กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร

รวมสถานพยาบาลที่รับบริจาคช่วงโควิด 19

อย่างที่ทราบกันว่าสถานการ์โควิด 19 ในช่วงนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยกันอย่างเต็มที่.สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ แอดมี 1 วิธีมานำเสนอ นั่นก็คือการบริจาคให้สถานพยาบาลที่รับบริจาคเงิน และอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด 19 แอดได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว สามารถดูได้ในโพสต์นี้เลยค่ะ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/ChulalongkornHospitalLine: @kcmh-charityโทร. 02 256 4402, 065 826 0296.โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/TUH.OfficialLine: @Thammasat_Hospitalโทร. 02 926 9536, 02 926 9432 และ 065 054 2565. สถาบันบำราศนราดูร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/สถาบันบำราศนราดูร-กรมควบคุมโรค-924577477711780โทร. 02 590 3434. คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @ual1226jโทร. 02 244 3030.โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/NakornpingHospitalChiangmaiโทร. 053 999 200 ต่อ 1169, 9235.โรงพยาบาลอุทัยธานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @uth2547โทร. 062 310 2466. โรงพยาบาลในสังกัดกรมแพทย์ทหารเรือ ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: 0634422614โทร. 02 475 2576, 063 442 2614 โรงพยาบาลอาภากรณ์เกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/abkhospital/Line: @abkhโทร. 02 466 1180 ต่อ 73080, 73031.มูลนิธิรามาธิบดี โรงพยาบาลรามาธิบดีสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ramafoundation.or.th/Line: @RamaFoundationโทร. 02 201 1111. ศิริราชมูลนิธิ โรงพยาบาลศิริราช สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/siriraj/โทร. 02 414 1414, 02 419 7658-60 ต่อ 101-104, 120.มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถีสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rajavithifoundation.com/front/index.phpโทร. 02 354 7997-9.มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pmk.ac.th/ind…/general-news/7156-covid-19.htmlโทร. 02 354 3699, 02 354 7600 ต่อ 93678.มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/PR.SuanDokCMUโทร. 053 938 400.มูลนิธิโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/BhumibolGiveShop โทร. 02 534 7236.มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @318dthxsโทร. 096 841 3644.แอดมินขอส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ขอให้ทุกท่านปลอดภัยค่ะ 

รวมสถานพยาบาลที่รับบริจาคช่วงโควิด 19 อ่านเพิ่มเติม

RakDok Lalagoon

RakDok Lalagoon  ภายในแบ่งเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน RakDok Studio และโซน Food Villageโซน RakDok Studio (โซนสตูดิโอและนิทรรศการกรุ่นกลิ่น) โซนสตูดิโอ เป็นโซนที่ใช้จัดนิทรรศการดอกไม้กลางแจ้ง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม และถ่ายรูป มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะเลย อลังการทุกมุม ผลัดกันถ่ายรูปจนเหนื่อยแน่ หรือถ้าไปคนเดียวก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้รูปสวย ๆ เพราะที่รักดอกเขามีช่างภาพมืออาชีพไว้ให้บริการค่ะ สามารถติดต่อสอบถามค่าบริการได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สถานที่จัดงานหรือถ่ายพรีเวดดิ้งได้ สนใจติดต่อที่สำนักงานรักดอกได้เลย แล้วก็อย่าลืมเอารูปสวย ๆ มาอวดแอดกันบ้างน้า มุมนี้ต้องห้ามพลาด มุมนี้เป็นอุโมงค์ดอกกุหลาบ น่ารักมาก ๆ ทางนิทรรศการได้มีร้านเสื้อผ้า ของตกแต่งน่ารัก ๆ จำหน่ายด้วยนะ ใครไม่ได้เตรียมชุด พร็อบไม่แน่นมาจัดเต็มที่นี่ได้เลย แอบบอกสำหรับคนรักสัตว์ จะพาน้องแมวน้องหมาไปเก็บภาพสวย ๆ ไว้เป็นที่ระลึกด้วยกันก็ได้นะคะ ที่นี่อนุญาตให้น้อง ๆ เข้าไปเป็นแบบร่วมเฟรมได้ด้วยค่ะ โซน RakDok Studioเปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์ 08.00-18.00 น.