สถานที่ท่องเที่ยว

Hua Hin Surf

“หัวหิน เป็นถิ่นมีหอย​“ แต่ตอนนี้นอกจากจะมีหอยที่ทะเลแล้ว ก็ยังมีชาว Surfer อยู่เต็มทะเลหาดเขาตะเกียบฝั่งซอยอ่าวหัวดอนเต็มไปหมดเลยจ้า กีฬาทางน้ำยอดนิยมสุดฮิตที่ตอนนี้หลาย ๆ คนน่าจะรู้จัก และอยากลองพิชิตกัน ก็คือ Surf นั่นเอง โดยปกติคนส่วนใหญ่จะรู้จักว่าประเทศไทยสามารถเซิร์ฟได้ที่ฝั่งอันดามันเท่านั้น นั่นเกิดจากที่ช่วง พ.ค.-ต.ค. อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ก่อเกิดมวลคลื่นจากมหาสมุทรอินเดียพัดเข้าสู่ฝั่งตะวันตกของไทย จึงทำให้จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ได้รับคลื่นเพราะอยู่ติดกับทะเลฝั่งอันดามัน และยังส่งผลให้จังหวัดที่อยู่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้รับคลื่นลม นั่นก็คือ จังหวัดระยอง จันทบุรี ซึ่งก็มีโรงเรียนสอนเซิร์ฟด้วย แต่ในช่วงเดือน พ.ย.- ก.พ. ลมมรสุมได้เปลี่ยนทิศ เป็นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากฝั่งทะเลจีนใต้พัดเข้ามา จึงทำให้เกิดคลื่นเข้ามายังอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นั่นก็คือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สงขลา (ก็น่าจะมีอีกหลายจังหวัดที่ได้รับคลื่นถ้าดูตามแผนที่แล้วนะ แต่ที่สามารถเล่นเซิร์ฟได้ชัวร์และมีคนเคยลองเล่นจริง ๆ ก็จังหวัดตามนี้เลย) หัวหินหนึ่งในพื้นที่สุดฮ็อตของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จึงเป็นจุดหมายของเหล่านักเซิร์ฟเข้ามาโต้คลื่นกันมากเพราะอยู่ใกล้ กทม. เดินทางสะดวก ที่พักพร้อม อาหารการกินเพียบ แต่การมาเซิร์ฟที่นี่ต้องคอยเช็คคลื่นให้ดี เดี๋ยวนี้มีตัวช่วยเพิ่มคือการดูพยากรณ์คลื่นผ่านแอพต่าง ๆ แต่เอาให้ชัวร์ก็ลองถามกับทางพื้นที่กันก่อน เพราะคลื่นที่หัวหินไม่ได้มีมาอย่างต่อเนื่อง เวลาคลื่นมาหัวหินก็จะได้รับปลาย ๆ เพราะมีประเทศเวียดนามกับกัมพูชากั้นเอาไว้ก่อนจึงทำให้ไม่ได้รับคลื่นเต็ม ๆ ต้องอาศัยช่วงที่มีลมมรสุมหรือพายุกำลังแรงจริง ๆ พัดเข้ามาจากทางทะเลจีนใต้ ที่จะทำให้หัวหินได้รับคลื่น และอาจจะเป็นจุดสปอตที่ดีเลยในช่วงพายุ เพราะตรงทะเลหาดเขาตะเกียบฝั่งซอยอ่าวหัวดอน มีเขาตะเกียบคอยกั้นลมไว้ให้ จึงทำให้เห็น swell สวย ๆ และคลื่นก็มีลักษณะนุ่มนวล ไม่ครอบง่าย อยากเจอของดีก็ต้องรอกันหน่อย อีกอย่างด้วยจำนวนคนที่ไปเล่นเยอะมากขึ้น อยากให้ระวังกันและกัน ก่อนจับคลื่นมองซ้าย มองขวา ไม่มีใครกำลังมา แล้วเราก็ไม่ได้ Drop in (ไปแย่งคลื่น) เขานะ จะได้ไม่ชนกัน และคอยดูแลบอร์ดตัวเองให้ดีดี อย่าให้หลุดจากตัวบ่อยเพราะมันอาจจะไปชนเอาคนข้าง ๆ หรือคนที่กำลังเล่นกันได้ ถือเป็นสิ่งแรก ๆ ที่น่าจะต้องคำนึงถึงเวลาไป surf ในที่คนเยอะ ๆ จ้า ถ้าใครอยากจะลองเรียน ลองโต้คลื่นที่หัวหิน ที่นี่ก็มีโรงเรียนเปิดให้เช่าบอร์ดและสอนเซิร์ฟเบื้องต้น สามารถติดตาม และสอบถามได้ที่ Weekend Surf Club Logger’s Paradise Hua Hin Surf Club ถ้าจะให้ดีควรสอบถามก่อนและจองเช่าบอร์ดล่วงหน้านะ ถามกันรายสัปดาห์ไปเลย ถ้า walk-in เข้าไปบอร์ดอาจจะมีไม่เพียงพอ

Hua Hin Surf อ่านเพิ่มเติม

กางเต็นท์ใต้ร่มเงาป่าสนเขา ตื่นเช้าท่ามกลางไอหมอกคละคลุ้งเหนือผิวน้ำ ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี

ป่าสนวัดจันทร์ หรือโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติ ในช่วงฤดูหนาวป่าสนวัดจันทร์จะเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศหนาวท่ามกลางทิวทัศน์ของป่าสน ซึ่งที่นี่ มีทั้งสนสองใบและสนสามใบ สลับกันไป ไฮไลต์ซึ่งเป็นที่กล่าวขานมากที่สุดของป่าสนวัดจันทร์คือ การได้สัมผัสกับลมหนาวที่พัดผ่านใบหน้าในช่วงเช้าท่ามกลางไอหมอกลอยละล่องเหนืออ่างเก็บน้ำ โอบล้อมด้วยผืนป่าเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นด้วยทิวสนเขาแผ่กิ่งก้านสาขากระจัดกระจายอยู่รายรอบ ในช่วงสายเมื่อไอหมอกจางหายไปก็จะได้ชมความงามของทิวทัศน์ยามแสงแดดส่องกระทบทิวสนเขา สะท้อนเงาสู่ผืนน้ำใสเบื้องล่าง มองไปคล้ายกับกระจกเงา (ช่วงเวลาที่แนะนำคือ 6.00-8.00 น) ป่าสนบ้านวัดจันทร์ มีกิจกรรมหลากหลายให้ได้เพลิดเพลินท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติ เช่น ตั้งแคมป์พักแรมกลางผืนหญ้า ริมสายน้ำ ใต้ร่มเงาสนเขา ปั่นจักรยานชมธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ นอนดูดาวเฝ้ารอดาวตก ลัดเลาะไปในผืนป่าในเส้นทางศึกษาธรรมชาติสั้น ๆ หรือจะพาย SUP Board ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดฮิตในช่วงนี้ และในช่วงต้นปีประมาณเดือนมกราคม-เดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่ป่าสนวัดจันทร์มีความสวยงามมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับความงามของไอหมอกคละคลุ้งเหนืออ่างเก็บน้ำแล้วนั้น ยังเป็นช่วงที่บรรดาดอกไม้นานาพรรณต่างแข่งขันกันออกดอกบานสะพรั่ง แต่งแต้มผืนดินทั่วทั้งบริเวณด้วยสีสันสดใส ทั้งสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่ง และสีเหลือง ส้ม แดง เขียว ของใบเมเปิล สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน การเดินทางไปป่าสนวัดจันทร์ มีให้เลือกอยู่สองเส้นทาง1-เส้นทางสะเมิง (ใต้) ขับจากแยกสะเมิงตามถนนหมายเลข 1269 จนถึงที่ว่าการอำเภอสะเมิง แล้วเลี้ยวไปตามถนนหมายเลข 1349 อีกประมาณ 96 กิโลเมตร2-เส้นทางปาย (จ.แม่ฮ่องสอน) จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าไปอำเภอแม่แตง เลี้ยวซ้ายแยกเลี่ยงเมืองแม่มาลัย-ปาย เข้าสู่ถนนหมายเลข 1095 เมื่อถึงจุดตรวจ อส อ.ปาย เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 1265 ประมาณ 40 กิโลเมตร.ป่าสนวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ 58130 FB : https://www.facebook.com/PasonWatchan/

