เพื่อนร่วมทาง

เส้นทางท่องเที่ยว สุราษฎร์ธานี 2 วัน 1 คืน

เส้นทางท่องเที่ยว สุราษฎร์ธานี 2 วัน 1 คืน วันที่ 1– วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จ.สุราษฎร์ธานี– พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี– ชุมชนบางใบไม้ จ.สุราษฎร์ธานี– ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 2– อุทยานธรรมเขานาในหลวง จ.สุราษฎร์ธานี– ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด จ.สุราษฎร์ธานี– เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 1.เริ่มต้นทริปกันที่ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ต.เวียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี.วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานว่าสร้างราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 ในช่วงที่อาณาจักรศรีวิชัยเจริญรุ่งเรืองสูงสุด สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่.พระวิหารหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระบรมธาตุไชยา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2502 แทนพระวิหารหลังเดิมที่ชำรุด ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปปางต่าง ๆ พระบรมธาตุไชยา.เป็นเจดีย์ทรงปราสาท สูง 24 เมตร ผังเป็นรูปกากบาท มีมุขทั้ง 4 ด้าน มุขด้านหน้าทางทิศตะวันออกมีบันไดให้ขึ้นไปสักการะพระพุทธรูปภายในได้ เหนือเรือนธาตุมีลักษณะเป็นหลังคาซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 3 ชั้น แต่ละชั้นประดับด้วยสถูปจำลองที่มุมและด้าน ถัดขึ้นไปเป็นส่วนยอด ที่ฐานล่างมีเจดีย์บริวารทั้ง 4 มุม.สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุไชยาถือเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยที่สมบูรณ์ที่สุดที่เหลืออยู่ในประเทศไทย.เชื่อกันว่าหากได้มาสักการะพระบรมธาตุไชยา จะเป็นสิริมงคลสูงสุด ช่วยให้มีความเจริญรุ่งเรืองและแคล้วคลาดปราศจากอันตราย ระเบียงคด.พระบรมธาตุล้อมรอบด้วยระเบียงคด ซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่าง ๆ รวม 180 องค์ พระอุโบสถ.พระอุโบสถตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพระบรมธาตุ สร้างขึ้นแทนพระอุโบสถหลังเก่าเมื่อ พ.ศ.2498 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาทรายแดงปางมารวิชัย พระพุทธรูปศิลาทรายแดง 3 องค์.พระพุทธรูปศิลาทรายแดง 3 องค์ หรือที่เรียกกันว่า “พระพุทธรูป 3 พี่น้อง” ประดิษฐานอยู่กลางแจ้งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระวิหารหลวง.สันนิษฐานว่าเดิมคงมีอาคารครอบ ซึ่งภายหลังชำรุดหักพังจึงถูกรื้อออกไป มีเรื่องเล่าว่าเคยมีการสร้างศาลาครอบถึง 3 ครั้ง แต่เกิดเหตุฟ้าผ่าศาลาทุกครั้ง ด้วยเหตุนี้องค์พระจึงยังคงประดิษฐานอยู่กลางแจ้งมาจนถึงปัจจุบัน.วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ต.เวียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานีเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. แวะมาชมโบราณวัตถุกันต่อที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา ต.เวียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 2 อาคาร โดยอาคารหลังแรกจัดแสดงประติมากรรมจำลองจากโบราณวัตถุที่ค้นพบในอำเภอไชยา.