สถานที่ท่องเที่ยว

ชุมชนบ้านบาตร

บ้านบาตรเป็นชุมชนตีบาตรที่มีชื่อเสียงมากในอดีต ใครต้องการซื้อหาบาตรถวายพระสงฆ์ หรือใช้ในงานบวชก็ต้องมาที่บ้านบาตร จนเมื่อการผลิตบาตรแบบปั๊มแพร่หลาย และมีราคาถูกกว่าบาตรแบบตีด้วยมือ จึงทำให้บาตรแบบตีด้วยมือขายได้น้อยลง ช่างตีบาตรในชุมชนจึงทะยอยเลิกตีบาตรกันไป เหลือเพียงไม่กี่ครอบครัว ก่อนจะกลับมาฟื้นฟูกันใหม่ ปัจจุบันมีช่างอยู่ประมาณ 30 คนแล้ว ชุมชนบ้านบาตรไม่เพียงสืบสานการตีบาตรด้วยมือ แต่ยังพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้อีกด้วย ทั้งในเรื่องความเป็นมา และขั้นตอนการผลิต นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ชุมชนที่น่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่มีน้อยคนมากที่รู้จัก บาตรของชุมชนบ้านบาตร เป็นบาตรที่ตรงตามหลักพระธรรมวินัย คือ เป็นบาตรบุหรือบาตรที่ทำด้วยมือ และประกอบด้วยเหล็ก 8 ชิ้น ซึ่งเหตุที่ต้องเป็น 8 ก็เพราะบาตรเป็นหนึ่งในอัฐบริขาร 8 ของพระภิกษุ แต่เดิมนั้น พระวินัยบัญญัติว่าวัสดุที่นำมาทำบาตรมี 2 ชนิดเท่านั้น คือ ดินเผา และเหล็กรมดำ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จึงมีการอนุโลมให้ใช้สแตนเลสได้ เพราะดูแลทำความสะอาดง่าย แอดได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับช่างทำบาตร คุณลุงคุณป้าใจดีพร้อมให้ความรู้เรื่องบาตรแบบจัดเต็มเลยค่ะ หากใครมีโอกาส เข้าไปเที่ยวชมกันเยอะ ๆ นะคะ ขั้นตอนการทำบาตรมีทั้งหมด 8 ขั้นตอน คือ 1 การทำขอบบาตร 2 การประกอบกง หรือทำโครงของบาตร 3 การเชื่อมบาตร 4 การตีตะเข็บบาตร 5 การลายบาตร 6 การตีเม็ดให้เรียบ 7 การตะไบบาตร 8 การระบมบาตรหรือการสุม เพื่อไม่ให้บาตรเป็นสนิม ซึ่งแต่ละขั้นตอนก็ต้องอาศัยช่างผู้ชำนาญ เรียกว่ามากันหมดหมู่บ้านละค่ะ ทั้งช่างตีขอบ ช่างต่อบาตร ช่างเชื่อม ฯลฯ แอดบอกเลยว่ากว่าจะได้บาตรสักใบต้องใช้ความอดทน หัวใจ ความเชื่อและความศรัทธามาก ๆ และปัจจุบันนี้ นับได้ว่ามีที่นี่ที่เดียวที่ยังคงทำบาตรแฮนด์เมด ซึ่งเมื่อเทียบกับบาตรปั๊ม บาตรตีด้วยมือนั้นทนทานมากกว่า ใช้ได้นานหลายสิบปี และที่น่าประทับใจอีกอย่างคือ ตอนเคาะจะมีเสียงกังวานใสกิ๊งเหมือนเสียงระฆังเลยค่ะ คุณลุงคุณป้าบอกแอดว่าที่นี่ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาทั้งทีไปไหว้ขอพรกันสักหน่อย “ศาลพ่อปู่” เป็นที่เคารพและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านบาตร .การเดินทาง– MRT ลงสถานีสามยอด จากนั้นเดินต่อไปยังถนนบริพัตร ประมาณ 800 เมตรก็จะถึงชุมชนบ้านบาตร– เรือ โดยสารเรือคลองแสนแสบลงที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ จากนั้นเดินต่อไปยังถนนบริพัตร ประมาณ 600 เมตร– รถประจำทาง สาย 37, 46, 508 ในบริเวณศาลพ่อปู่ เราจะพบสิ่งสักการะที่ไม่คุ้นตาอยู่ด้านข้าง เป็นไม้ที่ชาวบ้านเรียกว่า “เตาสูบ” เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเผาบาตรในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้เตาสูบแล้ว ชาวบ้านบาตรถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีครูบาอาจารย์ต้องให้ความสำคัญและเคารพ ใครชมการทำบาตรแล้วก็อย่าลืมเข้ามากราบไหว้กันนะคะ.กลุ่มอนุรักษ์บาตรไทยและภูมิปัญญา ถนนบริพัตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ

ชุมชนบ้านบาตร อ่านเพิ่มเติม

สุขทุกวัน..จันทบุรี

สงกรานต์นี้ถ้ายังไม่มีโปรแกรมจะไปไหน แนะนำให้ลองมาสัมผัสเมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์แห่งภาคตะวันออก มาเล่นกับน้องโลมาแสนรู้สุดน่ารัก มาลองประสบการณ์พาย SUP Board ริมน้ำจันทบูร มาเที่ยวชมและชิมผลไม้แสนอร่อยจากสวน ปิดท้ายด้วยลองอาหารขึ้นชื่ออย่างก๋วยเตี๋ยวกั้งเนื้อแน่นๆ เดินทางก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จะนั่งรถโดยสารสาธารณะหรือขับรถชิลๆ มาเที่ยวก็สะดวกมากๆ ถ้าอยากรู้ว่าฟินขนาดไหน ลองมาสุขทุกวันที่จันทบุรีเลยค่า OASIS SEA WORLD.โอเอซีส ซีเวิลด์ สถานที่เพาะพันธุ์โลมา ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโลเมตร ที่นี่มีน้องโลมา 2 สายพันธุ์ คือ โลมาปากขวดหรือโลมาสีชมพู และโลมาหัวบาตรหรือโลมาอิระวดี มีการจัดแสดงโชว์โลมา และกิจกรรมที่ห้ามพลาดสุดประทับใจ นั่นคือการได้ลงเล่นน้ำกับน้องโลมาแสนรู้ที่รับรองว่าต้องร้องว้าวววววววว ช่วงนี้มีโปรโมชั่น เพียง 999.- จากปกติ 2,500.- กิจกรรมพาย SUP Board ล่องแม่น้ำ ชมชุมชนริมน้ำจันทบูร สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดเล็ก เปิดให้เข้าชมกันอย่างฟรีๆ โดยไม่เสียค่าเข้าชม ภายในมีปลาท้องถิ่น ปลาหายาก สัตว์น้ำ ทั้งหมด 36 ตู้ เดินลอดอุโมงค์ปลากันแบบเพลินๆ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน.สะพานเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 1,600 เมตร ทอดผ่านป่าชายเลนที่มีพันธุ์ไม้หลายชนิด ปลายทางอยู่ที่ศาลาชมวิวซึ่งยื่นล้ำออกไปกลางอ่าว เป็นจุดที่มองเห็นทัศนียภาพของป่าชายเลนขนานไปกับท้องทะเลที่สวยงาม ผลไม้ จันทบุรี.จันทบุรีเมืองแห่งราชาผลไม้ (มังคุด) และราชินีผลไม้ (ทุเรียน) นอกจากนี้ยังมีเงาะ ลองกอง สละ สายพันธุ์ดีให้นักท่องเที่ยวชิมและติดไม้ติดมือเป็นของฝาก ช่วงที่น่าสนใจในคือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคมของทุกปี สวนผลไม้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสวนพร้อมทานผลไม้แบบบุฟเฟต์ในราคาที่ไม่แพงเลย คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!!! ก๋วยเตี๋ยวกั้ง.หนึ่งเมนูที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาถึงจันทบุรี กั้งสดๆ เนื้อแน่นๆ น้ำซุปเด็ดๆ โอยยยยย หิวเลยทีเดียว

