เชียงราย

เชียงราย

วัดร่องเสือเต้น : เชียงราย

วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ที่ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย ในอดีตวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดร้าง มีสัตว์ป่ารวมทั้งเสืออยู่มาก จึงเป็นที่มาของชื่อวัด “ร่องเสือเต้น” ภายหลังชาวบ้านได้ร่วมกันบูรณะวัดขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญต่างๆ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน สิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดในวัดแห่งนี้คงหนีไม่พ้น วิหารสีน้ำเงิน ซึ่งรังสรรค์โดย “สล่านก” หรือ นายพุทธา กาบแก้ว ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2548 แล้วเสร็จ พ.ศ.2559 รวมระยะเวลาถึง 11 ปีด้วยกัน ลักษณะสถาปัตยกรรมและการประดับตกแต่งส่วนต่างๆ ของวิหาร จึงดูคล้ายคลึงกับผลงานของ อ.เฉลิมชัย รวมไปถึง อ.ถวัลย์ ดัชนี ซึ่งเป็นสองศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายนั่นเอง ภายในวิหารประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” พระประธานสีขาวปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ซึ่งภายในพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานให้ ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทรงระฆัง สูง 20 เมตร นามว่า “พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์” บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง หากเพื่อนๆ มีโอกาสแวะเวียนไปเชียงราย ก็อย่าพลาดไปชมความงดงามของวัดแห่งนี้นะ ที่ตั้ง : ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงรายโทร. 082 026 9038เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-17.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 10 กันยายน 2562

วัดร่องเสือเต้น : เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

ไร่ชาฉุยฟง : เชียงราย

ไร่ชาฉุยฟง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นไร่ชาชื่อดังของเชียงรายที่มีมานานกว่า 40 ปี ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ เป็นแหล่งปลูกชาชั้นดี และยังเป็นผู้ผลิตชารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงรายอีกด้วย ภายในบริเวณไร่ชาฉุยฟงจะมองเห็นแปลงชาที่ปลูกเรียงรายไปตามไหล่เขาอย่างเป็นระเบียบ ระหว่างทางจะมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เราได้แวะจอดรถลงไปถ่ายรูปกันตลอดทาง จุดนี้คือ “ฉุยฟง ที คาเฟ่” ที่มีขนมและเครื่องดื่มให้เราได้เลือกซื้อเลือกทานกัน มีทั้งโซนที่นั่งแบบเปิดโล่ง (Open air) และโซนในห้องแอร์ ส่วนด้านบนที่เหมือนดาดฟ้านั้น เราสามารถขึ้นไปชมวิวไร่ชาและถ่ายภาพสวยๆ ได้ มาดูเมนูที่แอดสั่งกันบ้าง เริ่มด้วยเครปเค้กชาไทย ที่ราดด้วยซอสชาไทยเข้มข้น อร่อยเลยทีเดียว ชาเขียวถั่วแดงปั่น แอดชอบมาก เพราะถั่วแดงที่นำมาปั่นไม่ได้ผสมน้ำเชื่อมเลย เข้ากับชาเขียวสุดๆ มาไร่ชาทั้งที แอดก็เลยสั่งเมนูชาแบบจัดหนักจัดเต็มมากๆ มีทั้งเค้กชาเขียว ชีสเค้กชาเขียว ไอศกรีมชาเขียว และชาเขียวปั่น เนื่องจากที่นี่เป็นทั้งไร่ชาและแหล่งผลิตชา ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยในเรื่องคุณภาพ เพราะมันดีมากกกกก อร่อยทุกอย่าง ละมุนลิ้นไปหมด รสชาติชาเขียวชัดเจน เข้มข้นขั้นสุด ไร่ชาฉุยฟงที่ตั้ง : ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 – 17.30 น.โทร. 053 771 563 เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 3 กันยายน 2562

ไร่ชาฉุยฟง : เชียงราย อ่านเพิ่มเติม

#ภาพเก่าเล่าเรื่อง การโล้ชิงช้าของชาวอาข่า จังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2505

#ภาพเก่าเล่าเรื่อง การโล้ชิงช้าของชาวอาข่า จังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2505.โล้ชิงช้า เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวอาข่าซึ่งเป็นชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่บนดอยในจังหวัดเชียงราย ที่สืบทอดมานานกว่า 2,700 ปี.ประเพณีนี้จัดขึ้นในช่วงที่ผลผลิตทางการเกษตรกำลังเติบโตงอกงาม เพื่อเป็นการฉลองความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณที่พร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยวไว้บริโภค.ในประเพณีนี้ผู้หญิงชาวอาข่าจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสวยงามและสวมใส่เครื่องประดับต่างๆ ในปัจจุบันเราสามารถชมประเพณีโล้ชิงช้าได้ที่หมู่บ้านผาหมี อำเภอแม่สาย และดอยแม่สลอง อำเภอแม่ฟ้าหลวง โดยงานจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนของทุกปี.สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม – 081 952 2179 สมาคมอาข่า– 053 717 433 ททท. สำนักงานเชียงราย

