สถานที่ท่องเที่ยว

เช้าๆแบบนี้ได้ทานกวยจั๊บร้อนๆ สักชามคงจะฟินน่าดู ซอยแถวนี้อาจจะเรียงเลขแบบแปลกๆ ไปซักหน่อย แต่การเดินทางมาที่ร้านไม่ยากอย่างที่คิด โดยเริ่มจากถนนพระราม 4 ฝั่งขาเข้า ให้เลี้ยวเข้าซอยจุฬา 11 (ซอยที่มีอันนาเค้ก) ตรงมาสักพัก เจอแยกทางขวามือ เห็นป้ายซอยจุฬา 50 ก็เลี้ยวเข้าไปเลย ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอกับร้านที่เราตามหา เป็นร้านห้องแถวอยู่ขวามือ ตรงข้ามร้าน Tokyo Sweet บรรยากาศภายในร้าน เป็นร้านเล็กๆ แต่คนแน่นแบบนี้รู้เลยว่าต้องอร่อยแน่นอน เครื่องต่างๆ ที่สด สะอาด พร้อมรอลงชามให้เราทานแล้ว กวยจั๊บสูตรดั้งเดิมที่แอดขอบอกเลยว่า มันดีมาก น้ำซุปกลมกล่อม เครื่องในปรุงสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น หรือใครชอบต้มเลือดหมูก็สั่งได้นะ อร่อยไม่แพ้กัน.กวยจั๊บ-ต้มเลือดหมู ธรรมดา ราคาชามละ 50 บาท พิเศษ/เพิ่มสาหร่าย ราคา 60 บาท อีกหนึ่งเมนูเด็ด นั้นก็คือ หมูกรอบ ส่วนตัวแอดเป็นคนชอบทานหมูกรอบมาก พอได้ลองชิมหมูกรอบของที่นี่ก็พบว่า ความอร่อยมันมีอยู่จริง หนังกรอบ เนื้อนุ่มกำลังดี อยากสั่งมาทานให้เพลิดเพลินสัก 10 จาน หมูกรอบราคา 80 บาท ถ้าใครอยากไปพิสูจน์ความอร่อยก็ไปกันได้ที่ร้านกวยจั๊บ-ต้มเลือดหมูสามย่าน เจ้าเก่า จะได้รู้ว่าแอดไม่ได้โกหกนะคะ

วันนี้แอดจะมาแนะนำพระธาตุอีสาน 4 เมือง (5 พระธาตุ) ประกอบด้วย 1. พระมหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พระมหาธาตุเจดีย์สูง 9 ชั้น ศูนย์รวมจิตใจของชาวขอนแก่นเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และรวบรวมคำภีร์ทางพระพุทธศาสนา บานประตู-หน้าต่างแต่ละชั้นแกะสลักภาพชาดก พุทธประวัติ และเรื่องราวทางศาสนา  บนชั้นที่ 9 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายในบุษบก และยังเป็นหอชมทิวทัศน์ตัวเมืองขอนแก่นที่สวยงามอีกด้วย  อานิสงส์ : ก้าวหน้ารุ่งเรือง สักการะพระธาตุ 9 ชั้น ก้าวหน้ารุ่งเรือง เปรียบดังบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00 – 17.00 น.  การเดินทางจากสี่แยกประตูเมือง ตรงไปตามถนนศรีจันทร์ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนกลางเมือง ขับตรงไปเรื่อยๆ วัดหนองแวงจะอยู่ทางซ้ายมือพิกัด : https://goo.gl/maps/Gv546YwsoMu 2. พระธาตุขามแก่น วัดเจติยภูมิ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ตามตำนานกล่าวว่าเป็นพระธาตุที่สร้างขึ้นครอบต้นมะขามที่ตายแล้วเหลือเพียงแก่น แต่กลับยืนต้นแตกกิ่งก้านผลิใบเขียวชะอุ่มเป็นที่น่าอัศจรรย์ พร้อมกับบรรจุพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ด้วย อานิสงส์ : เรื่องร้ายกลายเป็นดี ดุจดังแก่นขามตายแล้วฟื้น รักยั่งยืน โรคภัยที่มี หลีกลี้ห่างหาย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น. การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 209 (ขอนแก่น-กาฬสินธุ์) ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 12 กิโลเมตร เมื่อข้ามสะพานน้ำพองแล้ว เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2183 ไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตรพิกัด : https://goo.gl/maps/BZTuRgnysf22 3.