กางเต็นท์ใต้ร่มเงาป่าสนเขา ตื่นเช้าท่ามกลางไอหมอกคละคลุ้งเหนือผิวน้ำ ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี อ่านเพิ่มเติม

ชิล | ชิม | ริม | คลอง กับคลองที่ดังที่สุดในตอนนี้ “คลองโอ่งอ่าง”

ที่มาที่ไปของคลองโอ่งอ่างนี้ ก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล เดิมคือพื้นที่ที่เราเรียกว่าย่านสะพานเหล็ก แหล่งขายเครื่องเล่นเกมส์และแผ่นเกมส์ต่างๆ สุดฮิตแห่งยุค 90 นั่นเอง ต่อมากรุงเทพมหานครได้ปรับปรุงภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่าง โดยย้ายร้านค้าเดิมที่ตั้งปิดคลองทั้งหมดออกไปและฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้เป็นระเบียบสวยงาม กลายมาเป็นสถานที่เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจให้กับชุมชนและนักท่องเที่ยว โดยมีผลงานสตรีทอาร์ตเท่ ๆ เก๋ ๆ ตลอดแนวคลองให้ได้มาถ่ายภาพสวย ๆ ไปอวดเพื่อน ๆ และถ้าใครอยากได้บรรยากาศความคึกคักต้องมาในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เพราะจะมีการจัดกิจกรรม “ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง” ที่เราจะพบทั้งของกินหลากหลาย สินค้าน่ารักๆ ดนตรีเปิดหมวก ผู้คนถ่ายรูปกับผลงานสตรีทอาร์ต เรียงรายตลอดแนวริมคลอง และกิจกรรมล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้มีคือ พายเรือคายัค หรือจะพายซับบอร์ดเท่ ๆ ในคลองโอ่งอ่างก็ได้ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นี้ ไม่ได้ไปไหน มาเดินชิล ชิม ริมคลองโอ่งอ่างกัน ช้าเดี๋ยวตกเทรนด์นะ .ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่างเปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เวลาสี่โมงเย็น – สี่ทุ่ม การเดินทาง : รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด | ทางออก 1

ชิล | ชิม | ริม | คลอง กับคลองที่ดังที่สุดในตอนนี้ “คลองโอ่งอ่าง” อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวแม่ฮ่องสอน มูฟออนเป็นวงกลม

