สถานที่ท่องเที่ยว

Street Art…art on wall EP.1

Street Art คืออะไร Street Art คือศิลปะที่สร้างสรรค์บนผนังตึกหรือกำแพงในพื้นที่สาธารณะ โดยใช้เทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขีดเขียน การพ่นสี หรือการวาด Street Art ทำให้ศิลปะที่เคยเป็นเรื่องไกลตัวกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คน เราสามารถพบเห็นศิลปะได้ในทุกที่ โดยไม่จำเป็นต้องเดินเข้าหอศิลป์ ปัจจุบัน Street Art จึงได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว กรุงเทพฯ เรามากันที่ย่านเจริญกรุง ถนนสายแรกของไทย ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนที่มีความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม รวมทั้งยังเป็นแหล่ง Street Art แรกเริ่มของกรุงเทพฯ ที่เกิดจากการรวมตัวของศิลปินชื่อดังจากไทยและจากทั่วโลก เช่น Alex Face, Roa, Bonus TMC และ Phai เป็นต้น ในย่านถนนเจริญกรุงเต็มไปด้วย Street Art มากมาย เรียงรายต่อกันตามกำแพงและตามตึก เรื่อยไปตั้งแต่ซอยเจริญกรุง 28 ซอยเจริญกรุง 30 ซอยเจริญกรุง 32 ซอยวานิช และถนนทรงวาด เดินเพลินเลยล่ะ อีกหนึ่งจุดของ Street Art ที่น่าสนใจภายในกรุงเทพฯ ก็คือ “สวนเฉลิมหล้า” ราชเทวี ซึ่งแม้จะเป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่ไม่มากนัก แต่บนกำแพงก็เต็มไปด้วยผลงาน Street Art หลากหลายอารมณ์ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ถ่ายรูปเก่ๆ ที่เหมาะกับคนฮิปๆ แต่งตัวเท่ๆ อย่างแอดมากเลย  นอกจากนี้ภายในสวนยังมีลานกีฬาของชุมชน สำหรับออกกำลังกายด้วยนะ ราชบุรี Street Art ราชบุรี อยู่ในอำเภอบ้านโป่ง เกิดจากความร่วมมือของศิลปินทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ ไปจนถึงระดับนานาชาติ ที่รวมกลุ่มกันในนาม “A T Exchange” (Art Terminal Exchange) เพื่อสร้างสรรค์ผลงานในพื้นที่ชุมชนบ้านโป่ง ให้มีสีสันและสร้างความภูมิใจในบ้านเกิดอีกด้วย ผลงาน Street Art ของที่นี่จะกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ซอยมิตรเสถียร ซอยเชาวน์ศรัทธา ตลาดสดเทศบาล โรงหนังเฉลิมทองคำ และโรงหนังโฆษิต เป็นต้น เพชรบุรี ชุมชนหนองจอก อำเภอท่ายาง เป็นชุมชนเก่าแก่กว่าร้อยปี ที่ยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิมทั้งทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่เป็นบ้านไม้สวยงาม โครงการ Nongchok Street Art เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชนและหน่วยงานต่างๆ เพื่อพัฒนาชุมชนเก่าแก่แห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่ๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้มาเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนในชุมชนผ่านงานศิลปะ ภูเก็ต มาถึงจังหวัดยอดฮิตของภาคใต้กันบ้าง จังหวัดภูเก็ตในอดีตเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานและเจริญรุ่งเรืองมาก เห็นได้จากอาคารบ้านเรือนในเมืองภูเก็ตที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานจีนและยุโรป ที่เรียกว่า “ชิโน-โปรตุกีส” (Sino-Portuguese) ไม่เพียงแต่ความสวยงามของอาคารบ้านเรือนเท่านั้น ภูเก็ตยังมีผลงาน Street Art ตามถนนต่างๆ ได้แก่ บริเวณถนนถลาง ถนนพังงา ถนนดีบุก และถนนกระบี่ เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นผลงานของศิลปินชั้นนำของไทย ที่สร้างสรรค์ภาพวาดและเพิ่มสีสันบนกำแพง นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมผลงาน Street Art กันได้เรื่อยๆ เพราะแต่ละจุดจะอยู่ไม่ไกลกันมาก อีกทั้งยังได้ชมบรรยากาศวิถีชีวิตและวัฒนธรรม รวมไปถึงชิมอาหารท้องถิ่นแบบจีนดั้งเดิม ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวภูเก็ตอีกด้วย กระบี่ อีกหนึ่งจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็นทะเลและเกาะต่างๆ แต่นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว ในอำเภอเมืองกระบี่ก็ยังมีผลงาน Street Art น่ารักๆ ภายใต้แนวคิด “Unfold the Untold” เล่าเรื่องเมืองกระบี่ผ่านงานศิลปะในมุมที่ไม่มีใครบอกผ่าน ผลงาน Street Art นี้กระจายอยู่ทั่วเมืองทั้งหมด 9 จุด เช่น ภาพมโนราห์บริเวณซอยมหาราช 6 ภาพชาวบ้านกระบี่บริเวณโรงแรมซิตี้ เป็นต้น ตรัง อดีตเมืองท่าสำคัญที่ปัจจุบันยังคงปรากฎร่อยรอยให้เห็น ในย่านเมืองเก่าทับเที่ยงที่มีอายุกว่า 100 ปี อาคารบ้านเรือนยังงดงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมื่อ พ.ศ.2557 สโมสรโรตารีตรังได้จัดกิจกรรมแต่งแต้มสีสันตามอาคารต่างๆ ด้วยภาพ Street Art ภายใต้สโลแกน “ถิ่นกำเนิดยางพารา เด่นสง่าดอกศรีตรัง ปะการังใต้ทะเล” ผลงาน Street Art ของที่นี่ มีอยู่ด้วยกัน 3 จุด ได้แก่ ภาพถ้ำมรกตบริเวณตึกชิโนโปรตุกีส ถนนราชดำเนิน ภาพต้นศรีตรัง บริเวณข้างร้านแว่นท็อปเจริญ ถนนราชดำเนินซอย 1 และภาพถิ่นกำเนิดยางพาราบริเวณถนนราชดำเนินซอย 1 ตัดกับถนนไทรงามซอย 1 พังงา ในอดีตอำเภอตะกั่วป่าเจริญรุ่งเรืองจากการค้าขายกับชาวต่างชาติ และการทำเหมืองแร่ดีบุกของชาวจีน แต่ปัจจุบันตะกั่วป่ากลับกลายเป็นเมืองที่เงียบสงบ ซึ่งนับว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาที่นี่ ระหว่างเดือนตุลาคม – พฤษภาคมของทุกปี บริเวณถนนศรีตะกั่วป่าและถนนอุดมธารา จะมีการจัดนิทรรศการเล่าเรื่องเมืองตะกั่วป่า เราสามารถเดินชมบรรยากาศและ Street Art ที่แฝงตัวอยู่ตามผนังตึกต่างๆ ได้ ภาพ Street Art ที่นี่ สะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ เช่น ภาพจำลองการทำเหมืองแร่ ถนนกลั่นแก้ว ภาพรถโพถ้อง (รถสองแถวไม้ ซึ่งเป็นพาหนะท้องถิ่นของภาคใต้) ภาพร้านตัดผมตะกั่วป่า เป็นต้น สงขลา ชุมชนเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ ทั้งห้องแถวไม้แบบจีนและตึกเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีส (Sino-Portuguese) นอกจากความสวยงามของอาคารในย่านเมืองเก่าแล้ว เรายังเพลิดเพลินกับภาพ Street Art ตามผนังบ้านหรือผนังริมทางเดินในเมือง สัมผัสการบอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพในอดีตที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชม หรือนั่งรถรางชมเมืองที่ทางเทศบาลนครสงขลาจัดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวได้ทุกวัน ยะลา ยะลาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด อำเภอเบตง อำเภอที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย มีอาณาเขตติดกับประเทศมาเลเซียและอยู่ท่ามกลางหุบเขา มีธรรมชาติอันสมบูรณ์และเงียบสงบ เมื่อ พ.ศ.2560 อำเภอเบตงได้จัดงาน “111 ปี เล่าขานตำนานเมืองเบตง” ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ผลงาน Street Art ให้เป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวของเบตงเลยก็ว่าได้ Street Art ของที่นี่เป็นผลงานของนักศึกษาและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยศิลปากร มีทั้งหมด 11

