สถานที่ท่องเที่ยว

“สวนป่าดอยบ่อหลวง” จ.เชียงใหม่

บ้านพักของสวนป่าดอยบ่อหลวงนั้นเป็นบ้านไม้ที่ออกแบบให้กลมกลื่นกับธรรมชาติโดยรอบ ซึ่งบรรยากาศก็แอบคล้ายกับในหนังเรื่องแวมไพร์ ทไวไลท์เหมือนกันนะเนี่ย บ้านพักของที่นี่มีหลายแบบให้เลือก ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป – บ้านปูนเปลือย ราคา 2,000 บาท (พักได้ 4 คน)– บ้านเอเฟรม ราคา 1,500 บาท (พักได้ 4 คน)– บ้านทิวสน ราคา 1,000 บาท (พักได้ 2 คน)– บ้านแฝด ราคา 800 บาท (พักได้ 2 คน)– ตึกป่าสน (Hotel) ราคาห้องละ 500 บาท (พักได้ 2 คน) นอกจากบ้านพักแล้ว ที่นี่ยังมีลานกางเต็นท์ด้วยนะคะ แต่จะอยู่ห่างจากบริเวณบ้านพักออกไปสักหน่อย.ซึ่งเราต้องนำเต็นท์และอุปกรณ์ต่างๆ มาเอง เสียค่าบำรุงสถานที่คนละ 100 บาท โดยทางสวนป่าดอยบ่อหลวงมีห้องน้ำรวมไว้ให้บริการค่ะ และต้องบอกเลยว่าที่นี่เค้าไม่มีร้านค้าหรือร้านอาหารนะคะ แต่มีชุดอาหารเหนือเซตละ 450 บาท และหมูกระทะชุดละ 249 บาท สามารถสั่งมาปิ้งกินที่หน้าบ้านได้เลย.ส่วนอาหารเช้านั้นจะเป็นบุพเฟต์ มีข้าวต้ม กาแฟ และขนมปังปิ้ง ซึ่งต้องจองตั้งแต่ตอนเช็คอิน ราคาคนละ 100 บาทค่ะ หากใครที่ไม่ได้เช่ารถหรือขับรถมาเอง ก็สามารถขึ้นรถตู้ของบริษัทเปรมประชา สายเชียงใหม่-แม่สะเรียง ได้ที่สถานีขนส่งอาเขต ค่ารถคนละ 200 บาทค่ะ.โดยบอกคนขับว่าลงที่สวนป่าดอยบ่อหลวง ซึ่งรถจะจอดส่งที่หน้าโครงการ จากนั้นเดินเข้ามาอีกประมาณ 100 เมตร ก็ถึง.ปล.แนะนำว่าให้ซื้อตั๋วขากลับและนัดเวลากับคนขับรถไว้ให้เรียบร้อยเลย เพื่อความสะดวกค่ะ . สวนป่าดอยบ่อหลวง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่โทร. 092 586 9215 นอกจากจะมาพักผ่อนแล้ว หากใครอยากเที่ยวด้วย ที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงให้แวะไปเที่ยวด้วยนะคะ.อย่างเช่น “สวนสนบ่อแก้ว” ที่เปรียบเสมือนสวนสาธารณะแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่ร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน เดินเล่น และถ่ายรูปเก๋ๆ เป็นอย่างยิ่ง.สวนสนบ่อแก้ว ตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ “อุทยานแห่งชาติออบหลวง” สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีไฮไลท์อยู่ที่การมาชม “ออบหลวง” ซึ่งหมายถึง ช่องแคบขนาดใหญ่ที่มีลำน้ำไหลผ่านนั่นเองค่ะ แอดบอกเลยว่านี่เป็นความงดงามของธรรมชาติที่หาชมได้ยากมากๆ เลย.อุทยานแห่งชาติออบหลวง ตำบลหางดง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 19 ธันวาคม 2562

“สวนป่าดอยบ่อหลวง” จ.เชียงใหม่ อ่านเพิ่มเติม

วัดพุทธบาทสุทธาวาส จังหวัดลำปาง

“วัดพุทธบาทสุทธาวาส” หรือชื่อเดิมคือ “วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง” และ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง บนยอดเขามีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าจารึกไว้บนแผ่นหินขนาดใหญ่ เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านแถบนี้มาอย่างยาวนาน ภายในวัดแบ่งพื้นออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ด้านล่าง เป็นที่พักของสงฆ์ มีศาลาสวดมนต์ อุโบสถ เจดีย์องค์ใหญ่ที่ภายในประดิษฐานมีพระประธาน 4 ทิศ ศาลาชมวิว และเรือนพักรับรอง เป็นต้น ด้านบน มีเจดีย์เล็กๆ สีขาว หลายองค์ตั้งเรียงรายอยู่บนยอดเขา และยังมีเจดีย์สีทองเก่าแก่ด้วย หากต้องการขึ้นไปเที่ยวชมด้านบน จะต้องใช้บริการรถสองแถวรับ-ส่งของวัดเท่านั้น เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างลาดชัน และเมื่อถึงจุดจอดด้านบนแล้ว ต้องปีนบันไดเหล็กขึ้นไปยังจุดชมวิวอีกประมาณ 700 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที อาจจะดูลำบากซักหน่อย แต่เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว เราจะมองเห็นทิวทัศน์ของอำเภอแจ้ห่มที่อยู่ตรงหน้าและบริเวณโดยรอบวัด ลมพัดเย็นสบาย มีหมอกจางๆ สลับทิวเขา สวยงามมากๆ ด้านบนมีร้านขายเครื่องดื่มและห้องน้ำไว้บริการด้วยนะ ค่าธรรมเนียมเข้าชมวัด (รวมค่าบำรุงสถานที่และค่ารถโดยสารแล้ว)ชาวไทย ผู้ใหญ่ 90 บาท เด็ก 40 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท *** หลังจากปิดจำหน่ายบัตรแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถอยู่บนเขาได้จนถึงเวลา 18.00 น. เท่านั้น *** ที่ตั้ง : ดอยปู่ยักษ์ บ้านทุ่งทอง ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปางเปิดทุกวัน– วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.30-16.00 น.– วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 06.30-16.00 น.โทร. 062 264 9928  เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 16 ธันวาคม 2562

