กาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์

บั้งไฟตะไลล้าน กาฬสินธุ์

บั้งไฟตะไลล้าน กาฬสินธุ์ . ประเพณีบุญบั้งไฟ หรือบุญเดือนหก นับเป็นประเพณีบุญทางอีสานที่โดดเด่นเป็นลำดับต้น ๆ นิยมจัดก่อนเริ่มฤดูทำนา เพื่อบูชาเทวดาและขอให้ฝนตกตามฤดูกาล ปัจจุบันชาวอีสานก็ยังคงอนุรักษ์ประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้สืบกันมา . วันนี้แอดมีเรื่องราวของบั้งไฟที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครมาฝากเป็นความรู้ นั่นคือ “บั้งไฟตะไลล้าน” ตำบลกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ บอกเลยว่าชมได้ที่นี่ที่เดียวในเมืองไทยค่ะ ความแตกต่างระหว่างบั้งไฟตะไลกับบั้งไฟทั่วไป– บั้งไฟหาง ตัวบั้งไฟใช้ท่อเหล็กแบบตรงยาว เวลาจุดบั้งจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแบบขึ้นตรง – บั้งไฟตะไล ใช้ท่อเหล็กเช่นเดียวกับบั้งไฟหาง แต่จะมีรูปทรงเป็นวงกลมคล้ายล้อเกวียน ใช้ไม้ไผ่บาง ๆ แบน ๆ ทำเป็นวงกลมครอบหัวท้ายบั้งไฟ เวลาจุด บั้งไฟจะหมุนขึ้นสู่ท้องฟ้า.ขนาดของตะไลก็มีหลายขนาด เดิมทีมีเพียงแค่การจุด “บั้งไฟตะไลหมื่น” ต่อมาขยายขนาดใหญ่ขึ้นเป็น “บั้งไฟตะไลแสน” และใหญ่ขึ้นไปอีกคือ “บั้งไฟตะไลล้าน” ไปจนถึงสิบล้านกันเลยทีเดียว ขับเคลื่อนด้วยปริมาณดินปืนจำนวนมาก ยิ่งบั้งไฟตะไลขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำยากเท่านั้น เพราะจะต้องอาศัยความชำนาญเป็นพิเศษ การแข่งขันจุดบั้งไฟตะไลจะวัดกันที่ “ความสูง” โดยจับเวลาตั้งแต่บั้งไฟตะไลลอยขึ้นจากพื้นจนกระทั่งตกลงสู่พื้นอีกครั้ง บั้งไฟตะไลของทีมไหนทำเวลาอยู่ในอากาศได้นานที่สุดก็ถือว่าเป็นผู้ชนะ . ปกติแล้วงานบั้งไฟตะไลล้าน จะจัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนพฤษภาคม แต่ปีนี้แอดขอแชร์เรื่องราวดี ๆ ของบั้งไฟตะไลล้านให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันก่อน หากสถานการณ์คลี่คลายกลับมาเป็นปกติ หาโอกาสไปเที่ยวชมกันนะคะ

บั้งไฟตะไลล้าน กาฬสินธุ์ อ่านเพิ่มเติม

ชวนครอบครัวเที่ยวสงกรานต์ กับ 5 สถานที่เที่ยวเมืองรอง

วันสงกรานต์ ถือเป็นเทศกาลที่สำคัญของคนไทย หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้เทศกาลนี้มาถึงไว ๆ เพราะนอกจากจะได้หยุดยาวพักผ่อนแล้ว ช่วงเทศกาลสงกรานต์ยังมีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำ โดยสิ่งที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเป็นอันดับแรกคือการละเล่นน้ำ ประแป้ง คลายร้อน การร่วมกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ หรือเข้าวัด ไหว้พระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ของไทย แต่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 14 เมษายน ของทุกปี ยังถือเป็นวันครอบครัวอีกด้วย เราเลยอยากชวนทุกครอบครัวไปเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวสงกรานต์ในรูปแบบใหม่ สไตล์เมืองรอง ที่ถึงแม้จะงดเล่นน้ำ งดประแป้ง แต่ก็ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ของ 5 สถานที่เมืองรอง ที่มีครบทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายบุญ สายออกกำลังกาย หรือว่าจะสายกิน ที่รับรองว่าได้ลองแล้วจะติดใจจนต้องชวนครอบครัวออกไปเที่ยวซ้ำอีกแน่นอน วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ .วันสงกรานต์ ถือเป็นประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทยในสมัยโบราณ เป็นการเปลี่ยนปีจุลศักราช ซึ่งปัจจุบันถึงแม้จะกำหนดให้วันที่ 1 มกราคม ของทุกปีเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามหลักสากล แต่ชาวไทยพุทธศาสนา ยังถือว่าวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย ไหน ๆ ก็หยุดยาวปีใหม่ไทยทั้งที ถือเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่ไม่ควรพลาดในการพาครอบครัวเข้าวัด ไหว้พระ ทำบุญ เสริมความสิริมงคลให้แก่ครอบครัว โดยวัดที่เราจะพาทุกครอบครัวไปไหว้พระเริ่มต้นปีกันนั้นก็คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ถือเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ในสมัยของพระเจ้าอู่ทอง มีอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปี จุดเด่นของวัดอยู่ตรงองค์พระปรางค์ที่ถือเป็นต้นกำเนิดพระพิมพ์ผงสุพรรณบุรีอันโด่งดัง มาที่นี่นอกจากจะได้พาครอบครัวมาสรงน้ำพระวันสงกรานต์เพื่อเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ในปีใหม่ ที่คนไทยโบราณเชื่อว่าชีวิตก็จะราบรื่นมีความสุขไปตลอดปีแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์จากสถานที่จริงอีกด้วย.สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง– อุทยานมังกรสวรรค์ 400 เมตร– วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร 2.9 กม.– หอเกียรติยศ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา 3.8 กม..ที่ตั้ง ถนนสมภารคง ต.รั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรีเปิดบริการทุกวัน ไร่ตามฟาร์มสุข.ขยับมาเที่ยวภาคตะวันออกกันบ้าง ที่จังหวัดจันทบุรี จังหวัดเมืองรองใกล้กรุง ที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันนี้ คือ การพาย Stand Up Paddle Board หรือที่เรามักจะเรียกกันเล่น ๆ ว่า SUP Board ในคลองบางกะจะ ด้วยเสน่ห์ความสวยงามคลองบางกะจะ ทำให้เราสามารถออกกำลังกาย และพักผ่อนไปได้ในคราวเดียวกัน ไม่ว่าจะอยากออกทริปพาย SUP ชมธรรมชาติช่วงเช้า ช่วงเย็น หรือจะเหมายาวๆทั้งวัน ที่นี่ก็มีบริการให้เลือกหลายช่วงเวลาตามความต้องการ.นอกจากนี้ยังมีบริการ Private Portrait SUP ทุกโปรแกรมของที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้ภาพสวย ๆ จากช่างภาพมืออาชีพที่มาถ่ายให้ โดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มอีกด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมขี่ม้า โดยที่ฟาร์มจะมีสนามฝึกขี่ม้า และมีคุณครูฝึกผู้เชี่ยวชาญดูแลอยู่ตลอดการเรียน เริ่มเรียนได้ตั้งแต่เด็กเล็ก 3 ขวบขึ้นไป หรือผู้ใหญ่ท่านไหนสนใจที่นี่ก็ยินดีต้อนรับเสมอ อัตราค่าบริการ SUP– แพคเกจเริ่มต้น ราคา 800บาท/คน รับจำนวนจำกัดไม่เกิน 7 ท่าน ต่อทริป ยกเว้น แพคเกจส่วนตัว จำนวนไม่เกิน 2 ท่าน หรือ ครอบครัว พ่อ แม่ ลูก * กรณีมีเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ขออนุญาตรับเฉพาะกลุ่ม ไม่รับแจมกรุ๊ปกับท่านอื่น * กรณี ลูกค้ามี บอร์ดมาเอง ขอร่วมแจมทริป มีค่าบริการ 300 บาท : 1 บอร์ด (พร้อมอาหาร เพิ่ม 150 บาท รวมค่าบริการ 450 บาท : 1 ท่าน) (อัตรานี้รวม ค่าบริการเจ้าหน้าที่,ค่าบำรุงสถานที่ ,น้ำดื่ม- ของว่าง ).อัตราค่าบริการขี่ม้า– ครึ่งชั่วโมง 200 บาท– 1 ชั่วโมง 400 บาท– คอร์สเรียน 4,000 บาท (เรียน 10 ชั่วโมง แถมฟรีอีก 1 ชั่วโมง).สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง– ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 2.4 กม.– ชุมชนริมน้ำจันทบูร 8.6 กม.– ชุมชนขนมแปลก 12 กม..ที่ตั้ง 68/3 หมู่ 4 ถนนชาติอนุสรณ์ ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรีเปิดบริการทุกวัน (กรุณานัดหมายจองล่วงหน้าก่อนเดินทาง)โทร. 09 4696 6263 cr. รูปขี่ม้า จากไร่ตามฟาร์มสุข https://www.facebook.com/raitamfarmsuk ศูนย์เรียนรู้ชุมชนทุ่งเจริญ.สถานที่ต่อไป ขอเอาใจครอบครัวสายคราฟท์กันบ้าง หากพูดถึงงานคราฟท์ งานผ้า จังหวัดที่โดดเด่นในเรื่องนี้คงจะหนีไม่พ้นจังหวัดแพร่ เราเลยจะพาทุกคนไปเรียนรู้กระบวนการวิธีทำผ้าหม้อห้อม ผ้าพื้นเมืองที่สำคัญของจังหวัดแพร่ ที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนทุ่งเจริญ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ หรือชาวบ้านจะรู้จักกันในนาม บ้านป้าเหงี่ยม แรกเริ่มที่นี่เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ได้รวมกลุ่มกันทำผ้าหม้อห้อมที่ย้อมจากสีธรรมชาติ จนพัฒนาพื้นที่มาเป็นแหล่งเรียนรู้ “ศูนย์เรียนรู้ชุมชนทุ่งเจริญ” ในปัจจุบัน ผ้าหม้อห้อมถือว่าเป็นผ้าที่ทนทาน สวมใส่สบายไม่ร้อน นอกจากนี้ยังสามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้ทั้งหมวก ผ้าพันคอ มาเที่ยวที่นี่นอกจากคุณพ่อ คุณแม่จะได้ความรู้เผื่อนำไปต่อยอดเป็นอาชีพได้แล้ว เด็กๆยังได้สนุกสนานไปกับการทำกิจกรรมการย้อมผ้าหม้อฮ้อม งานศิลปะฝีมือเราที่มีชิ้นเดียวในโลกอีกด้วย.สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง– วนอุทยานแพะเมืองผี 6.2 กม.– พิพิธภัณฑ์คุ้มวงศ์บุรี 4.8 กม.– คุ้มเจ้าหลวง 4.3 กม..ที่ตั้ง 291 หมู่ 5 ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่เปิดบริการทุกวัน

