สถานที่ท่องเที่ยว

พิกัดความอร่อย เมืองลำปาง

พิกัดความอร่อย เมืองลำปาง  – ครัวรันเวย์ – บะหมี่โคตรเวอร์  – ครัวฉอเลาะ – ครัวมุกดา ขนมจีนหล่มเก่า – เป็ดย่างฮ่องกง – ถนนคนเดินกาดกองต้า – ถนนสายวัฒนธรรม – ก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูตุ๋น ป้าแดง  – ก๋วยเตี๋ยวลูกทุ่งรุ่งเรือง ดาบแดง – ครัวรันเวย์ ฟังจากชื่อร้าน หลายๆ คนคงคิดว่าเกี่ยวอะไรกับเครื่องบินหรือเปล่า… ใช่ค่ะ คุณคิดถูกแล้วเพราะร้านนี้อยู่ใกล้กับสนามบินลำปางนั่นเอง ไฮไลท์ของร้านคือ ทานข้าวไปชมเครื่องบินไปด้วย แจ่มสุดๆ เป็นที่ร่ำลือของชาวลำปางว่าร้านนี้ห้ามพลาด!! แอดก็เลยต้องมาพิสูจน์สักหน่อย .เมนูอาหารเด็ดๆ มีให้ลิ้มลองเพียบ เช่น น้ำพริกคุณยายสะอาด+ไข่ต้ม กุ้งซอสมะขาม เมี่ยงปลาทู แกงเลียง และอื่นๆ อีกมากมาย แอดพุงจะแตกแล้ว ^^   : 511/2 ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ลำปาง-งาว ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง : เปิดทุกวัน 10.00 – 24.00 น. : 054 018 377 : https://goo.gl/maps/yptA5KFF9oP2 – บะหมี่โคตรเวอร์  บะหมี่ร้านนี้ชามใหญ่มากเว่อร์และอิ่มมากเว่อร์ บะหมี่ไซส์ใหญ่กว่าร้านอื่นๆ เส้นเยอะ เครื่องแน่น เกี๊ยวเพียบ บอกเลยว่า โอ้โห… อร่อยสุดๆ.แอดสั่งเมนู บะหมี่โคตรเวอร์(289 บาท) สำหรับ 4-5 คน มาทาน ถามว่าหมดมั้ย? ตอบเลยว่า ไม่!! เพราะเยอะเว่อร์ ดูกันให้ชัดๆ เลยว่าเมื่อคลุกเคล้าเครื่องทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว น่าทานแค่ไหน ถ้าอยากสัมผัสความเว่อร์วังของร้านนี้ก็ต้องมาพิสูจน์กันนะ  : 64 พระบาทซอย 1 เทศบาลนครลำปาง อ.เมือง จ.ลำปาง : เปิดทุกวัน 09.30 – 16.00 น. : 083 866 6160 : https://goo.gl/maps/jGXPuHkvL622 – ครัวฉอเลาะ  ส่วนตัวแอดยกให้ร้านนี้เป็นที่หนึ่งในดวงใจเลยค่ะ เพราะแบบคือมันดีย์มาก แหมพูดแล้วน้ำลายไหลอยากทานอีก 555 บรรยากาศร้านดี มีเพลงเพราะๆ ให้ฟัง พนักงานเอาใจใส่ ดูแลดีทุกย่างก้าว.ส่วนรสชาติอาหารนั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าจานไหนที่สั่งมาไม่มีคำว่าผิดหวังเลยค่ะ คือดีย์มากจริงๆ อยากให้เพื่อนๆ ลองไปทานกันดู เห็นอวยขนาดนี้แอดบอกเลยว่าไม่ได้สปอนเซอร์จากทางร้านนะคะ  – ครัวมุกดา ขนมจีนหล่มเก่า ร้านขนมจีนที่ไม่ได้ฮอตฮิตแต่ในหมู่คนท้องถิ่นเท่านั้น คนต่างถิ่นอย่างแอดก็ยังต้องขอลอง.ร้านนี้มีอาหารหลายประเภทเลย ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ไก่ย่าง หรืออาหารเวียดนาม แต่เมนูเด็ดก็คือ ขนมจีนกับน้ำยาต่างๆ มีทั้งแกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน น้ำพริก น้ำยา น้ำเงี้ยว ฯลฯ .ทานของคาวแล้วก็ต้องตบท้ายด้วยของหวานอย่าง ลอดช่องน้ำกะทิ ซึ่งเราสามารถเลือกใส่แตงไทยหรือเผือกได้ตามความชอบ อร่อยไม่แพ้ขนมจีนเลยล่ะค่ะ บริเวณหน้าร้านมีหม้อน้ำยาต่างๆ ตั้งเรียงรายเอาไว้ให้เราได้เลือก ภายในร้านตกแต่งสไตล์ล้านนา มีที่นั่งเยอะ พร้อมรองรับลูกค้าจำนวนมากได้สบายๆ และยังมีขนมของฝากให้เลือกซื้อเลือกทานอีกด้วย  : 49 ถ.สนามบิน ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง : เปิดทุกวัน 08.00 – 15.00 น. : 054 315 696, 081 322 6305 : https://goo.gl/maps/3riZUPGjdEB2  เป็ดย่างฮ่องกง ตอนเช้าเพื่อนๆ มักจะทานอะไรกันคะ แอดเชื่อว่าหลายคนคงเลือกทานโจ๊ก หรือไม่ก็ข้าวต้มร้อนๆ สักชาม .ถ้ามาลำปางแอดขอแนะนำร้านนี้เลยค่ะ “เป็ดย่างฮ่องกง” เพราะที่นี่นอกจากจะมีโจ๊กและข้าวต้มแล้ว ยังมีข้าวหน้าเป็ดเป็นซิกเนเจอร์อีกด้วยค่ะ ความพิเศษของข้าวหน้าเป็ดร้านนี้อยู่ตรงเป็ดย่างซึ่งเป็นสูตรต้นตำรับจากฮ่องกง เนื้อนุ่ม หนังกรอบ ทานง่าย อร่อยสุดๆ พูดได้คำเดียวว่าไม่เป็นสองรองเป็ดย่าง MK เลยค่า  : 217 ถ.บุญวาทย์ ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง : เปิดทุกวัน 06.00 – 14.00 น. : 054 221 217 : https://goo.gl/maps/EMAqqKesdm92 – ถนนคนเดินกาดกองต้า สำหรับใครที่อยากทานยำไข่น้ำแร่แจ้ซ้อน ของเด็ดขึ้นชื่อของลำปาง แต่ไม่มีเวลาไปถึงอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนแล้วละก็ แอดแนะนำให้มาที่นี่เลย ถนนคนเดิน “กาดกองต้า” เพราะที่นี่เค้าก็มีเมนูยำไข่น้ำแร่แจ้ซ้อนเหมือนกัน .ซึ่งไข่ที่ต้มจากน้ำแร่นั้นจะมีลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนไข่ต้มทั่วไป โดยไข่แดงจะค่อนข้างแข็ง ส่วนไข่ขาวจะเหลวๆ คล้ายวุ้น บอกเลยว่าฟินสุดๆ   : ถ.ตลาดเก่า ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง  : เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.00 – 21.00 น. : https://goo.gl/maps/anAn2Mecrjp – ถนนสายวัฒนธรรม เพื่อนๆ เคยทานข้าวปั้นโบราณกันมั้ยคะ ถ้ายังไม่เคยละก็ มาเยือนลำปางทั้งทีต้องไม่พลาดชิมนะคะ เพราะมันอร่อยมากกกกก ข้าวปั้นโบราณมีขายอยู่หลายที่ในลำปาง แต่พิกัดที่แอดจะแนะนำก็คือ “ถนนสายวัฒนธรรม” ค่ะ เพราะนอกจากจะได้ทานของอร่อยแล้ว ยังเดินเล่นเลือกชอปสินค้าพื้นเมืองได้อีกด้วย ข้าวปั้นโบราณ เป็นอาหารว่างพื้นบ้านของชาวลำปางค่ะ ลักษณะก็จะคล้ายๆ กับขนมถ้วย ทำมาจากแป้ง มีหลายสี เช่น สีเขียว สีขาว สีชมพู สีม่วง เป็นต้น โรยหน้าด้วยหัวไชโป๊เค็มสับ กระเทียมเจียว งา และราดด้วยน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำอ้อยค่ะ ทำให้ได้รสชาติครบทั้งหวาน มัน เค็ม ถ้าได้ลองทานรับรองว่าฟินสุดๆ อีกร้านนึงในพิกัด “ถนนสายวัฒนธรรม” ที่แอดอยากแนะนำให้ไปลองทานนั่นก็คือ “ยำหมี่กะลา” อันนี้เด็ดมากค่ะ รสชาติจัดจ้าน ราคาโดนใจสุดๆ อยากให้เธอได้รู้ อยากให้เธอลอง 5555 .และนอกจากนี้ก็ยังมีอาหารถื่นเหนืออย่าง ไข่ป่าม ให้เพื่อนๆ ได้ลองชิมอีกด้วยค่ะ แหมเรียกได้ว่าไปที่เดียวคุ้มเกินคุ้มเลยนะคะ  : ถ.วังเหนือ ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง : เปิดทุกวันศุกร์ 17.00 – 21.00 น. : https://goo.gl/maps/Ynda6r3PCFG2 –

