เส้นทางท่องเที่ยว สุราษฎร์ธานี 2 วัน 1 คืน
เส้นทางท่องเที่ยว สุราษฎร์ธานี 2 วัน 1 คืน วันที่ 1– วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จ.สุราษฎร์ธานี– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี– ชุมชนบางใบไม้ จ.สุราษฎร์ธานี– ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 2– อุทยานธรรมเขานาในหลวง จ.สุราษฎร์ธานี– ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด จ.สุราษฎร์ธานี– เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 1.เริ่มต้นทริปกันที่ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ต.เวียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี.วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานว่าสร้างราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 ในช่วงที่อาณาจักรศรีวิชัยเจริญรุ่งเรืองสูงสุด สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่.พระวิหารหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระบรมธาตุไชยา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2502 แทนพระวิหารหลังเดิมที่ชำรุด ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปปางต่าง ๆ พระบรมธาตุไชยา.เป็นเจดีย์ทรงปราสาท สูง 24 เมตร ผังเป็นรูปกากบาท มีมุขทั้ง 4 ด้าน มุขด้านหน้าทางทิศตะวันออกมีบันไดให้ขึ้นไปสักการะพระพุทธรูปภายในได้ เหนือเรือนธาตุมีลักษณะเป็นหลังคาซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 3 ชั้น แต่ละชั้นประดับด้วยสถูปจำลองที่มุมและด้าน ถัดขึ้นไปเป็นส่วนยอด ที่ฐานล่างมีเจดีย์บริวารทั้ง 4 มุม.สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุไชยาถือเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยที่สมบูรณ์ที่สุดที่เหลืออยู่ในประเทศไทย.เชื่อกันว่าหากได้มาสักการะพระบรมธาตุไชยา จะเป็นสิริมงคลสูงสุด ช่วยให้มีความเจริญรุ่งเรืองและแคล้วคลาดปราศจากอันตราย ระเบียงคด.พระบรมธาตุล้อมรอบด้วยระเบียงคด ซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่าง ๆ รวม 180 องค์ พระอุโบสถ.พระอุโบสถตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพระบรมธาตุ สร้างขึ้นแทนพระอุโบสถหลังเก่าเมื่อ พ.ศ.2498 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาทรายแดงปางมารวิชัย พระพุทธรูปศิลาทรายแดง 3 องค์.พระพุทธรูปศิลาทรายแดง 3 องค์ หรือที่เรียกกันว่า “พระพุทธรูป 3 พี่น้อง” ประดิษฐานอยู่กลางแจ้งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระวิหารหลวง.สันนิษฐานว่าเดิมคงมีอาคารครอบ ซึ่งภายหลังชำรุดหักพังจึงถูกรื้อออกไป มีเรื่องเล่าว่าเคยมีการสร้างศาลาครอบถึง 3 ครั้ง แต่เกิดเหตุฟ้าผ่าศาลาทุกครั้ง ด้วยเหตุนี้องค์พระจึงยังคงประดิษฐานอยู่กลางแจ้งมาจนถึงปัจจุบัน.วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ต.เวียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานีเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. แวะมาชมโบราณวัตถุกันต่อที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา ต.เวียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 2 อาคาร โดยอาคารหลังแรกจัดแสดงประติมากรรมจำลองจากโบราณวัตถุที่ค้นพบในอำเภอไชยา.ประติมากรรมจำลองที่สำคัญ ได้แก่ พระโพธิ์สัตว์อวโลกิเตศวร ที่เหลือเพียงพระวรกายท่อนบน ได้รับยกย่องว่าเป็นรูปเคารพที่งามที่สุดองค์หนึ่ง สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 14 ในศิลปะศรีวิชัย สันนิษฐานว่าคือพระโพธิ์สัตว์ปัทมปาณิ มีสองกร พระหัตถ์ขวาแสดงปางประทานพร ส่วนพระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว ซึ่งองค์จริงจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ส่วนอาคารหลังที่สอง จัดแสดงโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ไปจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ รวมทั้งงานประณีตศิลป์ และเครื่องอัฐบริขารต่าง ๆ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา ต.เวียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานีเปิดให้บริการวันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์)ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาทสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 077 431 066 ที่ต่อมาเรามาล่องเรือชิล ๆ กันที่ ชุมชนบางใบไม้ ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี.“ชุมชนบางใบไม้” หรือ “ในบาง” เป็นชุมชนริมคลองที่ยังคงดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย บริเวณนี้มีคลองเล็กคลองน้อยเชื่อมต่อกันนับร้อยสายก่อนไหลลงสู่แม่น้ำตาปี จึงได้ชื่อว่าเป็น “คลองร้อยสาย”.กิจกรรมที่ได้รับความนิยมของชุมชนแห่งนี้คือการล่องเรือชมความอุดมสมบูรณ์ของสองฝั่งคลอง ซึ่งเราจะเห็นต้นจากและต้นมะพร้าวเรียงรายสุดลูกหูลูกตา พี่คนขับเรือเล่าให้ฟังว่า ต้นจากที่เราเห็นนั้นสามารถนำไปทำประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ใบจากนำไปห่อขนม หรือทำเป็นตับจาก ก้านจากนำไปทำเป็นไม้กวาด และลูกจากนำไปทำเป็นขนมหวาน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมี อุโมงค์จาก ที่เกิดจากต้นจากสองฝั่งคลองโน้มเข้าหากัน เป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เลยล่ะ.ชุมชนบางใบไม้ ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานีเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.ค่าล่องเรือคนละ 100 บาท นั่งได้ 5 คน หรือเหมาเรือลำละ 500 บาท ใช้เวลาล่องประมาณ 2 ชั่วโมงกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บางใบไม้ โทร. 077 292 903 หรือ คุณจรัญญา โทร. 081 607 4935 หากต้องการล่องเรือเป็นหมู่คณะ แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน แวะสักการะศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี.ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2539 รวมทั้งเพื่อเป็นสิริมงคล และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสุราษฎร์ธานี.ศาลหลักเมืองแห่งนี้ ได้รับการออกแบบโดยกรมศิลปากร ที่นำเอาพระบรมธาตุไชยามาเป็นต้นแบบ แต่ขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า ลักษณะอาคารเป็นทรงจตุรมุข มีบันไดทางขึ้นสี่ด้าน หน้าบันประดับลายปูนปั้น และได้อัญเชิญตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี มาประดับไว้ทั้ง 4 ด้านด้วย ภายในศาลหลักเมืองประดิษฐานเสาหลักเมืองซึ่งทำจากไม้ราชพฤกษ์ลงรักปิดทอง ส่วนยอดสลักเป็นรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรหรือพรหมสี่หน้า ล้อมรอบด้วยเสาหลักเมืองจำลองซึ่งมีขนาดย่อมกว่าจำนวน 4 เสา โดยทั้งหมดตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยมซึ่งประดับด้วยประติมากรรมรูปช้างอยู่ภายในซุ้ม ทุกวัน ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่างแวะเวียนมาสักการะบูชาศาลหลักเมืองกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงเย็นถึงค่ำ จะมีการเปิดไฟส่องสว่างรอบศาลหลักเมืองด้วย สวยงามมากเลยล่ะ.ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานีเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. วันที่ 2.วันนี้ต้องตื่นเช้าซักหน่อย เพราะเราจะไปชมทะเลหมอกกันที่ อุทยานธรรมเขานาในหลวง ต.ต้นยวน
เส้นทางท่องเที่ยว สุราษฎร์ธานี 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม