สถานที่ท่องเที่ยว

ร้อนนี้…ผี (เสื้อ) สวย

เริ่มแล้วค่ากับ “เทศกาลชมผีเสื้อ” ณ แคมป์บ้านกร่าง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี บอกเลยว่างานนี้คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาดอย่างแรง ฮั่นแน่เริ่มสนใจแล้วใช่มั้ยล่ะ? แต่ก่อนจะไป เรามาทำความรู้จักกับผีเสื้อของที่นั่นกันก่อนดีกว่าค่ะ ผีเสื้อของที่นี่มีกี่สายพันธุ์? แคมป์บ้านกร่างถือเป็นสถานที่ชมผีเสื้ออันดับต้นๆ ของเมืองไทย เพราะที่นี่มีฝูงผีเสื้อมากมายกว่า 200 สายพันธุ์เลยทีเดียวค่ะ ผีเสื้อจะมีมากในช่วงเวลาใด?  ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนของทุกปี เป็นช่วงที่เพื่อนๆ สามารถพบเห็นผีเสื้อได้มากที่สุด  และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมผีเสื้อ คือระหว่าง 08.00 – 14.00 น. โดยเฉพาะเวลา 08.00 น. ผีเสื้อจะเกาะนิ่งตามใบไม้ เพื่อผึ่งแดดให้ร่างกายและปีกอบอุ่นแข็งแรง ก่อนบินออกหากินนั่นเองค่ะ ทำไมเราจึงสามารถชมฝูงผีเสื้อนับพันตัวได้ในช่วงหน้าร้อน? นั่นเป็นเพราะว่าเมื่ออากาศร้อนจัด แหล่งน้ำต่างๆ ตามธรรมชาติเริ่มแห้งลง ทำให้บรรดาผีเสื้อต้องพากันออกมาหากินเกลือตามดินโป่ง หรือบริเวณที่มีน้ำขังนั่นเองค่ะ ควรปฏิบัติตัวอย่างไรในการชมผีเสื้อ? – สวมเสื้อผ้าที่มีสีสันกลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่ฉูดฉาด เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน และสีกากี เพื่อไม่ให้ผีเสื้อตกใจ – เมื่อเห็นผีเสื้อเกาะอยู่บนพื้น ให้เดินช้าๆ เมื่อเข้าใกล้ในระยะ 5 เมตร ควรนั่งลง  – เมื่อเข้าใกล้ผีเสื้อในระยะ 2 เมตร ควรนอนลงแล้วค่อยๆ คลานเข้าไป วิธีนี้จะทำให้สามารถเข้าใกล้ผีเสื้อได้ถึง 1 เมตรเลยทีเดียว – หากผีเสื้อตกใจบินหนีไป ให้นั่งนิ่งๆ รอสักพัก ถ้าผีเสื้อยังห่วงอาหารอยู่พวกเค้าก็จะกลับมาเองค่ะ (ทำไมเอ็งเห็นแก่กินอะ) แคมป์บ้านกร่าง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรีเปิดเวลา 08.00-16.00 น. (เปิดเฉพาะเดือนพฤศจิกายน-กรกฏาคม)ค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 40 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาทโทร. 032 772 311