เมื่อเริ่มเข้าสู่หน้าหนาว หลายคนก็คงวางแผนที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อไปผ่อนคลายและสัมผัสกับความหนาวเย็นท่ามกลางธรรมชาติและสายลม ซึ่งแน่นอนว่า “ภาคเหนือ” คงเป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน . จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเยอะมากกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) และเป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือที่ผู้คนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เนื่องด้วยบรรยากาศของธรรมชาติที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย มีทิวทัศน์ที่สวยงาม อยู่ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำ และถูกปกคลุมด้วยหมอกตลอดทั้งปี จึงได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหมอก 3 ฤดู หรือเมืองสามหมอก” นั่นเอง… . และครั้งนี้ แอดจะพาทุกคนไปมูฟออน (เป็นวงกลม) กับ 10 สถานที่น่าสนใจในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าแล้วตามแอดไปกันเลยค่ะ เที่ยวแม่ฮ่องสอน จะมูฟออนเป็นวงกลมอย่างไร ปกติแล้วเวลาเราไปแม่ฮ่องสอน เรามักจะเริ่มต้นเดินทางจากเชียงใหม่ ถ้าตามแผนที่นี้เราเดินทางเรียงลำดับจาก 1-10 เราจะวนกลับมาจบที่เชียงใหม่ได้โดยไม่ต้องย้อนกลับไปทางเดิมเลยนะจ๊ะ สถานที่แรกที่เราจะแนะนำนั่นก็คือ บ้านห้วยห้อม.เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้ มีหุบเขาล้อมรอบ อยู่ในเขตความรับผิดชอบของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย.จุดเด่นของที่นี่ก็คือกาแฟห้วยห้อม ซึ่งเป็นกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่มีรสชาติความเข้มข้น เป็นเอกลักษณ์ของห้วยห้อมโดยเฉพาะ และยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้าโอท็อประดับ 5 ดาวอีกด้วย.นอกเหนือจากกาแฟห้วยห้อมแล้ว ที่หมู่บ้านยังมีการผลิตผ้าทอขนแกะ ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อประดับห้าดาวเช่นเดียวกันกับกาแฟห้วยห้อม โดยผ้าทอขนแกะของที่นี่ถูกจำหน่ายและส่งออกไปทั่วประเทศและทั่วโลก โดยที่นี่จะใช้วิธีการทอผ้าด้วยเครื่องทอแบบโบราณ และมีลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ที่ถูกถ่ายทอดและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ได้แก่ ลายเมล็ดฟักทอง ลายดอกพริก ลายแมงมุม เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ที่ได้ก็มีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ เสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวแม่ฮ่องสอน ฯลฯ.นอกจากนี้ บ้านห้วยห้อมยังมีโฮมสเตย์ไว้ให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเข้ามาสัมผัสวิถีชิวิตของชาวเขาเผ่าปกาเกอะญออีกด้วย.บ้านห้วยห้อม ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอนโทร. 089-5553900 (ป้ามะลิวัลย์) ในช่วงนี้ แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดที่พลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ…ทุ่งดอกบัวตอง ณ ดอยแม่อูคอ.เป็นสถานที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว เนื่องจากดอกบัวตองจะบานสะพรั่งปกคลุมเต็มเทือกเขาในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ซึ่งทุ่งดอกบัวตองของที่นี่นับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย โดย 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และในช่วงที่แอดไปมานี้ก็นับว่าโชคดีมาก เพราะเป็นช่วงที่ดอกบัวตองบานเต็ม 100% เลยด้วย ว้าวมั้ยล่ะ!! ><.ใครที่อยากไปสัมผัสความสวยงามของดอกบัวตองของที่นี่ต้องรีบเลยน้า เพราะถ้าพลาดแล้ว ต้องรอไปถึงปีหน้าเลยนะจ๊ะ.โดยที่นี่สามารถเดินทางมาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือถ้าใครอยากจะกางเต็นท์นอนบนยอดดอยแล้วรอชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าก็ฟินไปอีกแบบจ้า ^^.ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนช่วงเวลาท่องเที่ยว : ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปีโทร. 053-612982 หากมาเที่ยวที่ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอแล้ว ขับรถต่อมาอีกประมาณ 10 นาที ก็จะเจอกับร้าน Pasoho Café กาแฟเด็กน้อยทำอร่อย.เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับบรรยากาศท้องทุ่งนา นั่งห้อยขาแบบชิล ๆ โดย “โพส่าโฮ” (Posaho) เป็นภาษาปกาเกอะญอ มีความหมายว่า “เด็กน้อย” ซึ่งเป็นชื่อของร้านกาแฟ.โดยร้านกาแฟแห่งนี้นั้น เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างคุณครูและนักเรียนจากโรงเรียนบ้านหัวแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อบริการกาแฟให้นักท่องเที่ยวหรือคอกาแฟได้ลิ้มรสนั่นเอง ภายในร้านเราจะเห็นเด็ก ๆ มาทำหน้าที่ต่าง ๆ อย่างคล่องแคล่ว เริ่มตั้งแต่การแนะนำเมนู เป็นบาริสต้าทำกาแฟ และเสิร์ฟเครื่องดื่มให้แก่ลูกค้า.ส่วนเรื่องรสชาติ เห็นเด็ก ๆ ชงแบบนี้ก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะว่าเด็ก ๆ และคุณครูได้ผ่านการอบรมการชงกาแฟมาเป็นอย่างดีจนได้ใบประกาศมาติดร้านด้วย รับรองว่าอร่อยและได้มาตรฐานแน่นอนค่ะ.ความพิเศษของร้านกาแฟแห่งนี้นั่นก็คือ ร้านจะเปิดเพียงแค่ 1 เดือน เฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวชมทุ่งดอกบัวตองเท่านั้นจ้า เพราะฉะนั้นใครที่มาชมทุ่งดอกบัวตองแล้ว ต้องห้ามพลาดเลยนะ.Posaho Café’ กาแฟเด็กน้อยทำอร่อย ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนเวลาเปิด-ปิด : 09.00-17.00 น. เปิดเพียงแค่ 1 เดือน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปีโทร. 052-049213 “โครงการพระราชดำริปางตอง 2” หรือที่ใคร ๆ มักจะรู้จักกันในชื่อว่า “ปางอุ๋ง” นั้น.เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร.โดยปางอุ๋งถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเป็นสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ล้อมรอบไปด้วยป่าสนและดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด และในช่วงเช้า ก็จะมองเห็นภาพแสงอาทิตย์ที่สาดสะท้อนผืนน้ำ ผสานกับไอหมอกจาง ๆ ที่ลอยเรี่ยผืนน้ำ และบรรยากาศที่เย็นสบาย บอกได้คำเดียวว่าฟินแบบสุด ๆ ไปเลยค่ะและด้วยความสวยงามของปางอุ๋งนี้เอง จึงถูกขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” นั่นเอง.ซึ่งนอกจากความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่ปางอุ๋งเองยังมีกิจกรรมยอดฮิตที่ให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัส นั่นก็คือ การล่องแพชมทัศนียภาพบริเวณโดยรอบปางอุ๋ง ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำสุดประทับใจ .นอกจากนี้แล้ว ปางอุ๋งยังมีที่พักและมีจุดกางเต้นท์ไว้คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาค้างแรม เพื่อดูดาวเต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืนและสัมผัสกับไอหมอกในยามเช้าได้อีกด้วย.ปางอุ๋ง หมู่บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอนเวลาเปิด-ปิด : 05.30-18.00 น.โทร. 053-611244, 080-847-8456, 087-661-8594 บ้านรักไทย ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ใครที่ได้ไปที่แม่ฮ่องสอนไม่ควรพลาดที่จะมาชมความสวยงามของที่นี่.โดยบ้านรักไทยเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ตั้งอยู่ท่ามกลางไร่ชา ปกคลุมไปด้วยสายหมอก มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของขุนเขา อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,776 เมตร ทำให้มีอากาศที่เย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะหน้าหนาว ก็จะหนาวมากเป็นพิเศษ เหมาะแก่การเดินทางมาท่องเที่ยว หรือผ่อนคลายจากการเหนื่อยล้าแบบสุด ๆ.ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของชาและพืชเมืองหนาวเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าถูกใจขาช้อปของฝากอย่างแน่นอน เพราะมีการนำมาแปรรูปเพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้นำติดมือกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นไวน์ประเภทต่าง ๆ อาทิ ไวน์ลูกหม่อน ไวน์ลูกท้อ ไวน์มะขามป้อม ฯลฯ รวมไปถึงชาพันธุ์ต่าง ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งชาเขียว ชาอู่หลง และผลไม้อบแห้งนานาชนิดอีกด้วย.นอกจากนี้ บ้านรักไทยยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัส เช่น การเรียนรู้วัฒนธรรมไทย-จีน, การเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติโดยมีมัคคุเทศก์น้อยในหมู่บ้านเป็นผู้นำทาง, การปั่นจักรยานชมบรรยากาศภายในหมู่บ้าน การขี่ม้าพาข้ามแดนไปชมทิวทัศน์ฝั่งพม่า, การศึกษาวิธีปลูกและทดลองเก็บใบชา ฯลฯ เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ครบจบแน่นอน.บ้านรักไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน น้ำตกผาเสื่อ.เป็นน้ำตกขนาดกลาง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ มีต้นกำเนิดมาจากลำน้ำแม่สะงาจากประเทศพม่า มีน้ำตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูฝนน้ำจะเยอะ กระแสน้ำจะไหลแผ่ลงมาจนเต็มน้ำผาด้านล่าง แต่กระแสน้ำจะไม่นิ่ง ทำให้ไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ.โดยที่มาของชื่อน้ำตกผาเสื่อนั้นมีหลายกระแส เช่น

