สถานที่ท่องเที่ยว

กาญ-เวลา ถึงเวลาเที่ยว ‘กาญจนบุรี’

วันนี้บัดดี้จะมานำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี ที่บัดดี้มีโอกาสไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา โดยจะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีกลิ่นอายความขลังของประวัติศาสตร์ที่ผ่านกาลเวลามาเป็นร้อยปีเลยล่ะ ลองตามมาอ่านกันว่าบัดดี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง ✨ 📌 พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า อาคารที่จัดแสดงเรื่องราวของการสร้างทางรถไฟสายไทย-พม่า หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “ทางรถไฟสายมรณะ” ภายในอาคารจัดแสดงเรื่องราวตั้งแต่การเข้ามาของกองทัพญี่ปุ่น กระบวนการและขั้นตอนการสร้างทางรถไฟ สภาพชีวิตของเชลยศึกในค่าย เหตุการณ์หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ในอดีตของผู้มีส่วนร่วมในการสร้างเส้นทางรถไฟเส้นนี้ 📌 73 ถนนเจ้าขุนเณร ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรีhttps://maps.app.goo.gl/QPwrgdmbUxmbStrW9⏰ เปิดทุกวันเวลา 09.00-16.30 น.☎️ 0 3451 2721 📌 สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก หรือสุสานทหารสหประชาชาติ หรือที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีทั่วไปเรียกว่า “ป่าช้าอังกฤษ” สถานที่พักผ่อนสุดท้ายของผู้วายชนม์ที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลฝ่ายสัมพันธมิตร โดยสุสานแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2497 สุสานแห่งนี้ มีรูปแบบงานภูมิสถาปัตยกรรมแบบสุสานสนามหญ้า (lawn cemetery) หลุมฝังศพเป็นแบบหมอนอิง (pillow marker) ทำให้บรรยากาศของสุสานแห่งนี้มีความเรียบง่าย สวยงาม จนกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.กาญจนบุรี ในทุกปีจะมีวันที่รำลึกถึงผู้เสียชีวิตเฉพาะของคนชาติต่าง ๆ ได้แก่Anzac Day 25 เมษายน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์Armistice Day 5 พฤษภาคม ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์Remembrance Day 11 พฤศจิกายน สหราชอาณาจักร 📌 ถนนแสงชูโต ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรีhttps://maps.app.goo.gl/ozg4dPjDHk4YDDYM8⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.30-16.00 น.☎️ 0 3451 1500 📌 หอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ตั้งอยู่ในบริเวณวัดเทวสังฆารามพระอารามหลวง (วัดเหนือ) สร้างขึ้นโดยจังหวัดกาญจนบุรี คณะสงฆ์ และอีกหลายภาคส่วนร่วมกัน เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่มีชาติภูมิเป็นชาวกาญจนบุรี ตัวอาคารจะมีทั้งหมด 4 ชั้น ยอดด้านบนสุดมีลักษณะเป็นรูปฉัตรประจำพระองค์ ภายในอาคารจะมีเจ้าหน้าที่ข้าราชการบำนาญและมีการจัดนิทรรศการดังนี้ 👉 ชั้นที่ 1 ประกอบไปด้วยหลายส่วนจัดแสดงที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการเรียนรู้พระธรรมได้ เช่นการหมุนธรรมจักรที่ต้องหมุนไม่เร็วเกิน การสุ่มเซียมซีอัตโนมัติที่ชี้ให้ทุกคนใช้ชีวิตจากการกระทำ ไม่ใข่การเสี่ยงดวง ไปจนถึงเรื่องราวของพระสงฆ์ สีจีวร ส่วนต่าง ๆ ของวัด พระวินัยไปจนถึงเกมตอบคำถาม โดยแต่ละจุดจะมีการบรรยาย 2 ภาษา👉 ชั้นที่ 2 มีนิทรรศการพระศาสนกิจ พระกรณียกิจทางศาสนาและสมณศักดิ์แห่งอัครสงฆ์ 👉 ชั้นที่ 3 มีนิทรรศการธรรมปฏิปทา วิปัสสนากรรมฐาน พระรูปหล่อพระอุปัชฌาย์ 👉 ขั้นที่ 4 เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นแม่น้ำแคว 📌 วัดเทวสังฆาราม พระอารามหลวง(วัดเหนือ) 1/19 ถ.เจ้าขุนเณร ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรีhttps://maps.app.goo.gl/qishuwaxybNU8KCQ8⏰ เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์เวลา 09.30-16.30 น.☎️ 06 2165 9424 📌 เตี๊ยมไอ้โก๊ โก๊นพ เจี๊ยะนม ร้านของหวานที่ขายขนมปังและไอศกรีมรสอร่อยราคาน่ารัก เป็นอีกหนึ่งร้านที่ให้บรรยากาศสบาย ๆ เพราะทั้งเจ้าของร้านและพนักงานมีความน่ารักและเป็นกันเอง แถมเมนูก็มีให้เลือกกินเลือกสั่งมากมาย มาที่นี่การันตีความถูกใจได้เลย 📌 วงเวียนวัดเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรีhttps://maps.app.goo.gl/asmZgEeWyyBTrDcc6⏰ เปิดทุกวันเวลา 16.00-22.00 น.☎️ 08 6798 9680 📌 อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ หรือที่หลายคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า “ปราสาทเมืองสิงห์” ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำแควน้อยที่รอบข้างถูกโอบล้อมด้วยทิวเขาเป็นแนวยาวอยู่โดยรอบ เดิมปราสาทแห่งนี้ มีชื่อปรากฏในจารึกปราสาทพระขรรค์ว่า “ศรีชัยสิงห์ปุระ” ที่มีลักษณะผังเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีประตูเข้าออก 4 ด้าน มีคูน้ำคันดินล้อมรอบ ภายในเมืองมีสระน้ำ 6 สระ ปราสาทเมืองสิงห์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถาน มีสถาปัตยกรรมและปฏิมากรรมคล้ายกับปราสาทแบบขอมในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ภายในมีโบราณสถานหลายแห่ง เช่น 👉 โบราณสถานหมายเลข 1 ตั้งอยู่ใจกลางกลุ่มโบราณสถาน ประกอบไปด้วย ปรางค์ประธาน ระเบียงคด โคปุระ บรรณศาลาและกำแพงแก้ว👉 โบราณสถานหมายเลข 2 ลักษณะคล้ายคลึงกันกับโบราณสถานหมายเลข 1 ปรางค์ประธาน โคปุระ 4 ด้าน แต่พังลงมามากบูรณะได้น้อย และเป็นสถานที่ขุดพบเทวรูป👉 โบราณสถานหมายเลข 3 ตั้งอยู่นอกกำแพงแก้ว มีลักษณะเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดเล็กสร้างด้วยอิฐและศิลาแลง👉 โบราณสถานหมายเลข 4 ตั้งอยู่ใกล้หมายเลข 3 เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า การก่อสร้างอาคารใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุหลักในการสร้างเช่นกัน👉 ริมแม่น้ำ เป็นที่ตั้งของหลุมขุดค้นทางโบราณคดี ซึ่มีการขุดค้นพบทั้งโครงกระดูกอายุกว่า 2000 ปี เครื่องมือเครื่องใช้ ภาชนะดินเผา เครื่องมือเหล็ก สำริด สร้อยคอลูกปัดหินและลูกปัดแก้ว👉 อาคารจัดแสดงวัตถุ จัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ขุดค้นพบในบริเวณปราสาทเมืองสิงห์ ทั้งศีรษะพระศิวะ แม่พิมพ์พระพุทธรูป ภาชนะดินเผา ฯลฯ โดยมีหลายชิ้นที่ทางกรมศิลปากรได้นำไปเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร บริเวณปราสาทเมืองสิงห์จะมีป้าย QR Code หลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่นและจีน เพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับข้อมูลทางประวัติศาสตร์และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของปราสาทเมืองสิงห์ให้กับนักท่องเที่ยว 📌 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรีhttps://maps.app.goo.gl/jRpnNstnVpwDYrNg6⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.00-16.30 น.☎️ 0 3467 0264 📌 ศรีชัยยะปุระ Wellness

