สถานที่ท่องเที่ยว

“สวัสดีปีใหม่ไทย…ไหว้พระ 10 วัด”

ททท.ร่วมกับ ขสมก.จัดกิจกรรม “สวัสดีปีใหม่ไทย…ไหว้พระ 10 วัด” ฟรี!! โดยจัดรถเมล์เวียนไหว้พระ 10 วัด ขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 17 เมษายน 2561 ในช่วงเวลา 08.00 – 16.00 น. 1. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร ที่อยู่: ถนนนครปฐม แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร พิกัด: https://goo.gl/maps/3hdPCro947D2 2. วัดสามพระยาวรวิหาร (วัดบางขุนพรหม) ที่อยู่: ซอยสามเสน 5 แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พิกัด: https://goo.gl/maps/ZSWtysg8Vpp 3. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร ที่อยู่: ถนนจักรพงษ์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พิกัด: https://goo.gl/maps/N94LSioAnN22 4. วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ที่อยู่: ถนนพระสุเมรุ แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  พิกัด: https://goo.gl/maps/qbQNj8bz9f42 5. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ที่อยู่: ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  พิกัด: https://goo.gl/maps/c3SLtpVjQUE2 6. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ที่อยู่: ถนน หน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  พิกัด: https://goo.gl/maps/DJgMZVM3Bsx 7. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ที่อยู่: ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พิกัด: https://goo.gl/maps/hZoSqpbpFYT2 8. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ที่อยู่: ถนนบำรุงเมือง แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  พิกัด: https://goo.gl/maps/hJTz7fU7oJm 9. วัดราชนัดดารามวรวิหาร ที่อยู่: แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พิกัด: https://goo.gl/maps/5FAz34npnfP2 10. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ที่อยู่: ถนนบริพัตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร  พิกัด: https://goo.gl/maps/yuvxdQQkwcF2

“สวัสดีปีใหม่ไทย…ไหว้พระ 10 วัด” อ่านเพิ่มเติม

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน เข้าวัดทำบุญ หนุนนำสิริมงคลแห่งชีวิต