Street Art…art on wall EP.1 อ่านเพิ่มเติม

ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน และศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี

ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นจุดศูนย์รวมอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีบรรพบุรุษ และหลักปรัชญาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานี.ที่ตั้ง : 888 ถนนศาลเจ้าเนรมิต ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีเปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.โทร. 082 7070 666, 042 242 333, 042 242 444  ก่อนจะไปเที่ยวชมศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน เราไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันที่ศาลเจ้าปู่-ย่า ที่อยู่ใกล้ๆ กันก่อน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าปู่-เจ้าย่า นอกจากนี้ยังถือเป็นศาลเจ้าที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน.แต่งตัวด้วยชุดจีนประยุกต์ ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ มีบริการให้เช่าชุดจีนหลายแบบ หลายไซส์ ราคาตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป ใครฝันอยากเป็นฮ่องเต้และฮองเฮา ฝันของคุณเป็นจริงแล้ว เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.โทร. 082 7070 666, 042 242 333, 042 242 444.ขอบคุณรูปภาพจาก ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี เดินเล่นใน “สวนคุณธรรมพันปี 24 กตัญญู”  สวนสไตล์จีนบรรยากศร่มรื่น ที่ตกแต่งด้วยไม้มงคลของจีน เช่น ต้นเครามังกร ต้นหลิว โป๊ยเซียน และต้นไผ่ดำ เป็นต้น มีบ่อปลาคาร์ฟจักรพรรดิ ที่นักท่องเที่ยวสามารถมาให้อาหารปลาได้ นอกจากนี้ รอบๆ สวนยังมีประติมากรรมนูนสูงที่บอกเล่าเรื่องราว ตำนานสุดยอด 24 กตัญญูของแผ่นดินจีน พร้อมคำบรรยายเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของผู้คนที่มาเที่ยวอีกด้วย ชมรูปปั้นหินอ่อนสีหยกขาว รูปปั้นหินอ่อนสีหยกขาวรูปท่านมหาปราชญ์ “ขงจื๊อ” นี้ แกะสลักจากหินที่นำมาจากเมืองชวีฟู่ มณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน บ้านเกิดของท่านขงจื๊อ ซึ่งสภาวัฒนธรรมไทย-จีนได้มอบให้แก่ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ถือเป็นของขวัญจากรัฐบาลจีน จากนั้นมาการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมระหว่างไทย-จีนก็ได้ก่อกำเนิดขึ้น โดยมีการประสานความร่วมมือกับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน จนทำให้ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน จังหวัดอุดรธานี กลายเป็นศูนย์รวมและต้นแบบทางด้านวัฒนธรรมจีนในระดับประเทศมาจนทุกวันนี้ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์คุณธรรม พิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 2 ชั้นด้วยกัน ชั้นบนบอกเล่าเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานี วิถีชีวิตในสมัยก่อน รวมถึงประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ ตามความเชื่อของชาวจีน.ชั้นล่าง บอกเล่าเรื่องราวของมหาปราชญ์ขงจื๊อ ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของท่าน ไปจนถึงคำสอนและคติเตือนใจที่เราสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตได้ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562

ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน และศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี อ่านเพิ่มเติม

ดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ จังหวัดน่าน

ดอยสวนยาหลวง ที่ตั้ง : บ้านสันเจริญ ตำบลผาทอง อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่านพิกัด : https://goo.gl/maps/n4krwZZg5K42 ทริป 2 วัน 1 คืน ที่ดอยสวนยาหลวง จังหวัดน่าน บ้านสันเจริญเป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ห่างจากตัวอำเภอท่าวังผา 32 กิโลเมตร ชาวบ้านเป็นชาวเขาเผ่าเมี่ยน (เย้า) ในอดีตที่นี่เป็นดงฝิ่นบนดอยสูง ปัจจุบันเปลี่ยนมาทำไร่กาแฟจนกลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน พวกเรานัดคุณกริช ไกด์หนุ่มพร้อมรถกระบะ 4WD ให้มารับที่หน้าที่ว่าการอำเภอท่าวังผาเวลา 15.00 น. เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวดอยสวนยาหลวง ระยะทาง 32 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ถนนเป็นสองเลนแคบๆ คดเคี้ยวบางช่วง สำหรับใครที่ไปครั้งแรกก็ไม่แปลกที่จะสงสัยว่า เขาจะพาเราไปไหน? เพราะมองไปรอบๆ มีแต่ป่าเขาและเปลี่ยวมากกก เรียกได้ว่าห่างไกลความเจริญเลยทีเดียว ระหว่างทางที่จะขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกบนดอยสวนยาหลวงนั้น โชคดีที่ยังพอมีเวลา คุณกริชจึงได้แวะจอดรถให้พวกเราได้ไปชมชาวบ้านที่กำลังเก็บผลกาแฟสดจากต้นด้วย ซึ่งปกติชาวบ้านจะเก็บผลกาแฟสดกันจนถึงเวลาประมาณ 17.30 น. กาแฟที่นี่เป็นพันธุ์อาราบิก้า ปลูกบนพื้นที่เกือบ 5,000 ไร่ นับว่าใหญ่เป็นที่ 2 รองจากดอยช้างที่จังหวัดเชียงรายเลยทีเดียว ฤดูเก็บเกี่ยวคือช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ของทุกปี ใช้เวลาปลูก 3-4 ปี ถึงจะเริ่มให้ผลผลิต ถึงแล้ววว จุดชมวิวดอยสวนยาหลวง จุดชมวิวแห่งนี้มีลักษณะเป็นเนินภูเขาหญ้า ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของภูเขาได้สุดสายตา 360 องศา และยังชมทิวทัศน์ตอนเย็น ดูพระอาทิตย์ตก สัมผัสบรรยากาศตอนเช้าตรู่ ดูพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอกได้อีกด้วย นอกจากนี้ดอยสวนยาหลวงยังเป็นแนวสันเขาที่เป็นรอยต่อระหว่างอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน กับอำเภอปง จังหวัดพะเยา เรียกว่ามาที่เดียวได้ชมวิว 2 จังหวัดเลย เห็นแล้วอยากจะกลิ้งไปบนภูเขา ฮ่าๆ ล้อเล่น…วิวดีมากๆ เลยล่ะ ประทับใจสุดๆ เวลาพลบค่ำ บรรยากาศก็เริ่มหนาวเย็น มีลมแรงและหมอกจางๆ พัดมาสัมผัสตัวเบาๆ ข้างบนนี้สามารถกางเต็นท์นอนดูดาวได้ แต่พวกเราเลือกที่จะลงไปพักที่บ้านกลางไร่กาแฟ เพราะบนลานกางเต็นท์อากาศหนาว และที่สำคัญไม่มีห้องน้ำด้วยจ้า  พระอาทิตย์ตกแล้ว หมอกเริ่มหนา อากาศก็เย็นขึ้น แอดอยู่ถ่ายรูปเพลินๆ กับหมอกสักพักก็เริ่มหิวแล้วล่ะ ไปทานมื้อเย็นกันดีกว่า บ้านพักของพวกเราอยู่กลางไร่กาแฟบนดอย หรือที่เรียกว่า “Coffee Farm Stay” จากตรงนี้สามารถมองเห็นวิวหมู่บ้านสันเจริญได้ ที่จริงแล้วบ้านพักตรงนี้เดิมคือ บ้านที่ชาวบ้านสร้างเอาไว้พักเวลาขึ้นมาเก็บผลกาแฟบนดอย เนื่องจากการลงไปยังหมู่บ้านด้านล่างค่อนข้างไกลและลำบากพอสมควร แต่ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงบ้านให้คงทนแข็งแรงขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว อาหารเย็นของพวกเราสุดแสนจะเรียบง่าย แต่รสชาติอร่อยสุดๆ อาจเป็นเพราะความประทับใจตั้งแต่ขึ้นรถมายังหมู่บ้าน เพื่อนร่วมทางที่สร้างเสียงหัวเราะ รวมทั้งคุณกริชที่เป็นกันเองมากๆ หรืออาจเพราะความเหนื่อยก็แล้วแต่ เมนูของพวกเราในวันนี้มี ไก่อบหม้อดิน ผัดผัก ปลานิลทอด และเมนูแนะนำคือ แกงใบแจ้อ๊อเมี๊ย ซึ่งเป็นผักท้องถิ่นของหมู่บ้านสันเจริญนั่นแหละ รสชาติแปลกๆ แต่อร่อยดีนะ อิ่มแล้วเราก็นั่งดูดาวกันต่อสักพัก แม้อากาศจะหนาวมาก แต่ก็รู้สึกอบอุ่นที่ได้มองท้องฟ้าแล้วเห็นดาวพร่างพรายเต็มไปหมด นี่สินะ..การพักผ่อนอย่างแท้จริง บรรยากาศดีๆ กับกลุ่มเพื่อนรู้ใจ ชิลกว่านี้ไม่มีแล้วล่ะ พวกเราตั้งนาฬิกาปลุก 05.30 น. เพื่อจะขึ้นไปดูทะเลหมอกบนจุดชมวิวดอยสวนยาหลวง คุณกริชได้เตรียมอาหารเช้าเป็นข้าวต้มไก่ร้อนๆ ให้เราขึ้นไปรับประทานกันข้างบน บนยอดดอยสวนยาหลวงตอนเช้าตรู่อากาศดีเหลือเกิน สดชื่นสุดๆ เห็นทะเลหมอกอยู่ตรงหน้าเลยนะ แสงแรกของวันช่างทำให้มีพลังและเบิกบานใจ แต่จะมีความสุขไหนเท่ากับการมีบาริสต้าส่วนตัวอย่างคุณกริช มาดริปกาแฟสดๆ ให้พวกเราได้ดื่ม ขณะชมทัศนียภาพของทิวเขาและทะเลหมอก ที่นี่คั่วเมล็ดกาแฟเอง บรรจุใส่ถุงเอง มั่นใจในเรื่องรสชาติและคุณภาพได้เลย It’s Very Really Amazing! หมอกหนาลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางทิวเขาที่สลับซับซ้อนสวยงาม เก็บภาพบรรยากาศกันไว้สักหน่อยก่อนกลับ บอกเลยว่าต้องมาเพราะมันดีจริงๆ ดอกไม้บนดอยสูงนี่ช่างสวยงามจริงๆ เห็นทีต้องถ่ายภาพเป็นที่ระลึกซะหน่อยแล้ว ^^ ช่วงสายแดดเริ่มแรง พวกเรากลับลงมาที่พัก อาบน้ำ จัดสัมภาระเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ก่อนกลับคุณกริชก็ได้พาพวกเราแวะชมน้ำผุดบ้านสันเจริญ น้ำผุดที่นี่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ น้ำใสเย็น นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ มีห้องน้ำบริการฟรีด้วย สุดท้ายและท้ายสุด…ดอยสวนยาหลวงถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวใจกลางหุบเขาขนาดใหญ่ที่สงบ และยังคงความเป็นธรรมชาติอย่างดีเยี่ยมของเมืองน่าน แอดอยากให้เพื่อนๆ ที่รักการเดินทางท่องเที่ยว ได้มาสัมผัสความสุขเหมือนอย่างพวกเราครับ สอบถามข้อมูลบ้านพัก และรถกระบะ 4WD ขึ้นไปจุดชมวิวดอยสวนยาหลวงโทร.096 952 2223 (คุณกริช ผู้ประสานงานกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนเชิงอนุรักษ์ดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ) เว็บไซต์ https://www.facebook.com/ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ ค่าบริการราคาคนละ 1,000 บาท (กลุ่มละ 5-10 คน)(ราคานี้รวมรถรับ-ส่งจากบ้านสันเจริญ ไปบ้านพักบนไร่กาแฟ และไปชุดชมวิวดอยสวนยาหลวง รวมอาหาร 2 มื้อ) ถ้าต้องการให้ไปรับ-ส่งที่ตัวอำเภอท่าวังผา ราคา 2,000 บาท เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562

ดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ จังหวัดน่าน อ่านเพิ่มเติม

ทุ่งดอกกระดาษ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

ทุ่งดอกกระดาษหรือทุ่งบานไม่รู้โรย ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก เป็นโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จัดตั้งขึ้นเพื่อฟื้นฟูสภาพป่า และเพาะชำกล้าไม้ ดอกกระดาษเป็นพรรณไม้กลางแจ้งประเภทไม้ประดับ ที่มักพบตามที่สูงในภาคเหนือ เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่ชอบอากาศเย็น อีกทั้งยังดูแลง่าย ใช้เวลาปลูกเพียง 3 เดือน ก็ออกดอกแล้ว ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม – มีนาคมของทุกปี ดอกกระดาษหลากสีสันจะเบ่งบานปะทะลมหนาว รอให้เราไปชมความสวยงาม ซึ่งทุ่งดอกกระดาษแห่งนี้นับเป็นทุ่งดอกกระดาษที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในไทยเลยทีเดียว ดอกกระดาษที่นี่ขึ้นสลับกับแนวหินผาขนาดปานกลางที่ตั้งอยู่เรียงกัน ซึ่งแต่ละผาจะมีชื่อเรียกเกี่ยวกับความรักที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น ผาพบรัก ผาบอกรัก ผารักยืนยง เป็นต้น นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการฯ ที่อยากให้เพื่อนๆ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก จากหน้าผาด้านบนจะมีทางเดินลงมาด้านล่าง ซึ่งเพื่อนๆ จะพบกับดอกกระดาษชูช่อสวยงามเรียงรายเป็นแนวยาวตลอดทางเดินเลาะริมผา การเดินทางจากตัวเมืองพิษณุโลก ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ถึงสามแยกบ้านแยง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2013 ไปประมาณ 28 กิโลเมตร จะถึงแยกร่องกล้า อ.นครไทย จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 2331 อีกประมาณ 31 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า (เป็นทางผ่านก่อนขึ้นไปภูลมโล)  เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562

