ภูเก็ต

มาตรการการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต (เผยแพร่ วันที่ 29 พ.ค. 2564)

เผยแพร่บน Facebook : สำนักงาน ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2920/2564 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 เรื่อง กำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019.งดหรือหลีกเลี่ยงเข้าจังหวัดภูเก็ต ทางด้านตรวจท่าฉัตรไชย ช่องทางน้ำ ท่าเรือ ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ต้องเป็นผู้เดินทางเข้าพื้นที่ จ.ภูเก็ต ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือได้รับฉีดวัคซีนAstraZeneca ครบ 1 เข็ม หรือผู้ที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน หรือได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่เกิน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับตรวจ – หากไม่มีเอกสารดังกล่าว ต้องเข้ารับการกักตัวในที่พัก (Home / Hotel Quarantine) 14 วัน– ผู้เดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตชั่วคราว หรือผู้ขนส่งสิ่งจำเป็นไม่เเวะค้างคืน ต้องมีหนังสือรับรองการเดินทางหนือรับรองการขนส่งสินค้า เพื่อเเสดงแก่เจ้าหน้าที่.มาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ผู้เดินทางเข้าพื้นที่ จ.ภูเก็ต อายุ 5 ปีขึ้นไป เดินทางเข้าทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือได้รับฉีดวัคซีนAstraZeneca ครบ 1 เข็ม หรือผู้ที่หายจากการติดเชื้อโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน  หรือได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่เกิน 7 วัน – ดาวน์โหลด แอปฯ “หมอชนะ” และลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.gophuket.com ของผู้เข้าพัก เพื่อแจ้งข้อมูลเดินทางเข้าจังหวัด – กรณีเข้าพักในโรงแรม ให้ผู้ประกอบการจัดทำบันทึกการติดจามผู้เดินทางรายบุคคลของผู้เข้าพัก ส่งรายงานแก่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล,อำเภอ) ในพื้นที่ตั้งโรงแรม– กรณีพักอาศัยในบ้าน ให้เจ้าบ้าน จัดทำบันทึกการติดตามผู้เดินทางรายบุคคลของผู้เข้าพัก ส่งรายงานแก่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล,อำเภอ) .ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19  (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด.ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงาน ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต http://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=898705320688936&id=142552029637606&_rdc=1&_rdr

มาตรการการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต (เผยแพร่ วันที่ 29 พ.ค. 2564) อ่านเพิ่มเติม

การลงทะเบียนรับวัคซีนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต (เผยแพร่ วันที่ 22 พ.ค. 2564)

เผยแพร่บน Facebook : ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ประกาศจากจังหวัดภูเก็ต เรื่องการลงทะเบียนรับวัคซีนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต .1. ภูเก็ตต้องชนะจะปิดการลงทะเบียนรับวัคซีนสำหรับคนไทย วันที่ 5 มิถุนายน 2564– ผู้ที่มีทะเบียนบ้านต่างจังหวัดที่ได้คิวแล้ว สามารถเข้ามารับวัคซีนได้เลย – ผู้ที่มีทะเบียนบ้านต่างจังหวัดที่ลงทะเบียนแล้วแต่ยังไม่จองวันจะจองวันไม่ได้แล้ว – ผู้ที่มีทะเบียนบ้านต่างจังหวัดจะลงทะเบียนใหม่ให้ลงผ่านนายจ้าง, ที่ว่าการอำเภอ, อบต. หรือ เทศบาล เท่านั้น  2. ภูเก็ตต้องชนะจะปิดการลงทะเบียนรับวัคซีนสำหรับชาวต่างชาติ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ปัจจุบันเปิดให้ลงทะเบียนชาวต่างชาติที่มี Work Permit โดยจำเป็นลงทะเบียนผ่านระบบองค์กรทุกประเภทกิจการที่จดทะเบียนในจังหวัดภูเก็ต สามารถเลือกเวลารับวัคซีนในวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 – กำหนดรับวัคซีนวันที่ 30 พฤษภาคม 2564– ลูกจ้างต่างชาติในบ้าน ให้นายจ้างขึ้นทะเบียนองค์กร ระบุข้อมูลนายจ้างตามใบอนุญาตทำงาน (บัตรเขียวด้านหลังบัตรชมพู) ระบุประเภทผู้มีลูกจ้างในครัวเรือน– ส่วนชาวต่างชาติที่ไม่มี Work Permit ยังลงทะเบียนไม่ได้ .สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องระบบการฉีดวัคซีน Line : @phuketwinข้อมูลจาก ภูเก็ตต้องชนะ 22/05/64 เวลา 18:00น.                              ———————————————– ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 อย่างเป็นทางการของจังหวัดภูเก็ต (Official COVID-19 Information Center Phuket) เพื่อป้องกันข่าวปลอมหรือข่าวที่ทำให้เกิดการแตกตื่นตระหนก ท่านสามารถติดตามข่าวสารโควิด-19 อย่างเป็นทางการของจังหวัดภูเก็ตได้จากอีก 2 ช่องทางหลัก ปชส. จังหวัดภูเก็ต และ สสจ.ภูเก็ต.สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมควบคุมโรค 1422 หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตโทร. 09 4593 8876, 06 2243 5116.สนับสนุนโดย จังหวัดภูเก็ต, องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต, สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต, บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด . ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต http://www.facebook.com/phuketinfocenter/photos/a.109486044039914/311424420512741/

การลงทะเบียนรับวัคซีนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต (เผยแพร่ วันที่ 22 พ.ค. 2564) อ่านเพิ่มเติม

มาตรการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตโดยท่าอากาศยาน (เผยแพร่ วันที่ 18 พ.ค. 2564)

