สถานที่ท่องเที่ยว

5 ร้านข้าวแช่ อร่อยคลายร้อนตำรับไทย

กลับมาพบกับการตามหาของอร่อยทั่วไทยกันอีกครั้ง วันนี้แอดมินจะพาออเจ้าทั้งหลายเข้าวังไปทานข้าวแช่ดับร้อนกันสักหน่อย ร้านข้าวแช่แม่อร จังหวัดเพชรบุรี  ร้านข้าวแช่เก่าแก่ที่ซ่อนตัวอยู่ในตลาดริมน้ำ หายากสักนิดแต่ถ้าได้ลิ้มลองแล้วจะบอกว่าไม่เสียแรงที่เดินตามหา ข้าวแช่ของทางร้านเป็นสูตรเมืองเพชรดั้งเดิม ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 30 ปี เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่น้ำดอกไม้ ที่ใช้ผสมกันระหว่างน้ำอบควันเทียนและน้ำอบมะลิ ส่วนปลาหวานก็เนื้อหวานละมุน แทบจะละลายในปาก ข้าวแช่ขายชุดละ 20 บาท เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.00 น. แนะนำให้โทรไปจองก่อนที่ 089 410 1969 ภาพจาก : ร้านข้าวแช่แม่อร ร้านข้าวแช่พี่พเยาว์ จากเพชรบุรีสู่กรุงเทพ ร้านพี่พเยาว์เป็นร้านเก่าแก่หนึ่งเดียวในตลาดนางเลิ้ง ที่เปิดมานานกว่า 70 ปี โดยพี่พเยาว์เป็นชาวเพชรบุรีแต่กำเนิด นำสูตรข้าวแช่เมืองเพชรเข้ามาให้ชาวเมืองกรุงได้ทานกัน ใครอยากทานชาวแช่สูตรเมืองเพชรแบบดั้งเดิม ไปทานกันได้เลยที่ตลาดนางเลิ้ง ร้านเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า ติดต่อได้ที่ 089 488 3105, 085 113 0580 ภาพจาก : ร้านพี่พเยาว์ ร้านข้าวแช่ลุงแดง จากข้าวแช่สูตรเมืองเพชร มาลองข้าวแช่ต้นตำรับชาวมอญกันบ้างดีกว่า ที่ร้านข้าวแช่ลุงแดง บนเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ข้าวแช่ร้านนี้แตกต่างจากที่อื่นเพราะข้าวเป็นสีฟ้าจากน้ำดอกอัญชัน ตัวชูโรงอีกอย่างคือ ไข่ห่อพริกหยวกสอดไส้หมูสับและกุ้งสับซ่อนอยู่ภายในอีกชั้น โดยสนนราคาอยู่ที่ ชุดละ 80 บาท ไปสัมผัสบรรยากาศพร้อมทานข้าวแช่เย็นชื่นใจได้ทุกวัน เวลา 10.00 – 17.00 น.  ภาพจาก : ร้านลุงแดง ร้านข้าวแช่แม่ศิริ  ร้านเล็กๆแต่อัดแน่นด้วยคุณภาพ เจ้าเก่าย่านบางลำพู ร้านข้าวแช่สูตรชาวมอญชื่อดังที่ถามใครแถวนั้นก็รู้จักกันเป็นอย่างดี จุดเด่นที่ทำให้ลูกค้าติดใจคือความพิถีพิถันในการทำข้าวแช่ ดอกมะลิที่ใช้ลอยน้ำเป็นมะลิที่ปลูกเอง ส่วนเครื่องเคียงต่างๆมีรสชาติกลมกล่อม ในช่วงหน้าร้อนจะมีเมนูพิเศษพวกพริกหยวกยัดไส้หรือหอมแดงยัดไส้เพิ่มด้วย ข้าวแช่ราคาชุดละ 30 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ร้านอยู่ในตรอกไกรสีห์ ถนนพระสุเมรุ ย่านบางลำพู โทรสอบถามหรือสั่งอาหารได้ที่เบอร์ 02 281 7996  ภาพจาก : ร้านข้าวแช่แม่ศิริ ร้านกลางซอย สุขุมวิท 49  ร้านกลางซอยขึ้นชื่อเรื่องอาหารไทย มีอาหารหากินได้ยากหลายเมนูให้ลองชิม เมนูข้าวแช่ของทางร้านจะมีเฉพาะเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ข้าวแช่น้ำหมอกลิ่นควันเทียน และดอกไม้อ่อนๆ ส่วนเครื่องเคียงมีพริกหยวกสอดไส้หมูสับที่ต้องขอบอกว่าอร่อยมาก ลูกกะปิทอด ไชโป๊วหวาน เนื้อฝอย ไม่มีหัวหอมทอดและปลาหวาน ข้าวแช่ราคา 220 บาท แนะนำว่าต้องลองไปชิมแล้วจะไม่รู้สึกเสียดายเงินเลยค่ะ ร้านอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 ใกล้กับโรงพยาบาลสมิติเวช เปิดทุกวัน 3 ช่วงเวลา จันทร์-ศุกร์ 11.00-14.30 น. และ 17.00-22.00 น. เสาร์ เวลา 11.00-22.00 น. อาทิตย์ 11.00-15.00 น. ภาพจาก : ร้านกลางซอย