วัดพุทธบาทสุทธาวาส จังหวัดลำปาง อ่านเพิ่มเติม

เงิน เงิน เงิน พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์

มีใครสงสัยเหมือนแอดไหมว่า เงินเหรียญที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้มีที่มายังไง ถ้าอยากรู้ เราไปหาคำตอบกันที่พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ดีกว่า เพราะที่นี่รวบรวมเรื่องราวของเหรียญไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลยล่ะ พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์แบ่งการจัดแสดงนิทรรศการออกเป็น 3 ชั้น ชั้นที่ 1 สามารถเดินชมด้วยตัวเองได้ ส่วนชั้นที่ 2 และ 3 ต้องให้เจ้าหน้าที่พาเดินชมเท่านั้น.รอบนำชมมีทุกๆ 20 นาที รอบแรกเริ่มเวลา 10.00 น. และรอบสุดท้ายเริ่มเวลา 16.40 น. เมื่อเข้ามาภายในอาคาร เราจะพบกับโถงต้อนรับ ซึ่งมีประติมากรรมนูนต่ำประดับอยู่ นอกจากนี้ยังมีห้องจำหน่ายเหรียญที่ระลึกต่างๆ ใครเป็นนักสะสมเหรียญต้องห้ามพลาดเลยค่ะ  ประติมากรรมนูนต่ำที่จัดแสดงอยู่นี้ เป็นภาพของเหรียญตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งเอื้ออำนวยต่อผู้พิการทางสายตาด้วย เพราะสามารถจับดูได้ว่าเหรียญแต่ละชนิดมีลักษณะเป็นอย่างไร  นิทรรศการชั้นที่ 1 เรามาเริ่มกันที่ห้องแรกเลยค่ะ “ปฐมบทแห่งเงินตรา” เป็นห้องฉายแอนิเมชั่น 4 มิติ ในมุมมองแบบ 360 องศา บอกเล่าเรื่องราวการเริ่มต้นแลกเปลี่ยนของสังคมมนุษย์ โดยใช้สื่อกลางที่เป็นสิ่งของมีค่าต่างๆ.ขอบคุณรูปภาพจาก พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์  ห้อง “เส้นทางวิวัฒนาการเงินตรา” จัดแสดงสิ่งของที่ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน จนกระทั่งมีการค้นพบแร่โลหะที่มนุษย์ได้นำมาพัฒนาจนเกิดเป็นเงินตราขึ้น.ขอบคุณรูปภาพจาก พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์  นิทรรศการชั้นที่ 2 ห้อง “นานาอาณาจักรเหรียญ” จัดแสดงเงินตราตั้งแต่สมัยอาณาจักรฟูนัน ทวารวดี ลพบุรี และศรีวิชัย ซึ่งทำให้เราได้ทราบถึงความสำคัญของเหรียญเหล่านี้ต่อวิถีชีวิต เศรษฐกิจ และการค้าขายในแต่ละยุคสมัย.ขอบอกว่า เหรียญที่นำมาจัดแสดงนี้เป็นของจริงทั้งหมดนะ  มาต่อกันที่ยุคสมัยของเงินตราไทย เริ่มตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงอยุธยา ที่เริ่มมีการใช้เงินพดด้วง มีการจัดแสดงกรรมวิธีในการผลิตเงินพดด้วง และเงินพดด้วงของจริงที่ใช้ในสมัยอยุธยา  ห้องต่อมาเป็น “เหรียญกษาปณ์สมัยรัตนโกสินทร์” นำเสนอความเฟื่องฟูทางการค้าและระบบเงินตรา การเปลี่ยนผ่านจากเงินพดด้วงสู่เหรียญกษาปณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของนวัตกรรมการผลิตเหรียญ ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ 3 ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการผลิตเหรียญ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้เหรียญกษาปณ์กลมในสมัยรัชกาลที่ 4.ห้องนี้จัดแสดงเหรียญหายากหลากหลายชนิด และเหรียญที่ระลึกเนื่องในโอกาสต่างๆ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จนถึงรัชกาลที่ 9  ชมเหรียญของไทยจนเต็มอิ่มแล้ว ก็มาชมเหรียญจากต่างประเทศกันบ้าง กับห้อง “เหรียญนานาชาติ” ที่จัดแสดงเหรียญจากหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเนื่องในโอกาสต่างๆ เหรียญกษาปณ์ที่บรรจุสิ่งของต่างๆ เช่น อัญมณี ชิ้นส่วนของอุกกาบาต หรือการสกัด DNA ของเสือชีตาห์มาไว้ในหลอดแก้วขนาดเล็กบนหน้าเหรียญ เป็นต้น  ใครอยากสะสมเหรียญนานาชาติ แบบไม่ต้องพกให้หนักกระเป๋า นี่เลย! สมุดสะสมตัวปั๊มรูปเหรียญ เล่มละ 40 บาท แอดปั๊มสนุกมือเลยล่ะค่ะ นิทรรศการชั้นที่ 3 ห้อง “วัฒนากษาปณ์ไทย” จัดแสดงเหรียญที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ซึ่งมีทั้งเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกที่จัดสร้างขึ้นในวาระโอกาสต่างๆ ห้องต่อมาจัดแสดง “เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10”.และห้องสุดท้ายเป็น “ห้องฉายวีดีทัศน์” เกี่ยวกับพระราชกรณีกิจและพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9.ขอบคุณรูปภาพจาก พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ . ที่ตั้ง : ถนนจักรพงษ์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 10.00-18.00 น.ไม่เสียค่าเข้าชมโทร. 02 282 0818 ต่อ 0   เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 13 ธันวาคม 2562