เผยแพร่บน Facebook : CAAT – The Civil Aviation Authority of Thailand วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 มาตรการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตโดยท่าอากาศยาน.ผู้โดยสารสายการบินจะถูกปฏิเสธการเดินทางไปยังภูเก็ต หากฉีดวัคซีนไม่ครบหรือไม่มีเอกสารการตรวจหาเชื้อโควิด-19.ก่อนหน้านี้จังหวัดภูเก็ตได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีการตรวจสอบ Rapid Test ที่ท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต แต่ล่าสุดตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อได้ยกเลิกกระบวนการดังกล่าวแล้ว. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ผู้โดยสารที่จะเดินทางโดยสายการบินต้องแสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่สายการบินตั้งแต่ท่าอากาศยานต้นทาง โดยเป็นหลักฐานการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือเอกสารยืนยันว่าได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Rapid Test ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และมีผลตรวจเป็นลบหากไม่สามารถแสดงหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้โดยสารจะถูกปฏิเสธการเดินทางโดยสายการบิน. นอกจากนี้ ก่อนเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตยังต้องดำเนินการ ดังนี้ 1. ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟนและยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง ตลอดเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต 2. ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com. ทั้งนี้ เป็นไปตามมติของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต และเพื่อให้การเดินทางของผู้โดยสารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบประกาศของทางจังหวัดปลายทางก่อนการเดินทางเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดปลายทางได้อย่างถูกต้องและมีความสะดวกในการเดินทาง . รวมถึงขอให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด. ติดตามประกาศและมาตรการอื่นเพิ่มเติมที่ https://www.caat.or.th/th/archives/57973 กรมควบคุมโรค 1422 หรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต โทร 09 4593 8876, 06 2243 5116 ขอบคุณข้อมูลจาก CAAT – The Civil Aviation Authority of Thailand http://www.facebook.com/caat.thailand/photos/a.571511166344923/1924801471015879

มาตรการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตโดยท่าอากาศยาน (เผยแพร่ วันที่ 18 พ.ค. 2564) อ่านเพิ่มเติม

มาตรการเข้า-ออก จังหวัดภูเก็ต (เผยแพร่ วันที่ 14 พ.ค. 2564)

เผยแพร่บน Facebook : ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 มาตรการเข้าออกภูเก็ต ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2645/2564 และ คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2617/2564 เรื่อง มาตรการเข้มข้นยกระดับการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 —————————————————————————— . คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2645/2564 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติม คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่  2617/2564 มาตรการเข้มข้นยกระดับการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 . สาระสำคัญ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต จึงแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 1 และข้อ 1 (1) ของคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2617/2564 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ดังนี้   ข้อ 1 การงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทาง ปิดช่องทางบก ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ช่องทางน้ำ ท่าเรือ ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ห้ามบุคคลและยานพาหนะ ทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต เว้นแต่   (1) เป็นบุคคลที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Rapid Test ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง นั้น   ในกรณี ที่ไม่สามารถดำเนินการตามข้อ 1 (1) ได้ ให้เข้ากับการกักกันตัวเป็นระยะเวลา 14 วันโดยเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อออกคำสั่งให้กักกันตัวในที่พักอาศัย (Home Quarantine) และให้อยู่ในการติดตามดูแล ของเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล, เทศบาล, อบต.) ตลอดระยะเวลาที่กักกัน . นอกจากที่แก้ไขเพิ่มเติมให้คงเดิมตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2617/2564 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 .   อนึ่งเนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 .   หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ . ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง . สั่ง ณ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2564 . นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต . —————————————————————————— . คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่  2617/2564 เรื่อง เพิ่มมาตรการเข้มข้นยกระดับการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 . สาระสำคัญ . ข้อ 1 การงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทาง ปิดช่องทางบก ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ช่องทางน้ำ ท่าเรือ ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ห้ามบุคคลและยานพาหนะ ทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต  เว้นแต่  (1) เป็นบุคคลที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen Rapid Test ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง และ (2) เป็นผู้ขับขี่และผู้ที่เดินทางมากับยานพาหนะ ดังต่อไปนี้   (2.1) รถขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อการดำรงชีพ สินค้าทางการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์ที่จำเป็น   (2.2) รถขนส่งยา วัสดุอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ทางการแพทย์   (2.3) รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยฉุกเฉิน กู้ชีพ กู้ภัย   (2.4) รถขนส่งแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง พลังงาน   (2.5) รถขนส่งเงินของธนาคาร สถาบันทางการเงิน   (2.6) บุคคลผู้ได้รับคำสั่งจากส่วนราชการให้มาปฏิบัติภารกิจจำเป็นเร่งด่วน   (2.7) รถขนส่งสิ่งจำเป็นเพื่อจัดทำบริการสาธารณะ หรือกิจการประเภทที่มีความจำเป็นเร่งด่วน        (2.8) รถขนส่งวัสดุก่อสร้าง พัสดุและสิ่งพิมพ์ ต้องกำหนดเวลาในการเข้า โดยให้อยู่ในการพิจารณาของผู้บัญชาการเหตุการณ์ด่านตรวจภูเก็ตหรือผู้ได้รับมอบหมาย                (2.9) ผู้ขับขี่และผู้ที่เดินทางมากับยานพาหนะส่วนบุคคล ที่มีคุณสมบัติตามข้อ 1 (1) . โดยให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะและผู้ที่เดินทางมากับรถดังกล่าว ต้องมีหนังสือรับรองความจำเป็นในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต หรือมีใบแจ้งประเภทสินค้าเป็นหลักฐาน เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ และกรณีเข้าพักในโรงแรม หรือสถานที่พักอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายโรงแรม พักอาศัยในบ้าน หรือเดินทางชั่วคราวไม่พักค้างคืนให้ถือปฏิบัติตามข้อ 2 . ข้อ 2