กาญ-เวลา ถึงเวลาเที่ยว ‘กาญจนบุรี’ อ่านเพิ่มเติม

นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว 3 วัน 2 คืน สัมผัสวิถีชีวิต ชื่นชมธรรมชาติ ศึกษาอารยธรรม

วันนี้บัดดี้มีเส้นทางท่องเที่ยวที่เพื่อน ๆ สามารถเดินทางตามรอยเพื่อออกเดินทางสู่ภาคตะวันออกของประเทศไทย สัมผัสเสน่ห์ของ นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว ในเส้นทาง 3 วัน 2 คืน ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่แก่นแท้ของวิถีชีวิตไทย ชมความงามของธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ และย้อนรอยอารยธรรมโบราณอันยิ่งใหญ่ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกไปค้นพบมนต์เสน่ห์ที่รอคุณอยู่ในดินแดนแห่งนี้ ✨ Day 1 นครนายก-ปราจีนบุรี📌 ศูนย์หัตถกรรมผ้าทอไทยพวน📌 อภัยภูเบศร เดย์ สปา📌 พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร Day 2 ปราจีนบุรี-สระแก้ว📌 ต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ📌 ปราสาทสด๊กก๊อกธม📌 ละลุ Day 3 สระแก้ว📌 อุทยานแห่งชาติปางสีดา– ชมผีเสื้อ– เดินป่าศึกษาธรรมชาติ– แวะน้ำตกปางสีดา ✨ หมายเหตุ: หากต้องการเยี่ยมชมในส่วนอื่น ๆ แบบ 1 day tirp เช่น มิวเซียมปะพวนที่ปากพลี หรือลองรับประทานอาหารแบบไทยพวน สามารถติดต่อ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนไทยพวน สามารถติดต่อ ว่าที่ร้อยตรี ชาติชาย ยอดมิ่ง โทร. 09 2757 9377

นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว 3 วัน 2 คืน สัมผัสวิถีชีวิต ชื่นชมธรรมชาติ ศึกษาอารยธรรม อ่านเพิ่มเติม

Low Season ชวนเที่ยว แก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี

ในช่วงฤดูฝนที่หลายคนอาจมองว่าเป็นช่วง Low Season เที่ยวยากและเปียก แต่บัดดี้ขอบอกว่า มีสถานที่เที่ยวประเภทหนึ่งที่สามารถเที่ยวได้ในช่วงฤดูฝนแบบนี้เท่านั้น นั่นก็คือการล่องแก่งนั่นเอง โดยวันนี้บัดดี้ขอนำเสนอ “แก่งหินเพิง” สถานที่ล่องแก่งที่แม้ใครจะไม่เคยล่องแก่งมาก่อนก็สามารถไปเที่ยวได้ 🚣‍♀️☔ แก่งหินเพิง ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้อยากเริ่มต้นล่องแก่งและเดินป่า เพราะทุก ๆ คนต้องเดินเท้าเข้าป่าจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 เป็นระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยนำทางไปด้วยตลอดทาง โดยเส้นทางในการเดินแทบจะเป็นทางเรียบตลอดทาง เดินง่ายมาก ๆ เพียงแต่ต้องใช้แรงฮึดและความอึดในการเดินเท่านั้น บริเวณจุดปล่อยตัว จะมีเรือยางจอดคอยอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่จะแนะนำวิธีการนั่งและวิธีพายเรือให้ ตลอดเส้นทางจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที มีลักษณะเป็นแก่งสลับกับวังน้ำนิ่ง น้ำใสมาก ๆ กระโดดลงลอยคอไหลไปกับเรือยางได้เลย 🚣‍♀️ แก่งหินเพิง จะล่องแก่งได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม บัดดี้แนะนำให้จองล่วงหน้าเพราะบางช่วงคิวเยอะมาก ๆ หากใครสนใจสามารถจองคิวในการล่องแก่งได้จากที่พักในบริเวณใกล้เคียง ที่จะมีบริการรับส่ง ห้องอาบน้ำ อาหารและการอบรมให้ความรู้สั้น ๆ ก่อนการล่องแก่ง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานนครนายก (รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว) ก็ได้เช่นกัน ✨ 📌 หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 ตำบลนาดี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.00 น.☎️ 037 312 284 ททท. สำนักงานนครนายกhttps://maps.app.goo.gl/sddffmCFZ2ye5ARQ6

