสมุทร พระอภัยมณี ม้านิลมังกร และฤๅษีตั้งอยู่ ซึ่งบริเวณนั้นยังเป็นจุดชมวิวอีกด้วย เพื่อน ๆ อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับพวกเขานะคะ .ที่ตั้ง ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.ค่ารถยนต์และรถตู้คันละ 30 บาท หาดนางรำ-หาดนางรอง วันที่ 2 เราไปเที่ยวจังหวัดระยองกันต่อเลยค่ะ ที่แรกที่เราจะแวะคือ พระเจดีย์กลางน้ำ พระเจดีย์กลางน้ำเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ชาวเรือหรือผู้โดยสารเรือที่เดินทางผ่านถึงบริเวณนี้ได้ทราบว่ามาถึงเมืองระยองแล้ว.ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีงานทอดกฐินและงานห่มผ้าพระเจดีย์กลางน้ำ.ที่ตั้ง ตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เขาแหลมหญ้า เขาแหลมหญ้า ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ที่นี่มีทั้งจุดชมวิว ลานกางเต็นท์ และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเลียบชายหาด เราไปชมบรรยากาศกันดีกว่าค่ะ ว่าจะสวยแค่ไหน ก่อนที่เราจะเข้าไปเที่ยวที่เขาแหลมหญ้าได้นั้น ต้องลงทะเบียนจองเที่ยวอุทยานฯ ล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ก่อนค่ะ เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ตอนไปถึงอุทยานฯ ให้แจ้งชื่อกับเจ้าหน้าที่และทำการตรวจวัดไข้ ที่สำคัญอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยด้วยนะคะ เมื่อเข้าไปด้านในอุทยานฯ เพื่อน ๆ ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถ จากนั้นนั่งรถสองแถวของทางอุทยานฯ ไปยังแหล่งท่องเที่ยว ที่นี่มีลิงหลายตัว อย่าเผลอถือขนมหรือวางของทิ้งไว้นะ เดี๋ยวจะโดนเจ้าลิงแย่งไปแบบไม่ทันตั้งตัว บริเวณเขาแหลมหญ้ามีจุดชมวิวซึ่งตรงสุดปลายทางเดินมีหอคอยสีขาวตั้งโดดเด่น จุดนี้เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม ที่ต้องต่อแถวรอถ่ายรูปกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ลักษณะเป็นสะพานไม้ทอดยาวลัดเลาะไปตามแนวภูเขา ถ้าเดินไปจนสุดทางจะพบกับทุ่งหญ้าสะวันนา.ระหว่างทางมีลานหิน ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องมาถ่ายรูป แอดบอกเลยว่า ได้รูปเก๋ ๆ ชิก ๆ กลับไปอย่างแน่นอน.ที่ตั้ง ตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองเปิดทุกวัน เวลา 08.30-18.00 น.ค่าเข้าชมอุทยานฯ– ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท– ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท– ค่ารถยนต์ คันละ 30 บาท ตลาดบ้านเพ ก่อนกลับบ้านต้องมีของกินและของฝากติดไม้ติดมือกลับไปซะหน่อย เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึงระยอง เราไปแวะซื้อของฝากกันที่ตลาดบ้านเพ.ตลาดบ้านเพมีสินค้าให้เลือกหลายประเภท ทั้งอาหารสด อาหารตากแห้ง ผลไม้ ขนม เสื้อผ้า และของใช้ แต่สินค้ายอดฮิตที่ห้ามพลาดคือ ทุเรียนทอด ขนุนทอด ปลาหมึกตากแห้งปรุงรส.แหม พูดแล้วก็หิว ขอตัวไปหยิบทุเรียนทอดมากินสักหน่อยละกันนะคะ.ที่ตั้ง ตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยองเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 23 กรกฎาคม 2563

ลัดเลาะริมทะเล ชลบุรี-ระยอง 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