มาตรการเข้า-ออก จังหวัดภูเก็ต (เผยแพร่ วันที่ 14 พ.ค. 2564) อ่านเพิ่มเติม

“กี่จ่าง” ขนมอร่อยหาทานยาก

“กี่จ่าง” ขนมอร่อยหาทานยาก กี่จ่าง หรือ ขนมจ้าง ทำมาจากข้าวเหนียว วิธีการทำในปัจจุบันอาจจะมีการประยุกต์ปรับเปลี่ยนสูตรกันบ้าง แต่วิธีการดั้งเดิมนั้นเริ่มจากนำข้าวเหนียวไปแช่น้ำด่าง ประมาณ 3 วัน (ซึ่งน้ำด่างนั้นได้มาจากการนำเปลือกทุเรียนหรือเปลือกนุ่น ที่ผ่านการเผาจนเป็นขี้เถ้าแล้วมาผสมน้ำ ตั้งทิ้งไว้จนตกตะกอน แล้วกรองเอาน้ำใส ๆ มาใช้) หลังจากนั้นนำข้าวเหนียวที่แช่ไว้ไปล้างให้สะอาด ให้ข้าวเหนียวสะเด็ดน้ำ แล้วนำมาห่อเป็นทรงสามเหลี่ยมด้วยใบไผ่สด มัดด้วยเชือกปอ จากนั้นก็นำไปต้มราว ๆ 3 ชั่วโมง ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย กี่จ่างมีรสจืด เนื้อมีลักษณะใสและเหนียวนุ่ม เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การทานคู่กับน้ำตาลทราย นำกี่จ่างมาจิ้มหรือคลุกลงบนน้ำตาลทราย ทานคู่กับกาแฟหรือชาเป็นอาหารว่าง…อร่อยเลิศ!!! สำหรับใครที่อยากลองทานขนมกี่จ่าง…ในวันที่ 18-19 สิงหาคมนี้ สามารถตามไปชิมกันได้ที่งาน “สุขทุกวัน วิถีจันทบูร” ณ ตลาดทุบหม้อ วัดพลับบางกะจะ จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. นอกจากจะไปหาชิมขนมกี่จ่าง ขนมโบราณ ขนมแปลกต่างๆ แล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น การแสดงจากศิลปินชื่อดัง จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงกิจกรรมเล่นเกมส์สนุกๆ ลุ้นรับของรางวัลเพียบอีกด้วย

“กี่จ่าง” ขนมอร่อยหาทานยาก อ่านเพิ่มเติม

กาแฟใน..ร้านหนัง(สือ) ๒๕๒๑

ร้านหนัง(สือ) ๒๕๒๑ Bookhemian ตั้งอยู่ริมถนนถนนถลาง ย่านเมืองเก่าภูเก็ต รอบๆ ก็เต็มไปด้วยตึกเก่าที่เป็นทั้งร้านค้า ร้านกาแฟ ที่พักต่างๆ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินเที่ยวตามย่านตึกเก่าเมืองภูเก็ต บริเวณโดยรอบของร้านเต็มไปด้วยตึกเก่าเรียงรายติดๆ กัน ถึงจะหน้าตาคล้ายๆ กัน แต่ตึกแต่ละหลังก็มีรายละเอียด ลวดลาย สีสันที่ต่างกันไป สำหรับคนชอบตึกเก่าแล้ว เรียกว่าพลาดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้เลยค่ะ บรรยากาศภายในร้านมีมุมสำหรับสั่งชากาแฟหรือขนมต่างๆ ด้านข้างจัดเรียงเป็นมุมจำหน่ายหนังสือ โปสการ์ด ของที่ระลึกเก๋ๆ โดยเแต่ละมุมจะจัดแยกเป็นโซนอย่างชัดเจน ด้านหลังเป็นส่วนของที่นั่ง ชั้นหนังสือ และโซนแกลอรี่จะอยู่ชั้นบน หลังจากสั่งเครื่องดื่มหน้าร้านแล้ว เดินเข้ามาด้านหลังจะเจอกับชั้นหนังสือที่สูงจรดเพดาน มีหนังสือหลากหลายไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรม สารคดี เรื่องสั้น ฯลฯ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หนังสือทั่วไป หนังสือหายาก หนังสืออินดี้จากสำนักพิมพ์เล็กๆ ก็มีให้เลือกอ่านกัน ในโซนด้านหลังร้านนี้ก็จัดเป็นที่นั่งเย็นสบาย สงบ อ่านหนังสือไปจิบกาแฟไปยาวๆ เลยจ้า ทางร้านได้ออกแบบให้เป็นสไตล์ดิบๆ เปิดให้เห็นอิฐเก่าของตัวตึก และยังมีของเก่าของสะสมมาเรียงโชว์ให้ความคลาสสิคสุดๆ ถ่ายรูปกันรัวๆ เลยค่ะ เมนูมีหลากหลายให้ได้มาลอง มีแก้วกาแฟสวยๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน นอกจากเครื่องดื่มก็มีอาหารให้อิ่มท้องกันด้วย เรียกได้ว่าของคาวของหวานที่นี่มีครบค่ะ

กาแฟใน..ร้านหนัง(สือ) ๒๕๒๑ อ่านเพิ่มเติม

บาบ๋า เปอรานากัน (BABA PERANAKAN)

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : บาบ๋า เปอรานากัน (Baba Peranakan) ชุดเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับของชาวบาบ๋า เปอรานากัน ในพิธีมงคลสมรส