ชวนครอบครัวเที่ยวสงกรานต์ กับ 5 สถานที่เที่ยวเมืองรอง อ่านเพิ่มเติม

Street Art…art on wall EP.2

Street Art คืออะไร Street Art คือศิลปะที่สร้างสรรค์บนผนังตึกหรือกำแพงในพื้นที่สาธารณะ โดยใช้เทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขีดเขียน การพ่นสี หรือการวาด Street Art ทำให้ศิลปะที่เคยเป็นเรื่องไกลตัวกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คน เราสามารถพบเห็นศิลปะได้ในทุกที่ โดยไม่จำเป็นต้องเดินเข้าหอศิลป์ ปัจจุบัน Street Art จึงได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว เชียงใหม่.ในภาคเหนือนี้ เราจะเริ่มต้นกันที่เชียงใหม่ ค่ะ เพราะเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม รวมไปถึง Street Art เก๋ๆ ด้วยค่ะ Street Art ของเชียงใหม่ มีให้เลือกชมอยู่หลายที่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณลานจอดรถกาดสวนแก้ว ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 5 และ 17 ถนนมูลเมือง ซอย 6-7 ถนนราชวิถี ซอย 1 และกำแพงทัณฑสถานหญิงเก่า ซึ่งแต่ละที่ก็มีความอาร์ตที่แตกต่างกันไปค่ะ แม่ฮ่องสอน.ด้วยความที่แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่าย Street Art ของที่นี่จึงสะท้อนภาพความเป็นอยู่ของชุมชนออกมาได้อย่างน่ารักมากๆ เลยละค่ะ ผลงาน Street Art ของแม่ฮ่องสอน อยู่บริเวณถนนคนเดินแหล่จอมกั๋น ถนนขุนลุมประพาสซอย 3 หลังที่ทำการไปรษณีย์แม่ฮ่องสอน.ซึ่งผลงานเหล่านี้เกิดจากศิลปินและจิตอาสาจากหลากหลายสถาบัน ที่มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานสุดประทับใจให้เราได้ชมกันค่ะ ลำปาง.ลำปาง ปลายทางฝัน บอกเลยว่า Street Art ของที่นี่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆ เพราะเค้าได้นำสัญลักษณ์เด่นๆ อย่างเช่น ไก่ขาว และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมืองลำปางมาวาดเป็นผลงานศิลปะที่สวยงาม Street Art ของลำปาง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณริมแม่น้ำวัง ฝั่งกาดกองต้า ตั้งแต่เชิงสะพานรัษฎาภิเศก เรื่อยไปจนถึงสะพานรัตนโกสินทร์ 200 ปี และบริเวณริมแม่น้ำวัง ฝั่งหลังจวนผู้ว่าฯ นอกจากนี้ยังมีผลงานอีกมากมายที่แทรกตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยเล็กๆ ในกาดกองต้าอีกด้วยค่ะ.ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ไปเดินชม Street Art ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ตอนเย็นๆ ก็สามารถไปเดินเที่ยวถนนคนเดินกาดกองต้ากันได้นะคะ มีสินค้าพื้นเมืองและของกินเยอะมากเลย นครสวรรค์.มาต่อกันที่ จ.นครสวรรค์ ประตูสู่ภาคเหนือกันเลยค่ะ ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มี Street Art ที่สวยงามไม่แพ้ใคร เพื่อนๆ สามารถไปชมผลงาน Street Art ของนครสวรรค์ ได้ที่บริเวณโรงปรับปรุงคุณภาพน้ำเทศบาลนครนครสวรรค์ค่ะ บอกเลยว่ามาที่นี่คุ้มเกินคุ้ม เพราะนอกจากจะได้ชื่นชมงานศิลปะแล้ว ยังจะได้ชมบรรยากาศสวยๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วยนะคะ กาฬสินธุ์.ชม Street Art ภาคเหนือกันมาแล้ว ก็มาชม Street Art ภาคอีสานกันบ้างดีกว่า ที่นี่นอกจากส้มตำปลาร้านัวๆ แล้ว เค้าก็ยังมีศิลปะสวยๆ ให้เราได้ชมกันด้วยนะคะ.อย่างเช่นที่กาฬสินธุ์ Street Art ของที่นี่มีความสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะนำเอาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์มาบอกเล่าผ่านผลงานศิลปะบนฝาผนัง โดยเน้นสีสันสดใสเพื่อให้รู้สึกสนุกสนานนั่นเองค่ะ  ที่นี่มี Street Art ให้เลือกชมหลายจุดเลย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณกำแพงอิฐตรงวงเวียนไดโนเสาร์ กำแพงโรงหนังร้าง กำแพงหัวมุมทางเลี้ยวไปบ้านนายกฯ และกำแพงตรงข้ามโรงงานไส้กรอกปลา ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสมาเที่ยวกาฬสินธุ์ ก็อย่าลืมแวะชม Street Art สวยๆ เหล่านี้นะคะ ร้อยเอ็ด.สำหรับ Street Art ของร้อยเอ็ดนั้น แอดบอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.ร้อยเอ็ด เลยทีเดียว และยังเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของศิลปินมากฝีมือกว่า 50 ชีวิตจากทั่วทุกภูมิภาคของไทย ที่มาร่วมกันรังสรรค์ผลงานไว้ให้เราได้ชมกันค่ะ.หากเพื่อนๆ คนไหนอยากมาถ่ายรูปเช็คอิน ก็สามารถมาได้ที่บริเวณถนนแจ้งสนิท ตรงคูเมืองด้านทิศตะวันตกนะคะ อุบลราชธานี.Street Art ของที่นี่ขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะลงบนผนังอาคารในย่านเมืองเก่าที่มีสภาพทรุดโทรม ให้มีสีสันขึ้นมาใหม่ด้วยผลงานศิลปะแนว Graffiti นั่นเองค่ะ และแล้วย่านเมืองเก่าแห่งนี้ก็ถูกปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง หากเพื่อนๆ สนใจก็สามารถไปชมได้ที่ บริเวณทางเข้าตลาดใหญ่ โรงแรมศรีอิสาณ ถนนข้างวัดหลวง ร้านชัยวิตร์เภสัช ซอยข้างร้านเจริญสิน และซอยฝั่งตรงข้ามค่ะ จันทบุรี.เรามาชม Street Art ทางฝั่งภาคตะวันออกกันบ้างดีกว่า ที่ชุมชนหนองบัวหรือชุมชนขนมแปลก จ.จันทบุรี นั่นเองค่ะ ที่นี่เค้าไม่ได้มีดีแค่ขนมแปลกนะคะ แต่ยังแอบซ่อนงานศิลปะแนว Graffiti และ Street Art ไว้ทุกมุมในชุมชนเลยล่ะค่ะ.และที่สำคัญชุมชนหนองบัวยังมีบ้านเก่าแก่อายุนับร้อยปี ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่ะ ซึ่งนับว่าเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเก่าและใหม่ให้เข้ากันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 9 มีนาคม 2562

Street Art…art on wall EP.2 อ่านเพิ่มเติม

D.I.Y. Do it for you ทำงานฝีมือไปฝากคนรู้ใจ

เทศกาลวาเลนไทน์ใกล้เข้ามาแล้วว หลายๆ คนคงจะเริ่มวางแผนแล้วว่า วันแห่งความรักแบบนี้จะทำอะไรให้คนรู้ใจดีนะ วันนี้แอดจึงรวบรวมสถานที่สำหรับทำ D.I.Y เผื่อใครอยากจะทำของน่ารักๆ ด้วยฝีมือตัวเองไปมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษไม่ซ้ำใคร จินนาลักษณ์ miracle of saa มาดูของฝากน่ารักๆ อย่างกระดาษสากัน สามารถมอบให้กับสาวๆ หรือผู้ใหญ่ก็ยังได้ ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้การทำกระดาษสาแบบดั้งเดิม และเป็นศูนย์จำหน่ายของที่ระลึกที่ทำจากกระดาษสา มีความกิ๊บเก๋อยู่ตรงที่เราสามารถออกแบบตกแต่งกระดาษสาได้เองด้วย ค่าใช้จ่ายกิจกรรม DIY กระดาษสา มี 2 แบบ คือ– ทำกระดาษสา พร้อมใส่กรอบไม้ ราคา 500 บาท– ทำกระดาษสาอย่างเดียว ไม่ใส่กรอบ (ทางร้านจะส่งไปรษณีย์ไปให้ที่บ้าน) ราคา 190 บาท นอกจากนี้ยังมีของฝากน่ารักๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกรอบรูป พัด หรือกล่องใส่ของ.ที่ตั้ง หมู่ 1 บ้านปางห้า ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงรายเปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 17.00 น.โทร. 064 679 7470, 081 883 9062 ครามสกล การนำผ้ามาย้อมกับสีธรรมชาติที่ได้จากพืชท้องถิ่นอย่าง “ต้นคราม” เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวจังหวัดสกลนคร ที่สืบทอดกันมาหลายต่อหลายรุ่น สำหรับใครที่อยากจะลงมือทำผ้าย้อมครามด้วยตัวเองในแบบฉบับ D.I.Y. แอดแนะนำร้านผ้าย้อมคราม @ครามสกลเลย เพราะที่นี่มีวิทยากรมาคอยสอนและสาธิตขั้นตอนการทำอย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ร้านก็มีลวดลายเก๋ๆ ให้เลือกเยอะมาก หรือใครจะครีเอทออกมาเองให้เก๋ไก๋ไม่ซ้ำแบบใครก็ได้ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจผลิตภัณฑ์จากผ้าคราม ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ และของใช้ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเค้าพัฒนาดีไซน์ได้เก๋ไก๋ เป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นมากๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้ที่ Facebook : KhramSklKramsakon หรือถ้าใครสนใจอยากลองทำผ้าย้อมครามเก๋ๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ร้านผ้าย้อมคราม @ครามสกล-Kramsakon ที่ตั้ง บ้านพะเนาว์ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนครเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.Line id : @kramsakonโทร 080 582 6655 บ้านด่านเหนือแพรฝ้าย พูดถึงกาฬสินธุ์ หลายคนก็คงนึกถึงไดโนเสาร์และผ้าทอใช่มั้ย แอดจะพาไปทำความรู้จักกับชุมชนกลุ่มทอผ้ามัดหมี่และหมอนขิดที่บ้านด่านเหนือ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าขาวม้า ผ้าห่ม ผ้ามัดหมี่ และตุ๊กตาไดโนเสาร์นั่นเองค่ะ และเราก็สามารถลงมือทำกิจกรรม DIY ทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ และพวงกุญแจได้ด้วย เราจะได้ลงมือทำทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตัดผ้า ยัดนุ่น ไปจนถึงเย็บให้เป็นตุ๊กตา บอกเลยว่าทั้งสนุกและได้ความรู้มากมายเลย เหมาะที่จะพาคนรู้ใจไปนั่งทำกิจกรรมร่วมกันมากๆ หากเพื่อนๆคนไหนสนใจกิจกรรม DIY การทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ หรือพวงกุญแจ ต้องติดต่อล่วงหน้านะคะ ที่ตั้ง 116/2 บ้านด่านเหนือ ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์โทร. 081 739 1434 คุณนัฐพร มหิพันธุ์ (ผู้จัดการ) Cocoa Valley วาเลนไทน์เราจะพลาดช็อกโกแลตได้ไง สำหรับใครที่อยากจะให้ของขวัญคนที่เรารักเป็นช็อกโกแลตหวานๆ แอดแนะนำที่นี่เลย เราสามารถทำช็อกโกแลตได้ด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่เก็บผลโกโก้ในสวน ไปจนถึงขั้นตอนการทำ เรียกได้ว่าเป็นฝีมือของเราจริงๆ เลยล่ะ กิจกรรมใช้เวลา 45 นาที ราคาคนละ 350 บาท ที่ตั้ง 339 หมู่ 8 ต.ปัว อ.ปัว จ.น่านเปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.โทร 063 791 1619 Cocoa Valley เป็นทั้งรีสอร์ทสไตล์ลอฟท์ และยังมีโซนคาเฟ่ด้วย มีทั้งเบเกอรี และเครื่องดื่มที่ใช้ผลผลิตจากสวนโกโก้ของเค้าเองด้วยนะ เมืองไม้บาติก จังหวัดร้อยเอ็ด ผ้าบาติกของที่นี่มีเอกลักษณ์คือ นำผ้าไหมที่ขึ้นชื่อของร้อยเอ็ดมาเพนต์ลายแบบบาติก โดยใช้สีสันโทนธรรมชาติและลวดลายกราฟิกที่แปลกตา บาติกผ้าไหมมีเทคนิควิธีการทำเหมือนกับผ้าบาติกของภาคใต้ ต่างเพียงแค่สีและลวดลายเท่านั้น โดยเมืองไม้บาติกจะใช้สีโทนธรรมชาติไม่ฉูดฉาด และลวดลายจะเป็นลายธรรมชาติง่าย ๆ เช่น ปลา ใบไม้ ดอกไม้ หรือใยแมงมุม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงานบุญผะเหวด งานบุญใหญ่ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด มีลายให้เลือกวาดเยอะมากๆ ที่สำคัญเราสามารถช่วยกันวาดได้ด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าไปทำกับคนรู้ใจมากๆ เลยล่ะ ใครอยากมาระบายสีผ้าบาติกแบบแอด มาได้ที่เมืองไม้บาติกเลย ที่ตั้ง 281 ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ดเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00 – 20.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)โทร. คุณต่อศักดิ์ สุทธิสา 043 569 048, 081 261 4800