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน เข้าวัดทำบุญ เพื่อสิริมงคลแห่งชีวิตชีวิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีเรื่องราวซับซ้อนมากมาย ทุกคนล้วนอยากมีชีวิตที่รุ่งเรือง มีบารมีที่แข็งแรง เพราะนั่นคือความมั่นคงของชีวิต ช่วงปีใหม่ไทยแบบนี้ แอดมินเลยอยากแนะนำให้ทุกท่าน เดินทางไปเข้าวัดทำบุญ กราบสักการะขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งชีวิตสืบไป แฟนเพจท่านไหนเคยไปสถานที่ใดแล้วประสบผลดังใจหวัง มาคอมเม้นต์ใต้ภาพ บอกต่อกับเพื่อนๆได้เลยนะ อยากไปทำบุญกับใคร กด Like กด Share กด Tag แล้วไปทำบุญกันน ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ 108 เส้นทางออมบุญ จัดทำโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเดินทางครั้งต่อไป อย่าลืมให้เราเป็น “เพื่อนร่วมทาง” ไปกับคุณสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1672 วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม การนมัสการพระปฐมเจดีย์ถือเป็นสิริมงคลและได้อานิสงส์อย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า  นอกจากนี้ชาวนครปฐมยังเชื่อกันว่า พระร่วงโรจนฤทธิ์นั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก หากใครอธิษฐานขอพรมักจะได้รับสิ่งนั้นสมดังปรารถนาในทุกประการ ศาลหลักเมือง กรุงเทพ เชื่อกันว่า ผู้ใดได้มาขอพรอันศักดิ์สิทธิ์จากศาลหลักเมืองนี้แล้ว เปรียบประดุจได้เสริมหลักความมั่นคงให้กับชีวิตเหมือนตัดเคราะห์ ต่อดวงชะตา จะมีแต่ความสงบสุข ส่งเสริมวาสนาบารมี ประสบความสำเร็จในสัมมาอาชีพจนถึงหลักชัยในชีวิต  เปิดให้สักการะทุกวัน ตั้งแต่ 8.00-17.00 น. วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี เชื่อกันว่าหากได้มานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์แห่งนี้ จะทำให้ชีวิตมีแต่สิริมงคล เกิดความสุขกาย สบายใจ ชีวิตมีแต่เจริญความรุ่งเรืองยิ่งขึ้น วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เชียงใหม่ พระธาตุเจดีย์วัดพระสิงห์ถือเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดปีมะโรง (งูใหญ่) หากได้มานมัสการอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งแล้ว จะเป็นมงคลสูงสุดทำให้อายุมั่นขวัญยืน มีความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่เป็นที่เคารพอันได้แก่ พระพุทธสิหิงค์หรือพระสิงห์พุทธรูปที่มีความงดงามตามแบบศิลปะสกุลช่างเชียงแสน วัดพระธาตุช่อแฮ แพร่ พระธาตุแห่งนี้เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล (เสือ) ว่ากันว่าหากนำผ้าแพรเนื้อดีมาถวายองค์พระธาตุช่อแฮจะทำให้ชีวิตมีแต่ความผาสุก มีความรุ่งเรืองในชีวิต หน้าที่การงานและคุ้มครองป้องกันภัยจากศัตรู สำหรับบุคคลทั่วไปเชื่อว่าการสวดบูชาพระธาตุจะช่วยดลบันดาลให้มีชีวิตที่ดีขึ้น วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อุทัยธานี ที่วัดท่าซุงมีผู้คนจำนวนมากนิยมมานมัสการพระพุทธชินราชจำลองในวิหารแก้ว พระจุฬามณี และกราบสักการะสรีรสังขารของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำซึ่งได้มรณภาพไปตั้งแต่ พ.ศ.2535 เพื่อความเป็นสิริมงคล  นอกจากนี้วัดท่าซุงยังมีชื่อเรื่องยันต์เกราะเพชรที่เชื่อว่าช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยและป้องกันไสยศาสตร์ได้ วัดป่าเขาน้อย บุรีรัมย์ ผู้ที่มายังวัดป่าเขาน้อยสามารถนมัสการพระเจดีย์ศรีสุวจคุณานุสรณ์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและอัฐิธาตุของหลวงปู่สุวัจน์เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนั้นยังสามารถปฏิบัติสมาธิ บำเพ็ญจิตตภาวนา เพื่อเป็นการเพิ่มพูนบารมี บุญกุศลราศี สัมมาปฏิบัติ ให้จิตใจมีอำนาจ มีสติและปัญญา วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช การได้มาสักการพระบรมธาตุเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้านั้นถือเป็นมงคลสูงสุด มีอานิสงส์ให้ชีวิตมีแต่ความสุข ก้าวหน้า และประสบความสำเร็จในการดำรงชีพทุกด้าน นอกจากนี้ผู้ที่ศรัทธาในองค์จตุคามรามเทพยังนิยมมาสักการะเทวรูปท้าวขัตตุคามและท้าวรามเทพในวิหารทรงม้าด้วย เชื่อกันว่าบารมีของท่านนั้นมีอานุภาพดุจพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ขจัดความมืดมัวในโลก ผู้ที่กราบไหว้ขอพรท่านมักได้สมปรารถนา มีโชคลาภ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร สุราษฎร์ธานี เชื่อกันว่าหากได้มาสักการะองค์พระบรมธาตุไชยา ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุนั้น ถือเป็นสิริมงคลสูงสุด ช่วยให้มีความเจริญรุ่งเรืองและแคล้วคลาดปราศจากอันตราย 

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน เข้าวัดทำบุญ หนุนนำสิริมงคลแห่งชีวิต อ่านเพิ่มเติม

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : เรือกอและ…ราชินีแห่งน่านน้ำแหลมมลายู