สุขทุกวัน..จันทบุรี อ่านเพิ่มเติม

นักท่องเที่ยวสายกรีน

นักท่องเที่ยวสายกรีน.เพราะปัจจุบันนี้ ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่ ทุกแวดวงต่างพากันหาวิธีช่วยคนละไม้ละมือ รวมถึงเหล่านักท่องเที่ยวด้วย ทุกวันนี้ เราจึงมีนักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ  วันนี้แอดมีอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ มาแนะนำเพื่อน ๆ ที่ต้องการเริ่มต้นเที่ยวแบบใส่ใจ จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกัน.ถุงผ้า ในแต่ละปีมีถุงพลาสติกถูกผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าห้าหมื่นล้านใบ โดยถุงพลาสติกแต่ละใบต้องใช้เวลาถึง 450 ปีกว่าจะย่อยสลายหมด แต่เพื่อน ๆ สามารถช่วยโลกได้ด้วยการใช้ถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติก ซึ่งนอกจากจะแข็งแรง ทนทาน ใส่ของได้เยอะแล้ว ปัจจุบันยังมีถุงผ้าสวย ๆ มากมายให้เราได้เลือกใช้ ออกไปเที่ยวคราวหน้า อย่าลืมพกถุงผ้าไปช้อปปิ้งกันนะ.กระบอกน้ำปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาเรื่องขยะพลาสติกมาก หนึ่งในนั้นก็คือ ขวดน้ำ และแก้วน้ำพลาสติก การพกกระบอกน้ำถือว่าเป็นการช่วยลดปัญหาได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากจะช่วยลดขยะพลาสติกได้หลายชิ้นแล้ว ยังช่วยเก็บอุณหภูมิได้ทั้งร้อนและเย็นเลย แถมบางร้านมีโปรโมชั่นลดราคาตอนซื้อบ่อย ๆ ด้วยนะ.หลอดส่วนตัว เมื่อมีกระบอกน้ำแล้ว อย่าลืมหลอดส่วนตัว แม้ว่าจะเป็นขยะชิ้นเล็ก ๆ แต่กลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ในทะเลเลยล่ะ หากช่วยกันเปลี่ยนมาใช้หลอดจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ ตะไคร้ หลอดกระดาษ หรือหลอดสแตนเลสส่วนตัว ซึ่งนอกจากจะช่วยลดขยะในทะเลแล้ว ยังปลอดภัยต่อตัวเราที่สัมผัสกับหลอดโดยตรงอีกด้วย เพราะของใช้ส่วนตัวของเรา เราดูแลเอง สะอาดแน่นอน .ตะเกียบ ช้อน ส้อมสำหรับเพื่อน ๆ สายสตรีทฟู้ดแบบแอด แอดขอแนะนำให้พกช้อนส้อมหรือตะเกียบส่วนตัวติดกระเป๋าไว้ ถ้าเจอร้านไหนใช้ช้อน ส้อมพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง เราก็หยิบช้อนส้อมของเราออกมาใช้ ช่วยลดขยะชิ้นสองชิ้นก็ยังดี หรือถ้าบางร้านไม่ค่อยสะอาด การพกไปเองก็เป็นทางเลือกที่ดีใช่ไหมล่ะ.กล่องอาหาร การซื้ออาหารรับประทาน แม้จะสะดวกสบาย แต่ก็เป็นการสร้างขยะจากพลาสติกมากมายเช่นกัน ตอนนี้แอดเห็นเพื่อนสายกินหลายคนเลยที่พกกล่องใส่อาหารหรือปิ่นโตไปด้วย เวลาอยากสอยของอร่อยกลับบ้าน ก็ส่งกล่องให้แม่ค้า ช่วยลดพลาสติกได้เยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นถุงแกง กล่องโฟม กล่องพลาสติก หรือหนังยาง อ้อ ทริคอันหนึ่งที่อยากจะบอกคือ เราต้องเร็วกว่าผู้ค้านะ บอกให้ทันก่อนเขาจะใส่ถุงให้เรา