Low Season ชวนเที่ยว แก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี อ่านเพิ่มเติม

7 พิกัด แอ่วเมืองอุตรดิตถ์

ถ้านึกถึงอุตรดิตถ์…เชื่อว่าหลาย ๆ คน จะต้องนึกถึง “ลับแล” เมืองที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน มีตำนานเล่าขานกันมาว่าเป็นเมืองที่ห้ามพูดโกหก และยังเป็นบ้านเกิดของพระยาพิชัยดาบหัก วีรบุรุษผู้กล้าหาญในสมัยกรุงธนบุรี ✨ อุตรดิตถ์…จังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคเหนือที่ใครหลายคนอาจยังไม่เคยไปเยือนและหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักว่าเมืองแห่งนี้…แท้ที่จริงแล้วมีเสน่ห์ มีแหล่งท่องเที่ยวและเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่มากมาย ที่รอให้เพื่อน ๆ ลองไปเที่ยว ไปชิมเมนูอาหารถิ่นอย่างข้าวแคบ ข้าวพันผัก และไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยลองทำกัน 💚 📌 สะพานปรมินทร์ ตั้งอยู่บ้านดารา อำเภอพิชัย ก่อสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2449 เป็นสะพานรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของทางรถไฟสายเหนือ สร้างข้ามแม่น้ำน่านก่อนถึงสถานีรถไฟชุมทางบ้านดารา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงประกอบพระราชพิธีเปิด เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2452 และพระราชทานนามว่า “สะพานปรมินทร์” ต่อมาระหว่างปี พ.ศ. 2485-2488 ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 (สงครามมหาเอเชียบูรพา) จากการทิ้งระเบิด ทำให้สะพานปรมินทร์พังเสียหาย ภายหลังสงครามสิ้นสุดจึงได้บูรณะให้เป็นสะพานเหล็ก แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2496 และมีการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณใต้สะพานเป็นสวนสาธารณะริมน้ำน่าน เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนหย่อนใจ ☎️ 0 5545 2241https://maps.app.goo.gl/LV9X1xmaKErYfbUK8 📌 วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ตั้งอยู่บ้านทุ่งยั้ง ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล เป็นวัดเก่าแก่และมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระพุทธเจ้า มีวิหารแบบล้านนา หลังคาซ้อนกัน 3 ชั้น ภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อประธานเฒ่า” พระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสน และมีจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่บอกเล่าเรื่องราวของพระสังข์ทอง ด้านหลังวิหารมีองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นแบบลังกาทรงกลม ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม 3 ชั้น ฐานล่างมีเจดีย์องค์เล็ก ๆ เป็นบริวารอยู่ 4 มุม ฐานชั้นที่ 3 มีซุ้มคูหา 4 ด้าน เพื่อให้สักการะขอพร ☎️ 09 4716 3194https://maps.app.goo.gl/Fg5DWpxA82VP93oa7 📌 อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ตั้งอยู่ตำบลผาเลือด มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ จังหวัดแพร่และอุตรดิตถ์ เป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ประกอบด้วยป่านานาชนิดที่ยังคงความสมบูรณ์ และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ โดยจุดที่สูงที่สุดของอุทยานฯ คือ ยอดเขาภูพญาพ่อ สูง 1,350 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง เป็นจุดแบ่งเขตจังหวัดแพร่กับจังหวัดอุตรดิตถ์ อุทยานแห่งชาติฯ มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ฝนตกชุกในเดือนพฤษภาคม-เดือนกันยายน และในฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็น สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ ได้แก่👉 อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ภายในเขื่อนมีเกาะแก่งมากมายเหมาะสำหรับการล่องแพชมวิวทิวทัศน์👉 แก่งนางพญา เป็นแก่งหินน้อยใหญ่ลดหลั่นกันอยู่กลางลำน้ำนางพญา ซึ่งมีน้ำไหลตลอดทั้งปีและเป็นบริเวณที่สวยงามมาก นอกจากนี้ ยังมีน้ำตกอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกเชิงทอง น้ำตกห้วยมุ่น และน้ำตกดอยผาหมอก ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีน้ำไหลตลอดปีเพราะมีสภาพป่าต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์👉 เกาะนมสาว เป็นเกาะที่มีรูปร่างคล้ายเต้านมสาว สามารถนั่งเรือชมความสวยงามของลำน้ำน่านท่ามกลางธรรมชาติ และเป็นจุดชมทะเลสาบสุริยันจันทรา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและชมพระจันทร์ช่วงคืนวันเพ็ญ 💸 อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท🏠 ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก อุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการ☎️ สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน โทร. 09 0604 7793 ☎️ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 โทร. 0 5462 6770☎️ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760www.dnp.go.thhttps://maps.app.goo.gl/rTe4mTW6iFTwY8V48 📌 วัดพลอยสังวรนิรันดร์ ตั้งอยู่บ้านนาลับแลง ตำบลป่าค่าย อำเภอทองแสนขัน เป็นวัดสาขาหนึ่งของวัดนาหลวง (อภิญญาเทสิตธรรม) และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมะที่มีศิลปะสวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ ภายในวัดประดิษฐาน องค์พระสาระสุทธีมุนีนาถ พระพุทธรูปปางนาคปรกองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 10 เมตร สูง 19 เมตร ล้อมรอบด้วยพญานาคราช ได้แก่ ปู่ทะนะมูลนาคราชและแม่ย่าเกตุปทุมนคินี หลวงปู่มุจรินทร์ ซึ่งถือเป็นพญานาคราชคุ้มครองพระพุทธเจ้า และพญาดำแสนศิริจันทรานาคราช บริเวณประตูทางเข้ามีรูปปั้นพญามังกรคู่หันหน้าเข้าหากัน เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลและความศักดิ์สิทธิ์แก่พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปสักการะขอพร ☎️ สอบถามข้อมูล เจ้าอาวาส โทร. 09 2392 2104☎️ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส 08 8522 4842https://maps.app.goo.gl/tvELfSqyiztxVE5FA 📌 สกายวอล์กห้วยน้ำรี ตั้งอยู่บ้านกิ่วเคียน ตำบลจริม อำเภอท่าปลา ภายใต้โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว 720 เมตร สามารถชมวิวทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีในมุมสูง และชมความงดงามของทะเลหมอกในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวอุตรดิตถ์ ☎️ เทศบาลตำบลจริม โทร. 0 5581 8044https://maps.app.goo.gl/nn7M1sVFKUn7ig7q6 📌 วัดท่าถนน ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำน่าน ถนนเกษมราษฎร์ ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ สถานที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อเพชร” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยเชียงแสน นั่งขัดสมาธิเพชร มีพุทธลักษณะงดงาม https://maps.app.goo.gl/d2Y9mjcGRajz8ZNb7 📌 วัดบ้านแก่งใต้ ตั้งอยู่ตำบลบ้านแก่ง อำเภอตรอน เป็นวัดเก่าแก่อายุประมาณ

