สถานที่ท่องเที่ยว

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : นนทบุรี และปทุมธานี

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า จำเป็นต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไทย เพื่อนำมาทำน้ำอภิเษกประกอบในพระราชพิธี  วันนี้แอดจะพาไปดูว่าเส้นทางนนทบุรี และปทุมธานี มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนบ้าง จากนั้นก็ถือโอกาสแวะเที่ยวสถานที่ใกล้ๆ ไปด้วยเลย แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : น้ำกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำ : พระอุโบสถวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดศาลเจ้า อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำ : พระอุโบสถวัดเขียนเขตพระอารามหลวง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง จังหวัดนนทบุรี– อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก (ติดกับวัดเฉลิมพระเกียรติ) – เกาะเกร็ด จังหวัดปทุมธานี– ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : นนทบุรี และปทุมธานี อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวตามคำขวัญ : สกลนคร

สกลนคร ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ เป็นที่ตั้งของพระธาตุศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง มีเกจิอาจารย์ผู้เป็นที่เคารพนับถือหลายรูป และยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย  คำขวัญประจำจังหวัด “พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาร แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม” พระธาตุเชิงชุม เป็นพระธาตุเก่าแก่ สร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่นับเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาแต่โบราณ ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ ภายในวิหารใกล้กับพระธาตุเชิงชุม เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อองค์แสนอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือและเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดสกลนคร ทุกวันพระในตอนค่ำจะมีประชาชนมากราบไหว้พระธาตุและหลวงพ่อองค์แสนเป็นจำนวนมาก  นอกจากนี้จะมีการจัดงานนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อองค์แสน ระหว่างวันขึ้น 9 ค่ำ – วันขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่ หรือราวเดือนมกราคมของทุกปี วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เปิดทุกวันตั้งแต่ 07.00-18.00 น.ตั้งอยู่ที่ ถนนเจริญเมือง อ.เมือง จ.สกลนคร พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ ในคราวเสด็จแปรพระราชฐานเยี่ยมพสกนิกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ปัจจุบันหากไม่มีการเสด็จแปรพระราชฐาน ก็จะอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ทุกวัน พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักต้นไม้เลยทีเดียว เนื่องจากภายในบริเวณเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด โดยเฉพาะไม้ดอกจากป่าภูพาน เช่น ดุสิตา มณีเทวา และทิพย์เกสร ซึ่งจะมีให้ชมเฉพาะช่วงหน้าหนาวเท่านั้น พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์เปิดทุกวันตั้งแต่ 09.00-16.00 น.