สถานที่ท่องเที่ยว

บุก 2 ภู ดูหมอกเลย

จังหวัดเลยตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ เป็นจังหวัดในภาคอีสานที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย แต่ละที่ล้วนสวยงามและมีเสน่ห์ ชนิดที่ไปแล้วก็ต้องกลับไปซ้ำ เพราะความประทับใจในแต่ละครั้งไม่เคยซ้ำกันเลยจริง ๆ . แอดมีตัวอย่างเส้นทาง “บุก 2 ภู ดูหมอกเลย” เที่ยวเลยแบบ 2 วัน 1 คืน มาฝากให้เพื่อน ๆ ได้ลองดูเป็นไอเดีย . ทริปนี้ แอดบอกก่อนเลยว่า เหมาะสำหรับสายแอดเวนเจอร์ อยากให้เพื่อน ๆ เดิน ค่อย ๆ เที่ยว แอดเลยไม่ได้ใส่สถานที่ท่องเที่ยวมาเยอะมาก วันที่ 1– ภูป่าเปาะ อำเภอหนองหิน– สวนหินผางาม อำเภอหนองหิน วันที่ 2– อุทยานแห่งชาติภูเรือ อำเภอภูเรือ– วัดป่าห้วยลาด อำเภอภูเรือ อย่าลืมแวะชิม “ตำด๊องแด๊ง” อาหารถิ่นจังหวัดเลยด้วยนะ จุดแรกที่เราจะไปก็คือที่ ภูป่าเปาะ อำเภอหนองหิน ห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ 64 กิโลเมตร.ภูป่าเปาะ เป็นเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 910 เมตร จุดเด่นของภูป่าเปาะคือ สามารถมองเห็นภูหอ ที่มีลักษณะเป็นภูเขายอดตัด ตั้งตระหง่านโดดเด่น คนที่ได้เห็นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภูหอคล้ายภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น.การเดินทางขึ้นไปยังภูป่าเปาะ นักท่องเที่ยวไม่สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ ต้องจอดไว้ที่ด้านล่างแล้วใช้รถอีแต๊กท้องถิ่นที่จอดคอยให้บริการอยู่บริเวณตีนภู ราคาคนละ 60 บาท คันหนึ่งนั่งได้สูงสุด 7 คน ที่ภูป่าเปาะ มีจุดชมวิวหลัก ๆ อยู่ 4 จุด แต่ละจุดห่างกัน 200 เมตร รถอีแต๊กจะจอดส่งเราที่จุดที่ 1 จากนั้นเราต้องเดินเท้าต่อขึ้นไปด้วยตัวเอง ไฮไลท์ของที่นี่คือยอดภู ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองดูภูหอพร้อมวิวสวย ๆ แบบพาโนรามา 360 องศา และหากสภาพอากาศเป็นใจ เราจะได้ชมทะเลหมอกอีกด้วย.จากภูป่าเปาะ เราสามารถมองเห็นภูอื่น ๆ อีกหลายภู ไม่ว่าจะเป็น ภูกระดึง ภูหลวง ภูยอง ภูผาขวาง ภูค้อ ภูกระแต สวนหินผางาม ภูผาม่าน.บนภูป่าเปาะไม่มีที่พักและไม่อนุญาตให้กางเต็นท์ มีห้องน้ำและร้านอาหารให้บริการแต่อยู่บริเวณที่ทำการด้านล่าง.ภูป่าเปาะที่ตั้ง: ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลยเปิดให้บริการทุกวัน รถอีแต๊กเปิดให้บริการตั้งแต่ เวลา 05.00 – 18.00 น. (นักท่องเที่ยวสามารถอยู่บนยอดภูได้ถึง 19.00 น.)โทร. 06 0837 9938พิกัด https://goo.gl/maps/nmuhy4YxDyMfTcWm6 หลังจากเดินเที่ยวบนภูแล้ว จุดต่อไปคือสวนหินผางาม ห่างจากภูป่าเปาะประมาณ 7 กิโลเมตร.สวนหินผางามเป็นสวนหินปูนอายุประมาณ 250-280 ล้านปี ซึ่งมีอายุใกล้เคียงกับสวนหินที่เมืองคุณหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน หลาย ๆ คนเรียกที่นี่ว่า คุณหมิงเมืองเลย เนื่องจากทางเดินในสวนหินแคบและวกวน อาจจะทำให้เกิดการพลัดหลงได้ จึงต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว.การเข้าชมจะแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 10 คน ค่าบริการกลุ่มละ 100 บาท จุดที่น่าสนใจภายในสวนหินผางาม ได้แก่ ถ้ำทะลุ ภูเขารูปทรงต่าง ๆ จุดชมวิวยอดเขาผาบ่อง เป็นต้น.สวนหินผางามที่ตั้ง: ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 08.30 – 17.00 น. โทร. 06 4261 5103พิกัด https://goo.gl/maps/A2tjNnu4A4RuUjgr8 วันที่ 2.เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยการขึ้นไปชมทะเลหมอกบนอุทยานแห่งชาติภูเรือ ห่างจากสวนหินผางามประมาณ 106 กิโลเมตร ซึ่งหากเพื่อน ๆ จะเที่ยวตามที่แอดแนะนำ แอดอยากให้พักบริเวณตัวอำเภอภูเรือ เพื่อสะดวกต่อการเดินทางขึ้นภูในเวลาเช้า.อย่าลืมจองคิวใน App QueQ ก่อนเข้าพื้นที่อุทยานฯ ด้วยนะ อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอภูเรือ อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ส่วนอาณาเขตด้านทิศเหนือติดกับประเทศลาว.ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ ยอดภูเรือ มีความสูงถึง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สาเหตุที่เรียกว่า “ภูเรือ” เนื่องจากภูเขาลูกหนึ่งในอุทยานฯ มีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขามีลักษณะคล้ายท้องเรือนั่นเอง.นักท่องเที่ยวไม่สามารถนำรถขึ้นไปบริเวณยอดภูเรือได้ วิธีขึ้นไปมี 2 วิธี คือ1. เดินขึ้นภูเรือด้วยตัวเอง ระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร2. ใช้บริการรถสองแถวของชาวบ้าน ที่จอดอยู่ในบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ราคาเที่ยวละ 10 บาท (ขึ้น 10 บาท ลง 10 บาท) บนยอดภูเรือเราจะเห็นป่าสนเขาสลับกับสวนหินธรรมชาติ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอกที่สวยงาม และดอกไม้หลากหลายพันธุ์ เช่น กุหลาบแดง กุหลาบขาว ดาวเรือง ภูเฟิร์น กล้วยไม้ป่า เป็นต้น นอกจากนี้ บนยอดภูเรือยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธนาวาบรรพต เป็นพระพุทธรูปที่ชาวภูเรือ อัญเชิญมาจากวัดพระญาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.2520 เพื่อความเป็นสิริมงคล แก่ชาวภูเรือนั่นเอง.ในอุทยานฯ ยังมีจุดชมวิวและสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายจุด เช่น ผาโหล่นน้อย ผาช่าทอง น้ำตกห้วยไผ่ หินศิวลึงค์ สวนหินพาลี ทุ่งหินพานขันหมาก หินเต่า เป็นต้น.สำหรับผู้ชื่นชอบการกางเต็นท์ สามารถนำเต็นท์ไปกางนอนได้ เสียค่าบำรุงสถานที่ 30 บาท ต่อคน หากใครไม่มีเต็นท์ส่วนตัว สามารถเช่าของทางอุทยานฯ ได้ เป็นเต็นท์ขนาด 3 คนนอน ราคาหลังละ 250 บาท และค่าเครื่องนอนชุดละ 60 บาท.อุทยานแห่งชาติภูเรือที่ตั้ง: ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ

บุก 2 ภู ดูหมอกเลย อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวนครนายก-ปราจีนบุรี 2 วัน 1 คืน

เส้นทางท่องเที่ยวนครนายก-ปราจีนบุรี 2 วัน 1 คืน ถึงนครนายกและปราจีนบุรีจะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปหลายแห่ง เรียกว่าครบทั้งที่เที่ยวทางธรรมชาติ ร้านอาหาร คาเฟ่สุดชิค และแหล่งเรียนรู้ บอกเลยว่าทริปนี้ได้ทั้งความชิลและความรู้ไปแบบเต็ม ๆ.ทริปนี้แอดจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ตามมาดูเลยค่ะ จังหวัดนครนายก– Montreux Café & Farm– วัดจุฬาภรณ์วนาราม– อุทยานพระพิฆเณศ– สะพานทุ่งนามุ้ย จังหวัดปราจีนบุรี– พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร– บ้านเล่าเรื่อง…เมืองสมุนไพร– ภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ– Café Kantary 304 ร้าน Montreux Café & Farm เริ่มต้นที่แรกด้วยร้าน Montreux Café and Farm (มองเทรอส์ คาเฟ่ แอนด์ ฟาร์ม) คาเฟ่บรรยากาศดี มีฟาร์มเล็ก ๆ ให้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ.ภายในร้านแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนของคาเฟ่ และฟาร์ม คาเฟ่ให้บริการอาหาร น้ำดื่ม และขนม ใครหิวมาฝากท้องได้ที่นี่เลยค่ะ อร่อยทุกอย่าง .ที่ตั้ง : ตำบลบึงศาล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายกโทร. 087 979 7341เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)พิกัด : https://goo.gl/maps/i31f3oMceZJ6nbzp8 ส่วนฟาร์มจะอยู่ด้านหลังร้าน บรรยากาศสไตล์บ้านทุ่ง มีนาข้าวและสระน้ำเล็ก ๆ ให้พายเรือเล่น หรือจะนั่งให้อาหารปลาชิล ๆ ริมสระก็ได้นะ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมทำไข่เค็มดินสอพอง ครอบครัวไหนที่มีน้อง ๆ หนู ๆ มาด้วย สามารถมาทำกิจกรรมนี้กันได้ค่ะ  วัดจุฬาภรณ์วนาราม ไปเที่ยวต่อกันที่วัดจุฬาภรณ์วนาราม วัดนี้สร้างขึ้นในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเจริญพระชนมายุ 50 พรรษา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานนามวัดว่า “วัดจุฬาภรณ์วนาราม” พร้อมทั้งพระราชทานตราสัญลักษณ์ จภ เป็นตราประจำวัด เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550.ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดนิยมของจังหวัดนครนายก ไฮไลท์ที่โดดเด่นคือซุ้มต้นไผ่ที่อยู่บริเวณทางเดินเข้าวัด แอดบอกเลยว่าสวยมาก ร่มรื่นสุด ๆ ถ่ายรูปกันได้อย่างเพลิดเพลินเลยค่ะ.ที่ตั้ง : ตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายกเปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.โทร. 080 011 3791พิกัด https://goo.gl/maps/jCpXxNQCw9hGRenE9 หลังจากถ่ายรูปกับซุ้มต้นไผ่แล้ว อย่าลืมเข้าไปไหว้พระด้านในวัดเพื่อเสริมสิริมงคลกันด้วยนะคะ อุทยานพระพิฆเณศ อุทยานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม ภายในมีพระพิฆเณศปางประทานพรและปางเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังจัดแสดงพระพิฆเณศ 108 ปางอีกด้วย . ที่ตั้ง : 24/4 หมู่ที่ 11 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายกเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.โทร. 088 914 1987พิกัด https://goo.gl/maps/b6SXgaqDk9jHeJvs6 สะพานทุ่งนามุ้ย ปิดท้ายการท่องเที่ยวจังหวัดนครนายกกันที่สะพานทุ่งนามุ้ย ซึ่งเป็นสะพานไม้ไผ่รูปตัว s มีความยาวประมาณ 150 เมตร ทอดยาวคดโค้งผ่านทุ่งนา เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ บริเวณนี้มีร้านกาแฟและร้านขายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านให้เราไปอุดหนุนกันด้วย.เพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปเที่ยวสะพานทุ่งนามุ้ยได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าใครอยากเห็นทุ่งนาสีเขียวแบบนี้ต้องไปช่วงปลายปีนะคะ.ที่ตั้ง : 88 หมู่ที่ 11 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายกเปิดทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.โทร. 094 493 4321พิกัด https://goo.gl/maps/JDr7ZsK8zbC5Q3dY6 ไปต่อที่จังหวัดปราจีนบุรีกันเลยค่ะ ที่แรกที่เราจะไปคือ พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร .ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อาคารสีเหลืองสดใสสไตล์บาร็อกริมแม่น้ำปราจีนบุรีแห่งนี้ ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตึกที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรสร้างขึ้นด้วยทรัพย์สินส่วนตัว เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนมณฑลปราจีน และเคยใช้เป็นตึกอำนวยการรักษาผู้ป่วย.ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2539.ที่ตั้ง : 32/7 หมู่ที่ 12 ตำบลท่างาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.00 น.โทร. 037 211 289, 037 211 088 ต่อ 2149, 2133 พิกัด https://goo.gl/maps/f741531vS9v3pTQH9 ภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของตึก รวบรวมและอนุรักษ์ตำรายาไทย การแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี.นอกจากนี้ยังมีสินค้าสมุนไพรของอภัยภูเบศรจำหน่ายด้วย ใครชอบผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร อย่าลืมแวะซื้อกันนะคะ บ้านเล่าเรื่อง…เมืองสมุนไพร ไปหาของอร่อยทานกันต่อที่บ้านเล่าเรื่อง…เมืองสมุนไพร.บ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของสมุนไพรหลังนี้ เดิมเป็นของครอบครัวเปี่ยมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางและพ่อค้าเก่าแก่ของจังหวัดปราจีนบุรี ดร. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ได้มอบบ้านหลังนี้ให้แก่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเพื่อใช้ประโยชน์ จึงเป็นที่มาของบ้านเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นทั้งร้านอาหารเพื่อสุขภาพและพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ที่นำเสนอเรื่องราวของสมุนไพรผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงภายในร้าน.ที่ตั้ง : 51 ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรีเปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น.โทร. 097 021 1037พิกัด https://goo.gl/maps/khv48AnwC3dKuvhf8 ภายในห้องอาหารมีการจัดแสดงความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไว้ตามส่วนต่าง ๆ ทำให้เห็นว่าสมุนไพรนั้นน่าสนใจและอยู่ไม่ไกลตัวเราเลย.อาหารแต่ละเมนูก็น่ากินและมีประโยชน์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ยำทะเลดอกอัญชัน น้ำมะนาวอัญชัน แอดลองชิมแล้ว อร่อยจนต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ  เรายังวนเวียนอยู่กับเรื่องสมุนไพรค่ะ ที่ต่อไปที่จะไปเที่ยวกันนั้นก็คือ เรือนหมอพลอย ซึ่งอยู่ภายในภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ.“เรือนหมอพลอย” เป็นเรือนไม้หลังใหญ่ที่นายแพทย์ไพโรจน์ นิงสานนท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงหมื่นชำนาญแพทยา (พลอย แพทยานนท์) หมอหลวงในสมัยรัชกาลที่