7 พิกัด แอ่วเมืองอุตรดิตถ์ อ่านเพิ่มเติม

วัด-ธนะ-ถ้ำ จ.สระบุรี

สระบุรี หนึ่งในจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านธรรมชาติและจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้ได้อย่างกลมกลืน วันนี้บัดดี้ขอแนะนำสถานที่ที่มีความความเข้มข้นของวัฒนธรรมทางจิตใจและความเชื่อใน จ.สระบุรี มานำเสนอ ลองตามมาดูกันว่า สีสันของวัฒนธรรมการไหว้ทั้งของวัด ทั้งธนะ (ทรัพย์, เงินตรา) และถ้ำ จะมีที่ไหนที่บัดดี้นำเสนอในวันนี้บ้าง ✨ วัดเขาแก้ววรวิหาร วัดเก่าแก่ตั้งอยู่บนเขาริมแม่น้ำป่าสัก สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม เมื่อปี พ.ศ. 2171 จุดเด่นของวัดเขาแก้ววรวิหาร คือ องค์เจดีย์สีขาว ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล ตัวเจดีย์เป็นทรงปราสาท 5 ยอด มีความเชื่อว่า สามารถขอพรเกี่ยวกับหน้าที่การงานได้ โดยเฉพาะหากมีความเกี่ยวข้องกับงานข้าราชการ ภายในประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองและพระพุทธรูปทรงเครื่อง พระอุโบสถเก่าแก่มีสภาพขลังและสวยงาม ภายในมีประพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ผู้ดูแลวัดบอกบัดดี้ว่า หากใครเห็นพระประธานองค์นี้มีลักษณะพิเศษอะไรบางอย่างขึ้นมาจะถือว่าโชคดี แต่บัดดี้ขอไม่เฉลยนะว่าคืออะไร เพื่อน ๆ ต้องมาหาคำตอบเอาเอง 📌 1 ต.ต้นตาล อ.เสาไห้ จ.สระบุรี https://maps.app.goo.gl/vvtWGoBmCeDXAfF36⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.30-16.30 น.☎️ 0 3633 2863 วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร วัดเก่าแก่สวยงามตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมในปี พ.ศ. 2167 เป็นผู้โปรดเกล้าให้สร้างขึ้น ด้านบนเนินเขาของวัด เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทที่ภายหลังมีการสร้างมณฑปครอบตามศิลปกรรมแบบอยุธยาและกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ในทุกวันเข้าพรรษา ตรงกับวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 (ประมาณเดือนกรกฎาคม) ของทุกปี วัดแห่งนี้จะเป็นสถานที่จัดประเพณีตักบาตรดอกไม้ ซึ่งในช่วงเช้าจะมีการทำบุญตักบาตรด้วยข้าวสุกที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ส่วนในช่วงบ่ายจะเป็นการตักบาตรดอกไม้ ซึ่งดอกไม้ที่นิยมใช้ในการตักบาตร คือดอกเข้าพรรษา (ดอกหงส์เหิน) หากใครสนใจอยากเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษแบบนี้ อย่าลืมหาเวลามากันด้วยล่ะ 📌 ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี https://maps.app.goo.gl/nv9UdVBB8bRPAxuC9⏰ เปิดทุกวันเวลา 07.30-17.00 น. วัดแก่งคอย วัดแก่งคอย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีเรื่องราวการสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2330 โดยชาวบ้านในพื้นที่ได้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางของชุมชน แต่แรกแล้ววัดนี้มีชื่อว่า “วัดแร้งคอย” เพราะในวัดมีต้นไม้ใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของนกอีแร้ง ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดแก่งคอย” ตามชื่อของชุมชนในภายหลัง สถานที่ห้ามพลาดแรกของวัดนี้คือ “พระมหาธาตุเจดีย์ศรีป่าสัก” เจดีย์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวของพุทธชาดกและตำนานเทวดารวมไปถึงพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ ทางวัดยังสร้างถ้ำพญานาค “ถ้ำปู่นาคา” ที่จำลองบรรยากาศวังพญานาคจากเมืองบาดาลที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ภายในถ้ำมีรูปปั้นพญานาค 4 ตระกูล พร้อมจุดไหว้ขอพรและขอโชคมากมายภาย ถือเป็นอีกสถานที่ที่สายมูห้ามพลาดหากมาเที่ยว จ.