ร้อนนี้…ผี (เสื้อ) สวย อ่านเพิ่มเติม

สวนบิ๊กเต้ : Big Tae Garden

ที่มาของชื่อสวนบิ๊กเต้ ก็มาจากชื่อเจ้าของคือ คุณเต้ นั่นเอง ง่ายๆ แค่นี้ล่ะ แหม แอดก็คิดว่าเจ้าของสวนจะเป็นคุณลุงซะอีก จริงๆ แล้วคุณเต้ยังหนุ่มอยู่เลยนะ  สวนบิ๊กเต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ปลูกดอกเบญจมาศมานานกว่า 10 ปี แต่เพิ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวชมเมื่อ พ.ศ.2559 ซึ่งสามารถชมได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ ที่นี่มีดอกเบญจมาศมากกว่า 30 สายพันธุ์ แบ่งแปลงปลูกออกเป็นแถวตอนลึก แต่ละแถวแยกเป็นดอกเบญจมาศสีสันต่างๆ อย่างสวยงาม มีทั้งขาว ชมพู เหลือง และแดง การออกดอกของเบญจมาศ ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ถึงจะโตเต็มที่ โดยต้องอยู่ในพื้นที่ที่แดดส่องถึง เรียกได้ว่าเป็นดอกไม้ที่ชอบแสงแดดสุดๆ และต้องรดน้ำวันละ 2 ครั้ง คือช่วงสายและเย็นค่ะ ชุ่มฉ่ำสุดๆ บอกกล่าวเผื่อใครยังไม่รู้ ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง “บัลลังก์ดอกไม้” ด้วยล่ะ แฟนคลับของมาริโอ้และเต้ย จรินทร์พร ต้องไม่พลาดมาเยี่ยมชมนะ เวลาเพื่อนๆ เดินเข้าไปถ่ายรูปในแปลงดอกไม้ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่าไปเด็ดหรือสัมผัสดอกไม้แบบแรงๆ นะคะ เพราะดอกไม้ในสวนจะต้องตัดไปขายค่ะ เดี๋ยวเค้าขายไม่ได้ล่ะแย่เลย  บ้านไหนมีเด็กๆ ไปก็ต้องจับกันไว้ให้ดีนะ เพราะพื้นที่ในสวนค่อนข้างกว้างพอสมควร เดี๋ยวพลัดหลงกันจ้า ค่าเข้าชม คนละ 20 บาทเท่านั้น  โดยบัตร 1 ใบจะได้ส่วนลดเครื่องดื่ม 5 บาทด้วยนะ จะสั่งเครื่องดื่มก่อนเข้าไปชมสวน หรือออกมาแล้วค่อยสั่งก็ได้ ได้ส่วนลดก็ใช้สิคะ รออะไร จัดไปชาเขียว 1 แก้ว สวนบิ๊กเต้ – BigTae Garden ที่ตั้ง : 213 หมู่ 5 ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.30 น.โทร. 081 878 4569

สวนบิ๊กเต้ : Big Tae Garden อ่านเพิ่มเติม

เจ๊เอ็ง หมูสะเต๊ะ ตำนานความอร่อยย่านเยาวราช

ร้านสะเต๊ะเจ้าเด็ดย่านเยาวราชเจ้านี้ เป็นร้านรถเข็นริมทาง คนเยอะทุกวัน ยิ่งช่วงเย็นๆ หลังเลิกงาน ต้องต่อแถวรอเลยแหละ ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องหมูสะเต๊ะ แต่นอกจากหมูสะเต๊ะแล้ว ก็มีกุ้ง ไก่ ตับ ไส้ และเนื้อสะเต๊ะขายด้วยนะ เคล็ดลับความอร่อยของหมูสะเต๊ะ ทางร้านใช้เนื้อหมูส่วนที่มีมันแทรก เพื่อทำให้เนื้อหมูไม่แห้งจนเกินไป จากนั้นนำเนื้อหมูไปหมักกับผงขมิ้นและเครื่องเทศอีกหลายชนิด  ระหว่างปิ้งเนื้อหมู ก็ทาน้ำกะทิลงไปให้ทั่ว เพื่อเพิ่มความหอมและเพื่อให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น  ถึงตอนนี้แอดบอกเลยว่า ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ อยากทานแล้ว มาแล้ว หมูสะเต๊ะที่เรารอคอย เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มรสเข้มข้น และอาจาด หลังจากทานแล้ว แอดไม่มีอะไรจะพูด นอกจากคำว่า อร่อยเว่อร์ เนื้อหมูนุ่ม ไม่แห้ง หอมกลิ่นเครื่องเทศที่ใช้หมัก ส่วนน้ำจิ้มก็ข้นกำลังดี รสชาติกลมกล่อม ยิ่งทานคู่กับขนมปังปิ้ง ยิ่งฟิน อื้มมมม จิ้มน้ำจิ้มแบบเต็มเหนี่ยว ฟินสุดๆ ไปเลย ราคา หมูสะเต๊ะ ไม้ละ 7 บาท ขนมปังปิ้ง แผ่นละ 5 บาท ยิ่งดูรูปยิ่งหิว แอดขอตัวไปกินหมูสะเต๊ะก่อนนะ เจ๊เอ็ง หมูสะเต๊ะที่ตั้ง : หน้าศาลเจ้ากวางตุ้ง ถนนเจริญกรุง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 15.00-22.00 น.

