เพื่อนร่วมทาง

นั่งเรือชมความงามของธรรมชาติที่บ้านท่าดินแดง

ชุมชนบ้านท่าดินแดง ชุมชนที่น่าค้นหาแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา พื้นที่ส่วนใหญ่ติดกับทะเล มีป่าชายเลนและป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล เหมาะแก่การเที่ยวชมธรรมชาติมาก ๆ ขอบอกเลยว่ามีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก .ทริปที่เราไปมาเป็นแบบ half-day trip โดยต้องโทรจองก่อนล่วงหน้า กิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 8.30 น. เริ่มด้วยการพายเรือแคนนูชมป่าชายเลนและป่าโกงกาง ป่าชายเลนที่นี้มีความเขียว ความชุ่มฉ่ำสุด ๆ ถ้าไปถูกช่วงจะได้เห็นต้นฝาดดอกแดงอีกด้วย (ชาวบ้านที่นี่เรียกว่าซากุระเมืองไทย) สวยงามมาก ๆ จากนั้นเราก็นั่งเรือหัวโทงหรือเรือหางยาวนั่นแหละไปยังเขาหน้ายักษ์ ชาวบ้านบอกว่าที่นี่มีตำนาน ใครอยากรู้ให้ลองมากันนะ ระหว่างที่เราเดินทางไปเขาหน้ายักษ์ เราจะได้ผ่านทุ่งเสม็ดขาว หรือทุ่งสะวันนาเมืองไทย ต้องไปช่วงประมาณธันวาคม จะได้เห็นทุ่งหญ้าสีเหลือง เเวะถ่ายรูปชิค ๆ กรุบกริบ เมื่อเราเดินทางมาถึงเขาหน้ายักษ์เเล้ว จะได้เจอกับหาดท้ายเมืองที่ยาวสุดลูกหูลูกตา แถมคลื่นที่นี่ก็สูงมาก ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ หลังจากที่เรากลับมาจากเขาหน้ายักษ์ กิจกรรมต่อไปคือการชมการสาธิตการร่อนเเร่ดีบุก ซึ่งจริง ๆ เเล้วบริเวณนี้เคยเป็นเหมืองแร่เก่า จึงทำให้ยังมีแร่ดีบุกหลงเรืออยู่ เเละปิดท้ายกิจกรรมด้วยการชมแปลงผักโฮโดรโปนิคส์ ชิมสลัดผักสด ๆ จากแปลง อร่อยมาก ๆ เสร็จสิ้นกิจกรรม 12.30 น. ถือว่าคุ้มสุด ๆ มาชุมชนเดียวได้ทำกิจกรรมถึง 5 กิจกรรมด้วยกัน พี่ ๆ ชาวบ้านที่มาดูแลก็น่ารักมากเลยนะ ขอบอก .ค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรม: คนละ 600 บาทผู้ประสานงานท่องเที่ยว: นายปฏิพัทธ์ วาหะรักษ์ (บังโหรน) โทร. 0844433539ที่อยู่: หมู่ 4 หมู่บ้านท่าดินแดงตำบลลำแก่น ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กิจกรรมพายเรือแคนนูชมป่าชายเลนของชุมชน หาดท้ายเมืองที่สวยงามเเละยาวสุดลูกหูลูกตา เขาหน้ายักษ์ ที่มาของตำนานที่รอให้เพื่อน ๆ มาค้นหา การสาธิตการร่อนเเร่ดีบุก แปลงผักไฮโดรโปรนิคส์ที่สด สะอาด สามารถนำมาทำผักสลัดทานได้เลย 

นั่งเรือชมความงามของธรรมชาติที่บ้านท่าดินแดง อ่านเพิ่มเติม

สุดปัง “พังงา”