ค่าเข้าชมนิทรรศการ คนละ 150 บาท (ได้รับเครื่องดื่มชาดอกไม้ 1 แก้ว) โซน Food Village (ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านค้า)หลังจากเดินเล่นและถ่ายรูปกันเหนื่อย ๆ สามารถแวะมาที่โซน Food Village กันได้ มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มบริการ.เปิดวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 11.30 – 21.00 น. (ครัวปิด 20.00 น.) / วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 21.00 น. (ครัวปิด 20.00 น.) การเดินทางBTS-สถานีคูคต ต่อรถตู้ BTS คูคต – ลำลูกกาคลอง 8 นั่งจนสุดสายรถตู้แล้วต่อด้วยรถแท็กซี่ รถตู้-นั่งรถตู้มาลงที่มีนบุรี ต่อรถแดง มีนบุรี-ลำลูกกาคลอง 9-ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตสาย 6250 ไปลงที่คลอง 7, ตลาดใหญ่ลำลูกกา จากนั้นต่อแท็กซี่หรือรถแดง ตรงปากทางเข้าลำลูกกาคลอง 9 รอรถที่มาจากมีนบุรี รถจะผ่านสถานที่จัดนิทรรศการ

RakDok Lalagoon อ่านเพิ่มเติม

วันเบา ๆ กับตลาดเก่าหัวตะเข้

ชุมชนหัวตะเข้ตั้งอยู่ริมคลองประเวศบุรีรมย์ เขตลาดกระบัง เป็นชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิมโดยมีศูนย์กลางของชุมชนคือตลาดเก่าริมน้ำหัวตะเข้ที่สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่ยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของชานเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก เนื่องด้วยเป็นจุดตัดของคลอง 3 คลอง คือ คลองจระเข้ คลองปลาทิว และคลองประเวศ ต่อมาเมื่อมีการตัดถนนต่าง ๆ มากขึ้น ตลาดริมน้ำก็เริ่มซบเซาและคลายความคึกคักลง วันนี้ เราจะพาไปเดินเยี่ยมชมบรรยากาศ ย้อนรอยอดีตความทรงจำครั้งวันวานของตลาดโบราณที่ยังมีชีวิต ต่อด้วยตามหางานศิลปะกราฟิตี้ในชุมชน พายเรือชมบรรยากาศริมคลอง และปิดท้ายวันด้วยการชมพระอาทิตย์ตกในบรรยากาศย้อนอดีตอันแสนประทับใจ ตามไปชมกันเลย การเดินทางไปตลาดเก่าหัวตะเข้ทำได้หลายรูปแบบ1. รถยนต์ส่วนตัว เข้าทางซอยลาดกระบัง 17 ผ่านตลาดสดเข้าไปจนสุดทาง มีที่จอดรถมากมาย2. รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ ลงที่สถานีลาดกระบัง ต่อรถสองแถวสาย 333 ราคา 8 บาท มาลงลงปากซอยลาดกระบัง 17 แล้วเดินเข้ามาจนสุดซอย3. รถไฟสายตะวันออก ต้นทางจากสถานีหัวลำโพง มาลงที่สถานีหัวตะเข้ แล้วเดินลัดเลาะริมคลอง ซึ่งวันนี้เราเลือกที่จะเดินทางโดยรถไฟ เพื่อจะได้สัมผัสบรรยากาศย้อนวันวานกันอย่างเต็มที่ ระหว่างทางเดินไปตลาดหัวตะเข้ เราจะพบกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนอยู่ในกรุงเทพฯ  เช่น สถานีตำรวจนครบาลจระเข้น้อยแห่งนี้ เมื่อใกล้ถึงตลาดเก่าหัวตะเข้ เราจะพบกับงานกราฟิตี้ซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ เช่น ชิ้นนี้เป็นรูปหงอคงขี่หลังตะเข้ แล้วเราก็มาถึงตลาดเก่าหัวตะเข้ บรรยากาศพาย้อนวัยสมัยเรายังเด็ก บ้านเรือนร้านค้าไม้เก่าเรียงเป็นทางยาวริมน้ำ หลาย ๆ ร้านก็ปรับปรุงเป็นคาเฟ่ย้อนยุคสุดเก๋ไก๋ เดินชมและถ่ายภาพกันได้เพลิน ๆ เดินลัดเลาะได้ทุกซอย ซึ่งจะมีเส้นทางสำหรับเดินชมวิถีชุมชน ร้านค้าเหล่านี้ยังเปิดตามปกติไม่ได้ปิดร้างแต่อย่างใด แต่วันที่เราไปเป็นวันหยุดของบางร้านจ้า เมื่อเดินมาจนสุดตลาดแล้วข้ามสะพานมาจะพบกับกำแพงกราฟิตี้สุดเท่ ให้ได้มาถ่ายภาพกันสวย ๆ จะมีเจ้าถิ่นมาต้อนรับ สำหรับใครที่เป็นทาสแมว หรืออยากลองพายเรือชมบรรยากาศสองฝั่งคลอง ต้องมาที่ร้าน “สี่แยกหัวตะเข้ Café and Guesthouse” ที่นี่มีเรือให้พายเล่นได้ฟรี รวมถึงมีเจ้าแมวเหมียวมาคอยต้อนรับอยู่ในร้าน ซึ่งตอนเย็น ๆ เจ้าของจะพามันลงเรือไปพายเล่นโชว์ให้ได้ถ่ายรูปกัน เจ้าของแอบกระซิบว่ามันว่ายน้ำเป็นด้วยนะ หนึ่งวันกับการมาสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคของตลาดเก่าหัวตะเข้ ไม่ไกลจากใจกลางกรุงเทพฯ แนะนำว่ามาสักช่วงบ่าย ๆ แดดร่มลมตกจะได้ไม่ร้อนกันจนเกินไปค่ะ ปิดท้ายวันด้วยการชมพระอาทิตย์ตกจากสะพานข้ามคลองตลาดเก่าหัวตะเข้ แล้วพบกันใหม่