#ภาพเก่าเล่าเรื่อง การโล้ชิงช้าของชาวอาข่า จังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2505 อ่านเพิ่มเติม

ชีวิตธรรมดา Coffee House, Bistro & Bar

ร้านชีวิตธรรมดา เป็นบ้านไม้ 2 ชั้นสีขาว ริมแม่น้ำกก ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้นานาชนิด  ด้านในตกแต่งสไตล์วินเทจ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน มาร้านคอฟฟี่เฮ้าส์สไตล์อังกฤษทั้งที ก็ต้องสั่งเครื่องดื่มเก๋ๆ มาจิบชิลๆ สักหน่อย “กาแฟเย็นสูตรชีวิตธรรมดา” เมนูซิกเนเจอร์ที่นำกาแฟไปทำเป็นก้อนน้ำแข็ง เสิร์ฟมาพร้อมนมและน้ำเชื่อม ให้เราปรุงรสชาติหวานมันได้ตามชอบ เรียกว่าเป็นกิมมิคของทางร้านเลยก็ว่าได้ค่ะ9 อาหารของที่นี่เป็นแบบฟิวชั่น ที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยกับอาหารตะวันตก มีเมนูให้เลือกหลากหลาย เรามาประเดิมกันที่จานนี้ “ข้าวผัดสับปะรดนางแล” หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของทางร้านที่มาแล้วต้องลอง เพราะนอกจากจะเสิร์ฟมาอย่างอลังการในลูกสับปะรด และมีกุ้งชุบแป้งทอดตัวใหญ่โปะด้านบนแล้ว ยังมีสลัดผักแสนอร่อยให้ทานคู่กันอีกด้วย หากใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาทานอาหารตะวันตก แอดขอแนะนำ “Swedish Style Hash Pyttipanna” ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูยอดฮิตของร้าน ประกอบด้วยมันฝรั่ง เบคอน และแฮมที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปรุงรสและคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทอปด้วยไข่ดาว รสชาติจะอร่อยขนาดไหน ต้องไปลองด้วยตัวเองนะคะ  ทานของคาวแล้วก็ต้องตบท้ายด้วยของหวาน ถึงจะเรียกว่า อิ่มครบจบในที่เดียว “ชีสเค้กมะม่วง” จานนี้มีครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นความหวานละมุนของเนื้อเค้ก รสหวานอมเปรี้ยวของมะม่วง และรสเค็มผสมความกรุบกรอบของครัสต์ รวมกันแล้วจึงกลายเป็นความอร่อยที่ลงตัวสุดๆ เลยค่า สำหรับใครที่เป็นสายชา ทางร้านก็มีเครื่องดื่มประเภทชาให้เลือกดื่มนะคะ อย่าง “ชาเย็นโบราณ” แก้วนี้ รสชาติกลมกล่อม หวานมันกำลังดี นอกจากด้านในตัวบ้านแล้ว ภายในร้านก็ยังมีที่นั่งอีกหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนในสวน หรือริมแม่น้ำกก บรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ ที่ตั้ง 179 หมู่ 2 ถ.ร่องเสือเต้น ซ.3 (ริมแม่น้ำกก) ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงรายเปิดทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น.โทร. 081 984 2925พิกัด : https://g.page/ChivitThammada?share