นักท่องเที่ยวสายกรีน อ่านเพิ่มเติม

Woodland เมืองไม้ นครปฐม

ก่อนจะถึงวันหยุดนี้ แอดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาแนะนำเพื่อน ๆ ให้ชมกันค่ะ . ที่ Woodland เมืองไม้ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานประติมากรรมไม้แกะสลักตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่มากกว่า 2,000 ชิ้น ซึ่งเป็นงานสะสมของอาจารย์ณรงค์ ทิวไผ่งาม ที่เริ่มสะสมมาตั้งแต่บรรพบุรุษ สืบสานต่อกันมาจนถึงปัจจุบันรวม 150 ปีเลยทีเดียว ก่อนเราจะไปชมกัน แอดขอเล่าความเป็นมาของที่นี่ก่อนว่า ครอบครัวทิวไผ่งามนั้นชื่นชอบในงานไม้เป็นอย่างมาก ซึ่งมีการสะสมงานไม้ต่าง ๆ จากรุ่นสู่รุ่นรวมถึง 4 รุ่น รวมแล้วราว ๆ 150 ปี!!.การสะสมในรุ่นแรก ๆ จะเป็นเสาไม้เก่า งานแกะสลักชิ้นเล็ก ๆ และด้วยความคิดที่ว่า “ถ้าไม่เก็บไว้ ต่อไปจะหาไม่ได้อีก” จึงทำให้เริ่มสะสมงานไม้แกะสลักอย่างจริงจัง น้อยคนนักที่จะได้เห็นของสะสมเหล่านี้ ต่อมาปี 2536 ก็ได้รับคำแนะนำว่าควรจะเปิดให้คนทั่วไปได้เห็นงานศิลปะอันงดงามเหล่านี้ อาจารย์ณรงค์และคุณอุษา (ภรรยา) จึงได้ริเริ่มโครงการ Woodland ขึ้นมา.จนมาถึงปี 2551 ดร.ณัฐกฤษฎ์ (บุตรชายของอาจารย์ณรงค์และคุณอุษา) ได้เข้ามาสานต่อโครงการนี้ให้สำเร็จ โดยจัดรูปแบบโครงการให้เข้าถึงผู้เข้าชมได้ทุกกลุ่ม ที่เมืองไม้แห่งนี้ถูกจัดออกเป็น 3 โซนหลัก ๆ ด้วยกัน มีการจัดและคัดหมวดหมู่งานสะสมออกมาถึง 10 หมวด ผูกเป็นเรื่องราวผจญภัยได้อย่างน่าสนใจ ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยดีกว่าจ้าาา โซนแรกไปชมที่ “นิทานเมืองไม้”.อาคารจัดแสดงหลักที่โชว์งานไม้สะสมมากกว่า 2,000 ชิ้น มาจัดแสดงโดยการนำงานไม้แกะสลักแต่ละชนิดมาผูกเป็นเรื่องราวได้น่าสนใจ ประกอบกับแสงสีเสียงตระการตาระหว่างรับชม โดยแต่ละห้องจะเล่าเป็นเรื่องราวความเป็นมาของโลกและสวรรค์ ประกอบไปด้วยงานไม้แกะสลักสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ความเชื่อเกี่ยวกับเทพและสัตว์ในตำนาน ศาสนาต่าง ๆ.บอกเลยว่างานไม้แกะสลักแต่ละชิ้น นอกจากจะหาดูได้ยากแล้ว บางชิ้นยังเป็นของที่มีชิ้นเดียวในโลกอีกด้วย ครัวเมืองไม้ .โซนถัดมาคือร้านอาหารและคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ติดริมน้ำ บรรยากาศดีมาก ถึงช่วงกลางวันแดดจะร้อนมาก ๆ แต่แอดมานั่งพักผ่อนจิบน้ำเย็น ๆ ที่นี่ก็คลายร้อนได้ดีเลยล่ะ ครัวเมืองไม้ให้บริหารอาหารจานหลัก อาหารทานเล่นและของหวานแบบไทยประยุกต์.สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มารับประทานอาหารที่ครัวเมืองไม้แห่งนี้ ได้สิทธิ์เข้าชมนิทานเมืองไม้ฟรี!! .ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากเพจ Woodland เมืองไม้ บ้านคุณณรงค์ เครื่องดื่มก็มีหลายเมนูเลยนะ ครัวเมืองไม้ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-21.00 น. เมืองไม้รีสอร์ต .โซนที่สาม เป็นพื้นที่ที่ให้บริการห้องพักสุดหรูสไตล์บูติกรีสอร์ต บรรยากาศร่มรื่น ติดริมแม่น้ำนครชัยศรี มีห้องพักทั้งหมด 20 ห้อง หากเพื่อน ๆ มีโอกาสก็ลองไปพักผ่อนกัน บรรยากาศดีสุด ๆ.ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากเพจ Woodland เมืองไม้ บ้านคุณณรงค์ ที่ woodland มีสวนหย่อมให้นั่งพักเหนื่อยหลายจุด จุดนี้ถือเป็นจุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชอบมานั่งพักและถ่ายรูปจุดหนึ่ง นอกจากนี้ในโซนนี้ยังมีต้นไม้ที่น่าสนใจมากชื่อต้นเบาบับ เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา และมีอายุยืนยาวมากถึง 2,000 ปีเลยก็ว่าได้ นี่คือหน้าตาของต้นเบาบับ.ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากเพจ Woodland เมืองไม้ บ้านคุณณรงค์ Woodland เมืองไม้ นครปฐม.ค่าเข้าชม 50 บาท/คน (ราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นที่จัดอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีกำหนดวันหมดเขต)เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.084 994 6369, 084 994 1971ที่ตั้ง ถ.ดอนแฝก-ห้วยพลู ตำบลดอนแฝก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