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : เรือกอและ…ราชินีแห่งน่านน้ำแหลมมลายู คำว่า “กอและ” มาจากคำว่า “ฆอและ” เป็นภาษามลายู หมายถึงโคลงเคลง หรือล่องลอย ในอดีตเรือกอและมุ่งออกทะเลโดยอาศัยการกางใบ ใช้กระแสลมเป็นตัวช่วยในการล่องเรือ แต่ปัจจุบัน ชาวประมงก็เปลี่ยนมาใช้เรือกอและติดเครื่องยนต์แทนเพื่อความสะดวก รวดเร็ว คล่องตัว ปัจจุบันเหลือชุมชนที่ต่อเรือกอและอยู่แค่ในจังหวัดปัตตานีกับนราธิวาสเท่านั้น  แหล่งต่อเรือกอและในจังหวัดปัตตานี– ตำบลปะเสยาวอ อำเภอสายบุรี– บ้านบางเก่า อำเภอสายบุรี– หมู่บ้านน้ำบ่อ หมู่บ้านท่าน้ำ อำเภอปานะเระ– หมู่บ้านบูดี ตำบลตะโล๊ะกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง แหล่งต่อเรือกอและในจังหวัดนราธิวาส– หมู่บ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง อำเภอตากใบ ลวดลายและจิตรกรรมบนเรือกอและ เป็นเสน่ห์ที่สร้างความแตกต่างระหว่างเรือกอและกับเรือประมงทั่วไป ลวดลายของเรือกอและจะเป็นการผสมผสานลายจาก 3 วัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ทั้งไทย จีน และมลายู ลวดลายที่นิยมใช้เขียนจะแบ่งเป็นส่วนลายที่หัวเรือ นิยมเขียนเป็นรูปสัตว์ในตำนานหรือสัตว์ในจินตนาการเช่นพญานาค นก หนุมาน ราหูอมจันทร์ เมขลาล่อแก้ว รามสูรขว้างขวาน เป็นต้น ส่วนลายที่ท้ายเรือก็มักจะเป็นลายส่วนท่อนหางของสัตว์นั้นๆ นอกจากนี้ก็ยังมีลายอื่นๆที่ประกอบไปตามหัวเรือ ท้ายเรือ ลำเรือ อาทิ ลายไทย ลายเครือเถา ลายดอกไม้ ลายพื้นบ้าน ลายแบบจีน ลายแบบมุสลิม ลายอาหรับรูปทรงเราขาคณิต มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ที่สืบทอดต่อกันมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน “เรือกอและจำลอง” ของที่ระลึกที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของพี่น้องชาวปัตตานีและนราธิวาส ยิ่งย่อส่วนของเรือให้เล็กลง ความยากในการต่อและเขียนลวดลายก็ยากตามไปด้วย เรือกอและมีหัวและท้ายเรือที่เชิดสูงกว่าเรือประมงทั่วๆไป  ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่ารูปทรงของเรือกอและถูกออกแบบให้คล้ายคลึงกับท่าทางในการรำของมโนราห์ ศิลปะการแสดงพื้นบ้านของพี่น้องชาวใต้ พ.ศ. 2518 จังหวัดนราธิวาสได้ฟื้นฟูประเพณีการแข่งเรือกอและขึ้นใหม่อีกครั้ง หลังจากที่เคยมีการจัดแข่งกันเรื่อยมาตั้งแต่สมัยโบราณ และช่างผู้ต่อเรือกอและได้พัฒนาขนาดเรือกอและให้เล็กลงและเรียวขึ้นกว่าเดิม เพื่อใช้สำหรับการแข่งประลองความเร็ว ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินยังจังหวัดนราธิวาส เพื่อทรงประกอบพระราชกรณียกิจทั่วจังหวัดภาคใต้ทุกปี  ชาวบ้านจึงได้จัดประเพณีแข่งเรือกอและหน้าพระที่นั่ง ณ บริเวณปากแม่น้ำบางนรา อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส จนถึงปัจจุบัน  โดยปีที่แล้วมีกำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2560 ส่วนกำหนดการปีนี้ยังไม่กำหนดวันที่ที่แน่นอน ยังไงเพื่อนๆสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส โทร. 073 542 345, 073 522 411-2

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : เรือกอและ…ราชินีแห่งน่านน้ำแหลมมลายู อ่านเพิ่มเติม