พิกัดความอร่อย เมืองลำปาง อ่านเพิ่มเติม

Mata Cafe – Store & Artspace @Ranong

Mata Cafe – Store & Artspaceที่ตั้ง : 145/3 หมู่ 4 ตำบลบางนอน อำเภอเมือง จังหวัดระนองเปิดวันพุธ-จันทร์ เวลา 10.00 – 19.00 น. (ปิดวันอังคาร)โทร.062 073 9991พิกัด : https://goo.gl/maps/kDQxrNyTJm32 — atMata Cafe – Store & Artspace. บรรยากาศร้านเป็นสไตล์มินิมอล เรียบๆ แต่เก๋ โทนสีขาวของตัวบ้านและสีเอิร์ธโทนของเฟอร์นิเจอร์ไม้เข้ากันได้อย่างลงตัว  ร้านเเบ่งออกเป็น 2 โซน คือบริเวณที่นั่งด้านนอกร้านและภายในร้านที่เป็นห้องแอร์ ก่อนไปหามุมถ่ายภาพ เราไปสั่งขนมและเครื่องดื่มกันก่อนดีกว่า ^^ — at Mata Cafe – Store & Artspace. มาแล้ววว…มาดูกันค่ะว่ามีเมนูอะไรบ้าง วาฟเฟิลหอมๆ ทานคู่กับผลไม้และไอศกรีม ฟินสุดๆ เลย กาแฟโรบัสต้า แค่กลิ่นก็รู้แล้วว่าใช้กาแฟคุณภาพจริงๆ ส่วนเรื่องรสชาตินั้น…ต้องไปลองชิมกันเองนะ ฮ่าๆ  โฮจิฉะชาเย็น สำหรับแก้วนี้แอดบอกเลยว่าด้านบนหอมโฮจิฉะมากกก ส่วนด้านล่างเป็นชาเย็น คนให้เข้ากันก็กลมกล่อมกำลังดีเลยล่ะ — at Mata Cafe – Store & Artspace. เมนูนี้คนรักชาเขียวห้ามพลาด Matcha Affogato ชาเขียวเข้มข้นทานคู่กับไอศกรีมชาเขียว ฟินแน่นอน ^^ — atMata Cafe – Store & Artspace. บราวนี่อาลาโม้ด บราวนี่อบร้อนๆ ทานคู่กับไอศกรีม ชิ้นนี้แอดแนะนำเลยค่ะ ดีต่อใจอ่า ^^ — at Mata Cafe – Store & Artspace. อย่างที่แอดได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่า ร้านนี้เค้ารักโลกและใส่ใจสิ่งแวดล้อมนะจ๊ะ ทางร้านจึงลดการใช้พลาสติก ด้วยการใช้หลอดที่ทำจากสแตนเลส แก้วกระเบื้อง และถุงกระดาษที่นำกลับมาใช้ซ้ำ เพื่อไม่ให้เกิดขยะจากพลาสติกอีกด้วย— at Mata Cafe – Store & Artspace. นอกจากนี้ทางร้านยังจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับการลดการสร้างขยะ เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เช่น หลอดสแตนเลส หลอดแก้ว กระติกน้ำ แก้ว ถุงผ้าที่พกพาสะดวกดีไซน์เก๋ เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่ทำวัสดุจากธรรมชาติ เช่น เทียน ลิปบาล์ม สบู่ เป็นต้น — at Mata Cafe – Store & Artspace. ร้านกาแฟเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดระนอง และเปี่ยมไปด้วยความรักและใส่ใจสิ่งแวดล้อมของเจ้าของร้าน แอดเชื่อว่าใครมาก็จะต้องหลงรักอย่างแน่นอน — at Mata Cafe – Store & Artspace.

Mata Cafe – Store & Artspace @Ranong อ่านเพิ่มเติม

“มะขามคาเฟ่”

รถรางชมเมืองจะให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สามารถรอขึ้นได้ที่บริเวณหน้าวัดประตูป่องเท่านั้น ไม่มีแวะรับนักท่องเที่ยวระหว่างทางนะคะ  พิกัดวัดประตูป่อง https://goo.gl/maps/WSJLUHn91gq.เส้นทางรถรางเริ่มที่วัดประตูป่อง และจะจอดตามจุดต่างๆ ดังนี้– วัดปงสนุกเหนือ– ถนนสายวัฒนธรรม– สถานปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม เขมโก– วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม– บ้านเสานัก– บ้านหลุยส์ ที เลียวโนเวนส์– วัดประตูป่อง.หากเพื่อนๆ เดินทางไปกันหลายคน และอยากเหมารถรางเที่ยวชมเมืองก็สามารถทำได้ แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้านะคะ โทร. 081 950 9098 (คุณลุงประทีป) สถานที่แรกที่รถรางจะพาเราไปก็คือ “วัดปงสนุกเหนือ” ค่ะ ระหว่างทางจะมีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายให้ความรู้และตอบคำถามนักท่องเที่ยวด้วยค่ะ .