ทุ่งหยีเพ็ง ชุมชนสายน้ำสามเวลา

เกร็ดความรู้ :.บ้านทุ่งหยีเพ็ง ตั้งอยู่ริมทะเลทางฝั่งตะวันออกของเกาะลันตา ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม อาชีพหลักคือ การทำประมงและการทำสวนยางพาราค่ะ บ้านทุ่งหยีเพ็ง เป็นชุมชนที่มีความโดดเด่นในเรื่องของป่าชายเลนและสายน้ำ ดังนั้นหากอยากสัมผัสกับความสวยงามเหล่านี้อย่างใกล้ชิด แอดแนะนำให้เที่ยวโดยการนั่งเรือหางยาว พายเรือคายัค หรือนั่งเรือแจวค่ะ .ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเดินทางมาลงเรือได้ที่บ้านทุ่งหยีเพ็ง ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ และในวันนี้แอดก็เลือกเที่ยวโดยการนั่งเรือแจว เพราะอยากจะดื่มด่ำกับความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ไปอย่างช้าๆ และเงียบสงบค่ะ นอกจากจะได้ล่องเรือสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบแล้ว เรายังจะได้รับประทานอาหารบนเรือด้วย แม้ว่าหน้าตาอาหารอาจจะดูธรรมดา แต่ถ้าได้ชิมพร้อมกับชมวิวที่อยู่ตรงหน้า บอกเลยว่าระดับภัตตาคารยังต้องยอม เรือแจว 1 ลำ สามารถนั่งได้ 4-7 คน (รวมคนแจว) เป็นเรือแบบมีหลังคาตรงกลางลำ และมีโต๊ะตัวเล็กๆ ตั้งไว้เพื่อใช้เป็นที่รับประทานอาหารนั่นเองค่ะ.นอกจากนี้ยังมีม่านสำหรับกันลมกันฝนอีกด้วย ดูแล้วแอบคล้ายกับเจ้าขุนมูลนายในสมัยก่อนอยู่เหมือนกันนะเนี่ย  ทำไมชุมชนแห่งนี้จึงเป็นชุมชนสายน้ำสามเวลา? นั่นก็เพราะเราสามารถมาล่องเรือชมธรรมชาติที่สวยงามได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลย แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาด้วยกัน.ช่วงแรกคือ “เวลาเช้าตรู่” เป็นทริปสำหรับตอนเช้า ซึ่งต้องบอกเลยว่าสำหรับแอดช่วงนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะเราจะได้เห็นแสงแรกของวัน และได้เห็นการเริ่มต้นในเช้าวันใหม่ของสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัวเราอีกด้วย ช่วงที่สองคือ “เวลากลางวัน” เพื่อนๆ จะได้เห็นความสวยงามของป่าชายเลนที่เปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามตามแสงอาทิตย์ นับเป็นความงามอีกอย่างหนึ่งของธรรมชาติที่ห้ามพลาด นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นเจ้าปูตัวน้อย เจ้าปลาตีน และบรรดาลิงที่ห้อยโหนไปมาอยู่บนต้นโกงกางอีกด้วย แต่ต้องระวังให้ดีเพราะเจ้าลิงเหล่านี้เค้าไม่กลัวน้ำเด้อ บางตัวถึงขั้นกระโดดลงมาบนเรือให้เราสัมผัสอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว.ปล.หากล่องเรือในทริปเช้าก็มีโอกาสเห็นได้เหมือนกัน แต่ช่วงกลางวันจะเยอะกว่า ช่วงเวลาที่สามคือ “เวลาพลบค่ำ” เป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบความโรแมนติก เพราะนี่คือทริปล่องเรือชมจันทร์ ซึ่งจะมีเพียง 4 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น .นั่นคือในวันขึ้น14 ค่ำ ขึ้น 15 ค่ำ ขึ้น 1 ค่ำ และขึ้น 2 ค่ำ ของทุกเดือน บอกเลยว่าฟินสุดๆ ค่าทำกิจกรรม– ทริปเช้า (+อาหารเช้า) คนละ 900 บาท– ทริปกลางวัน (+อาหารกลางวัน) คนละ 900 บาท– ทริปชมจันทร์ (+อาหารเย็น) คนละ 900 บาท.ปล.แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันก่อนเดินทางนะคะ โทร. 089 590 9173 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 30 กันยายน 2562

ทุ่งหยีเพ็ง ชุมชนสายน้ำสามเวลา อ่านเพิ่มเติม

Go 5 Adventures

Go 5 Adventures.ปีนผา อ่าวไร่เลย์ จังหวัดกระบี่.สำหรับกิจกรรมปีนผาเป็นอะไรที่ท้าทาย โดนใจวัยรุ่น และเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งนอกจากจะได้ท้าทายความสูงแล้ว ยังได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกายเลยนะ แถมยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ อีกด้วย ซึ่งที่อ่าวไร่เลย์นี้ก็นับว่ามีแนวหินปูนสวยงามที่เหมาะแก่การปีนผาเป็นอย่างยิ่ง มีนักท่องเที่ยวมาท้าทายความสูงที่นี่กันอย่างมากมายเลยล่ะ ล่องแก่งลำน้ำว้า จังหวัดน่าน อีกหนึ่งกิจกรรมสุดพีค ที่ไม่มีไม่ได้เลยค่ะ ล่องแก่งลำน้ำว้าเป็นสถานที่ล่องแก่งที่ตื่นเต้นและสนุกที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ลำน้ำว้าแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ลำน้ำว้าตอนบน ตอนกลางและตอนล่าง สามารถล่องได้ตลอดทั้งปี ซึ่งลำน้ำว้าแต่ละช่วงจะมีฤดูการล่องแก่งที่แตกต่างกัน มีระดับความยากตั้งแต่ระดับ 3 – 5 หากใครยังไม่เคยมาลอง ครั้งหน้าอย่าพลาดนะ รับประกันความมันแน่นอน ขับรถ ATV จังหวัดนครนายก.สายลุย สายผจญภัย ต้องห้ามพลาดกิจกรรมนี้! กับการขับรถ ATV บนพื้นที่โดยรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีครบทุกรสชาติ เพื่อนๆ จะได้ลุยโคลน ลงคลอง ผ่านหลุมขรุขระ ทั้งแนวราบและแนวสูงชัน สนุกสนานเต็มที่แน่นอน บอกไว้ก่อนเลยว่าตลอดเส้นทางมีทั้งความตื่นเต้นและความเสียวปะปนกันไป และเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดนะคะ ขี่ช้าง สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี.มาดูโหมดผจญภัยเบาๆ กันบ้างค่ะ การขี่ช้างเป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมอย่างหนึ่ง เพราะเราจะได้ใกล้ชิดกับช้างท่ามกลางธรรมชาติ ได้ข้ามลำห้วย บุกป่า ขึ้นเขาผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยง ซึ่งเราจะได้อยู่บนหลังช้างประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเลยล่ะ Tree Top Adventure Park กิจกรรมสุดท้ายกลางป่าใหญ่ เป็นกิจกรรมที่ให้เราได้ปืนป่ายไปบนสะพานแขวนแคบๆ ซึ่งจะพาเราลัดเลาะไปตามยอดไม้ โดยมีสายรัดตัวที่ใช้ล็อกกับลวดสลิงเพื่อความปลอดภัยให้สวมใส่ อาจจะดูหวาดเสียวแต่ไม่น่ากลัวเลย ถ้าเราปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่บอกค่ะ นอกจากเราจะได้ความตื่นเต้นแล้ว ยังได้ชมวิวจากมุมสูงอีกด้วยนะ หวาดเสียวคูณสองไปเลย สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายแล้ว เล่นได้ทั้งวันไม่มีเบื่อแน่นอน Tree Top Adventure Park มีให้บริการอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงราย กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) ตราด(เกาะช้าง) และกระบี่ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้เลย เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 28 กันยายน 2562