D.I.Y. Do it for you ทำงานฝีมือไปฝากคนรู้ใจ อ่านเพิ่มเติม

Kalasin ฟินอีหลีเด้อ

Kalasin ฟินอีหลีเด้อ บ้านด่านเหนือแพรฝ้าย ถ้าพูดถึงกาฬสินธุ์ หลายคนก็คงนึกถึงไดโนเสาร์กันใช่มั้ย แต่ผ้าทอของกาฬสินธุ์ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน  แอดจะพาไปทำความรู้จักกับชุมชนกลุ่มทอผ้ามัดหมี่และหมอนขิด ที่ อ.ด่านเหนือ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าขาวม้า ผ้าห่ม ผ้ามัดหมี่ และตุ๊กตาไดโนเสาร์นั่นเองค่ะ ในครั้งนี้ แอดได้มีโอกาสลงมือทำกิจกรรม DIY เกี่ยวกับการทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ และพวงกุญแจด้วย บอกเลยว่าทั้งสนุกและได้ความรู้มากมายเลยค่ะ สำหรับแอด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสใช้จักรเย็บผ้า วินาทีที่เท้าสัมผัสแป้นเหยียบที่ใช้ควบคุมการเย็บนั้น แอดทั้งตื่นเต้นและกังวลมากเลยค่ะ เพราะกลัวว่าจะทำของเค้าพัง  ตุ๊กตาที่แอดเย็บเองก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย (ฝีมือก็ใช้ได้อยู่นะ) หลังจากทำกิจกรรม DIY เสร็จ เราก็เดินชอปปิงกันต่อเลย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจของฝากน่ารักๆ และราคาถูก แอดแนะนำที่นี่เลย เพราะจะได้ซื้อสินค้าของฝากในราคาส่ง แหม ถูกและน่ารักขนาดนี้ทำให้แอดอดใจไม่ไหว ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านหลายชิ้นเลย หากเพื่อนๆคนไหนสนใจกิจกรรม DIY การทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ หรือพวกกุญแจ ต้องติดต่อล่วงหน้านะคะ บ้านท่าเรือภูสิงห์ ใครว่ากาฬสินธุ์ไม่มีกุ้ง…ที่นี่มีกุ้งเด้อ และไม่ใช่กุ้งธรรมดาๆ ด้วยนะ เป็นกุ้งก้ามกรามตัวโตๆ เนื้อแน่นๆ เลยทีเดียวแหละ โดยทางจังหวัดได้นำพันธุ์กุ้งก้ามกรามมาปล่อยในพื้นที่บริเวณเขื่อนลำปาว เพื่อสร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสมากินกุ้งเผาที่นี่ แอดรับรองว่าทั้งขนาดและความสดของกุ้งไม่แพ้กุ้งแม่น้ำที่อยุธยาแน่นอน แต่สำหรับพวกเราจะให้ไปนั่งรอกินกันแบบธรรมดาๆ ก็กระไรอยู่..มา Go Local กันที่ชุมชนบ้านท่าเรือภูสิงห์ทั้งที ก็ต้องลองย่างกุ้งด้วยตัวเองสิ ก่อนเดินทางแอดแนะนำให้ติดต่อจองคิวกันล่วงหน้า เนื่องจากกุ้งแม่น้ำจะมีเยอะที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ส่วนช่วงฤดูอื่นๆ สามารถสอบถามได้ที่☎ คุณไก่ (ผู้ใหญ่บ้านท่าเรือภูสิงห์) โทร.098 532 2258, 096 719 8243☎ ปลัดตั้ง โทร.095 987 4698 นอกจากกุ้งและปลาสดๆ แล้ว ที่นี่ยังมีเมนูอื่นๆ อย่างส้มตำปลาร้าแซ่บๆ ปลาส้มใบตองมัดตอกโบราณย่าง ทอดมันปลากราย ปลาเนื้ออ่อนทอด ปลาส้ม แจ่วบอง ปลาตากแห้ง ฯลฯ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์แปรรูปฝีมือพี่ๆ กลุ่มแม่บ้านท่าเรือภูสิงห์นั่นเอง สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ แอดแอบกระซิบดังๆ ว่า อาหารที่นี่ราคามิตรภาพสุดๆ กุ้งก้ามกรามที่เขื่อนลำปาวมีขายกันตลอดทั้งปี ถ้าเพื่อนๆ ไม่สะดวกเข้าไปทานที่ชุมชน ก็สามารถไปหากุ้งทานกันได้ที่บริเวณใกล้ๆ สะพานเทพสุดา (สะพานข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว) โดยจะมีร้านอาหารเป็นแพริมน้ำให้เลือกอยู่หลายร้าน เรียกได้ว่าฟินทั้งกุ้งเผาสดๆ และบรรยากาศสุด exclusive สวนปันบุญ ออร์แกนิคฟาร์ม เป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์ ที่สามารถเข้าไปดูได้ทั้งวิธีการปลูกผัก ปลูกข้าว และเลี้ยงไก่ ผักของที่นี่ปลูกตามฤดูกาล อย่างช่วงหน้าฝนแบบนี้ ผักส่วนใหญ่จะเป็นผักชี ต้นหอม ผักกวางตุ้ง ขึ้นฉ่าย ผักบุ้ง สลัดคอส กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรียกได้ว่ามีผักสดๆ ทานตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน ข้าวที่ปลูก จะเป็นข้าวแดง มะลินิลสุรินทร์ แอดลองชิมแล้ว ทั้งหอม นุ่ม และอร่อยสุดๆ และสุดท้าย ไก่ไข่ของที่สวนปันบุญใหญ่เป็นพิเศษ เพราะเลี้ยงไก่อย่างดี ทำให้ไก่อารมณ์ดีและออกไข่ใบโต ใครที่สนใจอยากจะเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ สามารถมาที่สวนปันบุญได้เลยค่ะ ที่นี่จะให้ความรู้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การทำปุ๋ยหมักจากใบไม้ และการทำจุลินทรีย์คืนความสาวให้ผักสดกรอบ Sing Farm Coffee Roaster ร้านกาแฟเล็กๆ สุดฮิป ที่มีโรงคั่วกาแฟอยู่ภายในร้าน คั่วกาแฟกันสดๆ โดยเมล็ดกาแฟที่นำมาใช้ ได้มาจากการปลูกและเก็ฐเกี่ยวผลผลิตเองที่ไร่ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย เมนูแนะนำ อเมริกาโน่ สเปเชียล เทคนิคในการดื่มคือ ค่อยๆ ชิมให้ได้ 3 ระดับ กาแฟจะมีความหอมและหวานขึ้นเรื่อยๆ  นอกจากนี้ทางร้านยังมีกาแฟอีกหลากหลายเมนู ที่รอให้นักชิมทุกท่าน ได้มาดื่มด่ำรสชาติกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ Minibox Café คาเฟ่น้องใหม่สไตล์เรโทร มีตู้คอนเทนเนอร์หลากสีโดดเด่นสะดุดตา ภายในร้านตกแต่งด้วยโมเดลรถและมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ มากมาย ร้านมี 2 ชั้น มีโซนห้องแอร์และโซนด้านนอก จิบกาแฟรับลมชิลๆ ได้สบาย ทางร้านใช้กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนที่แอดไปถือว่าโชคดีมาก เพราะเจ้าของร้านได้สาธิตวิธีชงกาแฟแบบ Syphon และ Mokapot ให้ดูด้วย ☕ การชงกาแฟแบบ Syphon เป็นการชงแบบสุญญากาศ รสชาติที่ได้ จะเป็นกาแฟดำ หอม เข้มสะใจ ☕ การชงกาแฟแบบ Mokapot เป็นการใช้แรงดันน้ำที่เดือดจัด กลั่นกาแฟออกมา จะได้กาแฟรสเข้ม และหอม แต่จะเบาบางกว่าการชงแบบ Syphon ใครที่อยากลองมาชิมกาแฟแบบต่างๆ และเรียนรู้วิธีการชงกาแฟ สามารถมาที่ร้านได้เลยค่ะ เจ้าของร้านใจดี ยินดีตอบทุกคำถาม  ฮุ่งเฮือง Hung Huang OTOP Life Style ถ้าเพื่อนๆ มองหาของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน แอดแนะนำให้ลองแวะมาที่ ฮุ่งเฮือง Hung Huang OTOP Life Style อ.กมลาไสย ตรงข้ามสถานีตำรวจอำเภอกมลาไสย Hung Huang OTOP Life Style เป็นศูนย์ส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในชุมชน ของฝากของที่ระลึกของที่นี่เก๋ไก๋สไลเดอร์ โดนใจวัยรุ่นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาและหมอนไดโนเสาร์ เสื้อผ้า เสื้อคลุม พวงกุญแจ เครื่องปั้นดินเผา ของตกแต่งบ้าน รวมไปถึงกระเป๋าถือสำหรับคุณผู้หญิง  ร้านแตงอาหารเช้า เป็นอีกร้านหนึ่งที่ต้องแวะมาชิม ร้านนี้เปิดมานานกว่า 37 ปีแล้ว รับรองว่าอร่อยแน่นอน  ทางร้านมีต้มเลือดหมู ไข่กระทะ โจ๊ก และเครื่องดื่มสุดคลาสสิก อย่างกาแฟโบราณ ชาโบราณ ให้เลือกทานกัน เมนูแนะนำคือ เซี่ยงจี้เลือดหมู ใครที่ชอบทานเครื่องในต้องห้ามพลาด เพราะเครื่องใน สด สะอาด ไม่มีกลิ่น แถมให้มาแบบชิ้นใหญ่ จุใจ ส่วนน้ำซุปต้มเลือดหมูก็หอม รสชาติกลมกล่อม ตลาดทุ่งนาทอง