วัดปงสนุกเหนือเป็นวัดสำคัญที่อยู่คู่เมืองลำปางมาช้านาน ภายในวัดเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งสำคัญหลายอย่างที่มีคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมค่ะ ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปไม้ เสาหงส์ ซุ้มประตูโขง และอื่นๆ อีกมากมาย จากนั้นรถรางก็จะพาเราไปยัง “ถนนสายวัฒนธรรม” ระหว่างทางเพื่อนๆ จะได้เห็นบ้านเรือนเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 100 ปี และยังจะได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนท่ามะโออีกด้วยค่ะ.ซึ่งผู้บรรยายก็จะบรรยายไปเรื่อยๆ จนไปถึงร้านค้าชุมชน ที่นั่นมีสินค้าชุมชนให้เราได้เลือกซื้อกันหลายอย่างเลยค่ะ ไปต่อกันที่ “สถานปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม เขมโก” ซึ่งหลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานที่ชาวลำปางและผู้คนทั่วไปให้ความเคารพเลื่อมใสเป็นอย่างมาก .ภายในมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อเกษม ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้สักการะอีกด้วยค่ะ สถานที่ถัดมาก็คือ “วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม” หลายๆ คนคงจะคุ้นชื่อ เพราะเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลำปาง .เป็นวัดที่เคยประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต เป็นเวลานานถึง 575 ปี ภายในวัดสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พระบรมธาตุดอนเต้า วิหารพระเจ้าทองทิพย์ มณฑปศิลปะพม่า และวิหารพระพุทธไสยาสน์ .หากมีโอกาสมาเที่ยวลำปาง ต้องห้ามพลาดวัดนี้เลยนะคะ ออกจากวัดพระแก้วดอนเต้าแล้ว เรามุ่งหน้าไปชม “บ้านเสานัก” บ้านไม้สักโบราณอายุกว่า 100 ปี คำว่า “เสานัก” นั้นหมายถึง มีเสาจำนวนมาก เนื่องจากที่นี่มีเสาถึง 116 ต้นนั่นเอง .บ้านหลังนี้สร้างโดยหม่องจันโอง (ชาวพม่า) และคุณมุกต์ (ต้นตระกูลจันทรวิโรจน์) การก่อสร้างจึงมีลักษณะแบบพม่าผสมล้านนา และเนื่องจากมีเสาไม้สักจำนวนมาก จึงทำให้บ้านตั้งอยู่อย่างคงทนและถาวรมาจนทุกวันนี้ บ้านเสานักเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10.00 – 17.00 น. ค่าบำรุงสถานที่คนละ 50 บาท มีเครื่องดื่มสมุนไพรพร้อมขนมมาให้ด้วย อร่อยกรุบกริบ^^ ภายในบ้านจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดลำปาง มีข้าวของเครื่องใช้โบราณ เฟอร์นิเจอร์สมัยก่อน และรูปภาพเก่าๆ ให้ชมด้วย รถรางพาเรามาต่อกันที่ “บ้านหลุยส์ ที เลียวโนเวนส์” คฤหาสน์อายุกว่า 112 ปี ของนายห้างค้าไม้ชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นลูกชายของแหม่มแอนนา เลียวโนเวนส์ ครูสอนภาษาอังกฤษในราชสำนักรัชกาลที่ 4 นั่นเอง.เรือนหลังนี้เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น หลังคาทรงปั้นหยา ด้านหน้ามีมุขแปดเหลี่ยม ตีเกล็ดไม้โปร่งพร้อมบานหน้าต่างโดยรอบเพื่อระบายอากาศ ด้านล่างมีซุ้มประตูโค้งแบบฝรั่ง .ถ้าย้อนกลับไปในสมัยก่อน จะต้องสวยงามมากแน่ๆ เลยค่ะ มาถึงสถานที่สุดท้ายกันแล้ว รถรางจะพาเรากลับมาที่ “วัดประตูป่อง” และเจ้าหน้าที่จะพาเราเข้าไปชมภายในวัดค่ะ วัดประตูป่องได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานในปี 2523 .ภายในมีวิหารสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ที่หน้าแหนบหรือหน้าบันทำจากไม้สลักลวดลายปิดทองประดับกระจก ถัดลงมาด้านล่างมีโก่งคิ้วหรือสาหร่ายรวงผึ้ง แกะสลักเป็นลายไส้หมูที่เป็นเอกลักษณ์ของลำปางและพะเยา เข้ามากราบสักการะพระประธานภายในวิหารเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมชมสัตตภัณฑ์และธรรมาสน์ที่งดงาม ภายในวิหารยังมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวประเพณี 12 เดือนของชาวเหนือ ถึงแม้จะเป็นฝีมือจิตรกรร่วมสมัยแต่ก็สวยงามมากๆ เลยค่ะ ลืมบอกไปว่า รถรางชุมชนท่ามะโอ เค้ามีพัดและร่มไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะ ใส่ใจกันขนาดนี้ เอาใจแอดไปเลย คราวนี้จะร้อนจะแดดมากแค่ไหนก็ไหวแน่นอน 