สระบุรี 📌 ถนนสุดบรรทัด ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี https://maps.app.goo.gl/VdCyH83Kj8rsnMMz6⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.00-17.00 น. วัดถ้ำธรรมโอสถ วัดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าดงพญาเย็นและภูเขาหินปูนที่เต็มไปด้วยความเข้มขลังของบรรยากาศและความศรัทธาที่เข้มข้น วันที่บัดดี้ไป คนดูแลวัดพาเดินดูหลายจุดพร้อมเล่าประวัติที่น่าสนใจของวัดให้ฟัง เช่น ถ้ำธรรมโอสถที่เป็นจุดห้ามพลาดของวัดนี้ เกิดจากการใช้ระเบิดตอนปี พ.ศ. 2526 ภายในถ้ำธรรมโอสถมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ไหว้มากมาย ด้านในสุดมีหินงอกหินย้อยลักษณะคล้ายปู่ฤาษี หลายคนเรียกว่า “น้ารอด” สามารถขอพรเรื่องการค้าขาย โชคลาภและความร่ำรวยได้ อีกจุดที่มีเรื่องเล่าของวัดนี้คือ “ถ้ำย่าน้อย” ที่มีความเป็นมาจากสมัยก่อน มียายเนื่องและยายน้อย ที่รู้จักและสนิทกัน ต่อมาก็แยกย้ายกันไปตามการใช้ชีวิต ยายเนื่องบวชชี ยายน้อยอพยพไปชลบุรี แต่ชอบมาปฏิบัติทำที่ถ้ำนี้เสมอ ๆ เวลาใครหายายน้อยไม่เจอก็จะมาตามหาที่นี่จนเป็นที่มาของชื่อถ้ำนั่นเอง ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยแม่นางไม้ สามารถขอพรได้เช่นกัน 📌 ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี https://maps.app.goo.gl/8KaS194kaA6DSMxx6 วัดถ้ำบาดาล สถานที่สุดท้ายที่บัดดี้จะมานำเสนอในทริปนี้ คือวัดสวยกลางป่าและภูเขา สถานที่ประดิษฐาน “ปู่อธิบดีเวสสุวรรณ” หรือท้าวเวสสุวรรณร่างมนุษย์นั่นเอง และใกล้ ๆ กันยังมี “ท้าวเวสสุวรรณองค์ใหญ่” ในร่างยักษ์ ที่มีความสูงถึง 6 เมตรอยู่ด้วย มีความเชื่อว่า หากใครได้กราบไหว้ท้าวเวสสุวรรณ จะได้รับพรปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและบังเกิดโชคลาภมากมายอีกด้วย นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีจุดอื่น ๆ ให้ผู้ศรัทธาเยี่ยมชมอีกหลายจุด โดยที่แรกที่บัดดี้จะพาเพื่อน ๆ มาก็คือ “ถ้ำบาดาล” ถ้ำที่ต้องเดินลงบันไดไป 54 ขั้น ประกอบด้วย 3 ห้อง ห้องแรกมีปู่ธนบดีเวสสุวรรณและพญานาคหลายองค์ให้กราบไหว้ ห้องที่ 2 จะมี “พระพุทธไสยาสน์ปางปรินิพพาน” ขนาดใหญ่ สามารถขอพรเรื่องการเดินทาง แคล้วคลาดปลอดภัยได้ ส่วนห้องที่ 3 ด้านในสุดเป็นห้องประดิษฐานองค์ดำแสนสิริจันทรานาคราช ขอพรเรื่องทรัพย์สินได้ ถ้ำที่สองที่บัดดี้ได้เข้า ชื่อว่า “ถ้ำปู่ชีวกโกมารภัจจ์” เป็นถ้ำที่ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าไป ด้านหน้าทางเข้ามีรูปปั้นองค์มีปู่ภุชงค์กายมนุษย์ ภายในมีทั้งหินปะการังรูปพญาเต่าและรูปปั้นปู่ชีวกโกมารภัจจ์ สามารถขอพรเรื่องสุขภาพได้ แถมในถ้ำนี้ยังมีบ่อน้ำมนต์ที่นำมาประพรมเพื่อสิริมงคลและความสำเร็จได้ อีกถ้ำที่บัดดี้ได้มีโอกาสเข้าไปสำรวจ คือถ้ำพระนางโสมาสีวิกานาคเทวี พญานาคีขอม 9 เศียร เป็นถ้ำเล็ก ๆ แต่บันไดทางขึ้น-ลงค่อนข้างชัน ภายในสวยงาม ว่ากันว่า หากขอด้วยความตั้งมั่น จะขออะไรก็สมหวังสมปรารถนา นอกจากนี้ ที่วัดยังมีถ้ำนาคอสูรที่จะเปิดช่วงสิ้นปีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายให้กราบไหว้ เชื่อว่าหากใครได้มาที่นี่จะได้ชมทั้งความงามของธรรมชาติและสัมผัสถึงความศรัทธาที่เข้มข้นของผู้คนที่มีต่อวัดแห่งนี้แน่นอน ถือเป็นอีกจุดหมายใหม่ที่บัดดี้แนะนำสุด ๆ 📌 148 หมู่ 4 อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี https://maps.app.goo.gl/6zJF9vSZ4X2KRCgX8⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.00-21.00 น.☎️ 09 2656 4988