ชีวิตธรรมดา Coffee House, Bistro & Bar อ่านเพิ่มเติม

ร้าน “จันกะผัก” จังหวัดเชียงราย

ร้านจันกะผักตั้งอยู่ภายในศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดเชียงราย ที่นี่เป็นร้านอาหารไทย ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงผักที่นำมาปรุงอาหารเป็นผักจากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ รับรองได้เลยว่าสด สะอาด และปลอดภัย เมนูแนะนำที่ต้องลองชิม ได้แก่ ส้มตำ(ทานคู่กับข้าวเหนียวอัญชัน) ผักทอด แหนมเนือง ข้าวยำน้ำบูดู และสลัดผักที่มีน้ำสลัดให้เลือกถึง 4 รส ใครที่ไม่ชอบทานผักต้องเปลี่ยนใจแน่นอน เพราะผักที่นี่หวาน กรอบ อร่อยมาก หลังจากทานของคาวแล้ว ก็มาตบท้ายด้วยของหวานกันดีกว่า ที่นี่มีของหวานให้เลือกหลายเมนู เช่น โยเกิร์ตฟรุตสลัด น้ำแข็งไส เค้ก และทีเด็ดก็คือ ไอศกรีมโฮมเมดหลากรส นอกจากอาหารอร่อยๆ แล้ว ทางร้านยังจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปจากผลผลิตของศูนย์ฯ อีกด้วย แอดขอเล่าความเป็นมาของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริสักเล็กน้อย… ศูนย์แห่งนี้เป็นโครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มูลนิธิชัยพัฒนาและมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงจัดตั้งขึ้น ที่นี่ปลูกพืชหลากหลายชนิดเพื่อนำเมล็ดพันธุ์ไปปรับปรุงจนได้สายพันธฺุ์ที่ดี สำหรับแจกจ่ายให้เกษตรกรนำไปเพาะปลูก มีทั้งพืชผักสวนครัว ผักพื้นบ้าน สมุนไพร พืชตระกูลแตง และผลไม้อีกหลายชนิด ถ้าเพื่อนๆ อยากชมบรรยากาศในส่วนต่างๆ ของศูนย์ฯ ที่นี่ก็มีรถรางให้บริการ แถมยังมีเจ้าหน้าที่บรรยายให้ความรู้อีกด้วย  สำหรับผู้ที่มาทานอาหารที่ร้านจันกะผัก ก็มาเดินเล่นรอบๆ ศูนย์ฯ ได้นะ ใกล้ๆ ร้านอาหารมีสระน้ำขนาดใหญ่ เพื่อนๆ สามารถไปให้อาหารปลาและเป็ด หรือนั่งเล่นเพลินๆ ได้ค่ะ ร้านจันกะผัก (ภายในศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ )ที่ตั้ง 905 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงรายพิกัด : https://goo.gl/maps/Sz57cMbzcUqdv58k6เปิดทุกวัน เวลา 07.30-21.00 น.โทร. 053 733 734