“มะขามคาเฟ่” อ่านเพิ่มเติม

Flower in hand by P

Flower in hand by P ที่ตั้ง : 18/1 ซอยอารีย์ 2 ตรงข้ามสำนักงานเขตพญาไท แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ⏱️เปิดวันพฤหัสบดี – วันอังคาร เวลา 11.00 -19.00 น. (ปิดทุกวันพุธ) โทร. 062 758 2233พิกัด : https://goo.gl/maps/dNMRdBSxnqx — atFlower in hand by P. พอเดินเข้ามาในร้านก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้วของดอกไม้นานาชนิด โต๊ะเก้าอี้เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเอิร์ธโทน ที่ให้สีสันที่นุ่มนวลเข้ากันได้ดีกับดอกไม้ ที่นั่งมีไม่เยอะนัก นั่งได้โต๊ะละ 2-3 คน และมีโต๊ะใหญ่สำหรับมาเป็นกลุ่มอยู่ด้านในสุด — at Flower in hand by P. ร้านนี้มี Workshop จัดดอกไม้ด้วยนะคะ ถ้าใครสนใจก็ติดต่อสอบถามกับทางร้านล่วงหน้าได้เลย ^^ — at Flower in hand by P. มาดูหน้าตาขนมกันบ้าง…ขนมของร้านมีไม่มาก ประมาณ 3-4 เมนู แต่อร่อยมากกก แอดสั่งคุกกี้ กรอบนอกนุ่มในกำลังดี และสโคนที่เสิร์ฟมาพร้อมกับแยมลิ้นจี่ รสชาติดีทั้งคู่ แอดให้ผ่านเลย ความเก๋ของขนมคือจะมีดอกไม้เล็กๆ ประดับอยู่ด้านบนด้วย น่ารักมากเลยค่ะ ^^ — at Flower in hand by P. เมนูน้ำก็ไม่เบากับ Blossom Pink Latte เป็นนมชมพูผสมกลิ่นกุหลาบ ดื่มแล้วรู้สึกได้ถึงดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่ง หอมหวานกำลังดี ไม่เพียงเท่านี้แต่เมนูเย็นของที่นี่ยังมีกิมมิกอยู่ที่ดอกไม้ช่อจิ๋วติดมากับแก้วด้วย เก๋อ่ะ  — atFlower in hand by P. มุมนี้เป็นโต๊ะใหญ่มาเป็นกลุ่มก็ได้ รายล้อมไปด้วยดอกไม้หลากสีสัน — at Flower in hand by P. แอดชอบตรงนี้มากเลย น่ารัก อารมณ์แบบอยู่ญี่ปุ่น (รึเปล่า) — at Flower in hand by P. ไม่ว่าจะมุมไหนก็มีดอกไม้นานาชนิดตกแต่งอยู่ทุกมุม — atFlower in hand by P. ส่วนช่อจิ๋วนี้ทางร้านจำหน่ายด้วยนะคะ ช่อละ 100 บาท เก็บไว้เป็นที่ระลึกหรือให้เป็นของขวัญก็น่ารักไปอีกแบบ — at Flower in hand by P.