วัด-ธนะ-ถ้ำ จ.สระบุรี อ่านเพิ่มเติม

สัมผัสเสน่ห์นครลำปางแบบเต็มอิ่ม 3 วัน 2 คืน

บัดดี้เสิร์ฟโปรแกรมท่องเที่ยวที่เพื่อน ๆ สามารถเที่ยวเองและเที่ยวตามได้ สัมผัสเสน่ห์นครลำปางแบบเต็มอิ่ม 3 วัน 2 คืน เปิดประสบการณ์สุดประทับใจ ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวที่การันตีด้วยรางวัลกินรี ไปจนถึงอาหารรสเลิศ และดื่มด่ำกับธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ รวมถึงกิจกรรมสุดคลาสสิกอย่างการนั่งรถม้า ✨ Day 1📌 วัดพระธาตุลำปางหลวง📌 พิพิธภัณฑ์ซากดึกดำบรรพ์ ธรณีวิทยา และธรรมชาติวิทยา📌 ข้าวซอย น้ำเงี้ยว📌 ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย📌 ร้านอาหารบ้านพระยาสุเรนทร์ บาย มาดาม มูเซอ Day 2 📌 วัดพุทธบาทสุทธาวาส📌 อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน📌 นั่งรถม้ารอบเวียง📌 บ้านม้าท่าน้ำ📌 ร้านออลไรซ์ Day 3📌 วัดพระธาตุดอยพระฌาน📌 พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี📌 ครัวเนื้อหอม📌 บ้านป่องนัก📌 มิวเซียมลำปาง📌 ร้านแสร้งว่า *หมายเหตุ สามารถเพิ่มโปรแกรมเดินช้อปปิ้งสินค้า ของกิน ของที่ระลึก ชมบ้านเรือนโบราณทรงปั้นหยา 100 กว่าปีที่กาดกองต้าได้ ในวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 16.00-21.00 น.

สัมผัสเสน่ห์นครลำปางแบบเต็มอิ่ม 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

น้ำตกชาติตระการ…อัญมณีแห่งธรรมชาติ จังหวัดพิษณุโลก

บัดดี้ชวนมาสัมผัสความงดงามของ ‘น้ำตกชาติตระการ’ น้ำตกขนาดใหญ่กลางผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป นอกจากความงดงามของสายน้ำที่ไหลลดหลั่นลงมาตามชั้นหินแล้ว นักท่องเที่ยวจะได้พบกับความหลากหลายของพืชพรรณไม้ ซึ่งยังคงรักษาความสมบูรณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี 💚 น้ำตกชาติตระการจึงเป็นจุดหมายปลายทางของผู้รักธรรมชาติที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย เพื่อสัมผัสกับความบริสุทธิ์ของผืนป่าและสายน้ำ เพื่อน ๆ คงอยากเห็นความงดงามของน้ำตกแต่ละชั้นกันแล้ว ตามมาดูภาพที่บัดดี้เก็บมาฝากกันเลย 📌 อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ ตำบลชาติตระการ อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก: https://maps.app.goo.gl/YAkFBZcuLRuzGdKQ6💸 อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท☎️ สอบถามข้อมูล โทร. 0 5590 6522 น้ำตกชาติตระการ อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่อำเภอชาติตระการไปจนถึงอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มีสภาพป่าเขาอุดมสมบูรณ์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามของธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป เริ่มจากชั้นที่ 1 มะลิวัลย์ เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากผาสูงประมาณ 30 เมตร สู่แอ่งน้ำกว้างใหญ่ที่มีหาดทรายเล็ก ๆ อยู่รอบ ๆ สวยงามมาก บัดดี้ชอบน้ำตกชั้นนี้มากเพราะบรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การมาพักผ่อน ชั้นที่ 2 กรรณิการ์ เป็นน้ำตกที่ไหลมาจากผาสูงใหญ่ ค่อนข้างอันตรายจึงไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ และชั้นที่ 3 การะเกด เป็นน้ำตกสูงประมาณ 10 เมตร สามารถนั่งเล่นได้แต่ไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำเช่นกัน ชั้นที่ 4 ยี่สุ่นเทศ มีลักษณะเป็นม่านน้ำ ตกลงมาบนแอ่งน้ำกว้างใหญ่ ล้อมรอบด้วยหาดทรายที่สวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำ ชั้นที่ 5 เกศเมือง ชั้นที่ 6 เรืองยศ และ ชั้นที่ 7 รจนา เป็นน้ำตกเล็ก ๆ ไหลรินทอดตัวยาวเป็นสายน้ำ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะสำหรับเดินเล่นเที่ยวชมธรรมชาติ