บาบ๋า เปอรานากัน (BABA PERANAKAN) อ่านเพิ่มเติม

ภูเก็ต…เด็ดสะระตี่ ไปกี่ทีไม่มีเบื่อ

คนส่วนใหญ่รู้จักภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติที่งดงาม หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลสีคราม แต่อาจลืมไปว่าตัวเมืองเก่าภูเก็ตนั้นก็มีอาคารเก่าแก่นับร้อยปีที่เรียงรายกันอยู่อย่างสวยงาม ผสมผสานกับ Steet Art เก๋ๆ ทันสมัย รวมถึงอาหารการกินที่ยังความเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นหาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว ร้านจ่วนเฮี้ยง ติ่มซำ 100 ปี ลงเครื่องมาปุ๊ป เราก็ตรงดิ่งมาหาอาหารเช้าลงท้องกันที่ร้านจ่วนเฮี้ยง ร้านติ่มซำเก่าแก่เปิดมาร้อยกว่าปี นอกจากติ่มซำที่รสชาติกลมกล่อมแล้ว ทีเด็ดอีกอย่างก็คือ น้ำจิ้มที่เข้มข้นและเผ็ดนิดๆ ช่วยทำให้ติ่มซำอร่อยยิ่งขึ้น ที่ตั้ง : หมู่บ้านภูเก็ตแอททาวน์ 2 ถ.พูนผล ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองเปิดทุกวัน เวลา 06.00-10.00 น. โทร. 076 216 271 หลังจากเติมพลังกันกับติ่มซำสุดอร่อยแล้ว เราก็ไปสถานที่แรกกันเลย นั่นก็คือ “พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว” ตึกเก่าสไตล์ชิโน-ยูโรเปียนแห่งนี้ ในอดีตคือโรงเรียนสอนภาษาจีนแห่งแรกในภูเก็ต สร้างเมื่อ พ.ศ.2477 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวของชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองภูเก็ต ที่หน้าจั่วของอาคารมีปูนปั้นรูปค้างคาวสีแดงประดับอยู่ ซึ่งค้างคาวถือเป็นสัตว์มงคลของจีน สื่อความหมายถึงการรู้หนังสือ นับเป็นอนุสรณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้เราได้ระลึกถึงอดีตของอาคารเก่าแก่แห่งนี้ที่เคยเป็นโรงเรียนมาก่อนนั่นเอง ภายในจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจจำนวน 14 ห้อง เริ่มตั้งแต่การเดินทางมายังภูเก็ตของชาวจีนโพ้นทะเล การรวมกลุ่มกันของชาวจีนเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประวัติการก่อตั้งโรงเรียนสอนภาษาจีนไทยหัว สถาปัตยกรรม วิถีชีวิตของชาวภูเก็ตในอดีต การทำเหมืองแร่ เครื่องแต่งกาย ประเพณี พิธีกรรม วัฒนธรรมการกินของชาวภูเก็ต รวมทั้งมีการจำลองบรรยากาศห้องเรียนในอดีตด้วย การจัดแสดงมีการใช้ภาพถ่าย วีดิทัศน์ รวมทั้งหุ่นจำลองต่างๆ มาช่วยให้การเรียนรู้อดีตเป็นไปอย่างสนุกสนานและเข้าใจง่าย ยิ่งมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญคอยให้ความรู้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ประวัติศาสตร์ไม่เป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป  เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 50 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาทโทร. 076 211 224 พิกัด : https://goo.gl/maps/acGPMEqiXMS2 สายๆ มาหลบแดดกันที่ร้าน กาล-เว-ฬา “นำพาให้เรามาเจอกัน” คาเฟ่ชื่อเก๋กลางเมืองภูเก็ต และยังเป็น Boutique Hotel อีกด้วย ตึกเก่า 3 ชั้น ที่ภายในดัดแปลงให้มีความโมเดิร์น ดูทันสมัยแต่ก็แฝงไปด้วยความวินเทจ บรรยากาศสบายตา จิบชากาแฟนั่งชิลกันสักแป๊ป แล้วค่อยไปลุยกันต่อ  ที่ตั้ง : 54/4 ถนนเยาวราช ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง (สี่แยกไฟแดงถนนถลางตัดกับถนนเยาวราช)เปิดทุกวัน เวลา 08.00-19.00 น.