เพื่อนร่วมทาง

กิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey ภาคตะวันออก

สำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยว “ภาคตะวันออก” ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 บัดดี้ขอเชิญชวนมาร่วมสนุกกับกิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey เพื่อรับของรางวัลสุดพิเศษ Art Toy Journey จาก ททท. นั่นเอง ✨ กติกาการร่วมสนุก ✨– เข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว ซึ่งต้องเป็นโรงแรม/ที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการ Sustainable Tourism Acceleration Rating (STAR) กับ ททท. เท่านั้น สามารถตรวจสอบรายชื่อที่พักได้ที่ https://taturl.org/S1cdt– มีค่าใช้จ่ายการเข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว มูลค่ามากกว่า 3,500 บาท/ใบเสร็จ– กดไลค์ Facebook Fanpage: 1672 Travel buddy และแชร์โพสต์กิจกรรมเป็นสาธารณะ– สแกน QR Code ลงทะเบียนรับ Art Toy Journey– กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้ร่วมกิจกรรม เช่น ชื่อ-สกุล/เบอร์โทรศัพท์/ที่อยู่ปัจจุบัน (สถานที่จัดส่ง Art Toy Journey)/ภูมิภาคที่เข้าร่วมกิจกรรม/จังหวัดที่เข้าพักในภูมิภาคนั้น/ชื่อโรงแรมที่พัก/วันที่และจำนวนวันเข้าพัก– แนบหลักฐานการเข้าพักโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว (โฟลิโอโรงแรม (Folio) หรือ ใบเสร็จ) ✅ เงื่อนไขการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey1. นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey ได้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 18.00 น.2. นักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ผ่านการ Scan QR Code หรือคลิกลิงค์ https://eform.tourismthailand.org/public/arttoy ของ ททท. เท่านั้น3. นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ได้ต่อเมื่อเข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว ซึ่งต้องเป็นโรงแรม/ที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการ Sustainable Tourism Acceleration Rating (STAR) กับ ททท. เท่านั้น4. นักท่องเที่ยวต้องมีค่าใช้จ่ายการเข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว มูลค่ามากกว่า 3,500 บาท/ใบเสร็จ5. นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ได้เพียงภูมิภาคละ 1 ตัว/ท่าน/ครั้ง/สิทธิ์/Folio หรือใบเสร็จ เท่านั้น6. หลักฐานการเข้าพักโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว 1 ใบ สามารถนำมาลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ได้เพียง 1 ท่านเท่านั้น ไม่สามารถให้ผู้อื่นนำมาใช้ซ้ำได้ แม้ว่าจะมีชื่อเข้าพักในห้องเดียวกันก็ตาม7. กรณีที่นักท่องเที่ยวเข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก มากกว่า 1 ท่าน/ห้อง ททท. ขอสงวนสิทธิ์ในการลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ได้เพียง 1 ท่านเท่านั้น8. นักท่องเที่ยวต้องเข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว และลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ตามช่วงเวลาที่ ททท. กำหนดเท่านั้น โดยการจัดกิจกรรมแบ่งเป็นช่วงละ 1 ภูมิภาค รวม 5 ภูมิภาค ได้แก่– ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 ภาคตะวันออก– ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2568 ภาคกลาง– ระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2568 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน)– ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม – 15 กันยายน 2568 ภาคเหนือ– ระหว่างวันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2568 ภาคใต้9. ในกรณีที่นักท่องเที่ยวเป็นคนไทย จะต้องเข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว โดยไม่ตรงกับที่อยู่ปัจจุบัน/สถานที่จัดส่ง Art

กิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey ภาคตะวันออก อ่านเพิ่มเติม

กิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @ เมืองน่าเที่ยว” เตรียมตัวให้พร้อมแล้วแพ็กกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวกันเถอะ!

บัดดี้มีกิจกรรมมาให้เพื่อน ๆ ร่วมสนุกด้วยกัน นั่นก็คือกิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey เพื่อรับของรางวัลสุดพิเศษ Art Toy Journey จาก ททท. บอกเลยว่า Special สุด ๆ เพราะได้ 2 ศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงมาร่วมออกแบบ 2 คาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน ได้แก่ คุณปิ๊ง-มัณฑนา เลิศกรกิจจา เจ้าของผลงาน “เด็กหญิงหูยาว (Huuyaow)” และคุณหมู-ไตรภัค สุภวัฒนา เจ้าของผลงาน “เวิลด์บอย (World Boy)” และที่สำคัญ Art Toy คู่นี้ไม่มีขายที่ไหน ต้องร่วมสนุกกับกิจกรรมของ ททท. เท่านั้น!! เพื่อน ๆ สามารถติดตามกติกาการร่วมสนุกและสแกน QR Code เพื่อลงทะเบียน ได้ทาง Facebook Fanpage: 1672 Travel buddy โดยกิจกรรมนี้จะจัด 5 ช่วง 5 ภูมิภาค ได้แก่📌 ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 ภาคตะวันออก📌 ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2568 ภาคกลาง📌 ระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2568 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน)📌 ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม – 15 กันยายน 2568 ภาคเหนือ📌 ระหว่างวันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2568 ภาคใต้ ✨ กติกาการร่วมสนุก ✨– เข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว ซึ่งต้องเป็นโรงแรม/ที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการ Sustainable Tourism Acceleration Rating (STAR) กับ ททท. เท่านั้น สามารถตรวสอบรายชื่อที่พักได้ที่ https://taturl.org/S1cdt– มีค่าใช้จ่ายการเข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว มูลค่ามากกว่า 3,500 บาท/ใบเสร็จ– กดไลค์ Facebook Fanpage: 1672 Travel buddy และแชร์โพสต์กิจกรรมเป็นสาธารณะ– สแกน QR Code ลงทะเบียนรับ Art Toy Journey– กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้ร่วมกิจกรรม เช่น ชื่อ-สกุล/เบอร์โทรศัพท์/ที่อยู่ปัจจุบัน (สถานที่จัดส่ง Art Toy Journey)/ภูมิภาคที่เข้าร่วมกิจกรรม/จังหวัดที่เข้าพักในภูมิภาคนั้น/ชื่อโรงแรมที่พัก/วันที่และจำนวนวันเข้าพัก– แนบหลักฐานการเข้าพักโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว (โฟลิโอโรงแรม (Folio) หรือ ใบเสร็จ)– แนบภาพ Capture หน้าจอการกด Like หรือติดตาม Facebook Fanpage: 1672 Travel buddy– แนบภาพ Capture หน้าจอการแชร์กิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊ป @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey ✅ เงื่อนไขการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey1. นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @เมืองน่าเที่ยว” Art Toy Journey ได้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 18.00 น.2. นักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ผ่านการ Scan QR Code ของ ททท. เท่านั้น3. นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ได้ต่อเมื่อเข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว ซึ่งต้องเป็นโรงแรม/ที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการ Sustainable Tourism Acceleration Rating (STAR) กับ ททท. เท่านั้น4. นักท่องเที่ยวต้องมีค่าใช้จ่ายการเข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว มูลค่ามากกว่า 3,500 บาท/ใบเสร็จ5. นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนรับ Art Toy Journey ได้เพียงภูมิภาคละ 1 ตัว/ท่าน/ครั้ง/สิทธิ์/Folio หรือใบเสร็จ เท่านั้น6. หลักฐานการเข้าพักโรงแรม/ที่พัก ในพื้นที่ 55 เมืองน่าเที่ยว