ประติมากรรมจำลองที่สำคัญ ได้แก่ พระโพธิ์สัตว์อวโลกิเตศวร ที่เหลือเพียงพระวรกายท่อนบน ได้รับยกย่องว่าเป็นรูปเคารพที่งามที่สุดองค์หนึ่ง สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 14 ในศิลปะศรีวิชัย สันนิษฐานว่าคือพระโพธิ์สัตว์ปัทมปาณิ มีสองกร พระหัตถ์ขวาแสดงปางประทานพร ส่วนพระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว ซึ่งองค์จริงจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ส่วนอาคารหลังที่สอง จัดแสดงโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ไปจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ รวมทั้งงานประณีตศิลป์ และเครื่องอัฐบริขารต่าง ๆ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา ต.เวียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานีเปิดให้บริการวันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์)ค่าเข้าชม ชาวไทย 20 บาทสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 077 431 066 ที่ต่อมาเรามาล่องเรือชิล ๆ กันที่ ชุมชนบางใบไม้ ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี.“ชุมชนบางใบไม้” หรือ “ในบาง” เป็นชุมชนริมคลองที่ยังคงดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย บริเวณนี้มีคลองเล็กคลองน้อยเชื่อมต่อกันนับร้อยสายก่อนไหลลงสู่แม่น้ำตาปี จึงได้ชื่อว่าเป็น “คลองร้อยสาย”.กิจกรรมที่ได้รับความนิยมของชุมชนแห่งนี้คือการล่องเรือชมความอุดมสมบูรณ์ของสองฝั่งคลอง ซึ่งเราจะเห็นต้นจากและต้นมะพร้าวเรียงรายสุดลูกหูลูกตา พี่คนขับเรือเล่าให้ฟังว่า ต้นจากที่เราเห็นนั้นสามารถนำไปทำประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ใบจากนำไปห่อขนม หรือทำเป็นตับจาก ก้านจากนำไปทำเป็นไม้กวาด และลูกจากนำไปทำเป็นขนมหวาน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมี อุโมงค์จาก ที่เกิดจากต้นจากสองฝั่งคลองโน้มเข้าหากัน เป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เลยล่ะ.ชุมชนบางใบไม้ ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานีเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.ค่าล่องเรือคนละ 100 บาท นั่งได้ 5 คน หรือเหมาเรือลำละ 500 บาท ใช้เวลาล่องประมาณ 2 ชั่วโมงกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บางใบไม้ โทร. 077 292 903 หรือ คุณจรัญญา โทร. 081 607 4935 หากต้องการล่องเรือเป็นหมู่คณะ แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน แวะสักการะศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี.ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2539 รวมทั้งเพื่อเป็นสิริมงคล และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวสุราษฎร์ธานี.ศาลหลักเมืองแห่งนี้ ได้รับการออกแบบโดยกรมศิลปากร ที่นำเอาพระบรมธาตุไชยามาเป็นต้นแบบ แต่ขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า ลักษณะอาคารเป็นทรงจตุรมุข มีบันไดทางขึ้นสี่ด้าน หน้าบันประดับลายปูนปั้น และได้อัญเชิญตราสัญลักษณ์งานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี มาประดับไว้ทั้ง 4 ด้านด้วย ภายในศาลหลักเมืองประดิษฐานเสาหลักเมืองซึ่งทำจากไม้ราชพฤกษ์ลงรักปิดทอง ส่วนยอดสลักเป็นรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรหรือพรหมสี่หน้า ล้อมรอบด้วยเสาหลักเมืองจำลองซึ่งมีขนาดย่อมกว่าจำนวน 4 เสา โดยทั้งหมดตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยมซึ่งประดับด้วยประติมากรรมรูปช้างอยู่ภายในซุ้ม ทุกวัน ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่างแวะเวียนมาสักการะบูชาศาลหลักเมืองกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงเย็นถึงค่ำ จะมีการเปิดไฟส่องสว่างรอบศาลหลักเมืองด้วย สวยงามมากเลยล่ะ.ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานีเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. วันที่ 2.วันนี้ต้องตื่นเช้าซักหน่อย เพราะเราจะไปชมทะเลหมอกกันที่ อุทยานธรรมเขานาในหลวง ต.ต้นยวน

