กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : เที่ยวลัดเลาะตามตรอกซอกซอย “ชุมชนกุฎีจีน”

วัดซางตาครู้ส .โบสถ์คาทอลิกที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2313 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์และนีโอคลาสิก พร้อมยอดโดมที่จำลองมาจากมหาวิหารฟลอเรนซ์ ในประเทศอิตาลี  วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร.อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีหลวงพ่อโตเป็นพระประธานตั้งประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ ชาวพุทธนิยมมาสักการบูชาเพื่อขอพรให้เดินทางปลอดภัย และขอให้มีมิตรที่ดีตามชื่อของวัดแห่งนี้ หลวงพ่อโต วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน.พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของไทยและโปรตุเกสที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีการนำวิทยาการสมัยใหม่เข้ามา ทั้งในด้านการทหาร การแพทย์ การสร้างป้อม ไปจนถึงเรื่องราวของขนมไทย ซึ่งเชื่อกันว่าท้าวทองกีบม้าได้ดัดแปลงมาจากขนมของโปรตุเกสอีกด้วย พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เป็นบ้านไม้สองชั้น ชั้นบนเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดง ส่วนชั้นล่างเป็นร้านกาแฟเล็กๆ บ้านสกุลทอง.ถ้าเพื่อนๆ มีเวลา แอดแนะนำห้ามพลาดมาชิมอาหารชาววัง สำรับโปรตุเกส มีเมนูที่หาทานได้ยากมากมาย ทั้งอาหารว่างอย่างจีบตัวนกและช่อม่วง รวมไปถึงอาหารจานหลักอย่างขนมจีนโปรตุเกส เมนูที่ได้รับการดัดแปลงจากสปาเกตตี้ไวท์ซอสนั่นเอง นอกจากนี้ที่บ้านสกุลทองยังเปิดคอร์สสอนทำอาหารอีกด้วย โดยปัจจุบันเปิดสอนอยู่ 3 เมนูได้แก่ ช่อม่วง จีบตัวนก และหมูสร่ง สำหรับใครที่สนใจสามารถสำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 062 605 5665.ร้านอาหารบ้านสกุลทอง เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-17.30 น. ขนมฝรั่งกุฎีจีน.ขนมโบราณอายุกว่า 200 ปี ได้รับอิทธิพลมาจากขนมของชาวโปรตุเกส ที่ใช้เพียงแป้งสาลี ไข่เป็ด และน้ำตาลทราย เป็นส่วนผสมในการทำ วิธีการทำก็คือนำขนมไปอบด้วยเตาถ่าน แล้วโรยหน้าด้วยลูกเกด ลูกพลับ ฟักเชื่อม และน้ำตาล เท่านี้ก็จะได้ขนมที่หอมอร่อย กรอบนอกนุ่มในแล้ว ปัจจุบันมีร้านบ้านป้าเล็ก บ้านป้าพรรณ ร้านหลานป้าเป้า และร้านธนูสิงห์ ที่ยังคงทำขนมโบราณชนิดนี้ขายอยู่ ถ้าใครมีโอกาสมาย่านกุฎีจีน อย่าลืมแวะชิมขนมโบราณหาทานยากชนิดนี้กันด้วยนะ

เพื่อนร่วมทาง พา Go Local : เที่ยวลัดเลาะตามตรอกซอกซอย “ชุมชนกุฎีจีน” อ่านเพิ่มเติม

CHATA

CHATA หรือ ชะตา มาจากคำว่า “ชะตาลิขิต” เหมือนโชคชะตาลิขิตเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ จุดเริ่มต้นของร้านเกิดจากกำแพงอิฐเก่าดั้งเดิมของตัวบ้านซึ่งเป็นโรงแรมในปัจจุบัน และเป็นเพราะโชคชะตาจึงทำให้เจ้าของร้านเกิดไอเดียในการสร้างร้านคาเฟ่นี้ขึ้นมา การเดินทาง จากถนนเยาวราช จนถึงเเยกเฉลิมบุรี สังเกตป้ายวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) เลี้ยวขวาสู่ถนนพาดสาย ร้านจะอยู่ซ้ายมือตั้งอยู่ภายในโรงแรม Baan 2459 สามารถจอดรถยนต์ส่วนตัวได้ที่บริเวณข้างโรงแรม พิกัด :https://goo.gl/maps/uS2E3Phxraz เห็นหน้าตาทางเข้าคลาสสิกแบบนี้ ก็แสดงว่าเรามาถูกที่กันแล้วล่ะ CHATA Specialty Cafe ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Baan 2459 บูทีคโฮเทลในย่านเยาวราช ร้านชะตาจึงเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไปด้วย ร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรก เมื่อเดินเข้ามาก็จะพบเรือนกระจกที่แต่เดิมเคยเป็นล็อบบี้ของโรงแรมมาก่อน ลูกค้าสามารถสั่งเครื่องดื่มและขนมได้ที่นี่เลย ตัวอาคารเป็นเรือนกระจกทำให้ดูโปร่งโล่งสบายตา ภายในตกแต่งแบบไทยผสมโมเดิร์น ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และลวดลายของพื้นกระเบื้องทำให้ร้านดูคลาสสิกมากยิ่งขึ้น ออกจากอาคารแรก เราเดินผ่านทางเดินเล็กๆ ระหว่างหน้าร้านและตัวโรงแรมไปยังโซนที่ 2 บริเวณนี้มีร่องรอยของกำแพงอิฐโบราณ และต้นไม้ที่มีกิ่งก้านห้อยระย้าสวยงาม เมื่อผ่านทางเดินเล็กๆ มายังด้านหลังโรงแรม จะเจอกับอีกโซนหนึ่งของคาเฟ่ ซึ่งเป็นสไตล์ Contemporary Loft เก๋ๆ ตัวเรือนกระจกขนาดปานกลาง เปิดรับแสงจากธรรมชาติภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ มองออกไปข้างนอกจะเห็นกำแพงอิฐเก่าที่เป็นจุดเด่นของร้าน  มุมนี้หรือมุมไหนๆ แอดก็ไม่พลาด มุมโปรดของนางแบบนายแบบทุกคนที่จะต้องถ่ายภาพกับกำแพงเก่าแก่นี้ มาชะตาก็ถูกชะตากับเมนูซิกเนเจอร์นี้เลย Latte La Toey (130 บาท) กาแฟรสนมกลมกล่อมมาพร้อมเลเยอร์ของไซรัปใบเตย กลิ่นหอมขึ้นจมูก Butterfly Effect (130 บาท) ม็อกเทลซิกเนเจอร์ ที่มีส่วนผสมของแอปเปิ้ล เสาวรส ส้ม และน้ำใบเตย มาพร้อมกับน้ำอัญชันที่ให้เราได้เติมส่วนผสมลงไปเอง เพิ่มสีสันสดใสให้กับเครื่องดื่มแบบเก๋ๆ  Hot Cocoa (100 บาท)  เมนู Non Coffee ต้องลองโกโก้ร้อนสุดเข้มข้น มีอาร์ตด้านบนสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปอีกด้วย Coconut Cake (65 บาท) เมนูนี้ทานกับเครื่องดื่มอะไรก็อร่อย เนื้อแป้งฟูนุ่ม มะพร้าวหวานกลมกล่อม ต้องลอง!  Carrot Cake เค้กอัดแน่นไปด้วยเนื้อแคร์รอตกับครีมชีสเข้ากันได้ดีเชียวล่ะ รสเปรี้ยวตัดหวานโรยด้วยอัลมอนด์กรุบกรอบ

CHATA อ่านเพิ่มเติม

หลงโถว…หลงเข้ามาแล้วจะติดใจ

หลงโถว…หลงเข้ามาแล้วจะติดใจ ร้านหลงโถว คาเฟ่ ตั้งอยู่บริเวณต้นถนนมังกร นี่จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน เพราะ “หลงโถว” ภาษาจีนแปลว่า หัวมังกร เมื่อนึกถึงจีน ก็ต้องนึกถึงสีแดงแปร๊ดๆ แต่ทางร้านต้องการหลุดจากภาพจำเดิมๆ จึงใช้สีเขียวและสีแดงเข้มแทน ซึ่งก็ยังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความเป็นจีนอยู่ แถมเป็นจีนแบบย้อนยุคซะด้วย เท่สุดๆ เนื่องจากร้านมีพื้นค่อนข้างน้อย แต่ก็อยากให้ลูกค้านั่งได้เยอะๆ จึงได้ออกแบบให้เป็นที่นั่ง 2 ชั้น ดีไซน์เก๋ไก๋จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ทางร้านบอกเล่าความเป็นเยาวราชผ่านการดีไซน์ร้านและเมนูอาหาร Egg Lava Bun ซาลาเปาไส้ไข่ไหล มีความแตกต่างตรงที่เป็นซาลาเปาทอด กรอบนอกนุ่มใน Lhong Tou Shumai เป็นการผสมผสานระหว่างขนมจีบกับเกี๊ยว คือห่อแป้งแบบเกี๊ยว แต่รูปร่างเหมือนขนมจีบ สอดไส้ด้วยหมูสับและกุยช่าย บอกเลยว่าไส้แน่นมาก อร่อยเต็มปากเต็มคำ อย่าลืมทานคู่กับน้ำจิ้มที่มีรสชาติเผ็ดนิดๆ ของทางร้านด้วยนะ ยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่ เกี๊ยวกุ้งทอด อาหารที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี หาทานได้ง่ายมาก ที่เยาวราชก็มี แต่บอกเลยว่า เกี๊ยวทอดของที่นี่ไส้แน่นจุใจมาก อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือ ชุดน้ำชาของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็น ชาเก๊กฮวย ที่ได้รสชาติของดอกเก๊กฮวยจริงๆ ซึ่งสำหรับคนติดหวานก็สามารถเติมน้ำเชื่อมลงไปได้ หรือ ชาหอมหมื่นลี้ผสมดอกอัญชัน ที่ฟังจากชื่อก็รู้แล้วว่าต้องหอมสุดๆ อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีชาดอกไม้ชนิดต่างๆ ให้ได้ลิ้มลองอีกหลายเมนู นอกจากชุดน้ำชาแล้ว เมนูเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้สำหรับร้านอาหารจีนก็คือ ชาและกาแฟ ✳ Lhong Tou’s Signature – Thai Milk Tea ชาไทยรสเข้ม ที่เพิ่มความอร่อยด้วยขนมตุ๊บตั๊บ ให้เรามาเคี้ยวเล่นเพลินๆ สร้างรสสัมผัสในการดื่มให้อร่อยยิ่งขึ้น ✳ Dirty เครื่องดื่มเอสเปรสโซกับนมเย็น เอ๊ะ มันจะร้อนหรือจะเย็นกันแน่ แต่เมื่อดื่มไปพร้อมกันแล้ว ก็เข้ากันได้อย่างลงตัว ขอบคุณรูปภาพจาก facebook ร้านหลงโถว

