กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร

5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไหว้แล้วมีสิทธิสละโสด

ศาลท้าวมหาพรหม กรุงเทพมหานคร.เชื่อกันว่า ท่านท้าวมหาพรหมเป็นเทพเจ้าที่มีเมตตา สามารถดลบันดาลให้ผู้ที่มาขอพรนั้นสมปรารถนาในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ชีวิต หน้าที่การงาน โดยผู้ที่มาขอพรพระพรหมนั้นมักจะบนบานด้วยการถวายพวงมาลัยดอกไม้เจ็ดสีเจ็ดศอก ช้างไม้ หรือละครรำ.ยังมีกิตติศัพท์เลื่องลือกันในหมู่ของผู้ที่ต้องการมีบุตรด้วยว่า หากได้มาอธิษฐานขอพรจากท่านแล้ว มักจะสมหวัง แม้แต่ชาวต่างชาติก็ถึงกับข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ.ในวันที่ 9 พฤศจิกายนของทุกปี จะมีการจัดงานบวงสรวงพระพรหม เนื่องในโอกาสครบรอบการตั้งศาลด้วย  พระตรีมูรติ กรุงเทพมหานคร.ผู้ใดที่ยังไร้คู่หรือไม่มีโชคในด้านความรัก หากได้มาบูชาพระตรีมูรติและตั้งจิตอธิษฐานขอพรให้พบกับเนื้อคู่แล้ว ก็มักจะได้สมดังปรารถนา รวมทั้งเรื่องของชีวิตและหน้าที่การงานอีกด้วย เวลาที่ดีที่สุดในการสักการะ คือ คืนวันพฤหัสบดี เวลา 21.30 น. เพราะเชื่อว่าเป็นเวลาที่เทพจะลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อรับฟังและประทานพรให้แก่ผู้ขอ.วิธีบูชาพระตรีมูรติ ใช้ธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง ดอกกุหลาบแดง และผลไม้ พร้อมกล่าวชื่อ นามสกุล รวมทั้งที่อยู่ของตนเองด้วย.วันบวงสรวงพระตรีมูรติ ตรงกับวันที่ 2 ธันวาคม ของทุกปี วัดโสธรราชวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา.ผู้ที่นับถือหลวงพ่อโสธรเชื่อว่าเมื่อได้มาสักการะแล้ว จะมีแต่ความสุข เป็นสวัสดิมงคลแก่ชีวิต และในหมู่ผู้ที่มีบุตรยากยังเดินทางมาพร้อมกับความหวัง.เพราะเชื่อกันว่า หากได้มาขอหลวงพ่อแล้วจะได้ลูกชาย และเมื่อสมดังหวัง ก็นิยมมาถวายละครชาตรี ไข่ต้ม ผลไม้ และพวงมาลัย.งานนมัสการประจำปีหลวงพ่อโสธร จัดขึ้นปีละ 3 ครั้ง คือ– กลางเดือน 5 (เมษายน)– กลางเดือน 12 (พฤศจิกายน)– เทศกาลตรุษจีน ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา.เชื่อกันว่า เจ้าแม่สร้อยดอกหมากจะดลบันดาลให้ผู้ที่มากราบไหว้ขอพร มีแต่ความสุข ความสำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องของความรักและคู่ครอง ถ้ามีใจที่แน่วแน่มั่นคง ก็มักสมหวังดังใจปรารถนา.หรือผู้ที่อยากมีบุตรก็มักจะมาขอพรจากเจ้าแม่เช่นกัน เมื่อได้สมดังที่ขอแล้วมักจะนำผ้าแพร ไข่มุก เรือสำเภาจำลอง หรือนำสิงโตมาเชิดเพื่อถวายเจ้าแม่ พระธาตุศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย จ.เลย.เชื่อกันว่า หากผู้ใดได้มาบนบานศาลกล่าว แล้วแก้บนด้วยต้นผึ้ง จะได้สมตามความปรารถนาทุกประการ และถ้าขอพรในด้านที่เกี่ยวกับความรักและมิตรภาพ สัมพันธภาพนั้นก็จะยั่งยืนสืบไป.ข้อปฏิบัติที่ควรทราบคือ ไม่ควรแต่งกายในชุดสีแดง รวมทั้งงดนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นไปบูชา เพราะสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง นอกจากนี้ยังไม่ควรกางร่ม สวมหมวก และสวมรองเท้าขึ้นไปบริเวณพระธาตุอีกด้วย.พระธาตุศรีสองรัก สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เพื่อเป็นสักขีพยานในความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกรุงศรีอยุธยากับกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์).ประเพณีสมโภชพระธาตุศรีสองรัก จัดขึ้นในวันวิสาขบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) ของทุกปี เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562

5 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไหว้แล้วมีสิทธิสละโสด อ่านเพิ่มเติม