Woodland เมืองไม้ นครปฐม อ่านเพิ่มเติม

1 Day trip นั่งรถไฟไปเที่ยวนครปฐม

1 Day trip นั่งรถไฟไปเที่ยวนครปฐม . กลับมาอีกครั้งกับการนั่งรถไฟไปเที่ยว คราวที่แล้วถ้าเพื่อน ๆ ยังพอจำกันได้ แอดพานั่งรถไฟไปเที่ยวฉะเชิงเทรา ส่วนครั้งนี้แอดจะพาไปเที่ยวจังหวัดนครปฐมกันค่ะ ไปดูกันดีกว่าว่าใน 1 วัน เราจะไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง 1. สถานีรถไฟนครปฐม2. สะพานเจริญศรัทธา (สะพานยักษ์)3. ตลาดบน-ตลาดล่าง4. องค์พระปฐมเจดีย์5. ครัวอภิรัตต์ ต้นสน6. Junkyard Car’fé7. พระราชวังสนามจันทร์8. ตลาดโต้รุ่งองค์พระปฐมเจดีย์ **สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งอยู่ไม่ไกลกันมาก สามารถเดินหรือนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปได้ค่ะ** การนั่งรถไฟไปเที่ยวจังหวัดนครปฐม สามารถนั่งรถไฟจากสถานีธนบุรีไปได้ มีรถไฟออกเวลา 07.30 น. และ 07.45 น. – ขบวนรถไฟธรรมดา 255 (ธนบุรี-หลังสวน จ.ชุมพร) ออกจากสถานีธนบุรี เวลา 07.30 น. ถึงสถานีนครปฐม เวลา 08.40 น. ค่าโดยสาร 10 บาท – ขบวนรถไฟธรรมดา 257 (ธนบุรี-น้ำตก จ.กาญจนบุรี) ออกจากสถานีธนบุรี เวลา 07.45 น. ถึงสถานีนครปฐม 08.51 น. ค่าโดยสาร 10 บาท.เรียกว่านั่งรับลมเพลิน ๆ ก็ถึงสถานีนครปฐมแล้วค่ะ อันดับแรกแอดจะพาไปวัดพระปฐมเจดีย์เพื่อกราบสักการะองค์พระปฐมเจดีย์และพระร่วงโรจนฤทธิ์ เดินจากสถานีรถไฟนครปฐมประมาณ 100 เมตร จะผ่านสะพานเจริญศรัทธา หรือที่ชาวนครปฐมเรียกกันว่า สะพานยักษ์ เป็นสะพานข้ามคลองเจดีย์บูชามีอายุกว่า 100 ปี สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟกับองค์พระปฐมเจดีย์ ข้ามสะพานยักษ์มาจะเจอกับ “ตลาดบน-ตลาดล่าง” เป็นตลาดใหญ่ประจำเมืองนครปฐม มีทั้งร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของสด ของแห้ง ผลไม้ และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ถ้ารู้สึกหิว ที่นี่มีร้านอร่อยหลายร้านให้ฝากท้องกันได้ เช่น ข้าวหมูแดงร้านตั้งฮะเส็ง ข้าวหมูแดงร้านนายฉั้ว และร้านสุกี้คุณเตือน เป็นต้น หรือถ้าอยากซื้อของฝากขึ้นชื่อของนครปฐมอย่าง ข้าวหลาม ส้มโอ และสารพัดผลิตภัณฑ์จากหมู (หมูหยอง หมูแผ่น กุนเชียง หมูสวรรค์ เป็นต้น) สามารถซื้อที่ตลาดนี้ได้เช่นกัน.ที่ตั้ง ถนนรถไฟ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐมเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น. ในที่สุดเราก็มาถึงวัดพระปฐมเจดีย์แล้วค่ะ ภายในวัดเป็นที่ตั้งขององค์พระปฐมเจดีย์และพระร่วงโรจนฤทธิ์.องค์พระปฐมเจดีย์ ถือเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระเจดีย์ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2396 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างครอบเจดีย์องค์เก่าเอาไว้ พระเจดีย์องค์ปัจจุบันเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ศิลปะแบบลังกา มีวิหารรอบทั้ง 4 ทิศ ซุ้มวิหารด้านหน้าองค์พระปฐมเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอย่าง “พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรมโมภาส มหาวชิราวุธ ราชปูชนียบพิตร” เป็นพระพุทธรูปยืน ปางประทานอภัย แต่ก่อนเคยประดิษฐานอยู่ที่เมืองศรีสัชนาลัยในสภาพชำรุด มีเพียงพระพักตร์ พระกร และพระบาท ในกาลต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หล่อขึ้นมาใหม่ และใต้ฐานพระร่วงมีพระสรีรางคารของพระองค์บรรจุอยู่ด้วย นอกจากนี้ ในวัดยังมีพระพุทธรูปองค์สำคัญประดิษฐานอยู่อีก ได้แก่ หลวงพ่อศิลาขาว ซึ่งเดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดทุ่งพระเมรุ ใกล้องค์พระปฐมเจดีย์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานในโบสถ์ที่ตั้งอยู่ในระเบียงรายบริเวณรอบองค์พระปฐมเจดีย์ หลวงพ่อพระขาว หรือพระพุทธนรเชษฐ์ฯ ประดิษฐานอยู่ที่บันไดลดวิหารรายด้านหลังองค์พระปฐมเจดีย์.วัดพระปฐมเจดีย์ที่ตั้ง ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐมเปิดทุกวัน เวลา 07.00 น. – 20.00 น.โทร. 0 3424 2143 หลังจากไหว้พระจนอิ่มบุญกันแล้ว ก็ได้เวลาไปอิ่มท้องกันบ้าง แอดจะชวนเพื่อน ๆ ไปที่ร้าน “ครัวอภิรัตต์ ต้นสน” ซึ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งที่ได้รับรางวัลเชลล์ชวนชิมปี พ.ศ. 2546 อร่อยจนต้องบอกต่อ.เมนูเด็ดของร้านที่ต้องลองคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำชามหมู ทางร้านจะเอาหมูเด้งไปขึ้นรูปให้เป็นรูปชาม เสิร์ฟพร้อมเส้นก๋วยเตี๋ยวนุ่ม ๆ เครื่องแน่น ๆ และน้ำต้มยำที่กลมกล่อมชนิดไม่ต้องปรุงเพิ่ม ขอเตือนว่าเมนูนี้ปริมาณค่อนข้างเยอะ ควรแบ่งกันกินสองคน ไม่งั้นมีจุกแน่นอน.การเดินทาง : นั่งเมล์เครื่อง (มอเตอร์ไซค์รับจ้าง) หรือเดินจากองค์พระปฐมเจดีย์ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร.ที่ตั้ง ถนนราชดำเนิน (ถนนต้นสน) ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐมเปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 15.00 น. หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เราไปต่อกันที่ Junkyard Car’fé สวนสาธารณะรถเก่า ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านอภิรัตต์ ต้นสน ที่นี่เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของนครปฐมที่น่าจะถูกใจคนชอบของเก่า.ที่ตั้ง ถนนราชดำเนิน ซอย 10 ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐมเปิดทุกวัน เวลา 09.00-24.00 น.โทร. 08 1880 1296 Junkyard Car’fé ไม่ใช่คาเฟ่เดี่ยว ๆ แต่มีลักษณะคล้ายสวนสาธารณะ มีร้านขายอาหาร เครื่องดื่มแทรกตัวกลมกลืนไปกับบรรดารถเก่า และข้าวของเครื่องใช้ย้อนยุคที่เป็นการตกแต่งหลักของที่นี่ ร้านอาหารมีให้เลือกหลากหลายทั้งคาวหวาน เช่น ส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยว ซูชิ สเต็ก ฯลฯ โดยเป็นบริการแบบ self service คือซื้อแล้วไปนั่งกินที่โต๊ะ