โทร. 042 714 499ที่ตั้ง : ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร หนองหาร เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังประโยชน์ในด้านการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ และการทำประมง ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านในชุมชนรอบหนองหาร บริเวณจุดชมวิวมีศาลาริมน้ำสำหรับพักผ่อนหย่อนใจอยู่หลายจุด มีสะพานคอนกรีตที่ยื่นออกไปยังเกาะกลางน้ำ เหมาะสำหรับเดินเล่นชมวิวและถ่ายรูป โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้าและเย็น  จุดชมวิวหนองหารเปิดทุกวันตั้งแต่ 06.00-19.00 น. ที่ตั้ง : ริมทางหลวงหมายเลข 22 หลักกิโลเมตรที่ 168 เส้นทางจากนครพนมเข้าตัวเมืองสกลนคร “ปราสาทผึ้ง” คือสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชาตามคติความเชื่อทางพุทธศาสนา โดยปราสาทที่สร้างขึ้นนั้นมีการออกแบบให้มีลักษณะและลวดลายที่สวยงามคล้ายกับปราสาทบนสวรรค์ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า การสร้างปราสาทผึ้งเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และยังเป็นการสร้างบุญกุศลร่วมกันในช่วงออกพรรษาอีกด้วย ปราสาทผึ้งในปัจจุบันใช้ไม้ทำเป็นโครงรูปทรงปราสาท แล้วหล่อขี้ผึ้งเป็นลวดลายประดับตามส่วนต่างๆ ของปราสาท ทุกปีชาวบ้านจากหมู่บ้านต่างๆ จะนำปราสาทผึ้งที่พร้อมใจกันสร้างและตกแต่งอย่างสวยงาม มาประกวดกัน ณ สนามมิ่งเมือง จากนั้นจะแห่ไปตามถนนในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร และไปสิ้นสุดที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร  งานประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง จัดขึ้นในช่วงวันออกพรรษา ระหว่างวันขึ้น 12 – 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ณ สนามมิ่งเมือง และวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อ.เมืองสกลนคร ภูไท หรือ ผู้ไท เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่รองจากกลุ่มไทยลาว และมีจำนวนมากเป็นอันดับ 2 ของสกลนคร สันนิษฐานว่าถิ่นเดิมของชาวภูไทนั้น อยู่บริเวณตอนกลางของมณฑลยูนนานในสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อมาได้อพยพเข้าไปอาศัยยังสิบสองจุไท หรือบริเวณลาวตอนเหนือ ส่วนในไทยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถบลุ่มแม่น้ำโขง และแถบเทือกเขาภูพาน ชาวภูไทมีศิลปะการแสดงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์คือ การฟ้อนภูไท ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยเริ่มสร้างองค์พระธาตุเชิงชุม พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวสกลนคร ในปัจจุบันการฟ้อนภูไท นอกจากจะฟ้อนเพื่อบูชาพระธาตุเชิงชุมแล้ว ยังฟ้อนเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น พิธีเลี้ยงเจ้าปู่มเหศักดิ์ของชาววาริชภูมิ และใช้ในการฟ้อนต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและในงานเทศกาลต่างๆ อีกด้วย สกลนครเป็นดินแดนที่มีพระอริยสงฆ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ หลวงปู่มั่น หลวงปู่หลุย หลวงปู่ฝั้น และหลวงปู่วัน  วัดป่าสุทธาวาส เป็นสถานที่ที่หลวงปู่มั่นเลือกมาพักในยามอาพาธ เมื่อ พ.ศ. 2492 และท่านก็ได้มรณภาพที่นี่  ภายในวัดมี พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นอาคารที่มีลักษณะเรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ สะท้อนถึงอุปนิสัยและการใช้ชีวิตอย่างสมถะของหลวงปู่มั่นได้เป็นอย่างดี  ภายในเป็นที่เก็บรักษาอัฐิธาตุของหลวงปู่มั่น และมีหุ่นขี้ผึ้งของท่านในท่านั่งขัดสมาธิ มีการจัดแสดงเครื่องอัฐบริขาร รวมทั้งประวัติของหลวงปู่มั่นตั้งแต่เกิดจนมรณภาพอีกด้วย วัดป่าสุทธาวาส เปิดทุกวันตั้งแต่ 07.00-18.00 น.ที่ตั้ง : ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร

เที่ยวตามคำขวัญ : สกลนคร อ่านเพิ่มเติม

ป่าในกรุง : Green in the City

ถ้ามนุษย์เงินเดือนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองกรุงอย่างเราๆ เกิดอยากเที่ยวป่าขึ้นมา แต่มีเวลาน้อย จะไปที่ไหนดีนะ? เอายังงี้ละกัน อยู่ในกรุงเทพฯ ก็เข้าป่าในกรุงเทพฯ นี่แหละ “ป่าในกรุง” ศูนย์การเรียนรู้เพื่อนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างป่าและเมือง  ก่อตั้งโดยสถาบันปลูกป่า ปตท. หรือ “PTT Green in the City” เพื่อส่งเสริมพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองและเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกป่าเชิงนิเวศแบบยั่งยืน เพื่อให้เกิดป่าที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติดั้งเดิมในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่นี่แบ่งสัดส่วนของพื้นที่ออกเป็น พื้นที่ป่า 75% พื้นที่น้ำ 10% และพื้นที่ใช้งาน 15% และยังมีการออกแบบอาคารให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติอีกด้วย ภายในโครงการมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์แห่งป่า ป่าบางกอก ห้องฉายภาพยนตร์ขนาดเล็ก และยังมีทางเดิน sky walk ให้ศึกษาธรรมชาติด้วย เมื่อเดินเข้ามาเรื่อยๆ ระหว่างทางเราจะเห็นกำแพงดินบดอัดที่ตกแต่งด้วยเมล็ดพันธุ์ต่างๆ อัดแน่นไปด้วยความรู้กันเลยทีเดียว  พื้นที่ทั้งหมด 12 ไร่ ของป่ากลางกรุงประกอบด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด ทั้งพันธุ์ไม้หายาก พันธุ์ไม้ดั้งเดิมของกรุงเทพฯ และพันธุ์ไม้ของป่าประเภทต่างๆ รวมแล้วกว่า 200 ชนิด กระจายอยู่ทั่วบริเวณโครงการเลย และสำหรับไฮไลท์ที่เมื่อมาแล้วต้องห้ามพลาดก็คือ ทางเดินชมเรือนยอด (Sky Walk) ซึ่งเป็นสะพานไม้ศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 200 เมตร ว่าแล้วก็ไม่ต้องรีรอ ขึ้นไปลุยกันเลย!  ประโยชน์ของทางเดินชมเรือนยอดก็คือ ทำให้เราได้เห็นต้นไม้พันธุ์ต่างๆ อาศัยอยู่รวมกันเต็มไปหมด นี่สินะ บรรยากาศของป่าสีเขียวในเมืองกรุง เดินมาเรื่อยๆ เราก็จะพบกับไฮไลท์อีกอย่างหนึ่ง หอสูงๆ ตรงนั้นคือ หอชมป่า (Observation Tower) ซึ่งเป็นจุดชมวิวมุมสูงนั่นเอง มีความสูง 23 เมตร นับเป็นจุดที่สูงที่สุดของโครงการเลย อีกทั้งยังออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติด้วย  เมื่อขึ้นไปแล้วเราก็จะได้เห็นบรรยากาศของกรุงเทพฯ แบบ 360 องศาเลยล่ะ ไม่อยากจะเชื่อว่าในเมืองหลวงของเรา จะมีธรรมชาติที่สวยงามขนาดนี้ มุมนี้มีน้ำตกขนาดย่อมด้วย เราสามารถมานั่งชมน้ำตกและฟังเสียงน้ำไหลกันได้เพลินๆ ถ้าวันไหนอากาศดี แดดไม่แรงมาก บรรยากาศจะชิลมากเลยล่ะ ก่อนกลับเรามาแวะโซนนิทรรศการ (Exhibition Hall) กัน หรือใครจะเข้าไปชมก่อนไปขึ้นหอชมป่าก็ได้นะ ตากแอร์เย็นๆ  ภายในจัดแสดงความเป็นมาของโครงการป่าในกรุง ทฤษฎีการพัฒนาฟื้นฟูป่าไม้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และปรากฏการณ์ธรรมชาติ ชมเสร็จแอดก็รู้สึกประทับใจขึ้นมาทันทีเลย ไม่ว่าใครก็อยากให้ธรรมชาติคงอยู่กับเราทั้งนั้น จริงมั้ย แอดว่าที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยนะ ได้พักผ่อน เรียนรู้ และยังปลูกจิตสำนึกให้ตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ด้วย  ป่าในกรุง ที่ตั้ง : 81 ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ เปิดวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 18.00 น. (ปิดวันจันทร์)โทร. 02 136 6380พิกัด : https://goo.gl/maps/Mxk6Avas22v

ป่าในกรุง : Green in the City อ่านเพิ่มเติม

หาดหงส์ : ความสวยงามยามน้ำลง

หาดหงส์ จ.อุบลราชธานี เป็นเนินทรายแม่น้ำโขงขนาดมหึมาที่เกิดจากการพัดพาของน้ำและตะกอนทรายมาทับถมกัน จนกลายเป็นผืนทรายกว้างใหญ่  หาดหงส์ ตั้งอยู่ใกล้กับสามพันโบก การเดินทางต้องนั่งเรือเข้าไป ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวสามพันโบกจะนิยมแวะเที่ยวหาดหงส์กันด้วย ช่วงเวลาที่คนนิยมมาเที่ยวหาดหงส์ จะเป็นช่วงเย็นๆ หรือก่อนดวงอาทิตย์ตก เพราะเมื่อแสงสีส้มอ่อนๆ ของดวงอาทิตย์สะท้อนกับพื้นทรายสีขาว จะเกิดเป็นประกายระยิบระยับสวยงามสุดๆ ราวกับอยู่กลางทะเลทรายเลยล่ะ แอดแนะนำว่าควรไปช่วงเช้าหรือเย็นจะดีที่สุด เพราะตอนกลางวันแดดจะร้อนมากๆ นอกจากนี้ก็ควรพกน้ำดื่มและอุปกรณ์กันแดดไปด้วยนะ การเดินทางไปหาดหงส์ สามารถขึ้นเรือได้ที่หาดสลึง จุดเดียวกับที่ขึ้นเรือไปชมสามพันโบก ระหว่างล่องเรือจะได้ชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขง และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านอีกด้วย ค่าบริการเรือ (เหมาลำ) 700-1000 บาท (นั่งได้ 10 คน)เรือให้บริการตั้งแต่ 06.00 น. รอบสุดท้ายประมาณ 14.00 น.