Walking Bangkok : เสาชิงช้า – ศาลเจ้าพ่อเสือ

เที่ยวง่ายๆ ในหนึ่งวันฉบับคนมีเวลาน้อย วันนี้แอดจะชวนเพื่อนๆ ไปเดินเที่ยว ถ่ายรูป และกินของอร่อยกันรอบกรุงเทพฯ สำหรับวันนี้เราจะไปลัดเลาะในเส้นทางแรกนั่นคือ เสาชิงช้า – ศาลเจ้าพ่อเสือ  โกปี๊ เฮี้ยะไถ่กี่ ร้านกาแฟโบราณรุ่นเก๋ากว่า 60 ปี ที่มีต้นกำเนิดมาจากร้านขายของโชห่วย กลายมาเป็นร้านกาแฟ เฮี้ยะไถ่กี่ บน ถ.วิสุทธิกษัตริย์ ต่อมาได้มีการขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 4 สาขา ในชื่อว่า โกปี๊ เฮี้ยะไถ่กี่ สาขา 1 เสาชิงช้าสาขา 2 ผ่านฟ้าสาขา 3 ตลาดเสรีมาร์เก็ต เดอะไนน์ พระราม 9สาขา 4 เดอะ ไบรท์ พระราม2 เช้านี้แอดตั้งใจจะพาเพื่อนๆ มาฝากท้องกันที่นี่ ซึ่งเค้าก็มีหลากหลายเมนูให้เลือกทั้งของว่างทานเล่น และเมนูอาหารเช้า ไม่ว่าจะเป็น ไข่กระทะ สเต็กหมู สเต็กปลา ข้าวต้ม ข้าวปลาแซลมอน ขนมปังปิ้ง โรตี ฯลฯ ทางร้านให้ลูกค้าบริการตัวเองนะคะ เดินมาสั่งและรับอาหารหรือเครื่องดื่มที่หน้าเคาน์เตอร์ด้วยตัวเองได้เลย สำหรับมื้อเช้าของแอดเป็น “ไข่กระทะ” ไข่ดาว 2 ฟอง และหมูสับ มาพร้อมชุดขนมปัง ที่ประกอบด้วยขนมปัง หมูยอ และกุนเชียง เครื่องแน่นอยู่นะ แต่ถ้ายังไม่จุใจก็สามารถเพิ่มชีสและเบคอนได้ ทางร้านเรียกว่า “ไข่กระทะครบสูตร” หรือจะไม่เพิ่มก็ได้ แล้วแต่ความชอบเลยจ้า ไม่อิ่มขอต่ออีกชาม “เส้นใหญ่ต้มยำ” เมนูนี้ใครได้ลองชิมแล้วต้องอยากซดน้ำต้มยำร้อนๆ บอกเลยว่าโล่งคอสุดๆ เส้นใหญ่เหนียวนุ่ม เครื่องต้มยำก็แซ่บ เครื่องดื่มของร้านเป็นสไตล์โบราณ แต่ก็มีความร่วมสมัยอยู่ด้วย ทั้งชา กาแฟ นมเย็น โอเลี้ยง ฯลฯ แก้วสูงๆ นั้นเรียกว่า “ชาเฟ” เป็นทั้งชาและกาแฟในแก้วเดียวกัน กาแฟเข้มข้นผสมชาซีลอนแท้ๆ โปะด้วยวิปครีมนุ่มๆ ดื่มตอนแรกจะได้กลิ่นชาก่อน จากนั้นตามด้วยรสเข้มๆของกาแฟ ฟินมาก ถัดมาคือ “โอวัลตินภูเขาไฟ” เมนูที่หลายคนคงจะเคยดื่ม และยังชื่นชอบไม่เคยเปลี่ยน แก้วสุดท้าย “ชาซีลอนเย็น” รสชาติเข้มข้น หวานมัน หอมชามาก คนรักชาห้ามพลาด โกปี๊ เฮี้ยะไถ่กี่ ณ เสาชิงช้า ที่ตั้ง : 37 อาคารหัวมุมซอยสำราญราษฎร์ ถนนศิริพงษ์ กรุงเทพฯ (ใกล้ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร)เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 20.00 น.โทร. 091 979 1498พิกัด : https://goo.gl/maps/bH2Ena3PSZL2 เรามุ่งหน้าเดินจากร้านกาแฟ ผ่านศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ตรงมายังถนนมหรรณพ เดินมาเรื่อยๆ เเวะชิม “ขนมกุ๋ยช่าย เจ๊ต้อย” เจ้าดังกันก่อน ร้านนี้เปิดมา 10 กว่าปีแล้ว เป็นกุ๋ยช่ายต้นตำรับแป้งบางนุ่ม ไส้เยอะมาตั้งแต่สมัยรุ่นแม่ของเจ้าของร้าน น้ำจิ้มรสชาติจัดจ้าน โดดเด่นด่วยกุ๋ยช่ายทรงหลังเต่า ไม่แบนเหมือนที่อื่นๆ แตกต่างไม่เหมือนใคร กุ๋ยช่ายร้านนี้มีทั้งหมด 6 ไส้ด้วยกัน ได้แก่ กะหล่ำ-เห็ดหอม หน่อไม้สดกุ้งแห้ง เผือก มันแกว และกุ๋ยช่าย ราคาชิ้นละ 7 บาท ที่ตั้ง : 122 ถนนมหรรณพ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 15.00 น.โทร. 062 857 3777, 081 836 5941พิกัด : https://goo.gl/maps/FKRgkkLbQ112 อิ่มแล้วพร้อมลุยต่อ จากร้านกุ๋ยช่าย เดินตรงไปตามถนนมหรรณพจนสุดทางก็จะเจอ “ศาลเจ้าพ่อเสือ” หรือที่ชาวจีนเรียกว่า “ตั่วเหล่าเอี้ย” เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนต่างมากราบไหว้ขอพร เสริมดวงบารมี รวมถึงสะเดาะเคราะห์แก้ปีชงต่าง ๆ อีกด้วย ที่ตั้ง : 468 ถนนตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 17.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/r1VnBaxTgFN2 ออกจากศาลเจ้าพ่อเสือ เดินไปทางขวานิดเดียวก็จะพบกับ “ซุ้มประตู” ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมไทย ย่านแพร่งสรรพศาสตร์ ลักษณะเป็นกรอบประตูรูปซุ้มโค้ง ภายในวงกลมด้านบนประดับกระจกสีและประติมากรรมเทพธิดากรีกขนาดเกือบเท่าคนจริงอยู่ในท่ายืนถือคบไฟ แต่เดิมบริเวณนี้คือวังของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ (พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์) เจ้ากรมช่างมหาดเล็กสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งภายหลังวังได้เกิดเพลิงไหม้เสียหายจนหมด คงเหลือเพียงซุ้มประตูวังเท่านั้น แวะถ่ายรูปกันสักหน่อยแล้วไปลุยกันต่อ จัดหนักกันอีกมื้อที่ “นายอ้วนเย็นตาโฟบะเต็ง” ตั้งอยู่ในตรอกนาวา จากซุ้มประตูวังเดินตรงมาทางขวาเรื่อยๆ ซอยจะอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนถึงแพร่งนรา (สังเกตธนาคารกรุงเทพหน้าปากซอย) เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 50 ปีแล้ว มีลูกค้ารอคิวต่อแถวซื้อเป็นจำนวนมาก จนต้องขยายร้านเป็นสองคูหาเลยทีเดียว ที่ตั้ง : 41 ตรอกนาวา ถนนตะนาว แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 – 21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/5cwTFWcZPCD2 ความอร่อยของร้านนี้คือ ลูกชิ้นที่ทางร้านทำเอง สดใหม่ทุกวัน ไม่ใส่สารกันบูด รสชาติก๋วยเตี๋ยวที่เข้มข้น และเครื่องที่อัดแน่นจนเต็มชาม ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้นปลา เต้าหู้ เกี๊ยวกรอบ หมึกกรอบ เรียกได้ว่าจัดเต็ม สำหรับใครที่สั่งก๋วยเตี๋ยวแห้งและเย็นตาโฟแห้ง ก็จะมีหมูบะเต็งหวาน ๆ เค็ม