เส้นทางท่องเที่ยวนครนายก-ปราจีนบุรี 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

รวมพิกัดชมดอกไม้ จังหวัดเชียงใหม่ 2020

ช่วงนี้เชื่อว่า หลายคนกำลังมองหาที่เที่ยวที่อากาศดี ๆ อยู่แน่นอน เชียงใหม่ก็น่าจะเป็นหนึ่งในจุดหมายของหลายคน ยิ่งช่วงนี้เป็นที่ดอกไม้กำลังเริ่มบานหลายไร่ วันนี้แอดเลยถือโอกาสรวมพิกัดชมดอกไม้ไว้ให้เพื่อน ๆ ใครสนใจไร่ไหน ก็วางแผนไปชมกันได้เลย . ไปเที่ยวที่ไหนอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย และพกเจลล้างมือติดตัวไปด้วยนะ . สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติม Call Center 1672 IG : 1672travelbuddy Twitter : tat1672 Line : @tatcontactcenter WeChat : VisitThailand อำเภอแม่ริม . 1. I love flower Farm มีทั้งดอกไม้หลายชนิด ทั้งดอกคัตเตอร์สีขาว ดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าสีม่วง และอื่น ๆ เปิดให้เข้าชมปีละครั้ง ที่ตั้ง : 33 หมู่ 4 ตำบลเหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เวลาเปิด : เปิดสวน 31 ตุลาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564 เวลา 08.00-17.00 น. พิกัด : https://www.facebook.com/I-Love-Flower-Farm-267775026710971 ค่าเข้าชม 90 บาท/คน (ต้องจองล่วงหน้า) โทร. 082 8972979, 088 266 7885 . 2. สวนลุงรน ทุ่งดอกคัตเตอร์สีขาว ดอกมากาเร็ตสีม่วง ดอกซีโลเซีย ที่ตั้ง : ซอย 1 หน้าเทศบาล ตำบลเหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้เข้าชม : เวลา 06.00-18.00 น. พิกัด : https://www.facebook.com/suanlungron ค่าเข้าชม 50 บาท/คน โทร. 087 189 8355 . 3. สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง มีดอกมากาเร็ต(สีม่วง ชมพู) ดอกคัตเตอร์(สีขาว) ดอกสร้อยทอง(สีเหลืองทอง) ที่ตั้ง : ซอย หน้าวัด 8/1 ตำบล เหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ เปิดให้เข้าชม : 6.00-18.30 น. พิกัด : https://www.facebook.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87-112558323834426/ ค่าเข้าชม 50 บาท/คน (เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เข้าขมฟรี) โทร. 083 581 1852 . 4. สวนดอกลุงจวนป้าใจ๋ ทุ่งดอกมากาเร็ต สีม่วง สีชมพู ทุ่งดอกคัตเตอร์สีขาว และทุ่งดอกสร้อยทองเหลือง ที่ตั้ง : ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (ห่างจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้เพียง 10 นาที ) เปิดให้เข้าชม : ช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป พิกัด : https://www.facebook.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81-%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A7%E0%B8%99-%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%8B-101825847963926/ ค่าเข้าชม 50 บาท/ คน โทร. 086 198 4651 . 5. สุรชัยฟาร์ม ทุ่งดอกมากาเร็ต สีสันสดใส มีสีแดง สีส้ม สีเหลือง สีม่วง สีขาว ที่ตั้ง : หนองเขียว ตำบล เหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00น. พิกัด : https://www.facebook.com/สุรชัยฟาร์ม-สวนเชียงใหม่-111729266952501 ค่าเข้าชม 50 บาท /คน โทร. 083 865 5087 . 6. Kuv Niam Forest ( กู๊เนียร์ ฟอร์เร็ชท ) สวนดอกมากาเร็ต 3 สี ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ขณะนี้ ที่ตั้ง : ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น พิกัด : https://www.facebook.com/kuvniam.forest ค่าเข้าชม 50 บาท/ คน Line: @kn.forest . 7. ไร่กลิ่นเกสร ทุ่งดอกมากาเร็ต สีม่วง สีชมพู ทุ่งดอกคัตเตอร์สีขาว ที่ตั้ง : ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้เข้าชม : ต้นเดือนตุลาคม 63 เวลา 07.00 – 18.00น พิกัด : https://www.facebook.com/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-103916284699874/ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 40บาท ,