Go 5 Adventures อ่านเพิ่มเติม

ชุมชนบ้านน้ำราบ : ล่องแพ ปีนเขา กินปู ชมเล

ชุมชนบ้านน้ำราบตั้งอยู่ในอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง บริเวณนี้เคยประสบเหตุการณ์สึนามิ ทำให้ธรรมชาติถูกทำลายไปหลายส่วน แต่ชาวบ้านในชุมชนก็ช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติให้กลับมาสมบูรณ์ได้เหมือนเดิม.จุดเด่นของบ้านน้ำราบคือ การทำธนาคารปูม้า เนื่องจากอาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำประมงปูม้า เมื่อทำไปเรื่อยๆ ก็พบว่าปริมาณปูม้าลดลง จึงทำให้ชาวบ้านเริ่มเพาะพันธุ์ปูม้า โดยนำแม่ปูที่ไข่นอกกระดองมาเลี้ยง แม่ปู 1 ตัว มีไข่ประมาณสามแสนฟอง ถ้าตัวใหญ่จะมีไข่ถึงหนึ่งล้านฟอง!! เมื่อถึงระยะที่ไข่ใกล้ฟักตัวชาวบ้านก็จะนำไปปล่อยลงทะเล ให้ลูกปูเจริญเติบโตในธรรมชาติต่อไป.นอกจากนี้ชาวบ้านยังเพาะหญ้าทะเล เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของปูม้าและเป็นอาหารของพะยูน มีการอนุบาลม้าน้ำ และไข่ปลาหมึกอีกด้วย  การท่องเที่ยวชุมชนบ้านน้ำราบ สามารถเที่ยวได้ตลอดปี.กิจกรรมที่เราจะไปทำคือการล่องแพ โดยโปรแกรมล่องแพนั้นมีทั้งแบบครึ่งวันและเต็มวัน แอดเลือกโปรแกรมแบบครึ่งวัน ซึ่งมีจุดหลักๆ ที่จะแวะคือ เขาจมป่า และทะเลแหวก.เราล่องแพผ่านป่าชายเลนบ้านน้ำราบ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 3,200 ไร่ ระหว่างทางจะพบกับต้นโกงกางและต้นแสมที่ขึ้นอย่างหนาแน่น แสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแถบนี้ โปรแกรมล่องแพท่องเที่ยว จะรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นคนละ 1,350 บาท (ยิ่งไปด้วยกันหลายคน ราคาจะยิ่งถูก เพราะตัวหารเยอะขึ้น) ถ้าไปเที่ยวกันกลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 5 คน แนะนำให้ท่องเที่ยวด้วยเรือหัวโทงจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า.ใครอยากล่องแพสุดชิลแบบนี้ ติดต่อได้ที่บังยูร 080 824 9468พี่อู๊ด 087 277 8017.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ จุดแวะแรก เดินขึ้นจุดชมวิวเขาจมป่า ใช้เวลาเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวประมาณ 15-20 นาที ระยะทาง 400 เมตร เห็นระยะทางไม่ค่อยไกล แต่ก็เหนื่อยใช่เล่นเลยล่ะ เพราะมีหลายจุดที่ค่อนข้างชัน ต้องใช้ทักษะในการปีนป่ายเข้าช่วย ด้านบนสามารถชมวิวป่าชายเลนอันเขียวชอุ่ม เห็นคลองที่คดเคี้ยวไปมาแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังเห็นวิวทะเลและเกาะมุกที่อยู่ไกลๆ ได้อีกด้วย หลังจากลงมาจากจุดชมวิว ท้องก็ร้องทันที แต่ไม่ต้องห่วง บนแพมีอาหารเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ทั้งแกงส้มปลากระบอกรสจัดจ้าน ปลาทอดราดพริก วายคั่ว (หมึกต้มกะทิ) และมื้อนี้ทางชุมชนยังจัดปูม้านึ่งมาให้แบบไม่อั้นด้วย เติมได้เรื่อยๆ เลย จุดแวะที่สอง ทะเลแหวก หลังจากทานอาหารกันอิ่มแล้ว เราก็ล่องแพไปชมทะเลแหวกที่มีขนาดกว้างเท่าสนามฟุตบอล ซึ่งการจะชมทะเลแหวกได้นั้นต้องรอช่วงน้ำลง ราวๆ บ่ายโมงไปจนถึงช่วงเย็นๆ.ทะเลแหวกที่นี่เขากว้างใหญ่จริงๆ แถมน้ำทะเลก็ใสมากด้วย ถ้าใครไม่รีบ จะอยู่รอชมพระอาทิตย์ตกก็ได้ บอกเลยว่าบรรยากาศดีสุดๆ.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 27 กันยายน 2562