น้ำตกชาติตระการ…อัญมณีแห่งธรรมชาติ จังหวัดพิษณุโลก อ่านเพิ่มเติม

Green season ลำปาง…หน้าฝน

หน้าฝนปีนี้ บัดดี้อยากชวนเพื่อน ๆ มาแอ่ว ‘ลำปาง’ มาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจี มาเติมพลังงานบวก ปล่อยใจปล่อยกายไปกับธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้าน เดินเล่นดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสบาย ๆ เติมความสดชื่นท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนอาจยังไม่เคยไปเยือน วันนี้! บัดดี้ขอพาเพื่อน ๆ มาปักหมุดและออกเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมกันเลย พิกัดเที่ยว Green Season✅ บ้านป่าเหมี้ยง อ.เมืองปาน✅ น้ำตกแจ้ซ้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน✅น้ำตกแม่วะ อุทยาแห่งชาติแม่วะ 📌 บ้านป่าเหมี้ยง อ.เมืองปาน ชุมชนเล็ก ๆ ของอำเภอเมืองปาน ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปีและค่อนข้างหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว ที่นี่เป็นแหล่งปลูกกาแฟอะราบีกา และมีชื่อเรื่องการเก็บใบชาป่าที่ชาวเหนือเรียกว่า “เหมี้ยง” หรือ “เมี่ยง” ซึ่งกลายมาเป็นที่มาของชื่อ “บ้านป่าเหมี้ยง” แห่งนี้ โดยกิจกรรมที่น่าสนใจของชุมชน ได้แก่ การเดินป่าเก็บใบเมี่ยง การชมวิธีการทำเหมี้ยง การคั่วกาแฟ รวมไปถึงการทำอาหารซึ่งเป็นพืชผักออร์แกนิกโดยเฉพาะอาหารขึ้นชื่ออย่างยำใบเมี่ยง ข้าวซอยอูด้งใบเมี่ยง และยังมีสะพานรักดอกเสี้ยวและลานดอกเสี้ยว ซึ่งเป็นจุดชมดอกเสี้ยวออกดอกบานสะพรั่งช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคมของทุกปี และเพื่อน ๆ สามารถเลือกมาพักโฮมสเตย์ที่นี่ เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิดได้อีกด้วย ☎️ สอบถามข้อมูล คุณชาญชัย ผู้ใหญ่บ้านป่าเหมี้ยง โทร. 0 8489 49122 📌 น้ำตกแจ้ซ้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน หนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงของจังหวัดลำปาง และได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 (Thailand Tourism Awards) รางวัล Hall of Frame ประเภทแหล่งท่องเที่ยว สาขาแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ปี 2566 จากการท่องเที่ยวประเทศไทย เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำน้ำแม่มอญ มีน้ำไหลตลอดทั้งปีและมีแอ่งน้ำรองรับเป็นชั้น ๆ อยู่ 6 ชั้น มีทางเดินจากบ่อน้ำพุร้อนไปถึงน้ำตก ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1 กิโลเมตร ที่นี่ยังเป็นแหล่งน้ำพุร้อนทางธรณีวิทยาที่มีอุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ และมีไอน้ำลอยปกคลุมรอบบริเวณ ซึ่งเป็นที่นิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่เพื่อรับประทาน และมีบริการ ห้องอาบน้ำแร่ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น 💸 อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท☎️ สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โทร. 08 9851 3355☎️ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760✨ เว็บไซต์ www.dnp.go.th📌 https://maps.app.goo.gl/S4SuLgAUew9QUGz99 📌 น้ำตกแม่วะ อุทยาแห่งชาติแม่วะ ตั้งอยู่บ้านน้ำดิบ ตำบลแม่วะ อำเภอเถิน ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วะ เป็นน้ำตก 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกัน มีทางเดินขึ้นไปถึงแค่ชั้นที่ 3 ชื่อว่า “ตาดห้วยส้มป่อย” ระยะทาง 700 เมตร โดยชั้นที่สูงที่สุดคือน้ำตกชั้นที่ 6 มีชื่อว่า “ตาดหลวง” มีความสูงประมาณ 100 เมตร จากนั้นทางเริ่มสูงชันขึ้นไปจนถึงชั้นที่ 7 รวมระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ซึ่งต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง 💸 อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท☎️ สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติแม่วะ โทร. 08 1112 2855 ☎️ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760✨ เว็บไซต์ www.dnp.go.th📌 https://maps.app.goo.gl/JTQtXVp5xcaf3XmMA

Green season ลำปาง…หน้าฝน อ่านเพิ่มเติม

เปิดแล้ว!! เทศกาลท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวบาน จังหวัดชัยภูมิ

เทศกาลท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าฝน ที่นักท่องเที่ยวทุกคนรอคอย ดอกกระเจียวสีชมพูสีขาวสวย ออกดอกบานสะพรั่งท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม และหากโชคดีในช่วงเช้าจะมีสายหมอกแวะมาทักทายให้ร่างกายได้สัมผัสความหนาวเบา ๆ เพื่อเป็นการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ บัดดี้เลยอยากจะขอความร่วมมือเพื่อน ๆ เดินชมดอกกระเจียวในบริเวณทางเดินที่อนุญาตเท่านั้น จะได้มีดอกกระเจียวสวย ๆ หญ้าเขียว ๆ ให้เพื่อน ๆ ชมไปได้นาน ๆ สามารถท่องเที่ยวชมดอกกระเจียวได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2568 โดยคาดว่าจะบานเต็มทุ่งกลางเดือนมิถุนายน 📌 อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิhttps://maps.app.goo.gl/Ve4fF7pwCsJ6TYW49 📌 อุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิhttps://maps.app.goo.gl/Ve4fF7pwCsJ6TYW49

เปิดแล้ว!! เทศกาลท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวบาน จังหวัดชัยภูมิ อ่านเพิ่มเติม