พระธาตุยาคู อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์  เดิมเรียกว่าธาตุใหญ่ เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟ้าแดดสงยาง ลักษณะเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยมก่อด้วยอิฐ เชื่อกันว่าภายในบรรจุอัฐิของพระเถระผู้ใหญ่ที่ชาวเมืองเคารพนับถือ บริเวณโดยรอบองค์พระธาตุพบใบเสมาแกะสลักภาพนูนต่ำเรื่องพุทธประวัติ  อานิสงส์ : ร่มเย็นเป็นสุข สักการะพระธาตุโบราณ เบิกบานร่มเย็น อัศจรรย์บูชาพระธาตุโบราณ ชีวิตเบิกบาน สมบูรณ์พูนสุข เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 16.30 การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 214 (กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด) ระยะทาง 13 กิโลเมตร ถึงอำเภอกมลาไสย เลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 2367 ระยะทาง 6 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวเข้าซอยอีกประมาณ 400 เมตรพิกัด : https://goo.gl/maps/7XVtDRUixHN2 4.พระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนสลักด้วยหินทรายของพระคณาจารย์ ปราชญ์แห่งอีสาน และพระสุปฎิปันโน 101 องค์ รวมทั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมอัฐบริขารของหลวงปู่ศรี มหาวีโร ผู้สร้างพระมหาเจดีย์ไว้อีกด้วย  อานิสงส์ : เสริมมงคลชีวิต อลังการพระมหาเจดีย์ชัยมงคลเสริมส่งมงคล ท่วมท้นชัยชนะด้วยพุทธานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-17.30 น. การเดินทางจากตัวเมืองร้อยเอ็ด ใช้ทางหลวงหมายเลข 2044 และ ทางหลวงหมายเลข 2136 (หนองพอก-เลิงนกทา) ให้สังเกต อบต.ผาน้ำย้อย ทางขวามือ เลย อบต.ผาน้ำย้อยไปไม่ไกลจะเจอทางแยกซ้ายเข้าวัด พิกัด : https://goo.gl/maps/YSrJbe4KnF62 5.พระธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เป็นเขตที่มีการขุดพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เพราะบริเวณนี้ได้เคยเป็นที่ตั้งของนครจำปาศรีมาก่อน โบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบได้นำไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่น และที่สำคัญยิ่งก็คือการขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13-15 สมัยทวาราวดี รัฐบาลจึงอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึ้น อานิสงส์ : เพิ่มพูนบารมี ศูนย์รวมความดี บารมีแดนอีสาน เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. การเดินทางจากตัวเมืองมหาสารคาม ใช้เส้นทางหมายเลข 2040 ขับตามเส้นทางมาประมาณ 61 กม. จนถึงแยก ปากทางนาดูน จากนั้นเลี้ยวขวาไปถนนหมายเลข 2381 ขับต่อไปอีกประมาณ 5 กม. สังเกตุซุ้มประตูทางเข้าพระธาตุ อยู่ทางซ้ายมือพิกัด : https://goo.gl/maps/SF6ZXL5evYQ2

อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง … จุดชมวิวดีงาม @ สุรินทร์ อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง เป็นโครงการชลประทานที่มีสันเขื่อนเป็นแนวยาว เหมาะกับการพักผ่อน ออกกำลังกาย และชมทัศนียภาพรอบอ่างเก็บน้ำ ที่นี่จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่ง แนะนำให้มาถึงบริเวณสันเขื่อนก่อน 6 โมงเช้า เพราะช่วงเวลาที่แสงสีทองเริ่มจับขอบฟ้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นนั้น มีความสวยงามไม่แพ้ตอนพระอาทิตย์ขึ้นเลยล่ะ หากโชคดีอากาศแจ่มใสในเช้าวันนั้น คงไม่พลาดได้ชมไข่แดงดวงโตเช่นนี้ หากลมสงบและผืนน้ำนิ่ง จะเกิดภาพสะท้อนเหมือนดั่งกระจกเงาสวยงาม ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปไม่ควรพลาดมาเก็บผลงานที่นี่ ในแต่ละวันแสงสีของภาพเบื้องหน้าจะแตกต่างกันไป แล้วแต่ศิลปินนามว่า “ธรรมชาติ” จะแต่งแต้มสีสันให้ท้องฟ้า ก้อนเมฆ ดวงอาทิตย์ แลผืนน้ำ ออกมางดงามเพียงใด ถนนคอนกรีตตลอดแนวสันเขื่อน เป็นจุดออกตัวที่ดีสำหรับนักวิ่งและนักปั่นจักรยาน โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น ที่นี่จะคึกคักเป็นพิเศษ สำหรับการเดินทางจากตัวเมืองสุรินทร์-อ่างเก็บน้ำฯ : ใช้ทางหลวงหมายเลข 214 ทางไปอำเภอปราสาท ประมาณ 5 กิโลเมตร จนถึงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 5-6 จะพบทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบท สร.5051 เป็นถนนเลียบคลองชลประทาน ตรงไปประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง หากมีโอกาสไปเที่ยวสุรินทร์ “อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง” เป็นหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาดไปเก็บภาพความประทับใจนะคะ

ร้านสวง อยู่ที่วังหลัง  พิกัด : 156/12 อรุณอัมรินทร์22 หรือซอยวังหลัง 3 ชุมชนต้นโพธิ์ แขวงศิริราช บางกอกน้อยเปิดตั้งแต่เวลา 10.30 – 19.30 น.โทร.097 030 0142 ร้านคาเฟ่ๆเล็กๆ 2 ชั้นที่มีการรวบรวมของตกแต่งของสะสมเก่าๆ สมัยแอดเด็กๆก็มี อยู่ที่นี่แล้วผสมผสานได้อย่างลงตัว อยากให้เข้าไปชม นั่งฟังเพลงชิลๆ บรรยากาศวินเทจได้หมดทั้งสายฮิป สายเท่ เลือกนั่งด้านในร้านก็แอร์เย็นๆค่ะ หรือจะนั่งส่วนตัวกับกลุ่มเพื่อนก็ได้ค่ะ  บริเวณทางเข้าหน้าร้านใครอยากส่วนตัวด้านนอกก็ย่อมได้ เข้าไปกันเลย ภายในร้านก็มีเคาน์เตอร์สั่งเมนูต่างๆ แบ่งเป็นทางเดินเล็กๆขึ้นชั้น2 เน้นสีสันโดดเด่นผสมๆกับไม้ควรแก่การถ่ายรูปยิ่งนัก…ไม่รีรอ สั่งอะไรกินดีกว่าจ้า อ่าา… สั่งชาเย็นมาฟาด ก็มันๆกลิ่นชาขึ้นคอดีค่ะ แต่ แต่ แต่ มีหลายเมนูนะคะของเขาเด็ดตรงที่ไม่มีไขมันทรานส์ และมีเมนูHealthy สลัดผักออแกนิคปลอดสารเคมีด้วยจ้า อ่ะ..