หาดหงส์ : ความสวยงามยามน้ำลง อ่านเพิ่มเติม

10 เส้นทางรถไฟ เที่ยวประหยัดใกล้กรุง

ไหนใครอยากไปเที่ยว แต่มีเวลาว่างจำกัดบ้าง บอกเลยว่า เราหัวอกเดียวกันค่ะ เพราะฉะนั้น ที่เที่ยวที่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ก็ต้องอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เอาแบบเที่ยววันเดย์ทริป หรือ 2 วัน 1 คืน ได้ยิ่งดี แต่ถ้าจะให้นั่งรถตู้หรือขับรถไปก็อาจจะดูธรรมดาไปหน่อย ลองเปลี่ยนมานั่งรถไฟดูสิ ได้ชมบรรยากาศสวยๆ ระหว่างทาง แถมราคาก็ไม่แพงอีกด้วย . . ใครอยากนั่งรถไฟไปเที่ยว คลิกเข้าไปดูข้อมูลไว้เป็นแนวทางจัดทริปครั้งหน้าได้เลย . . สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยรถไฟได้ที่ : การรถไฟแห่งประเทศไทย call center 1690 http://www.railway.co.th/Home/Index . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .  นครปฐม – ราคาตั๋ว 10-44 บาท– สถานีธนบุรี-สถานีนครปฐม– เวลารถไฟเที่ยวไป 07.30 น. / 07.50 น. / 13.05 น. / 13.55 น. / 18.25 น.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง.สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สถานีรถไฟ– พระปฐมเจดีย์ – พระราชวังสนามจันทร์ ที่กินใกล้สถานีรถไฟ– ตั้งฮะเส็ง ข้าวหมูแดง นครปฐม – ตลาดนัดองค์พระปฐมเจดีย์ – ร้าน Boxgallery– ร้าน Fairy Tale cozy dessert home กาญจนบุรี – ราคาตั๋ว 25-110 บาท– สถานีธนบุรี-สถานีกาญจนบุรี– เวลารถไฟเที่ยวไป 07.50 น. / 13.55 น.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง – รถไฟท่องเที่ยว สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)-สถานีน้ำตก ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์.สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สถานีรถไฟ – พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า– สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก– พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก– หอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก– สวนน้ำ West Wonder Waterpark  ที่กินใกล้สถานีรถไฟ– ก๋วยเตี๋ยววันวาน – ร้านบ้านเรา – ร้านชลุค– Gravite drip coffee พระนครศรีอยุธยา – ราคาตั๋ว 45-130 บาท– สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)-สถานีอยุธยาเวลารถไฟเที่ยวไป 04.20 น. / 05.20 น. / 05.45 น. / 6.40 น. / 07.00 น. / 08.20 น. / 08.30 น. / 09.25 น. / 10.05 น. / 10.50 น. / 11.20 น. / 11.40 น. / 12.55 น. / 13.45 น. / 14.05 น. / 15.20 น. / 16.30 น. / 17.00 น. / 17.25 น. / 18.10 น. / 18.20 น. / 18.35 น. / 18.55 น. / 19.35 น. / 20.00 น. / 20.10 น. / 20.30 น.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับประเภทรถไฟ).สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สถานีรถไฟ – ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช– วัดพิชัยสงคราม– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา – อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่กินใกล้สถานีรถไฟ– ร้านบ้านส้มตำ– แพกรุงเก่า – ร้านผักหวาน– บ้านข้าวหนม– The JIM’s Cafe ราชบุรี – ราคาตั๋ว 25-370 บาท– สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)-สถานีราชบุรี เวลารถไฟเที่ยวไป 08.05 น. / 09.20 น. / 13.00