5 ร้านข้าวแช่ อร่อยคลายร้อนตำรับไทย อ่านเพิ่มเติม

เปิดหน้าประวัติศาสตร์ ย้อนมิติสู่รอยอดีต จังหวัดสิงห์บุรี

ตามรอยวีรชนคนกล้าค่ายบางระจัน สิงห์บุรี  จังหวัดสิงห์บุรีได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองแห่งคนกล้าด้วยวีรกรรมการสู้รบของชาวบางระจัน ทั้งเมืองสิงห์บุรียังมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยทวารวดีจากการขุดค้นพบโบราณสถาน มาก้าวสู่หน้าประวัติศาสตร์ของสิงห์บุรีเพื่อร่วมกันรำลึกถึงบรรพชนไทยผู้เสียสละชีวิต รักษาแผ่นดินให้แก่คนรุ่นต่อมา เริ่มจากการตามรอยคนกล้าแห่งสิงห์บุรี ณ อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน และอุทยานค่ายบางระจัน อยู่อำเภอค่ายบางระจัน อนุสาวรีย์สง่าโดดเด่นเป็นประติมากรรมรูปหล่อหัวหน้าชาวค่ายบางระจัน 11 คน แสดงท่วงท่าห้าวหาญในการสู้รบ ชมค่ายบางระจันจำลอง สร้างจินตนาการระลึกสู่เรื่องราวความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของชาวบ้านบางระจัน ซึ่งสละชีวิตปกป้องบ้านเมือง สามารถต้านทานข้าศึกได้ถึง 8 ครั้ง ก่อนจะพ่ายแพ้ด้วยกำลังคนและอาวุธที่ไม่เพียงพอรวมทั้งระยะเวลาการต่อสู้ยาวนาน และเสบียงอาหารที่ขาดแคลน ภายในบริเวณค่ายมี อาคารศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์วีรชนค่ายบางระจัน จัดแสดงเรื่องราวของชาวบ้านค่ายบางระจันและโบราณวัตถุ ซึ่งจะได้รับรู้ว่าชาวค่ายบางระจันผ่านช่วงเวลาของความยากลำบากมาอย่างไร ถึงแม้จะไม่สามารถประสบชัยชนะ แต่ประสบความสำเร็จในการสะท้อนความกล้าหาญอันยิ่งใหญ่ ได้รำลึกถึงวีรกรรมชาวบ้านบางระจันซึ่งสละชีวิตเพื่อรักษาแผ่นดินมาแล้ว มาชมโบราณสถานในอำเภอค่ายบางระจันกันต่อที่ วัดพระปรางค์ (ชัณสูตร) อยู่บ้านโคกหม้อ ตำบลเชิงกลัด อำเภอบางระจัน มีพระปรางค์ศิลปะอยุธยาตอนต้น สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีลักษณะสูงชะลูดคล้ายฝักข้าวโพด ด้านหลังมีวิหารสมัยอยุธยา และรอยพระพุทธบาทจำลองบนยอดเขา ชมแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย อยู่ในบริเวณวัดพระปรางค์ แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาใหญ่ที่สุด ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นแหล่งโบราณคดีมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ และเป็นศูนย์ศึกษาทางวิชาการเซรามิคอันยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก กล่าวได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของบรรพชนไทยที่สร้างสรรค์สิ่งที่กลายมาเป็นแหล่งศึกษาสำคัญระดับโลกได้ ย่อมไม่ธรรมดาในยุคที่ปราศจากเครื่องมือทางเทคโนโลยีมาช่วยทำ

เปิดหน้าประวัติศาสตร์ ย้อนมิติสู่รอยอดีต จังหวัดสิงห์บุรี อ่านเพิ่มเติม

ผจญโลกสีคราม ณ เกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พอพูดถึงทะเล ก็จะนึกถึงทะเลฝั่งอันดามัน โดยที่หลายคนมองข้าม จ.ชุมพร อันเป็นดินแดนแห่งหมู่เกาะฝั่งอ่าวไทยที่งดงาม และมีจุดดำน้ำที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งแอดมินกล้ารับประกันเลยว่าถ้าได้ลองไปดำน้ำ สัมผัสความงดงามของท้องทะเลชุมพร ทุกคนจะประทับใจ และหลงรักทะเลชุมพรโดยไม่รู้ตัว ภาพฉลามวาฬภาพนี้ ถ่ายที่บริเวณหมู่เกาะง่าม ซึ่งจะมีโอกาสพบในช่วงเดือน พฤษภาคมถึงตุลาคมของปี การเดินทางไปเกาะง่าม จากตัวเมืองชุมพร ใช้เส้นทางหลวง 4001 ไปที่ท่าเรือท่ายาง ระยะทางประมาณ 7 กม. มีสองแถวจากตัวเมืองชุมพรไปท่าเรือทุกชั่วโมง เกาะง่ามใหญ่ ตัวเกาะมีลักษณะเป็นผาหินปูนสูงชัน และคล้ายฝ่ามือพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกาะนี้ สิ่งมีชีวิตที่พบในบริเวณนี้คือดอกไม้ทะเล ปะการังแข็ง แส้ทะเล ฟองน้ำ กัลปังหา ปลานกแก้ว ปลาสาก ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลากระเบนจุดฟ้า ปลาสิงโต เต่าทะเล ทากทะเล กุ้งตัวยาว หอยเบี้ยและฝูงปลาน้อยใหญ่ ถ้วยทะเลและปลาหลากหลายชนิดสีสันงดงาม  ด้านตะวันตกของเกาะน้ำจะตื้น นักดำน้ำสามารถพบดงดอกไม้ทะเลหนาแน่นเป็นบริเวณกว้าง ดอกไม้ทะเล และกลุ่มปลาตัวน้อยที่เกาะง่ามใหญ่ ปะการังสมอง ที่เกาะง่ามใหญ่ ใหญ่มากจริงๆ บริเวณเกาะง่ามน้อย-เกาะง่ามใหญ่เป็นเกาะสัมปทานรังนก นักท่องเที่ยวไม่สามารถขึ้นเกาะได้ แต่ลงดำน้ำดูปะการังรอบ ๆ ได้ เกาะง่ามน้อย อีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำ ชมความงดงามของปะการัง และเหล่าปลาตัวน้อยๆ  บริเวณรอบเกาะไม่มีชายหาดหรือที่ราบอยู่ห่างจากเกาะง่ามใหญ่ไปทางทิศใต้เพียง 1 – 2 กิโลเมตร บนเกาะจะมีบ้านของคนเฝ้ารังนก มองไปมองมาแอบคล้ายหมู่บ้านโจรสลัดในการ์ตูนเลยแฮะ หากโชคดี จะได้เห็น ฉลามวาฬยักษ์ใหญ่ใจดีแวะมาหาอาหารบริเวณหมู่เกาะง่าม  ส่วนใหญ่จะพบได้ในช่วงเดือน พฤษภาคม – ตุลาคม ซึ่งดวงใครดวงมันจริงๆ ใครดวงดีน้องฉลามวาฬอาจจะมาทักทายให้เห็นก็ได้ ทั้งนี้ ตามปกติฉลามวาฬจะไม่มีความดุร้าย แต่หากนำดำน้ำเข้าไปใกล้ หรือ สัมผัสตัวฉลามวาฬ อาจจะทำให้ฉลามเกิดอาการตกใจ และอาจจะทำร้ายได้โปรดระมัดระวังด้วยนะ นอกจากนั้นยังมี “เรือหลวงปราบ 741” เรือที่มีประวัติศาสตร์ทางสงครามอย่างยิ่งใหญ่ ถูกนำมาวางใต้ท้องทะเลชุมพรในวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 บริเวณด้านทิศตะวันออก ของเกาะง่ามน้อย เพื่อเป็นเป็นปะการังเทียมและแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำใต้ทะเล ทั้งยังเป็นจุดดำน้ำแห่งใหม่สำหรับนักดำน้ำอีกด้วย ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทย ฝั่งอ่าวไทย ที่งดงาม ชวนหลงไหล  ทุ่งดอกไม้ทะเล ที่พลิ้วไหวตามกระแสสายน้ำ สวยงามเหมือนหลุดเข้าไปในการ์ตูนเรื่องนีโม่เลย นี่ไง นีโม ฮ่าๆๆๆ น้องปลาการ์ตูนตัวน้อยออกมาทักทาย ฝูงปลา แหวกว่ายพริ้วไหวไปมา สวยงามมากจริงๆ เห็นไหมว่า เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย สามารถดำน้ำได้ทั้ง แบบดำน้ำลึก และแบบดำน้ำตื้นทั่วไป ฉะนั้นใครสายดำน้ำ ต้องห้ามพลาดนะ!!!!! สนใจล่องเรือชมหมู่เกาะทะเลชุมพร ติดต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร โทร 077 558 144 (ในวันและเวลาราชการ) Tag เพื่อนสิ เอาราคาให้ดูไปเลยว่าไม่ได้แพงอย่างที่คิด ใครไปเที่ยวมาแล้ว เอารูปสวยๆมาแบ่งกันดูด้วยนะ