เจ๊เอ็ง หมูสะเต๊ะ ตำนานความอร่อยย่านเยาวราช อ่านเพิ่มเติม

ธารา คาเฟ่

TARA Cafe : ธารา คาเฟ่ ตั้งอยู่ภายในบ้านหนึ่งธารารีสอร์ท เขาใหญ่ บ้านหนึ่งธารา รีสอร์ท เพิ่งเปิดโซนคาเฟ่มาได้ประมาณ 4 เดือนเท่านั้นเอง เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่น้องใหม่แกะกล่องเลยล่ะ หากใครมาที่นี่แล้วเกิดอยากจะพักค้างคืน ก็สามารถติดต่อทางคาเฟ่ได้เลย ชื่อ “ธารา” มาจากที่ตั้งที่อยู่ติดกับลำธารเล็กๆ ตรงนี้นี่เอง น้ำใสและเย็นสบายมาก แอดสัมผัสมาเรียบร้อยแล้ว เพราะที่นี่เค้ามีเรือคายัคให้พายเล่นฟรี! ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชอบมากๆ รวมถึงแอดด้วย แต่บอกไว้ก่อนว่าทางร้านห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาดนะคะ เพื่อความปลอดภัยค่ะ ร้านนี้ค่อนข้างใหญ่พอสมควรเลย มีบริเวณกว้างขวาง มีที่นั่งให้เลือกหลากหลายมุม รองรับนักท่องเที่ยวได้เพียบ แถมยังเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ บรรยากาศร่มรื่นมาก ไม่ร้อนเลยค่ะ  อีกอย่างคือมุมถ่ายรูปเยอะมาก สายเขียวธรรมชาติต้องไปโดน ที่นั่งมีทั้งโซนห้องแอร์ และเอาท์ดอร์หลายมุม ไม่ว่าจะเป็นริมลำธาร หรือบนชั้น 2 ที่สามารถชมวิวด้านล่างได้อย่างสวยงาม เลือกไม่ถูกเลย ส่วนตัวแอดชอบมุมนี้ที่สุดเลยแหละ เป็นโต๊ะเล็กๆ ริมลำธาร มีเบาะรองนั่งพร้อมหมอนสามเหลี่ยมให้นั่งพิง นั่งจิบเครื่องดื่มไป ชมธรรมชาติไป ชิลสุดๆ มุมนี้แอดถ่ายจากชั้นบนค่ะ เห็นหมดเลยใครทำอะไร…555 ล้อเล่น ตอนที่แอดไป ฝนเพิ่งหยุดตกค่ะ ท้องฟ้าก็เลยดูจะครึ้มๆ หน่อย แต่ฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ จริงมั้ยคะ มุมนี้ก็น่ารัก มีฉากกรอบรูปและชิงช้าให้นั่งเล่น แอดอยากเอาไปไว้ที่บ้านบ้างจัง เมนูคลายร้อนจ้า…เริ่มต้นที่ “ชาเขียวเย็น” ชาและนมแบ่งเป็นชั้นสวยงาม หลังจากคนให้เข้ากัน ก็อร่อยพร้อมดื่ม ตามมาด้วย “นมสดเย็น” รสชาติกำลังดี ไม่หวานมาก เฮลท์ตี้เบาๆ และแก้วสุดท้ายเป็น “ชาไทยเย็น” ถึงชื่อเมนูจะดูเบสิกแต่รสชาติไม่ธรรมดาเลย ราคาแก้วละ 60 บาทเท่านั้น  นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเมนูเเนะนำหลายอย่างเลย เช่น มะพร้าวธารา, ฮันนีโทสต์, พิซซ่าโฮมเมด, สลัดอกไก่, ข้าวหมูอบ น่าทานทั้งนั้น แต่เสียดายที่แอดไม่มีภาพมาฝาก เพราะว่าตอนไปถึงครัวก็ปิดแล้ว อย่าโกรธกันนะ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนไปลองแล้ว ก็ถ่ายรูปมาให้แอดดูบ้างน้าา  ทางร้านยังมีแปลงผักสดๆ ปลอดสารพิษ 100% สำหรับนำมาใช้ประกอบอาหารอีกด้วยนะ รับรองสดอร่อยแน่นอน เจ้าถิ่นเค้ามานั่งรับลูกค้าด้วย น่ารักมากๆ  ไม่ว่ามุมไหนของร้านจะมีคุณคนนี้อยู่กับต้นไม้ คอยแอบมองเราอยู่เกือบทุกต้นเลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่าหลอนอะไรนะคะ ดูอาร์ตๆ เท่ดี แอดชอบ ธารา คาเฟ่  ที่ตั้ง : เลขที่ 1 หมู่ 5 ตำบลขนงพระ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โทร. 082 140 9310 เปิดวันพุธ-จันทร์ (ปิดวันอังคาร ยกเว้นวันอังคารที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์)– วันจันทร์ และวันพุธ-ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น.– วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น. การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ไปทางสระบุรี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ไปทางปากช่อง สังเกตเทสโก้โลตัส สาขาปากช่อง ทางซ้ายมือ ชิดซ้ายเตรียมขึ้นสะพาน เพื่อกลับรถไปยังถนนธนะรัชต์ จากนั้นตรงไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2049 (ถนนโยธาธิการ) ตรงไปอีก 5 กิโลเมตร ผ่านวัดพระขนงใต้ไปประมาณ 500 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ

ธารา คาเฟ่ อ่านเพิ่มเติม

อ่าวบ่อทองหลาง หาดสวย น้ำใส @ ประจวบฯ

อ่าวบ่อทองหลาง ตั้งอยู่ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจริมทะเล ที่ไม่ต้องข้ามเกาะ ก็ได้เล่นน้ำใสๆ เหมือนอยู่กลางทะเลแล้ว ลักษณะเด่นของอ่าวแห่งนี้ก็คือ มีลักษณะโค้งเหมือนเขาควาย สามารถเล่นน้ำได้ทั้งสองฝั่งเลย ด้านหน้าหาดมีร้านอาหารให้บริการ ราคาไม่แรงมากด้วยนะ บริเวณอ่าวน้ำจะค่อนข้างตื้น คลื่นไม่แรงมาก เหมาะสำหรับเล่นน้ำชิลๆ หรือจะพาเด็กๆ ไปลงเล่นก็ได้ หาดทรายที่นี่อาจจะไม่ได้ขาวละเอียดมาก เพราะอยู่ฝั่งอ่าวไทย แต่น้ำทะเลใสมากกกก ปัจจุบัน หาดแห่งนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ผู้คนจึงไม่พลุกพล่าน ค่อนข้างสงบ และเป็นส่วนตัว บรรยากาศดีมากๆ นอกจากความสวยงามของอ่าวแล้ว ที่นี่ก็ยังมีทะเลแหวกให้ชมด้วย แม้ความยาวของสันทรายจะไม่มากนักแต่ก็สวยมากๆ เลยล่ะ เอาภาพมุมสูงมายืนยันว่า ประจวบคีรีขันธ์ก็มีทะเลแหวกกับเค้าเหมือนกันนะ อยู่ที่อ่าวบ่อทองหลางนี่แหละ ^^ อ่าวบ่อทองหลางที่ตั้ง : ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 จนถึงสามแยกบางสะพาน จากนั้นเลี้ยวซ้าย ไปตามทางหลวงหมายเลข 3169 ต่อด้วยถนนเลียบหาดแม่รำพึง (ทางหลวงหมายเลข 4056) ไปจนถึงทางเข้าอ่าวบ่อทองหลาง