สุดปัง! พังงาาาาาา บอกเลยว่าปั๊วะปังปุริเย่มาก เป็นจังหวัดที่มีที่เที่ยวเยอะสุด ๆ บางที่คือ Unseen มาก ๆ ทั้งเข้าถ้ำ ล่องเรือ เดินสำรวจป่า ตามหาสตรีทอาร์ต เข้าวัดทำบุญ ทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน ล่องแพ ดูทะเลหมอก นั่งมองพระอาทิตย์ตกดิน เดินย่านเมืองเก่า ส่องหนุ่มเล่นเซิร์ฟ กินอาหารทะเลอร่อย ๆ มุมถ่ายรูปมีแสนแปด เรียกได้ว่ามาจังหวัดเดียวได้ครบทุกอย่างเลย ต้องลองมาเเล้วจะติดใจ 25 จุด Checkin ของพังงา ที่เราแนะนำให้ทุกคนได้ไปกัน.1. ท่าเขาบาติก2. นาโต๊ะแหนะแหนะ3. ชุมชนบ้านท่าดินแดง4. Memories Beach5. คลองสังเน่ห์6. สะพานเหล็กบุญสูง7. น้ำตกวังเคียงคู่8. วัดเสนานุชรังสรรค์9. วัดคงคาภิมุข10. วัดพระธาตุคีรีเขต11. โรงเรียนเต้าหมิง12.ตึกขุนอินทร์13. Street Art “Mardi”14. วัดอินทภูมิ15. น้ำตกหินลาด16. น้ำพุร้อนปลายพู่17. จุดชมวิวเขานางหงษ์18. วัดราษฎร์อุปถัมภ์19. สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์20. ถ้ำพุงช้าง21. โบราณสถานถ้ำซำ22. ชุมชนบ้านบางพัฒน์23. ชุมชนบ้านโคกไคร24. หาดเขาปิหลาย25. หาดนางทอง ปักหมุดให้ขนาดนี้แล้วอย่าไปรอ รีบไปกันโลดดดดดด 1. ท่าเขาบาติก ชุมชนท่าเขาตั้งอยู่บนเกาะยาวน้อย จุดเด่นของที่นี่คือการทำผ้าบาติกที่มีความสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถวาดและระบายสีผ้าบาติกได้ตามใจชอบ และสามารถนำกลับบ้านได้ 2. นาโต๊ะแหนะแหนะ เป็นทุ่งนาเขียวขจี อยู่บริเวณเกาะยาวน้อย มีความสวยงาม บรรยากาศสบาย ๆ ชวนให้นั่กท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายภาพ และชมทัศนียภาพนากลางเล 3. ชุมชนบ้านท่าดินแดง เป็นพื้นที่ติดกับทะเล มีป่าชายเลนและป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล เหมาะแก่การเที่ยวชมธรรมชาติ เป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำด้วย เช่นการพายเรือคายัค การสาธิตการร่อนแร่ การชมแปลงผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นต้น 4. Memories Beach สวรรค์ของนักโต้คลื่น เต็มไปด้วยผู้คนที่โต้คลื่นอยู่ในทะเล และยังเหมาะกับการมานอนอาบแดดให้สบายใจ และดูวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ถือว่าสวยที่สุดแห่งนึงของไทย 5. คลองสังเน่ห์ หรือ Little Amazon ที่เที่ยวสำหรับคนรักธรรมชาติ เป็นคลองสายสั้น ๆ และมีผืนป่าที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ไฮไลท์ของที่นี่คือการพายเรือคายัคชมต้นไทรโบราณอายุกว่าร้อยปี และยังสามารถเห็นสัตว์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย ทั้งลิง งูปล้องทอง และนกเงือก 6. สะพานเหล็กบุญสูง สะพานเก่าโบราณที่สร้างขึ้นด้วยแร่เหล็กทอดยาวผ่านแม่น้ำตะกั่วป่า 2 ข้างทางเต็มไปด้วยความเขียวขจีของธรรมชาติ 7. น้ำตกวังเคียงคู่ เป็นลำธารน้ำที่ทอดยาวจากภูเขาสู่ทะเล มีความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าทั้งสองฝากของลำธาร อีกทั้งมีกิจกรรมล่องแพเพื่อชมความงามของธรรมชาติอีกด้วย 8. วัดเสนานุชรังสรรค์ เป็นวัดสำคัญและเก่าแก่ของเมืองตะกั่วป่า มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสวยงาม 9. วัดคงคาภิมุข มีพระเจดีย์องค์ประธานสีเหลืองทองอร่าม วิจิตรสวยงามเป็นอย่างมาก 10. วัดพระธาตุคีรีเขต วัดเก่าแกของเมืองพังงา เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีพระอุโบสถโบราณทรงสีเหลี่ยมพื้นผ้า และยังมีพระบรมธาตุเจดีย์บนภูเขาพระพุทธบาท สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองตะกั่วป่าได้อีกด้วย 11. โรงเรียนเต้าหมิง เป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนที่ถูกสร้างคนโดยชุมชนคนจีนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น เพื่อให้ลูกหลานได้เรียนหนังสีอ สามารถเข้ามาเยี่ยมชมและหามุมถ่ายรูปสุดชิคได้ที่นี่ 12. ตึกขุนอินทร์ เป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าด้านสถาปัตยกรรม คือเป็นอาคารรูปทรงชิโนโปรตุกีสประยุกต์ ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองตะกั่วป่า 13. Street Art “Mardi” จุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัดพังงา โดยภาพของน้องมาร์ดีมีทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน ได้แก่ภาพน้องมาร์ดีร่อนแร่” History of Mining อยู่บริเวณแยกโรงเรียนอนุบาลเก่า ถนนโรงเรือ ตรงข้ามสำนักงานธนารักษ์ พื้นที่พังงา ภาพน้องมาร์ดีเชิดสิงโต “Lion Dance” อยู่บริเวณ ข้างร้านขนมจีนป้าศล ตรงข้ามศาลเจ้ามาจ้อโป๋ และภาพเรือใบในขวดแก้ว “Memory in The Bottle” อยู่บริเวณซอยบำรุงราษฎร์ ตรงข้าม TOT สาขาพังงา 14. วัดอินทภูมิ เป็นวัดเก่าแก่ของอำเภอกะปง ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามได้ 15. น้ำตกหินลาด น้ำตกสวยที่มาพร้อมกับกิจกรรมล่องแพห่วงยาง บอกเลยว่ากิจกรรมนี้แอดเวนเจอร์สุด ๆ 16. น้ำพุร้อนปลายพู่ เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีลำธารน้ำเย็นสลับกับน้ำร้อนไหลผ่าน ในตอนเช้าจะมีทะเลหมอกที่สวยงาม สามารถนำไข่ไก่มาต้มเพื่อนำไปรับประทานได้ 17. จุดชมวิวเขานางหงส์ สามารถชมวิวภูเขาที่สลัซับซ้อนสวยงาม เมือมองมาข้างล่างจะเห็นผืนป่าเขียวขจี และเส้นถนนที่คดเคี้ยวไปมา 18. วัดราษฎร์อุปถัมภ์ เป็นวัดเก่าแก่ของอำเภอทับปุด มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสวยงาม 19. สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สวนสาธารณะ ของเมืองพังงา เป็นพื้นที่กลางเมืองสามารถมองเห็น “เขาช้างหมอบ” สัญลักษณ์ของจังหวัด และยังมีถ้ำต่าง ๆ บริเวณโดยรอบอีกด้วย 20. ถ้ำพุงช้าง เป็นถ้ำที่มีลักษณะโดเด่นไม่เหมือนใคร มีหินงอกหินย้อยลักษณะต่าง ๆ และยังมีหินงอกหินย้อยมีลักษณะคล้ายรูปช้างเดี่ยวๆ ช้างหลายร้อยเชือกเดินตามกันเป็นวงรอบ ช้างนั่งอยู่ใต้ฉัตร เป็นต้น 21. โบราณสถานถ้ำซำ เป็นถ้ำขนาดเล็ก ภายในมีจิตรกรรมลายเส้นและลงสี ขาว แดง และดำ แสดงภาพถึงความเชื่อและความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นภาพเขียนในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น 22. ชุมชนบ้านบางพัฒน์ เป็นหมู่บ้านที่มีร้านอาหารทะเลที่มีรสชาติอร่อย สด สะอาด และราคาถูก อีกทั้งสามารถเห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามได้อีกด้วย เหมาะสำหรับการมานั่งรับประทานอาหารเย็น 23. ชุมชนบ้านโคกไคร แหล่งเพาะพันธุ์หอยนางรมของพังงา กิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่คือการทำสปาโคลนร้อนเพื่อบำรุงผิวพรรณ 24. หาดเขาปิหลาย จุดชมสะพานไม้เก่า มีหาดทรายทอดยาวที่เงียบสงบ เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อนยามเย็น 25. หาดนางทอง หรือ หาดทรายดำ ชายหาดแงนี้มีลักษณะพิเศษคือผืนทรายบนชายหาดนางทองเป็นสีดำละเอียดซึ่งเกิดจากแร่ดีบุกที่ตกค้างอยู่บริเวณนั้น เพราะในอดีตเคยเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ยิ่งช่วงน้ำลงจะเห็นเป็นผืนทรายสีดำทั่วบริเวณเลย หากเพื่อน ๆ