วันเบา ๆ กับตลาดเก่าหัวตะเข้ อ่านเพิ่มเติม

นั่งเรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ ตะลุยเที่ยว 3 ย่านดัง

ตลาดเทเวศร์– Unbranded Café ในโรงแรมพระนครนอนเล่น– ผัดไทยเจ๊น้อย– ข้าวซอยเชียงใหม่แม่สุภาพ (เจ้าเก่า)– ชิฟฟ่อน เบเกอรี.ตลาดนางเลิ้ง– Buddha & Pals– เนื้อตุ๋นนางเลิ้ง– มณฑา ขนมถ้วยตะไล– ร้านนางเลิ้งอาร์ต.ย่านยศเส– เอลวิสสุกี้– เสน่ห์หน้าเนื้อ– ไอติมหม้อไฟยศเส ก่อนจะไปเที่ยว เรามาทำความรู้จักคลองผดุงกรุงเกษมกับเรือพลังงานไฟฟ้ากันก่อนดีกว่าค่ะ.คลองผดุงกรุงเกษมเป็นคลองคูเมืองชั้นนอก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ขุดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2394 เพราะทรงเห็นว่า บ้านเมืองกำลังเจริญก้าวหน้า ผู้คนเข้ามาอาศัยในเมืองมากขึ้น จึงควรขยับขยายพื้นที่ของพระนครออกไป คลองผดุงฯ มีความยาว 5.5 กิโลเมตร ตลอดสองข้างทางมีสถานที่สำคัญตั้งอยู่มากมาย เช่น วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร วังเทเวศร์ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นต้น ส่วนเรือพลังงานไฟฟ้าเส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโชล่าเซลล์ 10-15% และจากการชาร์จไฟอีก 80% ข้อดีคือไม่มีเสียงดังหนวกหู ไม่มีควัน ไม่มีกลิ่นน้ำมันชวนเวียนหัว ความเร็วกำลังดี ได้นั่งรับลมชมบ้านเรือนสองฝั่งคลองไปเรื่อย ๆ เพลินมากกกก ถ้าใครสนใจประวัติศาสตร์ แนะนำให้มีแผนที่สถานที่สำคัญริมคลองไปด้วย จะทำให้เที่ยวสนุกยิ่งขึ้น เพราะเรือนี้เป็นเรือโดยสารประจำทาง ไม่มีไกด์นำชมค่ะ เรือไฟฟ้าเปิดให้บริการทั้งหมด 11 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าตลาดเทวราช ท่าเทเวศร์ ท่าประชาธิปไตย ท่าราชดำเนินนอก ท่านครสวรรค์ ท่าแยกหลานหลวง ท่ากระทรวงพลังงาน ท่ายศเส ท่านพวงศ์ ท่าหัวลำโพง และท่าสถานีรถไฟฟ้าหัวลำโพง เรือออกทุก 15 นาที ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที/เที่ยว เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-19.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-19.00 น. ปัจจุบันเรือเปิดให้บริการฟรี และในอนาคตจะเก็บค่าโดยสารในราคาไม่เกิน 10 บาทตลอดสาย แอดเริ่มต้นทริปนี้ที่ท่าเรือตลาดเทวราช ย่านนี้เป็นย่านประวัติศาสตร์ เพราะมีสถานที่สำคัญอย่างวังเทวะเวศม์ วังบางขุนพรหม และวังเทเวศร์ ซึ่งพระตำหนักใหญ่ของวังเทเวศร์มีการบูรณะใหม่และเปิดเป็น Deva Manor Café นอกจากวังสวยงามทั้ง 3 วังแล้ว ยังมีวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร วัดนรนาถสุนทริการาม และตลาดต้นไม้ที่สามารถแวะเข้าไปเที่ยวได้.เอาล่ะ ได้เวลาไปตามหาของกินอร่อยกันแล้ว จากท่าเรือตลาดเทวราช สามารถนั่งเรือไฟฟ้าหรือเดินไปที่ย่านเทเวศร์ได้ เพราะระยะทางไม่ไกล จะได้ชมสถานที่ต่างๆ ไปด้วยค่ะ ย่านเทเวศร์เป็นย่านที่มีร้านอาหารเก่าแก่หลายร้าน ทั้งสุกี้ ผัดไทย หอยทอด ข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ และร้านขนมอร่อย ๆ อีกมากมาย จะช้าอยู่ไย ไปหาอะไรกินกันเถอะ.เริ่มจากร้านนี้ก่อนเลย Unbranded Cafe ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ภายในพระนครนอนเล่น Phranakorn-Nornlen เกสต์เฮาส์สุดเก๋ที่ดัดแปลงมาจากโรงแรมเก่า ร้านกาแฟแห่งนี้มีทั้งเครื่องดื่ม อาหารคาว และของหวาน ที่สำคัญ!! สาวกครัวซองต์ต้องห้ามพลาด ครัวซองต์แสนอร่อยที่ทางร้านอบใหม่ทุกวัน.46 ซอยเทเวศร์ 1 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานครhttps://goo.gl/maps/KGE1LxCCk8DBULTk6 เปิดทุกวัน 08.30-18.00 น. (หยุดทุกวันศุกร์ที่ 3 ของเดือน)08 2424 2265 คราวนี้ถึงคิวอาหารหลักกันบ้าง ร้านผัดไทยเจ๊น้อย เป็นร้านที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยวงศ์ภักดี มีเมนูหลากหลาย ทั้งผัดไทย หอยทอด ข้าวผัดกะเพรา และปอเปี๊ยะสด แอดสั่งผัดไทยมาชิมค่ะ เส้นเหนียวนุ่มมาพร้อมกุ้งตัวโต รสชาติกลมกล่อม อร่อยเต็มปากเต็มคำจริง ๆ อีกหนึ่งเมนูเด็ดก็คือ “หอยทอด” กัดเข้าไปคำแรกคือ แป้งกรอบมาก ไม่อมน้ำมัน เจ๊น้อยใส่หอยแมลงภู่มาให้แบบแน่น ๆ โรยพริกไทย และใส่ซอสพริกเพิ่มเข้าไปอีกนิด โอ๊ยยย ฟินมาก ใครชอบเมนูผัดไทยและหอยทอดต้องมาลองชิมร้านนี้เลยค่ะ.ซอยวงศ์ภักดี แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯhttps://goo.gl/maps/Qetz4D92W5pviXjHAเปิดทุกวัน เวลา 06.00-15.00 น. เดินออกจากซอยวงศ์ภักดีมาจนถึงถนนสามเสน ข้ามถนนไปฝั่งธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะเจอกับร้านข้าวซอยเชียงใหม่แม่สุภาพ (เจ้าเก่า).ข้าวซอยสูตรเชียงใหม่แท้ ๆ เปิดขายมานานกว่า 50 ปี เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่เส้นข้าวซอยที่ทางร้านทำเอง น้ำกะทิคั้นสดใหม่ทุกวัน ทำให้รสชาติเข้มข้น ไก่เนื้อนุ่ม เปื่อยกำลังดี หลุดจากกระดูกอย่างง่ายดาย ไม่ต้องออกแรงแกะให้เหนื่อย นอกจากข้าวซอย ยังมีเมนูอื่น ๆ อีก เช่น ขนมจีนน้ำเงี้ยว สะเต๊ะไก่ และสะเต๊ะเนื้อ ใครอยากทานข้าวซอยรสชาติเหนือแท้ ๆ ไม่ต้องไปไหนไกล มาที่ร้านแม่สุภาพได้เลยค่ะ.283 ถนนสามเสน แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯhttps://goo.gl/maps/xWzNqLP6ZQna6dRq5เปิดวันอาทิตย์-ศุกร์ (หยุดวันเสาร์) เวลา 08.00-16.00 น.02 280 7130 ก่อนจะไปย่านอื่นต่อ อย่าลืมแวะร้านชิฟฟ่อน เบเกอรี่ ชิฟฟ่อนชื่อดังแห่งเทเวศร์ หลายคนติดใจกับรสชาติอันแสนอร่อย เนื้อเค้กนุ่มละมุน ไม่ฝืดคอ ไม่มีไขมันทรานส์ แถมยังมีหลายรสให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นใบเตย ช็อกโกแลต วานิลลา สดใหม่จากเตาทุกเช้าเลยจ้า ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 12 บาทเท่านั้น.ถนนสามเสน แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ (ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร)https://goo.gl/maps/G129WTCKp892เปิดทุกวัน เวลา 09.00-12.00 น. และ 14.00-19.30 น.02 281 1315 ย่านต่อไปที่เราจะไปเดินเที่ยวคือตลาดนางเลิ้งค่ะ ตลาดนางเลิ้งถือเป็นตลาดบกแห่งแรกของประเทศไทย มีอายุกว่า 100 ปี ที่สำคัญของอร่อยเยอะมาก สายกินอย่างเราจะพลาดได้ไง เราใช้บริการเรือไฟฟ้า โดยขึ้นจากท่าเทเวศร์ไปท่านครสวรรค์ เยื้องกับท่าเรือ เราจะเห็นโฮสเทลสวยคลาสสิค Kanvela House ที่ดัดแปลงมาจากตึกแถวเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5