อ่าวบ่อทองหลาง หาดสวย น้ำใส @ ประจวบฯ อ่านเพิ่มเติม

“ตลาดปาร์คอิน” สถานที่ Check in แห่งใหม่ย่านบางแสน

“The Park in market” หรือ “ตลาดปาร์คอิน” คือตลาดนัดแห่งใหม่ย่านบางแสน ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง  ที่นี่มีของขายมากมาย มีมุมถ่ายรูปสวยๆ แปลกตาเพียบ เพราะเค้านำเอาไม้ไผ่มาตกแต่งตามส่วนต่างๆ ของตลาดได้อย่างลงตัว มีการจัดโซนที่นั่งรับประทานอาหารและห้องน้ำไว้บริการพร้อม แถมยังมีที่จอดรถฟรีอีกด้วย และแล้วก็มาถึงเมนูเรียกน้ำย่อยเมนูแรก “หมูย่างซอสบัสกริล” แหม แค่เห็นก็น้ำลายสอแล้ว ยิ่งได้ลองทานนะ ฟินอย่าบอกใครเชียว สำหรับสายช็อคโกแลตต้องห้ามพลาด เพราะ “ช็อคโค บอม” ของที่นี่เค้าเข้มข้นมากๆ ท็อปปิ้งก็มีให้เลือกหลากหลาย อย่างนี้ต้องไปโดนแล้วล่ะ มาเดินตลาดยามค่ำคืนแบบนี้ ถ้ารู้สึกง่วงก็ต้องหากาแฟดื่มกันสักหน่อย รับรองว่าหายง่วงและช่วยดับกระหายแน่นอนค่ะ มาถึงทะเลแล้ว นอกจากอาหารทะเลก็ต้องมะพร้าวนี่แหละถึงจะเข้ากับบรรยากาศ ยิ่งอากาศร้อนๆ แบบนี้ ได้กิน “ไอติมกะทิ” รสชาติหวานมันกลมกล่อม แถมเย็นชื่นใจด้วยแล้ว โอ๊ยยยยยย ยอมเลยจ้า มีชาไข่มุกให้ทานว่าฟินแล้ว แล้วถ้าเป็นชาไข่มุกแบบบุพเฟต์ล่ะคะ จะฟินขนาดไหน “ขนมปังญวน” ร้านนี้แอดบอกเลยว่าเด็ดมาก เพราะเค้านำขนมปังไปอบร้อนๆ ให้มีความกรอบนอกนุ่มใน แถมไส้ก็ยังใส่ให้จนแทบทะลัก โอ๊ย 10 10 10 ไปเลยจ้า บาร์บีคิวไม้เล็กๆ หลบไป ไม้ใหญ่ๆ เค้าจะเดินก่อนซื้อแอดแนะนำให้สำรวจกระเพาะตัวเองก่อนนะว่าทานไหวแค่ไหน เพราะถ้าซื้อเยอะอาจจะทานไม่หมด(แบบแอด)  แอดเป็นคนที่ชอบทาน “ทาโกะยากิ” มากกกก เจอที่ไหนก็ต้องไม่พลาดชิม ซึ่งพอได้ชิมแล้วก็พูดได้เลยว่า “เฮ้ย มันดีย์อ่ะ” มาถึงทะเล ถ้าไม่ทานอาหารทะเลก็เหมือนมาไม่ถึง จริงมั้ยคะ แต่อาหารทะเลแบบเดิมๆ ก็อาจจะดูธรรมดาไป มาลองห่อหมกบ้างเป็นไง มีให้เลือกหลายอย่างเลยนะคะ ทั้งปลา ปลาหมึก แมงดาทะเล ฯลฯ เลือกไม่ถูกเลย งานวินเทจก็มาจ้า คลาสสิกสุดๆ มุมอาร์ตๆ อย่าง “วาดรูปเหมือน” แบบนี้ก็มีเด้อ ฝีมือดีมาก ใช้เวลาไม่นาน แถมราคาไม่แพงด้วยค่ะ ไหนใครสายแฮนด์เมดยกมือขึ้น สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบงานแฮนด์เมดและอยากลองทำด้วยตัวเอง ที่นี่เค้าก็มีมุมเล็กๆ ให้เราได้สร้างสรรค์ผลงานด้วยนะคะ สำหรับเพื่อนๆ ที่รักในเสียงเพลง เชิญทางนี้เลยจ้า เพราะที่นี่เค้ามีดนตรีสดให้ฟังด้วย บอกเลยว่าแต่ละเพลงเพราะโดนใจวัยโจ๋สุดๆ เดินเหนื่อยๆ ก็สามารถนั่งพัก นั่งรับประทานอาหารได้นะคะ บรรยากาศดีสุดๆ หรือใครอยากจะนั่งทานอาหารบนสนามหญ้า เค้าก็มีโต๊ะไว้ให้บริการด้วย ดูชิคและชิลไปอีกแบบนะคะ ว่ามั้ย?.เป็นไงกันบ้างคะสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่แอดนำมาฝากในวันนี้ ตัดสินใจได้รึยังว่าจะมาเมื่อไหร่?  ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า นี่เป็นเพียงน้ำจิ้มเรียกน้ำย่อยเท่านั้นนะ ที่นี่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย แต่แอดขออุบไว้ก่อน เพราะแอดอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองไปเที่ยวไปสัมผัสด้วยตัวเองดู แล้วอย่าลืมไปเที่ยวกันเยอะๆ นะคะ