Flower in hand by P อ่านเพิ่มเติม

ศาลหลักเมืองอุดรธานี

ศาลหลักเมืองอุดรธานี.มีผู้คนจำนวนมากนิยมมาสักการะศาลหลักเมืองแห่งนี้อยู่เสมอ เพื่อขอพรให้ชีวิตราบรื่นมั่นคง ทั้งการงานและการเงิน โดยมีเคล็ดอยู่นิดนึงว่าหากเข้าประตูใดให้ออกประตูนั้น จะทำให้ได้อานิสงส์มากยิ่งขึ้น — at ศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี. ตามประวัติกล่าวว่า ศาลหลักเมืองอุดรธานีสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2502 โดยได้อัญเชิญดวงพระวิญญาณของพลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ทรงก่อตั้งเมืองอุดรธานีเมื่อ พ.ศ.2436 มาสถิตย์ ณ เสาหลักเมืองนี้ด้วย  เสาหลักเมืองสร้างด้วยไม้คูณ ยาว 5 เมตรเศษ ฝังลึกลงไป 3 เมตร มีการบรรจุแผ่นยันต์และแก้วแหวนเงินทองต่างๆ จำนวนมากไว้ใต้ฐานเพื่อเป็นสิริมงคล ต่อมา พ.ศ.2542 ได้มีการสร้างศาลหลักเมืองขึ้นใหม่แทนศาลหลักเมืองเดิมที่ทรุดโทรมลงมาก อาคารศาลหลักเมืองเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ผสมผสานศิลปะภาคอีสาน เป็นสถานที่สักการะของชาวอุดรธานีสืบมาจนปัจจุบัน — at ศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี. ภายในศาลยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ ได้แก่ หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทอง ซึ่งการสักการะพระพุทธโพธิ์ทองนั้น เชื่อว่าจะทำให้มีร่มโพธิ์ร่มไทร มีผู้ใหญ่สนับสนุนค้ำจุน — at ศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี. นอกจากนี้บริเวณศาลหลักเมืองยังมีรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ 1 ใน 4 ของท้าวจตุโลกบาลอีกด้วย มีความเชื่อว่าการบูชารูปปั้นท้าวเวสสุวรรณนั้น จะทำให้ศัตรูหรือผู้ที่คิดร้ายต่อเรา แพ้ภัยตัวเอง หรือกลับใจมาเป็นมิตร การมาสักการะศาลหลักเมืองอุดรธานีนั้น เราสามารถกราบขอพร 3 สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองอุดรได้ในคราวเดียวเลย ทั้งเสาหลักเมือง พระพุทธโพธิ์ทอง และท้าวเวสสุวรรณ นับเป็นสิริมงคลกับชีวิตจริงๆ  เปิดทุกวันตั้งแต่ 08.30 – 16.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/pk6jmw4eR2R2  — atศาลหลักเมืองจังหวัดอุดรธานี.