หลงโถว…หลงเข้ามาแล้วจะติดใจ อ่านเพิ่มเติม

ฮาเตียน : Hatien Cafe

Hatien Cafe  การเดินทาง ร้านฮาเตียนคาเฟ่ เป็นร้านเล็กๆ 3 ชั้น คลาสสิกด้วยรูปลักษณ์ของร้านและของเก่าของสะสมสไตล์วินเทจมากมาย ที่ล้วนเข้ากันได้อย่างลงตัว เป็นคาเฟ่น้องใหม่ที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจ มาลองลิ้มชิมรสขนมอร่อยๆ กันมากมาย บริเวณชั้น 2 ประดับด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์ดูหรูหรา บนผนังตกแต่งด้วยกรอบรูปมากมายซึ่งภายในบรรจุภาพประวัติศาสตร์อันมีคุณค่า และยังมีจุดเด่นอยู่ที่ผนังสีเขียวเข้มดูลึกลับน่าค้นหาอีกด้วย สวยทุกมุมเลย มาแล้ววว กาแฟอัญชัน (120 บาท) สีสันอาจจะดูหม่นๆ แต่รสชาติไม่หม่นนะจ๊ะ รสเข้มของกาแฟผสมกับนมอัญชันหอมละมุนที่อยู่ก้นแก้ว สำหรับผู้ที่ชอบทานกาแฟแบบไม่เข้มจนเกินไป แก้วนี้ตอบโจทย์เลย  เมนูขนมเค้กที่ทางร้านแนะนำ คือ Macadamia Cake (180 บาท) อร่อยมากกก ดีงาม เค้กเนื้อนุ่มราดด้วยคาราเมลและถั่วแมคคาเดเมียเม็ดโต เมนูนี้ต้องลอง ขนมของร้านนี้จะเป็นโฮมเมดทั้งหมด ซึ่งในแต่ละวันก็จะมีเมนูแตกต่างกันออกไป น่าทานทุกอย่างเลย ^^ ขึ้นบันไดเวียนมาดูชั้นที่ 3 กันบ้าง กับบรรยากาศห้องกระจกและดาดฟ้าที่เปิดรับแสงจากภายนอก ตกแต่งด้วยสีขาวคลีนๆ สบายตา ให้สีสันและความรู้สึกแตกต่างจากชั้น 2 อย่างสิ้นเชิง แต่ก็ยังคงความวินเทจที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน จากเฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งต่างๆ

ฮาเตียน : Hatien Cafe อ่านเพิ่มเติม

Kid Mai Death Cafe : มรณานุสติ คาเฟ่

คิดใหม่ คาเฟ่แห่งความตาย ซอยอารีย์ เมื่อเดินเข้าซอยมา เราจะพบกับอุโมงค์สีดำที่มีไฟสลัวๆ ตลอดทางเดินมีลักษณะเหมือนนิทรรศการขนาดย่อมที่ตั้งคำถามให้เราได้ขบคิดถึงการใช้ชีวิตของตัวเองที่ผ่านมา มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ผ่านพ้นอุโมงค์ออกมา ก็จะเข้าสู่บริเวณร้าน ซึ่งออกแบบให้เหมือนกับอยู่ภายในวัดที่มีต้นไม้ร่มรื่น มีศาลาสวดพระอภิธรรมศพที่ตกแต่งในโทนสีขาวดำ อย่างกับอยู่ในงานศพจริงๆ เลย เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของความตาย เราจึงเห็นโครงกระดูกมนุษย์นั่งบ้างนอนบ้างอยู่ตามที่ต่างๆ ภายในร้าน ไว้คอยเตือนใจให้ผู้มาเยือนได้คิดและทำสิ่งดีๆ ก่อนจะไม่มีโอกาสได้ทำ (แอบขนลุกเบาๆ นะเนี่ย ^^) เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านมีอยู่ 4 อย่าง ซึ่งนำเอาหลักสัจธรรม “เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย” มาสอดแทรกเป็นกิมมิคเก๋ๆ ตามคอนเซ็ปต์ของร้าน เมนูซิกเนเจอร์ทั้ง 4 เรียงจากซ้ายไปขวา ได้แก่Born – เกิด “ยากเพียงใดกว่ามนุษย์จะได้เกิดมาและมีลมหายใจ จงใช้ชีวิต”สตรอว์เบอร์รีโซดาสีสวยสดใสที่เข้มข้นจากด้านล่าง ขึ้นไปสู่ฟองอากาศด้านบนอันเป็นตัวแทนของลมหายใจที่หอมหวาน เจือด้วยอุปสรรคที่ขอบแก้วเป็นสีสันของชีวิต  Elder – แก่ “เมื่อการดำเนินชีวิตมาถึงช่วงเวลาหนึ่ง อวัยวะทั้งหลายของเราย่อมเสื่อมไปตามธรรมชาติ แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาสร้างให้เราสุขุม รอบคอบ มีสติและรู้จักคุณค่าของชีวิต”ช็อคโกแลตร้อนที่เข้มข้นจนถึงก้นแก้ว สื่อถึงสังขารที่ร่วงโรยและการปล่อยวาง Painful – เจ็บ “เครื่องดื่มนี้แทนเส้นทางการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่ผ่านขวากหนามและอุปสรรคต่างๆ จนบางบาดแผลทิ้งร่องร่อยให้เป็นประสบการณ์ชีวิต”ซอสสตรอว์เบอร์รีเปรียบเสมือนเลือดที่เกิดจากบาดแผล ไหลไปตามวิปครีมที่แทนร่างกาย ลึกลงไปสู่จิตใจที่ก้นแก้ว Death – ตาย โกโก้ปั่นเข้มข้น สื่อถึงวาระสุดท้ายที่ร่างกายต้องสลายไปในที่สุด “ทดลองตาย ก่อนตาย”  การนำโลงศพมาตั้งแบบนี้เป็นกิจกรรมหนึ่งของร้าน ที่ให้เราลงไปนอนในโลงเพื่อให้ได้คิดพิจารณาถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยทำลงไปและสิ่งที่อยากจะทำในอนาคต หลังออกมาจากโลงก็จะมีสมุดให้เขียน “ความตั้งใจที่จะทำหลังขึ้นมาจากโลงศพ” ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 3 นาที มีเจ้าหน้าที่ของร้านเป็นคนเปิด-ปิดฝาโลงให้  สำหรับผู้กล้าที่ทดลองนอนในโลงศพจะได้ส่วนลดเครื่องดื่ม 5 บาทด้วย นอกจากการทดลองนอนในโลงศพแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ผู้ที่มาเยือนได้ทำก่อนตาย เช่น เขียนพินัยกรรม และเขียนจดหมายถึงตัวเอง ซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมก็จะได้ลดราคาเครื่องดื่ม 5 บาทเช่นกันค่ะ

