1 วัน @ ตลาดน้อย
ว่างหนึ่งวันไปไหนดี? คำถามนี้ยากพอ ๆ กับวันนี้กินอะไรดีเลยใช่ไหมล่ะ? . วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ ไปเดินเล่นที่ “ตลาดน้อย” ย่านการค้าและชุมชนจีนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันย่านนี้ยังคงความเก๋าสมกับเป็นย่านที่รุ่งเรืองในอดีต แถมตอนนี้ยังมีความเก๋ของภาพสตรีทอาร์ตที่ซ่อนอยู่มากมาย ยิ่งใครชอบถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม หรือชอบถ่ายรูปแนว Street Art ล่ะก็ รับรองต้องถูกใจแน่นอน ที่สำคัญเดินทางง่ายด้วย เหมาะจะเป็นทริปหนึ่งวันเป็นอย่างยิ่ง #TravelLikeaLocal 1 วัน @ ตลาดน้อย 1.เป็ดตุ๋นเจ้าท่า2.ศาลเจ้าโรงเกือก3.โซวเฮงไถ่4.ศาลเจ้าโจวซือกง5.ขาหมูแช่เย็น6.ธนาคารไทยพาณิชย์7.โบสถ์กาลหว่าร์ . การเดินทางไปตลาดน้อย (ซอยเจริญกรุง 22).1.รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีหัวลำโพงจากนั้น ต่อรถแท็กซี่, ตุ๊กๆ มาที่ซอยเจริญกรุง 222.รถไฟฟ้า BTS สถานีวงเวียนใหญ่ จากนั้นต่อรถสาธารณะมาที่ ซอยเจริญกรุง 223.รถประจำทาง สาย 1 , 35 ,75 ลงตลาดน้อย สาย 36, 93 ลงสี่พระยา เดินมาอีกนิด.ไม่แนะนำให้นำรถส่วนตัวมาเพราะค่อนข้างหาที่จอดรถยาก แอดเริ่มต้นทริปที่ซอยเจริญกรุง 22 หากเพื่อน ๆ ไม่อยากเดิน สามารถเช่าจักรยานได้ที่ร้าน lofitel 22 ตรงหน้าปากซอยเลย แต่วันนี้แอดจะพาเพื่อน ๆ เดินนะ เพราะแต่ละจุดที่แอดจะพาไปไม่ไกลกัน แถมระหว่างทางยังมีจุดให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด รับรองว่า เดินเพลินแน่ ๆ.ภายในซอย เป็นซอยค่อนข้างเล็ก แต่เพราะความเล็กนั่นแหละที่ทำให้แอดรู้สึกเชื่อมโยงกับบรรยากาศในอดีตได้ไม่ยาก แม้บางตึกจะมีการรีโนเวทใหม่ก็ตาม แต่ตลอดสองฝั่งส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นตึกแถวเก่าแก่เรียงรายไปตลอดทาง ดู ๆ ไปเหมือนเข้าไปอยู่ในละครแนวพีเรียตเลยล่ะ เป็ดตุ๋นเจ้าท่า.เริ่มต้นที่แรกด้วยร้านดังประจำย่านนี้ “เป็ดตุ่นเจ้าท่า” ร้านนี้เปิดขายมากว่า 40ปีแล้ว บอกได้เลยว่าร้านนี้เด็ดจริง น้ำซุปกลมกล่อม เนื้อเป็ดนุ่มไม่เหนียว เครื่องในสะอาดไม่มีกลิ่น ชอบมาก ๆ ร้านนี้มีทั้งเมนูเส้นและเมนูข้าว แต่ที่ถูกใจแอดที่สุดเห็นจะเป็น “ก๋วยเตี๋ยวแห้งเส้นเป๊าะ”(เหมือนเส้นหมี่ แต่ใหญ่กว่า) อร่อยเต็มปากเต็มคำจนอยากให้เพื่อน ๆ ได้มาลองบ้างจริง ๆ . ที่ตั้ง: ตลาดน้อย ซอยวานิช2 (ซอยกรมเจ้าท่า) แขวง ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 8.30-15.00น. (หยุดวันอาทิตย์)โทร. 0 2233 2541 กินอิ่มแล้ว เราจะเดินไปเที่ยวต่อที่ฝั่งตรงข้าม นั่นคือ “ตรอกศาลเจ้าโรงเกือก” ในตรอกนี้มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก ไม่ใช่แค่งานที่จัดแสดงให้ดูนะที่สวย แสงและเงาตามกำแพงก็สวยไม่แพ้กัน แนะนำเลยว่าห้ามพลาด ศาลเจ้าโรงเกือก.เดินจนสุดทางก็จะเจอศาลเจ้าโรงเกือก (ศาลเจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง) ที่นี่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีมาแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนปัจจุบันก็ยังสวยอยู่ แอดว่ายิ่งเวลาผ่านไปความเก่าแก่ที่เพิ่มขึ้นก็ยิ่งเป็นการเพิ่มเสน่ห์ มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปและเดินชมอยู่ไม่น้อยเลย คนดูแลที่นี่บอกว่า เริ่มจากพ่อค้าชาวจีนฮากกา (จีนแคะ) ได้เชิญองค์เจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุงจากเมืองจีนมาประดิษฐานไว้เมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะสร้างเป็นศาลเจ้าอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ยิ่งในวันตรุษจีนจะคึกคักเป็นพิเศษ จะมีการตั้งโต๊ะไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะ (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) ใครสนใจจะมาไหว้ก็ซื้อของไหว้รวมไปถึงเครื่องกระดาษต่าง ๆ มาไหว้ได้เลย.