รวมพิกัดชมดอกไม้ จังหวัดเชียงใหม่ 2020 อ่านเพิ่มเติม

1 วัน นั่งรถไฟไปเที่ยวฉะเชิงเทรา

1 วัน นั่งรถไฟไปเที่ยวฉะเชิงเทรา รถไฟถือเป็นการเดินทางท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ หลายคนชื่นชอบถึงขั้นหลงใหล แต่หลายคนอาจยอมแพ้ บอกว่านั่งรถไฟต้องใช้เวลานาน แต่ในอีกมุมหนึ่ง รถไฟทำให้เราได้เห็นทิวทัศน์สวยงามที่ต้องนั่งรถไฟเท่านั้นถึงจะได้เห็น ได้สัมผัสสายลมธรรมชาติ ได้นั่งกินข้าวเหนียวไก่ย่างที่พ่อค้าแม่ค้าเอาขึ้นมาขายบนรถไฟ . วันนี้แอดจะชวนเพื่อน ๆ นั่งรถไฟไปเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรากันค่ะ ไปพิสูจน์กันว่า นั่งรถไฟออกไปแป๊บเดียวก็ถึงที่เที่ยวสนุก ๆ แล้ว ไปดูกันค่ะว่า 1 วัน แอดจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง แอดเริ่มต้นการเดินทางที่สถานีรถไฟหัวลำโพง โดยนั่งรถไฟขบวน 283 รอบ 06.55 น. ไปถึงสถานีชุมทางฉะเชิงเทราตอน 08.50 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง  สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไป ตามนี้เลยค่ะ– วัดโสธรวราราม– ตลาดบ้านใหม่ 100 ปี– วัดสมานรัตนาราม– ร้านตั้งเซ่งจั้ว แต่ก่อนจะไปเที่ยว เรามาทำความรู้จักสถานีชุมทางฉะเชิงเทราสักนิดดีกว่า เดิมสถานีชุมทางฉะเชิงเทราเคยมีชื่อว่าสถานีแปดริ้ว เป็นสถานีในเส้นทางรถไฟสายตะวันออก จนต่อมาได้มีการย้ายสถานีมาตั้งอยู่บริเวณปัจจุบันและเปลี่ยนชื่อเป็นสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา.สถานีฉะเชิงเทราเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังเส้นทางอื่น ๆ ได้แก่ บ้านพลูตาหลวงและอรัญประเทศ ซึ่งมีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก และมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ไปยังสถานีชุมทางศรีราชาและสถานีชุมทางแก่งคอยอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นจุดหมายปลายทางของขบวนรถจักรไอน้ำที่วิ่งในโอกาสสำคัญของการรถไฟฯ เมื่อเดินออกจากชานชาลามาทางด้านหน้าสถานีรถไฟ จะพบกับรถจักรไอน้ำ เท็นวีลเลอร์ หมายเลข 182 ผลิตในประเทศอังกฤษ อายุกว่า 100 ปี โดยรถจักรไอน้ำคันนี้ ถูกนำมาใช้งานในปี พ.ศ. 2462 และปลดประจำการราวปี พ.ศ. 2510 ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำสถานีชุมทางฉะเชิงเทราเลยก็ว่าได้ ถึงเวลาไปเที่ยวกันแล้ว สำหรับทริปนี้เราจะใช้บริการรถสองแถวเป็นหลักค่ะ ที่แรกที่เราจะไปคือ วัดโสธรวรารามวรวิหาร จากสถานีรถไฟ ให้นั่งรถสองแถวสีเหลืองไปลงที่วัด ค่ารถ 8 บาท ถึงวัดแล้วค่ะ เข้าไปไหว้พระกันเลย !! วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งตามตำนานเล่าว่าหลวงพ่อโสธรได้แสดงปาฏิหาริย์ลอยน้ำมา จึงได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ที่วัดแห่งนี้ เชื่อกันว่าเมื่อได้มาสักการะบูชาหลวงพ่อโสธรแล้ว ก็จะพบแต่ความสุขและความเจริญในชีวิต นอกจากนี้ในหมู่ผู้ที่มีบุตรยากก็ยังนิยมมาขอลูกกันอีกด้วย และเมื่อสมดังใจอธิษฐานก็จะถวายละครชาตรี ไข่ต้ม ผลไม้ และพวงมาลัย.ที่ตั้ง : ถ.เทพคุณากร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทราเปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-16.30 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 07.00-17.00 น. พิกัด : https://goo.gl/maps/r7xVEABS5nEYNao68 จากวัดโสธรวรารามวรวิหาร เรานั่งรถสองแถวสีเหลืองกลับมาที่สถานีรถไฟ จากนั้นนั่งรถสองแถวสีขาวแถบเหลืองไปเที่ยวต่อกันที่ตลาดบ้านใหม่ร้อยปี ค่ารถ 8 บาทเหมือนกันค่ะ.ตลาดบ้านใหม่ร้อยปี เป็นชุมชนริมน้ำบางปะกงที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตึกรามบ้านช่องเป็นอาคารไม้เก่า ทำให้ได้บรรยากาศแบบย้อนยุคสุดๆ.ที่ตั้ง : ถ.ศุภกิจ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทราเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/kRM6siWPUn6gm9ih8 ภายในตลาดมีอาหารคาวหวานและของฝากขึ้นชื่อเรียงรายเต็มไปหมด แอดขอแนะนำ ร้านต่อชามก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ร้านจุกดีก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ร้านกาแฟโบราณแป๊ะเอ๊ย ร้านสามแม่ครัว ร้านอาหารตามสั่งที่ใช้เตาฟืนในการทำอาหาร ร้านสาวหวานบ้านใหม่ คาเฟ่น่ารัก ริมแม่น้ำบางปะกง ที่มีเมนูเด็ดเป็นขนมปังปิ้งไส้ทะลัก และในส่วนของขนมโบราณก็มีให้เลือกหลายชนิด เช่น ขนมกง ที่ไม่ค่อยเห็นที่ไหนแล้ว แอดเลือกไม่ถูกเลยว่าจะกินอะไรก่อนดี นอกจากนี้ยังมีร้านคาเฟ่เก๋ ๆ อีกหลายร้านให้นั่งชิล พร้อมชมบรรยากาศริมแม่น้ำบางปะกงด้วย เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของตลาดบ้านใหม่ร้อยปี คือชมรมรักษ์รำวงมาตรฐาน รำวงพื้นฐาน เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา.ชมรมรักษ์รำวงมาตรฐานก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2557 จากความคิดริเริ่มของนายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา และคนในชุมชนที่ต้องการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยเอาไว้ ปัจจุบันชมรมมีสมาชิกกว่า 200 คน จะทำการแสดงตามงานเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในจังหวัดฉะเชิงเทรา.เพื่อน ๆ สามารถไปชมการแสดงรำวง หรือร่วมรำวงกับสมาชิกของชมรมที่ตลาดบ้านใหม่ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ค่ะ หลังจากซื้อของและกินของอร่อยจนอิ่มแปล้แล้ว เราออกเดินทางสู่จุดหมายถัดไป นั่นก็คือ วัดสมานรัตนาราม ที่ตลาดบ้านใหม่ร้อยปีมีบริการเรืองหางยาวล่องไปที่วัดสมานรัตนาราม ค่าบริการไป-กลับ คนละ 100 บาท แต่น่าเสียดาย ตอนที่แอดไปเที่ยว น้ำในแม่น้ำขึ้นสูง ทำให้ไม่สามารถออกเรือได้ เราจึงต้องเปลี่ยนแผน ไปนั่งรถสองแถวแทน โดยนั่งรถสองแถวสีขาวแถบเหลืองกลับไปที่สถานีรถไฟ แล้วต่อสองแถวสีขาวแถบน้ำเงินไปที่วัดสมานรัตนารามอีกที ค่ารถ 30 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง มาถึงวัดนี้ ต้องสักการะพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้านหน้าพระพิฆเนศมีรูปปั้นหนูมุสิกะ ซึ่งเป็นบริวารของท่าน ตามความเชื่อ นักท่องเที่ยวสามารถขอพรกับหนูมุสิกะได้ โดยกระซิบขอพรที่หูของหนูแล้วหนูจะนำพรของเราไปบอกกับพระพิฆเนศ เพื่อให้ท่านทำให้พรของเราสมปรารถนา เคล็ดลับคือ เวลากระซิบขอพรให้ปิดหูหนูอีกข้าง พรที่เราขอจะได้ไม่เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวานั่นเอง นอกจากนี้ภายในวัดยังเป็นศูนย์รวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย เช่น หลวงพ่อโต หลวงพ่อองค์ดำ พระโพธิ์สัตว์กวนอิม พระราหู. ที่ตั้ง : ต.ก้อนแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. พิกัด : https://goo.gl/maps/oktnYYnG7zCyaGB68 ถ้ายังซื้อของฝากไม่หนำใจ ก่อนกลับสามารถแวะซื้อของฝากได้อีกที่ร้าน “ตั้งเซ่งจั้ว” ที่อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟร้านนี้เป็นร้านขนมเปี๊ยะเจ้าเก่าแก่จากอำเภอบางคล้า เปิดมานานกว่า 88 ปี ที่ร้านมีขนมให้เลือกหลายอย่าง เช่น ขนมเปี๊ยะสูตรดั้งเดิม ขนมเปี๊ยะฮกเกี้ยน ขนมเปี๊ยะนมสด ขนมโมจิ ขนมบัวหิมะ ขนมไหว้พระจันทร์และขนมโก๋อ่อน แอดลองชิมขนมเปี๊ยะและขนมโมจิแล้ว แป้งนุ่มละมุนลิ้น หอมไส้ถั่วและไข่เค็ม อร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ ค่ะ.ร้านตั้งเซ่งจั้ว (สาขาเยื้องสถานีรถไฟชุมทางฉะเชิงเทรา) ที่ตั้ง : ถ.มหาจักรพรรดิ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เปิดทุกวัน