กิจกรรม “เที่ยวปั๊บ รับปุ๊บ @ เมืองน่าเที่ยว” เตรียมตัวให้พร้อมแล้วแพ็กกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวกันเถอะ! อ่านเพิ่มเติม

50 จุดเช็กอินฤดูฝน

เมื่อวสันตฤดูมาเยือน ความชุ่มฉ่ำจากสายฝนทำให้ภูเขา ต้นไม้ ใบหญ้า กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง การออกเดินทางท่องเที่ยวในฤดูฝนหลายคนอาจมองว่าไม่สะดวก ชื้นแฉะ เพิ่มความลำบากในการเตรียมตัวและการเดินทาง แต่อยากให้ทุกคนเปิดใจ ให้โอกาสตัวเองได้ลองออกไปท่องเที่ยวช่วงฤดูฝนกันบ้าง แล้วจะพบว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการออกไปเสพความสวยงามของธรรมชาติ สูดไอดิน อาบกลิ่นป่า ชมสายหมอกขาวลอยพลิ้วหลังฝนตก ไม่ต้องเจอนักท่องเที่ยวแออัด จองที่พักง่าย ราคาดี ได้พักผ่อนและฮีลใจตัวเองอย่างเต็มที่ ☔️ ✨ เชื่อเถอะ … ลองไปเที่ยวในฤดูฝนกันดู … รับรองจะติดใจ ✨ 📌 ป่าสนวัดจันทร์ ป่าสนผืนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อากาศสดชื่นเย็นสบายตลอดทั้งปี มีศูนย์กลางคือ สวนป่าบ้านวัดจันทร์ ดูแลโดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ภายในพื้นที่มีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร และร้านกาแฟให้บริการ ไฮไลต์เด่น คือ มีอ่างเก็บน้ำที่โอบล้อมไปด้วยป่าสน ในยามเช้ามักปรากฏสายหมอกลอยฟุ้งเหนือผิวน้ำราวกับภาพฝัน และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดินเล่นลัดเลาะไปตามอ่างเก็บน้ำและป่าสน ที่ตั้ง: ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่พิกัด: https://maps.app.goo.gl/9pKaKnbr23mfNacz8 การเดินทาง: ถนนลาดยางตลอดสาย นอกจากรถยนต์ส่วนตัว ยังมีรถสองแถวโดยสารจากสถานีขนส่งช้างเผือกในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้บริการมายังป่าสนวัดจันทร์ เป็นรถสองแถวสีเหลือง สายเชียงใหม่-กัลยาณิวัฒนา-ป่าสนวัดจันทร์ สิ่งอำนวยความสะดวก: มีที่พักทั้งในส่วนของสวนป่าบ้านวัดจันทร์โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และที่พักเอกชนให้บริการในตัวอำเภอบ้านวัดจันทร์ แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง: วัดจันทร์ / บ้านแม่แดด / อำเภอปาย / อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง 📌 ดอยเสมอดาว ดอยที่สามารถนอนชมดาวได้สวยสมชื่อ แต่เฉพาะในวันที่ท้องฟ้าเปิดโล่งไร้เมฆหมอกบดบังนะ เป็นทั้งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม มีจุดถ่ายรูปเช็กอินคือ ผาหัวสิงห์ มองจากลานกางเต็นท์ไปก็เห็นได้ชัดเจน ช่วงฤดูฝนลานหญ้าโล่งบริเวณจุดกางเต็นท์จะเขียวขจีสวยงามมาก ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่านพิกัด: https://maps.app.goo.gl/i6vxFH48Tog5qAFL7 การเดินทาง: ถนนลาดยางตลอดสาย ไม่มีรถโดยสารประจำทางผ่าน สิ่งอำนวยความสะดวก: อุทยานฯ มีบ้านพักที่ผาชู้ และมีลานกางเต็นท์ 2 จุด คือ ผาชู้และดอยเสมอดาว แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง: เสาดินนาน้อย อุทยานแห่งชาติขุนสถาน วัดถ้ำเชตวัน 📌 บ้านห้วยห้อม หมู่บ้านเล็ก ๆ บนดอย เป็นแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าคุณภาพดี มีผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากขนแกะจำหน่ายด้วย ในฤดูฝนทั้งหมู่บ้านมักถูกปกคลุมด้วยสายหมอกหลังฝนตกใหม่ ๆ ที่ตั้ง: ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอนพิกัด: https://maps.app.goo.gl/NPbSffrTMp3faMHUA การเดินทาง: ถนนลาดยางตลอดสาย ไม่มีรถโดยสารประจำทางผ่าน สิ่งอำนวยความสะดวก: ในหมู่บ้านมีโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยว แนะนำให้ลองไปพักค้างสักคืน แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย นาขั้นบันไดบ้านละอูบ ดอยขุนคำ 📌 อ่างกาหลวง ป่าโบราณบนยอดดอยอินทนนท์ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นทางเดินไม้ให้เที่ยวชม ในช่วงฤดูฝนจะได้พบกับต้นไม้น้อยใหญ่ถูกปกคลุมด้วยมอสสีเขียว เฟิร์น และข้าวตอกฤาษี ราวกับว่าต้นไม้เหล่านั้นกำลังใส่เสื้อคลุม ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่พิกัด: https://maps.app.goo.gl/MdU8oxrJodFTaTzX8 การเดินทาง: ถนนขึ้นดอยอินทนนท์ลาดยางตลอดสาย บางช่วงมีความโค้งชันบ้าง มีลานจอดรถยนต์บริเวณจุดสูงสุดยอดดอยและใกล้ทางเดินลงไปเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวง สิ่งอำนวยความสะดวก: มีลานจอดรถ ห้องน้ำ และร้านกาแฟให้บริการบริเวณใกล้กับจุดสูงสุดยอดดอย ตรงข้ามกับทางเดินลงไปเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวง ส่วนที่พัก มีบ้านพักและลานกางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กม. 31 และที่พักเอกชนบริเวณทางขึ้นดอย แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง: จุดสูงสุดยอดดอย พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ กิ่วแม่ปาน สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ น้ำตกวชิรธาร 📌 บ้านแม่กำปอง หมู่บ้านกลางหุบเขา ส่วนใหญ่สร้างด้วยไม้ มีลำธารและน้ำตกไหลผ่านกลางหมู่บ้าน อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูฝน ถือเป็นการได้สัมผัสความเป็นแม่กำปองอย่างแท้จริง นักท่องเที่ยวจะไม่แออัดมากเกินไป เดินเที่ยวรับอากาศเย็นสดชื่นได้แบบสบาย ๆ ที่ตั้ง: ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่พิกัด: https://maps.app.goo.gl/tohgMqpnWzzJxyYc6 การเดินทาง: ถนนลาดยางตลอดสาย ช่วงขึ้นเขาก่อนถึงหมู่บ้านถนนค่อนข้างแคบ ไม่มีไหลทาง ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง มีรถตู้โดยสารสายเชียงใหม่-แม่กำปอง ให้บริการ ท่ารถจอดอยู่ด้านหน้าตลาดวโรรส ฝั่งติดริมแม่น้ำปิง สิ่งอำนวยความสะดวก: ในหมู่บ้านมีที่พักแบบโฮมสเตย์และรีสอร์ทให้บริการหลายแห่ง มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกหลายร้าน แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง: จุดชมวิวกิ่วฝิ่น น้ำพุร้อนสันกำแพง 📌 บ้านขุนแปะ ชุมชนเล็ก ๆ บนดอยสูง ดินแดนแห่งขุนเขา นาขั้นบันได แหล่งปลูกดอกไฮเดรนเยีย และพืชผักเมืองหนาว ช่วงฤดูฝนถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่ มีจุดชมนาขั้นบันไดให้ชมหลายจุด และดอกไฮเดรนเยียที่เริ่มผลิบานตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไปก่อนที่ชาวสวนจะตัดดอกไปส่งขาย และยอดดอยบ่ะโจ๊ะโข่ว เป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีในช่วงฤดูฝน สามารถชมทิวทัศน์ได้รอบทิศ 360 องศา เป็นเขตรอยต่อระหว่างอำเภอจอมทองและอำเภอแม่แจ่ม ที่ตั้ง: ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่พิกัด: https://maps.app.goo.gl/dbzNiFjbw52iRnLZA การเดินทาง: ถนนลาดยางตลอดสาย ช่วงขึ้นลงเขาไม่ค่อยชัน สิ่งอำนวยความสะดวก: ในหมู่บ้านมีที่พักแบบโฮมสเตย์และรีสอร์ทให้บริการหลายแห่ง และที่พักแต่ละแห่งจะรวมบริการรถขับเคลื่อนสี่ล้อพาเที่ยวในพื้นที่ด้วย แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง: แหล่งท่องเที่ยวในอำเภอแม่แจ่มและอำเภอจอมทอง 📌 นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง นาขั้นบันไดที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่หลังดอยอินทนนท์ฝั่งอำเภอแม่แจ่ม เริ่มปลูกข้าวตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ช่วงเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนสิงหาคม เป็นช่วงนากระจก คือ จะเห็นต้นข้าวเป็นต้นกล้าเล็ก ๆ และน้ำที่ขังในนาข้าว ยามสะท้อนแสงแดดและท้องฟ้าจะสวยราวกระจก ช่วงที่ต้นข้าวมีสีเขียวโตเต็มที่ คือ ปลายเดือนสิงหาคม-ต้นเดือนตุลาคม และกลางเดือนตุลาคมไปแล้วข้าวจะออกรวงเป็นสีเหลืองทองรอการเก็บเกี่ยว ที่ตั้ง: บ้านป่าบงเปียง ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่พิกัด: https://maps.app.goo.gl/sXAtbjxhB4gGEXhLA การเดินทาง: ถนนลาดยางตลอดสาย รถยนต์เล็กทุกชนิดเดินทางไปได้ หรือจะจอดรถส่วนตัวไว้ที่น้ำตกห้วยทรายเหลือง และใช้บริการรถกระบะรับส่งของที่พักในบ้านป่าบงเปียงก็ได้ สิ่งอำนวยความสะดวก: มีที่พักแบบโฮมสเตย์แนวกระท่อมกลางนาให้บริการหลายแห่ง ส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้าโซล่าร์เซลล์ ควรเตรียมไฟฉาย อุปกรณ์ส่องสว่าง และแบตเตอรีสำรองไปด้วย ส่วนอาหารมักให้บริการรวมอยู่กับที่พัก ในหมู่บ้านไม่มีร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง: นาขั้นบันไดบ้านตีนผา น้ำตกห้วยทรายเหลือง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 📌 บ้านแม่แดดน้อยหมู่บ้านที่เป็นฉากในภาพยนตร์ “สุขสันต์วันโสด” ตั้งอยู่บนเขาริมทางหลวงหมายเลข 1349 (สะเมิง-กัลยาณิวัฒนา) อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ในหมู่บ้านมีที่พักโฮมสเตย์และเกสต์เฮาส์แบบเรียบง่ายให้บริการหลายแห่ง

