สถานที่ท่องเที่ยว

กาดกองต้า (ลำปาง) วันวานยังหวานอยู่

กาดกองต้า (ลำปาง) วันวานยังหวานอยู่ กาดกองต้าถนนคนเดินหรือถนนตลาดจีน เดิมบริเวณนี้เป็นชุมชนทางเศรษฐกิจที่มีอายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ริมน้ำวัง ซึ่งถือเป็นชัยภูมิชั้นดี ต่อมาได้พัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางการค้าขายและส่งผ่านสินค้าสำคัญของเมืองลำปาง ในปี พ.ศ. 2459 ศูนย์กลางการค้าแห่งนี้ถูกลดบทบาทลง เนื่องจากมีการตัดเส้นทางรถไฟสายเหนือมาถึงลำปาง ผู้คนในจังหวัดจึงขยายถิ่นฐานไปตั้งอยู่รอบๆ สถานีรถไฟ ก่อเกิดชุมชนใหม่ที่เรียกว่า “ชุมชนเก๊าจาว” ปล่อยชุมชนกองต้าให้อยู่กับความเงียบเหงา จนในปัจจุบันที่นี่ได้หวนกลับมาเป็นย่านการค้าที่สำคัญอีกครั้ง โดยความตั้งใจของชาวลำปางที่ต้องการอนุรักษ์วันวานและสร้างสีสันให้เมืองนี้น่าเที่ยว ถนนคนเดินกาดกองต้า สองข้างทางเรียงรายด้วยตึกเก่าอันทรงคุณค่า โดยสถาปัตยกรรมเหล่านี้มีทั้งศิลปะตะวันตก พม่า-ไทใหญ่ และจีนซึ่งยังคงได้รับการดูแลรักษาอย่างดี นอกจากจะได้เลือกซื้อหาสินค้าพื้นเมือง สินค้าทำมือ อาหารพื้นบ้าน สินค้าที่ระลึกแล้ว ยังมีการแสดงวัฒนธรรมบนลานกิจกรรมที่พร้อมพาทุกคนย้อนอดีตกลับไปสู่วันวานที่เคยรุ่งเรืองของลำปางอีกครั้ง กาดกองต้าเปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 22.00 น.

กาดกองต้า (ลำปาง) วันวานยังหวานอยู่ อ่านเพิ่มเติม

ร้อนนี้ไป “เลย” เที่ยวนาแห้ว

วันนี้แอดมินจะพามาทำความรู้จักอำเภอนาแห้วให้มากขึ้น แล้วจะรู้ว่าอำเภอนาแห้วไปฤดูไหน ก็ไม่แห้วแน่นอน อำเภอนาแห้วอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดเลย เป็นเมืองที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีความสงบและเรียบง่าย มาอำเภอนี้ไม่ต้องตามหาต้นแห้วให้เหนื่อย เพราะเขาไม่ได้ปลูกแห้วกัน ถ้าเที่ยวช่่วงหน้าฝนและหน้าหนาว จะได้เจอกับทุ่งนาเขียวขจีเต็มสองข้างทาง แต่ถ้าเที่ยวช่วงหน้าร้อนแบบนี้ อาจจะได้เจอกับทุ่งนาสีทองอร่าม บวกกับวิวเทือกเขาสลับซับซ้อน ที่สวยงามไม่แพ้กัน ขอบคุณภาพจาก https://www.thetrippacker.com/ สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอำเภอนาแห้วคือ อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ช่วงหน้าร้อน ที่นี่มีวิวภูเขาสวยๆให้ดู และไม่ต้องไปแย่งมุมถ่ายรูปกับใคร วิวบนภูสวนทรายมันก็จะฟ้าใสๆ ภูเขาเยอะๆหน่อย บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีบ้านพักและเต้นท์ให้บริการ แต่ถ้าใครชอบออกแรง แอดมินแนะนำให้ไปที่ เนิน 1408 บนตีนภูสวนทราย อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,408 เมตร เป็นจุดกางเต็นท์สูงที่สุดในอีสาน ถ้าได้ไปกางเต็นท์ สัมผัสอากาศเย็นๆบนภู พร้อมดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าตรงนั้น โอ๊ยยยย คงจะฟินไม่ใช่น้อย น่าไปขนาดนี้รออะไร ติดต่ออุทยานฯภูสวนทรายได้เลยที่ 042 807 616 , 094 23 92498 หลังจากปีนภูมาเหนื่อยๆ เรามาดับร้อนกันสักหน่อยที่น้ำตกตาดเหือง อยู่ภายในเขตอุทยานภูสวนทรายนี้แหละ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถไปถึงน้ำตกได้เลย น้ำตกตาดเหือง มีความลดหลั่นลงมา 3 ชั้น สูงประมาณ 50 เมตร เป็นน้ำตกที่แบ่งเขตพรมแดนไทย-ลาว จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกไทย-ลาว จุดชมวิวที่น่าสนใจอีกจุดคือ ภูหัวฮ่อม ในช่วงหน้าร้อนคงไม่ได้เจอกับทะเลหมอก แต่อย่าเพิ่งเสียใจไป ยังมีพระอาทิตย์สวยๆยามเช้าให้ดูเป็นขวัญตา เกือบลืมไป!! ที่นี่มีจุดให้กางเต็นท์ให้นอนเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้นด้วยนะ ติดต่อเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯภูหัวฮ่อมตามเบอร์นี้ 086 066 4147 ยัง ยังไม่จบจากเรื่องภูๆ ผาๆ เพราะจังหวัดเลยขึ้นชื่อเรื่องภูเขา แอดจึงไม่อยากให้พลาดที่แห่งนี้ ผาหมวก สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเปิดตัวมาได้ไม่กี่ปี ช่วงหน้าหนาวนักท่องเที่ยวขึ้นมาดูทะเลหมอกกันเพียบ มาช่วงหน้าร้อนนี้สิดี อยากเห็นวิวสวยก็ต้องออกแรงกันนิดหน่อย เดินขึ้นเขาประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างนั้นก็สามารถเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติตลอดสองข้างทางได้ ผาหมวกหน้าร้อนอาจจะเห็นหมอกไม่เยอะ แต่จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นภูเรือและวิวพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ไม่จำเป็นต้องแย่งดูวิวกับใคร ถ่ายรูป โพสท่านานแค่ไหนก็ได้ บริเวณด้านล่างผาหมวกมีที่จอดรถ ลานกางเต็นท์ให้บริการ แต่อาหารและน้ำดื่มต้องเตรียมไปเอง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนาแห้ว เบอร์ 042 897 082 ในเวลาราชการ วัดโพธิ์ชัยนาพึง ตั้งอยู่ในตำบลนาพึง สันนิษฐานว่าสร้างประมาณปลายกรุงศรีอยุธยา มีอายุ 400 กว่าปี ภายในกุฏิเจ้าอาวาสเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์แสน พระพุทธรูปโบราณที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาหลายชั่วอายุคนในช่วงเช้าๆชาวบ้านตะเดินถือตะกร้า ปิ่นโตและพากันมาทำบุญที่วัดแห่งนี้ ภายในและภายนอกวิหารมีจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติและวรรณกรรมท้องถิ่น ซึ่งภาพวาดมีบางส่วนที่เลือนไปบ้าง แต่ส่วนที่เหลือไม่ได้มีการลงสีเพิ่มใดๆ ถือว่าเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว พระพุทธรูปองค์แสน พระพุทธรูปโบราณที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาหลายชั่วอายุคน หอพระไตรปิฎกไม้เก่าแก่ภายในวัดมีลักษณะแปลกตาและสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นหอพระไตรปิฎกที่สูงที่สุดในประเทศไทย  วัดศรีโพธิ์ชัยแสงภา ตั้งอยู่ในตำบลแสงภา สร้างขึ้นพร้อมๆกับวัดโพธิ์ชัยนาพึง พระอุโบสถมีลักษณะคล้ายวัดเชียงของ ที่เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว ภายในประดิษฐานหลวงพ่อเพชรในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์จะมีประเพณีแห่ต้นดอกไม้ที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี

ร้อนนี้ไป “เลย” เที่ยวนาแห้ว อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวสองวัน ณ เมืองสองแคว

คำว่า “สองแคว” มาจาก จ.พิษณุโลกนั้นตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสายคือ แม่น้ำน่าน กับแม่น้ำแควน้อยนั่นเอง เที่ยว สองวัน ณ เมือง สองแควตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวตามแบบเพื่อนร่วมทาง.วันแรก เช้า– วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร– ศาลสมเด็จพระนเรศวร– ศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์.บ่าย– นั่งชิงช้าบนต้นไม้รูปหัวใจ ที่บ้านสวนชมวิว บ้านรักไทย– ชมวิวภูเขาหินปูนล้านปี อ.เนินมะปราง– ชมค้างคาวนับล้านบินออกจากถ้ำ ที่บ้านมุง เนินมะปราง– พักตัวเมืองพิษณุโลก.วันที่สองเช้า– สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ อ.นครไทย– ชมต้นจำปาขาว 700 ปี ที่วัดกลาง อ.นครไทย– ล่องแพแก่งไฮ อ.นครไทย.บ่าย– ร้านกาแฟ Sappraiwan Elephant Cafe– เดินทางกลับ กทม เริ่มต้นกันด้วยการมากราบสักการะบูชาพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของเมืองสองแควอย่าง พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่ชาวเมืองพิษณุโลกเรียกกันว่า วัดใหญ่ หรือ วัดพระศรี .พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศ.ด้านหลังวิหารพระพุทธชินราชเป็นพระปรางค์ประธาน ศิลปสมัยอยุธยาตอนต้น เดิมเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบสุโขทัยแท้ ต่อมาถูกแปลงให้เป็นพระปรางค์ในสมัยอยุธยา .ถ้าเพื่อนๆ ไปอยุธยา กับลพบุรี แล้วยังนึกภาพพระปรางค์ที่สมบูรณ์แบบในอดีตไม่ออก ต้องมาดูที่นี้เลย หลังจากไหว้พระคู่บ้านคู่เมืองสองแควกันแล้ว ก็อย่าลืมมาสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งในอดีตที่นี่เป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และปัจจุบันกรมศิลปากรได้จัดสร้างศาลาทรงไทยโบราณตรีมุข โดยมีพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชขนาดเท่าองค์จริง ประทับนั่งพระหัตถ์ทรงพระสุวรรณภิงคารหลั่งน้ำ ในพระอิริยาบถประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ใกล้ๆกันอีกหนึ่งสถานที่ แนะนำเยี่ยมชมพระราชวังจันทน์พระราชวังโบราณ เป็นสถานที่เสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและเป็นที่ประทับของพระองค์เมื่อทรงดำรงตำแหน่งอุปราช โดยในขณะนั้นเมืองพิษณุโลกมีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของกรุงศรีอยุธยา  นอกจากนี้ยังมีศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ เป็นอาคารจัดแสดงเนื้อหาที่เกียวกับพระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก และพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หลังจากไปเที่ยววัด เที่ยววังกันในช่วงเช้าแล้ว บ่ายๆแบบนี้ไปหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่า…ไปนั่งชิงช้าบนต้นไม้รูปหัวใจชมวิวสวยๆกัน โดยจากตัวเมืองมุ่งหน้าสู่บ้านรักไทย อำเภอเนินมะปราง ชิงช้าต้นไม้ที่ว่านี้อยู่ที่บ้านสวนชมวิว หนึ่งในโฮมสเตย์ของบ้านรักไทย ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาพักโฮมสเตย์ก็สามารถไปนั่งชิงช้าชมวิวได้ นอกจากนั่งชิงช้าต้นไม้ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้ทำ ไม่ว่าจะเป็น โหนสลิงโล้ชิงช้า หรือนั่งรถสามล้อพวงเที่ยวชมวิว ชมวิถีชีวิตชาวบ้านรักไทย ถ้าอยากมาลองนั่งชิงช้าต้นไม้ชมวิวและทำกิจกรรมอื่นๆด้วย ติดต่อได้ที่ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย หมู่บ้านรักไทย ต.