1 วัน นั่งรถไฟไปเที่ยวฉะเชิงเทรา อ่านเพิ่มเติม

2 วัน 1 คืน เที่ยวสุขใจที่สุโขทัย

2 วัน 1 คืน เที่ยวสุขใจที่สุโขทัย.จังหวัดสุโขทัย จังหวัดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี คำว่า “สุโขทัย” แปลว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข ดังนั้นทริป 2 วัน 1 คืน ของเราในครั้งนี้ ต้องแฮปปี้อย่างแน่นอน.ทริปนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวสุโขทัยแบบผสมผสานหลากหลายสไตล์ ไปชมกันทั้งป็อบคัลเจอร์สตรีทอาร์ทกลางเมืองสวรรคโลก ต่อด้วยความยิ่งใหญ่งดงามของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่ได้รับการยกให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO และแน่นอนว่า ถ้าไปสุโขทัยในช่วงนี้ ห้ามพลาดงานเผาเทียน เล่นไฟ เทศกาลลอยกระทงที่มีชื่อเสียงระดับโลกของสุโขทัยเป็นอันขาด.พร้อมแล้ว ตามแอดมาเลยค่ะ  วันที่ 1อำเภอสวรรคโลก– Street Art สวรรคโลก– โรงพักเรือนทรงปั้นหยา– จงกลคาเฟ่ อำเภอเมือง– อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วันที่ 2– วัดศรีชุม– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง– ชุมชนเครื่องปั้นสังคโลก– ร้านไม้กลางกรุง เริ่มต้นทริปกันที่อำเภอสวรรคโลก อำเภอเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของจังหวัดสุโขทัย จุดแรกที่แอดจะพาไปคือ สตรีทอาร์ทสวรรคโลก.ศิลปะสตรีทอาร์ทนี้อยู่บนถนนพิศาลสุนทรกิจ ย่านการค้าเก่าแก่กลางเมืองสวรรคโลก สร้างสรรค์โดยศิลปินแนวสตรีทอาร์ทชื่อดังชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย และกัมพูชา บอกเล่าวิถีชีวิต ศิลปะ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัยและสวรรคโลก ภาพวาดมีทั้งหมด 6 จุด แทรกตัวไปกับอาคารบ้านเก่าบนถนนพิศาลสุนทรกิจได้อย่างมีเสน่ห์ ที่นี่ถือเป็นจุดเช็คอินและจุดถ่ายรูปสุดชิคที่ห้ามพลาดเลยก็ว่าได้ ที่ตั้ง : ถ.พิศาลสุนทรกิจ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัยพิกัด : https://goo.gl/maps/auWCAze211jcXAaV9 โรงพักเรือนทรงปั้นหยา.เลยจากถนนพิศาลสุนทรกิจเล็กน้อย จะพบกับโรงพักสวรรคโลก เป็นโรงพักเก่าสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 อายุกว่า 80 ปี ปัจจุบันบูรณะไว้เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ โรงพักแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2482 ซึ่งเป็นปีที่จังหวัดสวรรคโลกเปลี่ยนชื่อเป็นจังหวัดสุโขทัยอีกด้วย ลักษณะอาคารเป็นเรือนทรงปั้นหยา ด้านในอาคารเป็นโถงโล่ง จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของโรงพัก รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีต เช่น เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องแบบตำรวจ ฯลฯ.ด้วยความสวยงามสมบูรณ์ของอาคาร ทำให้โรงพักเรือนทรงปั้นหยาแห่งนี้ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปกรรมสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2559 ประเภท อาคารสถาบันและอาคารสาธารณะ จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์.ที่ตั้ง : ถ.หน้าเมือง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัยพิกัด : https://goo.gl/maps/Cx8rJm9SqrysDCNh7 เดินเที่ยวมาเหนื่อย ๆ ไปแวะนั่งพัก จิบกาแฟและหาอะไรหวาน ๆ กินที่ร้านจงกล คาเฟ่ ร้านกาแฟสุดชิคที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินสุโขทัย บรรยากาศสบายสไตล์มินิมอล ร้านประดับประดาด้วยต้นไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกร่มรื่นสบายตา ที่นี่มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย ที่สำคัญเค้กอร่อยมาก ถ้าใครไม่รู้จะสั่งอะไร แอดขอแนะนำ เค้กหน้าไหม้และเครปเค้กสตรอว์เบอร์รี.ที่ตั้ง : 107/4 ต.บ้านคลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น.โทร. 064 220 1017พิกัด : https://goo.gl/maps/zueobSZsbhTN6iue9  จากสวรรคโลก เดินทางประมาณ 45 นาที เราก็จะมาถึงอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่เต็มไปด้วยร่องรอยอดีตและความงดงามของโบราณสถานแห่งสุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์สมัยเริ่มสร้างอาณาจักรของไทยที่ยังหลงเหลืออยู่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อ ปี พ.ศ. 2534.ที่ตั้ง : ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัยเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/gXY72BkyneK2 โบราณสถานสำคัญที่อยู่ในอุทยานฯ ชั้นในมีอยู่หลายแห่ง แต่แอดจะพาไปชมจุดหลัก ๆ ที่ต้องห้ามพลาดกันค่ะ.วัดมหาธาตุ สร้างขึ้นสมัยสุโขทัยตอนต้น ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองสุโขทัย จุดเด่นอยู่ที่เจดีย์มหาธาตุทรงดอกบัวตูม ซึ่งเป็นเจดีย์ประธานของวัด รายรอบด้วยเจดีย์ 8 องค์ ใกล้กับเจดีย์ประธานมีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในโบสถ์วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ ด้านเหนือและด้านใต้ของเจดีย์มหาธาตุ มีพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่อยู่ภายในซุ้ม เรียกว่า “พระอัฎฐารส” วัดสระศรี เป็นโบราณสถานสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า ตระพังตระกวน สิ่งที่น่าชมในวัดนี้คือ เจดีย์ประธานทรงลังกา ด้านหน้าเจดีย์มีวิหารขนาดใหญ่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ทางทิศใต้ของเจดีย์ประธาน มีเจดีย์ศิลปะศรีวิชัยผสมลังกาขนาดเล็ก มีซุ้มพระพุทธรูป 4 ทิศ ส่วนด้านหน้าของวิหารเป็นเกาะกลางน้ำขนาดย่อมซึ่งเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถขนาดเล็ก ถือว่าเป็นวัดที่มีจุดชมทัศนียภาพสวยงามมากแห่งหนึ่ง ถ้าใครไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยช่วงนี้ อย่าลืมเตรียมตัวแต่งชุดไทยไปลอยกระทงกันที่งานประเพณี “ลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ” กันนะคะ ปีนี้งานจัดตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น ตลาดย้อนยุค กิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ การแสดงมวยคาดเชือก การแสดงพลุ การประกวดนางนพมาศ และการแสดงแสง สี เสียง สุดอลังการในวันที่ 27 ตุลาคม – 31 ตุลาคม ถ้าใครไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยช่วงนี้ อย่าลืมเตรียมตัวแต่งชุดไทยไปลอยกระทงกันที่งานประเพณี “ลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ” กันนะคะ ปีนี้งานจัดตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น ตลาดย้อนยุค กิจกรรมข้าวขวัญวันเล่นไฟ การแสดงมวยคาดเชือก การแสดงพลุ การประกวดนางนพมาศ และการแสดงแสง สี เสียง สุดอลังการในวันที่ 27 ตุลาคม – 31 ตุลาคม ภายในมณฑป ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่งดงาม ศิลปะสุโขทัย นามว่า “พระอจนะ” ด้วยความที่พระอจนะเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในมณฑปขนาดเล็ก ทำให้การถ่ายภาพที่นี่ถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งว่าจะถ่ายภาพอย่างไรให้สวย.คำว่า “อจนะ” มาจากคำในภาษาบาลีว่า “อจละ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ไม่หวั่นไหว มั่นคง” หรือ “ผู้ที่ควรแก่การเคารพกราบไหว้”.พระอจนะ คือที่มาของตำนานพระพูดได้แห่งเมืองพระร่วง สาเหตุที่เชื่อว่าพระอจนะพูดได้นั้น