1 Day trip นั่งรถไฟไปเที่ยวนครปฐม อ่านเพิ่มเติม

ของดีนครปฐม

นครปฐมนับเป็นอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย อาหารอร่อย เดินทางสะดวก จะท่องเที่ยวแบบค้างคืน หรือไปเช้าเย็นกลับก็สนุกได้ไม่แพ้กัน . นอกจากได้เที่ยวสนุกแล้ว จะให้ครบสูตรก็ต้องไปช้อปปิ้งของฝากด้วย วันนี้แอดจะมาแนะนำของดีน่าช้อปของนครปฐมให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกัน ใครชอบแบบไหน ตามไปซื้อกันได้เลยย ส้มโอ.ส้มโอขึ้นชื่อของจังหวัดนครปฐมมีอยู่ 2 สายพันธุ์ นั่นก็คือ ส้มโอพันธุ์ทองดี และพันธุ์ขาวน้ำผึ้ง ด้วยลักษณะดินและภูมิอากาศทำให้ส้มโอที่นี่มีรสชาติดี ไม่ขม สามารถหาซื้อได้ในตัวจังหวัด และตามตลาดต่าง ๆ เช่น ตลาดโต้รุ่งองค์พระปฐมเจดีย์ ตลาดท่านา ตลาดนครชัยศรี ตลาดน้ำดอนหวาย เป็นต้น ข้าวหลาม  เพื่อน ๆ สนใจอยากลองรสชาติข้าวหลามที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปีไหม? มาที่ร้าน “ข้าวหลามแม่ลูกจันทร์” นี่เลย ข้าวหลามชื่อดังของนครปฐมเจ้านี้ยังคงใช้กรรมวิธีการทำแบบดั้งเดิม โดยเผาข้าวหลามด้วยเตาถ่านอิฐแดงเป็นรางยาวแบบโบราณ ด้วยไฟรุม ๆ ทำให้ข้าวหลามสุกทั่ว ไม่มีส่วนดิบ ปัจจุบันกลายเป็นของอร่อยขึ้นชื่อที่ใครมานครปฐมแล้วต้องมาลองชิม.บริเวณสถานีรถไฟนครปฐมมีร้านข้าวหลามอร่อย ๆ อยู่หลายร้านเลยนะ หากเพื่อน ๆ เดินผ่านร้านไหนแล้วอยากซื้อมาชิมก็จัดไป รับรองว่าอร่อยไม่แพ้กัน .เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 14.00 น.ที่ตั้ง หน้าร้านทองจินดา 5 ถ.ซ้ายพระ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐมโทร. 09 6295 6591 หมูแปรรูป .นครปฐมไม่ได้ขึ้นชื่อเฉพาะข้าวหมูแดงเท่านั้น ผลิตภัณฑ์หมูแปรรูปต่าง ๆ เช่น กุนเชียง หมูหยอง หมูแผ่น ก็ได้รับความนิยม ซื้อหากลับไปเป็นของฝากเช่นกัน ร้านที่แอดจะแนะนำก็คือ “ตั้ง ฮะ เฮง” รับประกันความอร่อยด้วยรางวัลโอท็อปห้าดาว ของจังหวัด ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากหมูให้เลือกมากกว่า 10 ชนิด และยังสั่งซื้อออนไลน์ได้อีกด้วย.แต่ถ้าใครไม่สะดวกไปที่ร้าน เพื่อน ๆ ลองเดินดูที่ตลาดบน-ตลาดล่าง แหล่งช้อปของฝากสุดฟินดูได้ มีหลายร้านที่ขายผลิตภัณฑ์หมูแปรรูปเช่นกัน.เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 19.00 น.ที่ตั้ง ตลาดล่าง ซอย 7 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐมโทร. 06 1096 1515, 0 8544 4406 วุ้นกะทิ ถ้าเพื่อน ๆ เป็นคนที่ชื่นชอบวุ้นกะทิ มาถึงนครปฐมทั้งที จะพลาดร้านนี้ไปได้ไง “ร้านวุ้นคุณอุ๊” วุ้นกะทิชื่อดังที่มีชื่อเสียงมานานหลายสิบปี ด้วยรสชาติที่หวานหอม อร่อย สะอาด ทำให้เป็นที่นิยมของลูกค้าทั้งชาวนครปฐมและต่างถิ่น ใครมาแวะมาเที่ยวนครปฐมก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปกันเสมอ.แต่ถ้าใครไม่มีเวลาไปถึงนครปฐมก็ไม่ต้องกลัวอด เพราะร้านคุณอุ๊มีหลายสาขาและสามารถสั่งออนไลน์ได้ ยิ่งตอนนี้แอดเห็นเริ่มมีขนมวุ้นกะทิดีไซน์สวย ๆ ในร้านค้าออนไลน์หลายร้าน ว่าจะลองสั่งอยู่เหมือนกันน .เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 20.00 น.ที่ตั้ง ถ.เทศา ซอย 4 ตรงข้ามศาลจังหวัดนครปฐม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐมโทร. 0 3425 7348 , 0 3424 1560 ขนมเปี๊ยะ หนึ่งในของฝากยอดฮิตอีกอย่างของนครปฐม นั่นก็คือ ขนมเปี๊ยะครูสมทรง ที่โดดเด่นทั้งรสชาติและรูปทรงกลม ๆ เหลือง ๆ ขนาดพอคำ ขนมเปี๊ยะนี้เป็นสูตรเฉพาะของครูสมทรงที่ไปลงเรียนการทำขนมเปี๊ยะจากหลายสถาบันและพัฒนาด้วยตนเองจนเป็นสูตรปัจจุบัน นอกจากนี้ ที่ร้านยังมีขนมของฝากอื่น ๆ เช่น กะหรี่ปั๊บ มะม่วงน้ำปลาหวาน และขนมไทยต่าง ๆ อีกด้วย.แต่ถ้าเพื่อน ๆ อยากลองร้านอื่น แอดแนะนำให้ไปเดินตลาดบน-ตลาดล่างดู แล้วถ้าเจอร้านอร่อย ๆ ร้านอื่น อย่าลืมมาบอกแอดด้วยนะ.เปิดทุกวัน เวลา 06.30 – 18.30 น.ที่ตั้ง 449 หมู่ 8 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐมโทร. 034 391 376

ของดีนครปฐม อ่านเพิ่มเติม

เกาะล้านแบบสับ!

เกาะล้านแบบสับ!  สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน วันนี้แอดมีที่เที่ยวสุดว้าวใกล้กรุงเทพฯ มานำเสนอ นั่นก็คือ เกาะล้านนั่นเอง! เที่ยวเเบบชิล ๆ One Day Trip ขอบอกเลยว่ามันว้าวสุด ๆ น้ำทะเลใสยิ่งกว่ากระจกอีกนะ…จะบอกให้  เราเริ่มต้นทริปในครั้งนี้ด้วยการนั่งสปีดโบ๊ทส่วนตัวจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย มุ่งหน้าไปยังหาดเทียน เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น หาดเทียนเป็นหาดเล็ก ๆ คนน้อย และที่สำคัญคือน้ำใสมาก! มีบริการเรือคายัคใส SUP Board และเครื่องเล่นกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ สุดฟิน แถมมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมากกกกกก ส่วนช่วงบ่ายเราก็แวะไปดำน้ำแบบ Snorkeling เบา ๆ ที่เกาะไผ่ ดูฝูงน้องปลาว่ายน้ำ ปะการังก็สวยไปอีก  บอกเลยว่ามาเกาะล้านครั้งนี้คุ้มสุด ๆ ชวนเพื่อนมาเที่ยวกันเยอะ ๆ น้า เมื่อมาถึงที่เกาะล้าน สิ่งแรกที่เราได้พบก็คือฝูงน้องห่านที่กำลังว่ายน้ำเล่นอยู่อย่างสนุกสนาน น่ารักมาก ๆ เลยยยยย  ต้องบอกเลยว่าน้ำทะเลที่นี่ใสมากจริง ๆ เลิฟสุด ๆ แล้วที่นี่ก็มีเรือคายัคใสให้บริการด้วยนะ เก๋กู๊ดไม่เหมือนใคร หรือจะเล่น SUP Board เท่ ๆ ก็ได้ ได้เจอน้องห่านอีกเเล้ว มาแล้วก็อย่าลืมถ่ายรูปชิค ๆ กับเรือคายัคใสกลับไปอวดเพื่อน ๆ ด้วยนะ เห็นแบบนี้เเล้วอยากแช่น้ำทะเลทั้งวันเลย อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชอบเล่นสไลเดอร์ เเละนี่ก็คือเกาะไผ่ เดี๋ยวเราจะมาดำน้ำที่เกาะนี้กัน เมื่อดำน้ำลงไปแล้ว ก็จะเจอกับน้องปลาตัวเล็ก ตัวน้อยเต็มไปหมด หมู่ปะการังก็ยังคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์สวยงามมาก ๆ ว้าวสุด ๆ ไปเลย ส่งท้ายด้วยภาพพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น จบ One Day Trip ลงไปด้วยความสุข