บัดดี้ชวนชิม “ทุเรียนหลง-หลิน” เมืองลับแล

ฤดูแห่งสายฝน นับเป็นช่วงเวลาของเทศกาลผลไม้ที่หลาย ๆ คนรอคอย วันนี้…บัดดี้ชวนชิม! ขอเอาใจสายทุเรียน Lover ชวนเพื่อน ๆ มาชิมผลไม้ขึ้นชื่อ ราชาแห่งผลไม้ ของดีเมืองอุตรดิตถ์อย่าง ‘ทุเรียนหลง-หลินลับแล’ สายพันธุ์ทุเรียนที่คนรักทุเรียนต้องมาลองชิมกัน! 😋 ทุเรียนหลงลับแลและทุเรียนหลินลับแล เป็นทุเรียนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งปลูกใน 3 อำเภอเท่านั้น ได้แก่ อำเภอลับแล อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และอำเภอท่าปลา ด้วยรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่หวานมันกำลังดี กลิ่นไม่แรง มีสีเหลืองนวล จึงเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ทุเรียนที่คนรักทุเรียนต้องลองทานสักครั้ง ✨ ความแตกต่างของทุเรียนหลง-หลินลับแล👉 ทุเรียนหลงลับแล: ลักษณะผลกลมหรือกลมรี มีกลิ่นอ่อน เนื้อมีสีเหลืองเข้ม เนื้อเหนียวละเอียด ไม่เละ รสชาติหวานมัน หอมอ่อน ๆ👉 ทุเรียนพันธุ์หลินลับแล: ลักษณะผลทรงกระบอก เนื้อจะมีสีเหลืองอ่อน เนื้อแห้งไม่เละ รสหวานมันครีมมี่ กลิ่นหอมไม่แรง และที่สำคัญเมล็ดลีบ ✅ สวนป้าเรียน บ้านไม้ยกพื้นสูงท่ามกลางสวนผลไม้อย่างทุเรียนในลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ดัดแปลงพื้นที่บริเวณใต้ถุนบ้านมาเป็นสถานที่จำหน่ายทุเรียนสายพันธุ์หลง-หลินลับแล และผลไม้ตามฤดูกาล เช่น มะยงชิต มังคุด ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของผลไม้ที่ปลูกโดยรอบ เพื่อน ๆ สามารถเดินเล่นชมสวนและถ่ายรูปสวย ๆ กับผลไม้ จุดเช็กอินยอดฮิตของสวนป้าเรียน ก็คือ คาเฟน่ารักกลางสวนทุเรียนอย่าง “Summer Green Cafe” ซึ่งอยู่บริเวณด้านข้างตัวบาน ที่นี่มีเมนูพิเศษที่รังสรรค์มาจากผลไม้ตามฤดูกาลที่ปลูกไว้รอให้เพื่อน ๆ มาลิ้มลอง โดยเฉพาะชาวทุเรียน Lover ทั้งเมนูเครื่องดื่มและไอศกรีมผลไม้โฮมเมด เช่น ทุเรียน มะยงชิด ลองกอง เมนูของหวานอย่างชีสเค้กทุเรียน เฉาก๊วยทุเรียนนมสด วาฟเฟิลโบลไอศกรีมทุเรียนมะพร้าว ทุเรียนคาราเมลมิลค์เชค เฉาก๊วยทุเรียนนมสด ทุเรียนคาราเมลมิลค์เชค ซึ่งจัดตกแต่งแต่ละเมนูออกมาได้ดูสวย ดูดี และเหมาะกับการถ่ายรูปมาก ๆ ถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาสมาเที่ยวอุตรดิตถ์ ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยว แวะมาชิม และก็แวะมาลิ้มรสความอร่อยของเมนูต่าง ๆ กันที่นี่นะ บัดดี้บอกเลยว่า…ของเขาดีจริง ๆ ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.☎️ 06 1796 4992📌 https://goo.gl/maps/kEN2cT8FCjMuAJQT9 ✅ สวนใจใหญ่ สวนใจใหญ่หรือร้านประนอมตามที่คนท้องที่รู้จักกัน เป็นอีกหนึ่งสวนทุเรียนที่บัดดี้อยากจะมาแนะนำเพื่อน ๆ ที่นี่เป็นเจ้าเก่าตลาดทุเรียนหัวดง เป็นล้งรับซื้อ-จำหน่ายทุเรียนหลายสายพันธุ์ทั้งหลงลับแล หลินลับแล หมอนทองลับแล และพันธุ์อื่น ๆ อีกเพียบ มีทุเรียนวางจำหน่ายบริเวณหน้าร้านและให้บริการการสั่งซื้อออนไลน์ มีคาเฟเล็ก ๆ สไตล์มินิมอลให้บริการเมนูเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และยังมีทุเรียนพร้อมทานที่สามารถเลือกซื้อมาทานกันได้อย่างจุใจ ^^ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสวนทุเรียนอยู่ลึกเข้าไปด้านหลังล้งทุเรียน ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเข้าไปเดินชมและถ่ายรูปเช็กอินกับทุเรียนแบบเก๋ ๆ ได้ด้วย ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.☎️ 08 1042 1410, 09 3171 2540📌 https://maps.app.goo.gl/X4vEc4MqdzSkfASV7 ✅ หลงสวน ณ ลับแล อีกหนึ่งสวนที่อยากจะแนะนำก็คือที่นี่เลย “หลงสวน ณ ลับแล” สวนทุเรียนซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่มีทั้งคาเฟ ร้านจำหน่ายทุเรียน และยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ที่ให้บรรยากาศแบบผ่อนคลายสบาย ๆ และที่สำคัญที่นี่ก็มีทุเรียนหลิน-หลงลับแลให้เลือกซื้อเลือกรับประทานกันเหมือนกัน คาเฟต้องเดินขึ้นเนินไปนิดหน่อย บรรยากาศระหว่างทางก็ร่มรื่น มีมุมให้แวะถ่ายรูปสวน ๆ กับต้นทุเรียน มีบริการทั้งเมนูอาหารคาวและของหวาน ทั้งส้มตำ พิซซ่า และเมนูพิเศษที่มีแค่เพียงช่วงหน้าทุเรียนอย่าง “ดอกทุเรียนทอดจิ้มน้ำพริกกะปิ ดอกทุเรียนและเกสรทุเรียนทอดกรอบ” หรือแม้แต่อาหารถิ่นของชาวลับแลอย่าง “ข้าวพันผัก” ก็มีให้เลือกรับประทานกัน ที่นี่ยังมีเมนูเครื่องดื่มที่รังสรรค์จากผลไม้ที่ปลูกภายในสวน เช่น มะยงชิดปั่น อเมริกาโน่มะยงชิด มะยงชิดปั่นครีมชีส ชีสพายมะยงชิด ชีสเค้กมะยงชิด หากเพื่อน ๆ อยากลองมาพักกายพักใจท่ามกลางธรรมชาติ หลงสวน ณ ลับแล ก็ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้บริการด้วยนะ มีอยู่แค่ 3 หลังเท่านั้น ถ้าจะมาพัก บัดดี้ก็ขอแนะนำให้จองล่วงหน้ากันสักนิด โดยเฉพาะช่วงหน้า High Season ⏰เปิดทุกวันเวลา 09.30-18.30 น.☎️08 1346 6304

บัดดี้ชวนชิม “ทุเรียนหลง-หลิน” เมืองลับแล อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top