Kid Mai Death Cafe : มรณานุสติ คาเฟ่ อ่านเพิ่มเติม

D.E.D Thailand ร้านนี้มีแต่ทีเด็ด

คำว่า D.E.D มีที่มานะจ๊ะ เป็นตัวย่อมาจาก Delicious Extraordinary Dough ซึ่งหมายถึงแป้งขนมปังลูกครึ่ง ที่มีส่วนผสมของขนมปังบริยอช กับครัวซองต์ ความพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น ภายในร้านโปร่งโล่ง ตกแต่งแบบสบายๆ มีภาพวาดการ์ตูนน่ารักๆ อยู่ด้วย ที่นั่งมีให้เลือกหลายโซน แต่โซนที่แอดเห็นแล้วต้องรีบเข้าไปจับจองทันทีคือ โซนที่นั่งหมอนสามเหลี่ยม แม้จะนั่งลำบากเพราะใส่กระโปรง แต่แอดก็สู้ เพราะไม่อยากตกเทรนด์กระแส thainess ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ โซนที่นั่งริมหน้าต่างก็มีนะ ใครอยากไปนั่งสวยๆ เหม่อๆ ดูเหงาๆ ก็นั่งได้เลย มุมนี้ถ่ายรูปออกมาสวยไม่เบาเลยล่ะ มาถึงอาหารของเรา เมนูเด็ดของที่ร้าน ก็ต้องไม่พลาดแป้งพายที่เป็นลูกผสมระหว่างขนมปังบริยอชกับขนมปังครัวซองต์ เหมือนที่บอกไปตอนแรก ตัวแป้งทำออกมาในลักษณะของพิซซ่า เมนูแนะนำคือ “เด็ด ผักโขมอบชีส” และ “เด็ด มาซะหมั่น แห้งติดเกาะ” ส่วนเครื่องดื่มจะเป็นอิตาเลียนโซดา ที่มีชื่อเก๋ๆ อย่าง “กลีบกุหลาบแห่งฤดูกาล” (รสกุหลาบ) และ “สีสันแห่งฤดูร้อน” (รสมะม่วง) ซึ่งทำออกมาได้อร่อยชื่นใจ เมนูเด็ดของร้าน อร่อยกลมกล่อม แป้งพายกรอบนอกนุ่มใน เข้ากันได้ดีกับเครื่องโรยหน้าสไตล์ไทยๆ ปิดท้ายกันที่ของหวานแอดบอกเลยว่าไปถึงแล้วห้ามพลาดเมนู “สังขยาซ่อนแอบ”ขนมปังยัดไส้สังขยา ใส่ไส้มาให้เยอะมาก แต่ไม่หวานเลี่ยน อร่อยกำลังพอดี แป้งขนมปังก็นุ่ม อีกเมนูคือ “ซิ้ลกี้ แมงโก้