บ้านตากลาง…แหล่งรวมช้างกว่า 200 เชือก

ชุมชนบ้านตากลาง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เป็นสถานที่ที่เราจะได้ทำความรู้จักกับสัตว์คู่บ้านคู่เมือง สัญลักษณ์ประจำชาติไทย คือ “ช้าง” ได้อย่างครบถ้วนรอบด้าน ที่นี่คือชุมชนชาวส่วย (ชาวกูย) ผู้อพยพมาจากกัมพูชาเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย ซึ่งพวกเขาคือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการเลี้ยงช้าง อาจกล่าวได้ว่าที่นี่คือหมู่บ้านช้างเลี้ยงทีใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ ชาวกูยมีวิชาความรู้เกี่ยวกับการจับช้างและบังคับช้างมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ แม้ว่าในปัจจุบันนี้จะไม่มีการออกไปจับช้างกันแล้วก็ตาม ลูกหลานชาวกวยก็ยังคงนิยมเลี้ยงช้างกันอยู่ เป็นความผูกพันที่ยากจะแยกขาดกันได้ ทุกคนในชุมชนแห่งนี้ เติบโตมากับช้าง ฉะนั้นจึงเข้าใจ รัก และผูกพันกับช้างมากๆ ชุมชนแห่งนี้มีช้างอยู่กว่า 200-300 เชือก ชาวบ้านเลี้ยงช้างเหมือนเพื่อน กินนอน เล่น อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ควาญช้างแต่ละรุ่น ^^ ที่ชุมชน มีโฮมสเตย์และกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น ขี่ช้างอาบน้ำยามเย็น ล่องเรือในลำน้ำ ซึ่งเป็นที่ประทับใจของผู้ที่มีโอกาสได้เข้ามาเยี่ยมชม กิจกรรมอาบน้ำกับช้าง เราจะได้เข้าไปสัมผัสความน่ารักของเจ้ายักษ์ใหญ่ใจดีได้อย่างใกล้ชิด ในชุมชนบ้านตากลางจะมี “ศูนย์คชศึกษา” ซึ่งมีอาคารพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับช้าง ทั้งทางธรรมชาติวิทยาและความเชื่อที่เชื่อมโยงกับชุมชน เรื่องราวของช้างในอดีต การคล้องช้าง ความผูกพันระหว่างคนกับช้าง พิธีการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับช้าง เป็นต้น มีการแสดงของช้าง ทุกวัน วันละ 2 รอบ คือ 10.00 และ 14.00 น. แต่วันสงกรานต์ปีนี้ จะเพิ่มเป็น 3 รอบต่อวัน คือ 10.00 ,12.30 และ 14.30 น. นอกจากนั้นยังมีสินค้าที่ระลึกต่างๆ ให้เลือกซื้อ นำไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย ผลงานน้องช้าง สามารถซื้อเพื่อสนับสนุน และเป็นกำลังใจให้น้องช้างสร้างสรรค์ผลงานสวยๆ แบบนี้ออกมาอีกนะ พิธีการต่างๆ มีความเกี่ยวข้องกับช้าง ซึ่งมีความผูกพันกับชุมชนมาอย่างช้านาน ใครสนใจเข้าไปเยี่ยมชมติดต่อ ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง โทร. 044 145 050.โฮมสเตย์ชุมชนบ้านตากลาง ติดต่อ ผู้ใหญ่ประกิต โทร. 081 967 5015.ททท. สำนักงานสุรินทร์ โทร. 044 514 447-8