2 วัน 1 คืน เที่ยวสุขใจที่สุโขทัย อ่านเพิ่มเติม

หลายหลากชาติพันธุ์แห่งเมืองสามหมอก

เวลาไปเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะมากจะน้อยเราเป็นต้องได้เห็นเหล่าชนเผ่าที่มีเครื่องแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่า ในแม่ฮ่องสอนมีกลุ่มชาติพันธุ์อยู่ถึง 12 กลุ่มด้วยกัน คือ ไทใหญ่ ปกาเกอะญอ ลาหู่แชแล ลาหู่แดง เลอเวือะ ม้ง ลูซู จีนยูนนาน โปว์ กะยัน (กระเหรี่ยงคอยาว) กะยา และปะโอ.แน่นอนว่ากลุ่มชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มมีเอกลักษณ์และแตกต่าง ถ้าไม่ศึกษาคงไม่รู้ วันนี้แอดมีเกร็ดความรู้เบื้องต้นในการทำความรู้จักกับกลุ่มชาติพันธุ์ 5 กลุ่มที่เพื่อน ๆ น่าจะพอคุ้นหูมาฝากค่ะ. 1. ชาวไทใหญ่ อาศัยอยู่ในแม่ฮ่องสอนมานานกว่า 150 ปี เราพบชาวไทใหญ่ได้ในทุกอำเภอ ยกเว้นอำเภอสบเมย จุดเด่น– ประเพณีปอยส่างลอง ปอยเหลินสิบเอ็ด บูชาจองพารา– ชาวไทใหญ่มักใส่กุ๊บไต หรือหมวกสาน– อาหารไทใหญ่แสนอร่อย เช่น น้ำพริกถั่วเน่า ข้าวส้ม ข้าวกั๊นจั๊น แกงอุ๊บ ขนมส่วยทะมิน เป็นต้น. 2. ชาวปกาเกอะญอ เป็นชนกลุ่มหนึ่งในตระกูลกะเหรี่ยง เป็นกลุ่มที่มีประชากรมากที่สุด อาศัยกระจายตัวอยู่ในทุกอำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน  จุดเด่น– ผ้าทอกะเหรี่ยง เป็นงานฝีมือที่มีชื่อเสียงของชาวปกาเกอะญอ.  3. ชาวม้ง แต่เดิมอาศัยอยู่ในประเทศจีน ต่อมาอพยพมาอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย รวมถึงแม่ฮ่องสอน เราพบชาวม้งได้ที่บ้านห้วยมะเขือส้ม อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน  จุดเด่น– ผ้าปักชาวม้งที่มีลวดลายสวยงามและประดับประดาด้วยเครื่องเงิน– การละเล่นโยนลูกช่วงหรือ “จุเป๊าะ” ของหนุ่มสาวในช่วงงานปีใหม่ม้ง เป็นการละเล่นเพื่อความสนุกสนาน เพื่อมิตรภาพ และยังเป็นการหาคู่ของหนุ่มสาวอีกด้วย. 4. ชาวจีนยูนนาน โดยทั่วไปเราจะนึกถึงชาวจีนที่มาจากมณฑลยูนนานของประเทศจีน แต่ชาวจีนยูนนานในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นชาวจีนยูนนานที่สืบเชื้อสายมาจากครอบครัวของอดีต “กองกำลังทหารจีนคณะชาติ” ซึ่งเคยเข้ามาตั้งฐานที่มั่นอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย จุดเด่น– ชาจีน และอาหารจีนยูนนาน เช่น ขาหมูยูนนาน ทานคู่กับหมั่นโถวร้อนๆ ผัดยอดลันเตา หมูพันปี และลาบยูนนาน เป็นต้น ใครอยากรู้ว่าอาหารจีนยูนนานจะอร่อยแค่ไหน ต้องไปเที่ยวที่หมู่บ้านสันติชล อำเภอปาย. 5. ลาหู่แชแล หรือลาหู่ดำ เป็นชนกลุ่มหนึ่งในตระกูลลาหู่ เราจะพบชาวลาหู่แชแลได้ที่บ้านจ่าโบ่ บ้านบ่อไคร้ และบ้านลุกข้าวหลาม ในอำเภอปางมะผ้า จุดเด่น– การเต้นจะคึ ชาวลาหู่แชแลนับถือจิตวิญญาณและผีบรรพบุรุษ มีประเพณีทำบุญ ไหว้ผีบรรพบุรุษ และประเพณีปีใหม่ลาหู่ ซึ่งในพิธีต่างๆ จะมีการเต้นจะคึ เพื่อสร้างขวัญกำลัง– เครื่องดนตรี “แคนน้ำเต้า” ชาวลาหู่เชื่อว่าตัวเองถือกำเนิดมาจากน้ำเต้า เครื่องดนตรีอย่างแคนจึงมีน้ำเต้าเป็นองค์ประกอบหลัก.แอดหวังว่าเพื่อนๆ จะรู้จักกลุ่มชาติพันธุ์มากขึ้น และถ้ามีโอกาสไปเที่ยวจังหวัด #แม่ฮ่องสอน ลองไปเที่ยวชุมชน เรียนรู้วิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ดูนะคะ จะได้เที่ยวแม่ฮ่องสอนได้อย่างสนุกและมีความรู้มากยิ่งขึ้นค่ะ