ทุ่งดอกกระดาษ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ่านเพิ่มเติม

Relax & Easy ณ เกาะขาม จังหวัดชลบุรี

อุทยานใต้ท้องทะเลเกาะขามเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ภายใต้การควบคุมดูแลของสำนักงานกิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 การเดินทางไปยังเกาะขาม จากมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 331 ผ่านแยกเกษมพล และแยกบ้าน กม.10 (รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ) ตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปทางบ้านแสมสาร ตรงไปจนสุดแล้วเลี้ยวขวา จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทาง จะพบทางเข้ากรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งเป็นสถานที่ขายตั๋ว (ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย) ถึงแล้วก็ซื้อตั๋วเรือข้ามไปเกาะขามกันเล้ยยย รอบเรือข้ามไปเกาะขามวันจันทร์-ศุกร์เที่ยวไป : 09.00 น. 10.00 น. และ 11.00 น.เที่ยวกลับ : 13.00 น. 14.00 น. และ 15.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เที่ยวไป : 08.00 น. 09.00 น. 10.00 น. 11.00 น. และ 11.30 น.เที่ยวกลับ : 13.00 น. 14.00 น. 15.00 น. และ 16.00 น. อัตราค่าบริการเรือ (ไป-กลับ)ชาวไทย ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 200 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 300 บาท**เด็ก สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร ช่องทางการจองตั๋ว1.จองทางโทรศัพท์ (เฉพาะวัน-เวลาราชการเท่านั้น)โทร 03 312 48482. walk-in บริเวณประตูทางเข้ากรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ (เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น) เปิดจำหน่ายตั๋ว 07.00 – 10.00 น. บนเกาะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำมากมาย เช่น– ดำน้ำตื้นชมปะการังและฝูงปลา ค่าอุปกรณ์ดำน้ำ 50 บาท– นั่งเรือท้องกระจกชมโลกใต้ทะเล ใช้เวลารอบละ 30 นาที ค่าเรือ 20 บาท เรือออกทุกชั่วโมง– เดินเท้าและปีนป่ายขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา ระยะทางราว 300 เมตร– เดินตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ ได้ชมความงามของทะเล และยังได้ชมความงามของพรรณไม้ต่างๆ ด้วย คุ้มสุดๆ ไปเลย เนื่องจากเกาะขามเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทางเกาะขามจึงได้จัดกิจกรรม Kohkham Clean Beach Campaign เพื่อลดปริมาณขยะบนเกาะ โดยไม่อนุญาตให้นำบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกทุกอย่าง รวมทั้งขวดแก้ว และกล่องโฟม ขึ้นมาบนเกาะค่ะ  เกาะขามไม่อนุญาตให้พักค้างคืน แนะนำให้นักท่องเที่ยวหาที่พักบริเวณท่าเรือเขาหมาจอนะคะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานกิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีโทร 03 312 4848, 093 397 1342เว็บไซต์ www.kohkham.com  เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562

Relax & Easy ณ เกาะขาม จังหวัดชลบุรี อ่านเพิ่มเติม

ปางอุ๋ง ดินแดนแห่งเทพนิยาย

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า “ปางอุ๋ง” เป็นสถานที่ที่แอดอยากไปมากกกก (ก.ไก่ล้านตัว) เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย.แอดจึงอยากไปพิสูจน์ให้เห็นกับตาตัวเอง ว่าจะจริงสมคำร่ำลือหรือไม่  และเมื่อมาถึง แอดไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองเผลอพูดคำว่า “สวยมาก” ไปทั้งหมดกี่ครั้ง เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือสวยมากจริงๆ เป็นความสวยงามที่ยากเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได และไฮไลท์สำหรับการมาเที่ยวปางอุ๋งก็คือ “การล่องแพไม้ไผ่” เพื่อชมธรรมชาติและบรรยากาศของทะเลสาบในตอนเช้าตรู่ค่ะ ไอหมอกจางๆ ที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ล้อมรอบไปด้วยแนวทิวสน ช่างเหมือนกับอยู่ในเทพนิยายยังไงยังงั้น .ยิ่งเป็นช่วงที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นแล้วละก็ แอดบอกเลยว่าโรแมนติกสุดๆ ฟินมากๆ . การล่องแพจะใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาทีค่ะ ล่องไปเรื่อยๆ รอบๆ อ่างเก็บน้ำ ชื่นชมธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ ซึมซับบรรยากาศสุดโรแมนติก  ค่าบริการลำละ 150 บาท นั่งได้ 2 คนค่ะ นั่งสบายมากๆ เลย แต่ถ้าใครยังฟินกับบรรยากาศของปางอุ๋งจนไม่อยากกลับแล้วละก็ ที่นี่เค้าก็มีบ้านพักและพื้นที่กางเต็นท์ไว้บริการด้วยค่ะ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562