นั่งเรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ ตะลุยเที่ยว 3 ย่านดัง อ่านเพิ่มเติม

เตรียมพร้อมเข้าสู่เดือนแห่งความสุข สวัสดีปีใหม่ไทย กับงานเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2564

เตรียมพร้อมเข้าสู่เดือนแห่งความสุข สวัสดีปีใหม่ไทย กับงานเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2564 .เทศกาลที่เพื่อน ๆ หลายคนกำลังรอคอยให้มาถึง เนื่องจากปีที่แล้ว เราต้องงดเล่นน้ำกันไปเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 แต่ในปีนี้แอดก็มีข่าวดีมาบอก.สำหรับในปีนี้ ทั่วประเทศได้มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ตามประเพณี แต่ยังคงปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สงกรานต์ ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ Amazing ยิ่งกว่าเดิม” .วันนี้แอดเลยรวบรวมข้อมูลงานเทศกาลสงกรานต์บางส่วนมาให้เพื่อน ๆ ดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน ภาคเหนือ.เทศกาลสงกรานต์แห่พระร้อยองค์ริมโขงเชียงของวันที่จัดงาน : 13-18 เมษายน 2564สถานที่จัด : ระเบียงริมโขง (วัดหัวเวียง-วัดหาดไคร้) และบริเวณลานหน้าพญานาคริมโขงถึงสะพานผาถ่าน อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://goo.gl/maps/eDYi44DJFpy6MakK8.งานมหาสงกรานต์เชียงแสนปี 2564วันที่จัดงาน : 16-18 เมษายน 2564สถานที่จัด : ถนนหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสนและถนนเรียบริมน้ำโขง จังหวัดเชียงรายพิกัด : https://goo.gl/maps/55MTPk9eTwfNgbzT7.งานประเพณีสรงน้ำพระพุทธรูป ประจำปี 2564วันที่จัดงาน : เมษายน 2564สถานที่จัด : วัดจองกลาง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอนพิกัด : https://goo.gl/maps/yreapAQigKDL56gL8.งานประเพณีสืบสานสงกรานต์ ขนทรายเข้าวัด ประจำปี 2564วันที่จัดงาน : เมษายน 2564สถานที่จัด : วัดกุงเปา อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอนพิกัด : https://goo.gl/maps/9hd8Y9NB5fhJVfub6.งานประเพณีสงกรานต์ “ดอกลมแล้งบาน สงกรานต์เมืองแป้ นุ่งหม้อห้อมแต้งามดำ”วันที่จัดงาน : 13-17 เมษายน 2564สถานที่จัด : ถนนเจริญเมือง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่พิกัด : https://goo.gl/maps/foM8fDJq8dKEgzae7.งานประเพณีสงกรานต์เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์วันที่จัดงาน : 14-16 เมษายน 2564สถานที่จัด : หน้าวัดศรีดอนคำ ถนนสายวัฒนธรรม ตลาดห้วยอ้อ อำเภอลอง จังหวัดแพร่พิกัด : https://goo.gl/maps/2r71d3FNTAhDaqmdA.งานอนุรักษ์และสืบสานประเพณีสงกรานต์ไตลื้อวันที่จัดงาน : 13-14 เมษายน 2564สถานที่จัด : วัดถิ่นใน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่พิกัด : https://goo.gl/maps/a5MXUUbEjrfJfp7W9.งานประเพณีเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์เมืองลองวันที่จัดงาน : 13-17 เมษายน 2564สถานที่จัด : วัดศรีดอนคำ อำเภอลอง จังหวัดแพร่พิกัด : https://goo.gl/maps/2r71d3FNTAhDaqmdA.ประเพณีสงกรานต์และสรงน้ำหลวงพ่อพุทธจักรล้านนาไทยวันที่จัดงาน : 14-15 เมษายน 2564สถานที่จัด : วัดหนองม่วงไข่ อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่พิกัด : https://goo.gl/maps/Pu7T5wvA5jeQWFer5.ประเพณีสงกรานต์เด่นชัย ร่วมใจสรงน้ำพระเจ้าแสนแซ่วันที่จัดงาน :  16 เมษายน 2564สถานที่จัด : บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่พิกัด : https://goo.gl/maps/95iSLj3earMNGHm1A.งานประเพณีสงกรานต์เวียงสรอง มีกิจกรรมสรงน้ำพระวันที่จัดงาน : 16 เมษายน 2564สถานที่จัด : สนามหน้าที่ว่าการอำเภอสอง จังหวัดแพร่พิกัด : https://goo.gl/maps/RKB7H8s8jxYFnfWW7.งานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองตรอกสลอบวันที่จัดงาน : 16 เมษายน 2564สถานที่จัด : วัดบางสนุกและโรงเรียนบ้านใหม่ (สมบัติทวีประชาสรรค์) อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่พิกัด : https://goo.gl/maps/yVHtMrSczFnxTK4NA.ร่วมสืบสานสงกรานต์ วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวงวันที่จัดงาน : 13-17 เมษายน 2564สถานที่จัด : วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่พิกัด : https://goo.gl/maps/6PnQwB1jAiV29dGY6.งานประเพณีสงกรานต์ “นุ่งผ้าเมือง ปลอดเหล้า-เบียร์”วันที่จัดงาน : 13-15 เมษายน 2564สถานที่จัด : ถนนสุมนเทวราช อำเภอเมือง จังหวัดน่านพิกัด : https://goo.gl/maps/xE3d7rgV3cxBLyrK6.งานประเพณีสรงน้ำพระเจ้าทองทิพย์วันที่จัดงาน : 13-15 เมษายน 2564สถานที่จัด : วัดสวนตาล อำเภอเมือง จังหวัดน่านพิกัด : https://goo.gl/maps/aNnvULsqhGpC5fUcA.งานประเพณีปี๋ใหม่เมืองเจียงก๋าง “สงกรานต์น้ำศักดิ์สิทธิ์ อุโมงค์น้ำทิพย์เจ้าพ่อพญาไมย”วันที่จัดงาน : 13-15 เมษายน 2564สถานที่จัด : ศาลเจ้าพ่อพญาไมย อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่านพิกัด : https://goo.gl/maps/sxRm7h9eLY5mUaD4A.พิธีบวงสรวงเสาพระหลักเมือง และพิธีทำบุญสืบชะตาหลวงเมืองน่านวันที่จัดงาน : 16 เมษายน 2564สถานที่จัด : วัดมิ่งเมือง อำเภอเมือง จังหวัดน่านพิกัด : https://goo.gl/maps/rXSX67NtDSgZrmMZ6.งานสิริไชยยะมังคะละ สืบฮีตสานฮอยย้อนรอยปีใหม่เมืองวรนครวันที่จัดงาน : 16 เมษายน 2564สถานที่จัด : วัดป่าหัด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่านพิกัด : https://goo.gl/maps/3mjFeC3213YQD36j7.สรงกรานต์ ถนนกล้วยตากวันที่จัดงาน : 13-18 เมษายน 2564สถานที่จัด : สวนชมน่าน และสวนกลางเมือง หน้าสถานีรถไฟ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกพิกัด : https://goo.gl/maps/ZzACuUR5NGLyqryu9.สงกรานต์ไทยหล่มวันที่จัดงาน : 13-18 เมษายน 2564สถานที่จัด : บริเวณวัดท่ากกแก อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์พิกัด : https://goo.gl/maps/q23Ujj65J9puZMRz7.งานประเพณีทางพระพุทธศาสนาสรงน้ำพระพุทธรูปแสงทองวันที่จัดงาน : 13