สุดปัง “พังงา” อ่านเพิ่มเติม

ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

“ปางอุ๋ง” หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ “โครงการพระราชดำริปางตอง 2” ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องด้วยสภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ที่รายล้อมไปด้วยสวนสนเขียวขจีและดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด รับรองว่าใครที่ได้ไปสัมผัส คุณจะได้รับโอโซนจากธรรมชาติกลับไปแบบเต็มปอดอย่างแน่นอน สำหรับการค้างแรมที่ปางอุ๋งนั้น จะต้องทำการลงทะเบียนผ่านศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอนก่อน จึงจะสามารถนำรถเข้ามายังปางอุ๋งได้ และที่นี่ก็มีบ้านพักไว้รองรับสำหรับนักท่องเที่ยว โดยจะต้องทำการจองมาก่อนล่วงหน้า และรับจองเฉพาะในวันเวลาทำการเท่านั้น (วันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.) รวมทั้งยังมีพื้นที่ไว้ให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการมากางเต้นท์พักแรมด้วยนะ โดยพื้นที่สำหรับกางเต้นท์นั้น สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้วันละ 100 พื้นที่ต่อวัน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางมาถึงปางอุ๋งก่อนเวลา 18.00 น. และต้องบอกเลยว่าต้องจองล่วงหน้ามาก่อนนะ เพราะพื้นที่สำหรับกางเต้นท์นั้นเต็มไวมาก ย้ำว่ามากกกกกกกก!!! ทางที่ดีควรจองล่วงหน้ามาอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกของที่นี่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถนำเต้นท์มาเอง หรือถ้าใครไม่มี ที่นี่ก็มีบริการให้เช่า รวมทั้งยังมีหมอนและผ้าห่มให้เช่าอีกด้วย เรียกได้ว่ามาเที่ยวตัวเปล่าได้เลยแบบสบาย ๆ ซึ่งถ้าไม่มีเต้นท์มาเอง แนะนำว่าควรจะต้องมาก่อนเวลา 12.00 น. เนื่องจากเต้นท์ของที่นี่จะไม่มีให้จองไว้ก่อนล่วงหน้า ถ้ามาช้ากว่านั้น เต้นท์ที่ให้เช่าอาจหมดก่อนไม่รู้ด้วยนะเอออ… หมายเหตุ : ในการพักค้างแรมที่ปางอุ๋ง ที่นี่จะมีกระแสไฟฟ้าให้ใช้เฉพาะในช่วงเวลา 18.00 – 22.00 น. ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมไฟฉายและแบตเตอรี่สำรองไว้เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน และงดส่งเสียงดังหลังเวลา 22.00 น. รวมทั้งสามารถนำรถเข้าออกได้ภายในเวลา 09.00 – 18.00 น. เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของนักท่องเที่ยว การเดินทางมายังปางอุ๋งนั้น สามารถเดินทางมาด้วยรถส่วนตัว หรือรถโดยสารประจำทางก็ได้ โดยปางอุ๋งนั้นอยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร และหากเดินทางมาโดยรถส่วนตัว จะต้องนำรถไปจอดไว้ที่โรงเรียนบ้านนาป่าแปก หรือ วัดนาป่าแปกก่อน แล้วนั่งรถสองแถวของชุมชนเข้าไปยังปางอุ๋ง มีค่าบริการคนละ 50 บาท สามารถใช้ได้ทั้งขาไปและขากลับ โดยรถสองแถวจะเริ่มให้บริการตั้งแต่เวลา 04.00 น. ไปจนถึงเวลา 18.00 น. เลยทีเดียว ที่ปางอุ๋งนี้ มีสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบาย เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นที่ซู้ดดดดด โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวมักนิยมมาตั้งแคมป์ค้างแรมเพื่อสัมผัสอากาศหนาว นอนดูดาวที่ส่องแสงระยิบระยับในยามค่ำคืน และตื่นเช้ามาชมแสงอาทิตย์ที่สาดสะท้อนผืนน้ำ ผสานกับไอหมอกจาง ๆ ที่ลอยเรี่ยผืนน้ำ เป็นภาพที่สวยงาม สร้างความประทับใจ และก่อให้เกิดความทรงจำที่ดีให้แก่ผู้ที่ได้มาเยี่ยมเยือน ยิ่งถ้าได้มากับคนรักและมาสัมผัสบรรยากาศในที่แห่งนี้ด้วยกัน คงจะฟินและโรแมนติกแบบสุด ๆ ไปเลยแน่ ๆ ค่ะ นอกจากนี้ที่ปางอุ๋งยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจที่ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้มาสัมผัส นั่นก็คือ การล่องแพชมวิวทิวทัศน์ และบรรยากาศรอบ ๆ ปางอุ๋ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งถ่ายภาพเซลฟี่แบบชิค ๆ ไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย และถ้าโชคดี…คุณก็จะได้พบกับหงส์ขาวและหงส์ดำที่ว่ายน้ำคลอเคลียกันอยู่ท่ามกลางอ่างเก็บน้ำ ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของที่นี่ที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว โดยในการล่องแพชมวิวนั้น มีค่าบริการแพละ 150 บาทต่อลำ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ปางอุ๋ง หมู่บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอนพิกัด : https://goo.gl/maps/AR5vbUPVg3VoRKjW7เวลาเปิด-ปิด : 05.30-18.00 น.เบอร์โทร : 053-611244, 085-618-3303, 080-847-8456, 087-661-8594

ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน อ่านเพิ่มเติม

“ผาช่อ” ความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่เดินทางผ่านกาลเวลานับพันปี