เงิน เงิน เงิน พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ อ่านเพิ่มเติม

รับลมหนาว @ เขาค้อ

อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงหน้าหนาว เพราะไม่ต้องไปไกลถึงเหนือสุดของประเทศไทยก็หนาวได้ อุณหภูมิ 10 องศาเลยนะจะบอกให้!!.นอกจากอากาศจะหนาวแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ อีกมากมาย ทั้งจุดชมวิว สวนดอกไม้สุดฟรุ้งฟริ้ง และร้านคาเฟ่เก๋ๆ หลายร้าน ใครที่ชอบดอกไม้หลากสีต้องมาที่ “ไร่ B.N.” เพราะที่นี่เค้ามีทั้งดอกไม้ให้เลือกชม 2 โซน คือ ไร่ B.N. และ The Front by B.N. Farm สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบดอกเวอร์บีน่า ดอกไฟร์เวิร์ค และดอกเสี้ยนฝรั่ง แอดแนะนำให้มาชมที่โซน ไร่ B.N..ในส่วนของแปลงดอกเวอร์บีน่า และดอกไฟร์เวิร์คจะมีให้ชมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 – เดือนพฤษภาคม 2563.ภาพถ่าย ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2562 แต่สำหรับใครที่ชอบทุ่งดอกคอสมอสหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีชมพู สีบานเย็น หรือสีขาว แอดแนะนำให้มาโซน The Front by B.N. Farm รับรองว่าจะได้รูปสวยๆ กลับไปอย่างแน่นอน.ภาพถ่าย ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2562 ที่ตั้ง : ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.โทร. 056 750 419ค่าเข้าชม– แปลงดอกเวอร์บีน่า ดอกไฟร์เวิร์ค และดอกเสี้ยน 30 บาท/คน– ทุ่งดอกคอสมอส (อยู่ในส่วนของ The Front by B.N. Farm) 30 บาท/คน สมัยเด็กๆ เวลาดูการ์ตูน เพื่อนๆ เคยแอบคิดมั้ยคะ ว่าอยากเป็นเหมือนเจ้าหญิงเจ้าชายที่มีบ้านเป็นปราสาทสวยๆ และมีสวนดอกไม้กว้างๆ ให้เราได้วิ่งเล่น.หากใครเคยมีความฝันแบบนี้ แอดขอแนะนำให้มาเที่ยวที่ “The bluesky Garden” เพราะที่นี่จะช่วยสานฝันของทุกคนได้ .ที่ตั้ง : เดอะ บลูสกาย รีสอร์ท เขาค้อ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์พิกัด : https://goo.gl/maps/HB7c9KVtiW6DPgJx8เปิดทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น.โทร. 081 355 0500ค่าเข้าชม 100 บาท/คน  The Bluesky Garden เป็นสวนอังกฤษขนาดกว่า 10 ไร่ แบ่งเป็น 4 โซนหลัก มีจุดถ่ายรูปมากกว่า 20 จุด ไม่ว่าจะเป็นโซนสวนดอกไม้นานาพันธุ์ โซนทุ่งวงกต ที่มีหอคอยสำหรับชมวิวโดยรอบ โซนลานกิจกรรมสำหรับจัดงาน event ต่างๆ และโซนกระท่อมน้อยกลางสวน ที่เป็นร้านกาแฟสำหรับนั่งจิบเครื่องดื่มพร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกไปด้วย  นอกจากโซนถ่ายรูปทั้งหมดที่ได้กล่าวไปแล้ว ถ้าใครอยากได้บรรยากาศปิกนิกแบบในสวน ที่นี่ก็มีชุดปิกนิกน่ารักๆ ไว้บริการด้วยนะ.