ผจญโลกสีคราม ณ เกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ อ่านเพิ่มเติม

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : ชุมชนบ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : ชุมชนบ้านนาต้นจั่น สุโขทัย Go Local กับสายฮิปแบบพวกเรา แน่นอนว่าจักรยานเป็นพร็อพถ่ายรูปที่เก๋ไก๋ และคล่องตัวที่สุดสำหรับการเที่ยวชมวิถีชีวิตในชุมชน เรื่องเล่า…จากชายผ้าถุง.ภูมิปัญญาสร้างสรรค์ของบรรพบุรุษ เล่าต่อๆกันมาว่า สมัยก่อนตอนไปทำไร่ทำนา ชาวบ้านจะนุ่งผ้าถุงและเดินลุยโคลนในท้องนา เมื่อกลับถึงบ้านและซักผ้าตากไว้ ปรากฏว่าชายผ้ามีความนุ่มนิ่มเป็นพิเศษ และมีสีที่ทึมลง ดูแปลกตา ชาวบ้านจึงได้ทดลองเอาผ้าทั้งผืนมาหมักโคลนไว้และพบว่าโคลนนี้เองทำให้ผ้านิ่ม จึงเป็นที่มาของ “ผ้าหมักโคลน” .ส่วนสีสันต่างๆที่เราเห็นบนผ้าหมักโคลน ล้วนแล้วแต่มาจากธรรมชาติที่หาได้ง่ายในชุมชน อย่างเช่น สีเขียวอ่อนจากใบจั่น สีโอลด์โรสจากใบสะเดา สีเหลืองจากแก่นขนุน สีม่วงจากเปลือกมังคุด เป็นต้น กว่าจะเป็นผ้าหมักโคลนอย่างที่เห็นทุกวันนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือความเข้มแข็งของผู้คนในชุมชนบ้านนาต้นจั่น เริ่มตั้งแต่การรวมกลุ่มกันทำผ้าหมักโคลน เพื่อหารายได้เป็นกองทุนจากการทำไร่ข้าวโพด จากนั้นก็เริ่มต้นการผลิตแบบจริงจัง พัฒนาและแปรรูปผ้าหมักโคลนในรูปแบบผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งาน ให้ร่วมสมัย เข้ากับชีวิตประจำวัน จนปัจจุบันมีการส่งออกไปยังประเทศอิตาลีและอเมริกาด้วย แน่นอนว่าของดีต้องมีรางวัลการันตี.พ.ศ. 2555 ได้รับรางวัลชนะเลิศ PATA Gold Awards 2012 ประเภท Heritage and Culture ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก.พ.ศ. 2556 ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ประเภทองค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยปี 2556 จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ผ้าจากหมักโคลน ขอบคุณภายถ่ายจากเฟสบุ๊คเพจ : ผ้าหมักโคลน บ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย ของเล่นสุดฮิปของเด็กๆ บ้านนาต้นจั่น “ตุ๊กตาบาร์โหน” ของเล่นชิ้นนี้มีวิธีการเล่นไม่ยาก แค่ผู้เล่นบีบปลายด้านล่างของไม้ ตุ๊กตาก็จะโหนแกว่งราวกับคนกำลังโหนบาร์ในท่าทางต่างๆ มันเกิดจากความทรงจำวัยเด็กของคุณตาวงษ์ เสาปั้น ผู้ประดิษฐ์ของเล่นนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึก เพราะว่าสมัยเด็กๆคุณตาชอบการโหนบาร์เล่นเป็นอย่างมาก  อาหารถิ่นชื่อดัง ต้นตำหรับของอร่อยที่ทานได้ที่บ้านนาต้นจั่นที่เดียวเท่านั้น เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน เส้นก๋วยเตี๋ยวเป็นของหายากราคาแพง กว่าจะหาซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยวได้ ชาวบ้านต้องขายถั่วขายงา และเดินทางเข้าตัวเมืองไปซื้อ ด้วยความยากลำบากนี้ คุณยายเครื่อง วงศ์สารสิน จึงคิดค้นสูตรที่จะมาใช้แทนเส้นก๋วยเตี๋ยว คือการทดลองนำเอาข้าวเจ้า มาโม่ด้วยโม่หินและกรองด้วยผ้าขาวบางจนเป็นครีมข้าวสีข้น นำมานึ่งเป็นแผ่นบางๆ บนผ้าขาวบางด้วยเตาฟืน คล้ายข้าวเกรียบปากหม้อ จากนั้นใส่ผักกันตง ผักตำลึง ผัดหวานบ้าน แล้วพับแผ่นแป้งห่อเข้า และนึ่งต่อก่อนจะตักใส่ชามแล้วราดน้ำซุปกระดูกหมูร้อนๆ โปะไข่ดาวนึ่ง…ชนะเลิศ!! อาหารประจำถิ่นที่แนะนำให้ลองอีกอย่าง “ก๋วยเตี๋ยวแบ” ที่ใช้ครีมข้าวสีขาวข้น เช่นเดียวกับข้าวเปิ๊บ แต่นำไปเกลี่ยเป็นวงกลมและนำไปตากแห้ง จากนั้นนำมาหั่นเป็นเส้นแล้วนำไปนึ่งกับผัก ใส่หมูแดง กระเทียมเจียว แคบหมู พร้อมมะนาวฝานวางเคียง ซดน้ำต้มกระดูกหมูร้อนๆ คล่องคออย่าบอกใคร ผลไม้ที่บ้านนาตั้นจั้่นก็มีให้เลือกชิมเลือกช็อปอยู่หลายชนิดตามฤดูกาล เช่น กล้วย ลางสาด เงาะ ทุเรียน ฯลฯ ที่สุดท้ายเราแนะนำที่จุดชมวิวห้วยต้นไฮ จุดชมวิวที่สามารถชมได้ทั้งภายพระอาทิตย์ขึ้นและตก โดยต้องเดินเท้าระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ทางเดินขึ้นค่อนชันต้องเตรียมน้ำดื่มและรองเท้ามาให้พร้อม จุดนี้เหนื่อยหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : ชุมชนบ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย อ่านเพิ่มเติม