บ้านตากลาง…แหล่งรวมช้างกว่า 200 เชือก อ่านเพิ่มเติม

กาแฟใน..ร้านหนัง(สือ) ๒๕๒๑

ร้านหนัง(สือ) ๒๕๒๑ Bookhemian ตั้งอยู่ริมถนนถนนถลาง ย่านเมืองเก่าภูเก็ต รอบๆ ก็เต็มไปด้วยตึกเก่าที่เป็นทั้งร้านค้า ร้านกาแฟ ที่พักต่างๆ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินเที่ยวตามย่านตึกเก่าเมืองภูเก็ต บริเวณโดยรอบของร้านเต็มไปด้วยตึกเก่าเรียงรายติดๆ กัน ถึงจะหน้าตาคล้ายๆ กัน แต่ตึกแต่ละหลังก็มีรายละเอียด ลวดลาย สีสันที่ต่างกันไป สำหรับคนชอบตึกเก่าแล้ว เรียกว่าพลาดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้เลยค่ะ บรรยากาศภายในร้านมีมุมสำหรับสั่งชากาแฟหรือขนมต่างๆ ด้านข้างจัดเรียงเป็นมุมจำหน่ายหนังสือ โปสการ์ด ของที่ระลึกเก๋ๆ โดยเแต่ละมุมจะจัดแยกเป็นโซนอย่างชัดเจน ด้านหลังเป็นส่วนของที่นั่ง ชั้นหนังสือ และโซนแกลอรี่จะอยู่ชั้นบน หลังจากสั่งเครื่องดื่มหน้าร้านแล้ว เดินเข้ามาด้านหลังจะเจอกับชั้นหนังสือที่สูงจรดเพดาน มีหนังสือหลากหลายไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรม สารคดี เรื่องสั้น ฯลฯ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หนังสือทั่วไป หนังสือหายาก หนังสืออินดี้จากสำนักพิมพ์เล็กๆ ก็มีให้เลือกอ่านกัน ในโซนด้านหลังร้านนี้ก็จัดเป็นที่นั่งเย็นสบาย สงบ อ่านหนังสือไปจิบกาแฟไปยาวๆ เลยจ้า ทางร้านได้ออกแบบให้เป็นสไตล์ดิบๆ เปิดให้เห็นอิฐเก่าของตัวตึก และยังมีของเก่าของสะสมมาเรียงโชว์ให้ความคลาสสิคสุดๆ ถ่ายรูปกันรัวๆ เลยค่ะ เมนูมีหลากหลายให้ได้มาลอง มีแก้วกาแฟสวยๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน นอกจากเครื่องดื่มก็มีอาหารให้อิ่มท้องกันด้วย เรียกได้ว่าของคาวของหวานที่นี่มีครบค่ะ

กาแฟใน..ร้านหนัง(สือ) ๒๕๒๑ อ่านเพิ่มเติม

นั่งช้างชมธรรมชาติ

นั่งช้างชมธรรมชาติ..@คลองสองแพรก จ.พังงา จังหวัดพังงาไม่ได้มีดีแค่หมู่เกาะต่างๆในทะเลเท่านั้น แต่ยังมีป่าไม้และลำธารอันบริสุทธิ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนปริวรรต ตำบลสองแพรก อำเภอเมือง โดยมีน้ำตกโตนปริวรรต เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อให้เที่ยวชมกัน อีกทั้งยังเป็นต้นน้ำให้กับคลองสองแพรก สายน้ำที่สามารถล่องแก่งเรือยางและขี่ช้างชมธรรมชาติ ให้นักท่องเที่ยวได้ผจญภัยกันตลอดทั้งปี ในการนั่งช้างเที่ยวชมบรรยากาศผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของป่าสองแพรก ผ่านสายน้ำและป่าเขา สร้างความเพลิดเพลินให้นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยจะมีเจ้าหน้าที่และควาญช้างคอยควบคุมช้าง และให้คำแนะนำต่างๆเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย บรรยากาศเส้นทางนั่งช้างชมธรรมชาติ คลองสองแพรก พิกัดคลองสองแพรก : https://goo.gl/maps/3asxk8GNQNA2 ภายในชุมชนยังมีที่พัก ร้านอาหาร บริการมากมาย หรือถ้าใครสนใจกิจกรรมผจญภัยต่างๆไม่ว่าจะเป็น ล่องแก่ง ขับรถ ATV หรืออยากนั่งช้างชมธรรมชาติแบบนี้ ติดต่อสอบถามได้ที่รีสอร์ทต่างๆที่ชุมชนสองแพรก หรือติดต่อบริษัท พังงา ราฟติ้ง จำกัด โทร. 076 – 246284, 076 – 244940,www.phangnga-rafting.com