ชุดปิกนิกต้องโทรจองล่วงหน้า ราคาชุดละ 499 บาท ประกอบด้วยน้ำ 3 อย่าง ผลไม้ และแซนวิช (1 ชุดสำหรับทาน 2 คน)  Cedar ป่าสน คาเฟ่ เขาค้อ ร้านคาเฟ่เปิดใหม่ที่แวดล้อมไปด้วยป่าสน ตัวร้านยกสูงขึ้นมาจากพื้น ทำให้รู้สึกเหมือนเราอยู่บนต้นไม้เลยล่ะ.ที่ตั้ง : ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.โทร. 095 328 6694 บรรยากาศภายในร้านร่มรื่น มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ เต็มไปหมด เพชรบูรณ์เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการปลูกกาแฟมาก ดังนั้นทางร้านจึงเลือกใช้กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าจากเขาค้อ ใครที่เป็นคอกาแฟต้องถูกใจแน่นอน.นอกจากกาแฟแล้ว ก็ยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ และขนมเค้กอีกหลายเมนูให้ลองชิมด้วย ไร่ G.B. ทุ่งกังหันลม จุดเด่นของไร่แห่งนี้ก็คือเราสามารถมองเห็นทุ่งกังหันลมของเขาค้อได้อย่างชัดเจนที่สุด  นอกจากนี้ที่นี่ยังมีไฮไลท์คือ ไร่สตรอว์เบอร์รี และสวนดอกไม้หลายชนิด เช่น ดอกเวอร์บีน่า ดอกฮอลลี่ฮ็อค ดอกดาวเรืองฝรั่งเศส เป็นต้น.ภาพถ่าย ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2562.ที่ตั้ง : หมู่บ้านเพชรดำ ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.โทร. 064 304 8222ค่าเข้าชม 10 บาท/คน  ที่นี่มีร้านกาแฟด้วยนะ นั่งชมวิวจิบกาแฟร้อนๆ ท่ามกลางอากาศหนาว ฟินสุดๆ  ผลไม้ที่เหมาะกับหน้าหนาวแบบนี้คงหนีไม่พ้นสตรอว์เบอร์รี ซึ่งในอำเภอเขาค้อก็มีไร่สตรอว์เบอร์รีเรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทาง ใครสะดวกตรงไหนก็สามารถแวะได้เลยค่ะ  สตรอว์เบอร์รีที่เขาค้อจะพร้อมสุกให้เราทานในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ถ้าใครไปเที่ยวเขาค้อช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ รับรองได้ทานสตรอว์เบอร์รีหวานฉ่ำแน่นอนค่ะ  จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา ที่นักท่องเที่ยวมักมากางเต็นท์เพื่อรอชมทะเลหมอกในยามเช้า ช่วงที่มีหมอกหนานั้น หมอกจะอยู่ใกล้มาก จนเราแทบจะสัมผัสได้เลยล่ะ .ที่ตั้ง : ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ทุ่งแสลงหลวง เป็นผืนป่าสะวันนาแห่งเดียวของภาคเหนือที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมส่วนหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลกและเพชรบูรณ์.จุดท่องเที่ยวในบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ หนองแม่นา ได้แก่ จุดชมวิวศาลาดุสิตา แก่งวังน้ำเย็น ทุ่งนางพญา และทุ่งแสลงหลวง นักท่องเที่ยวสามารถมานอนกางเต็นท์ และปั่นจักรยานชมธรรมชาติโดยรอบได้ ซึ่งช่วงที่เหมาะสำหรับปั่นจักรยานเที่ยวคือระหว่างเดือนตุลาคม-เมษายน.ที่ตั้ง : ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์เปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.โทร. 088 756 4940ค่าเข้าอุทยาน 30