เกาะล้านแบบสับ! อ่านเพิ่มเติม

คำแนะนำเมื่อเดินทางโดยรถไฟ

คำแนะนำเมื่อเดินทางโดยรถไฟ นักเดินทางหลายคนเลือกเดินทางด้วยรถไฟเพราะติดใจในเสน่ห์และบรรยากาศ การได้เห็นชีวิตผู้คนมากมาย และช่วงเวลาที่ได้เพลินใจไปกับวิวสองข้างทาง แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็อย่าละเลยเรื่องความปลอดภัยกันนะคะ ช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 อาจทำให้การเดินทางยังไม่ค่อยสะดวกมากนัก แอดอยากให้เพื่อน ๆ ดูแลตัวเองและคนที่เรารักขณะเดินทางกันด้วยน้า วันนี้แอดมีคำแนะนำเบื้องต้นในการนั่งรถไฟแบบปลอดภัยและอุ่นใจมาฝาก ทุกคนจะได้เตรียมตัวและป้องกัน 1.ตรวจสอบวัน เวลา และสถานี หลังจากได้ตั๋วมา เพื่อป้องกันการขึ้นรถไฟผิดเวลาหรือผิดขบวน2.นั่งตามที่นั่งและตู้ที่กำหนดในตั๋ว เพื่อความเรียบร้อย ไม่ทับซ้อนกับที่นั่งผู้อื่น3.ห้ามขึ้นหรือลงในขณะที่รถไฟเคลื่อนที่ เพื่อความปลอดภัย4.ห้ามโดยสารบริเวณหลังคา หัวต่อรถโดยสาร บันไดรถไฟ เพื่อความปลอดภัย5.ไม่รับฝากของ หรือรับประทานอาหารจากคนแปลกหน้า เพื่อความปลอดภัย6.ไม่ยื่นหน้าหรือส่วนใดๆ ของร่างกายออกนอกขบวนรถ เพื่อความปลอดภัย7.ไม่ดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟและบริเวณสถานี ป้องกันการมึนเมา ขาดสติ และอาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาท8.สวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลตลอดการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด9.พกเจลแอลกอฮอล์และล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงโรคโควิด-1910.ตรวจสอบสัมภาระทั้งก่อนขึ้นและลงจากรถไฟ เพื่อป้องกันการสูญหาย

คำแนะนำเมื่อเดินทางโดยรถไฟ อ่านเพิ่มเติม

ลัดเลาะเที่ยวชุมชนกุฎีจีน

เวลาหนึ่งวัน เราจะปล่อยให้เป็นวันธรรมดา หรือจะเปลี่ยนให้เป็นวันที่น่าจดจำก็ได้ เพียงแค่ออกไปเดินเที่ยวสบาย ๆ วันธรรมดาก็กลายเป็นวันชิลล์ ๆ แล้ว ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะไปไหน ตามแอดมา แอดจะพาไปเดินเล่น ลัดเลาะตามตรอกซอกซอยของย่านชุมชนที่มีชีวิตชีวาอย่าง “ชุมชนกุฎีจีน” กัน ชุมชนกุฎีจีน.ชุมชนกุฎีจีนหรือกะดีจีน เป็นย่านชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ในชุมชนมีทั้งชาวไทย จีน ฝรั่ง เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยก่อตั้งกรุงธนบุรี ภายในชุมชนก็จะมีตรอกซอกซอยเยอะมาก ทุกมุมล้วนมีชีวิตชีวา มี Graffiti มีบ้านสวย ศาลเจ้าเก่าแก่ โบสตถ์คริสต์ พิพิธภัณฑ์ชุมชนรวมทั้งร้านอร่อย ทั้งคาวทั้งหวานน่ากินไปหมด นี่คงเป็นหนึ่งเหตุที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปไม่ขาดสาย วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร.สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นวัดเก่าแก่ มีความงดงามตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมผสมผสานไทยและจีน ไฮไลท์คือมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต หรือที่รู้จักกันในหมู่ชาวจีนว่า ซำปอกง ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร ส่วนภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ นับเป็น 1 ใน 2 วัดในกรุงเทพฯเท่านั้นที่มีพระประธานปางปาลิไลยก์.ผู้คนนิยมมาสักการะบูชาเพื่อขอพรให้เดินทางปลอดภัยและขอให้มีมิตรที่ดีตามชื่อของวัดแห่งนี้.เปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.โทร. 0 2466 4643 โบสถ์ซางตาครู้ส.คำว่า ซางตาครู้ส หมายถึง ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ตามพิธีสักการะบูชาของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกโบสถ์ซางตาครู้สสร้างขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อให้เป็นศาสนสถานของชาวโปรตุเกส ตั้งแต่ปี พ.ศ.2313 โดยโบสถ์หลังแรกเป็นโบสถ์ไม้ จนเมื่อปี พ.ศ.2376 เกิดเพลิงไหม้ชุมชนและโบสถ์ จึงต้องสร้างโบสถ์ขึ้นใหม่ จนเมื่อ พ.ศ. 2456 โบสถ์หลังดังกล่าวก็เก่าทรุดโทรมมากเกินกว่าจะซ่อมแซม จึงมีการก่อสร้างใหม่ นั่นก็คือโบสถ์หลังปัจจุบัน ซึ่งแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2459 มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์และนีโอคลาสิก พร้อมยอดโดมที่จำลองมาจากมหาวิหารฟลอเรนซ์ ในประเทศอิตาลี จึงถือว่าเป็นวัดคริสต์ที่มีความเก่าแก่มากอยู่คู่กรุงเทพฯ บ้านวินเซอร์.บ้านวินเซอร์ หรือบ้านขนมปังขิงแห่งนี้เป็นบ้านเก่าแก่อีกหลังที่ใครมาเที่ยวกุฎีจีนก็จะถ่ายรูปไว้เสมอ แต่เดิมบ้านนี้เป็นบ้านไม้ที่ซื้อมาจากที่อื่น แล้วนำมาปลูกสร้าง ลักษณะคือบ้านไม้ 2 ชั้น โดดเด่นด้วยลายขนมปังขิง ภายนอกประดับตกแต่งตามตำแหน่งหน้าจั่ว ชายคาโดยรอบ กันสาด หน้าต่างด้านข้างของตัวบ้าน.