Walking Bangkok : เสาชิงช้า – ศาลเจ้าพ่อเสือ อ่านเพิ่มเติม

Walking Bangkok : สามเสน-เทเวศร์

ใครชอบเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองเก่าและประวัติศาสตร์ ตามแอดมา แอดจะพาไปเดินซอกแซกตามตรอกซอกซอยแถวย่านสามเสน เทเวศร์ พาไปศาลเจ้า ไหว้พระ ไปย้อนอดีตดูความงดงามของโบสถ์คริสต์ และวัดเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถมเติมพลังกันที่ร้านอร่อยประจำย่านนี้ เรียกว่าวันเดียวได้ทั้ง ไทย จีน ฝรั่งเลยแหละ ศาลเจ้าแม่ทับทิม (จุ่ยป๋วยเนี้ย) ศาลเจ้าเก่าแก่ของชาวจีนไหหลำ องค์เจ้าแม่สลักจากขอนไม้ใหญ่ที่ลอยน้ำมา เป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาสักการะ ช่วงนี้ใครกำลังหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ อยากจะประสบความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ ก็มาไหว้เจ้าแม่ทับทิมได้ ที่ตั้ง : 6 ถนนราชวิถี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร (เชิงสะพานซังฮี้)เปิดทุกวัน เวลา 07.00-19.00 น. ตลาดบ้านญวน เป็นตลาดเล็ก ๆ อยู่ในซอยสามเสน 13 ตอนเช้าชาวบ้านในละแวกนี้จะมาตั้งร้านขายของกันเต็มสองข้างทาง มีร้านอาหารเด็ด ๆ เช่น ร้านข้าวเหนียวหมูทอด ร้านปลากริมปลา และร้านกาแฟ น้ำชงหลายชนิด นอกจากนี้ตลาดบ้านญวนยังเป็นแหล่งที่มีร้านขายอาหารเวียดนามตั้งอยู่หลายร้านอีกด้วย.ที่ตั้ง : ซอยสามเสน 13 เขตดุสิต กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลาประมาณ 05.30-08.00 น.*วันอาทิตย์จะมีของขายเยอะที่สุด* วัดนักบุญแซงฟรังซัวซาเวียร์ หรือชื่อที่คุ้นหูคือวัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ ในอดีตวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดชั่วคราวให้แก่ชาว “คริสตังญวน” ที่ลี้ภัยสงครามมาอาศัยอยู่บริเวณนี้ เดิมวัดสร้างด้วยไม้ไผ่ แต่อยู่ได้เพียงปีเดียวก็เกิดพายุใหญ่พัดทำลายวัดจนเสียหายเมื่อ พ.ศ.2380 พระคุณเจ้ากูรเวอซี ประมุขมิซซังกรุงสยามจึงได้ออกเงินให้สร้างวัดใหม่ เป็นอาคารไม้ และต่อมา คุณพ่อปิแอร์ เมาริส ยิบาร์ตา เจ้าอาวาสเห็นว่าวัดไม้มีขนาดเล็ก ไม่เพียงพอสำหรับคนทั่วไป จึงขอรับบริจาคและสร้างอาคารหลังใหม่ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรป ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างนาน 10 ปี ที่ตั้ง : ซอยสามเสน 11 เขตดุสิต กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. วัดคอนเซ็ปชัญ เป็นวัดคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกหลังแรกในย่านบางกอก สร้างตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยพระองค์ได้พระราชทานที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาเหนือวัดสมอราย 1 แปลง ให้แก่พระสังฆราชหลุยส์ ลาโน เพื่อสร้างวัดแห่งนี้ พระสังฆราชลาโนได้ตั้งชื่อวัดว่า “คอนเซ็ปชัญ” ที่มีความหมายว่า “วัดแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมน” โดยมีชาวโปรตุเกสกว่า 60 ครอบครัว เดินทางมาตั้งถิ่นฐานที่ชุมชนริมน้ำเจ้าพระยาย่านสามเสนแห่งนี้ด้วย นอกจากจะมีรูปปั้นพระแม่มารีในโบสถ์แล้ว บริเวณใกล้กับโบสถ์ ยังมีประติมากรรมรูปพระแม่มารีประดิษฐานอยู่ในถ้ำอีกด้วย แสดงให้เห็นว่าชุมชนแห่งนี้นับถือและศรัทธาท่านเป็นอย่างมาก.ที่ตั้ง : ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซอยมิตตคาม (ซอยสามเสน 11) เขตดุสิต กรุงเทพมหานครพิกัด : https://goo.gl/maps/bLDTejHQGQB2การเข้าชมควรติดต่อขออนุญาตจากบาทหลวงผู้รับผิดชอบก่อนล่วงหน้า โทร. 02 243 2617 วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร เดิมชื่อว่า “วัดสมอราย” เป็นวัดสำคัญที่ได้รับการบูรณะมาโดยตลอด ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ และพระราชทานนามว่า “วัดราชาธิวาสวิหาร” มีความหมายว่า “วัดอันเป็นที่ประทับของพระราชา” เนื่องจากขณะทรงผนวชได้เคยเสด็จประทับที่วัดนี้นั่นเอง……………………………………………………………….พระอุโบสถออกแบบโดยสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ มีรูปทรงและลวดลายเลียนแบบสถาปัตยกรรมขอม ภายในแบ่งเป็น 3 ห้อง ห้องแรกเป็นโถงทางเข้า ห้องกลางเป็นห้องพิธีและประดิษฐานพระประธานคือ “พระสัมพุทธพรรณี(องค์จำลอง)” ส่วนห้องหลังสุด เป็นที่ประดิษฐานพระประธานองค์เดิมของวัดนามว่า “พระสัมพุทธวัฒโนภาส” จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ เป็นเรื่องราวพระเวสสันดรชาดกทั้ง 13 กัณฑ์ ฝีพระหัตถ์ทรงร่างของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ วาดและลงสีโดยนายคาร์โล ริโกลี จิตรกรชาวอิตาเลียนผู้มีชื่อเสียง ภายในวัดยังมีศาลาการเปรียญที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง โดยสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงให้สร้างเลียนแบบศาลาการเปรียญวัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี ถือเป็นศาลาการเปรียญที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย .ที่ตั้ง : ซอยสามเสน 9 ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานครพิกัด : https://goo.gl/maps/s1gvobxNwRD2 วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ เดิมชื่อว่า “วัดสมอแครง” ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงรับเป็นพระอารามหลวง และพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร” ตามพระนามของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากุญชร กรมพระพิทักษ์เทเวศร์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2 ผู้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัด.ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระประธานที่ทำจากโลหะลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ศิลปะทวารวดี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานนามว่า “พระพุทธเทวราชปฏิมากร”.พระอุโบสถ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. มณฑปจตุรมุข สร้างครอบพระอุโบสถเก่าเมื่อ พ.ศ. 2536 ภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อดำ” พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่เก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มณฑปจตุรมุขนี้ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงพุทธศิลป์ต่างๆ เช่น พระพุทธรูปโบราณ พระพุทธบาทสมัยอยธุยา ฯลฯ.เปิดทุกวัน เวลา 9.00-17.00 น.  พิพิธภัณฑ์สักทองเป็นอาคารทรงปั้นหยาประยุกต์ 2 ชั้น สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง มีอายุประมาณ 479 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพระพุทธศาสนา และอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติในด้านสถาปัตยกรรม ภายในจัดแสดงรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งเท่าพระองค์จริงของสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 19 พระองค์ และประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา.เปิดทุกวัน เวลา 10.00-17.00 น.……………………………………………………….วัดเทวราชกุญชรวรวิหารที่ตั้ง : 90 ถนนศรีอยุธยา เขตดุสิต กรุงเทพมหานครพิกัด : https://goo.gl/maps/VYXc7u8gsU72โทร. 02 281 2430  เดินมาเยอะแล้ว มาเติมพลังกันดีกว่า ร้านสี่เสาทะเลเดือดร้านนี้เด่นเรื่องก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสแซ่บ ที่ยกทะเล มาไว้ในชามด้วย เรียกได้ว่าแซ่บจนทะเลเดือดเลยทีเดียว.ที่ตั้ง : สี่เสาเทเวศร์ ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานครเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 07.30-17.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)โทร.02 628 6868, 083 642 2891  ที่ร้านมีเมนูแซ่บๆ ให้เลือกมากมายทั้ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล

Walking Bangkok : สามเสน-เทเวศร์ อ่านเพิ่มเติม

walking Bangkok : บางรัก-สีลม

วันนี้แอดจะพาเพื่อนๆ มาเดินเล่น ชิมอาหาร และชมตึกเก่าในย่านบางรัก ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยอาหารอร่อย และวัฒนธรรมอันหลากหลาย ใครที่ยังไม่รู้ว่าวันหยุดจะไปไหนดี ก็มาเที่ยวตามแอดได้เลยนะ แอดพาทุกคนมาเริ่มกันที่ “ศาลเจ้าเจียวเองเบี้ยว” หรือเรียกอีกอย่างว่า “ศาลเจ้าบางรัก” ตั้งอยู่บริเวณใต้สะพานตากสิน ข้างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานตากสิน หลังตลาดบางรักนี่เอง ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าไหหลำที่มีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปี สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงนักเดินทางชาวจีน 108 คน ที่ล่องเรือสำเภาเพื่อมาค้าขายที่นี่ แต่กลับถูกฆ่าตายที่เวียดนามเสียก่อนเพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโจรสลัด นับป็นศาลเจ้าที่เป็นที่นับถือของชาวจีนในแถบนี้ ผู้คนนิยมมาขอพรเรื่องความรัก ศาลเจ้าเจียวเองเบี้ยว ที่ตั้ง : ซ.เจริญกรุง 50 แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. ขาหมูตรอกซุง เรามาต่อกันที่ “ร้านข้าวขาหมูตรอกซุง” ร้านขึ้นชื่อที่อยู่คู่บางรักมานานกว่า 40 ปี ข้าวขาหมูร้านนี้อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ น้ำพะโล้เข้มข้นแต่รสไม่จัดจ้านจนเกินไป กลมกล่อมกำลังดี ทานคู่กับผักกาดดองและน้ำส้มที่เผ็ดนิดๆ ยิ่งเพิ่มความอร่อยขึ้นไปอีก ถ้ายังไม่จุใจสามารถสั่งไข่พะโล้หรือไส้หมูมาเพิ่มได้ด้วย นอกจากขาหมู ก็ยังมีเมนูอื่นๆ อีก อย่างวันจันทร์และวันพุธจะมีแกงจืดมะระ ส่วนวันอังคารและวันพฤหัสบดีจะมีแกงจืดไชเท้า ซดกันให้คล่องคอไปเลย ที่ตั้ง : 106/5 ถ.เจริญเวียง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ (ซอยตรงข้ามโรบินสันบางรัก)เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.30-19.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)โทร. 02 235 4930 โหมงหวอ ร้านขายน้ำขมในตำนานของบางรัก ที่ขายมายาวนานกว่า 70 ปี มีน้ำขมให้เลือกทั้งขมมากและขมน้อย และยังมีน้ำสมุนไพรต่างๆ อีกมากมายให้เลือกดื่มด้วย ที่ตั้ง : 1441 ถ.เจริญกรุง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00–21.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)โทร. 02 233 9263 แอดเคยดื่มน้ำขมมาแล้วครั้งนึง ฝาดและขมจนแอดตกใจ วันนี้ก็เลยจัดน้ำรากบัวและน้ำเก๊กฮวยมาลองชิมแทน น้ำรากบัวที่นี่รสหวานเบาๆ นุ่มๆ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น น้ำเก๊กฮวยก็ไม่หวานมากเช่นกัน ที่สำคัญหอมด้วย ประจักษ์เป็ดย่าง อีกหนึ่งร้านเก่าแก่ของย่านบางรัก จากกิจการครอบครัวขนาด 1 คูหาที่เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2452 จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 110 ปีแล้ว ปัจจุบันดำเนินการโดยทายาทรุ่นที่ 4 ที่ตั้ง : 1415 ถ.เจริญกรุง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 10.30-19.00 น.โทร. 02 234 3755 วันนี้แอดสั่ง 2 เมนูมาลองทาน คือ ข้าวหน้าเป็ด+หมูกรอบ และเกี๊ยวน้ำกุ้ง ข้าวหน้าเป็ด+หมูกรอบ เป็ดนุ่มอร่อยสมกับเป็นเมนูแนะนำ ไม่มีกลิ่นสาบ หนังกรอบ หอม ไม่มัน หมูกรอบก็กรอบกำลังดี มีรสเค็มนิดๆ เข้ากับน้ำซอสที่ราดได้ดี ส่วนเกี๊ยวน้ำกุ้ง น้ำซุปกลมกล่อม ซดได้เรื่อยๆ เกี๊ยวกุ้งก็อร่อย หอมกลิ่นน้ำมันงา วัดสวนพลู อิ่มแล้วก็มาเที่ยวกันต่อ แอดพามาที่ “วัดสวนพลู” ซึ่งไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ หมู่กุฏิที่เป็นเรือนไม้ 2 ชั้น หลังคาทรงปั้นหยา ประดับส่วนต่างๆ ของอาคารด้วยไม้ฉลุลวดลายสวยงาม แบบที่เรียกว่า “ขนมปังขิง” นอกจากนี้ยังมี “ศาลพระโพธิสัตว์กวนอิม” ซึ่งเป็นศาลาทรงไทยตั้งอยู่กลางสระน้ำ ภายในประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม เป็นที่เคารพสักการะอย่างมาก มีผู้คนเข้ามาสักการะและเสี่ยงเซียมซีอยู่เสมอ ที่ตั้ง : 58/1 ซ.เจริญกรุง 42/1 แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ (ใกล้โรงแรมแชงกรีลา)โทร. 02 234 4471 ปั้นลี่เบเกอรี่ เดินชิลๆ ต่อมาจนเกือบถึงแยกบางรัก จะพบกับ “ปั้นลี่เบเกอรี่” ร้านเบเกอรี่เจ้าดังขนาด 2 คูหา ที่เป็นตำนานร้านหนึ่งของย่านบางรัก เปิดขายมาตั้งแต่ พ.ศ.2498 ที่นี่มีขนมหลากหลายชนิดให้เลือก และยังมีมุมให้นั่งทานขนมที่บริเวณชั้นลอยด้วย จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ขนมที่ทำสดใหม่ทุกวัน ไม่มีค้างคืน และไม่ใส่วัตถุกันเสีย รับรองว่าได้ของดีมีคุณภาพแน่นอน ที่ตั้ง : 1335 ถ.เจริญกรุง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯเปิดทุกวัน– วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-20.00 น.– วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-17.00 น.โทร. 02 233 5428 วันนี้แอดสั่งอเมริกาโน่ (ไม่หวาน) ชานมไข่มุก (หวานน้อย) เค้กมะพร้าว และบราวนี่มาทาน อเมริกาโน่ของที่นี่ใช้กาแฟอาราบิก้าจากเชียงใหม่ เมล็ดกาแฟที่ใช้เป็นแบบคั่วกลาง ทำให้รสชาติที่ได้ไม่เข้มมากนัก มีกลิ่นหอมติดลิ้น รสชาติโอเคเลย มาต่อกันที่ชานมไข่มุก แอดสั่งแบบหวานน้อยมา ก็หวานน้อยจริงๆ นะ แอดชอบมาก หอมน้ำตาลทรายแดง ไข่มุกสีเหลืองก็นุ่มหนึบหนับ ส่วนเค้กมะพร้าวและบราวนี่ก็อร่อย ดีงามตามท้องเรื่อง สมกับเป็นเบเกอรี่เจ้าดังจริงๆ ร้านอาหารมุสลิม ร้านนี้ตั้งอยู่ที่แยกบางรัก เปิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 70 ปี บรรยากาศเหมือนร้านอาหารหรือน้ำชาทางภาคใต้ ผนังสีเหลืองอ่อนลายกระเบื้องตัดกับสีฟ้าดูน่ารัก สามารถสั่งอาหารได้ทั้งจากเมนูและตู้หน้าร้าน รสชาติทานง่าย กลิ่นเครื่องเทศฉุนแต่ไม่เหม็น วัตถุดิบคัดมาแล้วเป็นอย่างดี ที่ตั้ง : 1354-1356 ถ.เจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.โทร. 02 234