ร้าน “จันกะผัก” จังหวัดเชียงราย อ่านเพิ่มเติม

D.I.Y. Do it for you ทำงานฝีมือไปฝากคนรู้ใจ

เทศกาลวาเลนไทน์ใกล้เข้ามาแล้วว หลายๆ คนคงจะเริ่มวางแผนแล้วว่า วันแห่งความรักแบบนี้จะทำอะไรให้คนรู้ใจดีนะ วันนี้แอดจึงรวบรวมสถานที่สำหรับทำ D.I.Y เผื่อใครอยากจะทำของน่ารักๆ ด้วยฝีมือตัวเองไปมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษไม่ซ้ำใคร จินนาลักษณ์ miracle of saa มาดูของฝากน่ารักๆ อย่างกระดาษสากัน สามารถมอบให้กับสาวๆ หรือผู้ใหญ่ก็ยังได้ ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำกระดาษสาแบบดั้งเดิม และเป็นศูนย์จำหน่ายของที่ระลึกที่ทำจากกระดาษสา มีความกิ๊บเก๋อยู่ตรงที่เราสามารถออกแบบตกแต่งกระดาษสาได้เองด้วย ค่าใช้จ่ายกิจกรรม DIY กระดาษสา มี 2 แบบ คือ– ทำกระดาษสา พร้อมใส่กรอบไม้ ราคา 500 บาท– ทำกระดาษสาอย่างเดียว ไม่ใส่กรอบ (ทางร้านจะส่งไปรษณีย์ไปให้ที่บ้าน) ราคา 190 บาท นอกจากนี้ยังมีของฝากน่ารักๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกรอบรูป พัด หรือกล่องใส่ของ.ที่ตั้ง หมู่ 1 บ้านปางห้า ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงรายเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 17.00 น.โทร. 064 679 7470, 081 883 9062 ครามสกล การนำผ้ามาย้อมกับสีธรรมชาติที่ได้จากพืชท้องถิ่นอย่าง “ต้นคราม” เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวจังหวัดสกลนคร ที่สืบทอดกันมาหลายต่อหลายรุ่น สำหรับใครที่อยากจะลงมือทำผ้าย้อมครามด้วยตัวเองในแบบฉบับ D.I.Y. แอดแนะนำร้านผ้าย้อมคราม @ครามสกลเลย เพราะที่นี่มีวิทยากรมาคอยสอนและสาธิตขั้นตอนการทำอย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ร้านก็มีลวดลายเก๋ๆ ให้เลือกเยอะมาก หรือใครจะครีเอทออกมาเองให้เก๋ไก๋ไม่ซ้ำแบบใครก็ได้ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจผลิตภัณฑ์จากผ้าคราม ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ และของใช้ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเค้าพัฒนาดีไซน์ได้เก๋ไก๋ เป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นมากๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้ที่ Facebook : KhramSklKramsakon หรือถ้าใครสนใจอยากลองทำผ้าย้อมครามเก๋ๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ร้านผ้าย้อมคราม @ครามสกล-Kramsakon ที่ตั้ง บ้านพะเนาว์ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนครเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.Line id : @kramsakonโทร 080 582 6655 บ้านด่านเหนือแพรฝ้าย พูดถึงกาฬสินธุ์ หลายคนก็คงนึกถึงไดโนเสาร์และผ้าทอใช่มั้ย แอดจะพาไปทำความรู้จักกับชุมชนกลุ่มทอผ้ามัดหมี่และหมอนขิดที่บ้านด่านเหนือ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าขาวม้า ผ้าห่ม ผ้ามัดหมี่ และตุ๊กตาไดโนเสาร์นั่นเองค่ะ และเราก็สามารถลงมือทำกิจกรรม DIY ทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ และพวงกุญแจได้ด้วย เราจะได้ลงมือทำทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตัดผ้า ยัดนุ่น ไปจนถึงเย็บให้เป็นตุ๊กตา บอกเลยว่าทั้งสนุกและได้ความรู้มากมายเลย เหมาะที่จะพาคนรู้ใจไปนั่งทำกิจกรรมร่วมกันมากๆ หากเพื่อนๆคนไหนสนใจกิจกรรม DIY การทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ หรือพวงกุญแจ ต้องติดต่อล่วงหน้านะคะ ที่ตั้ง 116/2 บ้านด่านเหนือ ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์โทร. 081 739 1434 คุณนัฐพร มหิพันธุ์ (ผู้จัดการ) Cocoa Valley วาเลนไทน์เราจะพลาดช็อกโกแลตได้ไง สำหรับใครที่อยากจะให้ของขวัญคนที่เรารักเป็นช็อกโกแลตหวานๆ แอดแนะนำที่นี่เลย เราสามารถทำช็อกโกแลตได้ด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่เก็บผลโกโก้ในสวน ไปจนถึงขั้นตอนการทำ เรียกได้ว่าเป็นฝีมือของเราจริงๆ เลยล่ะ กิจกรรมใช้เวลา 45 นาที ราคาคนละ 350 บาท ที่ตั้ง 339 หมู่ 8 ต.ปัว อ.ปัว จ.น่านเปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.โทร 063 791 1619 Cocoa Valley เป็นทั้งรีสอร์ทสไตล์ลอฟท์ และยังมีโซนคาเฟ่ด้วย มีทั้งเบเกอรี และเครื่องดื่มที่ใช้ผลผลิตจากสวนโกโก้ของเค้าเองด้วยนะ เมืองไม้บาติก จังหวัดร้อยเอ็ด ผ้าบาติกของที่นี่มีเอกลักษณ์คือ นำผ้าไหมที่ขึ้นชื่อของร้อยเอ็ดมาเพนต์ลายแบบบาติก โดยใช้สีสันโทนธรรมชาติและลวดลายกราฟิกที่แปลกตา บาติกผ้าไหมมีเทคนิควิธีการทำเหมือนกับผ้าบาติกของภาคใต้ ต่างเพียงแค่สีและลวดลายเท่านั้น โดยเมืองไม้บาติกจะใช้สีโทนธรรมชาติไม่ฉูดฉาด และลวดลายจะเป็นลายธรรมชาติง่าย ๆ เช่น ปลา ใบไม้ ดอกไม้ หรือใยแมงมุม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงานบุญผะเหวด งานบุญใหญ่ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด มีลายให้เลือกวาดเยอะมากๆ ที่สำคัญเราสามารถช่วยกันวาดได้ด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าไปทำกับคนรู้ใจมากๆ เลยล่ะ ใครอยากมาระบายสีผ้าบาติกแบบแอด มาได้ที่เมืองไม้บาติกเลย ที่ตั้ง 281 ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ดเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00 – 20.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)โทร. คุณต่อศักดิ์ สุทธิสา 043 569 048, 081 261 4800