ปัจจุบันบ้านหลังนี้ ไม่มีใครอาศัยอยู่ หากมองจากริมแม่น้ำจะมองเห็นตัวบ้านทั้งหลัง ในอดีตบ้านหลังนี้จะคงสวยงามมาก ๆ เลยล่ะ ทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรมและลวดลายฉลุ ศาลเจ้าเกียนอันเกง หรือ ศาลเจ้าแม่กวนอิม.ศาลเจ้าเก่าแก่ ในชุมชนกุฎีจีน ตั้งอยู่ระหว่างวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารและวัดซางตาครู้ส นับเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในฝั่งธนบุรี เล่ากันว่าสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน เดิมศาลเจ้าแห่งนี้มี 2 ศาล แต่หลังจากนั้นศาลเจ้าได้ทรุดโทรมลงไปมาก ในสมัยรัชกาลที่ 3 ชาวจีนฮกเกี้ยนกลุ่มหนึ่งได้รื้อศาลทั้งสองแล้วสร้างขึ้นมาใหม่เพียงศาลเดียว ซึ่งคือศาลเจ้าปัจจุบันนั่นเอง.ด้านในมีองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมให้ได้กราบไหว้สักการะ ชมความสวยงามของงานไม้แกะสลักที่มีความประณีตและงดงาม ภายนอกศาลเจ้ามุงด้วยกระเบื้องโค้งตามแบบจีน แอบบอกก่อนว่าภายในห้ามถ่ายรูปนะคะ ถ้าอยากรูปว่าด้านในเป็นยังไง ก็ต้องมาดูด้วยตัวเอง พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน.ถ้าอยากเข้าใจชุมชนกุฎีจีนให้มากขึ้น แนะนำให้มาที่นี่ พิพิธภัณฑ์บ้านกุฏีจีนเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนและแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษา ศาสนา และอาหารของชาวสยามโปรตุเกสในชุมชนกุฏีจีน รวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับขนมไทยหลายชนิดที่เชื่อกันว่าท้าวทองกีบม้าได้ดัดแปลงมาจากขนมของโปรตุเกส พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เป็นบ้านไม้สามชั้น บรรยากาศร่มรื่น น่าสบาย ชั้นล่างเป็นจุดประชาสัมพันธ์ มีร้านกาแฟเล็ก ๆ สามารถนั่งดื่มชากาแฟ และช้อปปิ้งของที่ระลึกน่ารัก ๆ ได้ ส่วนชั้น 2 เป็นห้องแสดงเรื่องราวความเป็นมาของชาวโปรตุเกสในประเทศไทย และที่มาของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกส ชั้น 3 จัดแสดงเป็นห้องนอนแบบโบราณ ทั้งตู้ เตียง โต๊ะ และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมถึงเครื่องมือประกอบอาชีพ ทำให้เราเห็นภาพในอดีตของชุมชนเก่าแก่แห่งนี้เลยล่ะ พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน แต่เปิดให้เข้าชมฟรี ผู้สนใจต้องการช่วยสนับสนุนพิพิธภัณฑ์ก็สามารถซื้อของที่ระลึก หรือรับประทานอาหารเครื่องดื่มที่นี่ได้.เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.30-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)โทร. 08 1772 5184 ขนมฝรั่งกุฎีจีน.ของอร่อยห้ามพลาดเมื่อมาเยือนชุมชนกุฎีจีน ก็คือ “ขนมฝรั่งกุฎีจีน” ขนมนี้มีต้นตำรับจากฝรั่ง เป็นขนมหายาก จะทำกันเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญทางศาสนา ได้รับอิทธิพลมาจากขนมของชาวโปรตุเกสเป็นขนมอบ มีส่วนผสมหลัก ๆ 3 อย่างคือ แป้งสาลี ไข่เป็ดและน้ำตาลทราย รสชาติคล้ายขนมไข่ ด้านนอกจะกรอบ ๆ ส่วนเนื้อขนมจะมีความแน่นกว่า แต่งหน้าด้วยลูกเกด ลูกพลับเชื่อม โรยหน้าด้วยน้ำตาล ปัจจุบันมีร้านบ้านป้าเล็ก บ้านป้าพรรณ ร้านหลานป้าเป้า และร้านธนูสิงห์ ที่ยังคงทำขนมโบราณชนิดนี้ขายอยู่ นอกจากนี้ ยังมีขนมอื่น ๆ ที่ต้องลิ้มลองนอกจากขนมฝรั่งกุฎีจีน– ขนมกุสลา หรือ “ขนมตรุษฝรั่ง” มีส่วนผสมแบบเดียวกันขนมฝรั่งกุฎีจีน แต่เพิ่มเนย เกลือ และน้ำเข้าไป นำไปทอดแล้วเคลือบน้ำตาล– ก๋วยตั๊ส หรือพายสัปปะรด ขนมตำรับโปรตุเกสอีกอย่างที่หาทานได้เฉพาะที่กุฎีจีน– ขนมหน้านวล ขนมไทยโบราณทำจากแป้งสาลี ไข่แดง และน้ำตาล อบให้สุก บะหมี่ไก่กรอบลาดหญ้า (หน้าวัดบุปผาราม).ใครหิวมารวมตัวกันทางนี้ แอดมีมื้อหนักมาแนะนำ ก๋วยเตี๋ยวบะหมี่ไก่กรอบ บอกเลยว่าอิ่มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เป็นบะหมี่ต้มยำที่ท็อปด้วยไก่กรอบ มีทั้งแห้งและน้ำตามใจชอบ รสชาติกลมกล่อม เผ็ดหวานกำลังดี.เปิดทุกวัน เวลา 08.00-19.00 น.โทร. 09 7185 6620 Window กาแฟ.ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ น่ารัก ใกล้กับพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน มีกาแฟ เครื่องดื่ม ไอศกรีมแบบโฮมเมด และขนมอร่อย ๆ คอยต้อนรับ.เปิดวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดวันศุกร์)โทร. 08 4659 9515 แอดสั่ง Honey ขนมฝรั่งกุฎีจีน เป็นเมนูแนะนำของร้านค่ะ ซึ่งประกอบด้วยขนมฝรั่งกุฎีจีน ผลไม้ และไอศกรีมโฮมเมด เนื้อแป้งขนมกรอบนอกนุ่มในกินคู่กับไอศกรีม เข้ากันได้ดีเลยค่ะ ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ Window กาแฟ