ปางอุ๋ง ดินแดนแห่งเทพนิยาย อ่านเพิ่มเติม

วังเทพทาโร แดนไม้มหัศจรรย์ บ้านแห่งปราชญ์ท้องถิ่น

หลายคนอาจจะเคยไปดูสันหลังมังกรกลางทะเลกันมาแล้ว แต่ที่จังหวัดตรัง นอกจากสันหลังมังกรแล้ว ยังมีมังกรเป็นตัวๆ ให้ดูอีกด้วยนะ  วังเทพทาโร คือสถานที่รวบรวมมังกรที่ทำจากไม้เทพทาโร ผลงานสร้างสรรค์ฝีมืออาจารย์จรูญ แก้วละเอียด ปราชญ์ท้องถิ่นผู้รักในแผ่นดินบ้านเกิด เทพทาโรคืออะไร เทพทาโร หรือต้นจวงหอม เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งที่เนื้อไม้มีกลิ่นหอม นิยมนำมาแกะสลักเป็นของตกแต่งบ้าน หรือนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย ที่มีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น ใช้ทานวดแก้ปวดเมื่อยเคล็ดขัดยอก แก้ผดผื่น แก้แมลงสัตว์กัดต่อย ทาแผลสด แผลเรื้อรัง แผลอักเสบ แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก เป็นต้น ความมหัศจรรย์อีกอย่างของพืชชนิดนี้คือ ต้นเทพทาโรแต่ละต้นจะให้ความหอมต่างกัน มีทั้งกลิ่นตะไคร้หอม กลิ่นรูทเบียร์ กลิ่นเสม็ดขาว และกลิ่นดอกไม้ ซึ่งทดสอบได้โดยขยี้ใบแล้วดมค่ะ วังเทพทาโรเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของอาจารย์จรูญ แก้วละเอียด อดีตครูภาษาอังกฤษ โรงเรียนห้วยยอด ที่ต้องการอนุรักษ์พืชชนิดนี้ไว้ให้เป็นที่รู้จักของคนรุ่นหลัง อาจารย์จรูญเล่าว่า เมื่อก่อนละแวกนี้มีไม้เทพทาโรเป็นแสนๆ ต้น แต่ชาวบ้านโค่นทิ้งเพื่อปลูกยางพารา อาจารย์เห็นว่าไม้เทพทาโรเป็นไม้ที่มีประโยชน์ มีคุณค่า จึงขอซื้อต่อจากชาวบ้าน แล้วลองนำมาต่อเป็นมังกรจนสำเร็จ หลังจากนั้นจึงทุ่มทุนสร้างวังเทพทาโรที่มีเนื้อที่กว่า 25 ไร่นี้ขึ้นมา สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ประชาชนและผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับไม้เทพทาโร อีกทั้งยังได้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอีกด้วย และด้วยความที่อาจารย์จรูญเป็นคนชอบแต่งกลอนและเพลงมาก จึงได้แต่งกลอนที่มีเนื้อหามาจากคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เอาไว้มากมาย อาจารย์แต่งกลอนเก่งมากๆ มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เดินอ่านเพลินเลยค่ะ ต้นกำเนิดของวังเทพทาโร มังกรตัวแรกที่อาจารย์จรูญลองทำ โดยนำท่อนไม้ เศษไม้ และรากของต้นเทพทาโรมาต่อเข้าด้วยกัน.สาเหตุที่สร้างเป็นรูปมังกรก็เพราะ มังกรเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ เป็นสัตว์เทพ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับชื่อเทพทาโรอีกด้วย ห้ามพลาด!! มาที่นี่ต้องมาลอดท้องมังกร 9 ช่อง เพื่อความเป็นสิริมงคล พญามังกรเก้ามงคล “รักษ์น้ำ” ถือเป็นมังกรไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย “มังกรไพรภักดี” มังกรตัวที่ 88 ก็สวยงาม อลังการไม่แพ้กัน.ปัจจุบันอาจารย์จรูญยังคงสร้างสรรค์ผลงานอย่างต่อเนี่อง โดยตั้งใจจะสร้างมังกรให้ครบ 89 ตัว เท่ากับพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562

วังเทพทาโร แดนไม้มหัศจรรย์ บ้านแห่งปราชญ์ท้องถิ่น อ่านเพิ่มเติม

5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไหว้แล้วมีสิทธิสละโสด

ศาลท้าวมหาพรหม กรุงเทพมหานคร.เชื่อกันว่า ท่านท้าวมหาพรหมเป็นเทพเจ้าที่มีเมตตา สามารถดลบันดาลให้ผู้ที่มาขอพรนั้นสมปรารถนาในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ชีวิต หน้าที่การงาน โดยผู้ที่มาขอพรพระพรหมนั้นมักจะบนบานด้วยการถวายพวงมาลัยดอกไม้เจ็ดสีเจ็ดศอก ช้างไม้ หรือละครรำ.ยังมีกิตติศัพท์เลื่องลือกันในหมู่ของผู้ที่ต้องการมีบุตรด้วยว่า หากได้มาอธิษฐานขอพรจากท่านแล้ว มักจะสมหวัง แม้แต่ชาวต่างชาติก็ถึงกับข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ.ในวันที่ 9 พฤศจิกายนของทุกปี จะมีการจัดงานบวงสรวงพระพรหม เนื่องในโอกาสครบรอบการตั้งศาลด้วย  พระตรีมูรติ กรุงเทพมหานคร.ผู้ใดที่ยังไร้คู่หรือไม่มีโชคในด้านความรัก หากได้มาบูชาพระตรีมูรติและตั้งจิตอธิษฐานขอพรให้พบกับเนื้อคู่แล้ว ก็มักจะได้สมดังปรารถนา รวมทั้งเรื่องของชีวิตและหน้าที่การงานอีกด้วย เวลาที่ดีที่สุดในการสักการะ คือ คืนวันพฤหัสบดี เวลา 21.30 น. เพราะเชื่อว่าเป็นเวลาที่เทพจะลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อรับฟังและประทานพรให้แก่ผู้ขอ.วิธีบูชาพระตรีมูรติ ใช้ธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง ดอกกุหลาบแดง และผลไม้ พร้อมกล่าวชื่อ นามสกุล รวมทั้งที่อยู่ของตนเองด้วย.วันบวงสรวงพระตรีมูรติ ตรงกับวันที่ 2 ธันวาคม ของทุกปี วัดโสธรราชวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา.ผู้ที่นับถือหลวงพ่อโสธรเชื่อว่าเมื่อได้มาสักการะแล้ว จะมีแต่ความสุข เป็นสวัสดิมงคลแก่ชีวิต และในหมู่ผู้ที่มีบุตรยากยังเดินทางมาพร้อมกับความหวัง.เพราะเชื่อกันว่า หากได้มาขอหลวงพ่อแล้วจะได้ลูกชาย และเมื่อสมดังหวัง ก็นิยมมาถวายละครชาตรี ไข่ต้ม ผลไม้ และพวงมาลัย.งานนมัสการประจำปีหลวงพ่อโสธร จัดขึ้นปีละ 3 ครั้ง คือ– กลางเดือน 5 (เมษายน)– กลางเดือน 12 (พฤศจิกายน)– เทศกาลตรุษจีน ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา.เชื่อกันว่า เจ้าแม่สร้อยดอกหมากจะดลบันดาลให้ผู้ที่มากราบไหว้ขอพร มีแต่ความสุข ความสำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องของความรักและคู่ครอง ถ้ามีใจที่แน่วแน่มั่นคง ก็มักสมหวังดังใจปรารถนา.หรือผู้ที่อยากมีบุตรก็มักจะมาขอพรจากเจ้าแม่เช่นกัน เมื่อได้สมดังที่ขอแล้วมักจะนำผ้าแพร ไข่มุก เรือสำเภาจำลอง หรือนำสิงโตมาเชิดเพื่อถวายเจ้าแม่ พระธาตุศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย จ.เลย.เชื่อกันว่า หากผู้ใดได้มาบนบานศาลกล่าว แล้วแก้บนด้วยต้นผึ้ง จะได้สมตามความปรารถนาทุกประการ และถ้าขอพรในด้านที่เกี่ยวกับความรักและมิตรภาพ สัมพันธภาพนั้นก็จะยั่งยืนสืบไป.ข้อปฏิบัติที่ควรทราบคือ ไม่ควรแต่งกายในชุดสีแดง รวมทั้งงดนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นไปบูชา เพราะสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง นอกจากนี้ยังไม่ควรกางร่ม สวมหมวก และสวมรองเท้าขึ้นไปบริเวณพระธาตุอีกด้วย.พระธาตุศรีสองรัก สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เพื่อเป็นสักขีพยานในความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกรุงศรีอยุธยากับกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์).ประเพณีสมโภชพระธาตุศรีสองรัก จัดขึ้นในวันวิสาขบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) ของทุกปี เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562