“ตลาดปาร์คอิน” สถานที่ Check in แห่งใหม่ย่านบางแสน อ่านเพิ่มเติม

พาสาน : สัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา

หลายคนอาจสงสัยว่า คำว่า “พาสาน” แปลว่าอะไร? คำนี้ที่จริงไม่มีความหมายหรอกค่ะ แต่เป็นคำที่คิดขึ้นมาใหม่ โดยแผลงมาจากคำว่า “ผสาน” ซึ่งหมายถึง ทำให้เข้ากันสนิท หรือเชื่อมต่อกัน คำว่า “พาสาน” ในที่นี้จึงมีความหมายว่า การพาคนเข้ามาเชื่อมต่อกับสถานที่และสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อให้เกิดการผสมผสานกันอย่างลงตัว เช่นเดียวกับการรวมตัวกันของแม่น้ำสายหลัก จนเกิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ที่แห่งนี้ แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแม่น้ำสายใหญ่ ที่เกิดจากการรวมกันของแม่น้ำ 4 สาย คือ ปิง วัง ยม น่าน (โดยแม่น้ำวังจะไหลมารวมกับแม่น้ำปิง และแม่น้ำยมไหลมารวมกับแม่น้ำน่าน) เมื่อถึงจังหวัดนครสวรรค์ บริเวณปากน้ำโพแห่งนี้ แม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านก็จะไหลมาบรรจบกัน กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็น “ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา” นั่นเอง แม่น้ำปิงจะมีสีค่อนข้างเขียว ส่วนแม่น้ำน่านสีจะออกแดง เมื่อไหลมารวมกัน จึงทำให้เกิดปรากฎการณ์แม่น้ำสองสีขึ้นอย่างชัดเจน และเนื่องจากตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำเจ้าพระยา “อาคารพาสาน” จึงสร้างขึ้นโดยสะท้อนเอกลักษณ์ของแม่น้ำเจ้าพระยาออกมา ในรูปแบบของอาคารที่มีโครงสร้างโค้งและลื่นไหล มองดูราวกับสายน้ำที่กำลังเคลื่อนไหว สื่อถึงการรวมตัวกันของแม่น้ำสายหลักทั้ง 4 สาย ที่ผสานกันเป็น 2 สาย และรวมเป็นหนึ่งในที่สุด  ในช่วงน้ำขึ้น เราสามารถพายเรือลอดใต้อาคารพาสานเพื่อชมความงดงามของสถาปัตยกรรมได้ด้วยค่ะ อาคารแบ่งเป็น 2 ชั้นด้วยกัน คือ ชั้นที่อยู่ภายในตัวอาคาร และชั้นดาดฟ้า หากใครสนใจจะไปชม แอดแนะนำให้ไปตอนเย็นนะคะ เพราะเพื่อนๆ จะได้ชมไฮไลท์ของที่นี่ ซึ่งก็คือการชมพระอาทิตย์ตกนั่นเองค่ะ บอกเลยว่าบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ บริเวณใต้อาคารเป็นสนามหญ้าและสวนขนาดเล็ก เหมาะสำหรับมานั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจมากๆ เลย  การเดินทางไปยังอาคารสัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้สามารถไปได้ทั้งทางบกและทางน้ำเลยนะคะ  แต่แอดอยากจะแนะนำให้ไปทางน้ำค่ะ เพราะเพื่อนๆ จะได้สัมผัสกับความงดงามของต้นแม่น้ำเจ้าพระยา และวิถีชีวิตของผู้คนริมนํ้าได้อย่างใกล้ชิด ค่าเรือไป-กลับคนละ 30 บาทเท่านั้นเอง อย่าลืมไปเที่ยวกันเยอะๆ นะคะ