ศาลหลักเมืองอุดรธานี อ่านเพิ่มเติม

6 สิ่งบ่งบอกว่า นี่แหละคือไทดำ

ไทดำมาจากไหน  ชาวไทดำ คือชนชาวไทกลุ่มหนึ่ง บางครั้งอาจเรียกว่า ลาวโซ่ง ลาวซงดำ ไทยซุ่ง ไทยโซ่ง หรือไทยทรงดำ .ถิ่นเดิมของชาวไทดำอยู่ในแคว้นสิบสองจุไท บริเวณแม่น้ำดำ แม่น้ำแดง มีเมืองแถนเป็นเมืองหลวง (ปัจจุบันคือเมืองเดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม) .ชาวไทดำอพยพเข้ามาในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งที่ไทยทำสงครามปราบฮ่อในดินแดนเชียงขวางและสิบสองจุไท 6 สิ่งบ่งบอกว่า นี่แหละคือไทดำ.ภาษา ภาษาถิ่นของชาวไทดำคือ ภาษาไทดำและภาษาเลย มีตัวอักษรที่ยังคงอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน.ขอบคุณภาพจาก http://tis.dasta.or.th/dastatravel/taidumbaannapanad/ การแต่งกาย ชาวไทดำนิยมสวมเสื้อผ้าสีดำ ซึ่งสีที่นำมาใช้ย้อมเสื้อผ้าเป็นสีมาจากต้นห้อมหรือต้นคราม การแต่งกายหลักๆ จะมี 2 แบบ ในชีวิตประจำวัน จะนุ่งผ้าซิ่น “ลายแตงโม”ในงานประเพณี หรืองานบุญ จะนุ่งผ้าซิ่น “ลายนางหาญ” ซึ่งใน 1 ผืนจะมีลายพญานาคอยู่ถึง 10 แบบ.ขอบคุณภาพจาก เที่ยวไทยไม่ตกยุค การละเล่น การละเล่นของชาวไทดำมีหลายอย่าง แต่ที่เป็นจุดเด่นคือ “มะกอนลอดบ่วง” วิธีการเล่นก็ง่ายๆ คือโยนลูกผ้าลักษณะสามเหลี่ยมมีหาง หรือที่เรียกว่า มะกอน ขึ้นไปให้ลอดห่วงที่ตั้งตรงสูงให้ได้.ในอดีต การเล่นมะกอนลอดบ่วงเป็นการเสี่ยงทายเพื่อเลือกคู่ให้กับหนุ่มสาวในหมู่บ้าน ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นกุศโลบายเพื่อให้หนุ่มๆ สาวๆ ได้มีโอกาสมาเจอกันนั่นเอง ขอบคุณภาพจาก เที่ยวไทยไม่ตกยุค การเต้นแซปาง เป็นการฉลองความอุดมสมบูรณ์ของหมู่บ้าน มักจะทำพิธีในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 และเดือน 6 มีการขับร้องร่ายมนต์เป็นทำนองเพื่อเชิญผีสางเทวดามารับเครื่องเซ่นที่ต้นปาง ตุ้มนก ตุ้มหนู เป็นเครื่องรางของขลัง ที่ใช้ปัดเป่าสิ่งไม่ดีและนำความโชคดีมาให้.โดยโมบาย 1 เส้น จะมีตุ้มทั้งหมด 5 ตุ้ม แต่ละตุ้มมีความหมายต่างกัน คือ1. “บ้าน หรือ เฮือนผีมด” เป็นสถานที่ที่ผีมดอาศัยอยู่2. “ตุ้มหนู หรือ กลองผีมด” เมื่อเวลาออกรบกับศัตรู จะต้องตีกลองเพื่อรวบรวมขวัญและกำลังใจ3. “ตุ้มนก” เมื่อมีบริวารเป็นนก นกจะช่วยจิกศัตรู4. “รังต่อรังแตน” เมื่อมีบริวารเป็นแตน แตนจะช่วยต่อสู้กับศัตรู5. “หัวใจไทดำ” เป็นตัวแทนของความรักและสามัคคี อาหารสไตล์ไทดำ “จุ๊บผัก” และ “จุ๊บไก่” อาหารชื่อแปลกแต่อร่อย เป็นการนำผักหรือไก่มาคลุกกับเครื่องปรุงและน้ำปลาร้า โดย “จุ๊บ” แปลว่า การคลุกเคล้าให้เข้ากัน.นอกจากนี้ยังมี แจ่วตาแดง น้ำพริกรสแซ่บ ทานแล้วเผ็ดจนตาแดงสมชื่อเลยค่ะ หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ บ้านนาป่าหนาด อ.เชียงคาน จ.เลย เป็นหมู่บ้านชาวไทดำแห่งเดียวในภาคอีสาน.ที่นี่จะทำให้เราได้เรียนรู้ความเป็นอยู่ของชาวไทดำ ทั้งภาษา การแต่งกาย การละเล่น และอาหารการกินที่แอดได้กล่าวไปแล้ว.พิกัด : https://goo.gl/maps/3BvZQSTe9Jyติดต่อ : คุณภัทราภรณ์ ไพศูนย์ (อิ๋ว) โทร. 084 925 0771

6 สิ่งบ่งบอกว่า นี่แหละคือไทดำ อ่านเพิ่มเติม

อัศจรรย์ “พระประธานอกแตก”

อัศจรรย์ พระประธานอกแตก วัดบ้านแก่งใต้ จ.อุตรดิตถ์ วัดบ้านแก่งใต้มีพระประธานภายในพระอุโบสถชื่อ หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ สร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏ ต่อมา พ.ศ.2493 หลวงพ่อเพชรชำรุดทรุดโทรมและผุกร่อนมาก ทางวัดจึงตัดสินใจสร้างหลวงพ่อเพชรองค์ใหม่ครอบองค์เดิมเอาไว้.กาลเวลาผ่านไป ก็ไม่มีการบูรณะซ่อมแซมอีก จนกระทั่ง… เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ทางวัดได้บูรณะพระอุโบสถและซ่อมแซมหลวงพ่อเพชรที่ชำรุดทรุดโทรมลงมาก .แต่ขณะที่กำลังบูรณะอยู่นั้น ก็ได้พบรอยแตกบริเวณพระอุระของหลวงพ่อเพชร และมีปูนหลุดร่วงลงมาจำนวนมาก จึงทำให้พบว่ามีพระพุทธรูปอยู่ภายใน โดยสามารถมองเห็นพระพักตร์และพระเศียรของหลวงพ่อเพชรองค์เดิมที่อยู่ภายในได้อย่างชัดเจน ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “พระอกแตก”.ซึ่งจากลักษณะทางศิลปกรรมที่ปรากฏ สันนิษฐานว่าหลวงพ่อเพชรองค์เดิมนั้นสร้างขึ้นโดยฝีมือของช่างพื้นเมืองในสมัยรัตนโกสินทร์ จากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านเกิดความเสื่อมใสศรัทธา และพากันมากราบไหว้หลวงพ่อเพชรกันเป็นจำนวนมาก✨.ถ้าใครเดินทางไปจังหวัดอุตรดิตถ์ อย่าลืมมาแวะสักการะกันนะคะ.วัดบ้านแก่งใต้ ที่ตั้ง : ต.บ้านแก่ง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์พิกัด Google map : https://goo.gl/maps/CyZVitxYZip. ขอบภาพจาก เพจอุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง

อัศจรรย์ “พระประธานอกแตก” อ่านเพิ่มเติม

นครพนม เที่ยวตามคำขวัญ

“พระธาตุพนมค่าล้ำ” พระธาตุพนม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.ธาตุพนม สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 13-15 ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า ภายหลังได้รับการปฏิสังขรณ์จนมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงบัวเหลี่ยมในศิลปะล้านช้าง  เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2518 พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงมาทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุประกอบกับมีฝนตกและพายุพัดแรงติดต่อกันหลายวันประชาชนทั่วประเทศจึงได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิมจนแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.2522  พระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ซึ่งควรหาโอกาสมาสักการะสักครั้งเพื่อเสริมดวงชะตาและความเป็นสิริมงคล เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/bqLKkAEmTcw  — atจังหวัดนครพนม. “วัฒนธรรมหลากหลาย” ในจังหวัดนครพนมมีประเพณีและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เนื่องจากมีผู้คนหลายชาติพันธุ์อาศัยอยู่รวมกันถึง 7 ชนเผ่าด้วยกัน ทั้งชนเผ่าผู้ไท (ภูไท) ไทญ้อ ไทกะเลิง ไทแสก ไทยโส้ ไทยข่า และไทยลาว (ไทยอีสาน) นอกจากนี้ยังมีไทกวน และไทตาด ซึ่งเป็นชนเผ่าที่เพิ่งได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ด้วย  ซึ่งการรำบูชาพระธาตุพนม จะเป็นการรวมตัวของชนพื้นเมืองต่างๆ ทั้ง 7 เผ่า ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครพนม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าประจำเผ่าของตน และร่ายรำในท่วงท่าอันงดงามเพื่อบูชาองค์พระธาตุพนม แสดงให้เห็นว่าถึงจะต่างชาติพันธุ์ แต่ทุกคนนั้นคือใจเดียวกัน งานนมัสการพระธาตุพนม จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยถือเอาวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันแรกของงานและไปสิ้นสุดในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3  “เรณูผู้ไท” เรณูนคร เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวผู้ไท ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นไว้เป็นอย่างดีจนถึงทุกวันนี้ ที่น่าสนใจ ได้แก่ การต้อนรับด้วยการบายศรีสู่ขวัญ การเลี้ยงอาหารแบบพาแลง การชวนดูดอุ (ชวนกันไปดื่มเหล้าหมักที่อยู่ในไห) ฯลฯ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญอย่าง พระธาตุเรณู ที่จำลองรูปแบบมาจากพระธาตุพนมองค์เดิม แต่มีขนาดเล็กกว่า ภายในบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทอง พระพุทธรูปเงิน ของมีค่า และเครื่องกกุธภัณฑ์ของเจ้าเมือง พระธาตุเรณูเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันจันทร์ เชื่อว่าผู้ที่ได้มานมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงจันทร์ ถือเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอเรณูนคร  “เรือไฟโสภา” ไหลเรือไฟ เป็นพิธีกรรมที่พุทธศาสนิกชนชาวอีสานยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ โดยเชื่อกันว่าการไหลเรือไฟเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่พระพุทธองค์ประทับไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทานที  รวมทั้งยังมีความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาพญานาคในลำน้ำโขง การระลึกถึงพระคุณของพระแม่คงคา ขอขมาลาโทษต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในแม่น้ำ และยังถือเป็นการลอยเคราะห์ลอยโศก ให้อยู่เย็นเป็นสุข มีโชคลาภอีกด้วย ในทุกปีจังหวัดนครพนมจะจัดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัด บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง มีการออกร้านจำหน่ายสินค้านานาชนิด สินค้าโอท็อป และการแสดงพื้นเมือง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม โทร. 042 513 409-1 “งามตาฝั่งโขง” นครพนมเป็นจังหวัดหนึ่งที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ ไม่ว่าจะไปฤดูร้อน ฤดูฝน หรือฤดูหนาว บรรยากาศริมแม่น้ำโขงก็ยังมีมนต์เสน่ห์ที่คอยสะกดให้เราหยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก หรือชมวิถีชีวิตริมฝั่งโขงของชาวไทยและชาวลาว สำหรับผู้รักการปั่นจักรยาน นครพนมถือว่าตอบโจทย์มาก เพราะปัจจุบันทางเทศบาลได้จัดทำเส้นทางสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ ตั้งแต่บริเวณช่วงถนนสุนทรวิจิตร ถนนเลียบแม่น้ำโขงในตัวเมือง ระยะทางรวม 14 กิโลเมตร โดยมีสัญลักษณ์และสีสันที่ชัดเจน เรียกได้ว่าสะดวกสบายและปลอดภัยแน่นอน

นครพนม เที่ยวตามคำขวัญ อ่านเพิ่มเติม

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : เที่ยวลัดเลาะตามตรอกซอกซอย “ชุมชนกุฎีจีน”