หลายหลากชาติพันธุ์แห่งเมืองสามหมอก อ่านเพิ่มเติม

ตักบาตรรับอรุณที่วัดตระพังทอง จังหวัดสุโขทัย

วัดตระพังทอง ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย คำว่า ตระพัง มีรากศัพท์มาจากภาษาเขมรว่า “ตรฺพำง” (อ่านว่า ตรอ-เปียง) แปลว่า บ่อหรือสระน้ำที่ขุดขึ้น และเป็นที่มาของชื่อวัดแห่งนี้ คติการสร้างวัดบนเกาะกลางน้ำ เชื่อว่าได้รับอิทธิพลมาจากการเผยแผ่พุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ซึ่งแพร่หลายในสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด.เจดีย์ประธาน.เป็นเจดีย์ทรงลังกาหรือทรงระฆัง มีลักษณะเฉพาะหรือที่เรียกว่าเจดีย์ทรงระฆังสมัยสุโขทัย สังเกตได้จาก ฐานบัวคว่ำ-บัวหงายที่ไม่สูงมาก มีบัวถลา 3 ฐานรองรับองค์ระฆัง และมีบัลลังก์อยู่ในผังสี่เหลี่ยม ไม่มีก้านฉัตรรองรับปล้องไฉน ซึ่งเจดีย์ลักษณะนี้เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมและพบได้มากในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย.ในปี พ.ศ. 2444 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้เสด็จเยือนวัดแห่งนี้ และในปี พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร) ได้เสด็จ ฯ เยือนเมืองสุโขทัย พบซากปรักหักพังของเจดีย์รายจำนวน 8 องค์ แต่ในปัจจุบันไม่พบร่องรอยของเจดีย์รายเหล่านั้นแล้ว พระอุโบสถ.ตั้งอยู่ด้านหลังของเจดีย์ประธาน ซึ่งพระอุโบสถหลังนี้สร้างบนฐานพระอุโบสถหลังเก่าสมัยสุโขทัย สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาและเงินบริจาคของชาวบ้าน ภายใต้การนำของ พระยารณไชยชาญยุทธ (ครุธ หงสนันทน์) อดีตจางวางกำกับราชการเมืองสุโขทัยในสมัยนั้น.ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาวปางมารวิชัย นามว่า หลวงพ่อขาว เป็นพระประธานภายในพระอุโบสถ รอยพระพุทธบาทเบื้องขวา.ประดิษฐานอยู่ภายในมณฑปจัตุรมุขด้านหน้าเจดีย์ประธาน ซึ่งรอยพระพุทธบาทนั้น สร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท ราวปี พ.ศ. 1902 จำหลักหินสีเทาดำเป็นลายมงคลหนึ่งร้อยแปด โดยจำลองแบบจากศรีลังกา.เดิมประดิษฐานอยู่ ณ ภูเขาทางทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย เรียกว่า เขาสุมนกูฎ ชื่อเดียวกับภูเขาที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทในลังกาทวีป ปัจจุบันเรียกเขาลูกนี้ว่า เขาพระบาทใหญ่ ต่อมาได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดตระพังทองแห่งนี้ อนุสรณ์ตำนานพระร่วง ขอมดำดิน.พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จ ฯ เยือนเมืองสุโขทัย และทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง “เที่ยวเมืองพระร่วง” ความตอนหนึ่งได้กล่าวถึงตำนานพระร่วงไว้ว่า.“…วัดมหาธาตุนี้ราษฎรนับถือกันว่าเป็นที่สำคัญนัก เพราะกล่าวว่าเป็นที่พระร่วง (นายส่วยน้ำ) ได้มาทรงผนวชอยู่ ยังมีสิ่งที่ชี้เป็นพยานกันอยู่ คือขอมดำดิน ซึ่งตามนิทานว่าดำดินมาแต่นครธม มาโผล่ขึ้นในลานวัดกลางเมืองสุโขทัยเพียงแค่อก เห็นพระร่วงซึ่งผนวชเป็นภิกษุกวาดลานวัดอยู่ ขอมไม่รู้จักจึงถามหาพระร่วง พระร่วงก็บอกว่าให้ขอมคอยอยู่ก่อน จะไปตามพระร่วงมาให้ กายขุนขอมก็เลยกลายเป็นศิลาติดอยู่ที่ลานวัดนั้นเอง…” (ที่มา : Facebook มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ ร.6 ).ในอดีต พบก้อนศิลาแลง ที่เชื่อกันว่าเป็นร่างของขอมซึ่งถูกพระร่วงสาปบริเวณวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์และช่วยรักษาโรค จึงมักจะต่อยออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อนำไปทำยา ทำให้หินมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ.ปัจจุบัน ศิลาแลงก้อนดังกล่าวถูกนำมาเก็บรักษาและจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง จังหวัดสุโขทัย  นอกจากนั้น ช่วงเช้าของทุกวันยังมี “กิจกรรมตักบาตรวิถีไทย รับรุ่งอรุณแห่งความสุข” ที่วัดตระพังทองแห่งนี้ สถานที่จัดก็คือสะพานไม้หน้าวัดนั่นเอง.สามารถทำบุญได้ทุกวัน แอดแนะนำให้ไปถึงบริเวณสะพานประมาณ 06.00 น.  หากใครไม่ได้เตรียมของสำหรับใส่บาตรมา ฝั่งตรงข้ามวัดมีตลาดสด สามารถเลือกซื้ออาหารมาทำบุญตักบาตรก็ได้เหมือนกัน .วัดตระพังทองที่ตั้ง ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 085 052 3797

ตักบาตรรับอรุณที่วัดตระพังทอง จังหวัดสุโขทัย อ่านเพิ่มเติม

แม่ฮ่องสอน ชื่อนี้มีที่มา

หลายคนคงจะเคยสงสัยกับชื่อจังหวัดว่า “แม่ฮ่องสอน” แต่ละคำมีความหมายว่าอะไร แม่สอนอะไร? ฮ่องคืออะไร? วันนี้แอดเลยจะมาไขข้อสงสัยให้เพื่อน ๆ ได้รู้กัน.ตำนานเมืองแม่ฮ่องสอนกล่าวไว้ว่า ในปี พ.ศ. 2374 สมัยเจ้าหลวงพุทธวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ในขณะนั้น ทราบมาว่าทางด้านตะวันตกของเมือง มีภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง ป่าทึบ และมีช้างป่าชุกชุม จึงให้เจ้าแก้วเมืองมา นำไพร่พลช้างต่อ และควาญช้าง ออกไปจับช้างป่ามาใช้งาน เส้นทางก็คือไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเชียงใหม่ ลัดเลาะตามลำห้วยผ่านหมู่บ้านเวียงปาย หรืออำเภอปายในปัจจุบัน จากนั้นเดินทางลงมาทางทิศใต้ตามแม่น้ำปาย จนถึงบริเวณเมืองแม่ฮ่องสอนปัจจุบัน ซึ่งในขณะนั้นมีชุมชนเล็ก ๆ อาศัยอยู่ เจ้าแก้วเมืองมาเห็นว่าบริเวณตรงนี้มีทำเลดี เป็นที่ราบ มีร่องลำธาร เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนและฝึกสอนช้าง.หลังจากที่คล้องช้างและฝึกสอนจนสามารถใช้งานได้ เจ้าแก้วเมืองมาจึงเดินทางกลับยังเมืองเชียงใหม่ และเรียกหมู่บ้านแห่งนี้ว่า “บ้านแม่ฮ่องสอน” อันหมายถึง ร่องน้ำสำหรับฝึกช้าง หรือร่องสอนช้าง นั่นเอง.แม่ฮ่องสอน เต็มไปด้วยขุนเขาสลับซับซ้อนสุดสายตา และปกคลุมด้วยม่านหมอกตลอดปี จนได้ฉายาว่า “เมืองสามหมอก” เพราะไม่ว่าจะไปเที่ยวฤดูไหนก็จะได้เห็นหมอกที่เมืองแม่ฮ่องสอนเสมอ

แม่ฮ่องสอน ชื่อนี้มีที่มา อ่านเพิ่มเติม

ถนนเยาวราช ชื่อนี้มีที่มา

ถนนเยาวราช สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยเห็นว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งค้าขายสำคัญของชาวจีนกับต่างชาติ จึงสนับสนุนให้สร้างถนนเพื่อรองรับการค้าและความเจริญที่จะเกิดขึ้น ครั้งแรกใช้ชื่อว่า ถนนยุพราช แต่ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่เป็น “ถนนเยาวราช”.ถนนเยาวราชใช้เวลาสร้างนานถึง 8 ปี ทั้งที่มีความยาวเพียง 1.5 กิโลเมตร เนื่องจากแนวถนนนั้นผ่านชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้การตัดถนนเป็นเรื่องยากและมีอุปสรรคมากมาย.อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์มิให้ตัดถนนถูกที่ดินของชาวบ้าน โดยให้ใช้แนวเดิมที่เป็นทางเกวียนหรือแนวทางเดินมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ส่งผลให้ถนนเส้นนี้คดเคี้ยวคล้ายมังกร จนได้สมญานามว่า “ถนนมังกร” โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เปรียบเสมือนหัวมังกร บริเวณตลาดเก่าเยาวราชเป็นท้องมังกร ไปจนถึงสุดถนนบรรจบกับถนนจักรเพชรคือหางมังกร.ปัจจุบัน ถนนเยาวราช หรือ ไชน่าทาวน์เมืองไทย ถือเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญที่คึกคักทั้งกลางวันกลางคืน เต็มไปร้านค้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นจีน ร้านทอง ธนาคาร วัดวาอาราม แหล่งท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง รวมทั้งสตรีทฟู้ดและร้านอาหารเลิศรสที่ดึงดูดผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาท่องเที่ยวไม่ขาดสาย

ถนนเยาวราช ชื่อนี้มีที่มา อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวนครราชสีมา 2 วัน 1 คืน