ชมภู โทร. 087 207 5736, 061 368 1180 กิจกรรมอีกอย่างที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงอำเภอเนินมะปรางคือ ไปชมวิวภูเขาหินปูนล้านปี ที่บ้านมุง บอกเลยว่าภูเขาสวย อลังการมาก ถ้าให้ดีต้องลองนั่งรถอีแต๊กที่ชาวบ้านบริการหรือนำจักรยานมาปั่นเองในช่วงยามเย็น จะได้สัมผัสบรรยากาศพระอาทิตย์ตก และธรรมชาติที่สวยงามของบริเวณนั้น หากใครอยากลองนั่งรถอีแต๊กชมภูเขาหินปูนล้านปี ติดต่อได้ที่ คุณพิษณุชัย ทรงพุฒิ โทร. 085 400 1727 จบการเดินทางของวันนี้ ด้วยการไปชมค้างคาวนับล้านบินออกจากถ้ำไปหากิน ตอนเวลาประมาณ 18.00 – 19.00 น. แอดมินแนะนำให้ไปตามพิกัดนี้เลย จะเห็นค้าวคาวและวิวภูเขาหินปูนล้านปีได้ชัดเจนที่สุด https://goo.gl/maps/DwAktRAZPQQ2 / พิกัด GPS 16°33’44.4″N 100°41’31.8″E วันที่ 2เดินทางมาสักการะอนุเสาวรีย์พ่อขุนบางกลางหาว ที่ อ.นครไทย.พ่อขุนบางกลางหาว หรือต่อมาคือ เป็นปฐมกษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย ทรงพระนามว่า “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์” ซึ่งบ้านของพระองค์ก่อนจะเป็นกษัตริย์ เชื่อกันว่าอยู่ในบริเวณ อ.นครไทยนี้เอง.เพื่อเป็นการระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์จึงได้มีการสร้างอนุเสาวรีย์พ่อขุนบางกลางหาวขึ้น.นอกจากนั้นยังมีมีต้นจำปาขาวเก่าแก่กว่า 700 ปี โดยมีอนุสาวรีย์พ่อขุนบางกลางหาวอยู่ใต้ต้นจำปาขาว ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นต้นจำปาที่พ่อขุนบางกลางหาวปลูกไว้ สถานที่ถัดมา จะพาไปนั่งชิวๆ รับลมเย็นๆกลางอ่างเก็บน้ำกันกับกิจกรรม “ล่องแพแก่งไฮ” ที่อ่างเก็บน้ำห้วยซำรู้ .อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน ล่องแพไม้ไผ่ แพหนึ่งสามารถนั่งได้ประมาณ 10 คน โดยชาวบ้านจะใช้เรือหางยาวลากแพไปไว้กลางอ่างเก็บน้ำ หลังจากนั้นจะให้แพลอยเรื่อยๆอยู่กลางน้ำ นั่งรับลมเย็นสบายกลางอ่างเก็บน้ำ บนแพจะมีเสื้อชูชีพบริการ .สามารถเล่นกระโดดน้ำหรือ จะเช่าห่วงยางมาเล่นน้ำก็ได้เช่นกัน น้ำที่นี่ใสและสะอาดน่าเล่นมากๆ มีเรือเป็ด เรือเล็กให้เช่า หรืออยากลองนั่งตกปลาก็ทำได้เช่นกัน.ค่าบริการ วันธรรมดา 300/4 ชม. วันหยุด 500/4 ชม.แพเปิดบริการทุกวัน มีบริการตอนกลางคืน คิดค่ากางเต้นนอนท่านละ 100 บาท.โทรศัพท์ : 087-200-9941.การเดินทาง : จากตัวเมืองพิษณุโลก ใช้เส้นทางหมายเลข 12 ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 80 กม. ถึงสามแยกเข้านครไทย เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2013 อีกประมาณ 13 กม. จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านแก่งไฮ ไปอีกประมาณ 7 กม. ถึงอ่างเก็บน้ำห้วยซำรู้ ก่อนกลับเรามาแวะกันร้านกาแฟสุดชิคอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสุดๆ ร้านกาแฟ Sappraiwan Elephant House Lake View Cafe (ทรัพย์ไพรวัลย์) ตั้งอยู่ภายในทรัพย์ไพรวัลย์ แกรนด์โฮเต็ลแอนด์รีสอร์ท จ.พิษณุโลก ที่นี่มาในคอนเซ็ป ” จิบกาแฟ ดูช้างเล่นน้ำ ” ที่นี่มีกิจกรรมร่วมกับช้างในทุกๆวันเสาร์-อาทิตย์ เช่น กิจกรรมทำเเซนวิชให้ช้าง เรียกได้ว่าทั้งอิ่มและสนุก แฮปปี้สุดๆไปเลย ร้านเปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)โทร. 081 533 7288

เที่ยวสองวัน ณ เมืองสองแคว อ่านเพิ่มเติม

ข้าวเหนียวสังขยาหน้าควายลุย

“ข้าวเหนียวสังขยาหน้าควายลุย” ที่ตลาดนัดชุมชนวัดมหาธาตุ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ตลาดนัดชุมชนวัดมหาธาตุ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท “ข้าวเหนียวสังขยาหน้าควายลุย” ที่ตลาดนัดชุมชนวัดมหาธาตุ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท “ข้าวเหนียวสังขยาหน้าควายลุย” ที่ตลาดนัดชุมชนวัดมหาธาตุ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท “ข้าวเหนียวสังขยาหน้าควายลุย” ที่ตลาดนัดชุมชนวัดมหาธาตุ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท

ข้าวเหนียวสังขยาหน้าควายลุย อ่านเพิ่มเติม

ถนนสายดอกไม้ จังหวัดสุพรรณบุรี

“ตาเบบูญ่า” หรือ “เหลืองปรีดียาธร” ถนนสายดอกไม้ยามเย็น ช่วงพระอาทิตย์ตกที่ให้แสงงดงามแปลกตา  ถนนสายดอกไม้ จังหวัดสุพรรณบุรี