D.I.Y. Do it for you ทำงานฝีมือไปฝากคนรู้ใจ อ่านเพิ่มเติม

ชุมชนบ้านปางห้า จังหวัดเชียงราย

ชุมชนบ้านปางห้า เป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศไทยใน อ.แม่สาย ชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เพาะปลูก และทำงานฝีมือ ชุมชนแห่งนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว โดยมีจุดท่องเที่ยวให้แวะชมถึง 12 จุดด้วยกัน จินนาลักษณ์ Miracle of Saa ถือเป็นจุดต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมหมู่บ้านปางห้า ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำกระดาษสาแบบดั้งเดิม และเป็นศูนย์จำหน่ายของที่ระลึกที่ทำจากกระดาษสา ใครมาที่นี่จะได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาและกรรมวิธีในการทำกระดาษสาด้วย ก่อนไปลงมือทำกระดาษสาแบบ DIY แวะจิบกาแฟให้ชื่นใจกันก่อนที่ “Craft Cafe” ร้านกาแฟที่ตกแต่งเพดานด้วยโมบายกระดาษสาน่ารักๆ เอาล่ะ มาลงมือทำกระดาษสากัน ขั้นตอนการทำกระดาษสาแบบ DIY1. คัดเลือกเปลือกอ่อนจากต้นปอสา2. นำเปลือกมาต้มทิ้งไว้ 3 ชั่วโมงให้นิ่ม3. นำเปลือกที่ต้มแล้วมาทุบจนเป็นเยื่อละเอียด แล้วนำไปใส่ในแม่พิมพ์ที่แช่อยู่ในอ่างน้ำ เพื่อขึ้นรูปเป็นแผ่นกระดาษ4. ตกแต่งพิมพ์ด้วยใบไม้ดอกไม้ตามแต่จินตนาการของเรา5. นำไปตากให้แห้ง ก็เป็นอันเสร็จ ค่าใช้จ่ายกิจกรรม DIY กระดาษสา มี 2 แบบ คือ– ทำกระดาษสา พร้อมใส่กรอบไม้ ราคา 500 บาท– ทำกระดาษสาอย่างเดียว ไม่ใส่กรอบ (ทางร้านจะส่งไปรษณีย์ไปให้ที่บ้าน) ราคา 190 บาท เมื่อกระดาษสาแห้งแล้ว หน้าตาก็จะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ นอกจากการทำกระดาษสาแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดก็คือ การทำสปาหน้าด้วยใยไหมทองคำ มาส์กของที่นี่มีความพิเศษ เพราะเป็นมาส์กที่ทำจากใยไหม ซึ่งใยไหมนี้ได้มาจากตัวหนอนไหมที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงมีโปรตีนและสารอาหารที่ดีต่อผิวหน้า มีสรรพคุณช่วยลดริ้วรอย และทำให้จุดด่างดำบนใบหน้าจางลงด้วย ค่าใช้จ่ายในการทำสปาหน้า 900 บาท ถ้าใครติดใจก็สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ใยไหมทองคำกลับไปใช้ที่บ้านได้นะ ผลิตภัณฑ์ยอดฮิตคือ สบู่ล้างหน้า มาส์กหน้า พัฟล้างหน้า และครีมบำรุง นอกจากนี้ ภายในชุมชนยังมีกิจกรรมอีกหลายฐานให้เราได้แวะชม เช่น – สวนฝรั่งกิมจู ชิมฝรั่งกิมจูปลอดสารพิษ รสชาติหวานชื่นใจ – บ้านตีมีดไทลื้อ แหล่งตีมีดแห่งเดียวในชุมชนที่ยังคงอนุรักษ์ศิลปะการตีมีดแบบดั้งเดิมจากพม่า – บ้านหยก ชมการแกะสลักและเจียระไนหยกพม่าที่ต้องใช้ฝีมือและความประณีตเป็นอย่างมาก – บ้านทำเทียน ทดลองทำเทียนไหว้พระด้วยตนเอง ตั้งแต่การผสมวัตถุดิบไปจนถึงการหล่อเทียน – บ้านเกษตรอินทรีย์ ชมพืชผักปลอดสารหลากหลายชนิด – บ้านอิ่มอุ่น อาหารไทลื้อ ชิมอาหารไทลื้อแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่าไทลื้อ ข้าวแรมฟืน ข้าวซอยน้อย และข้าวซอยน้ำเงี้ยว – บ้านขนมล็อคนา ชิมขนมล็อคนาหรือขนมรังผึ้ง ที่มีความพิเศษอยู่ตรงแป้งที่ใช้ เป็นแป้งข้าวเจ้าที่โม่สดๆ ใหม่ๆ ไม่ใช้แป้งสำเร็จรูป สำหรับใครที่คิดว่า 1 วันที่ปางห้าไม่น่าจะพอ และอยากซึมซับบรรยากาศอันเงียบสงบให้นานกว่านี้ ที่นี่ก็มีโฮมสเตย์สวยๆ ให้พักด้วยนะ โฮมสเตย์ในชุมชนมีประมาณ 10 หลัง พักได้ 2-20 คน ราคาเริ่มต้นที่คนละ 500 บาท สำหรับเพื่อนๆ ที่มากันเป็นหมู่คณะ แอดแนะนำให้ซื้อโปรแกรมท่องเที่ยวกับทางชุมชน เพราะจะได้ทำกิจกรรมและนอนพักที่โฮมสเตย์ไปในคราวเดียวกันเลย (อย่าลืม!! ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์นะคะ) ที่ตั้ง : หมู่ 1 บ้านปางห้า ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงรายเปิดทุกวัน เวลา 08.30-17.00 น.โทร. 064 679 7470, 081 883 9062