เตรียมพร้อมเข้าสู่เดือนแห่งความสุข สวัสดีปีใหม่ไทย กับงานเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2564 อ่านเพิ่มเติม

1 วันสุดชิล@ปากคลองตลาด-สะพานพุทธ

1 วันชิลล์ ๆ นี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเดินเล่นย่านปากคลองตลาด-สะพานพุทธ ย่านเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอีกย่านที่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตผู้คน ตึกยุคเก่าแนววินเทจที่เปี่ยมด้วยเรื่องราวในอดีต เป็นย่านที่ถึงเวลาจะผ่านมาเท่าไหร่ก็ยังคงความคลาสสิกไม่มีเปลี่ยน . ใครที่อยากเที่ยวแต่ไม่อยากออกจากกรุงเทพฯ ก็แวะไปเที่ยวย่านปากคลองตลาด-สะพานพุทธกันได้ ไปอัพเดทความเปลี่ยนแปลง ร้านรวงใหม่ ๆ พื้นที่ใหม่ ๆ และสำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่เคยไป ลองไปกันค่ะ อาจจะได้พบสถานที่ใกล้ตัวที่เที่ยวสนุกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งก็ได้ ปากคลองตลาด-สะพานพุทธ1 พิพิธภัณฑ์ใต้ดิน (Site Museum)2.มิวเซียมสยาม3 สำนักงานตำรวจนครบาลพระราชวัง4. Farm to Table, Hideout5.ปากคลองตลาด6.ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค7.สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา8 ไปรษณียาคาร9.สะพานพุทธยอดฟ้า พิพิธภัณฑ์ใต้ดิน (Site Museum).วันนี้แอดเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ลงที่สถานีสนามไชย ทางออก 1 แต่ก่อนจะออกจากสถานี แอดจะพาไปชมมิวเซียมใต้ดิน (Site Museum) พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ใต้ดินแห่งแรกของประเทศไทย ที่อยู่ในสถานีสนามไชยนี้กันค่ะ.เพราะบริเวณนี้เป็นเขตเมืองเก่า เมื่อมีการเปิดหน้าดินเพื่อทำการก่อสร้าง เราจึงได้พบทั้งโบราณวัตถุมากมาย รวมทั้งฐานรากของท้องพระโรง และอื่น ๆ จึงเกิดเป็นความร่วมมือกันจัดทำเป็นพื้นที่จำลองเพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์พื้นที่รอบบริเวณสถานีสนามไชยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในส่วนพิพิธภัณฑ์ นอกจากจะมีการจัดแสดงโบราณวัตถุที่ค้นพบระหว่างการสร้างสถานีแล้ว ยังมีการใช้แอนิเมชั่นบอกเล่าประวัติศาสตร์ของพื้นที่อีกด้วย ซึ่งแอดว่าทำได้น่าสนใจและน่าสนุกมากเลย.เปิดทุกวัน เวลา 06.00-24.00 น.เข้าชมฟรี มิวเซียมสยาม.จากมิวเซียมใต้ดิน เราจะไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์อีกแห่งค่ะ นั่นคือ มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ (Museum Siam: Discovery Museum) สำหรับแอดแล้ว มิวเซียมสยามเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สนุกมาก เหมาะกับทุกคนไม่ว่า Gen ไหนก็ตามที่อยากรู้เรื่องไทย ๆ ในทุกแง่มุมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความเชื่อ วิถีชีวิต ฯลฯ โดยจัดแสดงผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ จับต้องได้ ทำให้เข้าใจและเข้าถึงง่าย ในการเข้าชม เจ้าหน้าที่จะพาเราเดินชมไปทีละห้อง เราสามารถถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอเก็บความรู้ ความประทับใจได้ทุกห้อง นอกจากนี้ ยังมีร้านขายของที่ระลึกให้ได้ช้อปปิ้ง ของน่ารักไม่แพ้ใครเลย หรือถ้าเหนื่อย ๆ ก็พักเติมพลังที่ร้านอาหารในมิวเซียมสยามก่อนออกไปเที่ยวที่อื่นต่อได้ เรียกว่าใช้เวลาอยู่ที่มิวเซียมสยาม ไม่เบื่อเลยค่ะ ได้เรียนรู้และสนุกกว่าที่คิด ค่าเข้าชมนักเรียน นักศึกษา (อายุ 15 ปีขึ้นไป) 50 บาทผู้ใหญ่ 100 บาท.ที่ตั้ง 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. (ปิดวันจันทร์)โทร. 0 2225 2777 สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง.จากมิวเซียมสยาม เดินมาบนถนนมหาราช ไม่ไกลนักก็จะเห็น สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง หรือเรียกกันว่า สน.พระราชวัง อยู่บริเวณมุมถนนมหาราชบรรจบกับถนนราชินี เป็นตึกฝรั่งชั้นเดียว สีเหลืองโดดเด่น สวยวิจิตรตามแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลแบบบาโรค สวยจนแอดต้องขอเก็บภาพมาฝากทุกคน Farm to Table Hideout.ถัดจาก สน.พระราชวังก็คือย่านปากคลองตลาด ย่านนี้มีร้านอาหารออร์แกนิคยอดนิยมที่สายรักสุขภาพต้องมา นั่นก็คือ “Farm to Table Hideout” แม้จะซ่อนตัวอยู่ในซอยลึกลับ แต่ก็มีคนเดินทางมากินไม่ขาดสาย เพราะติดใจในรสชาติและคุณภาพอาหาร ทุกเมนูใช้วัตถุดิบออร์แกนิกจากไร่ของเจ้าของร้าน มีทั้งของคาว ของหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอศครีมของที่นี่ มีรสชาติไม่เหมือนใคร เช่น กระท้อน มะยงชิด รวมทั้งผลไม้ตามฤดูกาลอื่น ๆ ถ้าเพื่อน ๆ ชอบมะยงชิด แอดขอแนะนำ ซอร์เบท์มะยงชิด กินแล้วจะติดใจ แต่ต้องรีบหน่อยนะคะ เพราะนี่ก็ปลายฤดูมะยงชิดแล้ว ที่ตั้ง 15 ซ.ท่ากลาง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-20.00 น. (ปิดวันพุธ)โทร. 0 2004 8771 ปากคลองตลาด.ปากคลองตลาดเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ประวัติความเป็นมายาวนานนับร้อยปี มีทั้งดอกไม้สด ดอกไม้แห้ง มีขายทั้งปลีกและส่ง ราคาถูกที่สุดในกรุงเทพฯ ใครชอบดอกไม้ต้องถูกใจสุด ๆ ซื้อไปปักแจกันสักหลายดอก ฟินแน่นอน หรือถ้าใครอยากได้ดอกไม้สวย ๆ ในโอกาสพิเศษ ที่นี่ตอบโจทย์เลย.ปากคลองตลาดเป็นตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อน ๆ สามารถมาช้อปได้ทั้งกลางวันกลางคืน บรรยากาศคึกคักมีสีสันไม่แพ้กัน แค่มาเดินเล่น เก็บภาพดอกไม้และผู้คนก็สนุกแล้ว แต่เชื่อเถอะ ส่วนใหญ่มักจะแพ้เสน่ห์ดอกไม้ ได้ติดไม้ติดมือกลับบ้านกันไปแทบทั้งนั้น.ที่ตั้ง ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ถ้าเดินเล่นจนเหนื่อย อยากเติมพลังเครื่องดื่มหรือขนมหวาน แอดขอแนะนำร้าน Floral Café at Napasorn คาเฟ่ดอกไม้ที่ตกแต่งได้สวยเก๋ไม่เหมือนใคร สมกับที่เจ้าของร้านเป็นนักจัดดอกไม้มือหนึ่ง ร้านอยู่บนชั้น 2 ของร้านดอกไม้นภสร ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค.เป็นคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์โคโลเนียล ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ติดกับปากคลองคลองตลาดนี่เอง ภายในมอลล์ มีร้านค้าต่าง ๆ เหมาะสำหรับเดินชิลล์ เดินช้อป ที่สำคัญมีร้านอาหารริมแม่น้ำหลายร้านเลย บรรยากาศดี เหมาะกับการนั่งชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยามาก.ที่ตั้ง 392 ซอยเอ็มไพร์ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 11.30-23.00 น. ขอบคุณรูปภาพจากเพจ Yodpiman River Walk  สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา.สวยลอยฟ้าเจ้าพระยา แลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ต้องไปเช็คอิน แต่เดิมบริเวณนี้เคยเป็นโครงสร้างของรางรถไฟฟ้าลาวาลินที่ถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทางกรุงเทพมหานครเลยเข้ามาปรับปรุงภูมิทัศน์กลายเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าที่อยู่ระหว่างสะพานพระปกเกล้า สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้ถึง 360 องศา ถ้ามาจากฝั่งพระนครสามารถขึ้นทางสวนสมเด็จพระปกเกล้าฯ ฝั่งพระนคร หรือมาจากฝั่งธนบุรีสามารถขึ้นทางสวนป่าเฉลิมพระเกียรติฯ.ที่นี่ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนสวนสาธารณะมีทั้งทางเดิน เลนจักรยาน ปลูกต้นไม้ให้บรรยากาศร่มรื่น และมีโต๊ะนั่งพักผ่อน ชมวิว หรือมาออกกำลังกายเบา ๆ