ขึ้นมาชมบรรยากาศร้านชั้นบนกันบ้างเต็มไปด้วยของสะสมที่อยากจะเอากลับบ้านไม่ใช่จะขโมยนะคะ แต่มันน่ารักมากกกเฉกเช่นจักรยานเก่าที่อยู่บนนั้น และ..รหัสไวไฟร้านนี้เก๋เด้อออ แต่ละโต๊ะจะมีชื่อโต๊ะที่ต่างกันไป เช่น โต๊ะทีวี โต๊ะเก้าอี้หวาย ฯลฯ ปิ่นโตยันขวดโค้กสมัยเก่าก็มีโชว์ให้เห็น นั่งชิลๆมีเพลงยุค 90’s เปิดคลอๆ จะวินเทจหรือฮิปสเตอร์มาต้องโดนใจร้านนี้ สตาร์วอร์สก็มาอยากได้เลยค่ะ ฮ่าๆๆ

หมู่บ้านปั้นหม้อ บ้านโค้งสวรรค์ ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ศูนย์หัตถกรรมปั้นหม้อบ้านโค้งสวรรค์ เป็นหมู่บ้านที่ผลิตเครื่องปั้นดินเผาด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนกับเครื่องปั้นดินเผาที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ รกรรมวิธีในการปั้น หรือรูปแบบผลิตภัณฑ์ ชาวบ้านได้ให้ความสำคัญกับงานฝีมือชิ้นเอกนี้ มีความพิถีพิถันเพื่อให้เครื่องปั้นดินเผาของชุมชนคงความเป็นเอกลักษณ์และคุณภาพที่ดี เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่มาเข้าชมและเลือกซื้อไป สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเข้าเยี่ยมชมและเลือกซื้อเครื่องปั้นดินเผาที่ศูนย์หัตถกรรมปั้นหม้อบ้านโค้งสวรรค์ สามารถเดินทางมาได้ที่ศูนย์หัตถกรรมปั้นหม้อบ้านโค้งสวรรค์ ตั้งอยู่ที่บ้านโค้งสวรรค์ ตำบลโนนทัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น. โทร. 087 128 9533 ศูนย์หัตถกรรมปั้นหม้อบ้านโค้งสวรรค์แห่งนี้ อยู่ห่างจากตัวเมืองหนองบัวลำภูไปทางจังหวัดอุดรธานีประมาณ 17 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 210 หรือตามพิกัดนี้ได้เลย : https://goo.gl/maps/48WhbBNtxWM2 ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาต่างๆนั้นมีวางจำหน่ายทั้งริมทางและในหมู่บ้าน ซึ่งสามารถเลือกชมและเลือกซื้อเครื่องปั้นดินเผาได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้หลากหลายขนาดด้วยกัน หรือว่าจะเป็นรูปปั้น ตุ๊กตาดินเผาเอาไว้ประดับตกแต่งสวน แจกัน อ่าง ครก เป็นต้น

ผจญภัยในโพรง..ผ่านอุโมงค์สู่หลุมยุบ..ถ้ำมรกต! หลายคนคิดว่าที่นี่เป็นถ้ำ แต่จริงๆแล้วในทางธรณีวิทยาสันนิษฐานว่าเป็นหลุมยุบ เกิดจากภูเขาหินปูนถูกกัดกร่อนโดยน้ำและลม นานวันเข้าเพดานถ้ำก็ถล่มลงมาเกิดช่องว่างขนาดใหญ่ด้านบนถ้ำแสงสว่างสาดส่องลงสู่พื้นล่างกระทบกับน้ำทะเลสีเขียวมรกตสวยงามยิ่งนัก การเดินทางเข้าไปยังถ้ำมรกตต้องเกาะเชือกไต่เรียงกันเป็นแถวเข้าไปในโพรงมืด ระยะทางประมาณ 80 เมตร ได้ยินเพียงเสียงน้ำกระทบผนังถ้ำก้องสะท้อนวังเวง แต่เมื่อพ้นอุโมงค์มืดไปจะเจอแสงกระทบผิวน้ำทะเลสีเขียวมรกตระยิบระยับสวยงามมาก การเดินทางเข้าถ้ำมรกตต้องอาศัยจังหวะเวลาที่น้ำลดระดับต่ำกว่าผนังอุโมงค์สู่ด้านในเท่านั้นถึงจะปลอดภัยในการเที่ยวชม ที่สำคัญคือการเลือกใช้บริการของบริษัทนำเที่ยวที่ได้มาตรฐานซึ่งมีให้เลือกหลายแห่งในจังหวัดตรัง บริเวณปากถ้ำมรกตมีจุดสนอร์เกิลชมปะการังน้ำตื้นสวยงามสามารถดำชมก่อนเข้าถ้ำได้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายนของทุกปี ผจญภัยในโพรง..