ชุมชนบ้านปางห้า จังหวัดเชียงราย อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : พะเยา และเชียงราย

สำหรับวันนี้แอดจะชวนเพื่อนๆ ไปชมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ในเส้นทางพะเยาและเชียงรายค่ะ ซึ่งบอกเลยว่าน่าสนใจสุดๆ เพราะนอกจากจะได้ชมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว ระหว่างทางก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถแวะชมอยู่หลายแห่งด้วย  รับรองว่าสวยงาม คุ้มค่าการเดินทางสุดๆ ถ้าไม่เชื่อก็ตามแอดมาเลยจ้า  จังหวัดพะเยา แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : ขุนน้ำแม่ปืม ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแม่ปืม ต.บ้านเหล่า อ.แม่ใจ จ.พะเยา เป็นแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และยังเป็นต้นน้ำแม่ปืมอีกด้วย สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำ : วิหารวัดศรีโคมคำ อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา จังหวัดเชียงราย แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : บ่อน้ำทิพย์ ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุดอยตุง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เชื่อกันว่าเทพารักษ์เป็นผู้เนรมิตบ่อน้ำแห่งนี้ขึ้น เพื่อใช้สรงพระธาตุในช่วงเทศกาล สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำ : อุโบสถวัดพระแก้วพระอารามหลวง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง จังหวัดพะเยา– วัดศรีโคมคำ– พิพิธภัณฑ์เวียงพยาว– วัดพระธาตุจอมทอง จังหวัดเชียงราย– วัดร่องขุ่น– วัดพระแก้ว– อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช– วัดร่องเสือเต้น– พระตำหนักดอยตุง

เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ : พะเยา และเชียงราย อ่านเพิ่มเติม