ผาช่อ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของลมฝน ทำให้แผ่นดินที่เชื่อกันว่าเมื่อหลายร้อยปีก่อนเคยเป็นทางเดินของแม่น้ำปิงก่อนที่จะเปลี่ยนทิศทางไหลผ่านไปที่อื่น และได้สะสมตะกอนกรวดเป็นชั้นๆ ต่อมาเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสัณฐานธรณี บริเวณนี้ได้ถูกดันตัวขึ้นกลายเป็นเนินเขาลาดชัน เมื่อถูกลมฝนน้ำกัดเซาะอย่างยาวนานก็ได้กลายเป็นหน้าผาและเสาดินที่มีรูปร่างแปลกตา ผาช่อตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วาง อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ทางอุทยานจัดทำเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ตลอดเส้นทางจะพบกับธรรมชาติที่แปลกตา ทั้งกรวดหินที่เรามักจะเห็นตามก้นแม่น้ำ ร่องทางเดินที่เหมือนร่องน้ำไหล หรือหน้าผาหินสูงใหญ่ดูคล้ายแกรนด์แคนยอน ระยะทางเดินก็ไม่ไกลมาก พอให้หัวใจได้สูบฉีด มีจุดถ่ายภาพสวยๆ เท่ๆ ไปอวดเพื่อนฝูงตลอดทาง

“ผาช่อ” ความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่เดินทางผ่านกาลเวลานับพันปี อ่านเพิ่มเติม