หนีร้อนไปโดดน้ำที่บึงหัวดงสามัคคี จ.พิจิตร

หน้าร้อนแบบนี้หลายๆคนก็ร้อนกาย แต่อย่าร้อนใจเลยนะคะ ต้องหาที่ระบายแล้วล่ะที่นี่ก็มีล่องแพนะฮ๊า โดดนำได้ด้วย “บึงหัวดงสามัคคี” ตั้งอยู่ที่ต.หัวดง อ.เมือง จ.พิจิตร ห่างจากตัวเมืองพิจิตรเพียง 20 กิโลเมตร ด้วยความร่วมมือจากชาวบ้านในตำบลได้ปรับปรุงแหล่งน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและผ่อนคลาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกใหม่สำหรับชาวพิจิตรเลยเด้อ ที่นี่มีบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ราคาเป็นมิตรสายประหยัดมาได้หมดจ้าหรือจะนำมาจัดแจงเองก็ย่อมได้  บึงหัวดงสามัคคีมีบริการแพมากกว่า 20 แพโดยแบ่งเป็นรอบ รอบละ 3 ชั่วโมง 300 บาท ขนาดไม่เกิน 7 คน และบริการเรือถืบชั่วโมงละ 40 บาท/ 2 คน เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 18.00 น.โทร.065 758 7498 (ผู้จัดการแพ) นอกจากจะเป็นที่สนใจได้มาเที่ยวผ่อนคลายแล้ว ทำให้เพิ่มการกระจายรายได้เสริมแก่ชุมชนมากขึ้นจากอาชีพหลักอย่างเกษตรกรรม อ่ะ…ชมวิวพระอาทิตย์ยามเย็น แชะภาพเก๋ๆกับบรรยากาศlocal ฉบับชาวพิจิตร

หนีร้อนไปโดดน้ำที่บึงหัวดงสามัคคี จ.พิจิตร อ่านเพิ่มเติม

ไหว้พระ ชมวิว ยลใบไม้เปลี่ยนสี … วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร อ.บัวเชด จ.สุรินทร์

ไหว้พระ ชมวิว ยลใบไม้เปลี่ยนสี … วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่าที่แห่งนี้ คือ พุทธอุทยานแห่งแรกของไทย วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ภายในวัดนอกจากมีพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ให้สักการะจนอิ่มบุญ ยังจะได้อิ่มใจกับทัศนียภาพสวย ๆ จากลานชมวิวของวัดด้วย “พระพุทธบารมีสยามบุรีพิทักษ์” พระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่สีทองอร่าม ตั้งอยู่กลางลานโล่ง เปรียบเสมือนเป็นพระประธานของวัด บริเวณลานชมวิวของวัด เรียกว่า ผานางคอย ซึ่งมีลักษณะเป็นลานหินโล่งเลียบริมผาสูง มีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ และรูปปั้นของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ให้สักการะ จากลานชมวิวสามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างคือ อ่างเก็บน้ำบ้านจรัส เลยไปจนถึงแนวเทือกเขาพนมดงรักซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างไทย-กัมพูชา นอกจากนี้หากมาที่นี่ในช่วงฤดูแล้ง จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีจากต้นยางที่กำลังผลัดใบ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่เป็นสวนยางพาราของชาวบ้าน อ่างเก็บน้ำบ้านจรัส ท่ามกลางป่าเปลี่ยนสี ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศ แดนอีสานใต้ของไทยที่นี่ก็มีให้ชมนะจ๊ะ ใกล้กับลานชมวิวอีกฝั่ง มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวองค์ใหญ่ ให้สักการะขอพรก่อนเดินทางกลับ หากมีเวลาอาจแวะชมวิวถ่ายภาพชิล ๆ ณ อ่างเก็บน้ำบ้านจรัส ซึ่งน่าจะได้มองเห็นจากลานชมวิวของวัดกันมาแล้ว บางช่วงเวลาจะมีชาวบ้านในพื้นที่มาหว่านแหและตกเบ็ดหาปลา ได้บรรยากาศพื้นบ้านไปอีกแบบ การเดินทางมายังวัด : จากตัวเมืองสุรินทร์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 2077 ผ่านอำเภอลำดวน อำเภอสังขะ จนถึงอำเภอบัวเชด และใช้ทางหลวงหมายเลข 2124 ต่อด้วยทางหลวงชนบท สร. 4004 ที่มุ่งหน้าไปทางบ้านจรัส ประมาณ 6 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางสู่วัดอีก 2 กิโลเมตร รวมระยะทางจากตัวเมืองประมาณ 80 กิโลเมตร

ไหว้พระ ชมวิว ยลใบไม้เปลี่ยนสี … วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ อ่านเพิ่มเติม

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน สถานที่ทำบุญ หนุนนำความรัก