5 จุดดูหมอกสุด FIN IN CHIANGRAI

ยามเมื่อสายลมหนาวพัดมาเยือน จุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้สำหรับคนชอบเที่ยว คือ จุดชมทะเลหมอก  เชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของไทย มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว สามารถพบเห็นทะเลหมอกตามเทือกดอยต่าง ๆ ซึ่งมีให้ได้เที่ยวชมกันอยู่หลายจุด รีวิวนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จัก 5 จุดชมทะเลหมอกที่น่าสนใจของเชียงราย รับรองว่าหากได้ไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตาตัวเองแล้วนั้น จะต้องร้องว้าว!! ไม่ผิดหวังกันแน่นอน 1. ภูชี้ฟ้า ที่ตั้ง : ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นภูเขาที่มียอดแหลมชี้เฉียงขึ้นฟ้าและยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูชี้ฟ้า” บนยอดภูเป็นทุ่งหญ้ากว้างและแนวหน้าผา สามารถชมทัศนียภาพได้โดยรอบ 360 องศา ทั้งทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  หากมาเที่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะพบดอกเสี้ยวขาวหรือดอกชงโคป่าบานสะพรั่งให้ได้ชมด้วย การขึ้นภูชี้ฟ้าแนะนำให้ติดต่อกับที่พักในหมู่บ้านด้านล่างที่เป็นทางขึ้นภู เช่น บ้านร่มฟ้าไทย บ้านร่มฟ้าทอง เพื่อเช่ารถกระบะรับ-ส่งขึ้นไปยังจุดเริ่มเดิน ซึ่งรถจะให้บริการตั้งแต่เวลา 04.30 น. เป็นต้นไป ค่ารถคนละ 60 บาท ใช้เวลา 10 นาที ก็จะถึงจุดเริ่มเดิน จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูชี้ฟ้า ระยะทางประมาณ 800 เมตร  การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงราย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 (เชียงราย-เทิง) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1021 (เทิง-บ้านปี้) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 ผ่านบ้านปางค่า จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1093 จนถึงภูชี้ฟ้า 2. ภูชี้ดาว ที่ตั้ง : ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ระหว่างภูชี้ฟ้าและดอยผาตั้ง บริเวณยอดเขามีลักษณะเป็นปลายแหลมชี้เฉียงขึ้นฟ้าจึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูชี้ดาว” สามารถชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้ในจุดเดียวกัน ทั้งยังมองเห็นภูชี้ฟ้า ภูชี้เดือน และดอยผาหม่น ได้อย่างชัดเจน ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของภูชี้ดาว คือ มีหมุดหลักเขตแดนไทย-ลาว ตั้งอยู่บริเวณจุดสูงสุดบนยอดภู และมีระเบียงไม้กันตกกั้นเป็นแนวยาวสำหรับชมวิวด้วย ที่นี่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี การขึ้นภูชี้ดาว จากถนนสายหลักคือทางหลวงหมายเลข 1093 ไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ เนื่องจากถนนแคบและที่จอดรถด้านบนไม่เพียงพอ ต้องจอดรถส่วนตัวไว้บริเวณลานที่จัดไว้ให้ และใช้บริการรถกระบะของชาวบ้านขึ้นไปยังจุดเริ่มเดิน มีรถให้บริการตั้งแต่เวลา 04.30 น. เป็นต้นไป ค่ารถไป-กลับ คนละ 100 บาท ใช้เวลา 10 นาที ก็ถึงจุดเริ่มเดิน จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูชี้ดาว ระยะทาง 350 เมตร  สำหรับที่พักใกล้ภูชี้ดาวนั้น มีที่พักของเอกชนตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 1093 บริเวณลานจอดรถขึ้นภูชี้ดาว และมีร้านอาหารให้บริการด้วย การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงราย ใช้เส้นทางเดียวกับไปภูชี้ฟ้า ไปจนถึงทางหลวงหมายเลข 1093 ให้เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางไปดอยผาตั้ง จนถึงบ้านร่มโพธิ์เงิน จะพบถนนทางขึ้นภูชี้ดาวอยู่ขวามือ 3. ภูชี้เดือนที่ตั้ง : ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย อยู่ห่างจากภูชี้ดาวเพียง 1 กิโลเมตร ความโดดเด่นของภูชี้เดือนคือ จากบริเวณจุดชมวิว นอกจากจะได้ชมทั้งพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก และพระอาทิตย์ตกแล้ว หากมองไปทางขวาจะเห็นยอดภูชี้ฟ้าและภูชี้ดาว ส่วนทางซ้ายจะเห็นยอดดอยผาหม่นได้อย่างชัดเจน  การเดินเท้าจากลานจอดรถขึ้นมายังจุดชมวิวก็สะดวกมาก เพราะเดินขึ้นเนินที่ไม่ชันเพียง 50 เมตรเท่านั้น สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี การขึ้นภูชี้เดือนนั้นมีขั้นตอนเหมือนการขึ้นภูชี้ดาวคือ จากทางหลวงหมายเลข 1093 ไม่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปได้ ต้องจอดรถส่วนตัวไว้บริเวณลานที่จัดไว้ให้ และใช้บริการรถกระบะของชาวบ้านขึ้นไปยังจุดเริ่มเดิน มีรถให้บริการตั้งแต่เวลา 04.30 น. เป็นต้นไป ค่ารถไป-กลับ คนละ 100 บาท ใช้เวลา 10 นาที ก็ถึงจุดเริ่มเดิน จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมวิว ระยะทางเพียง 50 เมตร 4. ดอยผาตั้ง ที่ตั้ง : ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นแนวเขาคดเคี้ยว บนยอดดอยเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในยามเช้า ท่ามกลางทิวเขาสลับซับซ้อน และยังมองเห็นแม่น้ำโขงซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างไทย-ลาว นอกจากนี้ยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกในเวลาเย็นได้เช่นกันที่นี่เปิดให้ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  จากลานจอดรถ ต้องเดินเท้าเลียบเลาะไปตามแนวสันเขาระยะทาง 200 เมตร จะถึงจุดชมวิวจุดแรก คือ “ผาบ่องประตูสยาม” ตามด้วย “ศาลาเก๋งจีน” “ช่องผาขาด” “เนิน 102” และไกลสุดคือ “เนิน 103” ซึ่งห่างจากลานจอดรถประมาณ 1 กิโลเมตร หากมาเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ก็จะได้เห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งสวยงามไปทั่วทั้งดอยผาตั้งด้วย บริเวณทางขึ้นไปจุดชมวิวดอยผาตั้ง มีที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกให้บริการมากมาย  การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงราย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1233 (เชียงราย-เวียงชัย) และทางหลวงหมายเลข 1173 (เวียงชัย-พญาเม็งราย) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1152 (พญาเม็งราย-บ้านต้า) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 (บ้านต้า-บ้านท่าเจริญ) ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1155 (บ้านท่าเจริญ-เวียงแก่น-ปางหัด) และทางหลวงชนบท ชร. 4029 จนถึงดอยผาตั้ง 5. จุดชมวิวดอยช้างมูบที่ตั้ง : ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จุดชมวิวดอยช้างมูบตั้งอยู่ที่ “ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ” ในพื้นที่กองร้อยทหารม้าที่ 2 บนความสูง 1,485 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง  เป็นจุดชมวิวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ใกล้แนวเขตชายแดนไทย-เมียนมา ในยามเช้ามักพบทะเลหมอกปกคลุมหุบเขาเบื้องล่าง และมีสายลมเย็นพัดผ่านตลอดทั้งปี บริเวณจุดชมวิวยังมีแปลงไม้ดอกไม้ประดับเล็ก ๆ ให้ถ่ายรูปด้วย บริเวณจุดชมวิวสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ แต่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งเป็นผู้ดูแลฐานปฏิบัติการ หรือหากใครพักบริเวณดอยตุง ก็สามารถขึ้นมาชมทะเลหมอกยามเช้าของที่นี่ได้