1 วันสุดชิล@ปากคลองตลาด-สะพานพุทธ อ่านเพิ่มเติม

Check in ปากคลองตลาด

ปากคลองตลาด เป็นตลาดมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักทั้งในหมู่คนไทยและต่างชาติ ซึ่งในแต่ละวัน ก็จะมีผู้คนมากมายเข้าไปเดินชมและเลือกซื้อสินค้าในปากคลองตลาด หลายคนอาจคิดว่าที่นี่น่าจะมีแต่ขายส่ง หรือขายแต่ปริมาณมาก ๆ แต่จริงๆ ขายปลีกเขาก็ขายนะ แถมราคาน่ารักมาก คุ้มสุด ๆ.ปากคลองตลาด เป็นตลาดที่ไม่มีวันหลับ เพราะว่ามีร้านรวงและแผงค้าสลับกันเปิด-ปิดไปตลอด 24 ชั่วโมง จะมาตอนไหนก็เลือกซื้อของที่ต้องการได้ และเท่าที่แอดสังเกต แต่ละร้านก็ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด 19 ด้วยดี มีเจลแอลกอฮอล์ และเครื่องวัดอุณหภูมิ ปากคลองตลาดมี “ดอกไม้”.ข้อนี้เพื่อน ๆ คงทราบกันอยู่แล้วว่าปากคลองเป็นตลาดขายดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีร้านค้าและแผงขายดอกไม้เยอะมาก หลัก ๆ ก็จะอยู่บริเวณริมถนนจักรเพชร โซนตลาดยอดพิมาน และโซนตลาดส่งเสริมการเกษตรไทย ดอกไม้ที่จำหน่ายในปากคลองตลาด มีทั้งที่มาจากภายในประเทศ และนำเข้ามาจากต่างประเทศ นอกจากดอกไม้มาตรฐานแล้ว ที่นี่ยังมีดอกไม้หายาก ดอกไม้แปลก ๆ ดอกไม้เฉพาะฤดูกาลขายด้วย มีทั้งขายปลีก ขายส่ง ราคาไม่แพงเลย เห็นแล้วอาจใจละลายอยากเหมากลับบ้านกันทีเดียว นอกจากนี้ ในปากคลองตลาดยังมีบริการจัดดอกไม้ด้วย ไม่ว่าจะจัดช่อ จัดแจกัน บายศรี พวงมาลัย พวงหรีด ฯลฯ .ถ้าเพื่อน ๆ เพิ่งเคยไปเดินปากคลองครั้งแรก รับรองว่าเดินสนุกแน่นอน เพราะที่นี่มีการจัดโซนให้เดินชมเดินชอปได้ไม่ยากเลย ถ้าสนใจจะซื้อดอกบัว ขอแนะนำให้ไปที่ซอยบัว บริเวณถนนเอ็มไพร์ พ่อค้าแม่ค้าวางดอกบัวเรียงรายให้ลูกค้าได้เลือกซื้อละลานตาเลยทีเดียว นอกจากซอยบัวแล้วก็มีซอยกล้วยไม้ด้วย จะอยู่บริเวณถนนบ้านหม้อ(ตรงข้ามซอยบัว) มีกล้วยไม้สารพัดวางเรียงรายเต็มไปหมด  ปากคลองตลาดมี “ผัก-ผลไม้” .ที่ปากคลองตลาด มีขายผักและผลไม้ด้วยนะ ซึ่งผัก-ผลไม้ที่ขายในปากคลองตลาด มีทั้งขายปลีก ขายส่ง ขายเหมา ลูกค้าจึงมีทั้งลูกค้าครัวเรือน และลูกค้าที่ซื้อไปขายต่อ หรือซื้อไปทำอาหารขาย รวมทั้งถ้าเราอยากหาซื้อผลไม้เพื่อใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ ที่นี่ก็มีผลไม้แบบคัดสรรให้บริการ เพราะเขาจะคัดแบบสวย ๆ ลูกโต ๆ มาแล้วทั้งนั้น  ปากคลองตลาดมี “ขนม” งานมงคล .ในงานพิธีกรรมต่าง ๆ นอกจากดอกไม้ และผลไม้แล้ว ก็ยังต้องมีขนมมงคลต่าง ๆ ปากคลองตลาดนับว่าเป็นวันสต็อปชอปปิงในเรื่องนี้ได้เลย เพราะมีร้านขายขนมมงคลทั้งขนมไทย ขนมแบบจีนมากมายให้เลือกซื้อ ปากคลองตลาดมี “อุปกรณ์งานประดิษฐ์” .ดอกไม้ก็มีแล้ว ถ้าจะร้อยมาลัย ทำบายศรีธูปเทียนแพร พานพุ่ม ฯลฯ ต้องการหาซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ทำงานประดิษฐ์เหล่านี้ ก็ไม่ต้องไปหาเพิ่มที่ไหน เพราะที่ปากคลองตลาดมีทุกสิ่งให้ชอป เรียกว่าซื้อครบจบได้ในที่เดียวเลย จะซื้อมาก ซื้อน้อย ระดับมืออาชีพ หรือนักเรียนก็ไม่ผิดหวังแน่นอน ปากคลองตลาดมี “หลิ่มหย่วนพัด” .เกือบจะเดินผ่านไปแล้วเชียว แต่สายตาก็หันไปเห็นร้านก๋วยเตี๋ยว.หลิ่มหย่วนพัด เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแคะที่เปิดมานานกว่า 60 ปี ตั้งอยู่ริมถนนจักรเพชร ถึงร้านจะมีขนาดเล็ก มีโต๊ะไม่กี่ตัว แต่พอเห็นวัตถุดิบที่อยู่ในตู้กระจกแล้ว แอดก็ตัดสินใจเดินเข้าร้านไปชิมทันที แอดสั่งบะหมี่แห้งค่ะ หน้าตาน่ากินมาก ๆ ขอกินเลยละกัน บะหมี่เหนียวนุ่ม เครื่องแน่น มีทั้งลูกชิ้นปลา หมู กุ้ง หมูแดงที่ใช้นั้นเป็นหมูแดงที่ย่างจากเตาถ่าน ตอนกินยังได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ อยู่เลย อาม่าก็บอกว่าใช้วิธีแบบย่างแบบโบราณเลยนะนั่น.นอกจากนี้ยังมีเครื่องอีก 2 อย่างที่แอดไม่ค่อยคุ้น นั่นก็คือ หนังปลากรอบ และลูกชิ้นเผือกทอด ซึ่งพอทานรวมกันแล้วอร่อย รสชาติกลมกล่อม  เปิดทุกวัน 10.00-17.00 น. (หรือจนกว่าของจะหมด)โทร. 02 221 5359ที่ตั้ง 103 ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ปากคลองตลาดมี “Floral Cafe” .Foral café at นภสร เป็นคาเฟ่ดอกไม้เล็ก ๆ สไตล์วินเทจ ให้บริการทั้งอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม ตกแต่งสวยงาม จิบเครื่องดื่มท่ามกลางบรรยากาศดอกไม้แบบนี้หายเหนื่อยแน่นอน ร้านอยู่บนชั้นสองนะคะ โดยชั้นล่างของร้านเปิดเป็นร้านจัดดอกไม้.เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.โทร. 02 222 6895, 02 221 2039, 061852 8866ที่ตั้ง 67 ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร การเดินทางไปปากคลองตลาด แนะนำให้เดินทางโดย MRT ลงที่สถานีสนามไชย ใช้ทางออก 1-2 เพราะว่าสะดวก และไม่ต้องวนหาที่จอดรถไกล ๆ อีกด้วย

Check in ปากคลองตลาด อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวสามแพร่ง แหล่งอาหารอร่อย