“ลพบุรีน่ะมีแต่ลิง แต่ถ้าคนรักจริงคงจะมีแต่เรา” “รักชาติให้ยืนตรง ถ้าอยากรักมั่นคงให้มายืนข้างๆ กัน” “อยากรวยต้องลงทุน อยากสร้างอนาคตกับคุณต้องทำไง” อ่ะ โพสแคปชั่นอ่อยก็แล้ว ลงรูปให้ดูว่าโสดก็แล้ว ยังนก!!! ได้!! ในเมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็เอาด้วยคาถา!!!  ใครสายนกมาทางนี้ วันนี้แอดมินมีวัดที่เชื่อกันว่า หากไปไหว้บูชาขอพร แล้วอานิสงส์จะช่วยส่งไปหนุนนำความรักให้สมหวังดังใจ แต่เดี๋ยวก่อนคนที่มีแฟน หรือเป็นคู่รักก็ไปไหว้บูชาขอพรได้เหมือนกันนะ อานิสงส์จะยิ่งทำให้คู่ของคุณนั้นยืนยาวและมั่นคงต่อๆไป ใครที่เคยไปที่ไหนแล้วสมหวังดังใจ มาบอกต่อได้เลยนะ แบ่งปันกัน เพื่อนๆคนอื่นจะได้สมดังใจบ้าง  ศาลท่านท้าวมหาพรหม กรุงเทพมหานคร เชื่อกันว่า ท่านท้าวมหาพรหมเป็นเทพเจ้าที่ทรงมีเมตตา สามารถบันดาลให้ผู้ที่มาขอพรนั้นสมปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรัก ชีวิต การงาน โดยผู้ที่มาขอพรพระพรหมนั้นมักจะบนบานด้วยการถวายพวงมาลัยดอกไม้เจ็ดสี เจ็ดศอก ช้างไม้ หรือละครรำ ยังมีกิตติศัพท์เลื่องลือกันในหมู่ของผู้ไม่มีบุตรด้วยว่า หากได้มาอธิฐานขอพรจากท่านมักจะสมหวัง แม้แต่ชาวต่างชาติบางคนถึงกับข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ การสักการะนั้นให้ใช้ ธูป 12 ดอก เทียน 1 เล่ม และพวงมาลัย 4 พวง โดยเริ่มไหว้พระพรหมด้านที่ตรงกับประตูทางเข้าเป็นด้านแรก แล้วเดินเวียนขวาจนครบทั้งสี่ด้าน (ใช้ธูป พระพักตร์ละ 3 ดอก พวงมาลัย 1 พวง) บทบูชานะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ) บทสวดหลัก (นิยมใช้มากที่สุด)โอม อาฮัม พรหมมา อัสมิ  ในวันที่ 9 พฤศจิกายนของทุกปี จะมีการจัดงานบวงสรวง เนื่องจากเป็นวันครบรอบการตั้งศาล พระตรีมูรติ กรุงเทพมหานคร หากผู้ใดที่ยังไร้คู่หรืออับโชควาสนาในด้านความรัก ถ้าได้มาบูชาพระตรีมูรติและตั้งจิตใจอธิฐานขอพรให้พบกับเนื้อคู่หรือรักแท้แล้ว ก็มักจะได้สมดังปรารถนา ซึ่งรวมทั้งเรื่องของชีวิต และการงานอีกด้วย เชื่อกันว่าเวลาที่ดีที่สุดในการสักการะ คือ ทุกคืนวันพฤหัสฯ เวลา 21.30 น. บูชาท่านด้วยธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง ดอกกุหลาบแดง และผลไม้ พร้อมกล่าวชื่อ นามสกุล รวมทั้งที่อยู่ของตนเองไปด้วย คำสวดบูชาพระตรีมูรติ คือ คำว่าโอม แค่เพียงเอ่ยว่า โอม ก็เหมือนการเอ่ยนามของเทพเจ้าทั้งสาม ซึ่งโอม มาจาก โอมะ(พระพรหม) อะ(พระวิษณุ) อุ(พระศิวะ) ถือเป็นเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศาสนาพราหมณ์ เป็นการรวมกันของมหาเทพ 3 องค์ คือ พระพรหม พระวิษณุ(พระนารายณ์) และพระศิวะ(พระอิศวร) ที่ถือเป็นผู้สร้าง ผู้รักษา และผู้ทำลาย การรวมอานุภาพของมหาเทพทั้ง 3 ไว้ในองค์เดียวกัน ผู้บูชาย่อมบังเกิดความเป็นสิริมงคล และความสมบูรณ์พูนสุขในชีวิต ดุจดังพลานุภาพของเทพทั้ง 3  วันบวงสรวง ตรงกับวันที่ 2 ธันวาคม ของทุกปี เวลาที่ดีที่สุดที่จะขอพรคือ วันพฤหัสบดี เวลา 21.30 น.เชื่อว่าเป็นเวลาที่เทพจะลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อรับคำและประทานพรให้แก่ผู้ขอ วัดศาลาลอย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ชาวโคราชและประชาชนทั่วไปนิยมเดินทางมาสักการะรูปปั้นและเจดีย์บรรจุอัฐิย่าโมที่วัดศาลาลอยนี้ เพื่อบนบานขอพรย่าโมให้ปกป้องคุ้มครอง โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและคู่ครอง มีความเชื่อว่าย่าโมจะสามารถดลบันดาลให้สมหวังได้ในที่สุด และเมื่อได้รับความสำเร็จดังอธิษฐานแล้ว ก็มักจะแก้บนด้วยเพลงโคราชที่มีทั้งนักร้องและนักรำแต่งตัวสวยงาม เพราะเชื่อว่าย่าโมนั้นชอบฟังเพลงโคราชเป็นชีวิตจิตใจ วัดศาลาลอย เป็นวัดเก่าแก่ที่ท้าวสุรนารีสร้างขึ้นภายหลังจากรบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2370 ซึ่งได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และอนุสรณ์สถานเจดีย์บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีขึ้นภายในวัด ภายหลังที่ท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว พระธาตุศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย จ.เลย เชื่อกันว่า หากผู้ใดได้มาบนบานศาลกล่าว แล้วแก้บนด้วยต้นผึ้งนั้น จะได้ตามปรารถนาทุกประการ และถ้ามาขอพรในด้านที่เกี่ยวกับความรักและมิตรภาพ สัมพันธภาพนั้นก็จะยั่งยืนสืบไป ข้อปฏิบัติที่ควรทราบ คือไม่ควรแต่งกายชุดสีแดง รวมทั้งงดนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นไปบูชา เพราะสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง และไม่ควรกางร่ม สวมหมวกและรองเท้าขึ้นไปบนพระธาตุ สร้างเมื่อ พ.ศ.2103 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2106 ในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์แห่งกรุงศรีอยุธยาเพื่อเป็นสักขีพยานแสดงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน กับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต(เวียงจันทร์) ศาลเจ้าแม่สามมุข ใกล้หาดบางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี ด้วยตำนานรักที่อมตะ เจ้าแม่สามมุขจึงเป็นที่พึ่งทางใจของหนุ่มสาวที่พากันเดินทางมาอธิษฐาน ขอพรให้สมหวังในความรักและคู่ครองอยู่เสมอ เชื่อกันว่าหากคู่รักที่มีความมั่นคงและซื่อสัตย์ต่อกัน หากนำว่าวที่เขียนชื่อตนเองกับคนรักมาไหว้เจ้าแม่ แล้วนำไปแขวนบริเวณศาลนั้น เจ้าแม่จะอวยพรให้มีความสุขสมหวัง และฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ในที่สุด นอกจากนี้แล้วชาวประมงที่ให้ความเคารพนับถือ จะมาสักการะด้วยการจุดประทัดถวายทุกครั้งก่อนออกเรือ เพื่อให้เดินทางปลอดภัยและจับปลาได้มาก ตำนานเล่าว่า ศาลแห่งนี้สร้าง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งรักแท้ของสาวมุก และนายแสน ที่กระโดดหน้าผาและตายไปตามกัน เพื่อยืนยันคำมั่นสัญญาว่าจุอุทิศชีวิตให้ ชาวบ้านจึงตั้งชื่อหน้าผาว่า สามมุข และตั้งชื่อชายหาดริมทะเลที่อยู่เบื้องล่างว่า บางแสน และได้มีการสร้างศาล เจ้าแม่สามมุข ขึ้นที่บริเวณเชิงผา ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วัดลุ่มหาชัยชุมพล) อ.เมือง จ.ระยอง ความเชื่อ เชื่อกันว่าพระบารมีของพระองค์จะช่วยปกป้องคุ้มครองให้มีแต่ความสุขเป็นสิริมงคล มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างร่มเย็นและยังเชื่อกันว่าสามีภรรยาที่มีบุตรยาก หากมาขอพรจากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งนี้แล้ว มักจะสมดังใจปรารถนา ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งวัดลุ่มมหาชัยชุมพล เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ซึ่งมีผู้คนเดินทางมาสักการะเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ในการกอบกู้เอกราชให้ผืนแผ่นดินไทยอยู่เสมอ มีการจัดงานสมโภชศาลแห่งนี้เป็นประจำในช่วงเทศกาลตรุษจีน และทุกวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปี จะมีการทำบุญตักบาตร ถวายพวงมาลาและเครื่องสักการะ เพราะเป็นคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์ วัดโสธรราชวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ที่นับถือในหลวงพ่อโสธรเชื่อว่าเมื่อได้มาสักการะแล้ว จะมีแต่ความสุข เป็นสวัสดิมงคลในชีวิตนอกจากนี้ในหมู่ผู้ที่มีบุตรยากยังเดินทางมาพร้อมความหวัง เพราะเชื่อกันว่า หากได้มาสักการะขอพรหลวงพ่อแล้วมักจะได้ลูกชายและเมื่อสมดังใจอธิษฐาน จะนิยมถวายหลวงพ่อโสธรด้วย ละครชาตรี ไข่ต้ม ผลไม้ และพวงมาลัย บทบูชา(ท่องนะโม 3 จบ) กาเยนะ วาจายะ เจตสา วา โสธะรัง นามะ อิทธิปะฏิหาริกะรัง พุทธะรูปัง อะหัง วันทามิ สัพพะโสฯ เดิมชื่อว่า วัดหงส์ สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน สถานที่ทำบุญ หนุนนำความรัก อ่านเพิ่มเติม