น่าน….เต๊อะ

น่าน นครแห่งขุนเขา จุดหมายปลายทางที่ใครๆ ก็อยากเดินทางไปสักครั้ง….ทั้งสัมผัสอากาศหนาว ธรรมชาติที่สวยงาม วิถีชีวิตและความเงียบสงบ เรียบง่ายน่าอยู่ของจังหวัดนี้ ไปน่านทั้งทีเราเลยเก็บภาพและ 10 จุดเช็คอินมาฝากทุกคน …. อยากไปเที่ยวไหน แนะนำเลยว่า น่าน..เต๊อะ (เต๊อะ เป็นภาษาเหนือแปลว่า เถอะนะ) …. รับรองว่าครบ ฟิน แล้วจะตกหลุมรักนครแห่งขุนเขานี้ไปกับเราแน่นอน 10 จุดเช็คอินน่าน .1. หอศิลป์ริมน่าน2. วัดหนองบัว3. Cocoa Valley4. ดอยซิลเวอร์5. ดอยสกาด6. บ่อเกลือสินเธาว์7. ถนนหมายเลข 38. ถนนคนเดินน่าน9. วัดภูมินทร์10. วัดช้างค้ำ หอศิลป์ริมน่าน.แหล่งรวมงานศิลปะและวัฒนธรรมขนาดใหญ่ของจังหวัดน่าน บนพื้นที่กว่า 13 ไร่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน โดยมีการแสดงผลงานต่างๆ ในรูปแบบกึ่งนิทรรศการถาวรให้ได้ชมเกือบตลอดทั้งปี ในสภาพภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติ เพื่อให้คนที่มาเสพศิลปะนั้นได้ความรู้สึกสบายใจและพักผ่อนไปด้วย ภายในจัดแสดงงานศิลปะทั้งภาพวาด และงานศิลปะต่างๆ ที่จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไปตามวาระต่างๆ และด้านหลังบริเวณเฮือนศรีนวลเป็นรานกาแฟและจำหน่ายของที่ระลึก ที่สามารถนั่งพักผ่อนพร้อมชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำน่านท่ามกลางธรรมชาติได้อีกด้วย.เปิดทำการวันพฤหัสบดี-วันอังคาร ตั้งแต่เวลา 9:00-17:00 น. และปิดให้บริการทุกวันพุธเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชมคนละ 20 บาทโทร. 081 9892 912 , 054 798 046พิกัด https://goo.gl/maps/EcvxT3TJn3be8Bys8รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/holsil.rimnan วัดหนองบัว.ตั้งอยู่ในอำเภอท่าวังผา เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่ท่ามกลางหมู่บ้านชาวไทลื้อ ใครมาจังหวัดน่านแล้วไม่ได้มาวัดหนองบัวถือว่าพลาดมาก เพราะวัดนี้มีภาพเขียนสีสกุลช่างไทลื้อที่หาชมได้ยากมากๆ เพราะมีอยู่แค่ 2 แห่งเท่านั้นในจังหวัดน่านก็คือที่วัดภูมินทร์และวัดหนองบัวแห่งนี้ ภาพเขียนสีฝาผนังก็มีความงดงามมากเป็นภาพวาดที่สื่อถึงวิถีชีวิตของชาวไทลื้อ ส่วนด้านหลังของวัดก็ยังมีจุดแสดงวัฒนธรรมของชุมชน มีการทอผ้าซิ่นพร้อมทั้งจำหน่ายให้ได้เป็นของฝากกันอีกด้วย.เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/sFKg8TSyCV1kVpMm9รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/106watnongbua/ Cocoa Valley.แหล่งรวมกิจกรรม ที่พัก และค่าเฟ่น่ารักๆ พร้อมกับวิวธรรมชาติที่สวยงาม ผู้ที่ชื่นชอบช็อคโกแลตไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งการเก็บโกโก้จากสวน การชมกรรมวิธีในการผลิตช็อคโกแลต การทำช็อคโกแลตบาร์ด้วยตัวเอง การดื่มเครื่องดื่มและขนมสุดแสนอร่อยที่มาจากต้นโกโก้ที่ปลูกแบบวิถีเกษตรอินทรีย์ มาตรฐาน Earth safe จากมูลนิธิรักษ์ดิน รักษ์น้ำ มั่นใจได้เลยว่าเป็นโกโก้แท้ 100% และถ้าใครอยากซึมซับบรรยากาศกับธรรมชาติแบบชุ่มฉ่ำก็ต้องพักที่นี่เลยจ้า รับรองว่าต้องตกหลุมรักที่นี่อย่างแน่นอน.เปิดทุกวัน 10.00-18.00 น.โทร. 063 791 1619พิกัด https://goo.gl/maps/hKY1GB9EN58poNV26รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/cocoavalleyresort/ ดอยซิลเวอร์.ศูนย์หัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน และยังได้สืบสานศิลปหัตถกรรมเครื่องประดังเงินจากบรรพบุรุษ ด้วยประสบการณ์ด้านเครื่องประดับเงินมากกว่า 70 ปี เป็นแหล่งเรียนรู้การทำเครื่องเงินที่สร้างสรรค์ ที่ไม่ได้เป็นแค่สถานที่จำหน่ายเครื่องเงิน แต่ยังมีกิจกรรมการทำเครื่องประดับจากเงินให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกันอีกด้วย ทั้งสร้อย ต่างหู สามารถร่วมทำตามความชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเลยจ้า.เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.โทร. 054 791 650พิกัด https://goo.gl/maps/hHRpCaHxjndBTAK66รายละเอียดเพิ่มเติม : https://doisilver-factory.com/  ดอยสกาด.ตั้งอยู่ในอำเภอปัว หมู่บ้านเล็กๆ เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวไทยภูเขาเผ่าลัวะ ที่มีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีที่พักแบบโฮมสเตย์ สามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาดอยภูคาได้แบบพาโนรามา ใครที่อยากสัมผัสกับธรรมชาติแบบเป็นส่วนตัว เงียบสงบ ชมความสวยงามของวิวธรรมชาติ สัมผัสอากาศหนาวพร้อมกับการดริฟกาแฟ จิบชาอัสสัม (ของดีดอยสกาด) ถ่ายภาพสวยๆ จากวิวของที่พัก ต้องมาที่นี่เลย…ห้ามพลาด แถมเจ้าของบ้านก็น่ารักมากๆ เป็นกันเองและทำอาหารอร่อยมากอีกด้วยจ้า  บ่อเกลือสินเธาว์โบราณ.ตั้งอยู่ที่อำเภอบ่อเกลือ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 80 กิโลเมตร มีชื่อเสียงในการทำเกลือสินเธาว์ โดยเป็นการทำเกลือบนภูเขาที่ไม่มีที่ใดเหมือนหรือจะเรียกว่าเป็นที่เดียวในโลกก็ว่าได้ บ่อเกลือนี้มีมาตั้งแต่โบราณ แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 2 บ่อเท่านั้น คือบ่อเกลือเหนือและบ่อเกลือใต้ ที่นี่ยังคงมีการต้มเกลือแบบโบราณให้เราได้ชมกันอีกด้วย และยังมีผลิตภัณฑ์มากมายที่ทำจากเกลือให้เราได้ซื้อหากันเป็นของฝาก เช่น ดอกเกลือ เกลือพอกหน้า เกลือขัดผิว ยาสีฟันเกลือ ใครได้ไปเที่ยวที่นี่ก็อย่าลืมอุดหนุนผลิตภัณฑ์ดีๆ ของชุมชนนี้กันนะจ๊ะ.เปิดทุกวัน 06.30-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/Xx1v1KW1DrCcWjgD7  ถนนหมายเลข 3.ถนนที่มีความโค้งสวยงามเหมือนเลข 3 อยู่บนทางหลวงหมายเลข 1081 สายสันติสุข-บ่อเกลือ ช่วงกิโลเมตรที่ 38-39 เป็นเส้นถนนที่มีความสวยงาม ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ตามแนวธรรมชาติที่เห็นแล้วต้องร้องว้าว…… ถือว่าถนนสายนี้สวยมากจริงๆ เหมาะกับการถ่ายภาพ เช็คอินลงโชเชียลมากๆเลย ใครที่เดินทางไปเที่ยวที่อำเภอบ่อเกลือขากลับก็อย่าลืมแวะตรงนี้เพื่อถ่ายภาพสวยๆกันก่อนนะจ๊ะ.พิกัด https://goo.gl/maps/VgcAgJ8ucXE8jm2Q6  ถนนคนเดินเมืองน่าน หรือที่เรียกกันว่ากาดข่วงเมืองน่าน.แหล่งช็อปปิ้งที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ถ้าได้มาเที่ยวจังหวัดน่านแล้วไม่ได้มาเดินถนนคนเดินเมืองน่านถือว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ เพราะที่นี่ถือเป็นศูนย์รวมของอร่อย สินค้าพื้นเมือง ของแฮนด์เมดมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อกัน และบริเวณด้านข้างของวัดภูมิทร์ก็มีลานกว้างให้เราได้นั่งกินอาหารกันพร้อมกับชมบรรยากาศเมืองน่าน ฟังเพลงพื้นเมืองเพราะๆ และสัมผัสอากาศดีๆ ของเมืองนี้กันด้วย รับรองว่าถ้าได้ไปเดินเที่ยวกันแล้วจะต้องทั้งอิ่มท้อง และได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านกันแน่นอน.เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลาประมาณ 17.00-22.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/qWM9SUVYbBRAUYjB9  วัดภูมินทร์.วัดนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองน่าน และเป็นไฮไลท์สำหรับการมาท่องเที่ยวจังหวันน่านเลยทีเดียว เพราะด้วยความสวยงามและความเป็นมาที่น่าสนใจมากๆ รวมถึงจิตกรรมฝาผนังหรือที่เรียกกันว่าฮูบแต้มที่อยู่ภายในพระอุโบสถสวยงามมากจริงๆ เป็นเหมือนการบรรยายวิถีชีวิตและตำนานพื้นบ้านของคนเมืองน่านในอดีตด้วยการวาดภาพ ส่วนภาพที่ทุกคนมาแล้วต้องดูให้ได้ก็คือภาพปู่ม่าน ย่าม่าน ตำนานแห่งคำว่าน่านกระซิบรัก และนอกจากจะไปสักการะพระพุทธรูป ชมจิตรกรรมฝาผนังอันเลื่องชื่อกันแล้วก็อย่าลืมซื้อของที่ระลึกกันนะจ๊ะ มีทั้งภาพวาดเหมือนจิตรกรรมฝาผนังของวัด ภาพปู่ม่าน-ย่าม่าน ให้เลือกกันมากมายเลยจ้า แล้วก็อย่าลืมไปลอดช่องประตูใต้ท้องพญานาคกันนะจ๊ะเพราะเชื่อกันว่าถ้าเป็นคนต่างถิ่นได้ลอดช่องประตูนี้แล้วจะได้กลับมาเยือนเมืองน่านอีกครั้ง.เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/Pcayk24NCuM3rwcj8  วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร.เดิมเรียกวัดหลวง หรือวัดหลวงกลางเวียง ตั้งอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน เป็นที่ประดิษสถานพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน ด้านในวัดมีเจดีย์ทรงลังกา (ทรงระฆังคว่ำ) ซึ่งเป็นศิลปสมัยสุโขทัย โดยรอบเจดีย์มีรูปปั้นช้างปูนปั้นเพียงครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ ปางลีลา วัดนี้ถือเป็นวัดที่มีความสวยงามมากอีกที่หนึ่งของจังหวัดน่านที่น่าแวะไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล หากใครมีเวลาเราแนะนำให้ถวายสังฆทานที่นี่เลยเพราะนอกจากหลวงพ่อจะให้ศีลให้พรเป็นภาษาเมืองเหนือแล้วหลวงพ่อก็จะเล่าประวัติความเป็นมาของวัดนี้ให้ฟังด้วย ถือว่าอิ่มบุญและได้ความรู้กลับมาด้วยจ้า.เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.พิกัด https://goo.gl/maps/rY3dRxpRWyVGrMoc8 

