สถานที่ท่องเที่ยว

ผ่อนคลายสบายๆ กับน้ำใสๆ หาดทรายขาวๆ แห่งทะเลใต้

…หลายครั้ง หลายครา ที่นั่งตั้งตารอวันหยุดยาว อย่างมนุษย์เงินเดือนคนอื่นๆ และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็สมใจอยาก ได้มีวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ เลยได้โอกาสแบกเป้ไปเที่ยวทะเลน้ำใส หาดทรายขาวที่จังหวัดภูเก็ต-กระบื่ สวนทางกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่แห่กันไปเที่ยวสงกรานต์ทางเชียงใหม่ ซึ่งก็ตรงกับความตั้งใจไว้แล้วที่ไม่อยากแย่งที่กิน ที่เที่ยวกับใคร และประจวบเหมาะกับช่วงนั้นเป็นช่วงหลังฝนตกหนักน้ำท่วมภาคใต้ ทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกทัวร์กันเกือบหมด แต่เราดันทุรังที่จะไปเที่ยวให้ได้ ก็ตั้งตารอมาเป็นปีนี่ แต่เมื่อไปถึงแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ ทะเลไทยสวยสมใจอย่างนี้นี่เอง…. การเดินทางไปภูเก็ตและกระบี่ครั้งนี้ ถูกวางไว้ล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เพราะตั้งใจจะจองตั๋วเครื่องบินจากเชียงใหม่บินตรงไปยังสนามบินภูเก็ต ใช้เวลานั่งๆ นอนๆ อยู่ 2 ชั่วโมงก็ถึงภูเก็ต ไข่มุกแห่งอันดามัน นั่งรถตู้เข้าเมืองจ่ายไปคนละ 100 บาท ก็มาถึงโรงแรมที่จองไว้ “มนตรีรีโซเทล” สถานที่แรกที่ตั้งใจจะไป คือ วัดฉลอง เพื่อนมัสการหลวงพ่อแช่ม เลยเดินไปเช่ามอไซด์ที่อยู่ข้างๆ โรงแรมวันละ 150 บาท แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไปวัดฉลอง เพราะหลงทางเลยได้ไปเที่ยวเขารังแทน เพื่อชมวิวเมืองภูเก็ต ลองดูนะค่ะว่าเมืองภูเก็ตจากภาพมุมสูงนี้จะสวยแค่ไหน น่าไปเที่ยวจังค่ะ..^^.. ….และที่เขารัง ไม่เพียงแค่ชมวิวเท่านั้นยังมีลิงพิสดารด้วย ที่ว่าพิสดารก็เพราะลิงทั่วไปกินผลไม้กัน แต่ลิงที่นี่กินหมากฝรั่งค่า….555 จิ๊กโก๋น่าดูเลย ช่วงที่ไปนั้น จังหวัดภูเก็ตกำลังจัดงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นพอดิบพอดี เลยได้ภาพป้ายผ้าบรรยากาศการประชาสัมพันธ์ทั่วเมืองภูเก็ตเลย พอตกค่ำออกมาเดินกินอาหารตามสั่ง (อาหารทะเล) ร้านข้างทางแถวๆ โรงแรม ได้ยินเสียงเพลงดังมาจากถนนเส้นหนึ่งใกล้ๆ กับร้านอาหารนั้น จึงเดินไปท่องราตรี โชคดีมากๆ เพราะถนนเส้นนั้นเป็นถนนคนเดินแถวเมืองเก่า แบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสหรือโปรตุเกตนะ (จำไม่ได้อะค่ะ) เป็นถนนคนเดินที่ให้บรรยากาศแตกต่างไปอีกจังหวัดหนึ่ง …และสีสันต์งานช่วยเหลือผู้สบภัยจากสึนามิ ประเทศญี่ปุ่น ก็ทำให้ถนนคนเดินดูมีสีสันต์เพิ่มขึ้นมากเลยทีเดียว สีสันต์อีกอย่างที่เข้ากับบรรยากาศเมืองเก่า ก็เห็นจะเป็นรถโฟล์ค (น่าจะใช่นะ พอดีไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถ…แฮ่ๆ) คันงามนี่แหละค่ะ เดินเที่ยวจนเหนื่อยเริ่มหาอะไรเย็นๆ สดชื่นๆ กินกันดีกว่า นี่เลยแนะนำไอศครีมภูเก็ตโบราณ ไม่แพงแค่ 40 บาท ได้มะพร้ามมาทั้งลูกเลยที่เดียว หลังจากเดินจนเหนื่อย กินจนอิ่ม ก็กลับเข้าโรงแรมเพื่อเตรียมตัวเที่ยว 4 เกาะ โปรแกรมแบบวันเดย์ หรือวันเดียวที่จังหวัดกระบี่ต่อในวันรุ่งขึ้น ทัวร์จัดการให้ทุกอย่างตั้งแต่รถมารับ-ส่งโรงแรม เรือนำเที่ยว และอาหารกลางวัน ช่วงที่ไปราคาตกอยู่ประมาณ 1000 บาท/คน โดยมีรถตู้มารับที่ รร.ในตัวเมืองภูเก็ต เพื่อไปขึ้นเรือที่ท่าเรือรัษฎา บรรยากาศบนเรือเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ เค้าหลงใหลทะเลไทยมากๆ บางคนมาเที่ยวมาอยู่เมืองไทยแถบทะเลใต้เป็นเดือนๆ จากภูเก็ตไปกระบี่ทางเรือใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ก็มาถึงบริเวณอ่าวนาง จ.กระบี่เพื่อเปลี่ยนลงเรือสปีดโบ๊ท แยกนักท่องเที่ยวไปตามโปรแกรมต่างๆ ภาพนี้ถ่ายจากบนเรือหันหน้าออกทางทะเล …และแล้วก็ได้ลงเรือสปีดโบ๊ทเพื่อไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ ได้ง่ายกว่าเรือใหญ่ ทะเลแหวก แต่ไกด์บอกว่าวันนี้แหวกแค่ครึ่งเดียว เลยดูไม่ค่อยสวยเหมือนตามนิตยาสารการท่องเที่ยวอื่น ๆ ยังไงน้ำก็ใส สะอาด หาดทรายขาวอยู่ดี ที่หมายต่อไปเป็นเกาะไก่ เนื่องจากรูปร่างเหมือนไก่ เค้าจึงตั้งชื่อว่า “เกาะไก่” จริงๆ มองเป็นอย่างอื่นก็ได้นะแล้วแต่จินตนาการ …จุดเด่นของเกาะไก่ เป็นที่ดำน้ำดูปลาเสือ…ไกด์มักพานักท่องเที่ยวมาให้อาหารปลาและเล่นน้ำบริเวณนี้ จุดต่อไปเป็นเกาะปอดะ ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวแต่นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ มีบริการห้องน้ำ ราคาประมาณ 10 บาท ไอศครีมและข้าวโพดปิ้งที่นี่ค่อนข้างแพง หากนักท่องเที่ยวไม่หิวจริงๆ แนะนำให้อดทนไปกระจายรายได้กับพ่อค้าแม่ค้าบนฝั่งจะดีกว่า เที่ยวจนหมดแรงวันนี้จึงนอนหลับสบาย อ้อ..ไม่ต้องย้อนกลับไปภูเก็ตก็ได้หากนักท่องเที่ยวต้องการไปพักหรือเที่ยวต่อที่กระบี่ให้แจ้งบริษัทและผู้ขับเรือ เพื่อเค้าจะพาเรามาส่งที่ท่าเรืออ่าวนาง จ.กระบี่ ที่กระบี่ได้จองโรงแรมซิตี้ไว้ เพราะอยู่ใจกลางเมืองเนื่องจากไม่ได้เอารถส่วนตัวมา จึงคิดว่าโรงแรมนี้สะดวกที่สุดแล้วมีของกิน ของขายมากมาย บรรยากาศและของอำนวยความสะดวกในห้องก็โอเค ไปจังหวัดไหนก็หนีไม่พ้นถนนคนเดิน และโชคดีที่ถนนคนเดินอยู่ด้านหลังโรงแรมนี่เอง หากมาเมืองทะเลแล้วไม่กินอาหารทะเลก็คงมาไม่ถึง นี่เลยภูมิใจเสนอยำไข่แมงดาทะเล ราคาไม่แพงมากประมาณ 80 บาท “เขาขนาบน้ำ” สัญลักษณ์เมืองกระบี่ แม้ไม่ได้นั่งเรือไปดูใกล้ๆ ก็ขอถ่ายรูปแบบไกลๆ ละกัน กลัวไปไม่ถึงเมืองกระบี่

ผ่อนคลายสบายๆ กับน้ำใสๆ หาดทรายขาวๆ แห่งทะเลใต้ อ่านเพิ่มเติม

ทริปพาเด็กดอยไปปล่อยเกาะ ภูเก็ต-ตาชัย ไม่ไปไม่ได้แล้ว !!!!!!!!!!!

พบกันอีกครั้งนะครับ วันนี้จะพาไปเที่ยว สถานที่สวยๆอีกเช่นเคยครับ โดยครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวเกาะสองเกาะครับ คือ ภูเก็ต กับ เกาะตาชัย ดูว่าจะสวยสมคำร่ำลือหรือไม่ ตามมาเลยครับ ทริปนี้ ผมบินด้วยโปร 0 บาทของหางแดง เช่นเคย และเป็นอีกครั้งที่ผมต้องบินสองตุ๊บ จากเชียงรายมาสุวรรณภูมิ ไฟล์ตเที่ยง แล้วก็ออกไปรับเด็ดดอยที่แอร์พอร์ตลิ้งค์ หัวหมาก (สาเหตุที่ไปรับเดาไม่ยากครับ เด็กดอยขึ้นรถไฟไม่เป็น) ก่อนอื่นต้องถ่ายรูปกับป้ายก่อนจะได้เอาไปลง FB อวดเพื่อนๆได้ ก็ต้องยืนรอกันสักพักนึงกว่ารถไฟจะมา แอร์พอร์ตลิ้งค์ นี่มีประโยชน์จริงๆสำหรับคนบ้านไกลแบบเด็กดอย ที่จะไปสุวรรณภูมิ ไม่งั้น ค่าแท๊กซี่ แพงกว่าค่าเครื่องบินอีก ระหว่างรอเห็นวิวสวยๆเลยกดไปสักภาพก่อนจะไปขึ้นเครื่องไปภูเก็ต ไฟล์ต สามทุ่ม ก่อนมาทริปนี้ก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากเช่นเคย จองที่พักก่อนเดินทางแค่ สองวัน โปรแกรมเที่ยวไม่มี ไปหาเอาข้างหน้า เรียกว่าไปเพราะเสียดายตั๋วเครื่องบิน แต่เสียตังค์ เพราะที่พักและเที่ยวแพง แทน 55 เนื่องจากเลิกงาน 5 โมง แล้ว มาเลย ทำให้ลงเครื่องที่ภูเก็ต ก็ยืนหลับ รอรถตู้ไปส่งที่ โรงแรม ดูทำหน้า ง่วงนอนสุดๆ ไม่สมกับที่หลายๆคนรอคอย เด็กดอยมาตั้งนาน ลงเครื่องเสร็จ โทรหา โรงแรมถามการเดินทางไปที่พัก ปรากฎว่าได้คำตอบว่า ให้นั่งรถตู้มาเลย นั่งแท๊กซี่แพง รถตู้ คนละ 150 แต่แท๊กซี่ 700 บาท พอขึ้นรถตู้ซึ่งมีผมและเด็กดอยเป็นคนไทยเพียงสองคน ก็จะถูกพาไปแวะที่ บริษัททัวร์ ก่อนประมาณ ครึ่งชั่วโมง ไม่รู้ว่า ฝรั่งพวกนั้นโดนฟันหัวแบะไปเท่าไหร่ ไอ่เราก็ไม่กล้าพูดมาก กลัวโดนฟันหัวแบะจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ทุกคันหรือปล่าว กว่าจะถึงที่พัก ปาเข้าไปเที่ยงคืน เหนื่อยมาก ไม่ขอถ่ายรูปอะไรทั้งสิ้น อาบน้ำนอน เพราะว่าตอนจองโรงแรม ได้ให้พนักงาน ซื้อทัวร์ วันเดย์เกาะตาชัยไว้ พนักงานแจ้งว่ารถมารับ 6.30 น เลยรีบนอนเรียกว่าสลบไปเลย ตื่นแต่เช้าออกเดินทางด้วยรถตู้จากภูเก็ตไปพังงา เพื่อไปขึ้นเรือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงครึ่ง อยู่บ้านไม่เที่ยงไม่ตื่นมาเที่ยวนี่ตื่นได้ ดูเอาเช้าแค่ไหนพระอาทิตย์ พึ่งจะโผล่มาให้ยลโฉม นั่งรถมาชั่วโมงครึ่ง ฟังการสรุปการเดินทางคร่าวๆแล้ว ก็ต้องนั่งเรืออีกชั่วโมงครึ่ง เรียกว่าเดินทาง ก็เหนื่อยแล้ว กว่าจะถึงที่หมาย ทริปนี้ มีเรือออกไปตาชัยสองลำ สิมิลันสองลำ ไม่มีคนไทยอีกเช่นเคย บักสีดาล้วนๆ นั่งเรือมาสักพักก็เห็นเกาะตาชัย อยู่ริบๆ วันนี้แดดแรงมาก มีเมฆเล็กน้อย ถึงน้อยมาก ก่อนขึ้นเกาะ จะเป็นจุดดำน้ำจุดแรก หน้าหาด จากเมื่อก่อนเคยหลงไหลโลกใต้น้ำจนเกือบจะไปเรียนดำน้ำลึก แต่เดี๋ยวนี้หมดโอกาส เพราะกลับมาอยู่บนดอยแล้ว จะเรียนดำน้ำลึก ไปดำแม่น้ำหลังบ้านก็ใช่ที่ เตรียมอุปกรณ์ พร้อม ลุยยยยย ผมใช้เวลาดำประมาณ ยี่สิบนาที ก็ขึ้นมาแล้ว เนื่องจาก ไม่ประทับใจมากนัก อาจเพราะ เห็นปะการังตาย ฟอกขาว ปลาเลยน้อยไปด้วย ก็ขึ้นมาบนเรือ จิบเบียร์ช้างฟรี กินขนมฟรี เก็บภาพไปเรื่อยๆดีกว่า ขณะนั้นเวลา 11.00 น ก็มีเรือของอีกบริษัทพานักท่องเที่ยวมาอีกลำหนึ่ง หลังจากปล่อยให้ดำน้ำ 40นาที พี่ไกคืก็เรียบักสีดา ทั้งหลายขึ้นเรือ สอบถามว่าใครเห็นปลาอะไรบ้าง ปรากฏว่า คุณลุงจาก เยอรมัน คนนึงเจอเต่าด้วย ดี๊ด๊า กันใหญ่ จากการสอบถามพี่ไกค์บอกว่า ที่สิมิลัน ก็พอๆกัน ปะการังฟอกขาวตาย ปลาน้อย ไม่รู้จะแก้ใขกันอย่างไร แล้ว หลังจากนั้นเรือก็นำมาสู่เกาะตาชัย เกาะที่เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน แต่จริงๆแล้วอยู่xxxงจากสิมิลันพอสมควร อยู่ระหว่างเกาะ สิมิลันและเกาะสุรินท์ ภาพแรกบนเกาะตาชัย เกาะตาชัย ชื่อนี้ผมได้ยินครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก จนกระทั้งมาเห็นกระทู้ใครสักคนใน พันทิป ดูรูปแล้วสวยมาก เลย หาข้อมูล แล้วจองตั๋วมาภูเก็ต ไว้ล่วงหน้า เกาะตาชัย ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายที่ขาวละเอียด นุ่มเท้าเวลาเดิน เหมือนคอฟฟี่เมต หาดทรายของเกาะตาชัย มีความยาวประมาณ 300 ร้อยเมตร เกาะตาชัยเริ่มเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากขึ้น ในเรื่องของความสวยงามและเงียบสงบ ไม่แพ้สิมิลัน จึงจะเห็นภาพแบบนี้อยู่ทั่วไป นอกจากหาดทรายที่ขาวแล้ว เกาะตาชัยยังมี น้ำทะเลที่ใส มากๆ น้ำที่ใสราวกระจก ยามเมื่อแสงแดดส่องลงมา ช่างสวยงามประทับใจจริงๆ ขณะที่ พี่ๆทีมงานไกค์ กำลังเตรียมอาหารกลางวัน จึงปล่อยให้ลูกทัวร์เดินเก็บบรรยากาศ ของเกาะตาชัยไปเรื่อยๆก่อน แดดร้อนมากเพราะ เกือบเที่ยงแล้ว ขอมาหลบแดดเก็บภาพสักหน่อย เกาะสวย ทรายหาดขาว ร่มไม้ กับ ชิงช้า ย่อมเป้นของคู่กัน และสามารถพบเห็นเกือบทุกที่ แต่ก็ไม่เบื่อที่จะเก็บภาพมาอวดกัน ทะเล กับก้อนหิน เป็นเป็นของคู่กัน แต่หากทะเลกับก้อนหิน ไม่มีคลื่นซัด ก็เหมือนท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆ มันจะดูเรียบๆเกินไป เหมือนชีวิตนั่นแหละ มันต้องโดนคลื่นซัดซะมั่งจะได้ไม่เบื่อหน่ายกับชีวิต แต่อย่าเผลอปลิวหายไปกับคลื่นเสียก็เท่านั้น จะว่าโชคดี ที่วันนี้ฟ้าใส แต่ในใจก็อยากให้มีเมฆบ้าง เพราะฟ้าที่ว่าสวยๆก็เพราะมีเมฆ มีคนเคยบอกผมไว้แบบนี้ เดินเหยียบคลื่นกลับไปที่ทำการเกาะตาชัย มองจากลานหน้าทำการเกาะตาชัยออกไปด้านทะเล บนเกาะตาชัย ไม่มีรีสอร์ท ไม่มีบ้านพัก สำหรับนักท่องเที่ยว เคยมีให้กางเต้นท์แต่ไม่แน่ใจว่ายกเลิกไปแล้ว เพราะ ว่าบนเกาะ ไม่มีแหล่งน้ำจืด ทำให้ลำบากในการอยู่อาศัย จึงคงมีแต่เจ้าหน้าที่ และ ธงชาติ ที่คอยดูแลและต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเกาะนี้ ต่อไป หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินไปสำรวจอีกด้านของหาด มุมนี้ ที่ใครๆก็ถ่ายกัน เราก็ขอถ่ายบ้างแม้ไม่สวยเท่าคนอื่นเขา แดดร้อนจัด ไม่เหมาะสำหรับคนกลัวดำนะครับ นั่งพักสักแปบ ก็เริ่มมีเรือมารับ นักท่องเที่ยว

ทริปพาเด็กดอยไปปล่อยเกาะ ภูเก็ต-ตาชัย ไม่ไปไม่ได้แล้ว !!!!!!!!!!! อ่านเพิ่มเติม

พักร้อนที่เกาะราชา + บ้านรายา ภูเก็ต

ทริปนี้เป็นทริปที่ไม่ได้ตั้งตัวหรือวางแผนอะไรล่วงหน้าไว้เลย พอดีพรรคพวกชวนไปนอนเกาะราชา ก็เข้าทางผมเลยครับเพราะช่วงนั้นผมหยุด เสาร์ อาทิตย์พอดี สำหรับผมนั้นทำงานปกติหยุดวันอาทิตย์แค่วันเดียว นานๆจะได้หยุดวันเสาร์กับเขาสักทีก็เลยหาเรื่องเที่ยวให้คุ้มค่ากับวันหยุดสักที อิอิ เกาะราชานั้นผมเคยไปมาครั้งหนึ่งแล้วจำกันได้หรือเปล่าผมเคยเอามาเขียนรีวิวไว้ ลองกลับไปย้อนอ่าน ได้ที่ ทัวร์เกาะราชา ราชาแห่งท้องทะเลอันดามัน ครั้งนั้นเป็นการไปแบบ One Day Trip แบบไปเช้าเย็นกลับ สำหรับทริปนี้ของผม ณ.เกาะราชาเป็นทริปที่พักค้างคืนที่เกาะราชา หลายคนคงสังสัยว่าผมไม่เบื่อบ้างหรือกับการไปเกาะราชาอีกทั้งๆที่เคยไปมาแล้ว ผมอยากจะบอกทุกคนว่าสำหรับเกาะราชาของผมนั้นไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลยครับเพราะความสวยงามของท้องทะเล ที่ใสสะอาด ท้องฟ้ามันสดใส และ ฝูงปลา ปะการังอันงดงาม ทำให้ผมไม่เคยเบื่อกับมันเลยถ้ามีโอกาสผมก็จะไปมันอีกเกาะราชา การไปครั้งนี้พวกเราต้องซื้อทัวร์เกาะราชา One Day Trip โดยเขาจะไปส่งเราที่เกาะราชาปล่อยเราที่เกาะราชา 1 คืน แล้วตอนบ่ายของอีกวันเรือจะมารับเรากลับภูเก็ต สำหรับที่พักของเราที่เกาะราชาในครั้งนี้ พวกเราเลือกพักที่ บ้านรายารีสอร์ทแอนด์สปา ( Baan Ra Ya Resort and Spa ) เป็นรีสอร์ท ที่ดีอีกแห่งหนึ่งบนเกาะราชา อาจเป็นรองแค่ The Racha โรงแรมหรูระดับ5ดาวบนเกาะราชา ราคาห้องพักไม่ต้องพูดถึงแพงหูฉีกเลย 555 แต่ที่บ้านรายานี้ราคาไม่แพงมากนักสำหรับคนชอบเที่ยวแบบผม ราคาห้องถูกก็ พันต้นๆ มีห้องหลายแบบให้เลือกไม่ว่าจะเป็น Deluxe Pavilion Room, Deluxe Room, Superior Room, Standard Room แต่ล่ะห้องก็ราคาจะแตกต่างกันไป ผมขอบอกไว้นิดหนึ่งน่ะครับว่าแต่ล่ะห้องการเปิดปิดแอร์ของที่บ้านรายาจะเปิดปิดเป็นเวลาที่ต่างกัน สำหรับห้อง Pavilion Room, Deluxe Room ห้องแอร์จะเปิดได้ 24 ชม. สำหรับห้อง Superior Room เปิดปิดแอร์ได้ในช่วงเวลา 6 โมงเย็น ถึง 8 โมงเช้า ส่วนห้อง Standard Room จะมีทั้งห้องแอร์และพัดลม เปิดปิดแอร์ได้ในช่วงเวลา 6 โมงเย็น ถึง 8 โมงเช้า เช่นกัน สำหรับผมนั้นเลือกห้อง Standard Room แบบพัดลม อิอิ เพราะมันประหยัดดี บรรยากาศ บ้านรายารีสอร์ทแอนด์สปา นั้นจะร่มรื่นเป็นอย่างมากยังคงเป็นธรรมชาติ มีต้นมะพร้าวหลายต้นทำให้ดูร่มรื่นและการสร้างห้องพักก็ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติถือได้ว่า บ้านรายารีสอร์ทแห่งนี้ทำให้ผมได้ประทับใจกับการมาพักผ่อนครั้งนี้ได้ดีเลยทีเดียว สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่อยากจะมาพักผ่อน พักสมอง ก็มาภูเก็ต ลองเลือกมาพักที่เกาะราชาดูสิครับแล้วท่านจะประทับใจไปอีกนานเหมือนผมที่ประทับใจการพักผ่อนของครั้งนี้ไปอีกนาน ออกจากฝั่งประมาณ 25 นาที เราก็ถึงเกาะเฮ หรือ Coral Island เรือจะแวะให้เราเล่นน้ำกันประมาณ 1 ชั่วโมง สวยจริงๆครับกับ เกาะเฮ หรือ Coral Island เรือออกจากเกาะเฮประมาณ 30 นาที ก็จะมาถึงบริเวณเกาะราชาเรือจะแวะให้พวกเราดำน้ำ Snorkeling ที่อ่าวอคอนแค ประมาณ 45 นาที ……… เสร็จจากการดำน้ำชมประการังเป็นที่เรียบร้อยแล้วเรือจะก็พาเราขึ้นฝั่งที่เกาะราชา สำหรับช่วงที่ผมไปนั้นเขาจะย้ายมาขึ้นอีกฝั่งหนึ่ง จากเมื่อก่อนครั้งที่แล้วที่ผมไปจะขึ้นที่ฝั่งโรงแรมเดอะราชา แต่ช่วงนี้เขาจะย้ายมายังอีกฝั่งหนึ่งเพราะว่าเป็นช่วงที่คลื่นแรง รับประทานอาหาเที่ยงที่ทางบริษัททัวร์จัดไว้ให้ หลังจากทานข้าวเสร็จแล้วผมกับพรรคพวกต้องไป Check In ที่บ้านรายา รถคันนี้จะพาเราไปยังรีสอร์ทบ้านรายา รถจะลักษณะคล้ายรถอีแต๋น อิอิ หรอยอย่างแรงสำหรับรถคันนี้ รีเชฟชั่นของบ้านรายา เห็นป้ายนี้แสดงว่าพวกเรามาถึงแล้ว รีสอร์ทบ้านรายา ผมได้ห้องหมายเลข 46 ของผมนั้นจะเป็นห้อง Standard Room จะเป็นห้องพัดลม ราคาไม่แพงมากนัก