50 จุดเช็กอินฤดูฝน อ่านเพิ่มเติม

แจกพิกัดเที่ยว “กระบี่” 3 วัน 2 คืน

ชวนไปท่องเที่ยวจังหวัดชายฝั่งอันดามันที่มีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวหลากหลาย มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวบนบก ชายฝั่งทะเล และหมู่เกาะต่าง ๆ แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้กระบี่ยังมีมรดกทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่ผสมผสานการดำรงชีวิตของผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา และความเชื่อได้อย่างกลมกลืน ความหลากหลายเช่นนี้ทำให้กระบี่มีรูปแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและทุกวัยได้อย่างเหมาะสม วันที่ 1📌 ท่าปอม คลองสองน้ำ📌 ชุมชนท่องเที่ยวบ้านแหลมสัก วันที่ 2📌 หมู่เกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี📌 เกาะห้อง (เกาะเหลาบิเละ)📌 ลากูนเกาะห้อง (ทะเลใน)📌 เกาะเหลาลาดิง📌 เกาะผักเบี้ย📌 อ่าวนาง วันที่ 3📌 หาดนพรัตน์ธารา📌 อ่าวไร่เลย์📌 หาดไร่เลย์ตะวันตก📌 หาดไร่เลย์ตะวันออก📌 หาดถ้ำพระนาง📌 วัดถ้ำเสือ