ชุมชนบ้านน้ำราบ : ล่องแพ ปีนเขา กินปู ชมเล อ่านเพิ่มเติม

เกาะเหลายา จ.ตราด

หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ บรรยากาศเงียบสงบ และผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน แอดขอแนะนำที่นี่เลยจ้า เกาะเหลายา.เกาะเหลายา ตั้งอยู่ที่ จ.ตราด นับได้ว่าเป็นอีกเกาะหนึ่งที่มีธรรมชาติสวยงามแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเล หาดทราย หรือแม้กระทั่งภูเขา .และเพราะความสวยที่ธรรมชาติให้มานี้ ที่นี่จึงได้สมญานามว่า “เพชรเม็ดงามแห่งทะเลตะวันออก” นั่นเอง.สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะมาเที่ยวที่นี่จะต้องซื้อแพ็กเกจทัวร์เท่านั้นนะคะ ซึ่งจะมี 2 แบบคือ.แพ็กเกจแบบ 2 วัน 1 คืน (รวมอาหาร 3 มื้อ)▪ ราคาสำหรับ 2 คน/ห้อง คนละ 4,000 บาท ▪ ราคาสำหรับ 3-4 คน/ห้อง คนละ 3,500 บาท แพ็กเกจแบบ 3 วัน 2 คืน (รวมอาหาร 6 มื้อ)▪ ราคาสำหรับ 2 คน/ห้อง คนละ 7,500 บาท ▪ ราคาสำหรับ 3-4 คน/ห้อง คนละ 6,000 บาท.***ปล.โดยปกติจะไม่มีการรับนักท่องเที่ยวแบบ Walk in จะรับตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป ซึ่งในกรณีที่เดินทางไม่ถึง 30 คน จะเป็นการจอยกรุ๊ปกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ค่ะ การเดินทาง .สำหรับเพื่อนๆ ที่ซื้อแพ็กเกจทัวร์แล้ว จะต้องเดินทางไปพร้อมกันที่ “ท่าเรือกรมหลวงชุมพร” เพื่อขึ้นเรือไปยังเกาะเหลายา ซึ่งในแต่ละวันจะมีเพียงรอบเดียวเท่านั้นคือ เวลา 09.00 น. โดยเราจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง.ส่วนเที่ยวกลับเรือจะออกจากเกาะเวลาประมาณ 10.00 น. มีรอบเดียวเหมือนกันค่ะ การมาเที่ยวที่เกาะเหลายา สำหรับแอดดูคล้ายกับการติดเกาะอยู่เหมือนกันนะคะ .เนื่องจากเราจะต้องค้างคืนเท่านั้น ไม่สามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้เหมือนเกาะอื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะเราจะได้ใช้เวลาในการดื่มด่ำกับธรรมชาติและพักผ่อนได้อย่างเต็มที่เลย  สำหรับเกาะเหลายานั้นประกอบไปด้วย 3 เกาะย่อยด้วยกัน คือ เกาะเหลายาใน เกาะเหลายากลาง และเกาะเหลายานอก.ซึ่งจากเกาะเหลายาในเพื่อนๆ สามารถเดินข้ามไปยังเกาะเหลายากลางได้ด้วยนะคะ โดยใช้สะพานไม้เป็นทางเชื่อม และต้องบอกเลยว่านี่ถือเป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเกาะเหลายาเลยทีเดียวค่ะ  ซึ่งนอกจากการชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามบริเวณรอบๆ เกาะแล้ว เพื่อนๆ ยังสามารถไปดำน้ำเพื่อทักทายเจ้าปลาตัวน้อย และเหล่าปะการังที่สวยงามบริเวณเกาะหวายได้อีกด้วย.ปล.ค่าทำกิจกรรมรวมอยู่ในแพ็กเกจแล้วค่ะ ในส่วนของที่พักนั้น บนเกาะแห่งนี้มีเพียงแห่งเดียวก็คือ “Laoya Coco Island” ซึ่งการตกแต่งห้องพักของที่นี่นั้นจะเป็นแบบเรียบง่ายในสไตล์ร่วมสมัย อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน.ขอบคุณรูปสวยๆ จากเพจ Laoya Coco Island หากเพื่อนๆ ไม่ชอบนอนอาบแดด แต่อยากชมธรรมชาติสวยๆ น้ำทะเลใสๆ ในช่วงกลางวันก็สามารถนั่งชมจากตรงระเบียงที่พักได้ด้วยนะคะ.ขอบคุณรูปสวยๆ จากเพจ Laoya Coco Island และนี่ก็คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่แอดอยากจะชวนเพื่อนๆ ให้ลองออกมาสัมผัสกับความสวยงามกัน ซึ่งรับรองเลยว่านี่จะเป็นการติดเกาะ ที่ทุกคนจะต้องติดใจอย่างแน่นอน… เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 26 กันยายน 2562