เส้นทางท่องเที่ยวนครราชสีมา 2 วัน 1 คืน . จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่นี่เป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวของใครหลาย ๆ คน เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย . ทริปนี้แอดจะพาเที่ยวเมืองโคราชแบบรวบรัด 2 วัน 1 คืน ถึงจะเป็นทริปสั้น ๆ แต่รับรองว่าเพื่อน ๆ จะต้องอิ่มอกอิ่มใจแน่นอน . ไปเที่ยวที่ไหนอย่าลืมสวมหน้ากากอนามัย และพกเจลล้างมือติดตัวไปด้วยนะ . สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติม Call Center 1672 IG : 1672travelbuddy Twitter : tat1672 Line : @tatcontactcenter WeChat : VisitThailand …………………………………………………………………………………………………… วันที่ 1– อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี– วัดศาลาลอย– จุดชมวิวกังหันลม โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา– วัดป่าภูหายหลง วันที่ 2– สวนกุหลาบกลางพนา– อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ………………………………………………………………………………………………….. วันที่ 1 อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวีรกรรมอันกล้าหาญของ “ย่าโม” อนุสาวรีย์ตั้งอยู่บนฐานสูง เหนือขึ้นไปเป็นประติมากรรมย่าโมในท่ายืน แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทาน มือขวาถือดาบ ปลายจรดลงพื้น หล่อด้วยทองแดงรมดำ หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร ท้าวสุรนารีมีนามเดิมว่า คุณหญิงโม เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา เมื่อ พ.ศ. 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช และกวาดต้อนผู้คนรวมถึงคุณหญิงโมไปด้วย คุณหญิงโมได้คิดอุบายหาทางช่วยเหลือชาวบ้านโดยถ่วงเวลารอให้กำลังมาสมทบ จากนั้นจึงได้ช่วยกันต่อสู้จนกองทัพแตกพ่ายและเลิกทัพกลับเวียงจันทน์ในที่สุด พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็น “ท้าวสุรนารี” …………………………………….. ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีเป็นที่ตั้งของประตูชุมพล ซึ่งเป็นประตูเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อป้องกันการรุกรานของข้าศึก มีลักษณะเป็นประตูทรงไทย ศิลปะอยุธยา หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา เดิมประตูเมืองมีทั้งหมด 4 ประตู แต่ปัจจุบันเหลือประตูชุมพลเพียงแห่งเดียวที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ ชาวโคราชเชื่อว่า หากลอดประตูชุมพล 1 ครั้ง จะได้กลับมาโคราชอีก ถ้าลอด 2 ครั้งจะได้ทำงานหรืออาศัยอยู่ที่โคราช แต่ถ้าลอดถึง 3 ครั้งจะได้แฟนเป็นคนโคราช.อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีที่ตั้ง : ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมาพิกัด : https://goo.gl/maps/K73AC538o2ow4eH19 …………………………………….. วัดศาลาลอย วัดแห่งนี้สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2370 โดยท้าวสุรนารีและพระยาสุริยเดช ปลัดเมืองนครราชสีมา สามีของท่าน ชื่อวัดศาลาลอยนั้นมีที่มา… หลังจากรบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ที่ทุ่งสัมฤทธิ์แล้ว ท้าวสุรนารีก็ยกทัพกลับเมืองนครราชสีมา ระหว่างที่แวะพักบริเวณท่าตะโก ท่านได้สั่งให้ทหารทำแพเป็นรูปศาลาลอยไปตามลำตะคอง เพื่อเสี่ยงทาย โดยตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าแพรูปศาลานี้ลอยไปติดที่ไหน ก็จะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ที่นั่น ปรากฎว่าแพลอยไปติด ณ ริมฝั่งขวาของลำตะคอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดศาลาลอยในปัจจุบัน …………………………………….. ภายในวัดมีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น อุโบสถหลังเก่า อุโบสถหลังใหม่ และเจดีย์บรรจุอัฐิของย่าโม.อุโบสถหลังเก่า เป็นอุโบสถขนาดเล็ก ไม่มีการเจาะช่องหน้าต่าง และมีประตูเข้า-ออกทางด้านหน้าเพียงด้านเดียว หรือที่เรียกว่า ‘โบสถ์มหาอุด’ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะล้านช้าง ที่ท้าวสุรนารีได้สร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการรบชนะเจ้าอนุวงศ์ …………………………………….. อุโบสถหลังใหม่สร้างใน พ.ศ. 2510 ผลงานการออกแบบของ รศ. ดร.วิโรฒ ศรีสุโร เป็นศิลปะไทยประยุกต์ ที่ออกแบบเป็นรูปสำเภา และใช้กระเบื้องดินเผา ของดีจากตำบลด่านเกวียนมาประดับตกแต่ง อุโบสถหลังนี้ได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และรางวัลจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศและนาคะประทีป ในปี พ.ศ. 2516 …………………………………….. ภายในประดิษฐานพระประธานนามว่า “พระพุทธประพัฒน์สุนทรธรรมพิศาล ศาลาลอยพิมาลวรสันติสุขมุนินทร์” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาวปางห้ามสมุทร …………………………………….. บริเวณหน้าอุโบสถหลังเก่ามีเจดีย์บรรจุอัฐิของย่าโม และอนุสาวรีย์ย่าโมที่จำลองมาจากของจริงที่บริเวณลานย่าโมด้วย.วัดศาลาลอยที่ตั้ง : ซอยท้าวสุระ 3 ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมาพิกัด : https://goo.gl/maps/8ovrHAT8AFYPxnrD6 …………………………………….. จุดชมวิวกังหันลม โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา อ่างพักน้ำตอนบน โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ตั้งอยู่บนเขายายเที่ยง เป็นโรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย …………………………………….. ไฮไลท์ของที่นี่คือ การปั่นจักรยานไปตามถนนรอบ อ่างพักน้ำเพื่อชมวิวเขื่อนลำตะคองและกังหันลมยักษ์ โดยสามารถเช่าจักรยานได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ราคาชั่วโมงละ 40 บาท …………………………………….. ถ้าใครไม่ปั่นจักรยาน ก็สามารถเดินชมวิวไปเรื่อยๆ ได้ แอดแนะนำให้มาเที่ยวช่วงเช้าหรือบ่ายแก่ๆ เพราะแดดจะไม่ร้อนมากเท่าไหร่ …………………………………….. นอกจากนี้ บริเวณอ่างเก็บน้ำยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิริสัตตราช หรือหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ พระพุทธรูปนาคปรกปางสมาธิ ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าสามารถบันดาลให้ฝนตกตามฤดูกาลได้.ที่ตั้ง : ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมาเปิดทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/EcXiDwNUbYPCpFZz8โทร. 084 829 2365, 093 121 0208 …………………………………….. จากจุดชมวิวกังหันลม เราเดินทางต่อไปยังอำเภอปากช่อง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง.ที่สุดท้ายของวันแรก เราจะไปเที่ยวกันที่ วัดป่าภูหายหลง วัดป่าภูหายหลงตั้งอยู่บนภูเขาสูงท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ ด้านบนยอดเขาเป็นที่ตั้งของอุโบสถ และเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมวิวอำเภอปากช่องได้แบบ 360 องศา …………………………………….. ทิวทัศน์จากด้านบนเขา ชื่อวัดป่าภูหายหลง เป็นชื่อที่พระอาจารย์ประพันธ์ อนาวิโล อดีตเจ้าอาวาสเป็นผู้ตั้งขึ้น ซึ่งมีความหมายว่า ดินแดนแห่งความหลุดพ้นจากความหลงทั้งปวง.ที่ตั้ง : หมู่ 11 บ้านซับสำราญ ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาเปิดทุกวัน เวลา 05.30-17.00 น.พิกัด

เส้นทางท่องเที่ยวนครราชสีมา 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top