แจกพิกัดเที่ยว “กระบี่” 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

คลายข้อสงสัย! ทำไม “วัดมหาธาตุ” ชื่อเหมือนกันเยอะจัง

สถานที่มงคลที่พุทธศาสนิกชนนึกถึงก็คือวัด หลายคนคงไปทำบุญเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล หลายคนอาจไปวัดดัง ไปวัดใกล้บ้าน หรือวัดที่เคยไปเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งวัดที่หลายคนไปอาจมีชื่อวัดว่า “วัดมหาธาตุ” “วัดมหาธาตุ” วัดที่หลายคนต้องคุ้นหูและอาจเคยรู้สึกสงสัยกันบ้างว่าทำไมมีวัดชื่อนี้เหมือนกันเยอะจังเลย วันนี้บัดดี้ขออนุญาตมาคลายข้อสงสัยนั้นสำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่รู้ “วัดมหาธาตุ” เป็นวัดที่มีความสำคัญ เพราะโดยหลักแล้วชื่อนี้มาจากคำว่า “มหาธาตุ” หรือพระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า (พระบรมสารีริกธาตุ) ซึ่งบรรจุอยู่ในพระสถูปเจดีย์หรือพระปรางค์ของวัด ส่วนมากมักจะเป็นวัดหลวงในอดีตที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและสถาปนาให้เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมือง และมักจะได้รับการขนานนามที่ต่างกันไปบ้างแล้วแต่พื้นที่ เช่น “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” “วัดพระบรมธาตุ” แต่คนส่วนมาก นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “วัดมหาธาตุ” ในประเทศไทย มีวัดมหาธาตุมากกว่า 20 แห่ง แต่วันนี้บัดดี้ขอยกมาให้เพื่อน ๆ ชม 9 แห่งด้วยกัน มีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน~ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร วัดเก่าแก่มีมาแต่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์ ณ ภายในพระมณฑป และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ภายในวัดมีทั้งต้นพระศรีมหาโพธิ์อายุ 200 ปี พระศรีสรรเพชญ์ หลวงพ่อหิน แผ่นศิลาจารึกดวงชะตา (พิชัยสงคราม) ให้กราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล 📌 3 5 ถ.มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200: https://maps.app.goo.gl/r4FQ4AE7RAryyjjp7⏰ เปิดทุกวันเวลา 07.30-18.00 น.☎️ 09 3549 9251 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรีวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณตั้งแต่อดีต ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์กลางของเมืองโบราณสุพรรณบุรี ภายในวัดมีพระปรางค์ประธาน ที่สันนิษฐานว่าเป็นปรางค์สมัยอยุธยาตอนต้นที่สร้างโดย พระจักรพรรดิ วัดนี้เป็นต้นกำเนิดของ “พระผงสุพรรณ” พระพิมพ์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในชุด “พระเบญจภาคี” ที่โด่งดังมากในวงการพระเครื่อง นอกจากนี้ ที่นี่ยังสามารถมูขอพรเกี่ยวกับการเสริมดวงให้ชีวิตพุ่ง งานรุ่ง เงินทองไหลมาเทมาได้อีกด้วย 📌 ถ.สมภารคง ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี 72000: https://maps.app.goo.gl/gWwQwDHn3r8kbb368⏰ เปิดทุกวันเวลา 06.00-18.00 น.☎️ 09 5649 8299 วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา วัดที่มีชื่อเสียงระดับโลก จากเศียรพระพุทธรูปที่ถูกปกคลุมด้วยรากไม้ที่เกิดจากการพังทลายเมื่อครั้งเสียกรุง วัดแห่งนี้ถูกขุดค้นและสำรวจอยู่หลายครั้งโดยกรมศิลปากร พบของโบราณหลายชิ้น รวมไปถึงผอบศิลาที่ภายในมีสถูปซ้อนกัน 7 ชั้น ชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประดับมีค่า ปัจจุบันพระบรมสารีริกธาตุได้รับการนําไปประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา ว่ากันว่า วัดแห่งนี้สามารถขอพรให้จิตใจเข้มแข็งและมีความกล้าหาญได้ 📌 ซอยชีกุน ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000: https://maps.app.goo.gl/YmLFMg7pqy2rNM3R9⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.30-18.30 น.☎️ 0 3524 2286 วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช วัดสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ เชื่อว่าเป็นวัดโบราณคู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช ที่สร้างขึ้นโดยพระยาศรีธรรมาโศกราช เมื่อ พ.ศ. 1098 พร้อม ๆ กับการตั้งเมืองนครศรีธรรมราช ภายในวัดมี พระบรมธาตุเจดีย์ องค์พระธาตุที่ประกอบด้วยทองรูปพรรณและของมีค่ามากมาย รวมถึงมีปรากฏการณ์พิเศษที่เรียกว่า “พระธาตุไร้เงา” เพราะองค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้น ไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางไหนก็ตาม สำหรับการขอพร สามารถขอความเป็นสิริมงคล ความโชคดี ความเจริญรุ่งเรืองให้เกิดขึ้นได้เลย 📌 435 ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000: https://maps.app.goo.gl/Dm1csxfDCAZ6ziwJ9⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.30-16.30 น.☎️ 0 7534 3411 วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่ สามารถเรียกสั้น ๆ อีกชื่อได้ว่า “วัดบางโทง” สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2483 ภายในวัดมีจุดเด่นเป็น “องค์พระมหาธาตุเจดีย์” สีเหลืองทองตั้งอยู่ตรงใจกลางของวัด มีลักษณะคล้ายกับมหาเจดีย์พุทธคยา สถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ณ ประเทศอินเดีย ที่สูงถึง 95 เมตร ภายในมีพระพุทธรูปให้กราบไหว้ขอพรและสถาปัตยกรรมที่สวยงามให้เดินชม 📌 46 หมู่ 3 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ 81110: https://maps.app.goo.gl/qGdMWkiLERUQh6jY7⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.30-18.00 น.☎️ 0 7565 6014 วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์ เดิมชื่อ “วัดมหาธาตุ” เป็นวัดเก่าแก่ที่มีตำนานเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระพุทธเจ้า มีพระประธานนามว่า “หลวงพ่อประธานเฒ่า” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะเชียงแสน มีจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของ “พระบรมธาตุทุ่งยั้ง” เจดีย์เก่าแบบลังกาที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า สำหรับการขอพร ที่นี่สามารถขอได้ทั้งการปกป้องคุ้มครองและเสริมสร้างสิริมงคลให้กับชีวิต รวมไปถึงการขอพรให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า สุขภาพร่างกายแข็งแรง 📌 ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ 53210: https://maps.app.goo.gl/BcFZ1EU7jrrmNuDH7 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก เป็นโบราณสถานและพระอารามหลวงชั้นเอก ที่สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองเมื่อ พ.ศ. 1900 มีพระประธานองค์ใหญ่ประดิษฐานในวิหารคือ “พระพุทธชินราช” ที่ชาวเมืองพิษณุโลกนิยมเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย สามารถขอพรให้สมหวังสมปรารถนาได้ตามต้องการ 📌 92 3 ถ.พุทธบูชา ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก 65000: https://maps.app.goo.gl/WNh8qV7KYBQ3nKG96⏰ เปิดทุกวันเวลา 06.00-20.00 น.☎️ 0 5525 8966 วัดมหาธาตุ (พระธาตุนคร) จ.นครพนม สร้างเมื่อปี พ.ศ. 1150 พร้อมกับการสร้างเมืองนครพนม เป็นวัดประจำเมืองที่มีพระธาตุเจดีย์ที่บรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุและยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดสำหรับผู้ที่เกิดในวันเสาร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้มานมัสการพระธาตุนคร

คลายข้อสงสัย! ทำไม “วัดมหาธาตุ” ชื่อเหมือนกันเยอะจัง อ่านเพิ่มเติม

ชวนพาลูก ๆ ไปเที่ยว “Pattaya Dolphinarium”