เส้นทางท่องเที่ยว สุราษฎร์ธานี 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

#ภาพเก่าเล่าเรื่อง ตลาดน้ำคลองโพหัก อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี พ.ศ. 2518

#ภาพเก่าเล่าเรื่อง ตลาดน้ำคลองโพหัก อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี พ.ศ. 2518.ตลาดน้ำคลองโพหักตั้งอยู่บริเวณปากคลองโพหัก อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ที่นี่เป็นตลาดน้ำเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 150 ปี ถือเป็นตลาดน้ำแห่งแรก ๆ ของจังหวัดราชบุรีเลยก็ว่าได้ ตลาดน้ำแห่งนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดน้ำหลักห้า ตลาดน้ำปากคลองบัวงาม และตลาดน้ำหน้าวัดปราสาทสิทธิ์ เป็นต้น.ในอดีตตลาดน้ำแห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นศูนย์กลางในการค้าขายของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าจากหลายพื้นที่ ทั้งในอำเภอดำเนินสะดวก และอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร แต่เมื่อการดำเนินชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป โดยหันมาเดินทางทางบกมากขึ้น ทำให้การค้าขายทางเรือและชื่อของตลาดน้ำคลองโพหักค่อย ๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา.อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำคลองโพหักได้รับการฟื้นฟูจากชาวบ้านและหน่วยงานในพื้นที่ ทำให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ “ตลาดน้ำหลักห้า” ซึ่งเราจะยังได้เห็นบ้านเรือนและร้านค้าแบบดั้งเดิม ถ้าใครอยากไปสัมผัสบรรยากาศย้อนยุค หาของอร่อย ๆ ทานหรือนั่งชิลจิบกาแฟริมคลอง อย่าลืมแวะไปเที่ยวที่ตลาดน้ำหลักห้านะคะ ตลาดเปิดทุกวัน เวลา 09.00-15.00 น. ค่ะ เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 21 กันยายน 2563

#ภาพเก่าเล่าเรื่อง ตลาดน้ำคลองโพหัก อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี พ.ศ. 2518 อ่านเพิ่มเติม

#ภาพเก่าเล่าเรื่อง เขาขนาบน้ำ จังหวัดกระบี่ ปี พ.ศ. 2507

#ภาพเก่าเล่าเรื่อง เขาขนาบน้ำ จังหวัดกระบี่ ปี พ.ศ. 2507.เขาขนาบน้ำ ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีลักษณะเป็นเขาสองลูกที่ตั้งขนาบอยู่สองฝั่งของแม่น้ำกระบี่ จึงเป็นที่มาของชื่อ “เขาขนาบน้ำ”.ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่บริเวณหน้าเมืองกระบี่ เขาขนาบน้ำจึงเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของเมือง และกลายเป็นภาพจำของนักท่องเที่ยวรวมทั้งผู้ที่สัญจรผ่านไปมาจวบจนปัจจุบัน.เขาขนาบน้ำมีถ้ำที่สามารถขึ้นไปเที่ยวชมได้ โดยมีการทำบันไดปูนเอาไว้ให้เดินได้อย่างสะดวก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม มีการจำลองวิถีชีวิตของมนุษย์โบราณ และภาพเขียนสีที่ผนังถ้ำ เนื่องจากมีหลักฐานว่าบริเวณนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมทั้งยังจำลองความเป็นอยู่ของทหารญี่ปุ่น เมื่อครั้งที่ใช้เขาขนาบน้ำแห่งนี้เป็นกองบัญชาการในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย.นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงโครงกระดูกของยักษ์ที่ถูกรัดด้วยโครงกระดูกพญานาคตามตำนานท้องถิ่น ผลงานศิลปะจากงาน “ไทยแลนด์เบียนนาเล่ กระบี่ 2018” เป็นไฮไลท์อีกอย่างหนึ่ง.การเดินทางไปยังเขาขนาบน้ำ สามารถนั่งเรือจากท่าเรือเจ้าฟ้า (ลานปูดำ) ระยะทาง 5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที และเนื่องจากบริเวณนี้เป็นน้ำกร่อย ระหว่างทางเราจึงสามารถชมความสมบูรณ์ของป่าชายเลนและสัตว์ต่าง ๆ เช่น ปลาตีน ลิงแสม เป็นต้น เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 2 ตุลาคม 2563

#ภาพเก่าเล่าเรื่อง เขาขนาบน้ำ จังหวัดกระบี่ ปี พ.ศ. 2507 อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยว ระนอง-ชุมพร 3 วัน 2 คืน