D.E.D Thailand ร้านนี้มีแต่ทีเด็ด อ่านเพิ่มเติม

Riverside Vibe: 6 ที่เที่ยวเดินเล่นชิล ถ่ายรูปสวย ติดแม่น้ำเจ้าพระยา

6 ที่เที่ยวเดินชิล ถ่ายรูปสวยติดแม่น้ำเจ้าพระยา– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – มาเริ่มที่แรกกันเลย Asiatique The Riverfrontคอมมูนิตี้มอลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวในอดีต จากที่เคยเป็นท่าเรือของบริษัท อีสต์เอเซียติก บริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจส่งออกไม้สักตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ  ลักษณะเด่นของที่นี่อย่างหนึ่งก็คืออาคารโกดังเก่าหลังคาโค้งเรียงต่อกันหลายหลัง อายุกว่า 100 ปี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโครงสร้างเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ โดยได้ปรับปรุงและเสริมความแข็งแรง เพื่อใช้เป็นร้านอาหารและร้านขายสินค้าต่างๆ เอเชียทีคเป็นสถานที่รวมแหล่งชอปปิ้ง ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ และกิจกรรมต่างๆ เอาไว้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือ ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ที่จะทำให้เราสามารถมองเห็นวิวกรุงเทพฯ และแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบ 360 อาศา ยิ่งเป็นช่วงเย็นๆ ก็จะได้บรรยากาศพระอาทิตย์ตกสวยๆ ด้วย ล้ง 1919 สมัยก่อนที่นี่เป็นท่าเรือกลไฟและโกดังสินค้าของตระกูลหวั่งหลี ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ มีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างชาวจีนแต้จิ๋ว ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้เป็นแหล่งรวมร้านค้าร้านอาหารขนาดย่อม ให้นักท่องเที่ยวได้มาจับจ่ายใช้สอย ถ่ายรูป และทำกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงเรียนรู้เรื่องราวของชาวจีนผ่านสถาปัตยกรรมเก่าแก่อีกด้วย นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ที่มีอายุมากกว่า167 ปี ศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนที่โล้สำเภาเข้ามาค้าขายยังแผ่นดินไทย ให้เราได้กราบไหว้กันด้วย ล้ง 1919 Warehouse 30ครีเอทีฟ คอมมูนิตี้ คอมเพล็กซ์ ที่ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 30 ถูกแปลงโฉมจากโกดังเก่าให้กลายมาเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์สุดฮิป ที่รวบรวมร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายสินค้าไอเดียเก๋ๆ หลากหลายประเภท ไปจนถึงโรงฉายหนัง และยังมีพื้นที่ Co-Working Space ให้ทุกคนได้มาเดินชอป นั่งชิล หรือร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ได้ทุกวัน The Jam Factoryสถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นโดยคุณด้วง ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดัง (ผู้ทำโครงการ Warehouse 30) ที่ได้ปรับพื้นที่โกดังเก่าบริเวณท่าเรือคลองสาน ซึ่งเคยเป็นโรงงานถ่านไฟฉายตรากบ โรงงานน้ำแข็ง และโรงงานทำยา เนื้อที่กว่า 4 ไร่ ให้กลายเป็นสถานที่ชิลเอ้าท์ โดยรักษาโครงสร้างอาคารเดิมเอาไว้ให้มากที่สุด ภายในโครงการเป็นเหมือนศูนย์รวมความอาร์ตและความคิดสร้างสรรค์ เพราะได้รวบรวมทั้งร้านขายเฟอร์นิเจอร์สุดเก๋ ร้านหนังสือ ร้านกาแฟ art gallery มารวมไว้ในที่เดียวกัน และยังมีพื้นที่สำหรับจัดงานต่างๆ เช่น ตลาดศิลปะ หรืองานคอนเสิร์ตเล็กๆ ใครที่ชอบบรรยากาศชิลๆ หรืออยากมานั่งหาแรงบันดาลใจ ขอบอกเลยว่า The Jam Factory เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากๆ ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์คคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์โคโลเนียล ที่เรียกได้ว่าอยู่ในทำเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อมองออกไปยังแม่น้ำ เราจะได้เห็นวิวคุ้งน้ำเจ้าพระยาที่มีวัดอรุณราชวรารามเป็นฉากหลัง  ที่นี่เหมาะสำหรับการเดินชิม ชอป เพราะมีทั้งร้านค้าและร้านอาหารบรรยากาศดีหลายร้านให้เลือก ท่ามหาราชเดิมเป็นท่าเรือข้ามฟากเล็กๆ ที่ไม่คึกคักเท่าไรนัก ตั้งอยู่ระหว่างท่าช้างและท่าพระจันทร์ กาลเวลาผันเปลี่ยนไป ในที่สุดพื้นที่แห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็น open-air shopping & lifestyle market ที่เข้ากับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ แต่ยังคงมีกลิ่นอายของวิถีชีวิตชุมชนบนเกาะรัตนโกสินทร์ ท่ามหาราช เป็นแหล่งรวมศิลปะและวัฒนธรรม มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย รวมทั้งศูนย์พระเครื่องและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนรากเหง้าของผู้คนในชุมชน เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือเหล่า food truck ที่มีให้เลือกหลากหลาย

Riverside Vibe: 6 ที่เที่ยวเดินเล่นชิล ถ่ายรูปสวย ติดแม่น้ำเจ้าพระยา อ่านเพิ่มเติม