เที่ยวแม่ฮ่องสอน มูฟออนเป็นวงกลม อ่านเพิ่มเติม

เตยปาหนัน…ภูมิปัญญางานจักสานจากภาคใต้

เครื่องจักสานเป็นงานหัตถกรรมที่เราคุ้นเคย ถ่ายทอดส่งต่อมาแต่โบราณ วัสดุที่นำมาใช้ทำเครื่องจักสานส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นแต่ละแห่ง เช่น ไม้ไผ่ หวาย ต้นกก ใบลาน ย่านลิเภา ผักตบชวา กระจูด รวมถึง เตยปาหนัน.ว่าแต่…เพื่อน ๆ รู้จักเตยปาหนันกันไหม ถ้ายังไม่รู้จัก ตามมาค่ะ แอดจะพาไปทำความรู้จัก เพราะนี่เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่นำมาทำเครื่องจักสานได้สวยไม่แพ้พืชชนิดอื่น ๆ จนเพื่อน ๆ จะต้องร้องว้าวกับความสวยงามของงานจักสานเตยปาหนันอย่างแน่นอน เตยปาหนัน หรือต้นลำเจียก หรือเตยทะเล พบมากในภาคใต้ เป็นพืชตระกูลปาล์ม มักขึ้นตามริมชายหาด ชายทะเล ป่าโกงกาง ใบของเตยปาหนันมีสีเขียว ยาว มีหนามที่ขอบใบ คุณสมบัติพิเศษคือ มีความเหนียว และเมื่อเอาหนามออกและนำไปลนไฟ เส้นใยจะนุ่ม มีความยืดหยุ่น มันเงา และไม่มีเชื้อรา จึงเหมาะที่จะนำมาทำงานจักสาน.ใครที่มีภูมิลำเนาอยู่ทางภาคใต้ต้องคุ้นเคยกับเครื่องจักสานจากเตยปาหนันอย่างแน่นอน เพราะนิยมนำมาสานเป็นเสื่อ กระสอบ หรือกระเชอใส่ข้าวสาร เรียกได้ว่าเป็นของที่ทุกบ้านต้องมี ปัจจุบันมีการนำเตยปาหนันมาสานเป็นเครื่องใช้หลายแบบ และออกแบบลวดลายให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น สานเป็นกระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเงิน หมวก พวงกุญแจ ปลอกหมอน โคมไฟ กรอบรูป เป็นต้น.หากเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสเดินทางไปภาคใต้ อย่าลืมอุดหนุนสินค้าจากเตยปาหนันกันนะคะ จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์จากเตยปาหนัน คือ จังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง โดยมีกลุ่มแม่บ้านที่รวมตัวกันผลิตสินค้าจากเตยปาหนัน เช่น – กลุ่มผลิตภัณฑ์เตยปาหนัน บ้านหลังสอด ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่โทร. 0 6267 6865, 0 7561 1066 – กลุ่มหัตถกรรมเตยปาหนัน บ้านวังหิน ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่องใต้ จ.กระบี่ โทร. 08 5782 6574 – กลุ่มจักสานเตยปาหนัน บ้านดุหุน ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง โทร. 08 1777 5557.ขอบคุณรูปภาพจาก สานสาด https://www.facebook.com/sarnsard นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ และทำให้ผู้คนรู้จักเตยปาหนันมากขึ้น ผ่านแบรนด์ “สานสาด” ซึ่งใช้วัตถุดิบเตยปาหนันจากจังหวัดตรัง และสานโดยช่างฝีมือจากกลุ่มจักสานเตยปาหนัน บ้านดุหุน จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจาก สานสาด https://www.facebook.com/sarnsard ด้วยความโดดเด่นที่น่าสนใจ แบรนด์สานสาดถูกเลือกให้เป็นหนึ่งใน Young Thai Designers ของ Talent Thai & Designers’room 2019 นอกจากนี้ยังไปสะดุดตาดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส จนได้รับการชักชวนให้นำผลงานไปเป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ใน Mahanakhon Bangkok SkyBar กรุงเทพฯ.หากสนใจผลิตภัณฑ์ของ สานสาด สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 09 4636 4542 หรือ Facebook: SarnSard.ขอบคุณรูปภาพจาก สานสาด https://www.facebook.com/sarnsard

เตยปาหนัน…ภูมิปัญญางานจักสานจากภาคใต้ อ่านเพิ่มเติม

ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ประตู สู่ “เยาวราช”

ย่านเยาวราช แหล่งรวมของกินอร่อยในยามค่ำคืนที่มีผู้คนล้นหลามไปตะลุยกินไม่เว้นในแต่ละวัน เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ไปเยาวราชนั้นจะต้องได้ผ่านหรือแวะไปเช็คอินถ่ายรูปกันที่ “ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา” หรือ “ซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีน” กันมาบ้าง . เดิมที บริเวณนี้เคยเป็นวงเวียนน้ำพุ หรือ “วงเวียนโอเดียน” ซึ่งเป็นการเรียกชื่อตามโรงภาพยนตร์โอเดียนที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ต่อมามีการปรับปรุงพื้นที่ และสร้างเป็นซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีนขึ้นมา โดยมีชาวไทยเชื้อสายจีน และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ร่วมใจกันจัดสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ในปี พ.ศ. 2542 . ซุ้มประตูแห่งนี้เป็นจุดตัดของถนนเจริญกรุง ถนนเยาวราช และถนนมิตรภาพไทย-จีน เป็นสัญลักษณ์ของเยาวราช และเปรียบเสมือนเป็นประตูสู่เยาวราช ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ออกแบบโดยช่างผู้ชำนาญด้านศิลปกรรมของจีน ที่พิถีพิถันสร้างสรรค์ซุ้มแห่งนี้ขึ้นมาอย่างสวยงาม แต่ละจุดล้วนน่าสนใจและแฝงไปด้วยความหมายอันเป็นสิริมงคล.– ยอดหลังคาของซุ้มประตู ประกอบด้วยมังกร 2 ตัว ชูตราสัญลักษณ์ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 และทองคำบริสุทธิ์ หนัก 99 บาท ที่หุ้มพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. สื่อความหมายถึงชาวไทยเชื้อสายจีนที่เทิดทูนองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้เหนือเกล้า – บริเวณเพดานซุ้มประตู มีคำจารึกบนแผ่นทองเหลืองอ่านว่า “เทียน” ที่หมายถึงฟ้า มุมทั้งสี่มีรูปค้างคาว 4 ตัว หรือ “ฟู่” พ้องเสียงกับคำว่าโชคลาภในภาษาจีนกลาง ส่วนที่พื้น มีคำว่า “ตี้” หมายถึงดิน และมีต้นไผ่ล้อมรอบ ต้นไผ่ หรือ “เต็ก” ในภาษาแต้จิ๋ว หมายถึงคุณธรรม ซึ่งตรงจุดนี้ถือได้ว่าเป็นจุดรับพลังชีวิต คือการรับพรที่มาจากฟ้าดิน – สิงโตหยกขาวแกะสลัก 1 คู่ เป็นของขวัญจากรัฐบาลจีนที่มอบให้กับไทยเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา เป็นสิงโตหยกขาวเพศผู้ ที่เท้าเหยียบลูกแก้ว หมายถึง การมีลาภยศ อำนาจบารมี ชื่อเสียง ส่วนสิงโตหยกขาวเพศเมีย ที่เท้ากุมลูกสิงโต หมายถึง มีลูกหลาน บริวารมากมาย อยู่ในกรอบแห่งความดีงาม สร้างแต่ชื่อเสียงที่ดีให้วงศ์ตระกูล.มีผู้คนนิยมมาขอพรจากสิงโตทั้งสองนี้เป็นจำนวนมาก โดยการนำกระเป๋าสตางค์ไปวางไว้ที่ปากสิงโตทั้งเพศผู้และเพศเมีย เชื่อกันว่าจะทำให้เงินทองไหลมาเทมา – กระต่ายหยกขาวแกะสลัก เป็นของขวัญจากรัฐบาลจีนที่มอบให้กับไทยเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา (7 รอบ) ซึ่งในปีนั้นตรงกับปีนักษัตรเถาะ

ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ประตู สู่ “เยาวราช” อ่านเพิ่มเติม

คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อไปเยี่ยมชมวัด

คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อไปเยี่ยมชมวัด.ในการไปเที่ยววัด ไม่ว่าจะเป็นวัดในกรุงเทพฯ หรือวัดต่างจังหวัด เพื่อน ๆ ควรศึกษาก่อนสักนิดว่าแต่ละวัดมีข้อห้ามหรือข้อควรปฏิบัติอะไรบ้าง เพื่อเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม  วันนี้แอดมินมีข้อปฏิบัติเบื้องต้นในการเยี่ยมชมวัดมาแนะนำเพื่อน ๆ ค่ะ 1. แต่งกายสุภาพเรียบร้อยเพื่อเป็นการให้เกียรติกับสถานที่ ควรสวมกางเกงขายาว กระโปรงคลุมเข่า ผู้หญิงไม่ควรใส่เสื้อสายเดี่ยว เกาะอก แขนกุด หรือเสื้อที่รัดรูปจนเกินไป. 2. ถอดรองเท้าก่อนเข้าอุโบสถวัดวางไว้ที่ชั้นวาง หรือจุดที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้. 3. สำรวมกาย วาจา และใจเมื่อเข้าไปในวัดควรอยู่ในความสงบ ทำจิตใจให้ว่าง ไม่พูดคุยกันเสียงดังจนเกินไป. 4. ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงโทรศัพท์ไปรบกวนผู้ที่มาทำบุญ นั่งสมาธิหรือสวดมนต์. 5. ถ่ายรูปกับพระพุทธรูปอย่างสำรวมถ้าต้องการถ่ายรูปกับพระพุทธรูป ควรโพสท่าที่สุภาพเรียบร้อย. 6. ไม่ควรถ่ายรูปผู้อื่นที่กำลังทำกิจกรรมทางศาสนาเนื่องจากการถ่ายรูปผู้อื่นโดยไม่ได้รับการอนุญาตถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว. 7. ไม่ควรนั่งและปีนป่ายโบราณสถานภายในวัดโบราณสถานภายในวัดส่วนใหญ่มีความเก่าแก่ บางแห่งมีอายุนับร้อยปี ซึ่งทางวัดมักจะมีป้ายติดกำชับว่าห้ามปีนป่าย แต่ถึงจะไม่มีป้ายติด เราก็ไม่ควรขึ้นไปปีนป่าย นั่งเล่น เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหาย และยังถือเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่ตามความเชื่อของชาวพุทธอีกด้วย. 8. ไม่ควรนำสุราของมึนเมา สารเสพติด รวมถึงอุปกรณ์เล่นพนันทุกชนิดเข้าไปในวัด

คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อไปเยี่ยมชมวัด อ่านเพิ่มเติม

ด่านซ้าย-เชียงคาน 2 วัน 1 คืน

ไหน ๆ 2 วันที่ผ่านมา แอดก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำโขงมานำเสนอเพื่อน ๆ แล้ว วันนี้แอดเลยอยากนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดหนึ่งริมฝั่งโขง และเป็นที่นิยมของคนหลายวัยมานำเสนอ นั่นก็คือจังหวัด “เลย” นั่นเอง . พูดถึง จ.เลย แอดมักจะนึกถึงความสงบ และมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น ยิ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยิ่งสวยงาม จึงทำให้เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวต่างนิยมมาเยี่ยมเยียน วันนี้แอดจะนำที่เที่ยวที่ไหนมานำเสนอบ้าง ตามไปอ่านกันเลย วันที่ 11. พระธาตุศรีสองรัก2. พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน วัดโพนชัย3. แก่งคุดคู้4. ถนนคนเดิน.วันที่ 25. ภูทอก6. หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ วันที่1พระธาตุศรีสองรัก.สร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทร์) เป็นเจดีย์ที่สร้างเพื่อถวายเป็นอุเทสิกเจดีย์ (เจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้ศาสนา ไม่มีกำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด) ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญ เป็นสัญลักษณ์และตราประจำจังหวัดเลย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน เป็นวัดที่ไม่มีพระภิกษุพำนักอยู่.ตัวพระธาตุ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ย่อมุมไม้สิบสอง ระฆังทรงบัวเหลี่ยม ตามแบบฉบับเจดีย์แถบลุ่มน้ำโขง และมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะทิเบตประดิษฐานอยู่อีกด้วย.ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลยเปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.30 น. ทุกปีจะมีงานประเพณีสมโภชพระธาตุศรีสองรัก ในวันวิสาขบูชา วันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 6 (พฤษภาคม) โดยชาวด่านซ้ายจะนำต้นผึ้งซึ่งทำมาจากโครงไม้ไผ่ กรุด้วยกาบกล้วย ประดับแผ่นเทียนและดอกไม้อย่างสวยงามมาถวายองค์พระธาตุ.สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเกี่ยวกับพระธาตึศรีสองรัก ก็คือ ห้ามมีสีแดง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายด้วยชุดสีแดง การนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชา เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงถือเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง วัดโพนชัย (พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน).พูดถึง จ.