ที่ตั้ง: ตรอกศาลเจ้าโรงเกือก ซอยวานิช 2 ตลาดน้อย แขวง ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 17.00 น. โซวเฮงไถ่ (ร้านกาแฟ+โรงเรียนสอนดำน้ำ).เดินตามทางมาไม่ไกล ก็จะเจอกับบ้านโซวเฮงไถ่ (บ้านนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ คนแถวนี้เรียก บ้านดวงตะวัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเรียกว่าบ้านจีนโบราณ บ้านเก๋งโบราณ) ที่นี่จะเป็นบ้านจีนสไตล์โบราณ มีผังเป็นรูปตัวยู ถ้าพูดด้วยภาษาปัจจุบันก็คือ จะมีคอร์ตยาร์ต (COURTYARD) กลางบ้านเป็นสระ เอาไว้ดำน้ำ (ลูกชายเจ้าของบ้านชอบดำน้ำมาก จึงสร้างสระว่ายน้ำไว้กลางบ้าน และเปิดเป็นโรงเรียนสอนดำน้ำ) แล้วเก๋งจีนที่นี่ก็มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปีเลย สวยข้ามกาลเวลาจริง ๆ หลังจากสั่งเครื่องดื่มแล้ว เพื่อน ๆ สามารถขึ้นไปเดินชมบนตัวบ้านได้เลย แอดอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ เพราะข้าวของทุกอย่างเป็นของเก่าจริง ๆ และสวยมาก ๆ เหมือนฉากในหนังเลยล่ะ ที่สำคัญคือ ควรเดินด้วยความระมัดระวังและสำรวมกันด้วยนะ เพราะที่นี่ยังคงเป็นบ้านที่อยู่อาศัยของเจ้าของบ้าน บริเวณไหนเป็นพื้นที่ส่วนตัวหรือห้ามเข้า ก็ปฏิบัติตามกันกฏด้วยน้าาา.ที่ตั้ง: ซอย วานิช 2 แขวง ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานครเปิดทุกวัน เวลา 9.00-17.00น. (หยุดวันจันทร์)โทร. 08 0218 7000 ถัดจากบ้านโซวเฮงไถ่เล็กน้อยก็จะเจอจุดมหาชนนิยมถ่ายรูปอีกแล้ว นั่นก็คือ รถเต่าสีส้มนั่นเอง รถคันนี้ จอดอยู่ริมกำแพงอิฐเก่าเกือบสุดซอย เอาจริง ๆ แอดอดคิดไม่ได้ว่าใครกันที่เป็นคนขับรถเต่าสีส้มแบบนี้บนท้องถนนในอดีต ต้องเป็นคนจ๊าบแน่เลย…ว่าไหม? ใครเป็นทาสแมว เตรียมใจไว้เลย ระหว่างทางมีน้องงงอยู่เต็มไปหมด ไม่รู้จะชมตึกหรือชมแมวก่อนดี ศาลเจ้าโจวซือกง.เผลอแป๊บเดียวก็เดินมาถึง ศาลเจ้าโจวซือกง ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของชาวจีนฮกเกี้ยนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย (สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2347) ด้านในศาลเป็นที่ประดิษฐานของพระเซ่งจุ๊ยจ้อซือ และเทพเจ้าอื่น ๆ ที่ชาวจีนนับถือ เช่น พระไทจื่อเอี๋ย เจ้าพ่อกวนอู เจ้าพ่อเสือ และสามสิบหกเทพเจ้า ด้านหน้าของที่นี่เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา อากาศดีมากเลย ขอบอก อ๊ะ ๆ อย่าลืมแวะไปขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกศาลที่อยู่ริมน้ำนะ ภายในจะประดิษฐานเจ้าแม่ทับทิม ไฉซิ้งเอี้ย (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) และไต่เซี้ยฮุกโจ้ว (เห้งเจีย) ได้ข่าวว่ามีคนมาขอเรื่องการงานแล้วสำเร็จตามใจหวังกันเยอะเลย ศาลเจ้าแห่งนี้นอกจากการเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนแล้ว ยังมีคุณค่าทางศิลปกรรม สถาปัตยกรรมอีกด้วย ทั้งรูปแบบศิลปะลายปูนปั้น และการวางผังอาคาร ยังคงรักษารูปแบบสมัยราชวงศ์ชิงไว้อย่างเด่นชัด ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมฮกเกี้ยนแห่งประเทศไทย แอดประทับใจลายปูนปั้นมาก สวยมากจริง ๆ.ที่ตั้ง:
1 วัน @ ตลาดน้อย อ่านเพิ่มเติม