Kalasin ฟินอีหลีเด้อ อ่านเพิ่มเติม

เลาะกาฬสินธุ์โลด…ฟินอีหลีเด้อ

เลาะกาฬสินธุ์โลด…ฟินอีหลีเด้อ ตลาดทุ่งนาทอง ไปเที่ยวต่างจังหวัดทั้งที อย่ามัวแต่นอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงค่ะ ตื่นเช้าออกไปสัมผัสชีวิตของผู้คนบ้างดีกว่า ไปดูว่าเขาทำอะไรและทานอะไรกันบ้างในตอนเช้า  อย่างที่กาฬสินธุ์ก็มีตลาดทุ่งนาทอง เป็นตลาดเช้าที่เปิดขายกันตั้งแต่ 02.00-13.00 น. อาหารที่ขายส่วนใหญ่ก็เหมือนกับตลาดเช้าทั่วๆ ไปของจังหวัดอื่น ไม่ว่าจะเป็นโจ๊ก ปาท่องโก๋ หมูปิ้ง และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย แต่ความพิเศษของตลาดเช้าที่กาฬสินธุ์นั้นก็คือ มีส้มตำขายกันตั้งแต่หกโมงเช้าเลยค่ะ เรียกได้ว่าคนที่นี่ทานส้มตำกันเป็นอาหารเช้าเลยก็ว่าได้ ว่าแล้วแอดก็อดใจไม่ไหว ต้องขอลองชิมสักหน่อย นอกจากส้มตำแล้ว ที่นี่ยังมีไก่ย่างและปลาเผาอีกด้วย ในส่วนของรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึง ทั้งแซ่บทั้งนัวสุดๆ แอดเชื่อว่าถ้าเพื่อนๆ ได้ลองทานแล้วจะต้องร้องว้าวเลยล่ะ  สวนปันบุญ ออร์แกนิคฟาร์ม เป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์ ที่สามารถเข้าไปดูได้ทั้งวิธีการปลูกผัก ปลูกข้าว และเลี้ยงไก่ ผักของที่นี่ปลูกตามฤดูกาล อย่างช่วงหน้าฝนแบบนี้ ผักส่วนใหญ่จะเป็นผักชี ต้นหอม ผักกวางตุ้ง ขึ้นฉ่าย ผักบุ้ง สลัดคอส กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรียกได้ว่ามีผักสดๆ ทานตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน ส่วนข้าวที่ปลูก จะเป็นข้าวแดง มะลินิลสุรินทร์ แอดลองชิมแล้ว ทั้งหอม นุ่ม และอร่อยสุดๆ และสุดท้าย ไก่ไข่ของที่สวนปันบุญใหญ่เป็นพิเศษ เพราะเลี้ยงไก่อย่างดี ทำให้ไก่อารมณ์ดีและออกไข่ใบโต ใครที่สนใจอยากจะเรียนรู้เรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ สามารถมาที่สวนปันบุญได้เลยค่ะ ที่นี่จะให้ความรู้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การทำปุ๋ยหมักจากใบไม้ และการทำจุลินทรีย์คืนความสาวให้ผักสดกรอบ ในครั้งนี้ แอดได้มีโอกาสลงมือทำกิจกรรม DIY เกี่ยวกับการทำตุ๊กตาไดโนเสาร์ และพวงกุญแจด้วย บอกเลยว่าทั้งสนุกและได้ความรู้มากมายเลยค่ะ  สำหรับแอด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสใช้จักรเย็บผ้า วินาทีที่เท้าสัมผัสแป้นเหยียบที่ใช้ควบคุมการเย็บนั้น แอดทั้งตื่นเต้นและกังวลมากเลยค่ะ เพราะกลัวว่าจะทำของเค้าพัง  ตุ๊กตาที่แอดเย็บเองก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย (ฝีมือก็ใช้ได้อยู่นะ) หลังจากทำกิจกรรม DIY เสร็จ เราก็เดินชอปปิงกันต่อเลย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจของฝากน่ารักๆ และราคาถูก แอดแนะนำที่นี่เลย เพราะจะได้ซื้อสินค้าของฝากในราคาส่ง แหม ถูกและน่ารักขนาดนี้ทำให้แอดอดใจไม่ไหว ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านหลายชิ้นเลย แต่สำหรับพวกเราจะให้ไปนั่งรอกินกันแบบธรรมดาๆ ก็กระไรอยู่..มา Go Local กันที่ชุมชนบ้านท่าเรือภูสิงห์ทั้งที ก็ต้องลองย่างกุ้งด้วยตัวเองสิ  นอกจากกุ้งและปลาสดๆ แล้ว ที่นี่ยังมีเมนูอื่นๆ อย่างส้มตำปลาร้าแซ่บๆ ปลาส้มใบตองมัดตอกโบราณย่าง ทอดมันปลากราย ปลาเนื้ออ่อนทอด ปลาส้ม แจ่วบอง ปลาตากแห้ง ฯลฯ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์แปรรูปฝีมือพี่ๆ กลุ่มแม่บ้านท่าเรือภูสิงห์นั่นเอง สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจ แอดแอบกระซิบดังๆ ว่า อาหารที่นี่ราคามิตรภาพสุดๆ  ก่อนเดินทางแอดแนะนำให้ติดต่อจองคิวกันล่วงหน้า เนื่องจากกุ้งแม่น้ำจะมีเยอะที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ส่วนช่วงฤดูอื่นๆ สามารถสอบถามได้ที่☎ คุณไก่ (ผู้ใหญ่บ้านท่าเรือภูสิงห์) โทร.098 532 2258, 096 719 8243☎ ปลัดตั้ง โทร.095 987 4698 เมนูแนะนำ อเมริกาโน่ สเปเชียล เทคนิคในการดื่มคือ ค่อยๆ ชิมให้ได้ 3 ระดับ กาแฟจะมีความหอมและหวานขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ทางร้านยังมีกาแฟอีกหลากหลายเมนู ที่รอให้นักชิมทุกท่าน ได้มาดื่มด่ำรสชาติกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ ทางร้านใช้กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนที่แอดไปถือว่าโชคดีมาก เพราะเจ้าของร้านได้สาธิตวิธีชงกาแฟแบบ Syphon และ Mokapot ให้ดูด้วย ☕ การชงกาแฟแบบ Syphon เป็นการชงแบบสุญญากาศ รสชาติที่ได้ จะเป็นกาแฟดำ หอม เข้มสะใจ ☕ การชงกาแฟแบบ Mokapot เป็นการใช้แรงดันน้ำที่เดือดจัด กลั่นกาแฟออกมา จะได้กาแฟรสเข้ม และหอม แต่จะเบาบางกว่าการชงแบบ Syphon ใครที่อยากลองมาชิมกาแฟแบบต่างๆ และเรียนรู้วิธีการชงกาแฟ สามารถมาที่ร้านได้เลยค่ะ เจ้าของร้านใจดี ยินดีตอบทุกคำถาม Hung Huang OTOP Life Style เป็นศูนย์ส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในชุมชน ของฝากของที่ระลึกของที่นี่เก๋ไก๋สไลเดอร์ โดนใจวัยรุ่นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาและหมอนไดโนเสาร์ เสื้อผ้า เสื้อคลุม พวงกุญแจ เครื่องปั้นดินเผา ของตกแต่งบ้าน รวมไปถึงกระเป๋าถือสำหรับคุณผู้หญิง 