ถนนสายดอกไม้ จังหวัดสุพรรณบุรี อ่านเพิ่มเติม

รวม 8 ที่เที่ยวสไตล์สายฮิป…ที่กาฬสินธุ์

อย่างที่รู้กันว่าการเดินทางในภาคอีสานยังไม่ค่อยสะดวกเพราะที่เที่ยวแต่ละที่อยู่ไกลกันแถมรถโดยสารก็ไม่ค่อยมี แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา เราบินมาลงที่ จ.ร้อยเอ็ด แล้วเช่ารถขับเอง จากร้อยเอ็ดไปกาฬสินธุ์แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น มาดูกันว่าเรามาทำอะไรบ้างที่กาฬสินธุ์ 1. เดินดูบ้านไม้เก่าในเมือง เราชอบเดินดูบ้านเรือนตึกเก่า ๆ ถ่ายรูปประตูหน้าต่างสวย ๆ ที่กาฬสินธุ์จะมีย่านวัดกลาง ที่เป็นบ้านไม้เก่าแก่อายุ 80-100 ปี ที่ผู้คนยังอาศัยอยู่ แต่มีบางบ้านก็ร้างไปแล้ว รถราที่นี่ยังไม่เยอะเลยเดินเล่นได้อย่างชิว ๆ ใครอยากมาเดินเล่นให้มาตรงวัดกลางแล้วเดินเล่นรอบ ๆ วัดได้เลย 2. นั่งชิวร้านกาแฟ ในเมืองเล็กๆ เราคิดว่าน่าจะมีร้านกาแฟเก๋ ๆ อยู่ที่ไหนซักที่ เราเดินมาเจอร้าน Cafe de Supak กับร้าน Hug a Mug cafe ซึ่งจัดว่าดีงามทั้งสองร้าน เริ่มที่ Cafe de Supak เป็นร้านเก๋ ๆ อยู่แทบจะใจกลางเมือง ชั้นบนเป็นโรงแรมชั้นล่างทำเป็นร้านกาแฟที่รีโนเวทซะทันสมัย นอกจากกาแฟ แล้วยังมีเมนูทั้งคาวหวาน เค้ก ฮันนี่โทสต์ วันนั้นเราสั่งมัจฉะลาเต้ อร่อยใช้ได้เลยล่ะ ดื่มไปนั่งชิว ๆ ชมวิวนอกร้านแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว  ร้าน Hug a Mug Cafe ร้านกาแฟอีกร้านที่ตกแต่งได้ทันสมัยในสไตล์อิฐสีขาว ๆ หน้าร้านจะประดับด้วยต้นเฟิร์นร่มรื่นเชียวล่ะ ที่นี่มีทั้งขนมเค้ก และเครื่องดื่มหลายเมนูให้เลือก ใครเดินเล่นเมื่อย ๆ แล้วมาหยุดนั่งพักได้ที่ร้านนี้ 3. ซื้อผ้าแพรวา เราชอบสะสมผ้าพื้นเมืองแบบ “ของมันต้องมี” เห็นผ้าไทยที่ไหนไม่ได้ ต้องขอซื้อติดไม้ติดมือกลับมาก่อน ใส่ไม่ใส่ค่อยว่ากัน ยิ่งผ้าไหมแพรวาสวยๆ ผ้าขึ้นชื่อเอกลักษณ์ของกาฬสินธุ์มีหรือเราจะพลาด ร้านที่เราไปชอปในวันนี้ชื่อร้านแพรวาแม่เนื่อง มีแต่ของสวย ๆ ทั้งนั้นเลยล่ะทั้งผ้าผืน เสื้อผ้าสำเร็จรูป ของที่ระลึก มาที่เดียวซื้อไปฝากพ่อแม่เพื่อนฝูงได้ครบเลยล่ะ 4. เดินชิวยามค่ำที่ตลาดโรงสี ตกเย็นเรามาเดินเล่นหาอะไรกินกันที่ตลาดโรงสี โรงสีเก่าที่ตกแต่งให้เป็นตลาดย้อนยุค มีโซนที่ทำเป็นบ้านไม้สองชั้น และโซนเอาท์ดอร์ นั่งกินไปดูวัยรุ่นกาฬสินธุ์ที่ออกมาแฮงเอาท์กันที่นี่ก็เพลินดีเหมือนกัน เมนูที่เราว่าเด็ดมาก ๆ และห้ามพลาดคือ สเต็กหมูย่างจิ้มแจ่วเนื้อนุ่มสุดๆ ฟินจนต้องสั่ง 2 จาน ไดโนเสาร์ปังเย็น โรตีไดโนเสาร์ ก็อยากให้มาลอง 5. เดินดูตลาดเช้า ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านต้องไปที่ตลาดเช้า ตลาดเช้ากาฬสินธุ์มีเสน่ห์เพราะเงิน 100 บาท สามารถซื้ออะไรได้มากกว่าที่คิด ข้าวของราคาถูก ทั้งพืชผักพื้นเมืองแปลก ๆ ผลไม้ อาหารสด อาหารแห้ง เหมือนเราย้อนกลับไปในอดีตที่ไม่ต้องแคร์กับสภาวะเศรษฐกิจที่วุ่นวาย นี่แหละเสน่ห์ของกาฬสินธุ์ที่เราหลงรัก 6. ถ่ายรูปกับฮูปแต้มสีพาสเทล ที่วัดอุดมประชาราษฎร์ วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ที่มีอายุกว่า 85 ปี สร้างโดยช่างชาวญวน และสิ่งที่พิเศษกว่าวัดอื่น ๆ คือ สิมหรือโบสถ์ที่มีจิตรกรรมฝาผนังหรือฮูปแต้มที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวอีสานด้วยฝีมือการแต้มของช่างชาวอีสาน มีการใช้สีเย็นในโทนพาสเทล เช่น สีฟ้า เหลือง เขียว วาดเป็นเรื่องราวชาดก เช่น พระเวสสันดรชาดก บอกเลยว่าผู้ที่รักงานศิลปะไม่ควรพลาด นอกจากจะได้มาไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แล้วยังได้ชมจิตรกรรมฝาผนังสวย ๆ อีกด้วย 7. ไปตามหาไดโนเสาร์ที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร มากาฬสินธุ์ทั้งทีถ้าไม่ไปที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร ภูกุ้มข้าวก็เหมือนมาไม่ถึงเราเดินทางไปที่ อ.สหัสขันธ์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ที่นี่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยเพราะเป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์และฟอสซิลที่สมบูรณ์และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยล่ะ กระดูกไดโนเสาร์ที่ค้นพบที่บริเวณภูกุ้มข้าวนี้มีอายุถึง 130 ล้านปี ไฮไลท์คือโครงกระดูกไดโนเสาร์จำลองขนาดเท่าตัวจริง ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้องจัดแสดง เหมือนพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศเลย เค้ามีการแบ่งโซนไล่ไปตามยุคต่าง ๆ มีทั้งไดโนเสาร์ที่พบในประเทศไทยและต่างประเทศ ฟอสซิลของจริงที่จัดแสดงให้เราได้ดูเพื่อศึกษาถึงประวัติความเป็นมาของไดโนเสาร์ในประเทศไทย แถมมีห้องวิจัยที่ทันสมัยสุด ๆ เดินดูในอาคารพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วอย่าลืมขึ้นไปดูหลุมขุดค้นของจริงที่อยู่บนภูกุ้มข้าว จะได้เห็นกระดูกไดโนเสาร์ของจริงตัวมหึมาที่อยู่ในหลุมขุดด้วย น่าตื่นเต้นมากเลยล่ะ เราว่าเด็ก ๆ ต้องชอบที่นี่แน่ ๆ พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์เวลา 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น อย่าไปผิดวันนะ 8. ถ่ายรูปที่สะพานเทพสุดา จากพิพิธภัณฑ์สิรินธรไปไม่ไกลก็มาถึงสะพานข้ามเขื่อนลำน้ำปาว เป็นสะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าจาก จ.หนองคาย อุดรธานี ผ่านกาฬสินธุ์ ไปสู่มุกดาหารที่สำคัญมากเพราะช่วยย่นระยะทางได้เกือบ 100 กิโลเมตร และชาวกาฬสินธุ์ยังใช้ขนส่งผลผลิตทางการเกษตรไปสู่โรงงานซึ่งอยู่คนละฝั่งของสะพาน ช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งไปได้เยอะทีเดียว พอรู้ถึงสตอรี่ของสะพานก็ดูสวยงามเลอค่ามากขึ้นกว่าเดิมเลยล่ะ แถมยังเป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ ด้วย ยิ่งมาช่วงพระอาทิตย์ตกดินนี่สวยสุด ๆ ไปเลย อย่าลืมไปถ่ายรูปกับพี่ไดโนเสาร์ที่ตีนสะพานนะ  เรามองจากสะพานลงไปจะเห็นแพร้านอาหารลอยอยู่หลายลำในเขื่อน มีนักท่องเที่ยวกระโดดน้ำเล่นกันน่าสนุก เสียดายที่เรามีเวลาน้อยเลยอดเล่นน้ำ กาฬสินธุ์ยังมีที่เที่ยวอีกหลายแห่งที่เหมาะกับชีวิตสโลว์ไลฟ์ เราว่าจริง ๆ แล้วแค่ได้นั่งๆ นอนๆ เดินเล่นใช้ชีวิตง่ายๆ ไปพร้อมกับชาวกาฬสินธุ์ก็ถือว่าได้ Go Local เป็นการชาร์จพลังเติมความบริสุทธิ์ใส ๆ ให้ชีวิตที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ

รวม 8 ที่เที่ยวสไตล์สายฮิป…ที่กาฬสินธุ์ อ่านเพิ่มเติม

ธรรม (ดา) พาไหว้ : พระธาตุประจำปีเกิด 12 ปีนักษัตร

ข้อห้ามควรรู้ก่อนสักการะบูชาพระธาตุ ไม่ควรนำรูปปั้นสัตว์ประจำปีเกิดไปบูชาพระธาตุ เพราะไม่ใช่หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้นไปบริเวณรอบพระธาตุ เนื่องจากในสมัยโบราณมักจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่ฐานเจดีย์ ปีชวด พระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นวัดสำคัญคู่เมืองจอมทอง เป็นที่เคารพสักการะของชาวเหนือโดยทั่วไป และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีชวด วัดพระธาตุศรีจอมทอง เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวาและส่วนอื่นๆ รวม 5 องค์ ซึ่งความพิเศษของพระบรมธาตุที่นี่คือ เป็นพระบรมธาตุเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่เราสามารถมองเห็น สักการะ และอัญเชิญลงมาสรงน้ำในพิธีต่างๆ ได้ เนื่องจากพระบรมธาตุไม่ได้บรรจุไว้ในเจดีย์แต่ประดิษฐานอยู่ในกู่ภายในพระวิหารนั่นเอง  ทุกปีจะมีประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุ ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 เหนือ (ราวเดือนมิถุนายน)  วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.โทร : 053 826 869, 053 342 184 การเดินทางจากเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 วิ่งมาเรื่อยๆ จนเข้าเขตอำเภอจอมทอง วัดจะอยู่ทางซ้ายมือพิกัด : https://goo.gl/maps/p24Q1EehcXo ปีฉลู พระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีฉลู ที่เริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลูเช่นกัน มีความเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีแห่งเมืองหริภุญชัย ภายในบรรจุพระเกศาธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระนลาฎเบื้องขวาและพระศอ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่สามารถมองเห็นเงาพระธาตุในมุมกลับได้อีกด้วย วัดพระธาตุลำปางหลวงเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.30-17.00 น.โทร. 054 328 327 การเดินทางห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 18 กิโลเมตร ตามทางหลวงสายลำปาง-เถิน ถึงหลักกิโลเมตรที่ 586 เลี้ยวเข้าไปจนถึงที่ว่าการอำเภอเกาะคา จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร ถึงทางแยกเข้าอีก 1 กิโลเมตรพิกัด : https://goo.gl/maps/wMGGSc9htvj ปีขาล พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแพร่ ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นราว พ.ศ.1879-1881 เมื่อครั้งพระมหาธรรมราชา (ลิไท) ยังเป็นพระมหาอุปราชครองเมืองศรีสัชนาลัย  ภายในพระธาตุบรรจุพระเกศาธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า ทุกปีจะมีงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น 9 ค่ำ – ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 (ประมาณเดือนมีนาคม) ใช้ชื่องานว่า “งานประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่แห่ตุงหลวง” วัดพระธาตุช่อแฮเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-18.00 น.โทร. 054 599 073-4, 054 599 209 การเดินทางจากตัวเมืองแพร่ ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 1022 (ถนนช่อแฮ) ประมาณ 9 กิโลเมตร https://goo.gl/maps/HWSvJCCGQNB2 ปีเถาะ พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่บนเนินทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน บริเวณศูนย์กลางเมืองน่านเดิม หลังจากที่ย้ายมาจากเมืองปัว พระธาตุแช่แห้งสร้างในสมัยพญาการเมืองเป็นเจ้าผู้ครองนครน่าน เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระมหาชินธาตุเจ้า 7 พระองค์ (พระบรมสารีริกธาตุ) พระพิมพ์เงินและพระพิมพ์ทอง ที่ได้รับพระราชทานจากพระมหาธรรมราชาลิไท เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จไปช่วยสร้างวัดหลวงอภัย (วัดป่ามะม่วง จังหวัดสุโขทัยในปัจจุบัน)  วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวงเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.โทร. 054 601 146 การเดินทางจากตัวเมือง ข้ามสะพานแม่น้ำน่าน ไปตามทางหลวงหมายเลข 1168 (น่าน-แม่จริม) ประมาณ 3 กิโลเมตรพิกัด : https://goo.gl/maps/znEpCM7mQFF2 ปีมะโรง เจดีย์วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ เจดีย์วัดพระสิงห์สร้างราว พ.ศ.1888 ต่อมามีการบูรณะให้สูงใหญ่ขึ้นในสมัยครูบาศรีวิชัย ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระสุมนเถระนำมาจากลังกา และมีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์จากลังกามาประดิษฐานไว้ที่วิหารลายคำในวัดแห่งนี้ด้วย วัดพระสิงห์วรมหาวิหารเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.โทร. 053 416 019, 081 883 8752 การเดินทางวัดพระสิงห์ตั้งอยู่บริเวณคูเมืองด้านใน บริเวณถนนสิงหราชจรดกับถนนราชดำเนินพิกัด : https://goo.gl/maps/XQ9PvXJZVaR2 ปีมะเส็ง วัดโพธารามมหาวิหาร (วัดเจ็ดยอด) จ.เชียงใหม่ เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของเชียงใหม่ สร้างโดยพระเจ้าติโลกราช เมื่อ พ.ศ.1999  เจดีย์เจ็ดยอด มีลักษณะคล้ายกับมหาวิหารโพธิที่พุทธคยาในประเทศอินเดีย โดยเป็นอาคารหรือวิหารที่มียอดเจดีย์ สร้างด้วยศิลาแลง ที่ผนังประดับปูนปั้นรูปเทวดาทรงเครื่อง มีทั้งนั่งขัดสมาธิและยืน งดงามมาก ภายในวิหารประดิษฐานหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปางมารวิชัย สิ่งสักการะสำคัญในวัดคือ ต้นศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่ ซึ่งพระเจ้าติโลกราชได้นำมาจากลังกา ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีมะเส็ง วัดโพธารามมหาวิหาร เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.โทร. 053 221 464, 081 783 8567 การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 11 (เชียงใหม่-ลำปาง) ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นสี่แยกไฟแดงเจ็ดยอด ก่อนถึงสี่แยกรินคำ จะเห็นวัดเจ็ดยอดอยู่ทางขวามือพิกัด : https://goo.gl/maps/RqbeM8gZupF2 ปีมะเมีย พระบรมธาตุบ้านตาก จ.ตาก พระบรมธาตุบ้านตากจำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวดากองในประเทศพม่า โดยสร้างครอบเจดีย์องค์เก่าไว้ ลักษณะเป็นเจดีย์องค์ใหญ่อยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเจดีย์องค์เล็ก 16 องค์ ภายในเจดีย์องค์กลางบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกปีในช่วงวันขึ้น 14 และ 15 ค่ำเดือน 9 ของชาวเหนือ (ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน) จะมีการจัดประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้าเพื่อเป็นการสักการะองค์พระบรมธาตุ และบวงสรวงขอพรเทวดาในการเริ่มฤดูทำนา  วัดพระบรมธาตุบ้านตากเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 – 18.00 น.โทร. 055 591 009 การเดินทางจากอำเภอเมืองตากใช้ทางหลวงหมายเลข 1107 (ตาก-บ้านตาก) ไปประมาณ 35 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1175 ไปประมาณ 1 กิโลเมตร วัดจะอยู่ทางซ้ายมือพิกัด : https://goo.gl/maps/tfcKzvaPydr ปีมะแม พระธาตุดอยสุเทพ