น่าน….เต๊อะ อ่านเพิ่มเติม

Hua Hin Surf

“หัวหิน เป็นถิ่นมีหอย​“ แต่ตอนนี้นอกจากจะมีหอยที่ทะเลแล้ว ก็ยังมีชาว Surfer อยู่เต็มทะเลหาดเขาตะเกียบฝั่งซอยอ่าวหัวดอนเต็มไปหมดเลยจ้า กีฬาทางน้ำยอดนิยมสุดฮิตที่ตอนนี้หลาย ๆ คนน่าจะรู้จัก และอยากลองพิชิตกัน ก็คือ Surf นั่นเอง โดยปกติคนส่วนใหญ่จะรู้จักว่าประเทศไทยสามารถเซิร์ฟได้ที่ฝั่งอันดามันเท่านั้น นั่นเกิดจากที่ช่วง พ.ค.-ต.ค. อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ก่อเกิดมวลคลื่นจากมหาสมุทรอินเดียพัดเข้าสู่ฝั่งตะวันตกของไทย จึงทำให้จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ได้รับคลื่นเพราะอยู่ติดกับทะเลฝั่งอันดามัน และยังส่งผลให้จังหวัดที่อยู่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้รับคลื่นลม นั่นก็คือ จังหวัดระยอง จันทบุรี ซึ่งก็มีโรงเรียนสอนเซิร์ฟด้วย แต่ในช่วงเดือน พ.ย.- ก.พ. ลมมรสุมได้เปลี่ยนทิศ เป็นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากฝั่งทะเลจีนใต้พัดเข้ามา จึงทำให้เกิดคลื่นเข้ามายังอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นั่นก็คือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สงขลา (ก็น่าจะมีอีกหลายจังหวัดที่ได้รับคลื่นถ้าดูตามแผนที่แล้วนะ แต่ที่สามารถเล่นเซิร์ฟได้ชัวร์และมีคนเคยลองเล่นจริง ๆ ก็จังหวัดตามนี้เลย) หัวหินหนึ่งในพื้นที่สุดฮ็อตของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จึงเป็นจุดหมายของเหล่านักเซิร์ฟเข้ามาโต้คลื่นกันมากเพราะอยู่ใกล้ กทม. เดินทางสะดวก ที่พักพร้อม อาหารการกินเพียบ แต่การมาเซิร์ฟที่นี่ต้องคอยเช็คคลื่นให้ดี เดี๋ยวนี้มีตัวช่วยเพิ่มคือการดูพยากรณ์คลื่นผ่านแอพต่าง ๆ แต่เอาให้ชัวร์ก็ลองถามกับทางพื้นที่กันก่อน เพราะคลื่นที่หัวหินไม่ได้มีมาอย่างต่อเนื่อง เวลาคลื่นมาหัวหินก็จะได้รับปลาย ๆ เพราะมีประเทศเวียดนามกับกัมพูชากั้นเอาไว้ก่อนจึงทำให้ไม่ได้รับคลื่นเต็ม ๆ ต้องอาศัยช่วงที่มีลมมรสุมหรือพายุกำลังแรงจริง ๆ พัดเข้ามาจากทางทะเลจีนใต้ ที่จะทำให้หัวหินได้รับคลื่น และอาจจะเป็นจุดสปอตที่ดีเลยในช่วงพายุ เพราะตรงทะเลหาดเขาตะเกียบฝั่งซอยอ่าวหัวดอน มีเขาตะเกียบคอยกั้นลมไว้ให้ จึงทำให้เห็น swell สวย ๆ และคลื่นก็มีลักษณะนุ่มนวล ไม่ครอบง่าย อยากเจอของดีก็ต้องรอกันหน่อย อีกอย่างด้วยจำนวนคนที่ไปเล่นเยอะมากขึ้น อยากให้ระวังกันและกัน ก่อนจับคลื่นมองซ้าย มองขวา ไม่มีใครกำลังมา แล้วเราก็ไม่ได้ Drop in (ไปแย่งคลื่น) เขานะ จะได้ไม่ชนกัน และคอยดูแลบอร์ดตัวเองให้ดีดี อย่าให้หลุดจากตัวบ่อยเพราะมันอาจจะไปชนเอาคนข้าง ๆ หรือคนที่กำลังเล่นกันได้ ถือเป็นสิ่งแรก ๆ ที่น่าจะต้องคำนึงถึงเวลาไป surf ในที่คนเยอะ ๆ จ้า ถ้าใครอยากจะลองเรียน ลองโต้คลื่นที่หัวหิน ที่นี่ก็มีโรงเรียนเปิดให้เช่าบอร์ดและสอนเซิร์ฟเบื้องต้น สามารถติดตาม และสอบถามได้ที่ Weekend Surf Club Logger’s Paradise Hua Hin Surf Club ถ้าจะให้ดีควรสอบถามก่อนและจองเช่าบอร์ดล่วงหน้านะ ถามกันรายสัปดาห์ไปเลย ถ้า walk-in เข้าไปบอร์ดอาจจะมีไม่เพียงพอ

Hua Hin Surf อ่านเพิ่มเติม

กางเต็นท์ใต้ร่มเงาป่าสนเขา ตื่นเช้าท่ามกลางไอหมอกคละคลุ้งเหนือผิวน้ำ ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี

ป่าสนวัดจันทร์ หรือโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติ ในช่วงฤดูหนาวป่าสนวัดจันทร์จะเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศหนาวท่ามกลางทิวทัศน์ของป่าสน ซึ่งที่นี่ มีทั้งสนสองใบและสนสามใบ สลับกันไป ไฮไลต์ซึ่งเป็นที่กล่าวขานมากที่สุดของป่าสนวัดจันทร์คือ การได้สัมผัสกับลมหนาวที่พัดผ่านใบหน้าในช่วงเช้าท่ามกลางไอหมอกลอยละล่องเหนืออ่างเก็บน้ำ โอบล้อมด้วยผืนป่าเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นด้วยทิวสนเขาแผ่กิ่งก้านสาขากระจัดกระจายอยู่รายรอบ ในช่วงสายเมื่อไอหมอกจางหายไปก็จะได้ชมความงามของทิวทัศน์ยามแสงแดดส่องกระทบทิวสนเขา สะท้อนเงาสู่ผืนน้ำใสเบื้องล่าง มองไปคล้ายกับกระจกเงา (ช่วงเวลาที่แนะนำคือ 6.00-8.00 น) ป่าสนบ้านวัดจันทร์ มีกิจกรรมหลากหลายให้ได้เพลิดเพลินท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติ เช่น ตั้งแคมป์พักแรมกลางผืนหญ้า ริมสายน้ำ ใต้ร่มเงาสนเขา ปั่นจักรยานชมธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ นอนดูดาวเฝ้ารอดาวตก ลัดเลาะไปในผืนป่าในเส้นทางศึกษาธรรมชาติสั้น ๆ หรือจะพาย SUP Board ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดฮิตในช่วงนี้ และในช่วงต้นปีประมาณเดือนมกราคม-เดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่ป่าสนวัดจันทร์มีความสวยงามมากที่สุด เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับความงามของไอหมอกคละคลุ้งเหนืออ่างเก็บน้ำแล้วนั้น ยังเป็นช่วงที่บรรดาดอกไม้นานาพรรณต่างแข่งขันกันออกดอกบานสะพรั่ง แต่งแต้มผืนดินทั่วทั้งบริเวณด้วยสีสันสดใส ทั้งสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่ง และสีเหลือง ส้ม แดง เขียว ของใบเมเปิล สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน การเดินทางไปป่าสนวัดจันทร์ มีให้เลือกอยู่สองเส้นทาง1-เส้นทางสะเมิง (ใต้) ขับจากแยกสะเมิงตามถนนหมายเลข 1269 จนถึงที่ว่าการอำเภอสะเมิง แล้วเลี้ยวไปตามถนนหมายเลข 1349 อีกประมาณ 96 กิโลเมตร2-เส้นทางปาย (จ.แม่ฮ่องสอน) จากตัวเมืองเชียงใหม่มุ่งหน้าไปอำเภอแม่แตง เลี้ยวซ้ายแยกเลี่ยงเมืองแม่มาลัย-ปาย เข้าสู่ถนนหมายเลข 1095 เมื่อถึงจุดตรวจ อส อ.ปาย เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 1265 ประมาณ 40 กิโลเมตร.ป่าสนวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ 58130 FB : https://www.facebook.com/PasonWatchan/

กางเต็นท์ใต้ร่มเงาป่าสนเขา ตื่นเช้าท่ามกลางไอหมอกคละคลุ้งเหนือผิวน้ำ ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี อ่านเพิ่มเติม

ชิล | ชิม | ริม | คลอง กับคลองที่ดังที่สุดในตอนนี้ “คลองโอ่งอ่าง”

ที่มาที่ไปของคลองโอ่งอ่างนี้ ก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล เดิมคือพื้นที่ที่เราเรียกว่าย่านสะพานเหล็ก แหล่งขายเครื่องเล่นเกมส์และแผ่นเกมส์ต่างๆ สุดฮิตแห่งยุค 90 นั่นเอง ต่อมากรุงเทพมหานครได้ปรับปรุงภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่าง โดยย้ายร้านค้าเดิมที่ตั้งปิดคลองทั้งหมดออกไปและฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้เป็นระเบียบสวยงาม กลายมาเป็นสถานที่เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจให้กับชุมชนและนักท่องเที่ยว โดยมีผลงานสตรีทอาร์ตเท่ ๆ เก๋ ๆ ตลอดแนวคลองให้ได้มาถ่ายภาพสวย ๆ ไปอวดเพื่อน ๆ และถ้าใครอยากได้บรรยากาศความคึกคักต้องมาในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เพราะจะมีการจัดกิจกรรม “ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง” ที่เราจะพบทั้งของกินหลากหลาย สินค้าน่ารักๆ ดนตรีเปิดหมวก ผู้คนถ่ายรูปกับผลงานสตรีทอาร์ต เรียงรายตลอดแนวริมคลอง และกิจกรรมล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้มีคือ พายเรือคายัค หรือจะพายซับบอร์ดเท่ ๆ ในคลองโอ่งอ่างก็ได้ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นี้ ไม่ได้ไปไหน มาเดินชิล ชิม ริมคลองโอ่งอ่างกัน ช้าเดี๋ยวตกเทรนด์นะ .ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่างเปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เวลาสี่โมงเย็น – สี่ทุ่ม การเดินทาง : รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด | ทางออก 1

ชิล | ชิม | ริม | คลอง กับคลองที่ดังที่สุดในตอนนี้ “คลองโอ่งอ่าง” อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวแม่ฮ่องสอน มูฟออนเป็นวงกลม