ระนอง – ชุมพร 3 วัน 2 คืน  วันที่ 1– ภูเขาหญ้า– ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการร่อนแร่ ชุมชนหาดส้มแป้น– น้ำนองฮอทสปา วันที่ 2 – วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลม่วงกลวง คลองลัดโนด– บ้านไร่ไออรุณ– จุดชมวิวเขามัทรี– บาติกผาแดง ครูอนงค์ วันที่ 3– จุดชมวิวป่าเขาเขียว– เจียฟาร์ม– หาดทุ่งวัวแล่น วันที่ 1.สถานที่แรกที่แอดไปก็คือ ภูเขาหญ้าตั้งอยู่ใน อ.เมือง มีลักษณะเป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น มีแต่ต้นหญ้าปกคลุม จึงเป็นที่มาของชื่อภูเขาหญ้า มีทางเดินเท้าขึ้นสู่สันเขาเพื่อชมวิวได้ 360 องศา ภูเขาแต่ละลูกไม่สูงมาก สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้.ภูเขาหญ้าสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน-เมษายน) ภูเขาหญ้าจะเป็นสีน้ำตาลทอง แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม) ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว หลายคนจึงนิยมเรียกว่า “ภูเขาหญ้าสองสี”.ที่ตั้ง ม.1 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวันไม่เสียค่าธรรมเนียม ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการร่อนแร่ ชุมชนหาดส้มแป้น.หาดส้มแป้น อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 10 กิโลเมตร เป็นตำบลเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขา ที่ยังคงเสน่ห์เฉพาะตัวของความเป็นหมู่บ้านที่มีแหล่งแร่ดีบุกเอาไว้ ที่สำคัญหากไปเที่ยวที่นี่ เราสามารถทำกิจกรรมร่อนแร่ได้ด้วยนะ.ที่ตั้ง ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน 09.00-16.00 น. (นัดล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน)โทร. 080 040 2425, 090 424 8513 (พี่สมโชค)Facebook : https://www.facebook.com/BaanHatsompaen/ “หาดส้มแป้น” เป็นชุมชนทำเหมืองเก่าที่สำคัญของ จ.ระนอง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การทำเหมืองของที่นี่เป็นลักษณะของเหมืองฉีด (คือใช้กระบอกสูบน้ำ สูบดินทรายและแร่ขึ้นมาจากเหมือง) และเหมืองแล่น (ใช้น้ำฉีดไปที่หน้าดินเพื่อหาแร่) มีเพียงส่วนน้อยที่มีการทำแบบเหมืองหาบ (ใช้คนขุดและหาบแร่ไปล้าง) ชื่อ “หาดส้มแป้น” เพี้ยนมาจากคำว่า “ห้วยซัมเปียน” ในภาษาจีน ที่แปลว่าลึกเข้าไปในหุบเขา เนื่องจากการค้นหาแร่ดีบุกจะต้องเดินลึกเข้าไปเพื่อหาแร่ในหุบเขา ปัจจุบันแม้แร่ดีบุกจะลดน้อยลง แต่ก็มีการค้นพบแร่ดินขาวคุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของเอเชีย ที่มีชื่อเสียงด้านความโปร่งใสของเนื้อดิน สามารถส่งออกขายทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย ปิดท้ายวันแรกด้วย น้ำนองฮอทสปา.สปาน้ำแร่ร้อนธรรมชาติแห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน จุดเด่นของที่นี่คือ การใช้น้ำแร่ที่ต่อตรงมาจากบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ซึ่งถือเป็นน้ำแร่คุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว มีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่มีกลิ่นกำมะถัน สามารถใช้ดื่มได้และอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย.ที่ตั้ง ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.โทร. 084 625 3444, 077 828 388, 081 666 2285 ประโยชน์ของการแช่น้ำแร่– กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยขยายหลอดเลือด– คลายความปวดเมื่อย– บำรุงผิวพรรณ– กระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย. ที่นี่ยังมีบริการอื่น ๆ อีก เช่น– นวดคลายกล้ามเนื้อ-คลายเส้น– นวดแผนไทย– นวดหน้า– นวดเท้า– ขัดผิว วันที่ 2.วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลบ้านม่วงกลวง คลองลัดโนด.หากใครอยากสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดและทำกิจกรรมที่หลากหลาย แอดแนะนำให้มาที่นี่ เพราะมีทั้งล่องเรือชมวิว ปลูกป่าชายเลน กินอาหารทะเลสดอร่อยบนกระชังปลา และล่องแพเปียก.ที่ตั้ง ม.3 ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนองเปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.โทร. 087 885 7965 (พี่ปรีชา), 082 278 6099 (ผู้ใหญ่ทวน) กิจกรรมแรกคือการนั่ง “เรือพรีส” ชมวิว เรือนี้มีลักษณะคล้ายเรือหางยาวลำเล็ก ๆ นั่งได้ไม่เกิน 3 คน รวมคนขับ.วันที่แอดไปมีฝนตกลงมา สมกับที่เป็น “เมืองฝนแปดแดดสี่” จริง ๆ เพราะฉะนั้นใครมาเที่ยวระนองต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะ เช็คสภาพอากาศล่วงหน้าด้วย แต่จริง ๆ นั่งเรือกลางสายฝนก็สนุกไปอีกแบบเลยล่ะ อีกจุดของที่นี่ ที่แอดชอบมากก็คือ กระชังปลา หรือเรียกว่าศูนย์เรียนรู้ลอยน้ำ ซึ่งเป็นจุดรับประทานอาหารกลางวันของเรา มาถึงระนองทั้งที ถ้าไม่กินอาหารทะเลก็อาจถูกแซวว่ามาไม่ถึง ขอบอกเลยว่าอาหารที่นี่อลังการมาก กุ้ง หอย ปู ปลา ละลานตาไปหมด แถมรับประกันความสดและความอร่อย เมนูที่ไม่อยากให้เพื่อน ๆ พลาดเลยก็คือ “แกงกุ้งใส่ใบส้มป่อย” ซุปใสรสชาติคล่องคอ อมเปรี้ยวนิด ๆ เนื้อกุ้งก็หวานเด้ง รสชาติเข้ากันมาก ๆ ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า อย่ากินเพลินจนลืมชมวิวนะ เพราะถึงแม้ว่าตอนล่องเรือฝนจะตก แต่พอฝนหยุดแล้ว สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาเป็นอะไรที่สุดยอดมากกก หมอกจาง ๆ บนภูเขา น้ำใส ๆ สะท้อนภาพท้องฟ้าที่เริ่มเปิด ลมเย็นพัดเอื่อย ๆ และอาหารอร่อย ๆ วางเต็มโต๊ะ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม กิจกรรมถัดไปตามโปรแกรมก็คือ การล่องแพเปียกชมสันหลังปึ้งกือ(สันหลังกิ้งกือ) ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อนี้ตั้งขึ้นเพื่อให้คล้องกับทะเลแหวกสันหลังมังกรที่ จ.สตูล และไฮไลท์สำคัญก็คือ การปลูกป่าชายเลน ที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังเป็นการช่วยเพิ่มทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย.แต่น่าเสียดายที่ฝนตกอีกรอบ ไม่สามารถล่องแพเปียกและปลูกป่าชายเลนได้ แต่ไม่ต้องห่วงนะ แอดหาภาพมาให้เพื่อน ๆ ดูแล้ว.แพ็กเกจ 1 วัน สำหรับ 2 – 60 คน เดินทางเอง ราคา 1,350 ต่อคนบริการรับ-ส่ง เมืองระนอง 1,900 ต่อคน.โปรแกรมกิจกรรม ณ คลองลัดโนดจุดนัดพบ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ท่าเรือคลองลัดโนด–