เกาะเหลายา จ.ตราด อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน

นครราชสีมา หรือ เมืองโคราช เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย และยังถือเป็นประตูสู่ภาคอีสานอีกด้วย จุดแรกเรามาที่ “ทุ่งกังหันลมห้วยบง” ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอด่านขุนทดและอำเภอเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย เราจึงมองเห็นกังหันลมเรียงรายกันอย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถมาแวะชมภูมิทัศน์โดยรอบ และพักผ่อนชิลๆ ได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอากาศจะเย็นสบาย เดินทางสู่อำเภอเมือง แวะสักการะ “อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” หรือ “ย่าโม” เมื่อ พ.ศ.2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช คุณหญิงโมได้รวบรวมชาวบ้านเข้าสู้รบและต่อต้านกองทัพเจ้าอนุวงศ์ไม่ให้ยกมาตีกรุงเทพฯ ได้สำเร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็น “ท้าวสุรนารี” วันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน ของทุกปี จะมีการจัดงานวันฉลองชัยชนะของท้าวสุรนารี ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เราเดินไปต่อกันที่ร้าน “Yellow Pumpkin Cafe” ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ บนถนนจอมพล อาจจะดูลึกลับไปสักหน่อย แต่ไม่น่ากลัวนะคะ ฮ่าๆ ร้านนี้โดดเด่นในเรื่องของขนม ที่ใช้ฟักทองมาเป็นวัตถุดิบหลัก ภายในร้านตกแต่งด้วยของสะสมสไตล์วินเทจ เข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้และผนังอิฐสีขาวเท่ๆ ดูสบายๆ สไตล์เอิร์ธโทน เปิดวันจันทร์-พุธ และวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดวันพฤหัสบดี) เราเดินทางสู่อำเภอปากช่อง แวะถ่ายรูปกันที่ “Toscana Valley” ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมสไตล์อิตาลี ที่เรียกได้ว่าอลังการจริงๆ มีทั้งหอเอนปิซ่าจำลองขนาดเท่าของจริง และยังโอบล้อมไปด้วยภูเขา บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอกยังไงยังงั้น ถ้าใครมีโอกาสมาปากช่อง ต้องอย่าลืมแวะมาเซลฟี่นะ ขับรถต่อมาไม่ไกล เราก็จะพบกับ “Primo Piazza” อีกหนึ่งจุดต้องเช็คอิน ที่นี่เป็นสถานที่จำลองหมู่บ้านโบราณของอิตาลี มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของฝาก และยังมีมุมถ่ายรูปเพียบเลยล่ะ เหมือนอยู่เมืองนอกกันเลยทีเดียว มาที่นี่แอดแนะนำว่าชุดต้องแน่นนะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้เราทำด้วย ไม่ว่าจะเป็นให้อาหารแกะ ลา หรือจะเดินเล่นชิลๆ ก็ยังได้ เปิดทุกวันเวลา 09.00-18.00 น.ค่าเข้าชมชาวไทย : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ออกจาก Primo Piazza ก็มาแวะจิบกาแฟกันที่ “The Birder’s Lodge” ที่่อยู่ใกล้ๆ กัน ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดของเหล่าวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ แอดก็เลยต้องมาเช็คอินซะหน่อย มีมุมเก๋ๆ สำหรับเหล่าฮิปสเตอร์เยอะมาก ห้ามพลาดนะ เปิดทุกวันเวลา 08.30-18.00 น. ที่สุดท้ายก่อนกลับ เรามากันที่ “ไร่องุ่น PB Valley” สวรรค์ของคนรักไวน์ ภายในมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย ตามนี้เลย กิจกรรมไวน์ทัวร์ ราคาคนละ 350 บาท– นั่งรถรางชมไร่ รับฟังเรื่องการปลูกองุ่นและกระบวนการผลิตไวน์จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมชิมไวน์แบบสดๆกิจกรรมตัดองุ่น ราคาคนละ 400 บาท-นั่งรถรางชมไร่ พร้อมกิจกรรมตัดองุ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้องุ่นกลับบ้านไปเลยคนละ 1 กิโลกรัม นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหาร ที่พัก จักรยานให้เช่า และร้านขายของที่ระลึก ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากองุ่น ไม่ว่าจะเป็นไวน์ องุ่นสด น้ำผลไม้ และแยม เป็นต้น เปิดทุกวันเวลา 07.30-16.30 น.โทร. 081 733 8783, 085 481 1741 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 25 กันยายน 2562