ธรรม (ดา) พาไหว้ : พระธาตุประจำปีเกิด 12 ปีนักษัตร อ่านเพิ่มเติม

ดอยหัวหมด จ.ตาก

ดอยหัวหมด อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ยอดเขาหัวโล้นที่ปกคลุมด้วยต้นหญ้าและไม้ทนแล้ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น เป็นที่มาของชื่อ “ดอยหัวหมด” บ้างก็เรียกว่า “เขาหัวโล้น” ลักษณะเป็นภูเขาหินปูนทอดตัวเป็นแนวยาวหลายลูกติดต่อกัน สามารถชมวิวได้รอบทิศ ไฮไลท์เด่นคือ การชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกในยามเช้า ควรเดินทางมาถึงจุดชมวิวในช่วง 05.00-06.00 น.  ดอยหัวหมดเป็นเนินที่ไม่สูงมากและระยะทางเดินไม่ไกลมากนัก เดินกันได้ชิลๆ เลยล่ะ ดอยหัวหมดมีจุดชมวิว 2 จุด คือ จุดที่ 1 อยู่ที่ กม.9 ต้องเดินเท้าขึ้นเขาซึ่งมีความชันเล็กน้อย ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ทะเลหมอกจุดนี้เป็นจุดที่สวยงามที่สุด  จุดที่ 2 อยู่ที่ กม.10 มีทางแยกซ้ายไปจุดจอดรถ จากนั้นเดินเท้าขึ้นไปบนยอดดอยหัวหมด ระยะทาง 300 เมตร ในฤดูฝนช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม บนดอยหัวหมดจะปกคลุมไปด้วยสีชมพูของดอกเทียนปีกผีเสื้อ ที่บานสะพรั่งสวยงามเต็มทุ่งไปหมด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ในช่วงหน้าฝนเลยจ้า นักท่องเที่ยวต่างพากันขึ้นดอยไปเช็คอินและเก็บภาพกับดอกเทียนปีกผีเสื้อกันเต็มไปหมด การเดินทาง จากตัวเมืองตาก ใช้ทางหลวงหมายเลข 105 (ตาก-แม่สอด) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 96 เปลี่ยนมาใช้ทางหลวงหมายเลข 1090 (แม่สอด-อุ้มผาง) เข้าสู่อำเภออุ้มผาง มุ่งหน้าบ้านปะละทะ บริเวณกิโลเมตรที่ 10-11 จะมีทางแยกซ้ายไปดอยหัวหมด ประมาณ 700 เมตร ถึงจุดจอดรถ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางโทร. 055 577 318, 085 450 8983ททท. สำนักงานตาก โทร. 055 514 341-3

ดอยหัวหมด จ.ตาก อ่านเพิ่มเติม

10 อย่างห้ามพลาด…นครศรีฯ

1. สักการะพระบรมธาตุเจดีย์ ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวนครศรีฯ พระบรมธาตุเจดีย์ เจดีย์ทรงระฆังสีขาวองค์ใหญ่ ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุฯ ยอดเจดีย์หุ้มด้วยทองคำแท้ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า รอบๆ พระบรมธาตุเจดีย์ รายล้อมไปด้วยเจดีย์บริวารองค์เล็กๆ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับตามความเชื่อ  พิกัด : https://goo.gl/maps/T4RrB3J6th72 2. พิพิธภัณฑ์บ้านหนังตะลุง อาจารย์สุชาติ ทรัพย์สิน ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์หนังตะลุงแห่งแรกของไทย ก่อตั้งโดยอาจารย์สุชาติ ทรัพย์สิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน) พ.ศ.2549 ภายในจัดแสดงรูปหนังตะลุงโบราณทั้งของไทยและนานาชาติอายุมากกว่า 100 ปี นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการแกะตัวหนังตะลุง การเชิดหนังตะลุง ซึ่งถือเป็นศิลปะทางวัฒนธรรมที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน  พิกัด : https://goo.gl/maps/Zzxea9PdxuH2 3. หมู่บ้านคีรีวง ออกไปสูดออกซิเจนกันให้เต็มปอด กับหมู่บ้านที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้ ถ้าใครมาเที่ยวหมู่บ้านคีรีวงช่วงนี้ ก็สามารถเช่าจักรยานขี่เที่ยวชมสวนผลไม้รอบๆ หมู่บ้านได้ มีทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ฯลฯ หรือจะหาของซื้อของฝากระดับ OTOP 5 ดาว อย่างผ้ามัดย้อม เครื่องจักสาน น้ำผลไม้ ไวน์ ทุเรียนกวน ฯลฯ  พิกัด : https://goo.gl/maps/n2uJDzpqK8H2 4. ทำของที่ระลึกแนว Art & Craft ผ้าบาติกสวยๆ ในแบบฉบับ D.I.Y หมู่บ้านคีรีวง