โทร. 083 645 3365, 098 535 6191พิกัด : https://goo.gl/maps/jqNeAVj2ULv ถัดมาก็คือ Street art สุดเก๋ ที่มีอยู่มากมาย กระจายตัวกันอยู่ในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ถ้าลองได้เดินเล่นอยู่ในย่านเมืองเก่าละก็ รับรองว่าจะต้องเจออย่างน้อยซักรูปสองรูป ว่าแล้วก็ถ่ายรูปไปโพสต์ลงเฟสบุ๊กอวดเพื่อนกันเบาๆ ถ่ายรูปเสร็จ แวะไปกิน หมี่หุ้นกระดูกหมูเส้นหมี่สีขาว เหนียวนุ่ม นำมาผัดกับซีอิ้วและปรุงรสจนได้ที่ จากนั้นโรยด้วยต้นหอมซอยและหอมเจียว ทานคู่กับซุปกระดูกหมูร้อนๆ อร่อยเข้ากันมากๆ ชาวภูเก็ตนิยมทานเป็นมื้อกลางวันและมื้อเย็น พิกัดความอร่อย  หมี่หุ้นป้าฉ่าง (จี้ใจ บางเหนียว)ที่อยู่ : ซอยตะกั่วทุ่ง ตรงข้ามศาลเจ้าผ้อต่อก้ง อำเภอเมืองเปิดทุกวัน เวลา 14.00-20.00 โทร. 085 786 8656 จากนั้นนั่งรถกันยาวๆ มาที่ จุดชมวิวสามอ่าว เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นได้ทั้งสามอ่าว ได้แก่ หาดป่าตอง อ่าวกะตะ และอ่าวกะรน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเช็คอินและถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ พิกัด : https://goo.gl/maps/VVEAPi6rv9U2 มาถึงไฮไลท์ของภูเก็ต ที่ถ้าไม่ได้มาเยือนก็เหมือนมาไม่ถึง นั่นก็คือ “แหลมพรหมเทพ” เป็นหน้าผาที่ยื่นลงไปในทะเล นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาชมกันในช่วงเย็น  นอกจากแหลมพรหมเทพจะเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแล้ว ในยามพระอาทิตย์ตกดินก็ยังเป็นช่วงที่บรรยากาศสุดจะโรแมนติกอีกด้วย จากจุดจอดรถเดินไปถึงตรงบริเวณทางลงไปยังแหลมพรหมเทพใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที พิกัด : https://goo.gl/maps/j7sZnMoiVYq จบทริปของวันแรกด้วยการไปทานมื้อเย็นที่ร้านวันจันทร์ ร้านนี้เป็นร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ที่ปรับรสชาติให้ถูกปากชาวต่างชาติและคนต่างถิ่นอย่างเราๆ ให้ทานได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ต้องกลัว ความอร่อยยังอยู่ครบถ้วน  เมนูเด็ดของทางร้านคือ หมี่หุ้นแกงปู น้ำพริกกุ้งเสียบ หมูฮ้อง ไข่เจียวปูเนื้อฟูๆ ที่ตั้ง : ถนนเทพกระษัตรี อำเภอเมืองเปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 076 355 909 บรรยากาศยามค่ำคืน ตามตึกเรือนบ้านช่องจะเปิดไฟประดับตัวอาคาร ทำให้เกิดแสงสีที่สวยงามน่าประทับใจ ได้อีกบรรยากาศที่แตกต่างไปจากตอนกลางวัน ถ้าไปวันเสาร์หรืออาทิตย์ บริเวณถนนถลางจะมีร้านค้าต่างๆ ตั้งขายสินค้ากันตลอดเส้น มีของให้เราจับจ่ายซื้อหาไปฝากเพื่อนๆ หรือคนที่บ้านได้อย่างหลากหลาย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เริ่มเช้าวันที่สองกับร้านขนมจีนป้ามัย ที่มีน้ำขนมจีนรสชาติเข้มข้นให้เลือกหลากหลาย เช่น น้ำยาปลา น้ำยาปู แกงเนื้อ น้ำยาป่า(ไม่ใส่กะทิ) น้ำพริก และน้ำชุบหยำ ที่รสชาติเหมือนน้ำพริกกะปิ หาทานได้เฉพาะภาคใต้เท่านั้น ที่ตั้ง : ระหว่างถนนสตูลและถนนดีบุก ใกล้กับบ้านชินประชาเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-12.00 น. (ส่วนใหญ่จะหมดก่อนเที่ยง)โทร. 076 258 037, 086 690 3375พิกัด : https://goo.gl/maps/mEob1Gxd8sx สถานที่แรกที่เราจะพาไปในวันนี้ก็คือ บ้านชินประชา เดิมเป็นบ้านของพระพิทักษ์ชินประชา (ตันม่าเสียง)  เป็นบ้านที่สร้างในสไตล์ชิโน-โปรตุกีสหลังแรกของภูเก็ตสร้างโดยพระพิทักษ์ชินประชา เมื่อ พ.ศ.2446 ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่ก็ยังคงเป็นที่พำนักของทายาทตระกูล “ตัณฑวณิช” เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ภายในบ้านเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษที่นำมาจากเมืองจีน ส่วนวัสดุอื่นของบ้านนั้นนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น กระเบื้องปูพื้นจากอิตาลี เป็นต้น เพราะการค้าขายทางเรือผ่านเกาะปีนังมายังภูเก็ตในสมัยนั้นเจริญรุ่งเรือง  เปิดทุกวัน เวลา 10.00-16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท / ชาวต่างชาติ 150 บาทพิกัด : https://goo.gl/maps/xsbb19jTcJU2 แวะนั่งชิลๆ กันที่