รับลมหนาว @ เขาค้อ อ่านเพิ่มเติม

ที่นี่…สงขลา

หาดสมิหลา และแหลมสมิหลา หาดสมิหลาตั้งอยู่ระหว่างแหลมสนอ่อนและแหลมสมิหลา เป็นหาดที่มีถนนเลียบชายหาดและทิวสนร่มรื่นตลอดแนว บริเวณปลายแหลมสมิหลามีรูปปั้นนางเงือกนั่งอยู่บนโขดหิน เรียกกันว่า “เงือกทอง” ถือเป็นสัญลักษณ์ของหาดแห่งนี้ ห่างจากรูปปั้นนางเงือกไปไม่ไกล จะมีรูปปั้นแมวและหนู ที่บอกเล่าตำนานของเกาะหนูและเกาะแมว ซึ่งเราสามารถมองเห็นเกาะทั้ง 2 ได้ชัดเจนจากหาดสมิหลา และบริเวณนี้ยังมีซุ้มประตู “เมืองสงขลา” ไว้ให้เราได้ไปถ่ายรูปเช็คอินเก๋ๆ ว่า ‘เรามาถึงสงขลาแล้วนะ’ อีกด้วย ที่ตั้ง : ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา น้ำตกโตนงาช้าง ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ที่มาของชื่อ “โตนงาช้าง” มาจากชื่อของน้ำตกชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุด คำว่า “โตน” ในภาษาพื้นเมืองแปลว่าน้ำตก ส่วน “งาช้าง” ก็มาจากลักษณะของน้ำตกที่มีสายน้ำไหลแยกผ่านหน้าผาหินลงมาเป็น 2 ทาง มองคล้ายกับงาช้างนั่นเอง น้ำตกโตนงาช้าง ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกสวยที่สุดของภาคใต้ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ น้ำตกแห่งนี้มีน้ำตลอดทั้งปี และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สามารถเดินเที่ยวชมด้วยตนเองได้อีกด้วย ค่าเข้าชมชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท ที่ตั้ง : ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.โทร. 074 238 518 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมยุโรป อายุกว่า 100 ปี เดิมเป็นบ้านพักส่วนตัวของพระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของไทย ภายในบอกเล่าประวัติความเป็นมาของเมืองสงขลาในยุคต่างๆ การค้าขายกับต่างประเทศ ศิลปกรรม และวิถีชีวิตของชาวสงขลา ผ่านโบราณวัตถุต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย นอกจากนี้ ยังจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับตระกูล ณ สงขลา ซึ่งเป็นตระกูลเจ้าเมืองสงขลาในอดีตด้วย ค่าเข้าชมชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาทผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป นักเรียนนักศึกษา ภิกษุสามเณร ไม่เสียค่าเช้าชม ที่ตั้ง : ถนนวิเชียรชม ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. (ปิดวันจันทร์-อังคาร)โทร. 074 311 728 ย่านเมืองเก่าสงขลา มีถนนสายสำคัญที่น่าเดินเที่ยว 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม เป็นย่านที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมงดงาม ไม่ว่าจะเป็นห้องแถวไม้แบบจีน และตึกเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ ปัจจุบันมีการแต่งเติมเพิ่มสีสันของเมืองเก่าด้วย Street Art ที่สะท้อนวิถีชีวิตของผู้คน ดูแล้วเข้ากันจริงๆ เหมาะแก่การไปเดินถ่ายรูปมากๆ  การเดินชมย่านเมืองเก่าสงขลา แอดแนะนำให้เริ่มจากประตูเมืองสงขลาไปตามถนนนครนอก ซึ่งเป็นถนนเลียบทะเลสาบสงขลา จากนั้นต่อไปยังถนนนครในและถนนนางงามตามลำดับ ที่ตั้ง : ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา สถาบันทักษิณคดีศึกษา เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวใต้ จากจุดชมวิวของสถาบันฯ สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบสงขลาและสะพานติณสูลานนท์ด้วย ภายในแบ่งการจัดแสดงออกเป็นห้องต่างๆ เช่น ห้องประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์ ห้องมีดและศาตราวุธ ห้องแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ประกอบอาชีพของชาวใต้ และห้องการละเล่นพื้นบ้าน เป็นต้น ค่าเข้าชมชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 10 บาทชาวต่างชาติ 100 บาท สถาบันทักษิณคดีศึกษาที่ตั้ง : หมู่ที่ 1 บ้านอ่าวทราย ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเปิดวันจันทร์ และวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 08.30-16.30 น. (ปิดวันอังคาร) เกาะยอ เป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบสงขลาตอนล่าง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นไหล่เขา และเป็นแหล่งเลี้ยงปลาในกระชังที่มีชื่อเสียงของทะเลสาบสงขลา จึงทำให้มีร้านอาหารทะเลเปิดบริการอยู่หลายร้าน รวมทั้งยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตคนท้องถิ่นอีกด้วย ที่ตั้ง : ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ โทร. 074 450 540 ตลาดกิมหยง เป็นตลาดขายของฝากและของที่ระลึกแห่งใหญ่ มีชื่อเต็มว่า “ตลาดชีกิมหยง” เดิมเป็นโรงภาพยนตร์เก่า ตลาดกิมหยงเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นบนเป็นร้านขายสินค้าทั่วไป ส่วนชั้นล่างเป็นตลาดขายของแห้ง ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ถั่ว ขนม ผลไม้อบแห้ง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีสินค้าพื้นเมืองปักษ์ใต้ เช่น ผ้าทอ ผ้าปาเต๊ะ และฮิญาบ เป็นต้น ที่ตั้ง : ถนนศุภสารรังสรรค์ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 11 ธันวาคม 2562

ที่นี่…สงขลา อ่านเพิ่มเติม

วัดผาตากเสื้อ จ.หนองคาย

วัดผาตากเสื้อ เดิมชื่อ วัดถ้ำพระ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ และบำเพ็ญเพียรของพระสงฆ์ ซึ่งการเดินทางลงไปบิณฑบาตของพระสงฆ์นั้นค่อนข้างลำบาก ชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมใจกันสร้างถนนและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ต่อมาได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ในมณฑป เมื่อ พ.ศ.2550 เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะ ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ก็คือ สกายวอล์ค ซึ่งทำเป็นทางเดินรูปเกือกม้ายื่นออกไปบริเวณหน้าผา ระยะทางเดินรวม 16 เมตร พื้นเป็นกระจกใสที่ใช้กระจกแทมเพอร์ลามิเนตที่มีลักษณะโปร่ง ทำให้สามารถมองเห็นภาพด้านล่างได้อย่างชัดเจน พื้นกระจกใสนี้รองรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 20 คน หรือประมาณ 2,500 กิโลกรัม บริเวณจุดชมวิวของวัดยังสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงอันกว้างใหญ่ ที่เป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างไทย-ลาวได้อีกด้วย วัดผาตากเสื้อที่ตั้ง : บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคายโทร. 042 901 013เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 – 18.00 น. การเดินทางจากตัวเมืองหนองคาย ใช้ทางหลวงหมายเลข 211 (หนองคาย-สังคม) ขับตามเส้นทางมาเรื่อยๆ จนถึงสามแยกน้ำตกธารทอง ให้เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะถึงวัด เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 10 ธันวาคม 2562