ผ่านอุโมงค์สู่หลุมยุบ ถ้ำมรกตแห่งนี้คือหนึ่งในการเดินทางต้องห้าม..พลาด! หากคุณต้องการไปให้”ถึง”ตรัง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม โทร.075-213-260

ตามหาลานแสงมรกต ที่ถ้ำภูผาเพชร จ.สตูล ถ้ำนี้ไม่เหมือนถ้ำอื่น ๆ ที่เดินเข้าได้เลย เพราะด่านแรกก่อนเข้าถ้ำ คือเดินตามขั้นบันไดระยะทางประมาณ 300 กว่าขั้น เป็นการออกกำลังกายเรียกเหงื่อได้ดีเลยค่ะ เมื่อพิชิตบันได 300 กว่าขั้นแล้ว เราก็จะเจอปากทางเข้าถ้ำ เป็นช่องขนาดเล็กต้องก้มตัวเข้าไป ใช้ความระมัดระวัง เมื่อเข้ามาภายในถ้ำแล้วก็ต้องยืนตะลึงกับความสวยงาม อลังการของหินงอกหินย้อย เสาหินที่อยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ ลักษณะภายในเป็นถ้ำสูงโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีทางเดินเป็นสะพานไม้ พร้อมไฟตามจุดต่าง ๆ ทำให้เดินได้อย่างสะดวกสบาย จุดนี้จะเป็นหินสีขาวขนาดใหญ่ ด้านในจะเป็นโพรงขนาดเล็ก เมื่อมองใกล้ ๆ จะเป็นประกายระยิบระยับ สวยงาม ขนาดของถ้ำ เมื่อลองเอาคนยืนเทียบกันแล้ว คนดูตัวเล็กไปเลยค่ะ ธรรมชาติสวยงามและยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ หินงอกรูปทรงคล้ายปะการัง เดินมาถึงช่วงกลางถ้ำ จะเป็นลานกว้าง ๆ เมื่อเอาไฟฉายส่องที่เสาหิน จะมองเห็นเงาตกกระทบเป็นรูปต่าง ๆ บางคนเห็นเป็นเจ้าแม่กวนอิม คนนั่งหันข้าง ซึ่งก็แล้วแต่จะจินตนาการของแต่ละคน ห้องพญานาค ลักษณะเป็นลานหินปุ่มเป็นแนวตามทางเดิน คล้ายพญานาคเลื้อยอยู่ภายในถ้ำ สามารถติดตามรีวิวอื่นๆของจังหวัดสตูล ได้ที่ สันหลังมังกร  https://www.facebook.com/TATContactcenter/posts/1883231161748955 ถ้ำเลสเตโกดอน  https://www.facebook.com/TATContactcenter/posts/1893084314096973 ปราสาทหินพันยอด  https://www.facebook.com/TATContactcenter/posts/1903327266406011

วันนี้แอดมินจะพาไปดูว่าร้านไหนมีหมูสร่งอร่อยๆให้ทานกันบ้าง…อ่านจบโพสต์นี้เมื่อไหร่ รีบไปตามรอยกันเลยนะเจ้าคะ ขอบคุณภาพจาก ไทยทีวีสีช่อง 3 ร้านต้นเครื่อง ร้านอาหารไทยที่เปิดมายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องรสชาติอาหารอร่อยกลมกล่อม ตามสูตรอาหารไทยแท้ นอกจากเมนูหมูสร่งแล้ว ยังมีเมนูอาหารไทยหาทานยากให้ได้ลองอีกหลายเมนู ร้านต้นเครื่องตั้งอยู่ที่ ซอยสุขุมวิท 49/13 ถนนสุขุมวิท เปิดทุกวัน 11.00 – 22.30 น. โทร. 081 449 1926, 02 185 3072-3 รูปภาพจาก BKKMENU.com เทพบาร์ เห็นเป็นผับบาร์แบบนี้ แต่เมนูอาหารไทยๆก็มีเหมือนกัน เพราะที่นี่เป็นบาร์แบบไทยประยุกต์ ชื่อเมนูหลานเมนูนำมาจากตัวละครในวรรณคดีส่วนหมูสร่งของร้านนี้ เนื้อแน่น กลมกล่อม จัดมาในจานสไตล์ไทยๆเข้ากับบรรยากาศมาก