ภูเก็ต…เด็ดสะระตี่ ไปกี่ทีไม่มีเบื่อ อ่านเพิ่มเติม

LET’S HAVE FUN ” PHUKET ” :)

เข้าสู่ปลายเมษาหน้าร้อนพร้อมกับสายลมอ่อนๆ ท่ามกลางความร้อนระอุของแสงแดดที่พร้อมจะแผดเผาเราได้ทุกเวลา แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่มีสิ่งใดจะหยุดยั้งความสุขในการเดินทางครั้งนี้อย่างแน่นอน…กับสวรรค์เมืองใต้ แดนไข่มุกแห่งทะเลอันดามัน “ภูเก็ต” ถ้าพูดถึงภูเก็ตคงไม่มีใครไม่นึกถึง หาดทรายขาว น้ำทะเลใส การได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่มีชื่อเสียง แต่ทริปนี้เราจะมาเปลี่ยนบรรยากาศ ท่องเที่ยวในเมืองแบบ Chic Chic Cool Cool เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน โดยออกเดินทาง จากกทม.เย็นวันที่ 24 เมษายน พวกเราใช้บริการของบริษัทขนส่ง กรุงเทพฯ-ภูเก็ต เมื่อนาฬิกาไปบรรจบกันที่เวลา 18.30 น. ก็ได้เวลาออกเดินทาง On the way to PHUKET หลับๆตื่นๆอยู่บนรถทัวร์รู้สึกตัวอีกทีเป็นเวลา 7 โมงเช้า กว่า 12 ชั่วโมงจากกรุงเทพ – ภูเก็ต จขกท.ตื่นมาพบกับสะพานสารสิน สะพานเชื่อมระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดภูเก็ต สถานที่ที่เป็นตำนานความรักของหนุ่มสาวที่ไม่สมหวังและท้ายสุดเลือกที่จะจบชีวิตที่สะพานแห่งนี้ บรรยากาศเวลา 7 โมงเช้า แสงแดดอ่อนๆกระทบกับพื้นผิวของน้ำทะเล ทำให้น้ำทะเลกลายเป็นสีขาวประกายมุก ชวนมองไปอีกแบบ ประมาณ 7.30 น.ก็ถึงสถานนีขนส่งจังหวัดภูเก็ต พวกเราทั้งหมด 5 ชีวิตเหมารถแท็กซี่ลงที่โรงแรมชิโนเทล ในตัวจังหวัด เป็นโรงแรมแนวบูติก ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก อยู่ใกล้ตลาดสดดาวน์ทาวน์ ไม่พูดพร่ำทำเพลงมาก ตอนนี้ขออาบน้ำแต่งตัวก่อนดีกว่า ด้านนอกโรงแรม 10 โมง พร้อมลุย !! สถานที่แรกที่ของวันนี้ คือ “พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว” สถานที่เก็บหลักฐานและจัดแสดงภาพถ่ายและวีดิทัศน์ที่สื่อถึงความเป็นมาของชาวจีนในภูเก็ต สำหรับการเดินทางไปไม่ยาก พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ถนนกระบี่ย่านเมืองเก่าของภูเก็ต ค่าเข้าชมคนไทย 50 บาทต่างชาติ 200 บาท ด้านในพิพิธภัณฑ์ พวกเราใช้เวลาเยี่ยมชมประมาณ 1 ชม. ก็ออกจากพิพิธภัณฑ์เพื่อที่จะเยี่ยมชมเมืองเก่าภูเก็ตไปพลางๆ เดินมาได้สักพัก สายตาพวกเราก็สะดุดกับร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่ง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์มากนัก ไม่รอช้าไปกันเลย ^^ ร้านนี้ชื่อว่า I 46 Old town เป็นร้านที่ดัดแปลงจากบ้านโบราณแบบชิโนโปรตุกีส ภายในร้านตกแต่งด้วยของเก่าโบราณ ส่วนหน้าและส่วนกลางเป็นร้านกาแฟ พวกเราเลือกดื่มชาเซล้อง หรือเซล้องอ๊อซึ้ง แปลว่า ชาดำเย็น (น้ำร้อนใส่น้ำตาลทรายแบบภูเก็ต) รสชาติหวาน หอม อร่อย สักรูป ที่นี่เจ้าของร้านเป็นกันเอง(คนที่ 2 จากด้านซ้าย) พร้อมกับให้คำแนะนำในการท่องเที่ยว ไม่ผิดหวังที่มาร้านนี้ค่ะ แดดร้อนเกินกว่าจะเที่ยวกันต่อ 555+ หลังจากที่อิ่มหนำสำราญและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ Style vintage กันแล้ว เวลานี้ขอกลับไปตั้งหลักที่ห้องพักกันก่อน(พักผ่อนนั่นเอง) ประมาณ 5 โมง พวกเราแวะไปฝากท้องกับร้าน “ระย้า” อาหารพื้นเมืองของภูเก็ต เป็นบ้านเก่าสองชั้น ตั้งอยู่แถวสี่แยกถนนดีบุกตัดใหม่ บรรยากาศภายในร้าน เมนูแรก…แกงเนื้อปูใบชะพลู เนื้อปูไม่อั้น น้ำกะทิเข้มข้น ทานกับเส้นหมี่ เข้ากันเป็นอย่างดี ยกนิ้วให้เลย อร่อยมาก และเมนูที่สองของเราก็มา…หมูฮ้อง ขอสารภาพก่อนเลยว่า จขกท.