walking Bangkok : บางรัก-สีลม อ่านเพิ่มเติม

Walking Bangkok : เยาวราช

“เยาวราช” เมื่อได้ยินคำๆ นี้ทีไรแอดก็อดนึกถึงวัฒนธรรมไทย – จีน และของกินแสนอร่อยไม่ได้เลย .ปกติแล้วเยาวราชจะเป็นสวรรค์ของเหล่าบรรดานักชิมยามราตรี แต่วันนี้แอดจะพาเพื่อนๆ ไปเดินลัดเลาะถ่ายรูป เช็คอิน และแวะชิมของอร่อยย่านเยาวราชในตอนกลางวันแบบ 1 Day Trip กันค่ะ วันนี้เราจะมาเริ่มต้นทริปด้วยการมาไหว้พระขอพรกันที่ “วัดไตรมิตรวิทยาราม” ค่ะ วัดนี้เป็นวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดดเด่นด้วยพระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ที่สวยงาม.ซึ่งกินเนสส์บุ๊คก็ได้บันทึกไว้ว่า “พระสุโขทัยไตรมิตร” หรือ “หลวงพ่อทองคำ” พระประธานภายในพระมหามณฑป เป็นพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ในแต่ละวันจึงมีผู้คนเดินทางมาเพื่อชมพระพุทธรูปองค์นี้ด้วยตาตนเองเป็นจำนวนมาก อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อมาวัดไตรมิตรก็คือ “ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช” หรือ “พิพิธภัณฑ์วัดไตรมิตร” เพราะที่นี่จะทำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับเยาวราชมากยิ่งขึ้น ผ่านการจัดแสดงตามห้องต่างๆ ค่ะ.ที่ตั้ง ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100วัดเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น..พิพิธภัณฑ์เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00 – 17.00 น. (ปิดวันจันทร์) ออกจากวัดมา เพื่อนๆ ก็จะพบกับ “ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา” ที่ชาวไทยเชื่อสายจีนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ใน พ.ศ.2542 .ปัจจุบันที่นี่ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สวยงามของเยาวราช ซึ่งเพื่อนๆ สามารถมายืนขอพรรับพลัง รวมทั้งโพสต์ท่าถ่ายรูปชิคๆ ได้ค่ะ .ที่ตั้ง ถนนมิตรภาพไทย-จีน แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100 ตอนนี้ท้องเริ่มร้องครวญครางเพราะความหิวแล้ว แอดเลยแวะทานอาหารที่ “ร้านหลงโถว” ก่อนจะเดินทางต่อ ร้านนี้เป็นคาเฟ่เล็กๆ สไตล์จีนที่ตกแต่งอย่างเก๋ไก๋ เมนูที่มาถึงแล้วต้องห้ามพลาดเลยก็คือ– Chinese Breakfast ชุดข้าวต้มสุดคลาสสิก– Egg Lava Bun ซาลาเปาไส้ไข่ไหลที่จัดว่าเด็ดมากๆ– Lhong Tou Shumai เกี๊ยวสอดไส้หมูสับและกุยช่าย ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดไม่เหมือนใคร– และสุดท้าย เกี๊ยวกุ้งทอดไส้แน่นจุใจ มีความกรอบนอกนุ่มใน แม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ภายในมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบหลายโซนเลย ซึ่งโซนยอดฮิตก็คงหนีไม่พ้นชั้นลอย เพราะดูแปลกตาไม่เหมือนใคร.แอดแนะนำให้ไปก่อนเที่ยงนะคะ เพราะคนยังไม่เยอะมาก ถ้าไปหลังจากนั้นอาจจะต้องรอคิวนานเลยละค่ะ.ที่ตั้ง 538 ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 22.00 น.โทร 085 824 6934 จากนั้นเราก็เดินไปตามถนนเยาวราช ลัดเข้าถนนแปลงนามเพื่อไปยังวัดเล่งเน่ยยี่ ระหว่างทางก็แวะชิม “ขนมจีบแป๊ะเซี๊ย” ตำนานขนมจีบรสเด็ดย่านเยาวราช หน้า “วัดมงคลสมาคม” หรือ “วัดญวน” กันซะหน่อย ตอนที่แอดมาถึงมีคนกำลังต่อคิวรอซื้อขนมจีบอยู่เป็นจำนวนมาก แต่รอไม่นานความอร่อยก็เดินทางมาสู่ปลายลิ้น ขนมจีบขนาดพอดีคำ อิ่มกำลังดี และที่สำคัญคือน้ำจิ้มอร่อยมาก.ถ้าใครผ่านมาแถวนี้ อย่าลืมมาลองชิมกันดูนะคะ เพียงลูกละ 3 บาทเท่านั้น รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนค่ะ.ที่ตั้ง ถนนแปลงนาม แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 19.00 น. หลังจากอิ่มหนำสำราญกับขนมจีบกันแล้ว เราก็เริ่มเดินเท้าต่อไปยัง “วัดมังกรกมลาวาส” หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อว่า “วัดเล่งเน่ยยี่” นั่นเอง วัดเล่งเน่ยยี่นับเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงาม จุดเด่นของที่นี่คือการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เพื่อขอพร และการแก้ปีชง สำหรับใครที่อยากมาแก้ชง แอดแนะนำที่นี่เลย เพราะเค้าว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ เลยนะ ส่วนใครที่ไม่ได้ชงก็รอดื่มได้เลยค่ะ เอ๊ยไม่ใช่ค่ะ! ส่วนใครที่ไม่ได้เกิดตรงกับปีชงก็ยังสามารถมาไหว้เทพเจ้าต่างๆ เพื่อเสริมสิริมงคลได้นะคะ .ที่ตั้ง ถนนเจริญกรุง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 น. สถานที่สุดท้ายของทริปวันนี้ แอดมาทำบุญที่ “ศาลเจ้าไต้ฮงกง” ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมเดินทางมาทำบุญสะเดาะเคราะห์ด้วยการบริจาคโลงศพให้กับศพไร้ญาติ  ทุกวันนี้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากต่อวัน และผู้เสียชีวิตบางรายก็ไม่มีญาติหรือแม้กระทั่งเงินทำศพให้กับตนเอง ดังนั้นหากเราอยากจะทำทาน การบริจาคโลงศพให้กับศพไร้ญาติก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งทีดีไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ.ที่ตั้ง ถนนพลับพลาไชย แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น. เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 17 มกราคม 2562