เส้นทางท่องเที่ยว ระนอง-ชุมพร 3 วัน 2 คืน อ่านเพิ่มเติม

เส้นทางท่องเที่ยวสุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน

เส้นทางท่องเที่ยวสุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน วันที่ 1– ตลาดบางลี่– สุ่มปลายักษ์ ตลาดน้ำสะพานโค้ง– คาเฟ่ เจดีย์– วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร.วันที่ 2– พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผา)– ร้านอาหาร Three of us– วัดเขาดีสลัก– ตลาดสีเขียว ณ สวนสวรรค์สุพรรณบุรี ตลาดบางลี่.ตลาดบางลี่เป็นตลาดเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ริมคลองสองพี่น้อง ภายในมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ.ตลาดเปิดตั้งแต่เช้ามืดไปจนถึง 5 ทุ่ม โดยในตอนเช้าจะเป็นตลาดสด พ่อค้าแม่ค้าจะเริ่มตั้งแผงขายกันตั้งแต่ตี 4 พอช่วงสาย ร้านรวงต่างๆ ก็จะเปิดให้บริการ มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของชำ ส่วนตอนเย็นตลาดแห่งนี้ก็จะกลายเป็นตลาดโต้รุ่งที่มีอาหารหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารตามสั่ง ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว และของหวาน ถึงแม้ว่าตลาดบางลี่จะดูเหมือนตลาดธรรมดาทั่วๆ ไป แต่ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจ.เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นแอ่งกระทะ ในอดีตเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก น้ำในคลองสองพี่น้องจะมีระดับสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดบางลี่มีน้ำท่วมสูงตลอดทุกปี ชาวบ้านจึงต้องอพยพขึ้นไปอยู่อาศัยและค้าขายบนชั้นสองของบ้าน รวมทั้งใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจรเพื่อติดต่อและซื้อขายสินค้ากัน และเมื่อถึงช่วงหน้าแล้งชาวบ้านก็จะกลับมาขายสินค้าที่ชั้นล่างเหมือนเดิม ตลาดแห่งนี้จึงได้รับการขนานนามว่า “ตลาดสองฤดู” .แต่ภายหลังได้มีการปรับพื้นที่บริเวณตลาดให้สูงขึ้น และปรับปรุงบ้านเรือนใหม่เกือบทั้งหมด ภาพตลาดดังกล่าวจึงกลายเป็นเพียงความทรงจำ.ที่มารูปภาพ: https://www.facebook.com/songpeenongmuni/ นอกจากนี้ บริเวณท่ารถในตลาด ยังมีอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ประชาชนได้กราบสักการะอีกด้วย .ถนนราษฎร์ดำรง ตำบลสองพี่น้อง อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีเปิดทุกวัน เวลา 04.00-23.00 น.  ที่ต่อมาแอดจะพาเพื่อนๆ ไปเดินหาของกินอร่อยๆ พร้อมชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศากัน.สุ่มปลายักษ์ ตลาดน้ำสะพานโค้ง.ตลาดน้ำสะพานโค้ง เป็นตลาดที่มีทางเดินที่ทำจากไม้ไผ่ลัดเลาะไปมาตามแนวริมคลองสองพี่น้อง และมีสะพานโค้งที่ทอดข้ามไปยังฝั่งวัดทองประดิษฐ์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “ตลาดน้ำสะพานโค้ง” นั่นเอง.ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีเปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. ภายในตลาดมีทั้งอาหาร ขนมไทย ขนมหวาน เครื่องดื่มสมุนไพร และของฝากจากฝีมือของคนในชุมชน  ไฮไลต์ของตลาดน้ำแห่งนี้ก็คือ “สุ่มปลายักษ์”.สุ่มปลายักษ์ เป็นหอชมวิวขนาดใหญ่ สูง 20 เมตร มีรูปทรงแบบสุ่มจับปลา เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชนที่นำไม้ไผ่จำนวนมากมาใช้ในการก่อสร้าง ด้านในสุ่มมีบันไดไม้ไผ่ให้เดินขึ้นไปจนถึงด้านบนสุดเพื่อชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศา.สุ่มจับปลา เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำมาหากินที่บ่งบอกถึงความเป็นชุมชนเกษตรกรรมของชาวอำเภอสองพี่น้องมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน สมกับเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำอีกด้วย เมื่อเดินมาจนสุดตลาดน้ำ ก็จะมีสะพานไม้ข้ามไปยังอีกฝั่งของคลอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดทองประดิษฐ์ และยังมีคาเฟ่ที่แอดจะพาเพื่อนๆ ไปกัน คาเฟ่ เจดีย์ .ริมคลองสองพี่น้อง ตำบลบางเลน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีโทร. 086 537 7761เปิดวันพฤหัสบดี-อังคาร เวลา 08.00-17.00 น. (ปิดทุกวันพุธ) คาเฟ่ เจดีย์ เป็นคาเฟ่เล็กๆ ภายในตกแต่งแบบเรียบง่าย มีที่นั่งทั้งด้านในร้านและระเบียงริมน้ำ คาเฟ่ เจดีย์ ให้บริการของหวานและเครื่องดื่ม น่าทานทั้งนั้น .