เห็นแล้วรู้สึกไม่อยากทาน เพราะหน้าตาดูเลี่ยนๆ หวานๆเยิ้มๆ แต่ผิดคาด หมูฮ้องอร่อยมาก เป็นหมูสามชั้นหมักด้วยกระเทียมพริกไทย แล้วนำมาเคี่ยวกับน้ำพะโล้ เนื้อหมูชิ้นใหญ่แต่นุ่ม รสชาติกลมกล่อมอูมามิ 555+ ไม่หวาน(เหมือนอย่างที่คิด)จนเกินไป น้ำพริกกุ้งเสียบ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเมนูวันนี้ รสชาติไม่ต้องพูดถึงครบเครื่อง จัดจ้าน เสิร์ฟพร้อมกับผักหลากชนิด เช่น แตงกวา ขมิ้น อิ่มท้องกับระย้ากันแล้ว อีกสถานที่ที่พลาดไม่ได้ “หลาดปล่อยของ” อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับระย้า เป็นถนนคนเดินของชาวภูเก็ต มีเฉพาะวันพฤหัสฯ ศุกร์ ตั้งแต่ 16.00-22.30 น. ใครมีอะไรดีๆเจ๋งๆก็เอามาปล่อยกัน หรอยแรงงงงง ง ! วันแรกของพวกเราก็จบลง ถึงสถานที่ที่ไปอาจจะไม่เยอะมาก แต่ก็ทำพวกเราหมดแรงได้ง่ายๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางของคืนก่อน ยังไงรีวิวฉบับนี้ยังไม่จบลงอย่างแน่นอนค่ะ อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง วันนี้เราใช้บริการรถ TAXI ดั้งเดิมของจังหวัดภูเก็ต ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1200 บาท หน้าตาเป็นอย่างนี้ พวกเราเรียกกันว่า รถกระป๊อ ^^ แปดโมง คนพร้อมรถพร้อม Let’s go ! จุดหมายของเราวันนี้คือ ติ่มซำโชคชัย หากพูดถึงร้านติ่มซำแล้ว ถือเป็นอาหารที่ชาวภูเก็ตนิยมทานในช่วงเช้า ติ่มซำโชคชัย ตั้งอยู่ถนน แม่หลวน อำเภอเมือง เปิดตั้งแต่ตี 4 ถึงเที่ยงวัน ที่นี่เน้นบริการเร็ว พวกเราสามารถเดินเข้าไปรอในร้านได้เลย ไม่ต้องยืนเลือกให้เสียเวลา เพราะทางร้านจะนำมาเสิร์ฟเป็นถาดใหญ่ๆ ให้เราเลือกทานได้เลย รับรวมมิตรติ่มซำสักที่ไหมคะ หากใครอยากเห็นทัศนียภาพของเกาะภูเก็ตได้อย่างชัดเจน “เขารัง” เป็นจุดชมวิวยอดนิยมอีกจุดหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมวิวกันอย่างไม่ขาดสาย ทั้งในตอนเช้าตรู่ ตอนสาย บ่าย เย็น ยิ่งเป็นช่วงเวลากลางคืนจะเห็นแสงไฟตามบ้านเรือน ยิ่งทำให้เกาะภูเก็ตน่าชมยิ่งขึ้นไปอีก น่าเสียดายที่ตอนที่เราไป ทางเขารังกำลังสร้างจุดชมวิวอยู่ไม่ค่อยสะดวกต่อการทัศนาสักเท่าไหร่ แต่เราไม่พลาดที่จะนำรูปมาฝากแน่นอน ^^ มาต่อกับจุดหมายปลายทางแห่งที่ 3 เชื่อได้ว่าหลายๆคนอาจจะยังไม่คุ้นหน้าคุ้นตานักเพราะเป็นสถานที่ที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน กับบ้านตีลังกา หรือ The up side down บ้านกลับหัวแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ณ ตอนนี้ สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ เก๋ แปลก แหวกแนว บ้าน 3 ชั้นที่มีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ฯลฯ พร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ที่กลับหัวทุกชนิด ! พร้อมจะให้นักท่องเที่ยวสนุกไปกับการ design ท่วงท่าถ่ายรูป หรือ salfie บนฝ้าเพดานได้อย่างเต็มเหนี่ยว สำหรับค่าเข้าชม ตอนนี้เป็นช่วงโปรโมชั่น คนไทย 100 บาท ต่างชาติ 150 บาท เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-18.00