ช่วงปิดเทอมนี้ ถ้ายังไม่รู้จะพาลูก ๆ ไปเที่ยวที่ไหน ลองแวะไปที่ Pattaya Dolphinarium รับรองว่าจะต้องตื่นตาตื่นใจแน่นอน เพราะครั้งแรกที่บัดดี้ได้ไปที่นี่ ตอนแรกนึกว่าจะเป็นการแสดงโลมาธรรมดา แต่พอไปดูจริง ๆ คือประทับใจเกินคาด ในโชว์มีทั้งโลมาและแมวน้ำแสนรู้ มาร่วมแสดง ที่ทั้งกระโดด เล่นบอล เต้นตามจังหวะเพลง เป็นการแสดงที่ทำให้บัดดี้หัวเราะและตื่นเต้นตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีช่วงที่เล่นกับครูฝึก ที่ดูแล้วอบอุ่นใจมาก เหมือนเห็นความผูกพันจริง ๆ ระหว่างคนกับสัตว์ หลังโชว์จบ เพื่อน ๆ สามารถถ่ายรูปกับโลมาได้แบบใกล้ชิดสุด ๆ ⏰ เปิดทุกวัน (ยกเว้นวันพุธ)⏰ การแสดง 3 รอบต่อวัน (รอบละ 50 นาที) 11.00 น. 14.00 น. และ 17.00 น.⏰ ว่ายน้ำกับโลมา 3 รอบต่อวัน (10 นาที ต่อรอบ) 12.00 น. 15.00 น. และ 18.00 น.💸 ราคาบัตรชมการแสดงและบัตรถ่ายรูปกับน้องโลมา ดูได้ที่ https://pattayadolphinarium.com สอบถามข้อมูล📌 Facebook: Pattaya Dolphinarium☎️ โทร. 0 3303 3555, 06 4778 8999 📌 Maps: https://maps.app.goo.gl/gkU52SzbEf7bcKfL9

ชวนพาลูก ๆ ไปเที่ยว “Pattaya Dolphinarium” อ่านเพิ่มเติม

ชวนเที่ยวสุพรรณฯ 3 วัน 2 คืน กับน้อง Worldboy X Huuyaow

บัดดี้ชวนเพื่อน ๆ พาน้อง Art Toy สุดน่ารัก น้อง Huuyaow กับน้อง Worldboy จากโครงการ Art Toy Journey Collection ที่ได้รับการกระแสตอบรับดีมาก ๆ มาเที่ยวเมืองสุพรรณบุรี เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญของไทย ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จะมากับเพื่อน มากับ Art Toy ตัวโปรด หรือมาเที่ยวกับครอบครัว ไม่ว่าจะมาแบบไหนก็ไปเที่ยวด้วยกันได้ ก่อนอื่นบัดดี้จะขอเล่าถึงความพิเศษของน้อง Huuyaow กับน้อง Worldboy คู่นี้ก่อนเลย ศิลปินเจ้าของผลงาน Art Toy ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าของน้อง ๆ โดยเลือกลายดอกมะเกลือ ซึ่งเป็นลายผ้าประจำจังหวัดสุพรรณบุรี อันเป็นสัญลักษณ์ของความสุข ความปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ มาออกแบบลวดลายเก๋ ๆ ลงบนเสื้อผ้าของน้อง ๆ ด้วย ใครอยากได้บัดดี้บอกเลยว่าไม่มีขายนะ แต่เรามีแจก! ติดตาม Facebook: 1672 Travel buddy ไว้เลย บัดดี้มีกิจกรรมสนุก ๆ มาให้ร่วมสนุกพร้อมลุ้นรับน้อง Huuyaow กับน้อง Worldboy ไปเที่ยวทั่วไทยกันตลอดปีเลย~ ติดตามบัดดี้เพื่อลุ้นรับน้อง Huuyaow กับน้อง Worldboy แล้ว มาอัปเดตพิกัดที่เที่ยว (Must Seek & Must See) ที่กิน (Must Taste) ที่ชอป (Must Buy) รวมทั้งที่แชะภาพสวย ๆ ของเมืองสุพรรณฯ ไปพร้อมกันเลย ✨ Day 1📌 พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร (Must Seek)📌 วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร📌 ร้านอาหารขนาบน้ำสุพรรณบุรี📌 ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย-นาเฮียใช้📌 หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย Day 2📌 ตลาดร้อยปีสามชุก📌 บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ📌 อ่างเก็บน้ำลำตะเพิน (Must Try) Day 3📌 พุทธมณฑลจังหวัดสุพรรณบุรี (Must Seek)📌 ตลาดน้ำสะพานโค้ง-สุ่มปลายักษ์ (Must See)📌 วัดไผ่โรงวัว พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร (Must Seek) สถานที่รวบรวมเรื่องราวของชาวจีนและอารยธรรมจีนในประเทศไทย ภายในจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของอารยธรรมจีนที่มีมายาวนานถึง 5,000 ปี ตัวอาคารได้รับการออกแบบลำตัวเป็นรูปมังกร ส่วนภายในจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่สมัยหวงตี้จนถึงราชวงศ์ชิง รวมทั้งเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของชาวไทยเชื้อสายจีนผ่านสื่อจัดแสดงที่ทันสมัยและสวยงาม ⏰ เปิดวันพุธ-วันศุกร์ และวันนักขัตฤกษ์ (ปิดวันจันทร์-วันอังคาร) เวลา 10.00-16.00 น. | วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.20 น. รอบเข้าชมนิทรรศการทุก ๆ 30 นาที💸 ค่าเข้าชม 99 บาท☎️ 0 3552 6212📌 https://maps.app.goo.gl/bLfhqPTH49DVGV5z8 วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,200 ปี สถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต พระพุทธรูปสำคัญของเมืองสุพรรณบุรี ศิลปะสมัยอู่ทอง ประทับนั่งห้อยพระบาท ภายในองค์พระบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 36 องค์ เป็นที่เคารพสักการะทั้งยังเป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับวรรณคดีเรื่องชื่อ “ขุนช้างขุนแผนและนิราศเมืองสุพรรณ” ภายในวิหารมีจิตรกรรมฝาผนังสวยงามบอกเล่าเรื่องราวของขุนช้างขุนแผน 📌 https://maps.app.goo.gl/P7yBZH7HF8XeBVGL7 ร้านอาหารขนาบน้ำสุพรรณบุรี อีกหนึ่งร้านอร่อยที่บัดดี้อยากจะมาแนะนำเพื่อน ๆ ให้มาลองลิ้มชิมรสเมนูปลาม้า (Must Taste) ปลาขึ้นชื่อของจังหวัดสุพรรณบุรีกัน ร้านขนาบน้ำเป็นอีกร้านบรรยากาศดีริมน้ำ แบ่งโซนเป็นแบบนั่งรับลมธรรมชาติและนั่งคลายร้อนในห้องแอร์เย็น ๆ ซึ่งบัดดี้เลือกสั่งเมนูปลาม้าทอดกระเทียม ปลาม้าต้มยำนำใส กุ้งหลน ยำผักบุ้งกรอบและผัดฟักแม้ว ขอบอกเลยว่าหน้าตาอาหารดูน่าทานมากและก็อร่อยทุกเมนูเลย ถ้ามีโอกาสก็อยากให้เพื่อน ๆ ลองทานเมนูอาหารที่รังสรรค์จากปลาม้ากันดู และอย่าลืมมาบอกต่อความอร่อยกันด้วยนะ ⏰ เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.☎️ 08 9206 2077📌 https://maps.app.goo.gl/txa1EjYjN51bw6w46 ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย-นาเฮียใช้ นาเฮียใช้สร้างขึ้นจากความจงรักภักดีและสำนึกในคุณงามความดีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทยให้ได้ศึกษาและเรียนรู้ แต่ละโซนมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ส่วนไฮไลต์ คือ แปลงนาที่ปลูกเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย หรือการปลูกข้าวสีเขียวสลับกับต้นข้าวสีดำเป็นอักษรรูปต่าง ๆ ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.☎️ 09 2626 1515📌 https://maps.app.goo.gl/tzxr1fJQcVCSCAcz9 หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่หลายคนรู้จักในชื่อ “บ้านควาย” เพราะมีควายไทยกว่า 80 ตัว และเน้นบอกเล่าเรื่องราวของควายกับนาข้าว พาเราย้อนเวลาไปสัมผัสกับวิถีชีวิตและความผูกพันของคนไทยสมัยก่อนกับควายและท้องนา แบ่งเป็นโซนบ้านไทยรีสอร์ต หมู่บ้านชาวนา พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก ลานแสดงควายยิ้ม และคาเฟ “กินแฟ ดูฟาย” ที่ไม่เหมือนใคร ชวนไปเพลิดเพลินไปกับการจิบกาแฟท่ามกลางน้องควายที่เล่นน้ำอยู่รอบ ๆ – รอบการแสดงวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 11.00 น. และ 13.00 น.– รอบการแสดงวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เวลา 11.00 น. 13.30 น. และ 15.00 น. ⏰ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.💸 อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท

ชวนเที่ยวสุพรรณฯ 3 วัน 2 คืน กับน้อง Worldboy X Huuyaow อ่านเพิ่มเติม

เที่ยว ‘เขื่อน’ บรรยากาศดี ในประเทศไทย

เขื่อนในประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งกักเก็บน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจอีกด้วย ซึ่งเขื่อนต่าง ๆ อยู่ในความดูแลของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เรามาดูกันว่ามีเขื่อนไหนบ้างตามบัดดี้มาเลย ✨💚 เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เขื่อนนี้สร้างบนแม่น้ำน่าน เพื่อช่วยลดอุทกภัย และให้มีน้ำใช้ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นปี พ.ศ. 2511 เพื่อน ๆ สามารถชมธรรมชาติที่สวยงาม สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมง ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จะมีดอกเหลืองอินเดียบานสะพรั่ง คอยต้อนรับ นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวภายในเขื่อนอีกมากมาย อาทิ สะพานแม่น้ำปาด สะพานแขวนเฉลิมพระเกียรติ สวนสุมาลัย พระพุทธสิริสัตตราชจำลอง (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) สามารถนั่งเรือชมเขื่อนได้อย่างใกล้ชิด มีที่พักบริการรอบ ๆ เขื่อน 📌 https://maps.app.goo.gl/Ef5ZDS44bMJnZ58QA☎️ โทร. 0 5546 1136 เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เขื่อนแรกในประวัติศาสตร์ไทยอันเป็นจุดกำเนิดของการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและยั่งยืน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของประเทศไทย เกิดขึ้นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันเขื่อนภูมิพลใช้ผลิตไฟฟ้า ส่งไปยังจังหวัดต่าง ๆ ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวม 36 จังหวัด การคมนาคม สามารถล่องเรือจากจังหวัดนครสวรรค์ถึงจังหวัดเชียงใหม่ได้ รวมระยะทาง 400 กิโลเมตร เพื่อน ๆ สามารถเข้ามาเที่ยวชมความสวยงามของเขื่อนภูมิพลได้ ซึ่งจะเห็นเขื่อนคอนกรีตรูปโค้งเกือกม้าเป็นจุดเด่น มีบริการบ้านพักรับรอง ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไปถ่ายรูปที่สะพานปิงพิพรรธน์ หรือสะพานเขียว สำหรับให้รถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก 📌 https://maps.app.goo.gl/BHtE7UEfBBcJN3qp6☎️ โทร. 0 5588 1238 เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ สามารถปล่อยน้ำลงผลักดันน้ำเค็มไม่ให้หนุนล้ำเข้ามาทำความเสียหายแก่พื้นที่บริเวณปากน้ำแม่กลองในช่วงฤดูแล้ง การประมง บรรเทาอุทกภัย ทางด้านการท่องเที่ยว เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ มีแพท่องเที่ยวบนอ่างเก็บน้ำ พายคายัก ล่องแพเปียก ชมทิวทัศน์พร้อมถ่ายรูปบริเวณสันเขื่อน นอกจากนี้ยังมี สวนเวลารำลึก สื่อความหมายเรื่องเวลา และนาฬิกาแดด สื่อถึงการระลึกถึงคุณค่าของชีวิต ที่เป็นจุดแลนด์มาร์กที่น่าสนใจอีกแหล่ง 📌 https://maps.app.goo.gl/qydT6j97ntXiFs3H6☎️ โทร. 0 3457 4248, 0 3457 4001 ต่อ 2010 เขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเขื่อนอีกหนึ่งแห่งที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี มีความยาวกว่า 390 กิโลเมตร เดิมมีชื่อว่าเขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย ที่ตาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ภายในทะเลสาบเหนือเขื่อนมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้รื่นรมย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือชมทิวทัศน์เหนืออ่างเก็บน้ำ การชมสวนมะพร้าวกะทิบนเกาะกลางน้ำ และในบางฤดูกาลยังสามารถตกปลาจากในทะเลสาบ สร้างความความสนุกสนาน ให้นักท่องเที่ยวได้มากมาย 📌 https://maps.app.goo.gl/cpynhuoSMWUKbSKH9☎️ โทร. 0 3459 9077 ต่อ 2510-11 เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นเขื่อนเอนกประสงค์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากช่วยเรื่องการผลิตไฟฟ้าแล้ว ยังช่วยเรื่องวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวบ้านละแวกนี้ นอกจากนี้ยังมีโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถผลิตไฟฟ้าได้จากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานน้ำ เส้นทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway) ถ่ายภาพบริเวณสันเขื่อน ล่องเรือแพผาตั้ง มีบริการร้านอาหารและที่พักภายในเขื่อนด้วย 📌 https://maps.app.goo.gl/5QfDwsjBdnrHk5ZW6☎️ โทร. 0 4536 6081 เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฏร์ธานี เขื่อนนี้เป็นเขื่อนยอดนิยม ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาที่นี่ ด้วยธรรมชาติอันสวยงาม และมีถ้ำปะการังและเขาสามเกลอ ที่ต้องห้ามพลาด เพราะเป็นจุดไฮไลต์ด้วย พื้นที่ภายในเขื่อนนี้ อยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก น้ำในเขื่อนนอกจากใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า ยังใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรม ประมง และด้านการท่องเที่ยว มีบริการที่พัก ร้านอาหาร และเรือยนต์ 📌 https://maps.app.goo.gl/dUxC8BzGBTKZ5Zhc6☎️ โทร. 0 7724 2553