ย่านสามแพร่ง เป็นชุมชนเก่าแก่ อดีตเป็นกลุ่มวังที่ประทับของเจ้านาย ได้แก่ วังกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ วังกรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ และวังกรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ.ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการตัดทางผ่านกลางพื้นที่กลุ่มวังนี้ เพื่อเชื่อมถนนอัษฎางค์กับถนนตะนาว จนเกิดเป็นทางสามแพร่ง และตั้งชื่อถนนในย่านนี้ตามพระนามเจ้าของวัง คือ ถนนแพร่งสรรพศาสตร์ ถนนแพร่งนรา และถนนแพร่งภูธร.ในสมัยนั้น ย่านสามแพร่ง นับว่าเป็นย่านเศรษฐกิจที่สำคัญ มีห้างร้านมากมาย โดยเฉพาะร้านจำหน่ายอุปกรณ์สนามของข้าราชการทหาร-ตำรวจ รวมทั้งร้านทอง ร้านอาหาร ห้างฝรั่ง และโรงละครปรีดาลัย โรงแสดงละครร้องแห่งแรกของไทย ย่านสามแพร่งตั้งอยู่ที่แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ ในเขตพระนคร สามารถเดินทางมาได้หลายวิธี.รถส่วนตัว : ตั้ง GPS มุ่งหน้ามายังเขตพระนคร จากนั้นเลี้ยวตัดเข้าถนนตะนาว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย .MRT : สถานีสามยอด ทางออกที่ 3 เดินมุ่งหน้ามาทางแยกสี่กั๊กพระยาศรี เดินเลี้ยวขวาเข้าถนนเฟื่องนครมาประมาณ 700 เมตรก็จะถึงย่านสามแพร่ง.MRT : สถานีสนามไชย ทางออกที่ 2 เดินไปทางสวนสราญรมย์ แล้วเข้าถนนอัษฎางค์.1 ศาลเจ้าพ่อเสือ2 ซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์3 กุยช่ายคุณแม่4 โรงเรียนตะละภัฏศึกษา (วังวรวรรณ)5 ก๋วยเตี๋ยวนายมัก เจ้าเก่า แพร่งนรา6 ร้านขนมหวานลุงแดง แพร่งนรา7 ร้าน ก.พานิช ข้าวเหนียวมะม่วงและขนมไทย8 ชิกัจฉา กาแฟสด แพร่งภูธร9 1905 Heritage Corner & Café แพร่งภูธร10 ขนมปังปิ้ง “ภูธรบาร์” แพร่งภูธร ศาลเจ้าพ่อเสือ .มาถึงแขวงศาลเจ้าพ่อเสือ ก็ต้องเข้าไปสักการะกันสักหน่อย “ศาลเจ้าพ่อเสือ” หรือที่ชาวจีนเรียกว่า “ตั่วเหล่าเอี้ย” เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานรูปเอี่ยนเถี้ยนส่งเต้ รูปเจ้าพ่อเสือ รูปเจ้าพ่อกวนอู และรูปเจ้าแม่ทับทิม ผู้คนต่างมากราบไหว้ขอพร เสริมดวงบารมี รวมถึงสะเดาะเคราะห์แก้ปีชงต่าง ๆ.สำหรับผู้ที่เพิ่งเคยไปครั้งแรก หรือไม่คุ้นชินกับการไหว้ศาลเจ้าก็ไม่ต้องห่วงจ้า ด้านในมีเจ้าหน้าที่ของศาลเจ้าบอกขั้นตอนอย่างละเอียด.ด้านในห้ามถ่ายภาพนะ.เปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.ที่ตั้ง 468 ถนนตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์.เดินออกจากศาลเจ้าพ่อเสือ ก็มาถึงแพร่งที่ 1 คือ “แพร่งสรรพศาสตร์” ตรงปากทางเข้าแพร่งจะมี “ซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์” ตั้งอยู่ เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป หน้าบันเจาะเป็นวงกลม ในช่องนั้นมีประติมากรรมรูปผู้หญิงในท่ายืนถือคบไฟ ซุ้มประตูนี้เป็นส่วนหนึ่งของวังสรรพสาตรศุภกิจ ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ.ต่อมาภายหลังได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เสียหายจนหมด เหลือเพียงซุ้มประตูวังเก่าที่ยังคงความสวยงามให้คนรุ่นหลังได้ชม และเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของย่านสามแพร่ง จากซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์ เดินเล่นดูร้านรวง คาเฟ่ สตูดิโอศิลปะแล้ว อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับภาพวาดรูปซุ้มประตูแพร่งสรรพศาสตร์ที่ฝาผนังด้านข้างโรงแรม Oyo Bright Minitel นะ .ที่ตั้ง ถนน แพร่งสรรพศาสตร์ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร กุ้ยช่ายคุณแม่ .เดินย้อนกลับมาที่ปากทางเพื่อจะเดินต่อไปที่แพร่งนรา สายตาก็เหลือบไปเจอของน่ากินเข้าซะแล้ว .“กุ้ยช่ายคุณแม่” จุดเด่นก็คือ แป้งบางใสมองเห็นไส้ น่ากินมาก เข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้มรสกลมกล่อม มีทั้งหมด 4 ไส้คือ กุ้ยช่าย เผือก มันแกว และหน่อไม้.ที่มาของกุ้ยช่ายคุณแม่ เกิดขึ้นจากที่คุณแม่ทำขนมกุ้ยช่ายให้ลูก ๆ กิน แล้วลูก ๆ บอกว่ารสชาติอร่อย เลยชวนแม่เปิดร้านขาย ซึ่งปัจจุบันก็เข้าสู่ปีที่ 9 แล้ว มีลูกค้ารวมถึงเหล่าฟู้ดเดลิเวอร์รี่ทุกสีมารอคิวซื้อกันไม่ขาดสาย เปิดทุกวัน 05.00-17.00 น.โทร. 081 303 0022ที่ตั้ง 520 ถนนตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โรงเรียนตะละภัฏศึกษา (วังวรวรรณ)  . กลางแพร่งนรา มีอาคารเก่าแก่แห่งหนึ่งที่ยังคงความสวยงามโดดเด่นออกมาจากอาคารอื่น ๆ นั่นก็คือ โรงเรียนตะละภัฏศึกษา บริเวณแพร่งนรานี้ ในอดีตคือวังวรวรรณ ที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ซึ่งทรงปรีชาสามารถมากในด้านการประพันธ์ ทรงเป็นผู้นิพนธ์บทละครร้อง และสร้างโรงละครปรีดาลัยซึ่งเป็นโรงละครร้องแห่งแรกของประเทศไทยขึ้นภายในวังของพระองค์ท่าน ลักษณะอาคารเป็นปูนผสมไม้ มีระเบียงไม้ฉลุสวยงาม ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นโรงเรียนตะละภัฏศึกษา และปิดทำการไปเมื่อปี พ.ศ. 2538 ปัจจุบันเราสามารถชมอาคารนี้ได้แค่ภายนอกเท่านั้น.ที่ตั้ง ถนนแพร่งนรา แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร บรรยากาศสองข้างทางของถนนแพร่งนรา เราจะได้เห็นอาคารตึกแถวที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปผสมจีนเรียงยาว ก๋วยเตี๋ยวนายมัก เจ้าเก่า แพร่งนรา.เดินเล่นชมอาคารร้านรวงในแพร่งนราเพลิน ๆ ก็ได้กลิ่นหอมของน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว ชวนท้องร้อง เงยหน้าดูก็เห็นร้านนายมัก เจ้าเก่า เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาและเย็นตาโฟที่เปิดขายมานานกว่า 70 ปี ปัจจุบันมีหลายสาขา จุดเด่นคือเกี๊ยวปลา เส้นปลาทำเอง และทำสดใหม่ทุกวัน ลูกค้าส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เหนียว นุ่ม อร่อย และไม่คาว.ถึงจะเป็นร้านที่ไม่ได้มีเมนูเยอะแยะ แต่แอดได้ชิมแล้วบอกเลยว่าอร่อยมาก ๆ ไปลองกันได้ .เปิดทุกวัน 09.30-15.00 น.โทร. 02 222 0093, 086 616 5340ที่ตั้ง 62 ถนนแพร่งนรา แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ร้านขนมหวานลุงแดง แพร่งนรา .กินคาวแล้วจะพลาดของหวานได้ยังไง ในซอยแพร่งนรานี้มีร้านขนมหวานขึ้นชื่อแห่งหนึ่งคือ “ร้านลุงแดง” มีเมนูหลากหลายไม่ต่ำกว่า 10 อย่าง รสชาติหวานกำลังดี.ถึงจะดูเป็นขนมหวานหน้าตาธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดาเลย เปิดขายมา 50 ปีแล้วจ้า มีทั้งขาประจำและขาจรอย่างแอดเดินเข้าร้านกันอย่างต่อเนื่อง มาดูเมนูที่แอดเลือกกัน น่ากินทั้งนั้นเลย แอดสั่งข้าวเหนียวดำเปียก ลำไยเปียก และสาคูเปียกข้าวโพดมาชิม รสหวานกำลังดี แถมหอมกลิ่นกะทิอ่อน ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ก็ยังมีสังขยา ลูกชุบ ตะโก้ กล้วยเชื่อม เผือกกวน ฯลฯ ซื้อกลับบ้านไปฟินต่อกันได้.เปิดทุกวัน