นุ่งซิ่นเดิน เยือนถิ่นผ้า เมืองหริภุญชัย

นุ่งซิ่นเดิน เยือนถิ่นผ้า เมืองหริภุญชัย ผ้าฝ้ายทอมือชุมชนชาวยอง ทุกวันเมื่อว่างจากการปฏิบัติภารกิจประจำวันแล้ว ช่วงสายๆ จนถึงเย็น ชาวบ้านที่ชุมชนชาวยองจะมารวมกลุ่มกันทอผ้าที่วัดต้นแก้ว ในตัวเมืองลำพูน ไม่ใช่ทอเป็นผลิตภัณฑ์นำไปขายอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกเขารวมกลุ่มกันเพื่ออนุรักษ์การทอผ้าในรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวยองที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษไว้ ก่อนที่ภูมิปัญญาเหล่านี้จะหายไป ผ้าที่ทอจะทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ผ้าฝ้ายยกดอกเอกลักษณ์ของเมืองลำพูน ผ้าขาวม้า ผ้าคลุมไหล่ ย่าม หรือผ้าผืน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวท่านใดที่สนใจเรียนรู้การทอผ้าด้วยเทคนิคของชาวยองซึ่งหาเรียนไม่ได้จากที่ไหน หัวหน้ากลุ่มทอผ้ายังเปิดสอนให้แก่ผู้ที่สนใจอีกด้วย โดยมีทั้งคอร์สระยะสั้นและระยะยาว สนใจติดต่อล่วงหน้าได้ที่ 08 7181 8296 ชุมชนชาวยองตั้งอยู่ที่บ้านศรีเมืองยู้ ตำบลเวียงยอง ตรงข้ามวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร พิกัด 18.57695 99.01162 บ้านดอนหลวง ชาวบ้านที่นี่จะมีการแบ่งกลุ่มกันแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายตามความถนัดของแต่ละบ้าน จึงมีทั้งกลุ่มทอผ้าสี่ตะกอกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้าย กลุ่มตัดเย็บ กลุ่มบาติกมัดย้อม เมื่อเสร็จแล้วชาวบ้านจะส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองมาจำหน่ายที่ร้านค้าที่ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน ใครที่อยากมาชอปปิงเลือกซื้อเสื้อผ้า ผ้าถุงสวย ๆ มาที่นี่รับรองได้ของถูกใจกลับไปแน่นอน หมู่บ้านนี้เป็นที่รู้จักกันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนมีการจัดงาน “แต่งสีอวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง” ในเดือนเมษายนของทุกปี การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 106 มาทางอำเภอป่าซาง ประมาณกิโลเมตรที่ 130 จะเห็นป้ายทางเข้าหมู่บ้านชัดเจน พิกัด บ้านดอนหลวง 18.49057 98.92417 บ้านหนองเงือก ชาวบ้านที่นี่จะแยกกันทอผ้าและทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อส่งจำหน่ายที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ สินค้าที่นี่จึงเป็นสินค้าที่เราเคยเห็นตามตลาดนัดจตุจักร ถนนคนเดิน เชียงใหม่ อย่างผ้าฝ้ายทอมือ ปลอกหมอน ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า ใครอยากได้สินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด สามารถมาเลือกซื้อกันได้ที่นี่ การเดินทาง จากตัวเมืองลำพูนใช้ทางหลวงหมายเลข 106 มาทางอำเภอป่าซาง จนถึงหลักกิโลเมตรที่ 138-139 ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร พิกัด บ้านหนองเงือก 18.48339 98.90740 หมู่บ้านกะเหรี่ยงแม่ขนาด ชาวบ้านหมู่บ้านนี้จะทอผ้าไว้ใช้เองตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกฝ้าย ปั่นด้าย ทอผ้า และประดับลูกเดือย โดยมีลวดลายที่สืบทอดกันมาจากปู่ย่าตายาย มีผลิตภัณฑ์ทั้งเสื้อ ผ้าพันคอ ผ้าถุง ผ้าพื้นสำหรับตัดเสื้อ เครื่องประดับ มีการสาธิตการทอผ้าโดยชาวกะเหรี่ยงโดยใช้กี่เอว การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1033 มาที่ตำบลทากาศ อำเภอแม่ทา เลี้ยวเข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร พิกัด หมู่บ้านกะเหรี่ยงแม่ขนาด 18.39560 98.99948