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน เข้าวัดทำบุญ หนุนนำโชคลาภ

บ่อยครั้งที่เราเห็นผู้คนทำบุญด้วยความมุ่งหวังพร้อมกับการกราบไหว้บูชา เพื่อให้สมความปราถนา หรือพบกับโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง และความสำเร็จในทุกๆประการ อันเป็นการเติมเต็มให้ชีวิตกลับมามีความหวัง มีกำลังใจ พร้อมที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคงอีกครั้ง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก.ความเชื่อ ประชาชนทั่วทุกสารทิศเดินทางมาสักการะหลวงพ่อใหญ่หรือองค์พระพุทธชินราชด้วยความศรัทธา โดยนับถือกันในด้านความศักดิ์สิทธิ์ และถือกันว่าเป็นมงคลสูงสุดหากได้มากราบชมความงามของหลวงพ่อใหญ่สักครั้งในชีวิต นอกจากนี้ยังนิยมพากันไปไหว้พระเหลือในวิหารเล็ก ด้วยเกร็ดความเชื่อที่มีกันอย่างแพร่หลายว่าจะช่วยส่งเสริมด้านโชคลาภ จะได้มีทรัพย์สินเงินทอง เหลือกินเหลือใช้.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือชื่อที่เรียกกันทั่วไปว่า “วัดใหญ่” เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปซึ่งได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลกมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย นับเป็นศาสนสถานที่สำคัญยิ่ง ทั้งของจังหวัดพิษณุโลกและประเทศไทย .นอกจากนี้ยังมีวิหารพระเหลือ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน “พระเหลือ” ซึ่งตามประวัตินั้นกล่าวว่าพระยาลิไททรงรับสั่งให้ช่างนำเศษทองสัมฤทธิ์ที่เหลือจากการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดา มารวมกันแล้วหล่อไว้เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดเล็กและพระสาวกอีก 2 องค์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพมหานคร.ความเชื่อ เชื่อในหมู่พ่อค้า คหบดี และประชาชนว่า หากมาสักการะพระแก้วมรกตด้วยดอกบัวคู่และธูปเทียนแล้ว ชีวิตจะมีแต่ความรุ่งเรืองมั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติ เงินทองไหลมาเทมา.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เป็นพระอารามประจำพระบรมหาราชวังที่สร้างขึ้นตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นวัดหลวงที่ไม่มีพระจำพรรษา และยังเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่พระมหากษัตรย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทรงเสด็จมาประกอบพระราชพิธีสำคัญ และบำเพ็ญพระราชกุศลตามพระราชประเพณีนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน.ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน พระพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย นอกจากพระแก้วมรกตแล้ว ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายที่ทรงคุณค่าความงดงามทั้งทางสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และภาพจิตรกรรมฝาผนัง ให้เราได้เข้าไปสักการะบูชา และชื่นชมในฝีมือของครูแห่งช่างโบราณที่อุทิศผลงานไว้เพื่อเป็นพุทธบูชาสืบทอดกันมาเป็นมรดกแห่งแผ่นดิน.วันและเวลาเปิด-ปิดเปิดให้สักการะทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 – 16.00 น. ผู้ที่จะเข้าไปยังวัด ผู้ชายต้องแต่งกายสุภาพห้ามใส่เสื้อไม่มีแขนและงดใส่กางเกงขาสั้นเหนือเข่า ผู้หญิง ให้ใส่กางเกงหรือกระโปรงทรงสุภาพ กระโปรงต้องยาวคลุมเข่า งดเสื้อแขนกุด วัดลาดขาม (หลวงพ่อแสนเหรีญ) ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี.ความเชื่อ กล่าวกันว่า เมื่อได้มากราบไว้อธิษฐานหลวงพ่อแสนเหรียญซึ่งสร้างจากเงินเหรียญที่เป็นมงคล เหมือนกับได้อธิษฐานขอพรแห่งโชคลาภ ความมั่งคั่ง ร่ำรวยสืบไปพระพุทธเบญจนวมงคลกาญจน์แห่งวัดลาดขามนั้น เป็นพระพุทธรูปที่เลื่องลือในด้านของความศักดิ์สิทธิ์และความแปลกมหัศจรรย์ เนื่องจากองค์พระปฏิมากรนี้ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากเหรียญเงินตราต่างๆ จำนวนนับแสนเหรีญ ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่า “หลวงพ่อแสนเหรียญ” ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่กับ อ.พนมทวน และเป็นที่นับถือศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไปอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน.วัดลาดขาม เป็นวัดที่ก่อสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีอายุนับร้อยปี หลังจากกรุงศรีอยุธยาแตก วัดลาดขามก็กลายเป็นวัดร้างยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนวัด ต่อมาพระครูปลัดเพลิน เตชธมโม ได้จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ และลงมือบูรณะปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ขึ้นมาด้วยแรงสนับสนุนจากผู้มีศรัทธาและชาวบ้านจนกลับมาเป็นศูนย์รวมแห่งพุทธศาสนิกชนใน อ.พนมทวนอีกครั้ง พระราหู วัดศีรษะทอง ต.ห้วยตะโก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม.ความเชื่อ เชื่อว่าการกราบไหว้ขอพรพระราหูนั้น เป็นการขอพรให้พ้นเคราะห์ต่างๆ และยังดลบันกาลให้เกิดโชคลาภ ช่วยให้การงานเจริญก้าวหน้า และเชื่อว่าพระราหูยังเป็นเทพบูชาประจำตัวเพื่อเสริมบารมีของคนที่เกิดวันพุธกลางคืนอีกด้วย สามารถไหว้พระราหูได้ทุกวัน ยกเว้นวันพระ.นับว่าเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในอำเภอนครชัยศรี และวัดแห่งนี้ถือเป็นศูนย์รวมของชาวลาวเวียงจันทน์และชุมชนใกล้เคียง เดิมเป็นป่ารกร้าง ต่อมาได้มีชาวลาวจากเวียงจันทร์อพยพมาตั้งถิ่นฐาน แล้วจึงสร้างวัด และได้พบเศียรพระพุทธรูปทองจมดินอยู่ จึงตั้งชื่อว่า “วัดหัวทอง” ภายหลังมีการขุดคลองเจดีย์บูชา ไปยังองค์พระปฐมเจดีย์ ชาวบ้านจึงย้ายมาอยู่ริมคลองเจดีย์บูชา ในการนี้ได้ย้ายวัดมาด้วยเพื่อสะดวกต่อการสัญจร และเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดศีรษะทอง” จนถึงปัจจุบัน .วัดศีรษะทองได้พัฒนาและมีความรุ่งเรืองขึ้นเป็นอย่างมากในสมัยของหลวงพ่อน้อย นาวารัตน์ อดีตเจ้าอาวาส ท่านเป็นที่รู้จักเพราะเป็นต้นตำรับของการสร้างพระราหูอมจันทร์จากกะลาตาเดียว เครื่องลางที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และได้สร้างชื่อเสียงให้วัดศรีษะทองจนถึงทุกวันนี้.ปัจจุบันวัดศีรษะทองได้จัดสร้างพระราหูขนาดใหญ่ไว้ให้ประชาชนได้มาสักการะบูชาตามความเชื่อและความศรัทธาส่วนบุคคล ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี.ความเชื่อ เชื่อกันว่าเจ้าแม่นั้นมีอิทธิฤทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่งของคนทั้งหลาย ดวงวิญญาณของเจ้าแม่จะช่วยดลบันดาลให้การค้าขายนั้น มีอต่ความร่ำรวยละเจริญรุ่งเรือง มีโชคมีลาภ ทำให้มีบรรดาพ่อค้า นักธุรกิจและประชาชนทั่วไปนิยมมาบวงสรวงเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว.เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือที่เรียกว่าศาลเจ้าเล่งจูเกียง ในตัวเมืองปัตตานี เป็นที่ประดิษฐานรูปแกะสลักของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งเป็นที่สักการะไม่แต่ชาวปัตตานี รวมถึงชาวจังหวัดใกล้เคียง เช่น สงขลา-ยะลา-นราธิวาส ก็มีความศรัทธาในองค์เจ้าแม่อย่างมาก เนื่องจากมีผู้มาขอพรให้มีโชคลาภก็ได้ผลหรือแม้แต่เรื่องการค้าขายที่ซบเซาหรือขาดทุนก็กลับรุ่งเรืองขึ้น จนทำให้เกิดความนับถือศรัทธาอย่างมาก 