เทพบาร์ ตั้งอยู่ในซอยนานา ย่านเยาวราช เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 17.00 – 24.00 น. ภาพจาก sistacafe.com ร้านอรรถรส (At-ta-rote) ร้านอาหารไทยโบราณตำรับชาววัง ที่พิถีพิถันในการปรุงอาหาร รสชาติแต่ละเมนูอร่อยถึงเครื่อง  ร้านอรรถรส ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ใกล้บีทีเอสพร้อมพงษ์ เปิด 11.30 – 22.00 น. โทร. 064 249 4244 ภาพจาก sistacafe.com ร้านนายห้าง ล้ง1919 ร้านตกแต่งสไตล์จีนคลาสสิค ซึ่งเมนูหมูสร่งของทางร้านกำลังมาแรง ขายวันแรกลูกค้าก็ติดใจแล้ว แสดงว่ามีความอร่อยจริง ต้องไปลองชิมซะแล้ว  ร้านนายห้างตั้งอยู่ในโครงการล้ง 1919 เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น. โทร. 02 408 4710 ภาพจาก เพจร้านนายห้าง ร้านอาหารพื้นเมืองนายต้อ จ.ระยอง ร้านอาหารไทยพื้นบ้าน ที่นำเมนูหมูสร่งกลับมาทำอีกครั้ง เพราะลูกค้ามาที่ร้านทีไรก็ถามหาแต่เมนูนี้ หมูสร่งของร้านอร่อยเด็ดจนชาวโซเชียลกระหน่ำแชร์พิกัดร้านกันรัวๆ แบบนี้ต้องลองไปชิมกันซะแล้ว ร้านนายต้อ ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เปิดทุกวัน 11.00 -22.00 น. โทร.082 650 5464 ภาพจาก เพจร้านนายต้อ อาหารพื้นเมืองระยอง

แอดมินอยากชวนไปขึ้นภู ดูดอกไม้ เดินเล่นรับไอเย็นท่ามกลางธรรมชาติกัน ไปกันเลย ไปภูหลวงกัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง คลอบคลุมเนื้อที่ 4 อำเภอของจังหวัดเลย คืออำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และอำเภอภูหลวง การเดินทางไปภูหลวง >> ใช้ทางหลวงหมายเลข 203 เลย-ภูเรือ ไปประมาณ 36 กิโลเมตร ถึงบ้านสานตม แล้วเลี้ยวซ้ายด้านข้างโรงเรียนบ้านสานตม ไปตามทางลาดยาง 18 กิโลเมตร จนถึงด่านตรวจห้วยทอง และเดินทางต่อไปตามเส้นทางลูกรังอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงหน่วยพิทักษ์ฯ โคกนกกระบา การเดินทางควรใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ ในกรณีที่ไม่สามารถนำรถขึ้นไปได้ บริเวณด่านตรวจห้วยทอง จะมีรถกระบะสองแถวให้เช่าไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว *ต้องขึ้นถึงภูก่อน 15.00 น.* ภาพจาก เพจ facebook เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ไปถึงภูหลวงต้องเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ โดยมีจุดเริ่มต้นที่หน่วยพิทักษ์ป่าโคกกระบา *การเดินป่าทุกครั้งต้องมีเจ้าหน้าที่ไปด้วยนะคะ* แหล่งศึกษาธรรมชาติที่สำคัญมี 2 เส้นทาง คือ1. ลานสุริยัน เดินดูธรรมชาติ ต้นไม้ และกล้วยไม้พันธุ์แปลก มีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ผากุหลาบแดง 2. ผาช้างผ่าน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ผาสมเด็จ ผาเตลิ่น โคกพรหมจรรย์ ทุ่งกุหลาบขาวที่บานช่วงเดือนมีนาคม – เมษายนเท่านั้น และจุดชมรอยเท้าไดโนเสาร์ ภาพจาก phumuengloie.com ช่วงหน้าร้อน กล้วยไม้เอื้องตาเหินออกดอกบานสะพรั่ง ภาพจาก เพจ facebook เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง กุหลาบพันปีสีขาวบานในช่วงหน้าร้อนนี้เท่านั้น **ข้อมูล ณ วันที่ 3 เมษายน 2561 ดอกเริ่มเหลือน้อยแล้วนะคะ รีบไปชมกัน** ภาพจาก ททท.