เลย สิ่งที่หลายคนมักจะนึกถึงก็คือ “ผีตาโขน” แอดเลยอยากพาเพื่อน ๆ มาที่ วัดโพนชัย ซึ่งเป็นแหล่งรวมประวัติความเป็นมา ภูมิปัญญา ภาษา ประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อของชาวด่านซ้าย และยังมี พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ซึ่งมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับผีตาโขน มีภาพเกี่ยวกับงานเทศกาล ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ รวมไปถึงจัดแสดงหุ่นจำลองใส่ชุดผีตาโขนไว้ด้วย.วัดโพนชัย ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลยเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.โทร. 0 4289 1094 (กศน.ด่านซ้าย) นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ผีตาโขนยังมีกิจกรรมวาดลวดลายและลงสีบนหน้ากากผีตาโขนขนาดเล็ก ให้นักท่องเที่ยวได้สร้างผีตาโขนในแบบฉบับของตัวเอง และมีร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับผีตาโขนด้วย.ค่าใช้จ่ายในการวาดหน้ากากผีตาโขน ราคากลุ่มละประมาณ 200 บาท (ราคาจะแตกต่างกันไปตามจำนวนคน แนะนำให้โทรสอบถามล่วงหน้า) แก่งคุดคู้.มา จ.เลย ทั้งทีจะพลาดมา อ.เชียงคาน ได้ไง สถานที่ต่อมาที่แอดแนะนำก็คือ แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่อยู่กลางน้ำบริเวณช่วงโค้งของแม่น้ำโขง ยิ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม จะเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน.บริเวณแก่งคุดคู้ มีสวนสาธารณะ หอชมวิว ลานกิจกรรม ร้านค้า และอาคารนิทรรศการที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับ จ.เลย สามารถชมแก่งคุดคู้และนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ทั้งวัน.ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย 42110โทร. 08 1137 6051, 06 2197 0269, 09 2885 3975 (ชมรมเรือนำเที่ยวไทย-สปป.ลาว) ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือยนต์ชมแม่น้ำโขงสองฝั่งไทย-ลาวได้อีกด้วย โดยจะใช้เวลาไป-กลับ ราว ๆ 1 ชั่วโมง ราคาเหมาลำประมาณ 800 บาท ถนนคนเดินเชียงคาน.สถานที่ยอดฮิต ที่รวบรวมเสน่ห์ของเมืองเชียงคานเอาไว้ให้เพื่อน ๆ ได้สัมผัสมากมาย กิจกรรมยอดฮิตที่แอดอยากแนะนำก็คือ การปั่นจักรยานชมวิวริมฝั่งโขง มีเส้นทางปั่นจักรยานเลียบริมโขง สามารถชมวิวได้ยาว ๆ อย่างจุใจ จากถนนคนเดินเชียงคาน หากใครมีแรงเยอะสามารถปั่นยาวไปจนถึงแก่งคุดคู้ได้เลยทีเดียว ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร.ส่วนการเช่าจักรยานก็ง่ายแสนง่าย เพื่อน ๆ สามารถเช่าได้จากร้านค้าและที่พักหลายแห่งบนถนนคนเดิน นอกจากนี้ การชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นก็ถือเป็นไฮไลท์ของการมาถนนคนเดินเชียงคาน บรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่เชียงคานเป็นอะไรที่โรแมนติกสุด ๆ เพื่อน ๆ จะได้เห็นภาพแม่น้ำโขง ภูเขา และท้องฟ้าฉาบสีทอง อย่างที่เพื่อนแอดมักจะพูดบ่อย ๆ กับแอดเวลาเห็นวิวริมโขงแบบนี้ว่า “แม่น้ำโขง ท้องฟ้า พระอาทิตย์ เป็นของใครไม่รู้ ภูเขาตรงนู้นเป็นของคนลาว แต่วิวทั้งหมดที่เห็นเป็นของพวกเรา” ปิดท้ายวันกับการเดินชม ชิม ชอปที่ถนนคนเดินเชียงคาน ซึ่งจริง ๆ ถนนคนเดินเปิดตั้งแต่หัววันแล้ว แต่ตอนเย็นจะคึกคักกว่ามาก เพื่อน ๆ อาจจะคิดว่า ถนนคนเดินที่ไหนก็เหมือนกัน แต่ถนนคนเดินที่นี่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่รู้ว่าเพราะร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านของฝาก หรือผู้คน ที่พวกแอดต่างมาแล้วต้องพูดว่า หลงรักเลย ไปตาม ๆ กัน วันที่ 2.เริ่มต้นวันกับอีกกิจกรรมที่แอดแนะนำก็คือ ตักบาตรข้าวเหนียวที่ถนนชายโขง ซึ่งเป็นประเพณีที่ชาวเมืองเชียงคานทำกันมานานแล้ว ในปัจจุบัน เพื่อน ๆ สามารถใส่ข้าวเหนียวและกับข้าวลงในบาตรพร้อมกันได้เลยเพื่อความสะดวก.แต่ในอดีต วิธีการตักบาตรข้าวเหนียวที่ทำกันมาแต่โบราณ ก็คือ หยิบข้าวเหนียวขึ้นมาให้พอดีคำโดยไม่ต้องปั้นเป็นก้อน จากนั้นใส่ลงไปในบาตร ใส่เฉพาะข้าวเท่านั้นนะ ไม่นิยมใส่กับข้าวลงไป.ใครกลัวว่า พระท่านจะได้ฉันแค่ข้าวเหนียวเปล่า ๆ ไม่ต้องกังวลไป เพราะหลังจากที่พระบิณฑบาตเสร็จแล้ว ชาวบ้านถึงจะนำ “กับข้าว” ที่ทำเสร็จใหม่ ๆ เดินตามไปจัด “จังหัน” ที่วัด ซึ่งเป็นการตักอาหารใส่ถ้วยเล็กๆ แล้วนำไปวางบนถาดกลมคล้ายกับ “ขันโตก” ทางภาคเหนือ แยกไว้เป็นสำรับให้พระแต่ละรูปได้ฉันนั่นเอง.หากเพื่อน ๆ ต้องการตักบาตรข้าวเหนียว อาจต้องตื่นเช้าหน่อย เพราะเวลาที่เหมาะสมในการมาตักบาตรข้าวเหนียวคือ 05.30-07.00 น. แต่รับรองว่าอิ่มใจคุ้มกับการตื่นเช้าแน่นอน ภูทอก (เชียงคาน).หลังจากตักบาตรให้ใจอิ่มแล้ว แอดจะพาเพื่อน ๆ มาดูอะไรให้อิ่มตากันหน่อย