เที่ยว ‘เขื่อน’ บรรยากาศดี ในประเทศไทย อ่านเพิ่มเติม

ชวนเที่ยว “เกาะจำ” ฉบับ Backpacker

เกาะจำ เกาะใกล้ฝั่งของทะเลกระบี่ ที่เหมาะกับการหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนฮีลใจ และลองใช้ชีวิตแบบ Slow life เป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวสายแบกเป้น่าจะชื่นชอบ บรรยากาศบนเกาะยังคงความเป็นธรรมชาติ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ทั้งน่ารักและใจดี 🥰 📌 เกาะจำ ตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ห่างจากฝั่งอำเภอเหนือคลองประมาณ 23 กิโลเมตร บนเกาะมี 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านเกาะปู บ้านเกาะจำ และบ้านติงไหร จากคำบอกเล่าของชาวบ้านถึงความเป็นมาของเกาะ เมื่อราว 200 กว่าปีก่อน มีชาวพื้นเมืองมุสลิมอพยพมาตั้งรกรากบนเกาะ และได้เรียกเกาะนี้ว่า “เกาะปู” ต่อมามีชาวบ้านอพยพมาจากเกาะจำนุ้ยซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง รวมกับชาวจีนที่ทยอยเข้ามาตั้งถิ่นฐานรวมกันทางตอนใต้ของเกาะ และได้เรียกเกาะนี้ว่า “เกาะจำ” ดังนั้นเกาะแห่งนี้จึงมีชื่อเรียก 2 ชื่อ แต่ก็คือเกาะเดียวกัน เกาะจำ สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะเป็นเกาะใกล้ชายฝั่ง แต่ช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบ ฟ้าใส แดดดี และน้ำทะเลสวยน่าเล่น คือ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนพฤษภาคม พิกัดแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ รอบเกาะ👉🏻 หาดช่องกิ่ว👉🏻 หาดลุโบ๊ะ👉🏻 Rock View Terrace👉🏻 ท่าเรือบ้านเกาะปู👉🏻 หาดติงไหร ชาวบ้านบนเกาะจำมีทั้งชาวพุทธและมุสลิม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ทำสวนยางพารา ทำเครื่องแกงและน้ำพริกจำหน่ายเป็นสินค้าชุมชน แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะส่วนใหญ่เป็นชายหาด มีชายหาดสวยหลายแห่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกและทางเหนือของเกาะ เช่น หาดช่องกิ่ว หาดลุโบ๊ะ หาดติงไหร ท่าเรือชุมชนบ้านเกาะปู เป็นต้น การเดินทางไปเกาะจำ ต้องไปขึ้นเรือโดยสาร ณ ท่าเรือแหลมกรวด อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่📌 พิกัดท่าเรือแหลมกรวด: https://maps.app.goo.gl/a88vVK7LYnUzdzPJ7 การเดินทางไปท่าเรือแหลมกรวด 🚌1. รถยนต์จากตัวเมืองกระบี่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (กระบี่-ตรัง) จนถึงตัวอำเภอเหนือคลอง จากนั้นแยกไปทางขวาเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 4036 ตรงไปจนถึงท่าเรือแหลมกรวด รวมระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร บริเวณท่าเรือแหลมกรวด มีบริการรับฝากรถยนต์ คันละ 100 บาท/คืน 2. รถโดยสารประจำทางในตัวเมืองกระบี่ มีรถสองแถวโดยสาร (สีฟ้า) สายกระบี่-ท่าเรือแหลมกรวด จุดจอดให้บริการในตัวเมืองกระบี่อยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากระบี่ (เยื้องกับลานปูดำ) รถจะผ่านสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ หน้าทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ตัวอำเภอเหนือคลอง และไปจอดหน้าทางเข้าท่าเรือแหลมกรวด ให้บริการระหว่างเวลา 07.30-16.30 น. รถออกจากต้นทางทุก 30 นาที ค่าโดยสารที่นั่งละ 60 บาท ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังท่าเรือแหลมกรวดประมาณ 1 ชั่วโมง สอบถามข้อมูลรอบเวลารถ โทร. 08 9970 8261 นอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถสองแถว (สีฟ้า) สายกระบี่-เหนือคลอง ซึ่งมีจุดจอดให้บริการในตัวเมืองกระบี่อยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากระบี่ (เยื้องกับลานปูดำ) ใกล้กับจุดจอดรถสองแถวสายกระบี่-ท่าเรือแหลมกรวด ผ่านสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกระบี่ หน้าทางเข้าท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ไปสิ้นสุดที่ตลาดในตัวอำเภอเหนือคลอง ให้บริการระหว่างเวลา 07.30-16.30 น. รถออกจากต้นทางทุก 30 นาที ค่าโดยสารที่นั่งละ 40 บาท ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังตัวอำเภอเหนือคลองประมาณ 45 นาที ท่าเรือแหลมกรวด อำเภอเหนือคลองมีเรือโดยสารเป็นเรือยนต์ให้บริการไปกลับเกาะจำ โดยท่าเรือบนเกาะจำ มี 3 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือมูตู ท่าเรือบ้านเกาะจำ และท่าเรือบ้านเกาะปู ท่าเรือหลักสำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางไปกลับเกาะจำ คือ ท่าเรือมูตู ส่วนท่าเรือบ้านเกาะจำและท่าเรือบ้านเกาะปูนิยมใช้ในการเดินทางของชาวบ้านในพื้นที่มากกว่า ⛴ รอบเวลาเดินเรือ ท่าเรือแหลมกรวด-ท่าเรือมูตู09.00 น. / 10.00 น. / 11.30 น. / 13.00 น. / 14.30 น. / 16.00 น. / 17.30 น. / 18.00 น. ⛴ รอบเวลาเดินเรือ ท่าเรือมูตู-ท่าเรือแหลมกรวด06.30 น. / 07.00 น. / 08.00 น. / 08.30 น. / 10.30 น. / 13.30 น. / 14.30 น. / 16.00 น. 💸 อัตราค่าโดยสารนักท่องเที่ยวชาวไทย 70 บาทนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 140 บาทชาวบ้านบนเกาะ 40 บาท ⏰ ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 40 นาที ท่าเรือมูตู ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะจำ ไม่มีสะพานท่าเรือ การขึ้นลงเรือจะใช้วิธีเดินบนสะพานไม้เล็ก ๆ บริเวณท่าเรือจะมีจุดจำหน่ายตั๋วเรือขากลับขึ้นฝั่ง มีรถกระบะและจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดรอให้บริการรับส่งไปยังที่พักและจุดต่าง ๆ บนเกาะ ค่าบริการขึ้นอยู่กับระยะทาง เช่น จากท่าเรือมูตูไปยังที่พักหาดช่องกิ่วซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ ค่าบริการรถกระบะไปส่ง 200 บาท เป็นต้น และยังสามารถติดต่อเหมารถกระบะที่ท่าเรือให้พาไปเที่ยวรอบเกาะได้ ที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกาะจำ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมหาดทางฝั่งตะวันตกและทางเหนือของเกาะ ที่พักส่วนใหญ่จะมีร้านอาหารของที่พัก บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่แขกผู้เข้าพักและนักท่องเที่ยวระหว่างวัน ส่วนทางฝั่งตะวันออกและทางใต้ของเกาะเป็นที่ตั้งของชุมชนท้องถิ่นและท่าเรือ ลักษณะของที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกาะจำ ส่วนใหญ่จะสร้างเป็นบังกะโลคล้ายบ้านเป็นหลัง ๆ และอยู่ริมชายหาด มีบางแห่งที่สร้างเป็นอาคารคล้ายตึกแต่ไม่สูงมาก บนเกาะจำมีที่พักไม่เยอะ แนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนเดินทาง แหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ บนเกาะจำ