Walking Bangkok : เยาวราช อ่านเพิ่มเติม

Walking Bangkok : วังหน้า – บางลำพู

สัมผัสเสน่ห์ย่านชุมชนเก่าแก่ ลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอย แวะไหว้พระ เดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ ตามหาของอร่อยๆ ทานให้หนำใจ ที่ “ย่านวังหน้า – บางลำพู” .บอกเลยว่าเป็นเส้นทางที่เดินไม่เหนื่อย เข้าไปไหว้พระสงบจิตสงบใจ ถ้าใครกลัวแดดร้อนก็สามารถเข้าไปตากแอร์เย็นๆ ในพิพิธภัณฑ์ หรือจะหามุมนั่งเล่นพักผ่อนในร้านกาแฟก็ย่อมได้  สถานที่กิน ที่เที่ยว – ร้านปาท่องโก๋ คาเฟ่– วัดบวรนิเวศวิหาร– ร้าน ณ บวร– พิพิธบางลำพู– ร้านพัวกี่ เย็นตาโฟ– พิพิธภัณฑ์เหรียญ– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร– วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร– นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว– ร้าน A pink rabbit + Bob ก่อนเริ่มทริป เราไปเติมพลังกันที่ร้าน “ปาท่องโก๋ คาเฟ่” กันก่อน ร้านเป็นตึกแถว 2 คูหา อยู่หัวมุมถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศพอดี ภายในร้านไม่ได้มีแค่ปาท่องโก๋นะ แต่ยังมีเมนูหลากหลายให้เลือกทานเลย ทั้งเมนูของคาวและของหวานที่ใช้ปาท่องโก๋มาประยุกต์ เช่น ปาท่องโก๋หน้าไก่ ปาท่องโก๋ยำทรงเครื่อง และอีกมากมาย แอดทานแบบเบาๆ กับเมนูปาท่องโก๋ย่างพริกเผาหมูหยอง บอกเลยอร่อยมากๆ อิ่มกำลังพอดี ปาท่องโก๋ไม่อมน้ำมันด้วย อีกเมนูก็คือ ปาท่องโก๋ไอศกรีมวานิลลา เมนูนี้ก็เก๋ไม่แพ้กัน เพราะเป็นปาท่องโก๋ที่โปะด้วยไอศกรีม 1 สกู๊ปอยู่ด้านบน ไอศกรีมเป็นแบบโฮมเมด มีหลายรสชาติทั้งชาไทย กาแฟ วานิลลา และลิ้นจี่ น่าลองทุกรสเลย ปาท่องโก๋ คาเฟ่ที่ตั้ง : 246 ถนนพระสุเมรุ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพฯ (อยู่ตรงหัวมุมถนนพระสุเมรุตัดกับถนนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ)เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.โทร. 02 281 9754 หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว ก็เดินข้ามถนนมาที่ “วัดบวรนิเวศวิหาร” วัดบวรนิเวศวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ระหว่าง พ.ศ.2367-2375 โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพเป็นแม่กองก่อสร้าง ต่อมา พ.ศ.2379 รัชกาลที่ 3 ได้เชิญเสด็จเจ้าฟ้ามงกุฎซึ่งผนวชจำพรรษาอยู่ที่วัดราชาธิวาส มาจำพรรษาที่วัดนี้ โดยจัดขบวนแห่เหมือนอย่างพระมหาอุปราช แล้วพระราชทานนามวัดว่า “วัดบวรนิเวศวิหาร” พระอุโบสถ เป็นอาคารทรงตรีมุข หลังคามุงกระเบื้องเคลือบลูกฟูกแบบจีน หน้าบันประดับกระเบื้องเคลือบ ตรงกลางเป็นตราพระมหามงกุฏและพระแสงขรรค์ประดิษฐานเหนือพานแว่นฟ้า มีใบเสมาศิลาติดอยู่ที่ผนังด้านหน้า ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือขรัวอินโข่ง ซึ่งรัชกาลที่ 4 มีพระราชดำริให้เขียนขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งยังทรงผนวช ภายในประดิษฐานพระประธาน 2 องค์องค์หน้าคือ “พระพุทธชินสีห์” อัญเชิญมาจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก องค์หลังคือ “พระสุวรรณเขต” หรือ หลวงพ่อโต อัญเชิญมาจากวัดสระตะพาน จ.เพชรบุรี ที่ฐานพุทธบัลลังก์ของพระพุทธชินสีห์ยังเป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคารของพระมหากษัตริย์ถึง 2 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 9 ด้วย เจดีย์ประธานของวัดสร้างสมัยรัชกาลที่ 4 มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังขนาดใหญ่ หุ้มกระเบื้องสีทอง ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ บนฐานทักษิณชั้นบน ด้านทิศตะวันออกของเจดีย์ มีซุ้มปรางค์ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 องค์จำลอง ซึ่งหล่อขึ้นเมื่อ พ.ศ.2508 (ส่วนองค์จริงทำจากปูนปลาสเตอร์ ประดิษฐานอยู่ภายในตำหนักเพ็ชร)  เดินไปอีกนิดจะพบ “วิหารพระศาสดา” ซึ่งรัชกาลที่ 4 โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2402 แล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 5 ภายในวิหารแบ่งเป็น 2 ตอน ทิศตะวันออกประดิษฐาน “พระศาสดา” พระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ทิศตะวันตกประดิษฐาน “พระไสยา” พระพุทธรูปสำริดลงรักปิดทองปางไสยาสน์ สมัยสุโขทัย ที่ฐานบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งทรงเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในวัดยังมีตำหนัก วิหาร และอาคารต่างๆ ที่สวยงามและน่าชมอยู่อีกมากเลยล่ะ วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหารที่ตั้ง : ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/mKqHQMqkr7n หลังจากไว้พระ เดินชมวัดเรียบร้อยแล้ว แอดก็มานั่งพัก หาอะไรดื่มกันที่ร้าน “ณ บวร” ร้านกาแฟโมเดิร์นคลาสสิกประยุกต์ ตั้งอยู่ในตึกแถวโบราณ ริมถนนพระสุเมรุ ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร คำว่า “ณ บวร” มีความหมายตามหลักภาษาไทย ดังนี้“ณ” หมายถึง ที่นี่“บวร” หมายถึง ประเสริฐ เลิศล้ำ แต่สำหรับร้านนี้ คำว่า “ณ บวร” ยังซ่อนความหมายและเจตนารมย์ของร้านเอาไว้ในตัวอักษรด้วย นั่นก็คือ “บ” คือ บ้าน สถานที่อบอุ่นผ่อนคลาย“ว” คือ วัด เขตของความสุข สงบ สบาย“ร” คือ ร้านกาแฟ อันหมายถึงศูนย์กลางเล็กๆ ของชุมชนที่พร้อมบริการเครื่องดื่ม ขนม และบริการที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่ายและร่วมสมัย น่านั่งมากๆ เนื่องจากตอนนี้ยังเช้าอยู่ ร่างกายต้องการคาเฟอีน แอดเลยสั่ง คาราเมล แมคเคียโต้เย็น (Iced Caramel Macchiato) รสชาติเข้มข้น หอมคาราเมล ไม่หวานเกินไป ชอบมากกก อีกเมนูคือ ช็อกโกแลตร้อน (Hot Chocolate) เข้มข้นถึงใจมากๆ