นั่งช้างชมธรรมชาติ อ่านเพิ่มเติม

หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก

หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ ตั้งอยู่ที่คลอง 15 อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก เป็นแหล่งเพาะพันธุ์พืช ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับต่างๆ ด้วยการรวมกลุ่มกันของชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือน ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรในด้านนี้ ตลอดระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร รวมเนื้อที่กว่า 900 ไร่ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์และจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับที่ใหญ่ และหลากหลายที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ไม้หอม ไม้มงคล บอนไซ พืชสวนครัว และสมุนไพรไทยนานาชนิด หรือแม้แต่ไม้ล้อมขนาดใหญ่เพื่อปลูกให้ร่มเงาก็สามารถหาซื้อได้ที่นี่ ในอดีต ชาวบ้านย่านนี้ประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก ต่อมาได้มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนท้องทุ่งที่กว้าง แลดูโล่ง ให้มีความหลากหลายด้วยแปลงปลูกดอกไม้ประดับหลากสี และขยับขยายพื้นที่ปลูกไม้ประดับขนาดเล็กใหญ่ หลากหลายสายพันธุ์ ทำให้ปัจจุบันภาพของถนนฝั่งคลอง 15 เส้นนี้ เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ดอกและไม้ประดับนานาชนิด สร้างอาชีพใหม่ให้กับชาวบ้านจนกลายเป็นอาชีพหลักในที่สุด  หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับแห่งนี้ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรตามโครงการ Unseen Thailand ในมุมมองใหม่ วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เส้นทางแห่งความสุขของจังหวัดนครนายก ที่ทุกคนต้องแวะชม ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ตลอดถนนสายเลียบคลอง 15 จะมีการจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับขึ้น ภายในงานรวมกิจกรรมหลากหลายเช่น ประกวดไม้ดอกไม้ประดับ การจัดสวนหย่อม และความรู้ทางด้านพรรณไม้ต่างๆ ทั้งเพาะชำ ทาบกิ่ง ติดตาล้อมราก นอกจากนี้ยังมีศูนย์เรียนรู้อาชีพ กลุ่มไม้ถัก ที่นำเอาต้นหลิว ไทรไข่มุก ไทรอังกฤษ ไผ่กวนอิม ไผ่เงิน ไผ่ทอง ฯลฯ มาถักเป็นรูปทรงหลากหลายแบบ เช่น ถักเป็นรูปหัวใจ หอไอเฟล ขวดแชมเปญ กระเช้า แจกัน แก้วนํ้า ฯลฯ การเดินทางไปยังหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับนี้ไม่ยาก เริ่มต้นจากฟิวเจอร์พาร์ครังสิตแล้ววิ่งตามเส้นถนนรังสิต-นครนายก จากคลอง1 ไปจนถึงคลอง15 ปากทางเข้าอยู่ทางด้านซ้ายมือ มีซุ้มประตูเขียนว่าหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับอยู่ ให้เลี้ยวเข้าไปตลอดเส้นทางก็จะได้พบกับหมู่บ้านดอกไม้รังสิต คลอง 15 ยาวตลอดเส้นทาง การเดินทางในทุกๆ ครั้ง นักเดินทางบางท่านอาจเก็บสิ่งระลึกเป็นภาพถ่าย บางท่านรักที่จะเก็บเป็นภาพความทรงจำ … แต่จะดีแค่ไหน หากเราสามารถนำธรรมชาติที่ได้ไปพบเห็นกลับมาด้วย โดยวิธีที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการพาต้นกระบองเพชรเล็กๆ กลับมาเป็นสัญลักษณ์ของความอดทน หรือจะซื้อไม้ดอกขนาดย่อม ที่ยังมีแต่ใบ นำกลับมารดน้ำดูแลเพื่อเฝ้ารอวันที่ดอกสวยผลิกลีบบาน เพื่อระลึกว่าวันหนึ่งเราเคยได้มาเยี่ยมชมแหล่งเพาะขยายพันธุ์พืชทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้ และยังเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่โลกใบนี้ด้วยเช่นกันผู้แต่ง

หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก อ่านเพิ่มเติม

“สามพันโบก” ความสวยงาม..ยามหน้าแล้ง

“สามพันโบก” ความสวยงาม..ยามหน้าแล้ง ด้วยกระแสน้ำที่กัดเซาะแก่งหินผ่านกาลเวลาที่ยาวนาน กลายเป็นประติมากรรมแก่งหินใหญ่น้อยที่มีรูปร่างลักษณะต่างๆสวยงาม แปลกตา เช่น โบกหินรูปหัวใจ โบกหินรูปดาว โบกหินรูปการ์ตูนมิกกี้เม้าส์ หินหัวสุนัข และอื่นๆมากมาย สามพันโบก ยังเป็นที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืดในลำน้ำโขงตามธรรมชาติแหล่งใหญ่ที่สุด รักษาระบบนิเวศและการขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำในลำน้ำโขงให้อยู่ได้อย่างสมดุล ชาวบ้านบริเวณนี้ทั้งฝั่งไทยและลาว นอกจากทำการเกษตรแล้วยังจับปลาเป็นอาชีพเสริมอีกด้วย การเดินทางไปยังสามพันโบก ต้องนั่งเรือจากบริเวณหาดสลึง ที่บ้านสองคอน ตำบลสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร ล่องตามลำน้ำโขงระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ระหว่างทางจะผ่าน “ปากบ้อง” จุดแคบที่สุดของแม่น้ำโขง ซึ่งมีความกว้างเพียง 56 เมตร และ “หินหัวพะเนียง” เป็นแก่งหินกลางแม่น้ำที่ทำให้แม่น้ำโขงแยกออกเป็นสองสายหรือที่เรียกว่า “สองคอน” ในภาษาท้องถิ่น จึงเป็นที่มาของชื่อ “บ้านสองคอน”อีกด้วย ในบริเวณใกล้เคียงกัน ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆอีก เช่น ถ้ำนางเข็นฝ้าย ถ้ำนางต่ำหูก หาดหงส์ หาดหินสี หลักศิลาเลข แก่งสองคอน ภูเขาหิน และหาดแห่ ปัจจุบันพื้นที่บริเวณนั้นมีที่พัก ร้านอาหาร เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวมากมาย พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย

“สามพันโบก” ความสวยงาม..ยามหน้าแล้ง อ่านเพิ่มเติม

Yellow Pumpkin Cafe จ.นครราชสีมา

ร้าน Yellow Pumpkin Cafe ชื่อก็บอกว่านางคือฟักทองสีเหลือง ฉะนั้นของหวานเขาไม่ธรรมดาเพราะทำมาจากฟักทอง ไปจัดๆๆ  เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันพฤหัสบดี) ตั้งแต่เวลา10.00 – 18.00 น.  พิกัด : ตั้งอยู่ในตรอกสำราญจิต ถ.จอมพล อ.เมือง จ.นครราชสีมา อยู่ด้านหลังของอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีโทร.098 221 2001 ร้านเล็กๆที่มองแล้วชวนเดินเข้าไปสุดๆ หน้าร้านเต็มไปด้วยต้นไม้เยอะมาก ก็ต้องเก็บภาพไว้หน่อยค่ะ บรรยากาศภายในร้านทำให้นึกถึงญี่ปุ่นเบาๆ ตรงนี้เป็นบริเวณเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มของหวาน โดยรวมแล้วร้านนี้มีความคุมโทนเบาๆแม้แต่บาริสต้า : D เข้ากันได้อย่างลงตัว โซนที่นั่งการตกแต่งเข้ากันดีมาก เลือกกันได้เต็มที่ช่วงเช้าๆคนอาจจะยังไม่เยอะ ถ่ายรูปได้โล่งๆเลย โทนอุ่นๆด้วยเเสงไฟสีเหลืองจางๆ มีต้นไม้มองสบายตา นอกเหนือจากของหวานๆก็มีของเท่ๆอยู่ในร้าน เพราะทางร้านเขาขายของแนวๆด้วย เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ คนฮิปๆก็ต้องมีติดไม้ติดมือกลับไปบ้างแล้วล่ะ หยุดบรรยากาศเอาไว้ก่อน มากินกันดีกว่า เมนูแรก Yellow Pumpkin cheese cake ซิกเนเจอร์ของร้านทำจากฟักทองผสมครีมชีส หวานๆแต่ก็มีรสเปรี้ยวตัด เสิร์ฟคู่กับวิปครีม ฟินเลย… มาแล้วต้องกิน ห้ามพลาด!! ช็อคโกเเลตร้อนจ้า วันไหนฝนตกจัดเมนูนี้เลย Yellow pumpkin cream cheese เป็นเค้กฟักทอง ครีมชีสอยู่ด้านบนให้ได้รสเปรี้ยวๆนุ่มๆ มีความผสมอัลมอนด์ให้เคี้ยวด้วย อร่อยเว่อร์ เห็นทางเข้ามาไหมคะ อย่างที่บอกว่าแค่เดินเท้ากับจักรยานหรือจักรยานยนต์เข้ามาจะดีกว่ารถยนต์นะคะ ให้นางแบบเขาหน่อยค่ะ มีหนุ่มให้ดอกไม้ ฮ่าๆๆ ดูไม่ค่อยเขินเท่าไหร่นะคะ (ใช่หรอ) บริเวณนอกร้านก็จะมีมุมให้ได้ถ่ายรูปกันด้วย เก๋ๆ