ด่านซ้าย-เชียงคาน 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

ไปเที่ยวกัน เที่ยวกันตัง(ตรัง) 2 วัน 1 คืน

พูดถึงจังหวัดตรัง เพื่อน ๆ ร้อยทั้งร้อยคงต้องคิดถึงทะเล ทะเล แล้วก็ทะเล แต่รู้ไหมว่า จังหวัดตรังยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้ทะเลอยู่ด้วย วันนี้แอดจะมาแนะนำให้รู้จัก นั่นก็คือ “กันตัง” . กันตัง เป็นอำเภอที่มีอาคารเก่าแก่กระจายอยู่ทั่วอำเภอ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง นอกจากทะเลสวย ๆ ที่นักท่องเที่ยวปักหมุดตั้งใจมาเที่ยวแล้ว กันตังยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมให้ได้เข้าไปสัมผัสอีกด้วย . ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาทำให้เพื่อน ๆ ยังไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปกติ และเป็นโอกาสที่ธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้พักและฟื้นฟู รอให้เราออกเดินทางอีกครั้ง และเมื่อการเดินทางครั้งใหม่ของเราได้เริ่มขึ้น คุณจะพบว่าเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม วันที่ 1– สถานีรถไฟกันตัง– ต้นยางคาเฟ่– ล่องแพ กินปู ดูวิว โดย “วิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ”.วันที่ 2– Matou Hostel & Cafe– เยี่ยมชม และทำกิจกรรมที่ “ชุมชนบ้านย่านซื่อ” สถานีรถไฟกันตัง.จุดนี้เป็นจุดที่ต้องมาเช็คอิน พลาดไม่ได้เลย “สถานีรถไฟกันตัง” เป็นสถานีรถไฟสถานีสุดท้ายบนเส้นทางรถไฟฝั่งอันดามัน เริ่มเปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 นับอายุก็กว่าร้อยปีแล้ว มีความสำคัญมากในสมัยนั้น เพราะเป็นศูนย์กลางการรับ-ส่งสินค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยผ่านท่าเรือกันตัง ซึ่งอยู่เลยจากสถานีรถไฟไปประมาณ 500 เมตร ตัวอาคารเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล คงเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ที่สำคัญได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรแล้ว ปัจจุบันสถานีรถไฟกันตังยังให้บริการเดินรถทุกวัน วันละ 1 เที่ยว โดยขบวนรถเร็วเที่ยวไป ออกจากสถานีกรุงเทพเวลา 18.30 น. และขบวนรถเที่ยวกลับ ออกจากสถานีกันตังเวลา 12.40 น. ใช้เวลาประมาณ 16-17 ชั่วโมง.สำหรับเพื่อน ๆ สายชิลล์ที่ไม่อยากนั่งเครื่องบิน ก็สามารถนั่งรถไฟมาลงที่นี่ได้เลย แต่อย่าลืมตรวจสอบเวลาเดินรถอีกครั้งก่อนเดินทางนะคะ.โทร. 075 251 015, 1690ที่ตั้ง ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ใกล้กับสถานีรถไฟ มีร้านกาแฟน่ารักน่าแวะชื่อ สถานีรัก Love Station ตัวร้านเป็นไม้ทาสีเหลือง ตกแต่งย้อนยุคคล้ายกับสถานีรถไฟกันตัง บรรยากาศชิลล์มาก สถานีรัก Love Stationเปิดทุกวัน เวลา 08.30-19.00 น.โทร. 081 979 6806ที่ตั้ง ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ต้นยาง คาเฟ่ .แอดจะพาไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ ต้นยางคาเฟ่ ร้านนี้อยู่ใกล้กับต้นยางพาราต้นแรกของเมืองไทย จุดท่องเที่ยวอีกจุดของกันตัง มีเมนูให้เลือกมากมายทั้งอาหารไทย-อีสาน สเต็ก ของหวาน และเครื่องดื่ม ร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ ผนังร้านโดดเด่นมากเพราะเป็นภาพวาดที่เล่าเรื่องราวของเมืองกันตัง.เปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น. (ครัวปิด 19.00 น.)โทร. 089 723 1733ที่ตั้ง 253/1 ถ.ตรังคภูมิ ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ Facebook ต้นยางคาเฟ่ @กันตัง ล่องแพ กินปู ดูวิว โดยวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ.จากอำเภอกันตังไปประมาณ 24 กิโลเมตร เรามุ่งหน้าไปที่ตำบลบางสัก ที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือการล่องแพไปชมวิวเขาจมป่าและทะเลแหวก พร้อมทานอาหารทะเลกันบนแพ โดยวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำราบ.ที่นี่มีกิจกรรมให้เลือกทั้งแบบครึ่งวัน และแบบเต็มวัน สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกด้วย แอดเลือกกิจกรรมแบบครึ่งวัน คือ ล่องแพไปเที่ยวเขาจมป่า และทะเลแหวก โดยเราจะล่องแพผ่านป่าชายเลน ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 3,200 ไร่ ระหว่างทางจะพบกับต้นโกงกางและต้นแสมที่ขึ้นอย่างหนาแน่น แสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแถบนี้.โปรแกรมล่องแพท่องเที่ยว จะรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นคนละ 1,350 บาท หากไปกันหลายคนก็สามารถติดต่อสอบถามก่อนได้ เนื่องจากราคาจะแตกต่างกันไปตามจำนวนคน แต่ถ้าไปน้อยกว่า 5 คน แอดแนะนำให้ท่องเที่ยวด้วยเรือหัวโทงจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า มาถึงจุดแรก พาเพื่อน ๆ เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวเขาจมป่า ตรงนี้ใช้เวลาเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวประมาณ 20 นาที ระยะทาง 400 เมตร ถึงแม้จะเป็นระยะทางสั้น ๆ แต่ก็มีหลายจุดที่ค่อนข้างชัน เดินขึ้นอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ.ด้านบนสุด สามารถชมวิวป่าชายเลนผืนใหญ่ เขียวชอุ่มสบายตา เห็นคลองที่คดเคี้ยวไปมาแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังเห็นวิวทะเลและเกาะมุกที่อยู่ไกล ๆ ได้อีกด้วย ลงจากยอดเขามาเหนื่อย ๆ เริ่มหิวก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะบนแพได้เตรียมอาหารรอไว้แล้ว มีอาหารทะเลหลายอย่าง โดยเฉพาะปูม้าตัวใหญ่ ๆ มีให้กินแบบจุใจเลยจ้า จุดเด่นของบ้านน้ำราบคือ การทำธนาคารปูม้า อาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำประมงปูม้า นานวันเข้าก็พบว่าปริมาณปูม้าลดลงมาก ชาวบ้านจึงหาทางแก้ปัญหา เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าให้กลับสู่สมดุลย์ จึงเริ่มนำแม่ปูม้าที่มีไข่นอกกระดองมาเลี้ยง รอจนแม่ปูวางไข่ แล้วจึงนำลูกปูไปปล่อยบริเวณแหล่งแนวหญ้าทะเล เพื่อให้ลูกปูเจริญเติบโตในธรรมชาติต่อไป กิจกรรมนี้สามารถช่วยรักษาประชากรปูม้าได้ไม่น้อยเลย เพราะแม่ปูแต่ละตัวนั้นมีไข่ประมาณสามแสนฟอง แต่ถ้าตัวใหญ่จะมีไข่ถึงหนึ่งล้านฟองเลยทีเดียว.นอกจากนี้ชาวบ้านยังเพาะหญ้าทะเล เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของปูม้าและเป็นอาหารของพะยูน มีการอนุบาลม้าน้ำ และลูกปลาหมึกอีกด้วย หลังจากกินจนอิ่มแปล้แล้ว ก็ไปจุดที่สอง เพื่อชมทะเลแหวกที่มีขนาดกว้างเท่าสนามฟุตบอล ซึ่งการจะชมทะเลแหวกได้นั้นต้องรอช่วงน้ำลง ราว ๆ บ่ายโมงไปจนถึงช่วงเย็น ใครไปช่วงเย็น ๆ ก็ยังสามารถรอชมพระอาทิตย์ตกดินจากจุดนี้ได้อีกด้วย.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บังยูร 080 824 9468, พี่อู๊ด 087 277 8017ที่ตั้ง ท่ากะหยง หมู่ที่ 4 ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจากเพจ facebook กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ คาเฟ่แห่งนี้ให้บริการของหวาน และเครื่องดื่ม

ไปเที่ยวกัน เที่ยวกันตัง(ตรัง) 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