ลัดเลาะเที่ยวชุมชนกุฎีจีน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวย้อมใจ ไปสกลนคร : ครามรุณณี ย้อมครามด้วยใจ ตอนที่ 2

หลังจากผ่านขั้นตอนการเข็นฝ้ายไปแล้ว คุณยายจะพาไปทำอะไรต่อ ติดตามกันได้เลย ตั้งหม้อคราม สิ่งหนึ่งที่ฉันค่อยๆสัมผัสระหว่างนั่งชมแม่ๆยายๆทั้งเข็นทั้งทอฝ้ายให้ชมคือความอบอุ่นในครอบครัว ที่ทุกคนต่างมาช่วยกันในทุกๆกระบวนการ ซึ่งระหว่างที่กำลังสาธิตการเข็นฝ้าย สามีพี่รุณณีก็ง่วนอยู่กับการตัดใบมะม่วง และเตรียมส่วนผสมไว้ตั้งหม้อคราม ส่วนลูกสาวก็ช่วยตั้งไฟเตรียมต้มน้ำสำหรับย้อมร้อน ท่ามกลางเสียงหัวเราะและยิ้มแย้มกันตลอดเวลา อดรู้สึกไม่ได้ว่าผ้าครามบ้านนี้ต้องมีความรักเป็นส่วนผสมด้วยแน่ๆ พี่รุณณีอธิบายเรื่องการย้อมให้ฟังว่ามีทั้งแบบย้อมร้อน และย้อมเย็น ซึ่งการย้อมร้อนของพี่รุณณีใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในการย้อมทั้งหมด และเน้นเฉพาะส่วนใบ ดอก ผล ที่จะไม่ไปทำลายต้นไม้หรือไปตัดโค่น ซึ่งพืชอื่นที่นำมาย้อมก็เช่น ใบมะม่วง กาบมะพร้าวน้ำหอม ผลกระบก ใบสัก ใบยูคาลิปตัส ประดู่ ผลคำแสด ใบสาบเสือ ใบขี้เหล็ก ฯลฯ เอามาต้มโดยอาจจะเติมปูนแดง หรือสารส้ม และเกลือเข้าไปเพื่อช่วยดึงสีสันและติดคงทนกับเส้นฝ้าย ส่วนการย้อมครามจัดเป็นการย้อมเย็น พี่รุณณีเล่าว่าสมัยก่อนในหนึ่งหม้อครามมี 3 รสถึงจะกลมกล่อม คือ เปรี้ยวจากมะขาม หวานจากกล้วยหรือน้ำตาล และเค็มจากน้ำขี้เถ้า ส่วนสูตรของพี่รุณณีมีส่วนผสมของเนื้อคราม ปูนแดง น้ำขี้เถ้า เอามาขยำๆผสมกัน จากนั้นย้ายลงหม้อ ตามด้วยน้ำมะขามเปียกที่ต้มมาเดือดๆ เทตามลงไป จากนั้นใช้ขัน ตักน้ำเทออกไปเรื่อยๆ หรือเรียกว่าโจกคราม แค่ 5-10 นาที ก็จะขึ้นฟอง ส่วนน้ำครามจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด ซึ่งช่วงนี้พี่รุณณีเอ่ยปากชมตลอดว่าสีสวยมาก จากนั้นก็ปิดฝา ทิ้งให้เย็น นี่แหละการตั้งหม้อคราม เดี๋ยวก่อนนน! มีหม้อครามแล้วไม่มีผ้าย้อมครามได้ไง หลังจากคุณยายสอนฉันทอผ้าจนอ่อนใจ เพราะกว่าจะพุ่งได้แต่ละเส้นต้องลุ้นไม่แพ้วันหวยออก พี่รุณณีเลยชวนมาพับผ้ามัดย้อมกันระหว่างรอหม้อย้อมเย็นและย้อมร้อนได้ที่ ซึ่งก็ไม่ต้องเน้นทฤษฎี เราเน้นตามใจชอบ แต่พี่รุณณีก็จะคอยไกด์ว่าอยากได้ลายยังไง แกก็จะบอกให้ลองมัดแบบนั้นแบบนี้ จากนั้นก็นำไปจุ่มน้ำและเอาไม้ตีให้น้ำเข้าเส้นใย เสร็จแล้วเอาลงไปขยำๆ อยากได้เข้มๆก็แช่ไว้ โดยเฉพาะย้อมร้อนด้วยใบมะม่วงที่พี่รุณณีสาธิตด้วยใจฝ้าย พอยกขึ้นมาได้สีเหลืองอมเขียว สวยมากๆ จากนั้นก็นำไปผึ่งให้แห้ง รอชื่นชมผลงาน  ถนนผ้าคราม หลายคนเรียกที่นี่ว่า ถนนผ้าคราม เป็นกิจกรรมถนนคนเดินที่จัดทุกเย็นวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ถึงจะมาในวันธรรมดา ถนนสายนี้ก็มีร้านจำหน่ายผ้าย้อมครามสกลนคร เรียงรายอยู่หลายร้าน เพียงแต่ถ้าเป็นวันหยุดจะมีร้านรวงอื่นๆ และกิจกรรมพิเศษให้ชม ซึ่งหลังจากที่เราทำกิจกรรมย้อมครามกันมาทั้งวัน พี่รุณณีก็ใจดีขับรถพาฉันเข้าเมืองมาเดินเล่นผ่อนคลายซักหน่อย ถนนผ้าครามสายนี้อยู่ด้านหน้าวัดพระธาตุเชิงชุม เราจึงแวะสักการะพระธาตุเชิงชุมเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อน จากนั้นพวกเราก็เดินเล่นชมบรรยากาศกันไปเรื่อยๆ ซึ่งตามตรอกซอกซอยก็ยังมีหลายบ้านที่ตั้งหม้อย้อมครามกันแบบเล็กๆ น่ารัก เป็นสังคมคนทำผ้าย้อมครามที่อบอุ่น พี่รุณณีเดินไปทางไหนก็ทักทายทุกคนทุกร้าน ส่วนฉันเอง ก็อดไม่ได้ที่จะแวะดูเสื้อผ้าย้อมคราม รวมทั้งกระเป๋า และพวกเครื่องประดับต่างๆ เรียกว่าได้แต่งตัวผู้ไทมาโพสต์ท่าสวยๆ โดดเด่นกันกลางถนน แล้วยังได้ซื้อผ้าครามแท้ๆ จากสกลนครกลับบ้านไปด้วย ย้อมครามด้วยใจ เป็นเช้าที่เต็มใจตื่นแต่ฟ้ายังไม่สว่างหลังจากนอนหลับสบายในโฮมสเตย์กับเสียงฝนพรำๆ อีกกิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาพักกับพี่รุณณีก็คือการใส่บาตรข้าวเหนียว ซึ่งพระท่านจะออกจากวัดมาบิณฑบาตรตั้งแต่ก่อนหกโมงเช้าซะอีก เช้านี้เราแต่งตัวชุดผู้ไทกันอีกรอบ (แต่ใส่ชุดนี้มาหนึ่งวันสังเกตได้ว่าใส่สบายไม่ร้อนเลย) มารอพระที่หน้าประตูวัดโนนสวรรค์ วัดประจำชุมชน ไม่นานก็มีพระเดินเรียงแถวออกมา ซึ่งชาวบ้านก็จะใส่ข้าวเหนียวในบาตรอย่างเดียว ส่วนกับข้าวเขาเอาไปถวายกันต่างหากที่วัด จัดรวมเป็นสำรับกับข้าวพร้อมถวาย จากนั้นก็รับพร กรวดน้ำ หิ้วตะกร้ากลับบ้านแบบอิ่มบุญกันถ้วนหน้า เช้านี้พี่สาวพี่รุณณีทำกับข้าวให้กินทั้ง ลาบหอยเชอร์รี่ ผัดผักบุ้ง แกงหวาย แกงเห็ด หมูย่าง พร้อมข้าวเหนียวกระติ๊บใหญ่ สำหรับนั่งล้อมวงกินข้าวกันพร้อมหน้า แต่ก่อนจะลงมือ พี่รุณณีกับคุณยายส่งข้าวเหนียวหนึ่งกำมือและไข่ต้มหนึ่งฟองมาให้ฉันถือไว้ คุณยายจับสายสิญจ์มาผูกข้อมือพร้อมอวยพรด้วยสำเนียงผู้ไท ชวนให้รู้สึกขลังมากๆ ตามด้วยพี่รุณณีที่ผูกข้อมือฉันอย่างบรรจง พร้อมคำอวยพรมากมายที่มองเข้ามาที่ตาฉันตรงๆ ข้อความหนึ่งที่จะจำไม่ลืม “ถือว่าเราเป็นพี่เป็นน้องกันแล้วนะคะ” เป็นความรู้สึกที่ตื้นตันจริงๆ ถึงจะเป็นเพียง 1 คืนกับอีก 1 วันกว่าๆ ที่ได้มาเรียนรู้วิถีผ้าย้อมครามและฝ้ายเข็นมือ แต่ก็รู้สึกผูกพันกับพี่รุณณีและครอบครัวจริงๆ นั่งรถออกจากหมู่บ้านพี่รุณณีมา มองรูปในมือถือแล้วก็คิดว่า ผ้าน้ำเงินเข้มอาจจะย้อมด้วยคราม แต่คุณค่าแท้จริงอยู่ที่การย้อมด้วยใจ แล้วพบกันใหม่ค่ะพี่รุณณี.ครามรุณณี บ้านหนองไผ่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เปิดทุกวัน ติดต่อจองทำกิจกรรมล่วงหน้า โทร. 089 569 8293 (พี่รุณณี)

เที่ยวย้อมใจ ไปสกลนคร : ครามรุณณี ย้อมครามด้วยใจ ตอนที่ 2 อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top