เรายังอยู่กันที่หมู่บ้านคีรีวง ถ้าของฝากระดับ OTOP 5 ดาวยังไม่พอ แอดแนะนำมาทำของฝากเก๋ๆ ด้วยฝีมือตัวเองกันต่อได้เลย พิกัด : https://goo.gl/maps/n2uJDzpqK8H2 5. อุทยานแห่งชาติเขาหลวง สำหรับสาย trekking ห้ามพลาดกับการพิชิตยอดเขาหลวงนครศรีฯ ยอดเขาที่สูงที่สุดในภาคใต้กับความสูง 1,835 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง เขาหลวงเป็นแหล่งต้นน้ำและแหล่งกำเนิดของแม่น้ำที่สำคัญหลายสายในภาคใต้ มีสภาพเป็นป่าดิบชื้นและป่าดิบเขา พิกัด : https://goo.gl/maps/9Gnjq9X5XBJ2 6. ตลาดเก่า 100 ปี ปากพนัง ตลาดเก่าแก่ ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนและตึกแถวที่สร้างด้วยไม้ ตลาดจะเริ่มขายของตั้งแต่ช่วงบ่าย 3 ถึง 6 โมงเย็น มีขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมลา ถั่ว มัน แห้ว ฯลฯ อาหารทะเลสดๆ กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง รวมไปถึงปลากระบอกแห้ง ของขึ้นชื่อของที่นี่ และของฝากอื่นๆ อีกมากมาย พิกัด : https://goo.gl/maps/4pbT6GEUdkT2 7. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของนครศรีธรรมราช ต้องแวะมาที่นี่เลย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช  ภายในบอกเล่าเรื่องราวของเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ และจัดแสดงโบราณวัตถุที่พบในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ กลองมโหระทึก ภาชนะดินเผา ลูกปัด เทวรูป พระพุทธรูป เครื่องถ้วยสมัยต่างๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศ เครื่องถมเงินถมทอง เครื่องจักสานย่านลิเภา เอกลักษณ์ของนครศรีธรรมราช เครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตของคนภาคใต้ และศิลปะการละเล่นพื้นบ้านของภาคใต้ เช่น หนังตะลุง เป็นต้น พิกัด : https://goo.gl/maps/Rxgau9WYUEF2 8. ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หนึ่งในโครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำเค็ม และปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง โครงการตั้งอยู่กลางแม่น้ำปากพนัง มีสะพานสำหรับสัญจรข้ามไปมา และมีสวนสาธารณะสำหรับออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ พิกัด : https://goo.gl/maps/RqWGCQPA71p 9. ของฝากขึ้นชื่อ เครื่องถมเงินถมทอง เครื่องถมคือ เครื่องเงินที่นำมาแกะสลักลวดลายและลงยาถม ซึ่งก็คือการนำโลหะผสมมาหลอมลงบนลวดลายที่ทำไว้ ยาถมจะเข้าไปตามร่อง เกิดเป็นพื้นสีดำ ทำให้ลวดลายบนเครื่องเงินเด่นชัดและมีความสวยงามยิ่งขึ้น (หากทาสีทองจะเรียกว่าเครื่องถมทอง) นอกจากภาชนะต่างๆ แล้ว ในปัจจุบันได้มีการทำเครื่องถมเป็นเครื่องประดับต่างๆ อีกด้วย เช่น กำไลข้อมือ เป็นต้น  สำหรับใครที่สนใจเยี่ยมชมการสาธิตการทำเครื่องถม สามารถไปชมได้ที่ศูนย์หัตถกรรมอาจารย์นิคม อ.เมืองนครศรีธรรมราช (ตรงข้ามวัดพระมหาธาตุฯ) โทร. 075 346 391 หรือถ้าเพื่อนๆ ต้องการซื้อเครื่องถมไปเป็นของฝากของที่ระลึก นอกจากที่ศูนย์หัตถกรรมอาจารย์นิคมแล้ว ยังสามารถหาซื้อกันได้ที่บริเวณถนนท่าช้าง ในตัวเมืองนครศรีธรรมราชอีกด้วย 10. ขนมกวนขาว ขนมหวานพื้นถิ่น นครศรีธรรมราช ปิดท้ายกันด้วยของหวานพื้นบ้านเมืองคอน…ขนมกวนขาวทำมาจากแป้งข้าวเจ้า ส่วนผสมมีหางกะทิและน้ำปูนใส วิธีทำให้นำไปตั้งไฟอ่อนๆ กวนจนเหนียวได้ที่ จนเนื้อขนมไม่ติดกะทะและมีสีขาวนวล จากนั้นให้ตักใส่ถาดแล้วเกลี่ยให้เรียบ วางทิ้งไว้ให้เย็นแล้วจึงตัดเป็นชิ้นๆ ราดด้วยหัวกะทิ โรยน้ำตาลทรายและถั่วเขียว…รสชาติหวานหอม…เนื้อแป้งนุ่มเนียนลื่นคอ ปัจจุบันหาทานได้ตามร้านขนมจีนชื่อดังในตัวเมืองนครศรีธรรมราช