ธรรม(ดา) พาทัวร์ ตอน เข้าวัดทำบุญ หนุนนำโชคลาภ อ่านเพิ่มเติม

The oqposite โอเอซิสแห่งใหม่ย่านนางเลิ้ง

The oqposite ดิ อ๊อพโพสิทโอเอซิสแห่งใหม่ที่จะมาเติมเต็มความสุขให้กับทุกคน บรรยากาศเก๋ๆ หน้าร้าน ตัวร้านมี 2 ชั้น ตกแต่งเรียบง่าย ผสมผสานสไตล์ loft เท่ๆ บริเวณชั้น 2 มีที่นั่ง outdoor ให้นั่งตากลมชิวๆ เมนูอาหารของทางร้านมีทั้งไทยและเทศ เมนูแนะนำ เช่น ข้าวมันกุ้ง สูตรคุณย่า ข้าวเป็ดรมควันพริกเกลือ แต่แอดขอเทใจไปทางอาหารฝรั่งสักนิด เพราะเห็นเมนูชีสแล้วอดใจไม่ได้ที่จะต้องสั่ง โรตีผักโขมอบชีส (180 บาท) แป้งโรตีหอม กรอบ ชีสยืดสะใจ คนรักชีสต้องห้ามพลาด เมนู The oqposite special สปาเกตตี้ผัดพริกกระเทียมเบคอน ( 220 บาท)  สปาเกตตี้สูตรของทางร้าน หอมกลิ่นกระเทียมและพริกไทยใช้เบคอนอย่างดี ชิ้นหนาสุดกรอบ และเพิ่มรสหวานนิดๆด้วยมะเขือเทศอบแห้ง ครื่องดื่มของร้านก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน มีทั้งเมนูกาแฟและชา เมนู Honey Matcha (155 บาท)ชาเขียวมัทฉะเข้มข้น ผสมกับน้ำผึ้งมะนาว ได้รสขมอมเปรี้ยว เป็นการผสมผสานที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ เมนู Iced Chocolate (125 บาท)ช็อกโกแลตเข้มกำลังดี ไม่หวานและไม่ขมจนเกินไป เมนู The oqposite berry (155 บาท)มีส่วนผสมของชา mixed berry และ กาแฟ cold-brew ที่ผสมออกมาได้อย่างลงตัว รสชาติกลมกล่อม ตบท้ายด้วยเมนูขนมหวานสุดฟิน เมนู Caramel Pudding (140 บาท)เมนูน่ารักที่มีน้องมดตัวน้อยแบกขนมมาเสิร์ฟถึงที่ ตัวเค้กนุ่ม ซอสที่ราดก็หอมหวานคาราเมล อร่อยมากๆ แอดคอนเฟิร์ม

The oqposite โอเอซิสแห่งใหม่ย่านนางเลิ้ง อ่านเพิ่มเติม

“ท่องเที่ยวอิ่มบุญ…สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น”