เมนูแนะนำต้องนี่เลย “เค้กมะพร้าวอ่อน” รสชาติหวานกำลังดี กลิ่นหอม เนื้อเค้กก็นุ่มมากๆ  เครื่องดื่มของที่นี่ก็มีหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ หรือน้ำผลไม้โซดา ก็มีครบเลยจ้า บอกเลยว่าบรรยากาศของร้านดีมาก นอกจากอากาศจะดี ลมพัดเย็นสบายแล้ว ยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวตลาดน้ำและสุ่มปลายักษ์ได้อย่างสวยงามอีกด้วย ออกเดินทางไปที่อำเภอเมืองสุพรรณบุรีกัน .วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร.หากใครได้มาจังหวัดสุพรรณบุรีแล้วล่ะก็ ต้องไม่พลาดที่จะมากราบสักการะหลวงพ่อโต ณ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร.วัดเก่าแก่แห่งนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีการสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ และประดับตราพระราชลัญจกรในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รูปพระมหาพิชัยมงกุฏไว้ที่หน้าบันของพระวิหารด้วย ภายในพระวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางป่าเลไลยก์ ศิลปะอู่ทอง มีความสูงถึง 23.47 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สันนิษฐานว่าเดิมหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา แต่ภายหลังชำรุดจึงได้บูรณะซ่อมแซมใหม่ให้เป็นปางป่าเลไลยก์ นับเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี วัดแห่งนี้ ยังมีความเกี่ยวข้องกับวรรณคดีเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” โดยเป็นวัดที่ตามเรื่องกล่าวว่าขุนแผนเคยเล่าเรียน ซึ่งที่ระเบียงคดรอบพระวิหารก็มีการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องขุนช้างขุนแผนเอาไว้อย่างสวยงาม.นอกจากนี้ ภายในวัดยังมี “เรือนขุนช้าง” เป็นเรือนไทยประยุกต์หลังใหญ่ สร้างจำลองให้เป็นเรือนของขุนช้างตามในวรรณคดี บนเรือนมีภาพวาดเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน และมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยก่อนให้ได้ชม.ที่ตั้ง 249 ถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรีโทร. 092 590 9595 เริ่มต้นการเดินทางในวันที่สอง แอดจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันที่อำเภออู่ทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณในวัฒนธรรมทวารวดี อันเป็นยุคเริ่มแรกของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้ามาในดินแดนสุวรรณภูมิ.พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผา).“พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” หรือ “หลวงพ่ออู่ทอง” เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักบนหน้าผา อยู่ในบริเวณวัดเขาทำเทียม ซึ่งเดิมพื้นที่นี้เป็นเหมืองหินเก่าที่หมดสัมปทานไปแล้ว ต่อมา พ.ศ.2557 เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหารได้เข้ามาพัฒนาและสร้างเป็นพุทธมณฑลของจังหวัดสุพรรณบุรี.องค์หลวงพ่ออู่ทองนั้นเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะอู่ทอง มีความสูงถึง 108 เมตร ฐานกว้าง 88 เมตร และหน้าตักกว้าง 65 เมตร นับว่าเป็นพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณด้านหลังองค์พระ มีการเจาะอุโมงค์เข้าไปในหน้าผาเป็นถ้ำ เรียกว่า “ถ้ำมังกรบิน” ภายในมีรอยพระพุทธบาท และพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่.แอดได้ยินมาว่า เร็วๆ นี้ทางวัดจะมีการสร้างสกายวอล์กสำหรับชมทัศนียภาพรอบหน้าผาด้วย ซึ่งในช่วงเวลาที่มีการก่อสร้าง พื้นที่บริเวณนี้ก็จะปิดชั่วคราวนะคะ ต้องรีบไปชมกันแล้วล่ะ.ที่ตั้ง ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง สุพรรณบุรี ร้านอาหาร Three of us .เป็นร้านอาหารเล็กๆ ตกแต่งสไตล์อิงลิช คอทเทจ ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศสวนอันร่มรื่น ใครเห็นเป็นต้องอยากถ่ายรูปเช็คอินก่อนเข้าร้านแน่นอน ร้านนี้มีที่นั่งให้เลือก 2 โซน ด้านในร้านจะให้อารมณ์เหมือนอยู่ในบ้านสไตล์อังกฤษ หรือถ้านั่งในสวนก็จะชิลๆ เก๋ๆ ไปอีกแบบ นอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว อาหารของร้านนี้ก็น่าทานมากเช่นกันค่ะ ที่ร้านให้บริการอาหารไทย-ยุโรป ของหวาน และเครื่องดื่มหลากหลายเมนู.เมนูที่แอดสั่งมาได้แก่ ไก่อบ Three of us ซึ่งเป็นเมนู Signature ของร้าน เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ฟินมากกก ยำมะม่วงปลาทับทิมทอด รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ตามด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจเลยจ้า.ที่ตั้ง ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรีโทร

เส้นทางท่องเที่ยวสุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top