5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไหว้แล้วมีสิทธิสละโสด อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวปาย 2 วัน 1 คืน

เที่ยวปาย 2 วัน 1 คืน.ทริปนี้เราจะไปปายกัน แต่ไหนๆ ก็มาถึงแม่ฮ่องสอนแล้ว แวะชมสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทางไปปายกันสักนิดก็คงไม่เสียหายอะไร ว่าแล้วก็ตามแอดมาเลยจ้า แอดขอเริ่มต้นทริปนี้ด้วยการนั่งทานก๋วยเตี๋ยวห้อยขากันที่ “บ้านจ่าโบ่” ค่ะ เค้าว่ากันว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง ดังนั้นจะช้าอยู่ไย สั่งก๋วยเตี๋ยวกันเลย ก๋วยเตี๋ยวของที่นี่มีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำใสหรือต้มยำ จะใส่ไข่ต้มหรือไม่ใส่ แล้วแต่ชอบเลยค่ะ.ระหว่างที่รอก๋วยเตี๋ยว เราก็สามารถนั่งถ่ายรูปเล่น จิบลม ชมวิวกันได้ตามสบาย ขอบอกเลยว่าวิวที่นี่สวยมาก สมกับที่เค้าว่า “ก๋วยเตี๋ยวหลักสิบวิวหลักล้าน” เลย.ที่ตั้ง : 1226 ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอนเปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 16.00 น. หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวกันจนอิ่มหนำสำราญแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ “ถ้ำน้ำลอด” ค่ะ ภายในแบ่งออกเป็น 3 ถ้ำด้วยกัน ซึ่งการเข้าไปยัง 2 ถ้ำแรกเราจะต้องเดินและปีนบันไดที่ค่อนข้างชัน ส่วนการเดินทางไปยังถ้ำที่ 3 จะมีแพให้เราได้นั่งลอดถ้ำเข้าไป.ในถ้ำค่อนข้างมึด แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะเรามีตะเกียงเจ้าพายุเป็นแสงสว่างนำทาง บวกกับมีไกด์ที่น่ารักคอยอำนวยความสะดวกให้ด้วย ระหว่างล่องแพเราสามารถให้อาหารปลาได้ด้วยนะคะ ซึ่งอาหารปลาสามารถซื้อได้บริเวณจุดขายตั๋วค่ะ.แพ 1 ลำนั่งได้ประมาณ 3 คน ค่าบริการล่องแพ พร้อมไกด์ท้องถิ่น ราคา 450 บาท ใช้เวลาชมความสวยงามภายในถ้ำประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แอดชมเพลินจนลืมเวลาไปเลย นึกว่าเพิ่งเดินได้แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง  ที่ตั้ง : ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอนเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 17.00 น. ชมความมหัศจรรย์อันสวยงามของถ้ำเสร็จแล้ว เราก็ไปรับลมเย็นๆ ชมวิวสวยๆ กันที่ “ดอยกิ่วลม” ค่ะ ซึ่งที่นี่เราสามารถลองเล่นชิงช้ากะเหรี่ยงได้ด้วยนะคะ แอดไปลองมาแล้ว ตอนแรกก็แอบกลัวนิดหน่อย แต่ต้องบอกเลยว่าวิวดีมาก…..หมายถึงวิวจริงๆ นะ .ที่ตั้ง : ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังจากเพลิดเพลินกับการชมวิวและบรรยากาศที่สวยงามกันแล้ว เราก็ไปสักการะพระพุทธโลกุตระมหามุนี พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ที่ “วัดพระธาตุแม่เย็น” ค่ะ ที่วัดแห่งนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของแม่ฮ่องสอน เมื่อมาเที่ยวแล้วต้องห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะคะ.ที่ตั้ง : ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถึงเวลาเติมพลังกันแล้วค่ะ บอกเลยว่าราตรีนี้ยังอีกยาวไกล เพราะเราจะไม่ยอมหลับถ้าท้องเรายิ่งไม่อิ่ม สำหรับเพื่อนๆ ที่เดินทางมาเที่ยว อ.ปาย สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ การชอปของดี ชิมของอร่อย ที่ “ถนนคนเดินปาย” ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อเลือกหากันมากมาย.ที่ตั้ง : ถนนชัยสงคราม ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จัวหวัดแม่ฮ่องสอนเปิดทุกวัน เวลา 18.00 – 23.00 น. สำหรับเช้าวันใหม่นี้ เราก็พร้อมออกเดินทางไปยัง “จุดชมวิวหยุนไหล” กันแล้ว ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยอดฮิตสำหรับคนที่เดินทางมาปาย เพราะนอกจากพระอาทิตย์ที่สวยงามแล้ว เรายังจะได้สัมผัสกับไอหมอกและลมเย็นๆ ในยามเช้าตรู่อีกด้วยค่ะ.