ฤดูฝนเป็นฤดูแห่งการทำนา ในระหว่างเข้าพรรษาพระภิกษุสงฆ์จะต้องจำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อไม่ให้ไปเดินเหยียบย่ำข้าวกล้าของชาวนาเสียหาย และเนื่องจากสมัยก่อนไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านจึงหล่อเทียนขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อถวายให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้ในการปฏิบัติกิจวัตรต่างๆ ยามค่ำคืนตลอดช่วงเวลาของการเข้าพรรษา การนำเทียนไปถวายนั้น จะให้เดินไปถวายแบบปกติมันก็จะธรรมดาไป โลกไม่จำค่ะ ชาวบ้านจึงจัดขบวนแห่กันอย่างเอิกเกริกสนุกสนาน และปฏิบัติสืบทอดกันมาจนกลายเป็นประเพณีอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ค่ะ ถ้าพูดถึงประเพณีแห่เทียนพรรษาแล้ว จังหวัดแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้น จ.อุบลราชธานี เพราะที่นี่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องการแกะสลักเทียนเป็นรูปต่างๆ อย่างวิจิตรงดงาม ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ในวรรณคดี บุคคลสำคัญในช่วงเวลานั้นๆ และอื่นๆ อีกมากมาย  งาน “ฮีตศรัทธาราชธานีแห่งแสงเทียน” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 28 กรกฎาคม 2561 ภายในงานจะมีกิจกรรมการแสดง แสง สี เสียงสุดอลังการ โดยขบวนแห่จะมีทั้งกลางวันและกลางคืน – แห่เทียนกลางคืน ในช่วงค่ำของวันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2561 จะมีขบวนแห่เทียนและการแสดงประกอบแสงเสียง เรื่อง “เกิดแต่อุบล” บริเวณหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม โดยวันที่ 27 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 19.00-20.30 น. ส่วนวันที่ 28 กรกฎาคม เริ่มประมาณ 18.00 น. – แห่เทียนกลางวัน วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 จุดเริ่มต้นขบวนจะอยู่บริเวณหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม เริ่มตั้งแต่ 08.00 น. เป็นต้นไปค่ะ “มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง” ถือเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่ชาวสุรินทร์ภาคภูมิใจ เพราะเป็นวัฒนธรรมการแห่เทียนที่ยิ่งใหญ่และไม่เหมือนใคร ตักบาตรบนหลังช้างทำยังไง? ทำได้ด้วยเหรอ? ถ้าอยากรู้ ต้องลองไปสัมผัสด้วยตัวเองนะคะ^^  งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 กรกฎาคม 2561 กิจกรรมภายในงานมีดังนี้ วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ชมริ้วขบวนแห่เทียนพรรษา ขบวนฟ้อนรำศิลปวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ พร้อมกับขบวนแห่ช้างกว่า 80 เชือก  วันที่ 27 กรกฎาคม 2561 เวลา 07.00 น. จะมีกิจกรรมทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวางค่ะ โคราช เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีการจัดงานแห่เทียนเข้าพรรษาที่มีความสวยงามและอลังการไม่แพ้ที่อื่นๆ เลยค่ะ โดยมีการจัดงานทั้งหมด 3 ที่ ได้แก่ วันที่ 26 กรกฎาคม 2561 จะมีการแห่เทียนพรรษาของอำเภอโชคชัยและอำเภอพิมายค่ะ (เริ่มแห่ตั้งแต่ประมาณ 13.00 น. เป็นต้นไป) โดยจะเป็นการประกวดต้นเทียนพรรษา เมื่อได้ผู้ชนะของแต่ละอำเภอแล้วทั้งหมดก็จะไปรวมตัวกันบริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีค่ะ  งานแห่เทียนพรรษาที่อำเภอโชคชัย ใช้ชื่องานว่า “เทศกาลกินหมี่ ประเพณีแห่เทียนพรรษา อำเภอโชคชัย” ส่วนที่อำเภอพิมายใช้ชื่องานว่า “ประเพณีแห่เทียนพรรษา อำเภอพิมาย” ภายในงานของทั้ง 2 อำเภอจะมีมหรสพการแสดง และกิจกรรมต่างๆ มากมายค่ะ วันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2561 จะมีการจัด “งานแห่เทียนพรรษาโคราช” ณ บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เป็นการแห่เทียนพรรษาสุดยิ่งใหญ่ของชาวโคราชค่ะ (ขบวนแห่เริ่มวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.00 น.) โดยจะนำต้นเทียนพรรษาที่ชนะจากทั้ง 2 อำเภอมาแห่ และจัดแสดงให้ชมกันค่ะ  นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดง แสง สี เสียง รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ของดีเมืองโคราช สินค้าโอท็อปต่างๆ มาให้เพื่อนๆ ได้เลือกชอปเลือกชิมกันตลอดงานเลยค่ะ “ประเพณียายดอกไม้” ครั้งแรกที่แอดได้ยิน็ถึงกับงงเลยทีเดียว ว่านี่คือประเพณีอะไร? ประเพณียายดอกไม้เป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวเวียงจันทน์ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่จังหวัดสิงห์บุรีค่ะ คำว่า “ยาย” นั้นเพี้ยนมาจาก คำว่า “หย่าย” ในภาษาลาว แปลว่า การแจกจ่ายหรือการให้ คำว่า “ยายดอกไม้” จึงหมายถึงการให้ หรือถวายดอกไม้แด่พระสงฆ์ เพื่อนำไปบูชาพระพุทธเจ้านั่นเองค่ะ  และในปีนี้ชาวจังหวัดสิงห์บุรีก็ได้จัดงานนี้ขึ้น ภายใต้ธีม “ตักบาตรยายดอกไม้ นุ่งซิ่นไทย-ลาวเวียง” ณ วัดจินดามณี จังหวัดสิงห์บุรี ระหว่างวันที่ 27-28 กรกฎาคม 2561 เวลา 07.00 น.  ภายในงานมีกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็น การทอดผ้าป่าดอกไม้ ถวายเทียนพรรษา ชิมอาหารถิ่นสิงห์บุรี ชมการแสดงเต้นบาสโลป และอื่นๆ อีกมากมาย แอดอยากเชิญชวนเพื่อนๆ ไปสัมผัสกับบรรยากาศวัฒนธรรมท้องถิ่นของที่นี่ดูนะคะ ว่าจะมีความงดงามแตกต่างจากวัฒนธรรมที่เพื่อนๆ คุ้นเคยมากน้อยแค่ไหนค่ะ ^^ สำหรับใครที่คิดว่าการแห่เทียนพรรษาทางบกธรรมดาไป ต้องมางานนี้เลยค่ะ “ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ” ณ คลองลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในอยุธยา  งานจัดขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 โดยจะเริ่มแห่ประมาณ 11.00 น. กิจกรรมภายในงานจะมีการประกวดบ้านสวนริมคลอง การแข่งขันกีฬาพื้นบ้านลาดชะโด การจัดแสดงภาพถ่ายวิถีชีวิตชาวลาดชะโด การจำลองบรรยากาศตลาดน้ำย้อนยุค และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังจะได้สัมผัสวิถีชีวิตบ้านริมน้ำอีกด้วยนะคะ “ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2561 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารจ.สระบุรี ซึ่งเป็นประเพณีที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของ จ.สระบุรี นับเป็นประเพณีที่แปลกไม่เหมือนใคร และมีเพียงแห่งเดียวอีกด้วย  โดยในยามเช้าพระสงฆ์จะเดินรับบิณฑบาตรจากพุทธศาสนิกชน ซึ่งจะนำดอกไม้ชนิดหนึ่งมาใส่บาตร ดอกไม้ชนิดนี้จะบานในช่วงเข้าพรรษาพอดี จึงได้ชื่อว่า “ดอกเข้าพรรษา” ค่ะ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจจะไม่รู้จักดอกไม้ชนิดนี้ และแอบไปเสิร์ชหารูปจากอินเตอร์เน็ตดู แต่เชื่อเถอะค่ะว่ายังไงก็ไม่สวยเท่าไปเห็นด้วยตาตัวเองหรอกนะคะ ต้องลองไปสัมผัสดูค่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่อยากเดินทางไปต่างจังหวัด วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามก็เป็นอีกหนึ่งวัดที่จัดกิจกรรมเข้าพรรษาค่ะ

“ท่องเที่ยวอิ่มบุญ…สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น” อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top