10 เส้นทางรถไฟ เที่ยวประหยัดใกล้กรุง อ่านเพิ่มเติม

ไต่ระฟ้า ดอยหนอก ดอยเดียวเหมือนได้เที่ยว 4 จังหวัด

ถ้าใครชอบความท้าทาย แอดบอกเลยว่า ต้องไปที่นี่ ดอยหนอก ดอยสูงเสียดฟ้าที่สามารถมองเห็นวิวของกว๊านพะเยา แถมขึ้นแค่ดอยเดียวก็สามารถมองเห็นวิวได้ทั้ง 4 จังหวัดเลย ดอยหนอกเป็นยอดดอยสูง 1,428 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง ตั้งอยู่บนเส้นแนวแบ่งเขตจังหวัดพะเยาและจังหวัดลำปาง ภายในเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง เส้นทางขึ้นดอยหนอก มีอยู่ 5 เส้นทาง คือ  – บ้านปากบอก อ.งาว จ.ลำปาง– บ้านปงถ้ำ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง– บ้านแม่นาเรือ อ.เมือง จ.พะเยา– อ่างเก็บน้ำบ้านตุ่น อ.เมือง จ.พะเยา– บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา *แอดแนะนำให้ขึ้นทางบ้านปากบอก ใกล้จุดชมวิวกว๊านพะเยา ซึ่งเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยม เพราะวิวสวยที่สุดและสามารถมองเห็นกว๊านพะเยาได้พิกัด จุดชมทิวทัศน์กว๊านพะเยา https://goo.gl/maps/YYWxnFTmeup ก่อนจะไปขึ้นดอยหนอก ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติดอยหลวง เพื่อนัดแนะวันเวลากันก่อน เพราะการขึ้นดอยหนอกนั้นไม่อนุญาตให้เดินขึ้นเอง ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง นอกจากนี้ยังต้องตกลงเรื่องลูกหาบ รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกด้วย  อุทยานแห่งชาติดอยหลวง (หน่วยพิทักษ์ฯ จำปาทอง) โทร. 084 810 3569, 092 713 2046, 080 853 6033 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ โลกของคนเดินทาง เอ้า!! ทุกคนพร้อม เริ่มเดินได้ การเดินทางจากบ้านปากบอก-ยอดดอยหนอก จะหยุดพักค้างคืน 1 คืนที่ยอดดอยหลวง โดยระยะทางจากจุดเริ่มเดินที่บ้านปากบอก-จุดพักค้างคืนดอยหลวง ประมาณ 9 กิโลเมตร และจากดอยหลวง-ดอยหนอก ประมาณ 2 กิโลเมตร ระหว่างทางต้องเจอกับเนินเขาสูง ที่ค่อยๆ ไต่ระดับความชันขึ้นไปเรื่อยๆ  – ป่าสนเขา ป่าบริเวณนี้จะมีต้นสนเยอะ– สันหมูแม่ด้อง เป็นจุดที่ชันเป็นอันดับ 2 ของเส้นทางนี้ แนวเขาแคบเหมือนสันหลังของ “หมูแม่ด้อง” (แม่หมูที่ผอมแห้ง)– ทุ่งหญ้าเด่นสะแกง ทุ่งหญ้าโล่งกว้าง เป็นจุดที่ฝูงวัวจากด้านล่างจะเดินขึ้นมาหาหญ้ากิน– บันไดก่ายฟ้า เป็นจุดที่ชันที่สุดของเส้นทาง เป็นทางที่แคบและชันเหมือนการไต่บันไดที่พาดกับท้องฟ้า บรรยากาศของสันหมูแม่ด้อง ที่เห็นปุ๊บก็ต้องกลืนน้ำลายดังเอื๊อก!! จะรอดไหมเนี่ย หลังจากเดินผ่านด่านบันไดก่ายฟ้ามาได้แล้ว ต้องเดินต่อไปอีก 1 กิโลเมตร เพื่อไปยังจุดพักค้างคืนที่ยอดดอยหลวง ในที่สุดก็ถึงดอยหลวงแล้ว พอขึ้นมาถึงตรงนี้ ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะเราจะได้เห็นบรรยากาศของหมอกที่พัดปลิว และทิวทัศน์ของแนวเขาที่เราเดินผ่านมา โอ้โห ทำไปได้ เดินมาได้ยังไงเนี่ย ดอยหลวงเป็นดอยที่สูงที่สุดในเทือกเขานี้ มีความสูง 1,694 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง สามารถมองเห็นกว๊านพะเยาได้อย่างชัดเจน และเห็นดอยหลวงเชียงดาวที่อยู่ไกลลิบๆ ด้วย ขึ้นมาถึงดอยหลวงแล้ว อย่าลืมมาไหว้หลวงพ่อดอยหลวงเพื่อความเป็นสิริมงคล เช้าวันรุ่งขึ้น เรามุ่งหน้าสู่ดอยหนอก จากจุดพักบนดอยหลวงถึงดอยหนอกระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร  การปีนขึ้นยอดดอยหนอกนั้น เราต้องทิ้งสัมภาระไว้ที่ตีนดอย เพราะทางชันมากๆ บางจุดชันถึง 90 องศา ต้องเกาะเชือกสลิงขึ้นไปเลยทีเดียว แต่เรื่องความปลอดภัยนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ คอยดูแลอยู่  ปกติเราเคยได้ยินแต่คำว่า “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” แต่ที่นี่ แอดบอกเลยว่า “ยิ่งสูง ยิ่งเสียว” เสียวจนก้าวขาไม่ออก แต่เราก็ต้องรวบรวมความกล้า แล้วปีนขึ้นไปให้ถึงยอดให้ได้ ขอบคุณรูปภาพจากเพจ โลกของคนเดินทาง พอขึ้นมาถึงยอดดอย ก็อยากจะตะโกนว่า ทำได้แล้วเว้ยยยย  บนยอดดอยหนอกสามารถเห็นทิวทัศน์ได้ถึง 4 จังหวัด คือ พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ และเชียงราย นี่แหละ แอดถึงบอกว่า ไปดอยเดียวเหมือนได่ไปเที่ยว 4 จังหวัด บนยอดดอยหนอกยังเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยหนอกและพระวิสุทธิเทพ (พระพุทธเจ้าปางนิพพาน) อีกด้วย