เที่ยวโคราช 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

วัดพระธาตุดอยพระฌาน ศาสนสถานกลางเมฆหมอก

วัดพระธาตุดอยพระฌาน ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง วัดนี้ตั้งอยู่บนดอยสูง โอบล้อมไปด้วยป่าและขุนเขาน้อยใหญ่ มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ถึง 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่ทะ อำเภอเกาะคา และอำเภอเมืองลำปาง วัดมีพื้นที่ 2 ส่วน ได้แก่ ด้านล่างที่เป็นเขตสังฆาวาส และด้านบนยอดเขาที่ต้องขับรถขึ้นไปอีก 4 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของพระธาตุดอยพระฌาน และวิหาร วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน ทำให้สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในวัดผุพังไปตามกาลเวลา จนกระทั่งในปี 2555 ก็ได้รับการบูรณะและสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ขึ้น จนกลายเป็นวัดที่สวยงามและโดดเด่นวัดหนึ่งในจังหวัดลำปาง เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนเราจะได้พบกับพระธาตุดอยพระฌาน ซึ่งมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนา พระธาตุองค์นี้มีอายุกว่า 100 ปี อยู่คู่กับวัดมายาวนาน เป็นที่เคารพศรัทธาของคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ทุกๆ ปี พุทธศาสนิกชนจะร่วมใจกันจัดงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุ วัดพระธาตุดอยพระฌาน ในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 7 ถัดมาทางด้านหน้าของพระธาตุจะเป็นวิหาร ซึ่งมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบล้านนาร่วมสมัย ที่ผนังด้านหลังตกแต่งด้วยประติมากรรมนูนต่ำรูปต้นโพธิ์ที่งดงามและอ่อนช้อยมาก เดินอ้อมมาทางด้านหน้า เราก็จะพบกับทางขึ้นสู่วิหาร วิหารประดับประดาไปด้วยไม้แกะสลักสีทองอร่าม สวยงามตระการตามากๆ ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธานนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณ พิชิตมารวิกรม ปฐมสัมมาสัมโพธิญาณ ศรีพระฌานบรรพต” เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประทับอยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว หลังจากไหว้พระเสร็จแล้ว ออกมาด้านหน้าวิหาร เราก็จะได้เห็นทิวทัศน์อันสวยงาม จากมุมนี้เราสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ 06.30 น. จะได้เห็นทั้งทะเลหมอกและแสงอาทิตย์ยามเช้าเลย ในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว อากาศจะเย็นสบาย เหมาะที่จะแวะเวียนไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดจริงๆ วัดพระธาตุดอยพระฌานที่ตั้ง : ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปางเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-17.00 น. การเดินทางจากอำเภอเมืองลำปาง ใช้ถนนสายลำปาง-แม่ทะ ถึงแยกบ้านฟ่อนให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1036 เข้าสู่อำเภอแม่ทะ ถึงทางเข้าบ้านแม่ปุง-บ้านป่าตันให้เลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยกวัดป่าตันหลวงให้ตรงไป มีป้ายบอกทางเป็นระยะ ทางวัดอนุญาตให้ขับรถส่วนตัวขึ้นมาได้เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์เท่านั้น เนื่องจากพื้นที่จำกัด ส่วนวันหยุดจะมีรถสองแถวให้บริการ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 24 กันยายน 2562