5 จุดดูหมอกสุด FIN IN CHIANGRAI อ่านเพิ่มเติม

Viewpoint “ดอยผาตั้ง”

เพื่อนๆ เคยเป็นมั้ยคะ? เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวทีไร สถานที่ท่องเที่ยวที่นึกถึงมักจะหนีไม่พ้นภูเขาสักที วันนี้แอดจึงจะมาชวนเพื่อนๆ ไปสัมผัสอากาศหนาวบนภูเขากันที่ “ดอยผาตั้ง” ค่ะ รับรองว่าฟินสุดๆ  เพราะเพื่อนๆ สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศามีทั้งทะเลหมอกในยามเช้าและพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ที่ บ้านผาตั้ง หมู่ 14 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงรายhttps://goo.gl/maps/VWvwLRfAXJ22 เนื่องจาก “ดอยผาตั้ง” มีลักษณะเป็นสันเขาคดเคี้ยว จึงทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงาม และดูแปลกตากว่าที่อื่นๆ ค่ะ ดอยผาตั้ง เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียวค่ะ  สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบบรรยากาศในยามเช้า ก็จะได้สัมผัสกับทะเลหมอก ที่งดงามสุดอลังการ แต่ถ้าใครชื่นชอบบรรยากาศในยามเย็น ก็จะได้พบกับพระอาทิตย์อัสดง ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยค่ะ เพื่อนๆ เคยสงสัยมั้ยคะ ว่าทำไมสถานที่เดียวกันแต่ต่างเพียงช่วงเวลา จึงสามารถทำให้เราพบกับมุมมองใหม่ๆ ที่สวยงามได้  คำตอบของคำถามนี้ไม่สามารถนำอะไรมาวัดหรือกำหนดได้ เพราะนี่คือ “ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ” ค่ะ  นอกจากจุดชมวิวบริเวณดอยผาตั้งแล้ว เพื่อนๆ ยังสามารถท่องเที่ยวตามจุดชมวิวอื่นๆ บนดอยผาตั้งได้อีกด้วยนะคะ ซึ่งก็มีความสวยงามและน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ จุดชมวิวผาบ่องประตูสยาม มีลักษณะเป็นหน้าผาขนาดใหญ่ ตรงกลางมีช่องเขาเหมือนประตู  ตามตำนานว่ากันว่าบริเวณนี้เป็นประตูรักแห่งขุนเขา เต็มไปด้วยพลังรักอันบริสุทธิ์ หากจับมือกับคนรักและเดินก้าวข้ามผ่านไปด้วยกัน จะช่วยส่งเสริมให้ความรักให้แข็งแกร่งดั่งภูผา ฮั่นแน่ แอบสนใจกันอยู่ใช่ม้าาาา  จุดชมวิวช่องผาขาด จุดนี้อยู่ไม่ไม่ไกลจากจุดชมวิวผาบ่องประตูสยามมากนัก มีลักษณะเป็นผาหินที่แยกขาดจากกัน ทำให้สามารถมองลอดผ่านช่องนี้ไปได้ค่ะ  ซึ่งจะทำให้เพื่อนๆ ได้พบกับทิวทัศน์ของประเทศลาว และความสวยงามของแม่น้ำโขงค่ะ  นอกจากจุดชมวิวที่แอดแนะนำมา ก็ยังมีจุดชมวิวอีกหลายจุด ที่คอยให้เพื่อนๆ ได้ออกเดินทางไปสัมผัส และชมความงดงามเหล่านั้นผ่านดวงตาของเพื่อนๆ อยู่นะคะ ลองออกไปสัมผัสดู แล้วจะรู้ว่าเมืองไทยยังมีอะไรที่คาดไม่ถึงและชวนให้เราหลงใหลอีกมากมาย

Viewpoint “ดอยผาตั้ง” อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top