สนง.เลย รอยเท้าไดโนเสาร์ ค้นพบในชั้นหินอายุ 120 ล้านปี มีจำนวน 15 รอย ภาพจาก Khobjaithailand.com วิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาช้างผ่าน ภาพจาก เพจ facebook เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง วิวพระอาทิตย์ตกที่บริเวณริมผาใกล้หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา ภาพจาก Khobjaithailand.com นอกจากกิจกรรมเดินป่าแล้ว ที่ภูหลวงมีโครงการฟื้นฟูอาหารช้างป่าภูหลวงในพระราชดำริ พวกเราสามารถไปช่วยกันทำโป่งให้ช้างได้ค่ะ ภาพจาก Khobjaithailand.com มีร้านอาหารให้บริการ สามารถสั่งให้ทางเจ้าหน้าที่จัดหาให้ได้ในอัตรา 240 บาท / วัน / ท่าน มีที่พักใกล้กับศูนย์บริการนักศึกษาธรรมชาติ และหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบาเป็นบ้านพักเรือนไม้จำนวน 6 หลัง มีน้ำประปาและไฟฟ้า (ไฟฟ้ามีเฉพาะเวลากลางคืนถึง 21.00 น. ไม่อนุญาตให้ประกอบอาหารที่บ้านพัก)  ภาพจาก ททท.สนง.เลย ไม่อนุญาตให้นำเต้นท์ไปกางนอนเอง ทางภูหลวงมีเต้นท์บริการ สามารถจองล่วงหน้าได้ที่ เบอร์หน่วยพิทักษ์โคกนกกระบา 085 272 5946

ไหว้พระเมืองอู่ทอง 5 วัดแห่งขุนเขา ดินแดนแห่งอารยะทวารวดีเก่าแก่ ทริปเมืองโบราณของอู่ทองที่อยากให้ลองไปสัมผัส.. เริ่มกันที่วัดแรก วัดเขาดีสลัก วัดที่อยู่บนยอดเขาดีสลักแอดพาเพื่อนๆขึ้นมาสักการะรอยพระพุทธบาท แต่! จะขึ้นไปด้วยวิธีใดก็สุดแต่ความสะดวกแล้วกันค่ะเพราะสามารถเดินขึ้นบันไดไปบนยอดเขาประมาณ 551 ขั้น ก็ถามขาดูก่อนนะคะไหวหรือเปล่า หรือจะขับรถขึ้นไปก็ได้เช่นกัน พิกัด : ตั้งอยู่ที่ตำบลดอนคา อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ใครที่มาสักการะรอยพระพุทธบาทแห่งนี้มีความเชื่อว่า จะได้รับอานิสงส์เป็นมงคลต่อชีวิต มีความสำเร็จก้าวไกล เพิ่มพูนบารมี ขึ้นไปข้างบนแล้ววิวทิวทัศน์ก็ใช่ย่อยได้เห็นมุมสูงได้ทั่ว ดีงามเวอร์ได้บุญแล้วยังได้วิวด้วยนะคะ วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม หรือเรียกกันว่า วัดเขาพระ วัดนี้แอดพามากราบพระพุทธรูปปางไสยาสน์ในถ้ำหินกันค่ะ คือหลวงพ่อสังฆ์สรรเพชญ์ ภายในบริเวณรอบๆก็ยังมีโบราณวัตถุ โบราณสถานอยู่อีกด้วยได้แก่ รอยพระพุทธบาทจำลองที่เป็นหินทรายแกะสลักลวดลายมงคล 108 ประการวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่สมัยทราวดีเป็นที่เคารพนับถือของชาวอู่ทอง พิกัด : ตั้งอยู่ที่ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี หลวงพ่อสังฆ์สรรเพชญ์ หรือ หลวงพ่อสังฆ์ อยู่บริเวณด้านบนของถ้ำสันนิษฐานว่าองค์เดิมสร้างมาตั้งแต่สมัยทวารวดีก่อนที่จะมีการบูรณะต่อๆกันมา