ไต่ระฟ้า ดอยหนอก ดอยเดียวเหมือนได้เที่ยว 4 จังหวัด อ่านเพิ่มเติม

DOUBLE SLASH // COFFEE SPACE

ร้าน Double Slash ร้านกาแฟที่หน้าตาอาจไม่โดดเด่น แต่ภายในเต็มไปด้วยความเก๋ ไม่ว่าจะเป็นขนมหรือเครื่องดื่มล้วนตอบโจทย์ความเรียบง่าย มี mood and tone ไปในทางเดียวกัน Double Slash ก็คือเครื่องหมาย // ซึ่งเจ้าของร้านได้ใช้สัญลักษณ์นี้ในการเขียนหรือจดบันทึกไอเดียต่างๆ จึงเป็นที่มาของการนำมาเป็นคอนเซ็ปต์ร้าน สื่อถึงความเรียบง่ายที่ผ่านกระบวนการคิดและคัดสรรออกมาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่นำมาทำเครื่องดื่มและขนม รวมทั้งสไตล์การตกแต่งร้านนั่นเอง ภายในร้านอาศัยเเสงจากธรรมชาติที่ส่องผ่านลงมาจากหลังคาด้านบน ทำให้ร้านดูโปร่งโล่ง ประกอบกับการเน้นโทนสีขาวดำและผนังปูนเปลือย รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ใช้ตกแต่งส่วนต่างๆ ของร้าน ก็ทำให้บรรยากาศโดยรวมมีความอบอุ่นอ่อนโยนมากๆ เมนูของร้านค่อนข้างเรียบง่าย แต่โดดเด่นในเรื่องของกาแฟที่ได้คัดเลือกวัตถุดิบมาเป็นอย่างดี ได้กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นตั้งแต่เข้ามาในร้านเลยทีเดียว นอกจากกาแฟ ทางร้านก็ยังมีเมนูอื่นๆ อย่างมัทฉะเย็น (140 บาท) ซึ่งได้นำผงมัทฉะแท้ๆ จาก Peace Oriental Teahouse ร้านชาสไตล์ตะวันออกสุดโด่งดัง มาเป็นส่วนหนึ่งของร้านด้วย รสชาติเข้มข้น หอม กลมกล่อมมากๆ ในส่วนของขนม ทางร้านก็มีเบเกอรี่โฮมเมดที่ทำสดใหม่ทุกวัน เป็นขนมง่ายๆ สไตล์ฝรั่งเศส ที่ถึงจะมีเมนูไม่มากแต่ทุกเมนูอร่อยเด็ดสุดๆ เลยค่ะ  Raisin Danish (55 บาท) เดนนิสลูกเกด ตัวแป้งกรอบนอกนุ่มใน ใส่ลูกเกดมาให้อย่างจุใจ เคี้ยวกันได้เพลินๆ นอกจากนี้ก็ยังมี ครัวซองต์อัลมอนด์ เพลนครัวซองต์นุ่มๆ ให้เลือกชิมอีกด้วย ภายในร้านมีทั้งโต๊ะเก้าอี้ไม้ และเคาน์เตอร์บาร์ที่สามารถนั่งดูบาริสต้าสร้างสรรค์ผลงานได้ด้วย เลือกนั่งกันได้เลย บริเวณใกล้เคียงของร้านส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด เราจึงมักจะเห็นหนุ่มสาวออฟฟิศมานั่งชิลๆ กันตั้งแต่เช้า แต่ไม่เพียงแค่วัยทำงานเท่านั้น ยังมีกลุ่มเพื่อนวัยเรียน วัยรุ่นมานั่งแลกเปลี่ยนพูดคุยกันมากมายเลยล่ะ Double Slash // Coffee Space ที่ตั้ง : 1585/1 ถนนอรุณอมรินทร์ เเขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯเปิดวันพฤหัสบดี – อังคาร เวลา 07.00 – 18.00 น. (ปิดวันพุธ)โทร. 097 989 6499 พิกัด : https://goo.gl/maps/3SA3X9m3fXq

DOUBLE SLASH // COFFEE SPACE อ่านเพิ่มเติม

สี่เสา ทะเลเดือด ก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดย่านเทเวศร์

สี่เสา ทะเลเดือด ก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดย่านเทเวศร์ ร้านสี่เสา ทะเลเดือด ร้านนี้เด่นเรื่องก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสแซ่บ ที่ยกทะเลมาไว้ในชามด้วย เรียกได้ว่าแซ่บจนทะเลเดือดเลยทีเดียว มีเมนูอะไรน่าสนใจบ้างตามแอดไปดูเลย ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล (60 บาท เพิ่มไข่ยางมะตูม 70 บาท) เมนูแนะนำของทางร้านที่รสชาติอร่อยกลมกล่อม แทบจะไม่ต้องปรุงเพิ่ม โดยเคล็ดลับอยู่ที่น้ำพริกเผาที่นำมาทำต้มยำ เป็นสูตรสมุนไพร สูตรเฉพาะของทางร้าน ทำให้น้ำต้มยำหอมมากยิ่งขึ้น  อยากได้แซ่บมาก แซ่บน้อย สามารถสั่งได้ตามใจชอบเลย นอกจากน้ำต้มยำที่ว่าเด็ดแล้ว เครื่องที่ใส่มาก็เด็ดไม่แพ้กัน กุ้งและปลาหมึกสดมาก เนื้อเด้งดึ๋งดั๋ง ส่วนลูกชิ้นปลาก็เนื้อนุ้มนุ่ม ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟต้มยำ (60 บาท) ก็อร่อยไม่แพ้กัน ต้องลอง นอกจากเมนูก๋วยเตี๋ยวต้มยำแล้ว ทางร้านยังมีเมนูสุดแซ่บอีกหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น เซตลูกชิ้นและปลาลวกจิ้ม ที่มาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ข้าวผัดต้มยำ และข้าวผัดกระเพรา เป็นต้น ทานอาหารเผ็ดๆ มาหลายเมนู ต้องปิดท้ายด้วยน้ำอัญชันมะนาว (15 บาท) รสชาติเปรี้ยวกำลังดี อร่อยมากๆ แอดคอนเฟิร์ม สี่เสา ทะเลเดือดที่ตั้ง : สี่เสาเทเวศร์ ถ.สามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานครเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 07.30-17.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)โทร.02 628 6868, 083 642 2891

สี่เสา ทะเลเดือด ก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดย่านเทเวศร์ อ่านเพิ่มเติม

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร อำเภอแม่วงก์ และอำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ มีเนื้อที่ประมาณ 558,750 ไร่ เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารต่างๆ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายภายในอุทยานฯ อีกด้วย  ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โทร.090 457 9291 ค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท น้ำตกแม่รีวา หรือ น้ำตกแม่เรวา  อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 21 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงาม และมีถึง 5 ชั้นด้วยกัน หากเพื่อนๆ อยากจะชมความงามกลางป่านี้ จะต้องเดินเท้าเข้าไป ใช้เวลาเดินทางไป-กลับ 3-4 วัน น้ำตกแม่กระสา หรือ น้ำตกแม่กาสา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี 9 ชั้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 18 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าไป-กลับ 3-4 วัน แก่งผานางคอย  เป็นน้ำตกเล็กๆ มี 4 ชั้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1,400 เมตร เป็นแก่งหินลำห้วยคลองขลุง จากบริเวณแก่งหินเดินขึ้นไปประมาณ 350 เมตรจะถึงน้ำตก และบริเวณใกล้น้ำตกยังสามารถกางเต็นท์พักแรมได้อีกด้วย สามารถจองที่พักและสอบถามเกี่ยวกับการกางเต็นท์ได้ที่ : http://nps.dnp.go.th/ เส้นเดินทางศึกษาธรรมชาติ  เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดูนก ในภาพนี้คือนกเงือกคอแดงค่ะ นอกจากนกเงือกแล้ว ยังมีนกกระเต็นขาวดำใหญ่ นกภูหงอนพม่า และยังมีนกที่ถูกบันทึกไว้ว่าเจอที่นี่อีกประมาณ 300 ชนิดเชียวนะคะ ว้าววว เยอะมากๆ เลย ช่องเย็น  จุดชมพระอาทิตย์ตกของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และยังเป็นจุดชมทะเลหมอกอีกด้วย เนื่องจากมีลมพัดผ่านตลอด และมีอุณภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 20 องศาเซลเซียส จึงเป็นที่มาของชื่อ “ช่องเย็น” นั่นเองค่ะ เนื่องจากช่องเย็นเป็นทางเลียบหน้าผาที่แคบ รถไม่สามารถสวนกันได้ ทางอุทยานฯ จึงได้กำหนดเวลาขึ้น-ลงดังนี้ เวลาขึ้น : 05.00 – 06.00 น. / 09.00 -10.00 น. / 13.00 – 14.00 น.เวลาลง : 07.00 – 08.00 น. / 11.00 – 12.00 น. / 15.00 – 16.00 น.  ทะเลหมอกช่องเย็น มันก็จะหนาๆ แบบนี้เลย ยอดเขาโมโกจู  เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 38 กิโลเมตร เหมาะสำหรับนักผจญภัยที่ชอบเดินป่า ปีนเขา เพราะการเดินทางไปถึงยอดเขานี้ ต้องใช้เวลาไป-กลับ 5 วันเลยทีเดียว และต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำทางด้วย เพราะฉะนั้นหากเพื่อนๆ สนใจจะไปพิชิตยอดเขานี้ละก็ อย่าลืมเตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยนะคะ

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อ่านเพิ่มเติม

พังกี่ข้าวมันไก่ เลื่องลือความอร่อยจังหวัดพิษณุโลก

ร้านพังกี่ข้าวมันไก่ เป็นร้านชื่อดังของจังหวัดพิษณุโลก ที่เก่าแก่และเลื่องลือถึงความอร่อยถูกอกถูกใจลูกค้ามานานหลายสิบปี ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านข้าวมันไก่ธรรมดาๆ แต่ก็ต้องรอคิวกันเลยนะ ร้านนี้เน้นขายข้าวมันไก่เป็นหลัก ซึ่งความพิเศษของไก่ที่นี่อยู่ตรงเนื้อไก่ที่แห้ง ไม่เหนียว เคี้ยวง่าย มีทั้งไก่ไทยและไก่พันธุ์ให้เลือกสั่งกันได้ตามชอบ ไม่เพียงเท่านี้ ที่ร้านยังมีเมนูอีกหลากหลายที่จะต้องสั่ง อร่อยไม่แพ้ข้าวมันไก่เลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องในผัดพริก ต้มมะระผัดกาดดอง หรือไก่สับ เป็นต้น ร้านพังกี่ข้าวมันไก่มีทั้งหมด 3 สาขา ที่แอดไปลองมาเป็นสาขา 1 สาขาดั้งเดิม ซึ่งคนเยอะมาก ถ้าใครไม่อยากรอคิวนาน แอดแนะนำให้ไปทานที่สาขา 2 หรือ สาขา 3 ก็ได้จ้า อร่อยเหมือนกัน  ชามนี้คือต้องสั่ง ต้มมะระผักกาดดอง เห็นว่ามีมะระแบบนี้หลายคนอาจจะกลัวขม แต่บอกก่อนว่ารสชาติไม่ได้ขมอย่างที่คิดนะคะ เพราะมีรสเปรี้ยวของผักกาดดองเข้ามาช่วยตัดรสขมของมะระได้อย่างดีเลยล่ะ  ส่วนผสมของชามนี้จะมีมะระ ผักกาดดอง หมูสับ และตับหมู รวมอยู่ในน้ำซุปร้อนๆ ทานแล้วโล่งคอดีจังเลยค่ะ ข้าวมันไก่ไทยมาพร้อมน้ำจิ้มสูตรพิเศษของร้าน ซึ่งมีอยู่ 2 สูตรด้วยกัน ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบน้ำจิ้มพริกสด ที่รสชาติออกเปรี้ยว แตกต่างไม่เหมือนใคร อร่อยมากๆ เลยล่ะ หากแวะเวียนไปจังหวัดพิษณุโลกก็อย่าลืมฝากท้องไว้กับร้านข้าวมันไก่พังกี่อันเลื่องลือกันนะคะ ^^ พังกี่ข้าวมันไก่ มี 3 สาขา ได้แก่ สาขา 1 ที่ตั้ง : ถ.พญาเสือ หน้าซอยพญาเสือ 6 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลกเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 13.00 น.โทร. 055 244 275พิกัด : https://goo.gl/maps/Jt7Fcwg6k122 สาขา 2 ที่ตั้ง : ประตูมอญ ถ.เอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลกเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 13.00 น.พืกัด : https://goo.gl/maps/WzLAPfZrc912 สาขา 3 ที่ตั้ง : ถ.ไชยานุภาพ ไม่ไกลจากภัทธารารีสอร์ท ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 13.00 น.โทร. 081 785 1403พิกัด :https://goo.gl/maps/Qjpw8wUxouF2

พังกี่ข้าวมันไก่ เลื่องลือความอร่อยจังหวัดพิษณุโลก อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top