วัดพระธาตุดอยพระฌาน ศาสนสถานกลางเมฆหมอก อ่านเพิ่มเติม

คำมี สตูดิโอ : KUMMEE STUDIO

คำมี KUMMEE STUDIO : Ceramics pottery ที่ตั้ง : 1 ม.11 ต.แม่คำมี อ.เมือง จ.แพร่เปิดวันวันพฤหัสบดี-จันทร์ เวลา 10.00-16.00 น. (ปิดวันอังคาร-พุธ)โทร.085 867 9358พิกัด : https://goo.gl/maps/j5XBU5YH3GDdr1V3A คำมี สตูดิโอ เป็นสถานที่ที่รวบรวมผลงานการปั้นเซรามิกหลากหลายรูปแบบที่มีเอกลักษณ์ รูปร่างแปลกตาไม่เหมือนใคร และยังเป็นสตูดิโอสอนปั้นเซรามิกแห่งแรกของเมืองแพร่ ที่ให้คนทั่วไปได้มาเรียนรู้การปั้นดินและเพนท์งานเซรามิก ภายในคำมี เราจะเห็นเซรามิกรูปแบบต่างๆ ทั้งแก้ว ชาม จาน ตุ๊กตา เป็นต้น แบ่งเป็นโซนปั้นและโซนจำหน่ายเซรามิกสวยๆ ให้เราเลือกซื้อกลับบ้านได้ด้วย กิจกรรม Workshop สามารถเข้าไปทำกิจกรรมได้โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า ค่าบริการ– Workshop ปั้นดินดินดำ ก้อนละ 180 บาทดินขาว ก้อนละ 150 บาท – Workshop งานเพนท์มีภาชนะสำเร็จรูป เช่น แก้ว จาน ชาม ให้เลือกลงลาย ลงสี เพนท์เองได้ ราคาเริ่มต้นที่ 60 บาท ราคารวมค่าเคลือบและเผาเรียบร้อยแล้ว นอกจากจะได้เรียนรู้การปั้นเซรามิกแล้ว ที่คำมียังมีโซนคาเฟ่ด้วยนะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ปั้นดินกินพิซซ่า ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ พิซซ่าโฮมเมดจากเตาร้อนๆ และเมนูเครื่องดื่มที่ต้องมาลอง ปั้นดินไปกินพิซซ่าไป เพลินสุดๆ เลยค่ะ พิซซ่ารสชาติอร่อยถูกใจทุกเพศทุกวัยเลยล่ะ แป้งหนานุ่ม มีให้เลือกหลายหน้า ไม่ว่าจะเป็นฮาวายเอี้ยน ผักโขมชีส ครีมเห็ดคาโบนาร่า ฯลฯ ราคาเริ่มต้นถาดละ 200 บาทเท่านั้น ใครอยากได้สองหน้าใน 1 ถาดก็สามารถสั่งได้ด้วยนะ ใครชอบชีสเยอะๆ ก็สั่งเพิ่มชีสได้ ดีงามไปอีก workshop เพนท์จาน เราสามารถวาดลายและลงสีได้เองเลยนะ บอกเลยว่าสนุกมากๆ หากใครอยากหาสถานที่ทำกิจกรรมแบบนี้ ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562

คำมี สตูดิโอ : KUMMEE STUDIO อ่านเพิ่มเติม

ด อ ย ผ า ห มี : เ ชี ย ง ร า ย

ดอยผาหมี ตั้งอยู่ในเขต อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประชากรในชุมชนเป็นชาวอาข่าที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมเยือนประชาชน ณ ที่แห่งนี้ด้วย หมู่บ้านผาหมี เป็นหมู่บ้านที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก มีโฮมสเตย์ราคาหลักร้อยแต่วิวหลักล้านให้บริการหลายแห่ง ซึ่งที่แอดไปพักก็คือ บูซอ โฮมสเตย์ บูซอ โฮมสเตย์ ให้บริการที่พักและลานกางเต็นท์ รวมทั้งยังมีเต็นท์ให้เช่าด้วย ลานกางเต็นท์แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ส่วนที่ 1 บริเวณลานวัฒนธรรมของหมู่บ้าน อัตราค่าบริการเต็นท์ขนาด 2 คน ราคาหลังละ 350 บาทนำเต็นท์มาเอง เสียค่ากางเต็นท์ 200 บาท ที่นี่มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการ แต่ไม่มีอาหารเช้า โดยสามารถหาซื้อได้ที่บูซอ โฮมสเตย์ ซึ่งในตอนเช้านั้น แอดบอกเลยว่า อากาศดีมากกกก แค่ตื่นมานั่งมองดวงอาทิตย์ขึ้นก็ฟินจนบอกไม่ถูกแล้ว บริเวณลานวัฒนธรรมของหมู่บ้าน มีชิงช้าแบบอาข่าให้โล้ด้วย จุดกางเต็นท์ที่ลานวัฒนธรรมมีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน และยังจำกัดจำนวนคน ทำให้ไม่แออัด ดังนั้นหากใครสนใจจะไปพัก ต้องโทรไปจองล่วงหน้านะ ส่วนที่ 2 บนดาดฟ้าของบูซอ โฮมสเตย์อัตราค่าบริการเต็นท์ขนาด 2 คน ราคาหลังละ 450 บาท (รวมอาหารเช้า) สามารถใช้ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำของโฮมสเตย์ได้เลย วิวบนดาดฟ้าของบูซอ โฮมสเตย์ ก็สวยไม่แพ้กับที่ลานวัฒนธรรมเลยล่ะ นอกจากการมากางเต็นท์นอนแล้ว บนดอยผาหมียังมีร้านกาแฟหลายร้าน ให้เราไปนั่งจิบชากาแฟ ชมวิวชิลๆ ได้อีกด้วย หนาวนี้ใครที่นึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหน แอดแนะนำให้ลองไปดอยผาหมีดูนะ บูซอ โฮมสเตย์ที่ตั้ง : บ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พิกัด : https://goo.gl/maps/17qa9ZbAnFRPDmZcA การเดินทางจากตัวเมืองเชียงรายใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) มุ่งหน้าไปยัง ต.เวียงพางคำ ระยะทางประมาณ 58 กิโลเมตร จากนั้นให้สังเกตทางซ้ายมือ จะพบป้ายโรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ 5 และป้ายบอกทางไปยังหมู่บ้านผาหมี ให้เลี้ยวซ้ายตามป้าย ขับตรงเข้าไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านผาหมี จากนั้น ขับรถขึ้นเขาไปอีกเล็กน้อย ทางค่อนข้างแคบและคดเคี้ยว ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562