Yellow Pumpkin Cafe จ.นครราชสีมา อ่านเพิ่มเติม

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : เดิน ท่อง ล่อง คลอง ณ ดินแดนสามคลอง สองเมือง ชุมชนวิถีพุทธคลองแดน จังหวัดสงขลา

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : เดิน ท่อง ล่อง คลอง ณ ดินแดนสามคลอง สองเมือง ชุมชนวิถีพุทธคลองแดน จังหวัดสงขลา คนส่วนใหญ่จะรู้จักชุมชนคลองแดนผ่านตลาดริมคลอง ตลาดมีอาหารและขนมพื้นบ้าน ที่ชาวคลองแดนร่วมกันอนุรักษ์มาจำหน่าย เช่น ปลาทอดทรงเครื่อง (สูตรโบราณ) แป้งแดง ขนมกอ ขนมจาก ขนมลูกโดน ขนมโค ขนมพิมพ์ ขนมจำปี ขนมค่อม ขนมเทียน ขนมดอกลำเจียก เป็นต้น ตลาดริมคลอง ชุมชนบ้านคลองแดน เปิดเฉพาะวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. บรรยากาศชิลล์ๆริมคลอง กับอาหารอร่อยๆ ศูนย์รวมจิตใจของชุมชนอย่างวัดคลองแดน แวะมากราบไหว้สักการะ “องค์พระทอง” ชม “หอฉัน” หอที่สร้างจากไม้เคี่ยม ไม้หลุมพอ และไม้ยาง อายุกว่า 100 ปี นอกจากนี้ยังมี “โพนฟ้าลั่น” กลองขนาดใหญ่ทำจากไม้หลุมพอ และเรือขุดโบราณ ที่ยังคงความสมบูรณ์ สวยงาม นอกจากนั่งเรือเที่ยวชมวิถีชีวิตในชุมชนแล้ว ยังสามารถเช่าจักรยานจากที่พัก ปั่นเที่ยวชม -พิพิธภัณฑ์ครูสายัณห์ พิพิธภัณฑ์บ้านเรือนไม้ริมคลองอายุกว่า 100 ปี พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในของชุมชนตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน -ร้านขายยาโบราณ ร้านศรีสุขโอสถ ทั้งยาสมุนไพร ยาต้ม ยาชง และยาแคปซูล ตามตำรายาที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษชาวจีน อาชีพหลักของชุมชนคือการทำเกษตรกรรม “ข้าวซ้อมมือ”เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อ ที่ผลิตโดยกรรมวิธีโบราณ ไม่ผ่านการสีข้าวโดยเครื่องจักร สุดท้ายพลาดไม่ได้การซื้อของที่ระลึก “ปูนปั้นรูปมโนราห์” จากนาฏศิลป์ปักษ์ใต้ สู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของชุมชนคลองแดน กลุ่มหัตถกรรมปูนปั้นรูปโนรา เกิดจากแรงบันดาลใจของครูมโนราห์เก่าแก่ในชุมชน ที่ต้องการช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม จึงร่วมมือกับครูสอนมโนราห์รุ่นใหม่ในการทำปูนปั้นรูปมโนราห์เด็กในท่ารำต่างๆ เพื่อบันทึกความรู้ไว้ ไม่ให้สูญหาย การพัฒนารูปปั้นมโนราห์ได้รับการสนับสนุนและออกแบบจากทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย นอกจากปูนปั้นแล้ว ยังมีของที่ระลึกเก๋ๆที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานจริงได้และสื่อถึงมโนราห์ด้วย

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : เดิน ท่อง ล่อง คลอง ณ ดินแดนสามคลอง สองเมือง ชุมชนวิถีพุทธคลองแดน จังหวัดสงขลา อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top