วัดผาตากเสื้อ จ.หนองคาย อ่านเพิ่มเติม

เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี

เนินช้างศึก หรือ ยอดดอยปิล๊อก ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านอิต่อง ที่นี่เป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) ที่ตั้งอยู่บนเส้นพรมแดนไทย-พม่า บริเวณนี้มีเพียงที่พักเจ้าหน้าที่ ตชด. และห้องสุขา ไม่มีบ้านพัก ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ จากจุดชมวิวด้านทิศตะวันตกเราจะเห็นหมู่บ้านอิต่องที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล หากอยากพักค้างแรม ที่หมู่บ้านก็มีโฮมสเตย์ให้เลือกหลายเจ้าเลยล่ะ เนินช้างศึกเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นทิวทัศน์ของแนวเขาที่สลับซับซ้อนได้แบบ 360 องศา อากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี ทุ่งหญ้าบนเนินจะเปลี่ยนสีแตกต่างกันไปตามฤดูกาล สวยงามทุกฤดูเลย ที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกด้วยนะ และในช่วงฤดูหนาวก็จะมีหมอกปกคลุมบริเวณยอดเขา ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามและบรรยากาศดี แบบนี้ต้องเตรียมตัวเก็บกระเป๋าไปเที่ยวแล้วล่ะ ที่ตั้ง : ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีโทร. 034 511 200, 034 512 500 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 4 ธันวาคม 2562

เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี อ่านเพิ่มเติม

ล่องใต้ เที่ยวพัทลุง

หลายคนอาจคิดว่าภาคใต้เที่ยวได้เฉพาะช่วงฤดูร้อน แต่ที่จริงแล้วทุกๆ ที่ก็มีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู อย่างเช่นที่ จังหวัดพัทลุง ที่ไม่ว่าฤดูไหนก็สามารถมาเที่ยวได้.แม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่พัทลุงก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมายที่รอให้เหล่านักเดินทางเข้าไปสัมผัส ซึ่งแอดได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว ต้อง ห้าม พลาด มาให้เพื่อนๆ ได้เที่ยวตามกันแล้ว  คลองปากประ.ที่นี่เป็นแหล่งทำประมงของชาวบ้าน มีปลาชุกชุม เราจึงได้เห็นยอยักษ์เป็นจำนวนมาก นับเป็นภาพบรรยากาศที่สวยงามจริงๆ เลยค่ะ.และนอกจากการชมยอยักษ์แล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “การนั่งเรือไปชมพระอาทิตย์ขึ้น” เพื่อรอต้อนรับความมหัศจรรย์แห่งแสงแรกของวันที่สวยงามในยามเช้าตรู่นั่นเองค่ะ.ที่ตั้ง ต.พนางตุง อ.ควนขนุน เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย.ปกติแล้วในราวเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี ที่นี่จะเต็มไปด้วยบัวแดงสีสันสดใส มองเห็นได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และยังมีนกน้ำหลายชนิดออกมาโบยบินให้ได้เห็นกัน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์นั่นก็คือ การชมเจ้าควายน้ำดำน้ำผลุบๆ โผล่ๆ เพื่อหาหญ้าใต้น้ำกินนั่นเอง ซึ่งจะพบเห็นได้ในช่วงฤดูน้ำหลาก หรือราวเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ค่ะ.ที่ตั้ง ต.พนางตุง และ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุนเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.โทร. 074 685 230 สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา.เป็นสะพานที่ยาวที่สุดของประเทศไทยในขณะนี้ สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมเส้นทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา เข้าด้วยกัน.ทัศนียภาพโดยรอบของสะพานเป็นเวิ้งน้ำกว้างไกลของทะเลน้อยและทะเลหลวงของทะเลสาบสงขลา สามารถมองเห็นทะเลบัวแดงในช่วงเช้า ส่วนช่วงสายก็จะพบกับนกน้ำที่ออกหากิน และถ้าโชคดีก็อาจได้พบควายน้ำอีกด้วยค่ะ.ที่ตั้ง ต.พนางตุง อ.ควนขนุน หลาดใต้โหนด.ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ และที่สำคัญยังเป็นตลาดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มีการนำเอาวัสดุธรรมชาติมาทำเป็นภาชนะใส่ขนมและอาหาร แทนการใช้โฟมและพลาสติก นอกจากนี้อาหารที่ขายภายในตลาดก็ใช้วัตถุดิบที่ผลิตขึ้นเองจากชุมชน ซึ่งปลอดสารพิษอีกด้วย.ที่ตั้ง ต.ดอนทราย อ.ควนขนุนเปิดเฉพาะวันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 15.00 น.โทร. 074 673 616 เขาอกทะลุ เขาอกทะลุเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพัทลุง มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนที่มีโพรงเจาะทะลุบริเวณด้านบนของยอดเขา ทำให้สามารถมองเห็นอีกด้านหนึ่งได้ จึงเป็นที่มาของชื่อ “เขาอกทะลุ” นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบันไดสำหรับขึ้นไปยังยอดเขาเพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองพัทลุงได้อีกด้วย ที่ตั้ง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง ควนนกเต้น.ควนนกเต้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี “ควน” เป็นภาษาใต้ หมายถึง ภูเขาเล็กๆ เป็นจุดที่ชมวิวภูเขาและทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม นอกจากจะเป็นจุดชมวิวแล้ว ที่นี่ยังมีร้านกาแฟและขนมไว้คอยให้บริการอีกด้วย.ที่ตั้ง ต.คลองทรายขาว อ.กงหราเปิดทุกวัน เวลา 05.00 – 19.00 น. น้ำตกไพรวัลย์.น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของพัทลุง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเล่นน้ำกันที่บริเวณชั้นล่าง เพราะใกล้กับลานจอดรถและร้านอาหาร.ที่ตั้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ต.คลองเฉลิม อ.กงหราเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น.ค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาทชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาทโทร. 074 605 466 ล่องแก่งหนานมดแดง หนึ่งในสถานที่ล่องแก่งในพัทลุงที่น้อยคนจะรู้จัก แต่สำหรับสายผจญภัยบอกเลยว่าไม่ควรพลาด ที่นี่นักผจญภัยจะได้ตื่นเต้นและสนุกสนานไปกับเกาะแก่งต่างๆ ที่มีมากมายกว่า 40 แก่ง ในระดับความยากง่ายที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตลอดสองฝั่งคลอง ทั้งความเขียวขจีของป่าไม้ ความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ รวมไปถึงสัตว์ประจำถิ่นชนิดต่างๆ ด้วย ที่นี่ยังมีห้องอบสมุนไพรไว้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการล่องแก่ง และหากใครอยากพักค้างคืนที่นี่ก็มีห้องพักและลานกางเต็นท์ด้วย ที่ตั้ง ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอมโทร. 089 873 1464, 081 370 2123, 081 082 0206 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 3 ธันวาคม 2562