ชวนเที่ยว “เกาะจำ” ฉบับ Backpacker อ่านเพิ่มเติม

ชวนเที่ยว จันทบุรี 3 วัน 2 คืน ไปกับ Huuyaow และ Worldboy

วันนี้น้อง Huuyaow และ Worldboy ขอเป็นตัวแทนของบัดดี้ ชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยว จังหวัดจันทบุรี เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศและกลิ่นอายความเป็นภาคตะวันออก น้อง ๆ ขอเปลี่ยนชุดเป็นลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของ จังหวัดจันทบุรี “ลายผ้าปัญจจันทบูร” ที่ออกแบบลวดลายจาก 5 ของเด่นของจันทบุรี ได้แก่ ชุมชนริมน้ำจันทบูร สละเนินวง เส้นจันท์ พริกไทยพันธุ์ดี และอัญมณี ซึ่งสื่อถึงคาแรคเตอร์ของอาร์ตทอยประจำจังหวัดนี้ได้เป็นอย่างดี ✨ เพื่อน ๆ ทุกคนน่าจะทราบกันดีว่า จังหวัดจันทบุรี อุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย เมืองสวย อาหารอร่อย แถมไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก เชื่อว่าทุกคนพร้อมเที่ยวกันแล้ว…อย่าเสียเวลา ตามบัดดี้ น้อง Huuyaow และ Worldboy ไปปักหมุดเช็กอินและถ่ายรูปให้จุใจกันเลย 💚 Day 1 โบสถ์คาทอลิกจันทบุรี หรืออาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ที่นี่เป็นจุดที่ทุกคนต่างมาแวะเช็กอินถ่ายรูปเมื่อมาเที่ยวจันทบุรี… โบสถ์แห่งนี้มีประวัติการก่อสร้างยาวนานถึง 300 ปี เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอทิก ภายในโบสถ์มีการตกแต่งด้วยศิลปะเก่าแก่อย่างกระจกสีหรือที่เรียกกันว่า สเตนกลาส เป็นภาพนักบุญต่าง ๆ โดยอายุของกระจกเหล่านี้ มีอายุกว่า 100 ปี ภายในโบสถ์มีองค์แม่พระประดับตกแต่งด้วยพลอย กว่า 200,000 เม็ด (ประมาณ 2 หมื่นกะรัต) นับได้ว่าโบสถ์คาทอลิกแห่งนี้เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่และมีความงดงามมากที่สุดในภาคตะวันออกอีกแห่งเลย 📌 ถนนสันติสุข อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี: https://maps.app.goo.gl/XMwkNrqvaYbF2h267⏰ เปิดทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-15.00 น. | วันเสาร์ เวลา 09.00-17.00 น. | วันอาทิตย์ เวลา 12.00-17.00 น.*การเข้าชมเป็นคณะควรติดต่อล่วงหน้า☎️ 0 3931 1578 ชุมชนริมน้ำจันทบูร ไม่ไกลกันนั้น เป็นที่ตั้งของชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำจันทบุรี ที่มีอายุยาวนานมากว่า 100 ปี ของชาวจีนและชาวญวนที่อพยพมาตั้งแต่สมัยอดีต ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาชุมชนแห่งนี้ให้เป็นแหล่งอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งในรูปแบบอาคารบ้านเรือนเก่าแก่และวิถีชีวิตเฉพาะของคนที่นี่ เพื่อน ๆ สามารถแวะเข้าไปชมสิ่งที่น่าสนใจภายในชุมชนได้ทั้งบ้างหลวงไมตรีจิต ศูนย์เรียนรู้ประจำชุมชนริมน้ำ จันทบูร บ้านบุณยัษฐิติ อาคารเก่าทรงเก๋งจีน และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ 📌 ชุมชนริมน้ำจันทบูร อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี: https://maps.app.goo.gl/vKxgw9sQzhwdBzvVA ถนนอัญมณี (ตลาดพลอย) ถนนที่คึกคัก เต็มไปด้วยร้านทองและเจียระไนพลอย รวมไปถึงอัญมณีต่าง ๆ ภายในเป็นตลาดค้าพลอยเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อน ๆ สามารถไปชอปปิงเลือกดูและซื้อกันได้ตามสบายเลย 📌 ถนนอัญมณี (ตลาดพลอย) อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี: https://maps.app.goo.gl/yWUVnGUZXq9RCrXJ6⏰ เปิดทุกวันศุกร์-วันเสาร์ เวลา 06.30-18.00 น. ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว แวะทานขนมโบราณแสนอร่อยที่ชุมชนเก่าแก่ ที่ทั้งแปลกและอร่อย เช่น ขนมควยลิง ขนมพระพาย ขนมลูกระเบิด ตังเมโบราณ เป็นต้น 📌 ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี: https://maps.app.goo.gl/ojWzQBCVyqnj1fHu6⏰ เปิดทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น.☎️ 09 8124 3749 Day 2 อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว คำว่า “พลิ้ว” มาจากภาษาชอง (ใช้พูดในหมู่ชาวชองใน จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด) ที่แปลว่าทรายหรือหาดทราย หรืออีกความหมายนึง คือชื่อของไม้เถาชนิดหนึ่งซึ่งชอบขึ้นในดินปนทราย มีดอกเป็นผลขนาดเท่าลูกเกด สีเหลืองอมแดง โดยน้ำตกพลิ้วอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 200 เมตร น้ำใสสะอาดเหมาะแก่การลงเล่นน้ำมาก ๆ ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก: มีบ้านพักบริการ 2-6 คน ราคา 1,800 บาท ค่ายพักแรม พักได้ 15 คน ราคา 1,500 บาท ค่ายพักแรม พักได้ 30 คน ราคา 3,000 บาท ในกรณีที่นักท่องเที่ยวนำ เต็นท์มาเอง เสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ ราคา 30 บาท ต่อคนต่อคืน 📌 อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี: https://maps.app.goo.gl/F1bMNWnt29QXrCLt6⏰ เปิดทุกวันเวลา 08.00-16.00 น.💸 อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ: ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท | ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท☎️ อุทยานแห่งชาติน้ำ ตกพลิ้ว โทร. 0 3943 4528, 08 6319 7556☎️ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760, 0 2561 0777 และ 0 2579 6666👉🏻 เว็บไซต์ www.dnp.go.th วัดปากน้ำแขมหนู วัดยอดนิยมของจังหวัดจันทบุรี

ชวนเที่ยว จันทบุรี 3 วัน 2 คืน ไปกับ Huuyaow และ Worldboy อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top