วัดซางตาครู้ส .โบสถ์คาทอลิกที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2313 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์และนีโอคลาสิก พร้อมยอดโดมที่จำลองมาจากมหาวิหารฟลอเรนซ์ ในประเทศอิตาลี  วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร.อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีหลวงพ่อโตเป็นพระประธานตั้งประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ ชาวพุทธนิยมมาสักการบูชาเพื่อขอพรให้เดินทางปลอดภัย และขอให้มีมิตรที่ดีตามชื่อของวัดแห่งนี้ หลวงพ่อโต วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน.พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของไทยและโปรตุเกสที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีการนำวิทยาการสมัยใหม่เข้ามา ทั้งในด้านการทหาร การแพทย์ การสร้างป้อม ไปจนถึงเรื่องราวของขนมไทย ซึ่งเชื่อกันว่าท้าวทองกีบม้าได้ดัดแปลงมาจากขนมของโปรตุเกสอีกด้วย พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เป็นบ้านไม้สองชั้น ชั้นบนเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดง ส่วนชั้นล่างเป็นร้านกาแฟเล็กๆ บ้านสกุลทอง.ถ้าเพื่อนๆ มีเวลา แอดแนะนำห้ามพลาดมาชิมอาหารชาววัง สำรับโปรตุเกส มีเมนูที่หาทานได้ยากมากมาย ทั้งอาหารว่างอย่างจีบตัวนกและช่อม่วง รวมไปถึงอาหารจานหลักอย่างขนมจีนโปรตุเกส เมนูที่ได้รับการดัดแปลงจากสปาเกตตี้ไวท์ซอสนั่นเอง นอกจากนี้ที่บ้านสกุลทองยังเปิดคอร์สสอนทำอาหารอีกด้วย โดยปัจจุบันเปิดสอนอยู่ 3 เมนูได้แก่ ช่อม่วง จีบตัวนก และหมูสร่ง สำหรับใครที่สนใจสามารถสำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 062 605 5665.ร้านอาหารบ้านสกุลทอง เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-17.30 น. ขนมฝรั่งกุฎีจีน.ขนมโบราณอายุกว่า 200 ปี ได้รับอิทธิพลมาจากขนมของชาวโปรตุเกส ที่ใช้เพียงแป้งสาลี ไข่เป็ด และน้ำตาลทราย เป็นส่วนผสมในการทำ วิธีการทำก็คือนำขนมไปอบด้วยเตาถ่าน แล้วโรยหน้าด้วยลูกเกด ลูกพลับ ฟักเชื่อม และน้ำตาล เท่านี้ก็จะได้ขนมที่หอมอร่อย กรอบนอกนุ่มในแล้ว ปัจจุบันมีร้านบ้านป้าเล็ก บ้านป้าพรรณ ร้านหลานป้าเป้า และร้านธนูสิงห์ ที่ยังคงทำขนมโบราณชนิดนี้ขายอยู่ ถ้าใครมีโอกาสมาย่านกุฎีจีน อย่าลืมแวะชิมขนมโบราณหาทานยากชนิดนี้กันด้วยนะ

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : เที่ยวลัดเลาะตามตรอกซอกซอย “ชุมชนกุฎีจีน” อ่านเพิ่มเติม

กระดาษมูลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง

วันนี้แอดมาเที่ยวที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง ซึ่งที่นี่เค้ามีโครงการนำมูลช้างมาผลิตเป็นกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราสามารถลองทำกระดาษจากมูลช้างกันได้ด้วยค่ะ.ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ที่ตั้ง : 28-29 ถ.ลำปาง-เชียงใหม่ ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปางเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 15.00 น.โทร. 054 829 333, 054 829 322พิกัด : https://goo.gl/maps/vqAjQ5m6TFM2 — — atศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant Conservation Center Lampang. แอดจะมาเล่าประสบการณ์การทำกระดาษจากมูลช้างให้ฟังค่ะ พระเอกของเราก็คือ มูลช้าง และ ต้นปอสา นั่นเอง ขั้นตอนแรก เราต้องเก็บมูลช้างจากโรงช้างก่อน จะสดหรือแห้งก็ได้ ซึ่งสีที่ได้ออกมาก็จะแตกต่างกัน และเก็บต้นปอสา เพื่อนำมาเป็นส่วนผสมกับมูลช้าง จากนั้นไปล้างและต้มรวมกันใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง โดยใส่โปแตสเซียมไฮดรอกไซด์เพื่อให้มูลช้างและปอสาเปื่อยยุ่ย และยังช่วยดับกลิ่นอีกด้วย  จากนั้นนำมูลช้างและปอสามาล้างในน้ำให้สะอาด แล้วนำไปปั่นในเครื่องปั่นเพื่อตัดเส้นใย นำมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง แล้วคัดแยกกากออก เหลือเฉพาะส่วนที่ละเอียดไว้ นำไปชั่งน้ำหนักและแบ่งให้ได้ปริมาณเท่าๆ กันเป็นลูกๆ ลูกละประมาณ 4 ขีด นำลูกที่ได้นี้ไปละลายในถังน้ำ แล้วใส่สารกระจายเยื่อหรือที่เรียกว่า ยูรามีน ลงไป แล้วใช้มือขยำเพื่อให้เยื่อกระจายตัวออกจากกัน จากนั้นก็เทลงในเฟรมที่เตรียมไว้ โดยเทไปทั่วๆเฟรม จากนั้นยกเฟรมขึ้นเขย่าเบาๆ เพื่อให้เนื้อกระจายเท่าๆ กัน เสร็จแล้วก็นำเฟรมไปตากแดด ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน พอแห้งสนิทแล้วก็ค่อยๆ แกะกระดาษออก โดยแกะจากขอบด้านบนเฟรมก่อน ก็จะได้กระดาษมูลช้างที่สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้เลย หลังจากเราได้ลองทำกระดาษมูลช้างกันแล้ว ก็มาดูผลิตภัณฑ์จากกระดาษมูลช้างกันบ้าง  สินค้าที่ทำมาจากกระดาษมูลช้างมีมากมาย ได้แก่ โปสต์การ์ด ที่คั่นหนังสือ อัลบั้มใส่รูป ปุ๋ยมูลช้าง และอื่นๆ น่ารักทั้งนั้นเลยค่ะ ถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ก็อย่าลืมเลือกซื้อไปเป็นของที่ระลึกกลับบ้านกันนะคะ

กระดาษมูลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top