ล่องใต้ เที่ยวพัทลุง อ่านเพิ่มเติม

ดอยสะโง้ : Go local อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ดอยสะโง้ มีจุดชมวิวที่มองเห็นภูมิประเทศโดยรอบได้เกือบ 360 องศา และเห็นได้ถึง 3 ประเทศคือ ไทย เมียนมา และลาว นอกจากนี้ยังสามารถชมทะเลหมอกในตอนเช้า และชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็นได้ในจุดเดียวกัน ในตอนกลางคืนที่นี่ยังเหมาะเป็นสถานที่ดูดาว เพราะไม่มีแสงไฟมารบกวน ทำให้มองเห็นดาวได้เต็มฟ้าเลย สำหรับใครที่ขึ้นมาชมทะเลหมอกแต่เช้าตรู่แล้วยังไม่ได้ทานอาหาร ด้านบนก็มีร้านอาหารและร้านกาแฟให้บริการด้วย สามารถเลือกซื้อเลือกทานได้เลย บนดอยสะโง้ มีที่พักให้บริการ 2 แบบแบบที่ 1 คือ เต็นท์ อัตราค่าที่พัก– เต็นท์ขนาด 2 คน ราคาหลังละ 300 บาท– หากนำเต็นท์มาเอง เสียค่ากางเต็นท์ คนละ 100 บาท มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการ แบบที่ 2 คือ บ้านพักแบบโฮมสเตย์ อัตราค่าที่พักบ้านพักสำหรับ 1-3 คน ราคา 1,500 บาทบ้านพักสำหรับ 3-5 คน ราคา 2,500 บาทบ้านพักสำหรับ 10-12 คน ราคา 6,500 บาท ราคานี้รวมอาหารเช้าแล้ว ชาวบ้านบนดอยสะโง้มีอาชีพปลูกดอกเก๊กฮวยเพื่อนำไปขาย ทำให้บริเวณรอบๆ ดอยสะโง้ มีดอกเก๊กฮวยกระจายอยู่ทั่วบริเวณเลย ดอยสะโง้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงความเป็นวิถีชุมชนค่อนข้างมาก เนื่องจากชาวบ้านในชุมชนบริหารจัดการกันเอง ไม่มีหน่วยงานอื่นมาสนับสนุน ทำให้อาจจะยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไปบ้าง แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมหรือหลงใหลในวัฒนธรรมท้องถิ่น แอดแนะนำว่าต้องมาที่นี่เลย ดอยสะโง้ที่ตั้ง : หมู่ที่ 7 ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ติดต่อจองที่พักและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 092 263 6394Facebook : Doisango ดอยสะโง้ การขึ้นไปบนดอยสะโง้ต้องจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่หมู่บ้าน (บริเวณพื้นที่ของชุมชนจอดฟรี ส่วนพื้นที่ของเอกชนต้องเสียค่าบริการตั้งแต่ 80-100 บาท) จากนั้นใช้บริการรถของชุมชน ราคาเที่ยวละ 100 บาท นั่งได้ 1-7 คน การเดินทางจาก อ.เชียงแสน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1290 ก่อนถึงสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 1 กิโลเมตร ให้สังเกตป้ายบอกทางไปบ้านสะโง้ทางซ้ายมือ จากนั้นเลี้ยวซ้าย ขับไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางไปโครงการหลวงสะโง้ ขับเลยทางเข้าโครงการหลวงไปอีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านสะโง้ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 3 ธันวาคม 2562