เลาะกาฬสินธุ์โลด…ฟินอีหลีเด้อ อ่านเพิ่มเติม

รวม 8 ที่เที่ยวสไตล์สายฮิป…ที่กาฬสินธุ์

อย่างที่รู้กันว่าการเดินทางในภาคอีสานยังไม่ค่อยสะดวกเพราะที่เที่ยวแต่ละที่อยู่ไกลกันแถมรถโดยสารก็ไม่ค่อยมี แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา เราบินมาลงที่ จ.ร้อยเอ็ด แล้วเช่ารถขับเอง จากร้อยเอ็ดไปกาฬสินธุ์แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น มาดูกันว่าเรามาทำอะไรบ้างที่กาฬสินธุ์ 1. เดินดูบ้านไม้เก่าในเมือง เราชอบเดินดูบ้านเรือนตึกเก่า ๆ ถ่ายรูปประตูหน้าต่างสวย ๆ ที่กาฬสินธุ์จะมีย่านวัดกลาง ที่เป็นบ้านไม้เก่าแก่อายุ 80-100 ปี ที่ผู้คนยังอาศัยอยู่ แต่มีบางบ้านก็ร้างไปแล้ว รถราที่นี่ยังไม่เยอะเลยเดินเล่นได้อย่างชิว ๆ ใครอยากมาเดินเล่นให้มาตรงวัดกลางแล้วเดินเล่นรอบ ๆ วัดได้เลย 2. นั่งชิวร้านกาแฟ ในเมืองเล็กๆ เราคิดว่าน่าจะมีร้านกาแฟเก๋ ๆ อยู่ที่ไหนซักที่ เราเดินมาเจอร้าน Cafe de Supak กับร้าน Hug a Mug cafe ซึ่งจัดว่าดีงามทั้งสองร้าน เริ่มที่ Cafe de Supak เป็นร้านเก๋ ๆ อยู่แทบจะใจกลางเมือง ชั้นบนเป็นโรงแรมชั้นล่างทำเป็นร้านกาแฟที่รีโนเวทซะทันสมัย นอกจากกาแฟ แล้วยังมีเมนูทั้งคาวหวาน เค้ก ฮันนี่โทสต์ วันนั้นเราสั่งมัจฉะลาเต้ อร่อยใช้ได้เลยล่ะ ดื่มไปนั่งชิว ๆ ชมวิวนอกร้านแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว  ร้าน Hug a Mug Cafe ร้านกาแฟอีกร้านที่ตกแต่งได้ทันสมัยในสไตล์อิฐสีขาว ๆ หน้าร้านจะประดับด้วยต้นเฟิร์นร่มรื่นเชียวล่ะ ที่นี่มีทั้งขนมเค้ก และเครื่องดื่มหลายเมนูให้เลือก ใครเดินเล่นเมื่อย ๆ แล้วมาหยุดนั่งพักได้ที่ร้านนี้ 3. ซื้อผ้าแพรวา เราชอบสะสมผ้าพื้นเมืองแบบ “ของมันต้องมี” เห็นผ้าไทยที่ไหนไม่ได้ ต้องขอซื้อติดไม้ติดมือกลับมาก่อน ใส่ไม่ใส่ค่อยว่ากัน ยิ่งผ้าไหมแพรวาสวยๆ ผ้าขึ้นชื่อเอกลักษณ์ของกาฬสินธุ์มีหรือเราจะพลาด ร้านที่เราไปชอปในวันนี้ชื่อร้านแพรวาแม่เนื่อง มีแต่ของสวย ๆ ทั้งนั้นเลยล่ะทั้งผ้าผืน เสื้อผ้าสำเร็จรูป ของที่ระลึก มาที่เดียวซื้อไปฝากพ่อแม่เพื่อนฝูงได้ครบเลยล่ะ 4. เดินชิวยามค่ำที่ตลาดโรงสี ตกเย็นเรามาเดินเล่นหาอะไรกินกันที่ตลาดโรงสี โรงสีเก่าที่ตกแต่งให้เป็นตลาดย้อนยุค มีโซนที่ทำเป็นบ้านไม้สองชั้น และโซนเอาท์ดอร์ นั่งกินไปดูวัยรุ่นกาฬสินธุ์ที่ออกมาแฮงเอาท์กันที่นี่ก็เพลินดีเหมือนกัน เมนูที่เราว่าเด็ดมาก ๆ และห้ามพลาดคือ สเต็กหมูย่างจิ้มแจ่วเนื้อนุ่มสุดๆ ฟินจนต้องสั่ง 2 จาน ไดโนเสาร์ปังเย็น โรตีไดโนเสาร์ ก็อยากให้มาลอง 5. เดินดูตลาดเช้า ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านต้องไปที่ตลาดเช้า ตลาดเช้ากาฬสินธุ์มีเสน่ห์เพราะเงิน 100 บาท สามารถซื้ออะไรได้มากกว่าที่คิด ข้าวของราคาถูก ทั้งพืชผักพื้นเมืองแปลก ๆ ผลไม้ อาหารสด อาหารแห้ง เหมือนเราย้อนกลับไปในอดีตที่ไม่ต้องแคร์กับสภาวะเศรษฐกิจที่วุ่นวาย นี่แหละเสน่ห์ของกาฬสินธุ์ที่เราหลงรัก 6. ถ่ายรูปกับฮูปแต้มสีพาสเทล ที่วัดอุดมประชาราษฎร์ วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ที่มีอายุกว่า 85 ปี สร้างโดยช่างชาวญวน และสิ่งที่พิเศษกว่าวัดอื่น ๆ คือ สิมหรือโบสถ์ที่มีจิตรกรรมฝาผนังหรือฮูปแต้มที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวอีสานด้วยฝีมือการแต้มของช่างชาวอีสาน มีการใช้สีเย็นในโทนพาสเทล เช่น สีฟ้า เหลือง เขียว วาดเป็นเรื่องราวชาดก เช่น พระเวสสันดรชาดก บอกเลยว่าผู้ที่รักงานศิลปะไม่ควรพลาด นอกจากจะได้มาไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แล้วยังได้ชมจิตรกรรมฝาผนังสวย ๆ อีกด้วย 7. ไปตามหาไดโนเสาร์ที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร มากาฬสินธุ์ทั้งทีถ้าไม่ไปที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร ภูกุ้มข้าวก็เหมือนมาไม่ถึงเราเดินทางไปที่ อ.สหัสขันธ์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ที่นี่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยเพราะเป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์และฟอสซิลที่สมบูรณ์และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยล่ะ กระดูกไดโนเสาร์ที่ค้นพบที่บริเวณภูกุ้มข้าวนี้มีอายุถึง 130 ล้านปี ไฮไลท์คือโครงกระดูกไดโนเสาร์จำลองขนาดเท่าตัวจริง ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้องจัดแสดง เหมือนพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศเลย เค้ามีการแบ่งโซนไล่ไปตามยุคต่าง ๆ มีทั้งไดโนเสาร์ที่พบในประเทศไทยและต่างประเทศ ฟอสซิลของจริงที่จัดแสดงให้เราได้ดูเพื่อศึกษาถึงประวัติความเป็นมาของไดโนเสาร์ในประเทศไทย แถมมีห้องวิจัยที่ทันสมัยสุด ๆ เดินดูในอาคารพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วอย่าลืมขึ้นไปดูหลุมขุดค้นของจริงที่อยู่บนภูกุ้มข้าว จะได้เห็นกระดูกไดโนเสาร์ของจริงตัวมหึมาที่อยู่ในหลุมขุดด้วย น่าตื่นเต้นมากเลยล่ะ เราว่าเด็ก ๆ ต้องชอบที่นี่แน่ ๆ พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์เวลา 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น อย่าไปผิดวันนะ 8. ถ่ายรูปที่สะพานเทพสุดา จากพิพิธภัณฑ์สิรินธรไปไม่ไกลก็มาถึงสะพานข้ามเขื่อนลำน้ำปาว เป็นสะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าจาก จ.หนองคาย อุดรธานี ผ่านกาฬสินธุ์ ไปสู่มุกดาหารที่สำคัญมากเพราะช่วยย่นระยะทางได้เกือบ 100 กิโลเมตร และชาวกาฬสินธุ์ยังใช้ขนส่งผลผลิตทางการเกษตรไปสู่โรงงานซึ่งอยู่คนละฝั่งของสะพาน ช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งไปได้เยอะทีเดียว พอรู้ถึงสตอรี่ของสะพานก็ดูสวยงามเลอค่ามากขึ้นกว่าเดิมเลยล่ะ แถมยังเป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ ด้วย ยิ่งมาช่วงพระอาทิตย์ตกดินนี่สวยสุด ๆ ไปเลย อย่าลืมไปถ่ายรูปกับพี่ไดโนเสาร์ที่ตีนสะพานนะ  เรามองจากสะพานลงไปจะเห็นแพร้านอาหารลอยอยู่หลายลำในเขื่อน มีนักท่องเที่ยวกระโดดน้ำเล่นกันน่าสนุก เสียดายที่เรามีเวลาน้อยเลยอดเล่นน้ำ กาฬสินธุ์ยังมีที่เที่ยวอีกหลายแห่งที่เหมาะกับชีวิตสโลว์ไลฟ์ เราว่าจริง ๆ แล้วแค่ได้นั่งๆ นอนๆ เดินเล่นใช้ชีวิตง่ายๆ ไปพร้อมกับชาวกาฬสินธุ์ก็ถือว่าได้ Go Local เป็นการชาร์จพลังเติมความบริสุทธิ์ใส ๆ ให้ชีวิตที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ

รวม 8 ที่เที่ยวสไตล์สายฮิป…ที่กาฬสินธุ์ อ่านเพิ่มเติม

Feel fresh with DAM – 7 เขื่อนต้องไปเยือน

Feel fresh with DAM – 7 เขื่อนต้องไปเยือน เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนภูมิพล เดิมชื่อเขื่อนยันฮี ตั้งอยู่ที่ อ.สามเงา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกที่สร้างด้วยคอนกรีตรูปโค้งขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชียอาคเนย์ สร้างกั้นลำน้ำปิงที่บริเวณเขาแก้วเพื่อผลิตไฟฟ้าและใช้ในการชลประทาน นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืด และเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 463-464 ให้เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไป 17 กิโลเมตร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเขื่อนภูมิพล โทร. 055 549 509 ต่อ 4002, 4003พิกัด : https://goo.gl/maps/vwED7Z9a8Tv เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี  เขื่อนวชิราลงกรณ เดิมชื่อเขื่อนเขาแหลม ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าขนุน เป็นเขื่อนหินทิ้งดาดหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างกั้นลำน้ำแควน้อย เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำอเนกประสงค์ สามารถนั่งเรือหรือล่องแพชมทิวทัศน์ที่สวยงามบริเวณเหนือเขื่อนได้ การเดินทางจากตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 (กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ) ถึง อ.ทองผาภูมิ และจาก อ.ทองผาภุูมิไปยังเขื่อนอีก 20 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอำเภอทองผาภูมิ (บริการบ้านพักและเรือเช่า)โทร. 034 599 077 ต่อ 2502, 2506การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยโทร. 02 436 6046-8พิกัด : https://goo.gl/maps/UDGWBvYrGrw เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี เขื่อนป่าสักฯ ตั้งอยู่ที่บ้านแก่งเสือเต้น ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม เป็นเขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีจุดชมวิวบริเวณสันเขื่อนและพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสักให้ได้ชมกันด้วย  สำหรับผู้ที่อยากชมทัศนียภาพรอบเขื่อน ที่นี่ก็มีบริการรถรางด้วย โดยจะแล่นไปตามสันเขื่อน ใช้เวลาไป-กลับประมาณรอบละ 50 นาที เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.ค่าบริการ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท  การเดินทางโดยรถยนต์– จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่าน จ.สระบุรี จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 21 (สระบุรี-หล่มสัก) เข้าสู่ จ.ลพบุรี ระยะทางประมาณ 21 กม. แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3017 ไปทาง อ.พัฒนานิคม อีกประมาณ 16 กิโลเมตร – จากตัวเมืองลพบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 3017 (ลพบุรี-โคกตูม-พัฒนานิคม) ระยะทาง 48 กิโลเมตร  โดยรถโดยสารประจำทางมีรถสองแถว สายลพบุรี-วังม่วง ผ่านหน้าเขื่อนป่าสักสิทธิ์รถออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารลพบุรี ตั้งแต่เวลา 06.00 – 17.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โทร. 036 494 243, 036 494 291-2พิกัด : https://goo.gl/maps/Dshp9j15v6x เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี เขื่อนสิรินธร หรือที่เรียกกันว่าเขื่อนโดมน้อย เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว สร้างกั้นลำน้ำโดมน้อยซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำมูล เพื่อใช้ประโยชน์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและการชลประทาน  บริเวณเขื่อนประกอบด้วย สวนพฤกษศาสตร์ สวนน้ำพุ ศาลาพักผ่อนริมทะเลสาบ เย็นสบายแน่นอน แอดคอนเฟิร์ม ^^  หากอยากพักค้างคืนทางเขื่อนก็มีบริการบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว และยังมีบริการล่องเรือชมอ่างเก็บน้ำด้วย โดยสามารถติดต่อล่วงหน้าได้ การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 24 ออกจากตัวเมืองอุบลราชธานี (ด้านสะพานเสรีประชาธิปไตย) มุ่งไปทาง อ.วารินชำราบ จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 217 จนถึง อ.สิรินธร เลี้ยวขวาที่กิโลเมตร 71 ประมาณ 500 เมตร เขื่อนจะอยู่ห่างจากตัวเมือง 70 กิโลเมตร  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเขื่อนสิรินธร โทร. 045 366 081-3 ต่อ 2708 บริการบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวโทร. 089 280 3197, 045 366 085 พิกัด : https://goo.gl/maps/RZSo8xCsVbR2 เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์  ตั้งอยู่ที่ ต.ลำปาว มีพื้นที่ครอบคลุม อ.เมือง อ.หนองบัว อ.หนองกุงศรี และ อ.ยางตลาด เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่ สร้างขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาอุทกภัยและใช้ประโยชน์ทางการเกษตร นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาอีกด้วย นอกจากชมเที่ยวชมเขื่อนแล้ว บริเวณเขื่อนลำปาวยังมี หาดดอกเกด ซึ่งเป็นหาดเนินดิน เป็นที่พักผ่อนชมวิว รับลมเย็นริมสันเขื่อน และอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดสุดฮิต คือ สะพานเทพสุดา สะพานข้ามเขื่อนลำปาวที่ต้องมาชมพร้อมเก็บภาพความสวยงามของสะพานแบบ 360 องศาเลยล่ะ  การเดินทางจาก อ.เมืองกาฬสินธุ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 มุ่งหน้าไปทาง จ.มหาสารคาม จนถึงกิโลเมตรที่ 33-34 ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมาย 2416 ไปอีกประมาณ 26 กิโลเมตร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหัวหน้างานจัดสรรน้ำ เขื่อนลำปาว โทร. 081 827 7717 บ้านพักรับรองเขื่อนลำปาว จัดประชุม สัมมนา โทร. 081 051 3426พิกัด : https://goo.gl/maps/yzTq9qeFXBJ2 เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี เขื่อนรัชชประภา เดิมชื่อเขื่อนเชี่ยวหลาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งรัชกาล” ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ที่ 3 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน พื้นที่เกือบทั้งหมดของเขื่อนอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก  เขื่อนรัชชประภาเป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาก เพราะโดดเด่นในเรื่องของทัศนียภาพที่มีภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาสวยงามโผล่พ้นน้ำขึ้นมามากมาย บริเวณโดยรอบเขื่อนและอ่างเก็บน้ำเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น  การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 401 แยกเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสก 2

Feel fresh with DAM – 7 เขื่อนต้องไปเยือน อ่านเพิ่มเติม

ธรรม(ดา) พา : ไหว้พระธาตุอีสาน 4 เมือง รุ่งเรืองตลอดชีวิต

วันนี้แอดจะมาแนะนำพระธาตุอีสาน 4 เมือง (5 พระธาตุ) ประกอบด้วย 1. พระมหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พระมหาธาตุเจดีย์สูง 9 ชั้น ศูนย์รวมจิตใจของชาวขอนแก่นเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และรวบรวมคำภีร์ทางพระพุทธศาสนา บานประตู-หน้าต่างแต่ละชั้นแกะสลักภาพชาดก พุทธประวัติ และเรื่องราวทางศาสนา  บนชั้นที่ 9 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอยู่ภายในบุษบก และยังเป็นหอชมทิวทัศน์ตัวเมืองขอนแก่นที่สวยงามอีกด้วย  อานิสงส์ : ก้าวหน้ารุ่งเรือง สักการะพระธาตุ 9 ชั้น ก้าวหน้ารุ่งเรือง เปรียบดังบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00 – 17.00 น.  การเดินทางจากสี่แยกประตูเมือง ตรงไปตามถนนศรีจันทร์ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนกลางเมือง ขับตรงไปเรื่อยๆ วัดหนองแวงจะอยู่ทางซ้ายมือพิกัด : https://goo.gl/maps/Gv546YwsoMu 2. พระธาตุขามแก่น วัดเจติยภูมิ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ตามตำนานกล่าวว่าเป็นพระธาตุที่สร้างขึ้นครอบต้นมะขามที่ตายแล้วเหลือเพียงแก่น แต่กลับยืนต้นแตกกิ่งก้านผลิใบเขียวชะอุ่มเป็นที่น่าอัศจรรย์ พร้อมกับบรรจุพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ด้วย อานิสงส์ : เรื่องร้ายกลายเป็นดี ดุจดังแก่นขามตายแล้วฟื้น รักยั่งยืน โรคภัยที่มี หลีกลี้ห่างหาย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น. การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 209 (ขอนแก่น-กาฬสินธุ์) ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 12 กิโลเมตร เมื่อข้ามสะพานน้ำพองแล้ว เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2183 ไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตรพิกัด : https://goo.gl/maps/BZTuRgnysf22 3.พระธาตุยาคู อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์  เดิมเรียกว่าธาตุใหญ่ เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟ้าแดดสงยาง ลักษณะเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยมก่อด้วยอิฐ เชื่อกันว่าภายในบรรจุอัฐิของพระเถระผู้ใหญ่ที่ชาวเมืองเคารพนับถือ บริเวณโดยรอบองค์พระธาตุพบใบเสมาแกะสลักภาพนูนต่ำเรื่องพุทธประวัติ  อานิสงส์ : ร่มเย็นเป็นสุข สักการะพระธาตุโบราณ เบิกบานร่มเย็น อัศจรรย์บูชาพระธาตุโบราณ ชีวิตเบิกบาน สมบูรณ์พูนสุข เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 16.30 การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 214 (กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด) ระยะทาง 13 กิโลเมตร ถึงอำเภอกมลาไสย เลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 2367 ระยะทาง 6 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวเข้าซอยอีกประมาณ 400 เมตรพิกัด : https://goo.gl/maps/7XVtDRUixHN2 4.พระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนสลักด้วยหินทรายของพระคณาจารย์ ปราชญ์แห่งอีสาน และพระสุปฎิปันโน 101 องค์ รวมทั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมอัฐบริขารของหลวงปู่ศรี มหาวีโร ผู้สร้างพระมหาเจดีย์ไว้อีกด้วย  อานิสงส์ : เสริมมงคลชีวิต อลังการพระมหาเจดีย์ชัยมงคลเสริมส่งมงคล ท่วมท้นชัยชนะด้วยพุทธานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-17.30 น. การเดินทางจากตัวเมืองร้อยเอ็ด ใช้ทางหลวงหมายเลข 2044 และ ทางหลวงหมายเลข 2136 (หนองพอก-เลิงนกทา) ให้สังเกต อบต.ผาน้ำย้อย ทางขวามือ เลย อบต.ผาน้ำย้อยไปไม่ไกลจะเจอทางแยกซ้ายเข้าวัด พิกัด : https://goo.gl/maps/YSrJbe4KnF62 5.พระธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เป็นเขตที่มีการขุดพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เพราะบริเวณนี้ได้เคยเป็นที่ตั้งของนครจำปาศรีมาก่อน โบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบได้นำไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่น และที่สำคัญยิ่งก็คือการขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13-15 สมัยทวาราวดี รัฐบาลจึงอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึ้น อานิสงส์ : เพิ่มพูนบารมี ศูนย์รวมความดี บารมีแดนอีสาน เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. การเดินทางจากตัวเมืองมหาสารคาม ใช้เส้นทางหมายเลข 2040 ขับตามเส้นทางมาประมาณ 61 กม. จนถึงแยก ปากทางนาดูน จากนั้นเลี้ยวขวาไปถนนหมายเลข 2381 ขับต่อไปอีกประมาณ 5 กม. สังเกตุซุ้มประตูทางเข้าพระธาตุ อยู่ทางซ้ายมือพิกัด : https://goo.gl/maps/SF6ZXL5evYQ2