หากกลัวว่าจะต้องมาถึงที่นี่แต่เช้าเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้วจะหิว ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะที่นี่เค้ามีร้านอาหารไว้บริการด้วยค่ะ  การเดินทางมายังจุดชมวิวหยุนไหลนั้น ถ้าขึ้นมาก่อน 09.00 น. เราจะต้องจอดรถไว้ที่หมู่บ้านสันติชล และนั่งรถกระบะของชาวบ้านต่อมายังจุดชมวิว ราคาเหมาไป-กลับคันละ 300 บาท นั่งได้ไม่เกิน 10 คน (แต่ถ้าหลัง 09.00 น. สามารถนำรถขึ้นไปเองได้ค่ะ).ที่ตั้ง : ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อนๆ คนไหนที่หลงใหลในบรรยากาศแบบจีนๆ ต้องแวะที่ “บ้านสันติชล” เลยค่ะ ที่นี่มีอาหารจีนให้เลือกทาน มีมุมสวยๆ ในบรรยากาศจีนๆ ให้เลือกถ่ายรูปมากมาย นอกจากนี้ยังมีชุดแบบในหนังจีนให้เช่าใส่เป็นพร็อปถ่ายรูปอีกด้วยนะคะ โดยราคาเริ่มต้นที่ชุดละ 100 บาทค่ะ .ที่ตั้ง : ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางไปต่อกันที่ “สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย” สะพานแห่งนี้มีดีอะไร? คำตอบคือ เป็นสะพานที่ดูเก๋และถ่ายรูปสวยสุดๆ ค่ะ.นอกจากนี้สะพานแห่งนี้ยังมีความสำคัญอย่างมากต่อ อ.ปาย เพราะเมื่อครั้งอดีตในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทหารญี่ปุ่นได้ใช้สะพานแห่งนี้ในการลำเลียงเสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังประเทศเมียนมา เดิมสะพานแห่งนี้สร้างด้วยไม้ แต่หลังจากสงครามครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ทหารญี่ปุ่นได้เผาสะพานทิ้ง ภายหลังจึงได้มีการสร้างสะพานขึ้นใหม่โดยใช้เหล็กจากสะพานนวรัฐ จ.เชียงใหม่ ซึ่งไม่ได้ใช้งานแล้ว มาสร้างเป็นสะพานแบบที่เราเห็นทุกวันนี้นั่นเองค่ะ.ที่ตั้ง : ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562

เที่ยวปาย 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวกันตัง ชมหมากตักน้ำ

ราจะไปกันที่ “ชุมชนบ้านย่านซื่อ”ที่ตั้ง : ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรังพิกัด : https://goo.gl/maps/5xBxVs4x2Zv “ชุมชนบ้านย่านซื่อ” เป็นชุมชนริมฝั่งแม่น้ำตรัง และยังเป็นชุมชนป่าจากที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้อีกด้วยนะคะ เอาล่ะค่ะ เรามาทำความรู้จักกับ “ติหมา” กันดีกว่า.“ติหมา” หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ “หมาตักน้ำ” หรือ “หมาจาก” นั้น ก็คือภาชนะตักน้ำที่ทำมาจากใบจากนั่นเองค่ะ.หนึ่งในภูมิปัญญาของชาวใต้ ที่นำวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันมาตั้งแต่อดีต.ซึ่งในปัจจุบัน ด้วยกระแสของการลดการใช้พลาสติก และหันกลับมาใช้วัสดุธรรมชาติมากขึ้น ทำให้เราพบเห็นการนำติหมามาใช้ประโยชน์กันมากมายเลย ไม่ว่าจะใส่น้ำ ใส่ขนม หรือแม้แต่ใช้เป็นของตกแต่งบ้านด้วย และประโยชน์ของใบจากยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ เพราะใบจากยังสามารถนำมาสานเป็นภาชนะต่างๆ เช่น ตะกร้า กระเช้า ถาด ฯลฯ สำหรับใส่ของได้อีกด้วยค่ะ หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากจะศึกษาหรือเรียนรู้งานฝีมือจากต้นจากให้มากกว่านี้ ก็สามารถเดินทางมาที่ชุมชนบ้านย่านซื่อได้เลย คุณลุงคุณป้ายินดีต้อนรับ และพร้อมที่จะถ่ายทอดภูมิปัญญาอันล้ำค่าเหล่านี้ให้กับพวกเราค่ะ  เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562

เที่ยวกันตัง ชมหมากตักน้ำ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top