ดอยสะโง้ : Go local อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

ทุ่งดอกไม้ป่า ณ วนอุทยานน้ำตกผาหลวง อุบลราชธานี

ทุ่งดอกไม้ป่า ณ วนอุทยานน้ำตกผาหลวง อุบลราชธานี ทุ่งดอกไม้ป่าหลากสีสันที่วนอุทยานน้ำตกผาหลวงสามารถชมได้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน – มกราคมของทุกปี.ดอกไม้ป่าที่พบเห็นได้มากที่สุดก็คือ มณีเทวา ดุสิตา สร้อยสุวรรณา สรัสจันทร และทิพย์เกสร ซึ่งล้วนเป็นชื่อที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงพระราชทานนามให้ ไพเราะมากๆ เลยค่ะ.วนอุทยานน้ำตกผาหลวงที่ตั้ง : ต.นาเลิน อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานีเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.โทร. 094 398 9398 มณีเทวา หรือ กระดุมเงิน หญ้าผมหงอก หญ้าดอก หญ้าตุ้มหู ลักษณะเป็นดอกกลมๆ มีขนสีขาวขนาดเล็ก สูง 10-15 เซนติเมตร มักขึ้นบริเวณที่ชื้นแฉะ ในที่โล่ง หรือชายป่าโปร่ง และจะขึ้นแซมกับดอกอื่นๆ ทำให้สีสันตัดกันสวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยา ใช้แก้ปวดแก้ไข้ และขับปัสสาวะได้ ดุสิตา หรือ หญ้าข้าวก่ำน้อย หญ้าเข็ม เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก สูง 10-20 เซนติเมตร มีสีม่วงเข้มมักขึ้นในบริเวณพื้นดินที่เปียกชื้น ชื้นแฉะ หรือตามลานหินโล่งกว้างมีน้ำขัง โดยจะขึ้นปะปนกับหญ้า มีสรรพคุณทางยา ใช้เป็นยาสมุนไพรบำรุงเลือดได้ด้วย สรัสจันทร หรือ ดอกดิน กล้วยมือนาง เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก สูง 10-30 เซนติเมตร มีสีชมพูจนถึงสีม่วงอ่อนอมฟ้า มักขึ้นบริเวณทุ่งหญ้าเปิด ที่ชุ่มน้ำและชื้นแฉะ ทิพย์เกสร เดิมชื่อว่า “หญ้าสีฝอยเล็ก” เป็นพืชกินแมลงล้มลุกขนาดเล็กมีดอกสีม่วงอ่อนหรือชมพูอ่อน ชอบความชื้นสูงและอากาศเย็น  สร้อยสุวรรณา หรือ หญ้าสีเหลือง เหลืองพิศมร สาหร่ายทองเหลือง เป็นพืชล้มลุกสีเหลืองเข้ม สูง 10-15 เซนติเมตร มักพบบริเวณลานหินที่มีน้ำและชื้นแฉะ เรียกได้ว่าเจอน้ำเมื่อไหร่สร้อยสุวรรณาก็จะเบ่งบานสวยงามเมื่อนั้น สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในจังหวัดอุบลราชธานี.วัดพระธาตุหนองบัวที่ตั้ง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/jhvYde1MjEWQjnUx5เปิดทุกวัน เวลา 07.00-20.00 น.**ช่วง 18.00-20.00 น. ทางวัดจะเปิดไฟส่ององค์พระธาตุ สวยงามมากๆ** สามพันโบกที่ตั้ง : ต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/hnXmQZY5Xfd4feP29ฤดูท่องเที่ยว : เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่แก่งหินจะโผล่พ้นน้ำประมาณเดือนตุลาคม-พฤษภาคม วัดสิรินธรวรารามภูพร้าวที่ตั้ง ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/CJLgrLQhSkWfuwRE9เปิดทุกวัน เวลา 06.30-20.00 น. จุดชมวิววัดถ้ำคูหาสวรรค์ที่ตั้ง ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/bDyuBpS3QJ7gzM4Q8เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. น้ำตกห้วยทรายใหญ่ที่ตั้ง : ต.คอแลน อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/VgAzzY7hmfJ1eb2y6เปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.00 น.  อุทยานแห่งชาติผาแต้มที่ตั้ง : ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/kn4wn81f37G6zCe8Aเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.  อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอยที่ตั้ง : ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานีพิกัด : https://goo.gl/maps/MvQm2vo1fXE8BfJ6Aเปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.  เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 2 ธันวาคม 2019

ทุ่งดอกไม้ป่า ณ วนอุทยานน้ำตกผาหลวง อุบลราชธานี อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top