พาสาน : สัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : หนองคาย และเลย

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เส้นนี้อยู่ที่ สระมุจลินท์ หรือสระพญานาค วัดพระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย และ น้ำจากถ้ำเพียงดิน วัดถ้ำผาปู่ อ.เมือง จ.เลย เส้นทางนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่หลากหลายและน่าสนใจหลายแห่งเลย ลองมาเที่ยวกันนะ จังหวัดหนองคาย แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : สระมุจลินท์ หรือสระพญานาค วัดพระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำ : พระอุโบสถวัดโพธิ์ชัยพระอารามหลวง อ.เมือง จ.หนองคาย จังหวัดเลย แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : น้ำจากถ้ำเพียงดิน วัดถ้ำผาปู่ อ.เมือง จ.เลย สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำ : พระอุโบสถวัดศรีสุทธาสวาส พระอารามหลวง อ.เมือง จ.เลย สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง จังหวัดหนองคาย– วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง – สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง – วัดผาตากเสื้อ อ.สังคม จังหวัดเลย– เชียงคาน อ.เชียงคาน– ห้วยกระทิง อ.เมือง– ภูป่าเปาะ อ.หนองหิน

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : หนองคาย และเลย อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : พะเยา และเชียงราย

สำหรับวันนี้แอดจะชวนเพื่อนๆ ไปชมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ในเส้นทางพะเยาและเชียงรายค่ะ ซึ่งบอกเลยว่าน่าสนใจสุดๆ เพราะนอกจากจะได้ชมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว ระหว่างทางก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถแวะชมอยู่หลายแห่งด้วย  รับรองว่าสวยงาม คุ้มค่าการเดินทางสุดๆ ถ้าไม่เชื่อก็ตามแอดมาเลยจ้า  จังหวัดพะเยา แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : ขุนน้ำแม่ปืม ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแม่ปืม ต.บ้านเหล่า อ.แม่ใจ จ.พะเยา เป็นแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และยังเป็นต้นน้ำแม่ปืมอีกด้วย สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำ : วิหารวัดศรีโคมคำ อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา จังหวัดเชียงราย แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : บ่อน้ำทิพย์ ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุดอยตุง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เชื่อกันว่าเทพารักษ์เป็นผู้เนรมิตบ่อน้ำแห่งนี้ขึ้น เพื่อใช้สรงพระธาตุในช่วงเทศกาล สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำ : อุโบสถวัดพระแก้วพระอารามหลวง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง จังหวัดพะเยา– วัดศรีโคมคำ– พิพิธภัณฑ์เวียงพยาว– วัดพระธาตุจอมทอง จังหวัดเชียงราย– วัดร่องขุ่น– วัดพระแก้ว– อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช– วัดร่องเสือเต้น– พระตำหนักดอยตุง

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : พะเยา และเชียงราย อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : นนทบุรี และปทุมธานี

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า จำเป็นต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไทย เพื่อนำมาทำน้ำอภิเษกประกอบในพระราชพิธี  วันนี้แอดจะพาไปดูว่าเส้นทางนนทบุรี และปทุมธานี มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนบ้าง จากนั้นก็ถือโอกาสแวะเที่ยวสถานที่ใกล้ๆ ไปด้วยเลย แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : น้ำกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำ : พระอุโบสถวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดศาลเจ้า อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำ : พระอุโบสถวัดเขียนเขตพระอารามหลวง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง จังหวัดนนทบุรี– อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก (ติดกับวัดเฉลิมพระเกียรติ) – เกาะเกร็ด จังหวัดปทุมธานี– ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : นนทบุรี และปทุมธานี อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top