LET’S HAVE FUN ” PHUKET ” :) อ่านเพิ่มเติม

MAGAZINE REVIEW : ภูเก็ต ลุย PHUKET เพราะดีบุกจะบุกภูเก็ต ไปถ่ายรูปกับป้ายถนนดีบุกให้จงได้

Magazine Review ตอนภูเก็ตมาซะทีไปด้วยโปร 0 บาท หางแดง อีกครั้ง วัยรุ่นอย่างเรา ไปแบบฮาๆอีกครั้งด้วยเส้นทางขำๆ ไปแบบไม่ตะลุย ไปแบบไม่เหนื่อย เน้นไปพักผ่อนภาระกิจใหญ่คือไปถ่ายรูปกับ “ป้ายถนนดีบุก” ดินแดนซึ่งพระมารดาเคยไปทำงานสมัยสาวๆ เลยเป็นที่มาของชื่อเล่นผมนี่แหล่ะเพราะภูเก็ต คือแหล่งใหญ่ของ “แร่ดีบุก” ซึ่งถ้าใครแม่น สปช. คงเคยเจอ ไปเที่ยวกันดีกว่าเนอะ 4 วัน 3 คืน ไฟล์ทเช้าสุดของวัน ตื่นแทบไม่ทัน เดินทางไปภูเก็ตนี่ บินไปเหนื่อยน้อยสุดจริงๆ ไม่ได้ไปภูเก็ตนานแล้ว ไปเที่ยวด้วยคนนะคะ เข้าเมือง มีทั้งรถบัส ออกเป็นรอบ และมีรถตู้ รอคนเต็ม อยู่หน้า Terminal เลย ถ้าอยู่ในเมือง เค้าจะไปส่งหน้าโรงแรมเลย มาภูเก็ตนี่ ผมต้องระวังเรื่องค่ารถโดยสารหน่อย ที่นี่เรื่องเยอะ แกะแผนที่มาให้เลย ประเด็นของภูเก็ตก็ประมาณนี้แหล่ะครับ ป่าตอง กะตะ กะรน ในเมือง แหลมพรหมเทพ หรือมีเงินก็ไปศรีพันวาไปเล้ยยยยยยยย ดูทิศไว้นะครับ จะได้รู้ว่าประมาณไหน ถ้าไม่เข้าตัวเมืองรถสองแถวก็มี แต่หาสายเอาเองนะ ถ้าเหมา Taxi อย่างก็จ่ายอย่างเดียวเลยครับ แต่ชำนาญหน่อยขึ้นรถประจำทางในภูเก็ตเอา ถ้าไม่เช่ารถ ไปถึงโดยรถตู้หน้าสนามบิน ไปที่พักแรกก่อน Phuket Center Apartment ถ.รัษฎา ไม่ชอบตรงที่รถตู้มันพาไปแวะเอเย่นต์ทัวร์ก่อน แกมบังคับน่ะ ที่เหลือโอเค ส่งหน้าโรงแรมเลย ห้องพักหน้าตาดี จองผ่าน Agoda ราคาประมาณ 800 – 900 แฮ่ๆ จำไม่ได้ โอเคสำหรับท่านๆที่อยากเที่ยวกลางเมืองครับ ไม่ต้องใช้รถเลย เดินเข้าแหล่งเลย ห้องพักดูดีทีเดียว เราอยู่ที่นี่เพียงหนึ่งคืนครับ ความสะดวกดีเลย ข้างๆมี Minimart ด้วย ห้องอาบน้ำโอเคเลยนะ ก็ชอบนะ ที่นี่ ในเว็บเค้าก็แนะนำอยู่นะ อันนี้คือแผนที่ย่านตัวเมืองเก่า ให้ยึดไว้ที่ ถ.เยาวราช ถลาง พังงา ดีบุก กระบี่ และ ซ.รมณีย์ นั่นแหล่ะ คุมทั้งโซนเมืองเก่า ถนนที่นี่ใช้ชื่อจังหวัดและสถานที่ต่างๆ จากนั้นเดินไป ยังไม่เช่ารถ เดินเลาะไปตาม ถ.เยาวราช ตัดกับ ถ.ดีบุก มีศูนย์รวมอาหารพื้นถิ่นภูเก็ต “ลกเที้ยน” ที่ภูเก็ต จะมีการรวมวัฒนธรรมของ จีนฮกเกี้ยน ท้องถิ่น และมลายูนะครับ มื้อแรก ตอนเที่ยง ตามหาหมี่ฮุ้งบะxxxดก่อนเลย เหมือนหมี่ผัดซีอิ๊ว มากับน้ำซุปครับ ก็หาได้ที่นี่แหล่ะครับ มีหลายอย่างมากๆ จากนั้นเดินมาฝั่งตรงข้าม ไปกินโอ้เอ๋ว เหมือนน้ำแข็งใสน่ะ มีขายที่ภูเก็ตเท่านั้น อย่างงกับชื่อนะ ที่นี่มีชื่อแปลกๆอีกเยอะ มีน้ำแปลกๆ น่ากินเยอะแยะ ลองดู ราคาถูกมาก ที่ภูเก็ตนี่ ถ้ารู้แหล่ง ราคาไม่แพงหรอก เจอแล้ววววววว ป้ายถนนดีบุก เดี๋ยวไปลุยโซนชิโน-โปรตุกีสต่อ ที่นี่มีความผสมผสานเยอะมาก เหมือนปีนัง มะละกา เมืองที่เคยเป็นเมืองท่าก็งี้แหล่ะ ตึกที่นี่สีสวยจริงๆ ถ่ายรูปเปลี่ยนเลนส์ไม่ทันเลยนะ …ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ที่นี่สวยมาก ซ.รมณีย์ ควรไปสุดๆ วันนี้ไปแล้วฟ้าหมอง เซ็งเป็ด สวยมาก อยากมีเลนส์ 10-20 เลยอ่ะ ใครมีบริจาคมั่ง เส้นนี้มีโรตีดังหลายเจ้า @ ถ.ถลาง ใครมาควรแวะ ไปต่อที่ ถ.กระบี่ แถวนั้นแหล่ะ ไปพิพิธภัณฑ์ไทยหัว มีค่าเข้าชม จะถ่ายรูปเก็บเงินเพิ่มประมาณ 200 บาท น่าไปชม แต่ไม่น่าเก็บค่าถ่ายรูปเลย ข้างในสวยดี ทำใหม่ ภาพถ่ายเก่าๆ และปัจจุบันสวย จัดแสดงดี ตะกี้ค่าเข้า 50 บาทมั้ง ตอนนี้ออกมาเที่ยวเล่นต่อ หาที่ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ มีศูนย์บริการข้อมูลของจังหวัดที่ ถ.ถลาง ที่ ถ.ถลาง จะมีศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวของภูเก็ต ไปเอาแผนที่ ดูแนะนำของกิน ที่เที่ยว และของที่ระลึกได้เลย มีข้อมูลและของฝากเพียบ ไปร้านกาแฟข้างๆต่อ ร้านหนัง(สือ) น่านั่งทีเดียว พักร้อนก่อนลุยต่อ อ่านแผนที่ก่อน ของที่ระลึกดูดีทีเดียว อยู่กลาง ถ.ถลาง เลย ไงๆก็ต้องเจอ จัดเครื่องดื่มไปนิดหน่อย พักร้อน ก่อนกลับไปพักที่โรงแรมนิดหน่อย บอกแล้ว เที่ยวไปรีบ ชิลล์ๆ รอบนี้เวลาเยอะ เรื่อยๆ วันนี้ร้อน เที่ยวอย่ารีบ ที่นี่มีรถรับจ้าง มอร์ไซค์รับจ้าง แถวกลางเมืองมีสวนสาธารณะ มีมังกรทอง ข้างๆมีเรือจำลอง เดินไปเจอโดยบังเอิญ ไม่รู้ละ ร้อนนนนนนนนนนนนนนน ขอไปพักก่อนนะ ตอนเย็น ไปกินข้าวต้ม ไม่มีโพยใดๆทั้งสิ้น อยู่ที่ ถ.กระบี่ เห็นคนมารุมๆ เราก็ตามน้ำไป ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์ไทยหัวเลย อย่าได้กลัว สอยปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา กะ หอยลายผัดน้ำพริกเผา ไม่แพง คนท้องถิ่นเยอะ มันต้องอร่อยแน่ๆ ไปเดินเล่นต่อที่ ซ.รมณีย์ ตอนกลางคืน คนมาถ่ายรูปเต็มเลย ใจเย็นๆนะ ทำไปดูบอลไป ชมภาพภูเก็ตยามค่ำคืนไปพลางๆ ที่นั่งเล่นตอนกลางคืนแถวนี้มีเยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนไทยนะ วันต่อมา เรา Check out ออกจาก Phuket center apartment ซื้อทัวร์ไว้ ไปเกาะพีพี

MAGAZINE REVIEW : ภูเก็ต ลุย PHUKET เพราะดีบุกจะบุกภูเก็ต ไปถ่ายรูปกับป้ายถนนดีบุกให้จงได้ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top