มุกดาหาร 2 วัน 1 คืน

จังหวัดมุกดาหารเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ครบเครื่องทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ชิลล์เล่นในเมือง อาหารรสอร่อย รวมถึงมีการท่องเที่ยวที่อิงกับความเชื่อท้องถิ่นที่ค่อนข้างน่าสนใจมากสำหรับแอด จะมีที่ไหนบ้าง ตามไปอ่านกัน วันที่ 11.ภูผาเทิบ.วันที่ 22.ห้าแยกมุกดาหาร3.วัดภูมโนรมย์4.ตลาดอินโดจีน5.แก่งกะเบา6.ศาลพ่อปู่อนันตนาคราช7.เรือนจอมเพชร8.สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 วันที่1.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ.ภูผาเทิบอยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ถนนลาดยาง เดินทางสะดวก ช่วงที่แอดไป นักท่องเที่ยวไม่เยอะ แดดค่อนข้างแรงแม้จะเป็นช่วงเช้า ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาหินทรายลูกใหญ่สลับกับต้นไม้สูง.เมื่อถึงอุทยานแล้ว แนะนำให้ไปติดต่อที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว จะมีเจ้าหน้าที่คอยนำชมอย่างเป็นมิตร ที่สำคัญมีร่มให้บริการด้วยนะ.อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ บ้านคอนสาย ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร 49000เวลาทำการ 08:30-16:30 น. เปิดทุกวันโทร. 09 4289 2383, 0 4267 6474 ภายในอุทยานมีแหล่งท่องเที่ยวหลายจุด ถ้าจะเดินให้ครบ ต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันเลยล่ะ ก่อนมาอย่าลืมเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมกันด้วย แต่ถ้ามีเวลาจำกัด ก็สามารถเลือกเดินเองได้เลยว่าจะไปถึงจุดไหน แหล่งท่องเที่ยวที่แอดจะแนะนำมีดังนี้.กลุ่มหินเทิบ (20 เมตร).กลุ่มหินเทิบ เป็นผลงานประติมากรรมจากการกัดเซาะของฝน น้ำ ลม และแสงแดด ทำให้เกิดเป็นหินรูปร่างแปลกตามากมาย หินบางก้อนดูคล้ายเครื่องบิน รองเท้าบู้ท มงกุฎ สิงโต จระเข้ก็มี ดูเพลิน ๆ แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคน ลานมุจลินท์ (500 เมตร).เป็นลานหินขนาดใหญ่ หากเพื่อน ๆ มาในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะได้เจอกับ ทุ่งดอกหญ้าของพืชขนาดเล็ก เช่น สร้อยสุวรรณา หยาดน้ำค้าง หนาวเดือนห้า ดาวรวมดวง และดุสิตา แต่ถ้ามาช่วงอื่น เพื่อน ๆ ก็จะเจอลานหินโล่ง ๆ มีหญ้าแซมนิด ๆ สวยไปอีกแบบ บริเวณกลางลานสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงได้ด้วยนะ ทุ่งดอกหญ้า (บานช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี) ดอกทิพเกสรและดอกสร้อยสุวรรณา มีดอกมณีเทวา บานอยู่ในบริเวณเดียวกันด้วยนะ น้ำตกวังเดือนห้า (1000 เมตร) อยู่ทางด้านขวาของลานมุจลินทร์ เป็นน้ำตกขนาดเล็ก เกิดจากธารน้ำที่ไหลผ่านลานหินมุจลินท์ เป็นบ่อน้ำซับที่หล่อเลี้ยงพืชพันธุ์และสัตว์ป่าภายในอุทยาน ผาอูฐ (1000 เมตร) เป็นหน้าผาที่มีประติมากรรมหินรูปร่างคล้ายอูฐ เป็นจุดชมวิวที่ไม่เพียงมองเห็นผาผักหวาน และผาขี้หมูได้อย่างชัดเจนเท่านั้น แต่ยังสามารถมองเห็นภูถ้ำพระได้ในระยะไกลอีกด้วย น้ำตกภูถ้ำพระ (2000 เมตร) มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง ในหน้าแล้งจะไม่มีน้ำ ด้านบนเป็นสถานที่ที่เรียกว่าภูถ้ำพระ มีตำนานเล่าว่าที่นี่เคยเป็นหมู่บ้านขอม ก่อนจะมีย้ายถิ่นหนีภัยธรรมชาติ ได้นำพระพุทธรูปที่นับถือไปเก็บไว้ที่ถ้ำแห่งนี้ ซึ่งมีทั้ง พระเงิน พระนาก พระทองคำ รวมไปถึงพระไม้จำนวนมาก น่าเสียดายที่ปัจจุบันพระพุทธรูปหายไปเยอะแล้ว เหลือแต่พระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยไม้เท่านั้น ผาไทร (3,000 เมตร) เป็นหน้าผาสูง เป็นจุดชมวิวและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยอีกจุดของภูผาเทิบ บริเวณทางลงหน้าผามีเพิงหินที่พิงกันอยู่ดูเป็นช่องแคบ สามารถเดินลอดผ่านได้จึงเรียกกันว่า “ถ้ำลอด” บริเวณนี้เป็นจุดที่ชาวบ้านเคยขุดพบเศษถ้วยชามและของโบราณ อัตราค่าบริการคนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาทชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท.ค่าบริการพาหนะ/คันจักรยาน ฟรีจักรยานยนต์ 20 บาทรถยนต์ 4 ล้อ 30 บาทรถยนต์ 6 ล้อ 100 บาทรถยนต์ 6 ล้อขึ้นไป 200 บาท.*นักท่องเที่ยวชาวไทยลด 50 เปอร์เซ็นต์ วันจันทร์-วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์**บริเวณทางเข้าอุทยานมีบ้านพัก ช่วงนี้ไม่อนุญาติให้พักในอุทยานเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น (สอบถามเมื่อ 20/01/64)***อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบได้รับตรามาตรฐานท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วันที่ 2.ห้าแยกมุกดาหาร.ที่นี่เป็นชุมชนชาวเวียดนามขนาดใหญ่ และเป็นตลาดอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อของมุกดาหาร มีร้านอาหารที่ผสมผสานวัฒนธรรมอีสานและเวียดนามอยู่หลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นข้าวเปียก ก๋วยจั๊บญวน ข้าวต้ม เลือดแปลง หมูยอ ไส้หมูลวกจิ้ม ฯลฯ โอย…หิว และแน่นอนกองทัพต้องเดินด้วยท้อง แอดเลยพาเพื่อน ๆ มาเริ่มต้นวันที่นี่ก่อน ที่ร้านข้าวเปียกห้าแยกนั่นเอง.ที่ตั้ง บริเวณห้าแยกชุมชนเวียดนาม ถ.พิทักษ์สันติราษฎร์ ต.ศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.มุกดาหาร เวลาทำการ 6.00-10.30 น. หยุดทุกวันพุธโทร. 0 4261 2249 ข้าวเปียกที่นี่อร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปกลมกล่อมคล่องคอ หมูยอ ซี่โครงหมู นุ่มอร่อย เข้ากันไปหมด ที่สำคัญ ราคาถ้วยละ 20-30 บาทเท่านั้น (ใส่ไข่เพิ่ม 5 บาท) Simple Delicious มาก ๆ แต่ถ้ามาช้า ระวังปาท่องโก๋หมดนะ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จ.มุกดาหาร.เมื่อวานเราเข้าป่าไปแล้ว วันนี้แอดขอเปลี่ยนแนว พาไปท่องเที่ยวที่อิงกับคติความเชื่อของชาวพื้นถิ่นกันบ้าง ซึ่งที่แรกของวันนี้ก็คือ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ติดปากว่า ภูมโนรมย์ นั่นเอง.เมื่อมาถึงแล้ว เพื่อน ๆ ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถด้านล่างของวัด ตรวจอุณหภูมิ ผ่านจุดคัดกรอง แล้วใช้บริการรถสองแถวของทางวัดขึ้นไป มีรถออกตลอด ค่ารถบริจาคตามกำลังศรัทธาที่ตู้บริจาค (ปัจจุบันห้ามนำรถส่วนตัวขึ้นทุกกรณี).เหตุผลที่ต้องใช้บริการรถสองแถวของทางวัด เนื่องจากทางขึ้นเป็นภูเขาชัน มีโค้งหลายจุด รถสวนกันยาก จึงต้องใช้คนพื้นที่ขับ ซึ่งคนขับรถจะมี วอ. คอยติดต่อกัน เพื่อแจ้งว่าขับถึงจุดไหนแล้ว เพราะฉะนั้น ปลอดภัยหายห่วงงง.ที่ตั้ง หมู่ที่ 5 ต.ศรีบุญเรือง อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหารเวลาทำการ 07.00

มุกดาหาร 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top