นุ่งซิ่นเดิน เยือนถิ่นผ้า เมืองหริภุญชัย อ่านเพิ่มเติม

ประเพณีปอยส่างลอง จ.แม่ฮ่องสอน ประจำปี 2561

ประเพณีปอยส่างลอง จ.แม่ฮ่องสอน ประจำปี 2561 ในช่วงฤดูร้อนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีธรรมเนียมปฏิบัติที่จัดกันประจำของชาวไทใหญ่ คือการบวชเณรภาคฤดูร้อน เพื่อให้เด็กๆ ได้ศึกษาพระธรรมวินัย คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นประเพณีที่เลียนแบบเจ้าชายสิทธัตถะ ในขณะที่ทรงออกผนวช ทั้งที่ยังทรงเครื่องทรงของกษัตริย์พร้อมนายฉันนะ งานประเพณีปอยส่างลองนี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่อยากจะมาบันทึกภาพแห่งความประทับใจ เข้าร่วมสัมผัสบรรยากาศที่ผสมผสานความเชื่อ ความศรัทธา ในพระพุทธศาสนา และสีสันที่สดใสของฤดูร้อน ในปีนี้เทศบาลเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน กำหนดจัดงานประเพณีปอยส่างลอง ระหว่างวันที่ 2-6 เมษายน 2561 ณ วัดกลางทุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีกำหนดการ ดังนี้ วันที่ 2 เมษายน เวลา 16.00 น. พิธีโกนผมส่างลอง ณ วัดกลางทุ่ง วันที่ 3 เมษายน วันรับส่างลอง เวลา 4.00 น. เจ้าภาพส่างลอง จะนำเด็กชายไปที่วัดเพื่อแต่งตัวชุดส่างลอง และรับศีลเข้าร่วมขบวน ไปรับส่างลอง ที่หน่วยงานต่างๆ และวัดต่างๆ เพื่อการลาบวช วันที่ 4 เมษายน วันนี้รับส่างลองวันที่ 2 เจ้าภาพส่างลอง จะนำส่างลองไปเข้าร่วมขบวนแห่ที่วัด และใบรับส่างลองที่หน่วยงานต่างๆ และวัดต่างๆ วันที่ 5 เมษายน แห่โคหลู่ (แห่เครื่องไทยทาน) ตั้งแต่ 8.00 น. จะแห่ขบวนจากวัดกลางทุ่ง ไปตามถนนในเขตเทศบาล มีพิธีเรียกขวัญส่างลอง และข่างแขก หรือรับแขก ในตอนเย็น ส่วนตอนกลางคืน มีงานมหรสพ สมโภช ตามประเพณีไทใหญ่ วันที่ 6 เมษายน วันข่ามส่าง หรือวันหลู่ เป็นวันบรรพชาสามเณร และถวายเครื่องไทยทาน แด่พระภิกษุสงฆ์ และเลี้ยงอาหารผู้มาร่วมงานซึ่งในช่วงวันที่ 4-5 เมษายน ระหว่างเวลา 19.00 น. ต้นไป จะมีการแสดงศิลปะไทใหญ่ ลิเกไทใหญ่ การแสดงศิลปะพื้นบ้านไทใหญ่ ที่ลานหน้าวัดกลางทุ่ง สอบถามรายละเอียดงานหรือสนใจการร่วมเป็นเจ้าภาพการบวชเณรหรือประเพณีปอยส่างลองครั้งนี้ที่ คุณบัลลังก์ ตรีทอง รองประธานชุมชนป๊อกตะวันออก อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โทร. 086 439 0368