10 อย่างห้ามพลาด…นครศรีฯ อ่านเพิ่มเติม

น้ำตกคลองลาน ม่านสายธารอันตระการตา

จังหวัดกำแพงเพชร นอกจากจะมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจแล้ว ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม มีภูเขา มีน้ำตกมากมาย ที่เราไปเห็นแล้วจะต้องตะลึง!! วันนี้แอดจะพาไปรู้จักน้ำตกที่นักท่องเที่ยวและชาวกำแพงเพชรนิยมไปเที่ยว นั่นก็คือ “น้ำตกคลองลาน” ในอุทยานแห่งชาติคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร นั่นเอง ที่นี่มีความน่าสนใจยังไง อ่านต่อในโพสต์ได้เลย น้ำตกคลองลาน ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติคลองลาน ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุม 2 อำเภอ คือ อำเภอคลองลาน และอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อเดินทางไปถึงสามารถมองเห็นน้ำตกได้จากลานจอดรถเลย จากจุดนี้เดินเข้าไปไม่กี่ร้อยเมตร เราก็จะถึงน้ำตกแล้ว น้ำตกคลองลาน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 300 เมตร ระหว่างทางเดินเข้าไป จะสัมผัสได้ถึงธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้ดูเขียวชอุ่มชุ่มชื่น แต่อย่ามัวชื่นชมธรรมชาติเพลินจนลืมมองทางเดินล่ะ เดี๋ยวลื่นล้มแล้วจะหาว่าแอดไม่เตือนนะ ^^ บริเวณน้ำตกไม่อนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไป แต่เค้าก็ได้จัดโซนที่นั่งรับประทานอาหารไว้ให้อย่างเป็นสัดส่วน อยู่ริมลำธารเลย บรรยากาศดีมากๆ เดินมาไม่นาน ก็เจอกับน้ำตกคลองลานแล้ว อยากให้ทุกคนได้มาเห็นกับตามากๆ เพราะสวยจริงๆ สวยมากๆ เลยล่ะ น้ำตกคลองลานเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ไหลลงมาจากหน้าผาสูง 100 เมตร กว้าง 40 เมตร เกิดจากเทือกเขาขุนคลองลาน และยังเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำหลายสาย ได้แก่ คลองขลุง และคลองสวนหมาก บริเวณนี้สามารถเล่นน้ำได้ และส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวก็จะนิยมเล่นกันตรงนี้แหละ น้ำใส ไหลเย็น สดชื่นน >< แต่ถ้ายังไม่ชื่นฉ่ำหนำใจ ก็สามารถเดินเข้าไปเล่นน้ำใกล้ๆ น้ำตกได้เหมือนกัน เพราะบริเวณนั้นเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ลงไปว่ายน้ำได้  เอาภาพมายืนยันว่า สามารถลงไปเล่นน้ำใกล้ๆ น้ำตกได้จริงๆ นะ >< บริเวณน้ำตกคลองลาน มีบ้านพัก จุดกางเต็นท์ ห้องน้ำ และร้านค้าคอยให้บริการ อุทยานแห่งชาติคลองลาน เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.30 – 16.30 น. ค่าธรรมเนียมชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติคลองลาน โทร. 055 766 022-3, 088 407 9915  การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านนครสวรรค์มาประมาณ 17 กิโลเมตร ถึงหนองเบนจะมีทางแยกซ้ายมือเข้าอำเภอลาดยาว จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 1072 (ลาดยาว-คลองลาน) ระยะทาง 102 กิโลเมตร ถึงสี่แยกตลาดคลองลานตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ พิกัด : https://goo.gl/maps/7qjLw1QuLFJ2

น้ำตกคลองลาน ม่านสายธารอันตระการตา อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top