ธรรม(ดา) พา : ไหว้พระธาตุอีสาน 4 เมือง รุ่งเรืองตลอดชีวิต อ่านเพิ่มเติม

กลับบ้านแต่งไทย ไปเล่นสงกรานต์

อย่างที่ทราบกันดีว่าชุดไทยและผ้าไทยนั้นมีความหลากหลาย ต่างยุค ต่างสมัย ต่างรูปแบบ และต่างลวดลาย วันนี้ “เพื่อนร่วมทาง” จึงอยากขอยกตัวอย่างสถานที่จัดงานสงกรานต์ที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ในด้านของการแต่งกาย มาเป็นตัวเลือกสำหรับการเฉลิมฉลองร่วมกัน เริ่มกันที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของไทย หากนักท่องเที่ยวต้องการแต่งชุดไทยแท้ ร่วมเล่นสงกรานต์แบบวิถีไทย โดยมีฉากหลังเป็นโบราณสถานที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ขอเชิญมาร่วมเล่นน้ำในงาน #เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ ประจำปี 2561 โดยใช้ชื่อว่า “#สงกรานต์กรุงเก่าเล่นน้ำกับช้าง” ในระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2561 ณ บริเวณถนนศรีสรรเพชญ์ ด้านหน้าอาคาร เรือนไทย ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กิจกรรมภายในงานทุกท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศย้อนยุคด้วยการแต่งกายชุดไทย #สรงน้ำพระพุทธรูป , #รำวงกรุงเก่า, #เล่นน้ำสงกรานต์กับช้าง สนุกสนานกับม่านน้ำและโค้งน้ำที่สวยงาม มีมุมถ่ายภาพตามรอยละครบุพเพสันนิวาสเช่น #ก่อพระเจดีย์ทราย เป็นต้น ห้ามพลาด !!! สำหรับผู้ที่เกิดในเดือนเมษายน แสดงบัตรประชาชนรับของที่ระลึก “#เหรียญพระอยุธยามหามงคล” (เหรียญทองแดง ผ่านพิธีพุทธาภิเษกเมื่อปี 2550) ท่านละ 1 องค์ แจกวันละ 100 องค์ ซึ่งแจกในระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2561 และสำหรับผู้ที่สวมชุดไทยตามแบบละครบุพเพสันนิวาสมาเล่นน้ำสงกรานต์กับช้าง มีสิทธิ์ลุ้นรับของที่ระลึกพิเศษ !!! จาก ททท.พระนครศรีอยุธยาอีกด้วย *ขอบคุณภาพและที่มาจาก Facebook: @TatAyutthaya สำหรับคนที่หลงใหลและซาบซึ้งใจในความเสียสละของนักรบโบราณ อยากย้อนยุคไปให้กำลังใจเหล่าวีรชนผู้กู้ชาติ ไม่อยากให้พลาดงาน “นุ่งโจงห่มสไบ เล่นน้ำแบบไทยๆ ณ สิงห์บุรี” ระหว่างวันที่ 12 – 15 เมษายน 2561 ณ วัดโพธิ์เก้าต้น และตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี โดยภายในงานจัดให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ พิธีปลุกเสกน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคล, ฟังเทศน์มหาชาติ โดย พรเทพ พรทวี, พิธีสรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัว ขอพรพ่อปู่แม่ย่า, ร่วมฉลองสงกรานต์ในบรรยากาศไทยย้อนยุคบ้านระจัน, รื่นเริง สนุกสนานกับขบวนแห่สงกรานต์แบบโบราณอันยิ่งใหญ่ตระการตา, ชมการแสดงแสง สี เสียง สุดอลังการในชุด “น้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน สู่มหาสงกรานต์บ้านระจัน”, การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินดาราชื่อดัง, เพลิดเพลินกับอุโมงค์น้ำ ขนาดความยาว 60 เมตร, การประกวดหลานปู่หลานย่าวีรชนค่ายบางระจัน, การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน และลิ้มรสอาหารสำรับคาวหวานแบบโบราณบ้านระจัน เป็นต้น *ขอบคุณภาพและที่มาจาก Facebook: @TATLopburiOffice สำหรับคนน่ารัก ที่ติดใจการทอผ้าไหมด้วยภูมิปัญญาจากการเก็บขิด และการจก ที่มีลวดลายโดดเด่น และเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ “ผ้าแพรวา” จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอเชิญหาไอเดียเก๋ๆ แต่งชุดไทยด้วยกลิ่นอายของผ้าแพรวา ร่วมงาน “สงกรานต์ดีโน่สินธุ์ ถิ่นคนน่ารัก” ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 12-15เมษายน 2561 บริเวณ วงเวียนไดโนเสาร์หน้าวัดสว่างคงคา กิจกรรมที่น่าสนใจภายในงานจะมีพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์ พิธีรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุ ชมขบวนแห่หลวงพ่อองค์ดำ และขบวนพาเหรด Happy Carnival กิจกรรมพาแลงชุมชน ๓๖ ชุมชน ประกวดขับร้องและเต้นหางเครื่องประกอบเพลง ประกวดเทพีสงกรานต์ และขบวนพาเหรดเกิร์ลกรุ๊ปสาวไทยหัวใจกาฬสินธุ์ *ขอบคุณภาพและที่มาจาก Facebook: เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ / Facebook: แพรวาจีจี้ นักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในความเรียบง่าย อยากเท่ด้วยการคุมโทนสีน้ำเงินเข้มขรึม มนต์ขลังแห่งการย้อมผ้าแบบธรรมชาติ โดยใช้วัตถุดิบจากต้นฮ่อม เพื่อนร่วมทางขอแนะนำ งานประเพณีปี๋ใหม่เมือง “ดอกลมแล้งบาน สงกรานต์เมืองแป้ นุ่งหม้อห้อมแต้งามตา” ประจำปี 2561 วันที่ 12-17 เมษายน 2561 บริเวณถนนเจริญเมือง จังหวัดแพร่ ร่วมชมมหกรรมแข่งขันกลองปู่จายิ่งใหญ่ ณ วัดพระธาตุช่อแฮ การประกวดจิสะโป๊กเมืองแพร่ ณ ข่วงวัฒนธรรมเมืองแพร่ ร่วมก่อพระเจดีย์ทราย ทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคล เที่ยวสดใสมาร์เก็ต ตลาดนัดแพร่คราฟต์ นั่งรถรางชมเมืองยามค่ำ และเล่นสาดน้ำสงกรานต์หม้อห้อมที่ถนนเจริญเมือง  *ขอบคุณภาพและที่มาจาก Facebook: @tat.phrae ส่วนใครที่คิดว่า วันสงกรานต์ทั้งที ต้องลวดลายและสีสันเต็มที่ ความสดใสต้องมา ดอกไม้ต้องมี ขอเชิญคว้าเสื้อลายดอกตัวเก่ง เร่งไปร่วมงาน “สงกรานต์เสื้อลายดอก ถนนข้าวตอกสุโขทัย” จัดวันที่ 13-15 เมษายน 2561 บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา ถนนข้าวตอก จังหวัดสุโขทัย  ที่สำคัญ หากนักท่องเที่ยวยังมีเวลาเหลือ สามารถเที่ยวต่อเนื่องได้ตามนโยบาย #สงกรานต์สุโขทัยเที่ยวได้ครึ่งเดือนโดยมีการจัดงานสงกรานต์ตามจุดต่างๆ ดังนี้ . . . 7-12 เมษายน งานสรงน้ำโอยทาน สงกรานต์ศรีสัชนาลัย / 9-13 เมษายน สงกรานต์มหามงคล น้ำมนต์ทะเลหลวง ณ ทุ่งทะเลหลวง / 11-15 เมษายน งานประเพณีสงกรานต์ และเทศกาลอาหารเมืองสวรรคโลก / 12-14 เมษายน งานย้อนอดีตมหาสงกรานต์กรุงเก่าสุโขทัย / 13-16 เมษายน มหาสงกรานต์กรุงสุโขทัย ร้อยดวงใจสรงน้ำพระอจนะ วัดศรีชุม / 17-19 เมษายน งานแห่น้ำขึ้นโฮง สรงน้ำเจ้าหมื่นด้ง ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย  *ขอบคุณภาพและที่มาจาก Facebook:@tatsukhothaifanpage ล่องลงใต้มาตามหาเสน่ห์ในความ ผิวเข้ม ตาคม ด้วยเครื่องแต่งกายเน้นอัตลักษณ์ของคนใต้ ซึ่งสวยงามไม่แพ้ภาคอื่น จะสวมโสร่ง นุ่งผ้าปาเต๊ะ ใส่เสื้อผ้าลูกไม้ ร่วมก่อเจดีย์ทราย ณ สวนศรีธรรมาโศกราช, วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช รวมทั้งการปิดถนนเล่นน้ำสงกรานต์พร้อมเวทีการแสดงบริเวณถนนประตูลอด ใน “เทศกาลมหาสงกรานต์ แห่นางดานเมืองนคร 2561” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 เมษายนนี้  งานสงกรานต์ที่นครศรีธรรมราชมีรูปแบบแตกต่างออกไป เพราะจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรม ทั้งทางศาสนาพุทธและศาสนาพราหมณ์ ซึ่งมีหลักฐานชี้ชัดถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต

กลับบ้านแต่งไทย ไปเล่นสงกรานต์ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top