เที่ยวสามแพร่ง แหล่งอาหารอร่อย อ่านเพิ่มเติม

ดื่มด่ำงานศิลป์ที่ Matdot Art Center

ถนนหลานหลวง ถือเป็นถนนที่มีความคลาสสิกอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีตึกเก่าสวย ๆ ให้เดินถ่ายรูปเล่นเพลิน ๆ หลายตึกเลย นอกจากนี้ แอดยังไปสะดุดตาเข้ากับแกลเลอรีแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ Matdot Art Center ซึ่งด้านในมีทั้งร้านกาแฟ และแกลเลอรีแสดงผลงานศิลปะหลายสไตล์ แอดบอกเลยว่าที่นี่เหมาะมากสำหรับการมานั่งชิลล์จิบกาแฟ ขลุกตัวทำงาน และชมงานศิลป์.ช่วงนี้ที่ art center กำลังมีนิทรรศการ “The Revolving World” โดยงานจะจัดไปจนถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2564 เพื่อน ๆ ที่สนใจ สามารถไปชมนิทรรศการกันได้ค่ะ Matdot Art Center ก่อตั้งขึ้นโดย คุณธวัชชัย สมคง ศิลปินและบรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Fine Art ผู้รักในศิลปะ อยากให้ศิลปินมีพื้นที่แสดงความสามารถ และให้ผู้คนที่ชื่นชอบศิลปะได้เข้าถึงงานศิลปะได้มากยิ่งขึ้น ทุกพื้นของ art center จะมีศิลปะเข้าไปเป็นส่วนประกอบเพื่อนำเสนอว่า ศิลปะสามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันและทุกกิจกรรมที่เราทำได้ เมื่อเข้าไปในแกลเลอรี จะพบกับร้านกาแฟเป็นห้องแรก ซึ่งเปรียบเสมือนห้องรับแขกที่รวบรวมงานศิลปะของศิลปินจากทั่วโลกเอาไว้ บรรยากาศและผลงานศิลปะภายใน Matdot Cafe ร้านกาแฟแห่งนี้ให้บริการกาแฟและของหวานที่ทางร้านทำเอง เมนูที่ต้องลองชิมคือ กาแฟ cold brew และเค้กบราวนี่รสชาติเข้มข้น ถูกใจคนที่ชอบช็อกโกแลตอย่างแน่นอน อีกมุมหนึ่งของร้านกาแฟ เป็นโซนห้องสมุด เอาไว้สำหรับนั่งทำงานและอ่านหนังสือ โดยจะมีงานศิลปะแทรกอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของห้อง มุมนั่งชิลอีกมุมหนึ่งของโซนร้านกาแฟ ที่นี่มีห้องแกลเลอรีทั้งหมด 2 ห้อง คือ Blacklist Gallery และ MatDot Gallery เป็นแกลเลอรีหลักสำหรับจัดแสดงนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนของศิลปินชาวไทยและต่างชาติ โซนสตูดิโอ มี 3 ห้อง เป็นโซนที่เปิดให้ศิลปินชาวต่างชาติมาพักและสร้างผลงาน โดยมีห้องพักและห้องทำงานให้บริการ พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ถ้าเพื่อน ๆ โชคดีได้เจอตัวศิลปิน ก็สามารถขอเข้าไปดูผลงานและพูดคุยกับศิลปินได้ค่ะ ห้องพักสำหรับศิลปิน แบ่งออกเป็น 4 ห้องหลัก มีการตกแต่งอย่างสวยงาม และมีผลงานศิลปะประดับอยู่ทั่วห้อง โซนห้องดำ เป็นห้องอเนกประสงค์ ใช้สำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น Workshop อีเวนท์เฉพาะกิจ หรืองานเสวนาที่จัดขึ้นร่วมกับศิลปินที่มาพำนักที่ art center เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ทางศิลปะแก่บุคคลภายนอก อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือ ห้องจัดแสดงภาพวาด อาจารย์ศิลป์ พีระศรี ซึ่งเป็นของสะสมของคุณธวัชชัย ภาพวาดและผลงานที่เกี่ยวกับ อ.ศิลป์เหล่านี้ เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่เป็นศิลปินได้สร้างสรรค์ขึ้นและมอบให้คุณธวัชชัย แต่ห้องนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว หากต้องการเข้าชม แอดแนะนำให้นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนนะคะ ขอบคุณรูปภาพจาก Matdot Art Center.ที่ตั้ง 47 ถนนหลานหลวง แขวงโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานครเปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) แกลเลอรีเปิด 10.00-19.00 น. ร้านกาแฟเปิด 09.30 – 18.30 น.โทร. 0 2163 4550พิกัด: https://g.page/MatDot?share

ดื่มด่ำงานศิลป์ที่ Matdot Art Center อ่านเพิ่มเติม

ชุมชนบ้านบาตร

บ้านบาตรเป็นชุมชนตีบาตรที่มีชื่อเสียงมากในอดีต ใครต้องการซื้อหาบาตรถวายพระสงฆ์ หรือใช้ในงานบวชก็ต้องมาที่บ้านบาตร จนเมื่อการผลิตบาตรแบบปั๊มแพร่หลาย และมีราคาถูกกว่าบาตรแบบตีด้วยมือ จึงทำให้บาตรแบบตีด้วยมือขายได้น้อยลง ช่างตีบาตรในชุมชนจึงทะยอยเลิกตีบาตรกันไป เหลือเพียงไม่กี่ครอบครัว ก่อนจะกลับมาฟื้นฟูกันใหม่ ปัจจุบันมีช่างอยู่ประมาณ 30 คนแล้ว ชุมชนบ้านบาตรไม่เพียงสืบสานการตีบาตรด้วยมือ แต่ยังพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้อีกด้วย ทั้งในเรื่องความเป็นมา และขั้นตอนการผลิต นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ชุมชนที่น่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่มีน้อยคนมากที่รู้จัก บาตรของชุมชนบ้านบาตร เป็นบาตรที่ตรงตามหลักพระธรรมวินัย คือ เป็นบาตรบุหรือบาตรที่ทำด้วยมือ และประกอบด้วยเหล็ก 8 ชิ้น ซึ่งเหตุที่ต้องเป็น 8 ก็เพราะบาตรเป็นหนึ่งในอัฐบริขาร 8 ของพระภิกษุ แต่เดิมนั้น พระวินัยบัญญัติว่าวัสดุที่นำมาทำบาตรมี 2 ชนิดเท่านั้น คือ ดินเผา และเหล็กรมดำ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จึงมีการอนุโลมให้ใช้สแตนเลสได้ เพราะดูแลทำความสะอาดง่าย แอดได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับช่างทำบาตร คุณลุงคุณป้าใจดีพร้อมให้ความรู้เรื่องบาตรแบบจัดเต็มเลยค่ะ หากใครมีโอกาส เข้าไปเที่ยวชมกันเยอะ ๆ นะคะ ขั้นตอนการทำบาตรมีทั้งหมด 8 ขั้นตอน คือ 1 การทำขอบบาตร 2 การประกอบกง หรือทำโครงของบาตร 3 การเชื่อมบาตร 4 การตีตะเข็บบาตร 5 การลายบาตร 6 การตีเม็ดให้เรียบ 7 การตะไบบาตร 8 การระบมบาตรหรือการสุม เพื่อไม่ให้บาตรเป็นสนิม ซึ่งแต่ละขั้นตอนก็ต้องอาศัยช่างผู้ชำนาญ เรียกว่ามากันหมดหมู่บ้านละค่ะ ทั้งช่างตีขอบ ช่างต่อบาตร ช่างเชื่อม ฯลฯ แอดบอกเลยว่ากว่าจะได้บาตรสักใบต้องใช้ความอดทน หัวใจ ความเชื่อและความศรัทธามาก ๆ และปัจจุบันนี้ นับได้ว่ามีที่นี่ที่เดียวที่ยังคงทำบาตรแฮนด์เมด ซึ่งเมื่อเทียบกับบาตรปั๊ม บาตรตีด้วยมือนั้นทนทานมากกว่า ใช้ได้นานหลายสิบปี และที่น่าประทับใจอีกอย่างคือ ตอนเคาะจะมีเสียงกังวานใสกิ๊งเหมือนเสียงระฆังเลยค่ะ คุณลุงคุณป้าบอกแอดว่าที่นี่ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาทั้งทีไปไหว้ขอพรกันสักหน่อย “ศาลพ่อปู่” เป็นที่เคารพและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านบาตร .การเดินทาง– MRT ลงสถานีสามยอด จากนั้นเดินต่อไปยังถนนบริพัตร ประมาณ 800 เมตรก็จะถึงชุมชนบ้านบาตร– เรือ โดยสารเรือคลองแสนแสบลงที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ จากนั้นเดินต่อไปยังถนนบริพัตร ประมาณ 600 เมตร– รถประจำทาง สาย 37, 46, 508 ในบริเวณศาลพ่อปู่ เราจะพบสิ่งสักการะที่ไม่คุ้นตาอยู่ด้านข้าง เป็นไม้ที่ชาวบ้านเรียกว่า “เตาสูบ” เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเผาบาตรในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้เตาสูบแล้ว ชาวบ้านบาตรถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีครูบาอาจารย์ต้องให้ความสำคัญและเคารพ ใครชมการทำบาตรแล้วก็อย่าลืมเข้ามากราบไหว้กันนะคะ.กลุ่มอนุรักษ์บาตรไทยและภูมิปัญญา ถนนบริพัตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ

ชุมชนบ้านบาตร อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top