และมีความเชื่อว่าใครที่มาสักการะจะช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยให้ปิดทององค์พระบริเวณที่เจ็บป่วย วัดเขาถ้ำเสือ ถิ่นกำเนิดกรุ “พระถ้ำเสือ” หนึ่งในพระเครื่องชื่อดังของเมืองไทย พิกัด : ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาถ้ำเสือ อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี  ขอบคุณรูปภาพจากเพจวัดเขาถ้ำเสือ พระพุทธรูปโบราณแกะสลักนูนตั้งเด่นบริเวณด้านล่างก่อนจะเดินขึ้นไปชมวิวด้านบน ขอบคุณรูปภาพจากเพจวัดเขาถ้ำเสือ เสืออ้าปากที่มีพระพุทธรูปให้ได้กราบสักการะบริเวณปากทางเข้าถ้ำ ก็แน่นอนวัดเขาถ้ำเสือก็มีเสือตามชื่อเลยค่ะ ขอบคุณรูปภาพจากเพจวัดเขาถ้ำเสือ วัดเขากำแพง วัดนี้เคยมีความเชื่อว่าบนยอดเขาเคยเป็นปล่องภูเขาไฟ ปัจจุบันเป็นวัดที่อยู่เชิงเขาการเดินทางเป็นทางลาดสามารถเดินทางขึ้นไปสะดวก ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างได้แก่ รูปหลวงพ่อเงินและหลวงพ่อสุพรรณ ฆ้องยักษ์ พระบรมธาตุเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาและยังมี “สมเด็จพระปุศยมุนีศรีสุพรรณมงคล” หรือ “หลวงปู่ขาว” เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิแกะสลักจากหินหยกประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ ซึ่งมีความเชื่อว่าใครที่มาไหว้หลวงปู่ขาวแล้วจะมีรักใคร่กลมเกลียว ครอบครัวอบอุ่น อยู่เย็นเป็นสุข ทำธุรกิจก็ก้าวไกล ทำการค้ารุ่งเรือง ไม่รอช้าเข้าไปสักการะกันเลยค่ะ พิกัด : ตั้งอยู่ที่ตำบลดอนคา อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ขอบคุณรูปภาพจากเพจวัดเขากำแพง เจดีย์บนยอดเขาที่ต้องเดินขึ้นมา มาแล้วไม่ขึ้นถือว่ามาไม่ถึงนะคะ ขอบคุณรูปภาพจากเพจวัดเขากำแพง พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวงพ่ออู่ทอง พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยอู่ทอง แกะสลักหน้าผาหินที่ใหญ่ที่สุดในโลกลักษณะนูนลอยออกมา ปัจจุบันแกะสลักแล้วเสร็จสมบูรณ์เฉพาะองค์พระพุทธรูป ตั้งอยู่บริเวณหน้าผาที่ชื่อว่า “ผามังกรบิน” โดยทางหน่วยงานและผู้ดูแลจัดทำที่นี่ขึ้นเพื่อเป็นพุทธมณฑล เป็นศูนย์รวมทางพุทธศาสนาประจำจังหวัดสุพรรณบุรี นี่!! เราไม่พลาดแน่นอนใหญ่โตมากกกก ช่วงกลางวันเตรียมร่ม/หมวกกันไปสักหน่อยนะคะคิดซะว่านำไปเป็นอุปกรณ์เสริมถ่ายรูปเก๋ๆกันแดดด้วย^^ แนะนำมาช่วงเย็นๆกำลังดีค่ะแดดไม่ร้อนแล้ว เดินได้ทั่วๆค่ะ พิกัด : ตั้งอยู่ที่ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี  ขอบคุณรูปภาพจากเพจพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ เมืองอู่ทอง ว้าวววว… ภาพมุมสูงจะเห็นว่าหน้าผาหินถูกเจาะเข้าไปโดยหลังพระพุทธรูปยังติดหน้าผา มองมุมนี้เหมือนรูปหัวใจท่ามกลางป่าไม้เขียวอุดมสมบูรณ์ เมื่อทัศนียภาพโดยรอบเสร็จสมบูรณ์ก็ไปเก็บบรรยากาศกันอีกได้นะคะ สวยแน่นอน ^^