Walking Bangkok : วังหน้า – บางลำพู อ่านเพิ่มเติม

ถนนเยาวราช ชื่อนี้มีที่มา

ถนนเยาวราช สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยเห็นว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งค้าขายสำคัญของชาวจีนกับต่างชาติ จึงสนับสนุนให้สร้างถนนเพื่อรองรับการค้าและความเจริญที่จะเกิดขึ้น ครั้งแรกใช้ชื่อว่า ถนนยุพราช แต่ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่เป็น “ถนนเยาวราช”.ถนนเยาวราชใช้เวลาสร้างนานถึง 8 ปี ทั้งที่มีความยาวเพียง 1.5 กิโลเมตร เนื่องจากแนวถนนนั้นผ่านชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้การตัดถนนเป็นเรื่องยากและมีอุปสรรคมากมาย.อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์มิให้ตัดถนนถูกที่ดินของชาวบ้าน โดยให้ใช้แนวเดิมที่เป็นทางเกวียนหรือแนวทางเดินมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ส่งผลให้ถนนเส้นนี้คดเคี้ยวคล้ายมังกร จนได้สมญานามว่า “ถนนมังกร” โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เปรียบเสมือนหัวมังกร บริเวณตลาดเก่าเยาวราชเป็นท้องมังกร ไปจนถึงสุดถนนบรรจบกับถนนจักรเพชรคือหางมังกร.ปัจจุบัน ถนนเยาวราช หรือ ไชน่าทาวน์เมืองไทย ถือเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญที่คึกคักทั้งกลางวันกลางคืน เต็มไปร้านค้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นจีน ร้านทอง ธนาคาร วัดวาอาราม แหล่งท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง รวมทั้งสตรีทฟู้ดและร้านอาหารเลิศรสที่ดึงดูดผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาท่องเที่ยวไม่ขาดสาย

ถนนเยาวราช ชื่อนี้มีที่มา อ่านเพิ่มเติม

ททท. เปิดตัวไลน์ TAT Contact Center

ททท. เปิดตัวไลน์ TAT Contact Center อีกหนึ่งช่องทางติดต่อสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกดูเมนูต่าง ๆ ได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ดาวน์โหลดE-Brochures ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐานท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัย( SHA ) และโทรสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่Call Center 1672 ตลอด 24 ชั่วโมง  ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสารและสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวได้ที่นี่ TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง on Line