ประเพณีปอยส่างลอง จ.แม่ฮ่องสอน ประจำปี 2561 อ่านเพิ่มเติม

118 เชียงใหม่-เชียงราย เส้นทางสายชิลล์

118 เชียงใหม่-เชียงราย เส้นทางสายชิลล์ 1. น้ำพุร้อนแม่ขะจาน พิกัด https://goo.gl/maps/DHpithPwdgt  ลงมาจากดอยสะเก็ดมาได้ปุ๊บแวะที่นี่ก่อนเลย “น้ำพุร้อนแม่ขะจาน” ที่ไม่ได้มีแค่กิจกรรมต้มไข่ในตะกร้า แต่สามารถแวะอาบน้ำแก้เมื่อยล้าแถมยังแวะช็อปเครื่องเงินได้อีก 2. ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำพิษณุโลก  หายเมื่อยแล้วไปแวะกินก๋วยเตี๋ยวกันต่อที่ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำพิษณุโลก” ชื่อพิษณุโลกแต่ร้านอยู่แม่ขะจานนะ เพราะเจ้าของร้านเค้าย้ายมาจากเมืองพิษณุโลกนั่นเอง (คนบ้านเดียวกับแม่หญิงการะเกด) อันนี้ถามเค้ามามิได้รู้ได้เองแต่อย่างใด ร้านนี้มีก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำรสแซ่บ ผัดกะเพรา และอาหารตามสั่งต่างๆ รสชาติจัดจ้านแบบบ้านๆ สั่งผัดกะเพราก็มีกะเพรามาให้ชื่นใจมิใช่สั่งผัดกะเพราแต่ได้ถั่วกับพริกหยวกและทุกอย่างยกเว้นกะเพรา (คุ้นๆ มั้ยคนกุงเตป) 3. ร้านเค้กคุณหมอ พิกัด https://goo.gl/maps/2Faufhp9J9z  ล้อหมุนจากก๋วยเตี๋ยวพิษณุโลกมาอีกประมาณ 15 นาที ก็จะเจอ “ร้านเค้กคุณหมอ” ร้านนี้เค้าน่ารักกิ๊บเก๋เป็นร้านเค้กอยู่กลางทุ่งนา บรรยากาศเหมือนอยู่ในชนบทญี่ปุ่น เจ้าของร้านเป็นหมอก็เลยตั้งชื่อว่าเค้กคุณหมอ (ถามเค้ามาอีกนั่นล่ะ พอดีเป็นคนชอบหาความรู้…เรื่องชาวบ้าน) ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น อยากให้ลองเมนูกาแฟชื่อ “ดูนา” สูตรเฉพาะของทางร้าน จิบกาแฟไปดูท้องนาไปเพลินๆ 4. วัดพระธาตุจอมผ่อ อ. เวียงป่าเป้า พิกัดhttps://goo.gl/maps/nWsGzYFFHTu  ตอนนี้รู้สึกว่ารถหนักมากไปเพราะมัวแต่แวะร้านของกินมิได้หยุดหย่อน เปลี่ยนบรรยากาศลงไปเดินย่อยกันบ้าง ว่าแล้วก็ตามหาแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับสายบุญอย่างเรา “วัดอรัญญวิเวกคีรี หรือ วัดพระธาตุจอมผ่อ” คือ สถานที่ที่เหมาะสมดีงามในยามนี้ วัดพระธาตุจอมผ่อเป็นวัดเก่าแก่มาก อายุ 298 ปี โดยประมาณ มิได้ใบ้หวยแต่อย่างใดแค่พูดเฉยๆ วัดพระธาตุจอมผ่อเป็นหนึ่งใน 9 พระธาตุเจ้าจอมของจังหวัดเชียงราย ทางเข้าสองข้างทางเป็นทุ่งนาเขียวขจีข้างหน้ามีฉากเป็นทิวเขาทอดตัวยาวถนนดีราดปูนซีเมนต์ น้ำไฟเข้าถึงแล้ว หากใครมองหาที่สวยๆ แวะซื้อซักแปลงสองแปลงได้ อิ่มอกอิ่มใจกับบุญแล้วเราไปต่อกันดีกว่า 5. เกาเหลาเลือดหมู อ. เวียงป่าเป้า พิกัดhttps://goo.gl/maps/uUHj1hqkD4Q2  แม้จะเป็นสายบุญก็ตามแต่ถ้าท้องหิวเราต้องเติมอาหารก่อนเติมบุญถูกมั้ย ตอบเลยว่าถูก ว่าแล้วออกจากพระธาตุจอมผ่อเราก็เลี้ยวรถย้อนขึ้นมาทางขวามือมุ่งหน้าไปทางขวามือร้านอยู่ตรงข้ามสำนักงานสรรพสามิตเวียงป่าเป้าจอดรถได้ข้างร้านเลย ถ้าที่ไม่ว่างค่อยจอดตรงสรรพสามิต “ร้านเกาเหลาเลือดหมูเวียงป่าเป้า” เปิดมานมนานกาเลแต่ก่อนเปิดทุกวันแต่เดี๋ยวนี้เปิดวันอังคารถึงวันเสาร์เพราะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเหมือนแจกฟรี ถึงแม้จะจั่วหัวร้านว่าเกาเหลาเลือดหมูแต่ขายก๋วยเตี๋ยวปลา ข้าวต้มปลา เกาเหลาลูกชิ้นปลาลวกจิ้มรวม เกาเหลาเจ้านี้เครื่องในใหม่สดสะอาดไม่เหม็นคาว ตับลวกเด้งดึ๋ง ปลาที่เอามาทำก๋วยเตี๋ยวข้าวต้มก็สดใหม่เหมือนเลี้ยงอยู่หลังบ้าน มาเวียงป่าเป้าร้อยรอบต้องแวะ 99 รอบ เพราะรอบที่ร้อยร้านปิด.. แป่ว สอบถามร้านปิด-เปิด เมมเบอร์กันไว้โทรถามได้ 053 648 374 6. วัดแสงแก้วโพธิญาณ พิกัด https://goo.gl/maps/dG7oEv2RYG72  พอท้องอิ่มก็ได้สติมาสะสมแต้มบุญกันอีกครั้ง ออกจากเวียงป่าเป้ามุ่งหน้ามาทาง อ.แม่สรวย วัดอยู่ทางขวามือไม่หลงแน่นอนมีป้ายบอกพร้อมเลี้ยวขวาเข้าไปเลยทางดีเรียบกริบ ทางเข้าว่าเริ่ดแล้วเข้ามาเจอวัดยิ่งอลังการดาวล้านดวงยิ่งกว่า วัดแสงแก้วโพธิญาณมีตำนานการสร้างที่มหัศจรรย์อยู่ อ่านแล้วอยากไปยิ่งนักใช้เวลาสร้างถึง 7 ปีวัดนี้มีจุดเด่นตรงที่เป็นศูนย์รวมของสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายทั้งสายพุทธ สายพราหมณ์ ถือเป็นไฮไลท์ของ อ.แม่สรวย ที่ไม่ไปถือว่าพลาดแรงมาก  สำหรับวันนี้แอดมินก็พาเหล่าออเจ้า ไปตระเวนกิน ตระเวนเที่ยว ได้ครบทั้งสายกินสายบุญรวมเป็นสายกินที่ทำบุญ แอดมินจักต้องขอลาไปก่อน แล้วจักกลับมาใหม่ในไม่ช้า

118 เชียงใหม่-เชียงราย เส้นทางสายชิลล์ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top