เป็นไงบรรยากาศภายในห้องพักของผมสวยงามอะไรอย่างนี้ อิอิ อีกมุมของห้องพักของผม ห้องน้ำครับ บริเวณที่พักของผมจะเป็นหลังเป็นหลัง เก็บข้าวของเข้าห้องพักเสร็จก็เลยออกมาเดินสำรวจรอบๆโรงแรม สระว่ายน้ำของโรงแรม ขอบอกว่าเด็ดจริงๆเล่นน้ำไปด้วยเห็นวิวทะเลไปด้วย ร้านสเบียง จะเป็นร้านอาหารแห่งเดียวภายในบ้านรายา คืนนี้พวกเราจะมาฝากท้องกันที่นี้ ใกล้เย็นๆพวกเราก็ใช้บริการของรถที่มารับพวกเราครั้งแรกเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ฝั่งโรงแรมเดอะราชา โดยค่าบริการสำหรับรถไปส่งเรา ทางบ้านรายาคิดต่อเที่ยวไปกลับ เที่ยวล่ะ 200 บาท พระอาทิตย์กำลังจะตกดินสีสันสวยงามมาก เช้าอีกวันที่บ้านรายา วันนี้ผมตื่นแต่เช้าประมาณ ตี5 กว่าๆ เพื่อจะไปเก็บบรรยากาศตอนแสงเช้า แสงเช้าที่เกาะราชา สวยงามจริงๆครับบรรยากาศตอนเช้า อาหารเช้าของผมครับเป็น แซนวิสไก่ กับ กาแฟ สำหรับอาหารเช้านั้นเขาจะมีเป็นเซตให้เราเลือก บรรยากาศบริเวณรอบๆบ้านรายาดูร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นมะพร้าว ผมเดินเรื่อยๆ ก็มาถึงอ่าวขอนแค เป็นจุดดำน้ำที่ดีอีกจุดหนึ่งของเกาะราชา ความงามของอ่าวขอนแค ได้เวลาลงเรือกลับภูเก็ตแล้วครับ อากาศชั่งเป็นใจจริงๆดูท้องฟ้าสิใสสีฟ้าครามมาก จบแล้วครับสำหรับรีวิว ของผม สามารถอ่านทริปท่องเที่ยวของผมทริปอื่นๆได้ที่ http://yutphuket.wordpress.com/

พักร้อนที่เกาะราชา + บ้านรายา ภูเก็ต อ่านเพิ่มเติม

ประทับใจกับทะเลอันดามันไทย

ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวภูเก็ต ก็ห่วงๆ อยู่ว่าฝนจะตกมั๊ย จะสวยอย่างที่ดูในรูปที่คนอื่นๆ ไปกันมารึเปล่า เพราะเราไปเดือน มิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนที่ฝนตกแน่ๆแต่ผิดคาด และสมหวัง เพราะไปเจอฝนนิดหน่อย แล้วยังประทับใจกับความสวยงามของธรรมชาติ ของทะเล หมู่เกาะพีพี อ่าวมาหยา แล้วก็หาดต่างๆ อีกต่างหาก ปลาที่เกาะไข่ เยอะมาก ๆ ไม่คิดว่าจะเจอเยอะอย่างนี้ แล้วก็หลากหลายมากๆๆๆอยากให้เพื่อน ๆ ไปเที่ยวจังค่ะ นั่งเครื่องไปลงที่ภูเก้ตแล้วก็ซื้อทัวร์พีพี เกาะไข่ นะค๊ะ ถ้าจะให้ดี ก็ซื้อในงานท่องเที่ยวที่ททท.เค้าจัดขึ้นก็ดีค่ะ จะถูกกว่า ค่ะ รับรองว่า ทะเลไทยสวยมากๆ แค่เที่ยวในไทยก็เที่ยวไม่หมดแล้วค่ะ http://thai.tourismthailand.org/real-experiences/travel-stories/single/?story=26 

ประทับใจกับทะเลอันดามันไทย อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top