ททท. เปิดตัวไลน์ TAT Contact Center อ่านเพิ่มเติม

ตะลุยกินริมเจ้าพระยา…ท่าดินแดง

วันหยุดว่างๆ แอดเลยปิ๊งไอเดีย  นั่งเรือไปหาอะไรกินดีกว่าเดินทางง่าย ราคาไม่แพงด้วย .แอดเลือกไปที่ท่าดินแดง หนึ่งในย่านการค้าดั้งเดิมของกรุงเทพฯ อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี เป็นที่ตั้งของชุมชน มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ.แอดใช้บริการเรือข้ามฟากจากท่าเรือท่าราชวงศ์มาที่ท่าเรือท่าดินแดง ค่าบริการ คนละ 3.50 บาท เท่านั้น .ท่าดินแดงมีร้านไหนน่าชิม ลิ้มลอง เข้ามาอ่านได้เลย ท่าดินแดง เป็นอีกหนึ่งย่านที่น่าสนใจในเรื่องของอาหารอร่อยห้ามพลาดที่ต้องตามไปทาน ที่เดียวได้ทั้งของคาวและของหวานเลยล่ะ อิ่มท้องแถมยังประหยัดอีกด้วย การเดินทางมาที่ท่าดินแดงในครั้งนี้ แอดใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าเรือท่าราชวงศ์ จากนั้นใช้บริการเรือข้ามฟากมาที่ท่าเรือท่าดินแดง ค่าบริการ คนละ 3.50 บาท เท่านั้น ใครมาท่าดินแดงคราวนี้จะอิ่มท้องและมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอน เริ่มกันที่ ร้านนมสดท่าดินแดง ร้านนี้เต็มไปด้วยเมนูนมค่ะ มีหลากหลายเมนูให้เลือกทั้งร้อนและเย็น ไม่ว่าจะเป็นนมสด กาแฟ ชาไทย นมชมพู นอกจากนี้ยังมีขนมปังหน้าต่างๆ อีกด้วย ใครอยากซื้อกลับบ้านทางร้านก็มีเช่นกันทั้งขนมปัง นมสดพร้อมดื่ม สังขยาเยิ้มๆ น่าทานมากๆ เอาล่ะ เราไปดูกันเลยว่าแอดสั่งอะไรมาทานบ้าง ทางร้านแนะนำ ชุดสังขยาใบเตย มีสังขยาให้เลือก 2 รสชาติด้วยกันคือสังขยาใบเตยและสังขยาไข่ ขนมปังนุ่มๆ จิ้มกับสังขยาเยิ้มๆ ละมุนสุดๆ เลยค่ะราคาชุดเล็ก 40 บาท / ชุดใหญ่ 60 บาท ต่อด้วยเค้กนมสด ชิ้นละ 15 บาท แป้งเค้กนุ่มฟู ที่สำคัญคือหอมมาก ทานคู่กับเครื่องดื่มเข้ากันมากๆ เลยล่ะ เมนูนี้แอดอยากให้ทุกคนลองชิม แนะนำๆ  – เปิดทุกวัน เวลา 12.00-21.00 น.– โทร. 02 863 1361– พิกัด : https://goo.gl/maps/htFQEcYrVXkG3KYY6  หลังจากดื่มนมกันแล้ว เดินต่อมาอีกนิดจะเห็นซอยท่าดินแดง 11 เดินเลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 30 เมตรก็จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางขวามือ ก๋วยจั๊บเจ้หลา (เจ้าเก่า) ท่าดินแดง เป็นอีกหนึ่งร้านที่เปิดขายมายาวนานกว่า 10 ปี เห็นร้านเล็กๆ แบบนี้ แต่ลูกค้าเข้ามาต่อเนื่องแบบไม่ขาดสายเลยนะจะบอกให้ ก๋วยจั๊บที่ทางร้านขายจะเป็นก๋วยจั๊บน้ำข้น ราคาเริ่มต้น 40-50 บาท หรือใครชอบทานเกาเหลาร้านนี้ก็อร่อยไม่แพ้กันเลยล่ะ แอดบอกเลยว่ารสชาติเข้มข้นมาก ไม่ต้องปรุงก็อร่อย เส้นก๋วยจั๊บเหนียวนุ่มกำลังดี หมูกรอบชิ้นใหญ่ เลือดก็นุ่มกัดไปมีความ juicy เบาๆ – เปิดทุกวัน เวลา 09.30-15.00 น.– โทร. 085 905 3552– พิกัด : https://goo.gl/maps/YjbnubJXkZBaZi5J9 จัดเต็มกันต่อด้วยร้านตี๋ หมูสะเต๊ะ เจ้าดังของย่านนี้กันเลย ตั้งอยู่ริม ถ.ท่าดินแดง เดินตรงจากท่าเรือมาเรื่อยๆ จะสังเกตเห็นเตาหมูสะเต๊ะยาวๆ กำลังย่างไฟอยู่ น่าทานซะเหลือเกิน หมูสะเต๊ะของทางร้านมีให้เลือกทั้งแบบ หมูติดมัน หมูไม่ติดมัน และยังมีตับสะเต๊ะด้วย หน้าตาของเตาย่างหมูสะเต๊ะ เรียงกันแบบนี้เลยค่ะ หอมมากกกก แอดสั่งมา 10 ไม้เบาๆ ทั้งแบบหมูติดมันและไม่ติดมันเลย บอกเลยว่าหมูนุ่มมากๆ หอมกลิ่นเครื่องเทศ น้ำจิ้มก็ดี เข้มข้นและหอมถั่วมากกกกก ซึ่งแอดโปรดปรานที่สุด ทานคู่กับอาจาดก็อร่อยเข้ากัน ตัดเลี่ยนได้ดีเลยล่ะ แตงกวาสด กรอบ แอดจัดการเรียบเลย ฮ่าๆๆ นอกจากหมูแล้วยังมีตับสะเต๊ะอีกด้วยนะ ราคาก็จะแตกต่างกันไป เริ่มต้นที่ไม้ละ 7 บาท  พร้อมแล้วลุยเลย! หมูสะเต๊ะน้ำและจิ้มยั่วๆ จ้า หากใครแวะไปแถวท่าดินแดงต้องห้ามพลาดเลยนะ.ตี๋หมูสะเต๊ะ ท่าดินแดง– เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 07.30-23.00 น.(ปิดวันจันทร์เว้นจันทร์)– โทร. 02 437 1172– พิกัด : https://goo.gl/maps/gXHMZWUgrSfzCEeK7 มาต่อกันที่ ร้านเปาะเปี๊ยะสดเฮียไช้ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตี๋ หมูสะเต๊ะ เป็นร้าน street food ริมถนนท่าดินแดงค่ะ ร้านนี้เปิดมานานกว่า 70 ปี เรียกได้ว่าขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อของเฮียไช้ ปัจจุบันได้ส่งต่อให้กับรุ่นหลานและยังเป็นร้านที่ลูกค้าติดใจไม่น้อยเลยล่ะ ร้านนี้เป็นสูตรโบราณและหาทานได้ยากแล้ว แอดได้เห็นกระบวนการห่อและส่วนประกอบต่างๆ ทุกอย่างสด ใหม่ น่าทานมากๆ แอดจัดมา 1 กล่อง บอกเลยว่าไส้แน่น ครบเครื่องและแป้งนุ่มไม่เหมือนร้านอื่น น้ำราดจะออกหวานๆ ทานคู่กับพริกมีรสชาติเปรี้ยวหน่อยๆ ตัดกันได้ดีเลยค่ะ ราคากล่องละ 50 บาท เปาะเปี๊ยะสดเฮียไช้ ท่าดินแดง– เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-14.00 น. (ปิดวันจันทร์)– โทร. 098 967 3343– พิกัด : https://goo.gl/maps/jGmbMrawDgNS3QWr5  จากร้านเปาะเปี๊ยะสดเฮียไช้ ปิดท้ายกันที่ ข้าวพระรามลงสรงท่าดินแดง เดินผ่านสีแยกท่าดินแดงไปไม่ถึง 5 นาที ร้านตั้งอยู่ทางขวามือค่ะ ข้าวพระรามลงสรงเป็นเมนูอาหารจีนโบราณ ที่ปัจจุบันหากินได้ค่อนข้างยาก แต่ละร้านรสชาติของอาหารก็จะมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ซึ่งแอดเองก็เคยได้ยินชื่อเมนูนี้มาหลายครั้ง เพิ่งได้ลองชิมก็ที่นี่เจ้าแรกนี่แหละ  ส่วนประกอบในเมนูนี้มี ข้าวสวย ผักบุ้งลวก และเนื้อหมู ราดด้วยน้ำราดคล้ายๆ น้ำสะเต๊ะ ปิดท้ายด้วยพริกเผา ราคาจานละ 40-50 บาท รสชาติจะออกหวานนิดๆ รับประทานกับน้ำพริกเผาแล้วเข้ากันมากๆ แอดอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองมาทาน เพราะทุกวันนี้หาทานได้ยากจริงๆ ค่ะ ถ้าจะให้อร่อยยิ่งขึ้นต้องทานคู่กับกุนเชียงสูตรเด็ดของร้าน นุ่ม หวาน อร่อยมากกก ข้าวพระรามลงสรง ท่าดินแดง– เปิดวันอาทิตย์-ศุกร์ เวลา 06.30-15.30 น. (ปิดวันเสาร์)– โทร. 02 437 4513, 081 774 4124– พิกัด :

ตะลุยกินริมเจ้าพระยา…ท่าดินแดง อ่านเพิ่มเติม

บ้านศิลปิน : คลองบางหลวง

บ้านศิลปิน : คลองบางหลวง.วันนี้เรามาเยือนถิ่นคลองบางหลวง ชมหุ่นละครเล็กกันที่ “บ้านศิลปิน” สถานที่ท่องเที่ยวชิคๆ ริมคลอง เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ยังอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ บ้านศิลปิน เป็นบ้านไม้เก่าแก่ 2 ชั้นริมคลองบางหลวง (หรือคลองบางกอกใหญ่) เดิมเป็นของ “ตระกูลรักสำหรวจ” ตระกูลช่างทองเก่าแก่ ซึ่งกลุ่มศิลปินนำโดยคุณชุมพล อักพันธานนท์ ได้ขอซื้อต่อจากทายาท และบูรณะใหม่เพื่อใช้เป็นสถานที่ทำงานและจัดแสดงผลงานศิลปะ ซึ่งที่นี่จะมีกลุ่มคนรักงานศิลปะรวมทั้งนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอยู่เสมอ ทำให้ชุมชนคึกคัก และยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนอีกด้วย ภายในบ้านก็จะเก๋ๆ หน่อย ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องโล่งๆ จัดเป็นอาร์ตแกลเลอรี่ของศิลปินมีฝีมือหลายคน มีทั้งภาพวาดและภาพถ่ายสวยๆ เรียกได้ว่ามาที่นี่ได้ปลุกความอาร์ตในตัวคุณแน่นอน อีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้านศิลปินก็คือ จะมีการแสดงหุ่นละครเล็กให้เราชมด้วยค่ะ ใครมาเที่ยวบ้านศิลปินก็ต้องห้ามพลาดนะคะ  เดินออกจากบ้านศิลปินมานิดเดียวก็จะพบกับ “บ้านของเล่น” ซึ่งเป็นร้านขายกาแฟโบราณและร้านขายของเล่นที่เราเคยเล่นกันสมัยก่อน เหมือนได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กเลย แอดแฮปปี้มาก เสร็จแล้วก็มานั่งชิลริมคลอง ให้อาหารปลากัน บอกเลยว่าปลาเพียบจ้า หากใครอยากท่องเที่ยวแบบชิลๆ ผ่อนคลายในบรรยากาศเงียบสงบ เหมือนได้ชาร์จแบตไปในตัว ที่นี่ก็ตอบโจทย์อยู่นะ

บ้านศิลปิน : คลองบางหลวง อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top