ด อ ย ผ า ห มี : เ ชี ย ง ร า ย อ่านเพิ่มเติม

แต่งไทยไปย้อนยุคที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 จังหวัดกาญจนบุรี

เมืองมัลลิกา เป็นเมืองย้อนยุคที่จำลองวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในสมัยรัชกาลที่ 5 ร.ศ.124 ซึ่งเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดที่สุดก็คือ การประกาศเลิกทาส เมื่อทาสได้เป็นไทก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าขุนมูลนายอีกต่อไป ต้องออกมาทำมาหากินด้วยตนเอง เกิดการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต กลายเป็นรากเหง้าที่สำคัญของคนไทยในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดไทยได้ที่จุดบริการเช่าชุดไทย หรือใครจะแต่งมาเองก็ได้เช่นกันค่ะ ภายในเมืองมัลลิกามีจุดที่น่าสนใจให้เราได้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านการค้า สะพานหัน หอชมเมือง เรือนคหบดี เรือนเดี่ยว เรือนหมู่ เรือนแพ โรงครัว ลานมะลิ และห้องเล่าเรื่อง ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 พ่อค้าแม่ค้าที่เมืองมัลลิกาจะแต่งชุดไทยกันทุกร้านเลยค่ะ ภาษาที่ใช้จะลงท้ายด้วยขอรับและเจ้าค่ะ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศย้อนยุคจริงๆ ในย่านค้าขายภายในเมืองจะใช้ “เงินรู” เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นเงินตราที่ใช้กันในสมัยโบราณทั้งสมัยสุโขทัยและอยุธยา นอกจากนี้ยังมีบริการ “รถลาก” หรือรถเจ๊ก ซึ่งเป็นรถที่ใช้คนลากไปรอบเมือง ราคา 50 บาท/เที่ยว จุดนี้เรียกว่า “สะพานหัน” เดิมสร้างเป็นสะพานไม้แผ่นเดียวพาดข้ามคลอง ปลายข้างหนึ่งตรึงแน่นกับที่ ส่วนอีกข้างไม่ตอกติด สำหรับจับหันไปมาเพื่อให้เรือแล่นผ่านได้ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 สร้างใหม่เป็นสะพานโครงเหล็กพื้นไม้ และในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนทำเป็นสะพานไม้โค้งขนาดใหญ่ ที่สองฟากของสะพานมีห้องแถวเล็กๆ ให้ขายของ ส่วนตรงกลางเป็นทางเดิน แบบเดียวกับสะพานริอัลโต เมืองเวนิส และสะพานปองเตเวกคิโอ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เดินข้ามสะพานหันก็มีพ่อค้าแม่ค้าขายของหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ขนมโบราณ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 ผลไม้แห้งก็มี ผลไม้แช่อิ่มก็มา หากใครเดินมาถึงบริเวณเรือนไทย ก็จะเห็นว่าโดยรอบมีการจำลองการทำไร่ ทำนา ทำสวน ปลูกผัก สีข้าว ทอผ้า และจักสาน เพื่อแสดงถึงวิถีของชาวบ้านในสมัย ร.ศ.124 มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบเลยค่ะ ชุดไทยสวยๆ กับเรือนไทยงามๆ เข้ากันสุดๆ  นอกจากนี้ที่นี่ยังให้บริการอาหารไทยโบราณแบบบุฟเฟ่ต์ มีทั้งอาหารกลางวันและอาหารเย็น สำหรับช่วงเย็นจะมีการแสดงนาฏศิลป์ด้วยนะคะ หากใครซื้อบัตรอาหารเย็นพร้อมชมการแสดง ก็จะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้เลย **สำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน** การแสดงมีทั้งหมด 6 ชุด นอกจากโขนแล้วยังมี รำกินรีร่อน ระบำศรีชัยสิงห์ กระบี่กระบอง รำซัดชาตรี และประทีปรัตนโกสินทร์ แผ่นดินมัลลิกา ซึ่งจะสลับสับเปลี่ยนกันไป สำหรับในภาพนี้เป็นการแสดงโขน ชุดทศกัณฐ์รบพระราม (ยกรบ) ค่ะ และที่เราเห็นสูงๆ นั่นคือหอชมเมืองค่ะ จำลองมาจากหอคอยในคุก ที่ใช้สำหรับตรวจตราป้องกันไม่ให้นักโทษหนีนั่นเอง เมืองมัลลิกาใช้หอคอยนี้เป็นหอชมเมือง ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบที่สวยงาม เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 23 กันยายน 2562

แต่งไทยไปย้อนยุคที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 จังหวัดกาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top