เมื่อเริ่มเข้าสู่หน้าหนาว หลายคนก็คงวางแผนที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อไปผ่อนคลายและสัมผัสกับความหนาวเย็นท่ามกลางธรรมชาติและสายลม ซึ่งแน่นอนว่า “ภาคเหนือ” คงเป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนนึกถึงอย่างแน่นอน . จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเยอะมากกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) และเป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือที่ผู้คนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เนื่องด้วยบรรยากาศของธรรมชาติที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย มีทิวทัศน์ที่สวยงาม อยู่ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำ และถูกปกคลุมด้วยหมอกตลอดทั้งปี จึงได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหมอก 3 ฤดู หรือเมืองสามหมอก” นั่นเอง… . และครั้งนี้ แอดจะพาทุกคนไปมูฟออน (เป็นวงกลม) กับ 10 สถานที่น่าสนใจในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าแล้วตามแอดไปกันเลยค่ะ เที่ยวแม่ฮ่องสอน จะมูฟออนเป็นวงกลมอย่างไร ปกติแล้วเวลาเราไปแม่ฮ่องสอน เรามักจะเริ่มต้นเดินทางจากเชียงใหม่ ถ้าตามแผนที่นี้เราเดินทางเรียงลำดับจาก 1-10 เราจะวนกลับมาจบที่เชียงใหม่ได้โดยไม่ต้องย้อนกลับไปทางเดิมเลยนะจ๊ะ สถานที่แรกที่เราจะแนะนำนั่นก็คือ บ้านห้วยห้อม.เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้ มีหุบเขาล้อมรอบ อยู่ในเขตความรับผิดชอบของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย.จุดเด่นของที่นี่ก็คือกาแฟห้วยห้อม ซึ่งเป็นกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่มีรสชาติความเข้มข้น เป็นเอกลักษณ์ของห้วยห้อมโดยเฉพาะ และยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้าโอท็อประดับ 5 ดาวอีกด้วย.นอกเหนือจากกาแฟห้วยห้อมแล้ว ที่หมู่บ้านยังมีการผลิตผ้าทอขนแกะ ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อประดับห้าดาวเช่นเดียวกันกับกาแฟห้วยห้อม โดยผ้าทอขนแกะของที่นี่ถูกจำหน่ายและส่งออกไปทั่วประเทศและทั่วโลก โดยที่นี่จะใช้วิธีการทอผ้าด้วยเครื่องทอแบบโบราณ และมีลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ที่ถูกถ่ายทอดและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ได้แก่ ลายเมล็ดฟักทอง ลายดอกพริก ลายแมงมุม เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ที่ได้ก็มีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ เสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวแม่ฮ่องสอน ฯลฯ.นอกจากนี้ บ้านห้วยห้อมยังมีโฮมสเตย์ไว้ให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเข้ามาสัมผัสวิถีชิวิตของชาวเขาเผ่าปกาเกอะญออีกด้วย.บ้านห้วยห้อม ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอนโทร. 089-5553900 (ป้ามะลิวัลย์) ในช่วงนี้ แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดที่พลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ…ทุ่งดอกบัวตอง ณ ดอยแม่อูคอ.เป็นสถานที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว เนื่องจากดอกบัวตองจะบานสะพรั่งปกคลุมเต็มเทือกเขาในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ซึ่งทุ่งดอกบัวตองของที่นี่นับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย โดย 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และในช่วงที่แอดไปมานี้ก็นับว่าโชคดีมาก เพราะเป็นช่วงที่ดอกบัวตองบานเต็ม 100% เลยด้วย ว้าวมั้ยล่ะ!! ><.ใครที่อยากไปสัมผัสความสวยงามของดอกบัวตองของที่นี่ต้องรีบเลยน้า เพราะถ้าพลาดแล้ว ต้องรอไปถึงปีหน้าเลยนะจ๊ะ.โดยที่นี่สามารถเดินทางมาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือถ้าใครอยากจะกางเต็นท์นอนบนยอดดอยแล้วรอชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าก็ฟินไปอีกแบบจ้า ^^.ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนช่วงเวลาท่องเที่ยว : ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปีโทร. 053-612982 หากมาเที่ยวที่ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอแล้ว ขับรถต่อมาอีกประมาณ 10 นาที ก็จะเจอกับร้าน Pasoho Café กาแฟเด็กน้อยทำอร่อย.เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับบรรยากาศท้องทุ่งนา นั่งห้อยขาแบบชิล ๆ โดย “โพส่าโฮ” (Posaho) เป็นภาษาปกาเกอะญอ มีความหมายว่า “เด็กน้อย” ซึ่งเป็นชื่อของร้านกาแฟ.โดยร้านกาแฟแห่งนี้นั้น เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างคุณครูและนักเรียนจากโรงเรียนบ้านหัวแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อบริการกาแฟให้นักท่องเที่ยวหรือคอกาแฟได้ลิ้มรสนั่นเอง ภายในร้านเราจะเห็นเด็ก ๆ มาทำหน้าที่ต่าง ๆ อย่างคล่องแคล่ว เริ่มตั้งแต่การแนะนำเมนู เป็นบาริสต้าทำกาแฟ และเสิร์ฟเครื่องดื่มให้แก่ลูกค้า.ส่วนเรื่องรสชาติ เห็นเด็ก ๆ ชงแบบนี้ก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะว่าเด็ก ๆ และคุณครูได้ผ่านการอบรมการชงกาแฟมาเป็นอย่างดีจนได้ใบประกาศมาติดร้านด้วย รับรองว่าอร่อยและได้มาตรฐานแน่นอนค่ะ.ความพิเศษของร้านกาแฟแห่งนี้นั่นก็คือ ร้านจะเปิดเพียงแค่ 1 เดือน เฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวชมทุ่งดอกบัวตองเท่านั้นจ้า เพราะฉะนั้นใครที่มาชมทุ่งดอกบัวตองแล้ว ต้องห้ามพลาดเลยนะ.Posaho Café’ กาแฟเด็กน้อยทำอร่อย ตำบลแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนเวลาเปิด-ปิด : 09.00-17.00 น. เปิดเพียงแค่ 1 เดือน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปีโทร. 052-049213 “โครงการพระราชดำริปางตอง 2” หรือที่ใคร ๆ มักจะรู้จักกันในชื่อว่า “ปางอุ๋ง” นั้น.เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร.โดยปางอุ๋งถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเป็นสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ล้อมรอบไปด้วยป่าสนและดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด และในช่วงเช้า ก็จะมองเห็นภาพแสงอาทิตย์ที่สาดสะท้อนผืนน้ำ ผสานกับไอหมอกจาง ๆ ที่ลอยเรี่ยผืนน้ำ และบรรยากาศที่เย็นสบาย บอกได้คำเดียวว่าฟินแบบสุด ๆ ไปเลยค่ะและด้วยความสวยงามของปางอุ๋งนี้เอง จึงถูกขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” นั่นเอง.ซึ่งนอกจากความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ที่ปางอุ๋งเองยังมีกิจกรรมยอดฮิตที่ให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัส นั่นก็คือ การล่องแพชมทัศนียภาพบริเวณโดยรอบปางอุ๋ง ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำสุดประทับใจ .นอกจากนี้แล้ว ปางอุ๋งยังมีที่พักและมีจุดกางเต้นท์ไว้คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาค้างแรม เพื่อดูดาวเต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืนและสัมผัสกับไอหมอกในยามเช้าได้อีกด้วย.ปางอุ๋ง หมู่บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอนเวลาเปิด-ปิด : 05.30-18.00 น.โทร. 053-611244, 080-847-8456, 087-661-8594 บ้านรักไทย ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ใครที่ได้ไปที่แม่ฮ่องสอนไม่ควรพลาดที่จะมาชมความสวยงามของที่นี่.โดยบ้านรักไทยเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ตั้งอยู่ท่ามกลางไร่ชา ปกคลุมไปด้วยสายหมอก มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของขุนเขา อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,776 เมตร ทำให้มีอากาศที่เย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะหน้าหนาว ก็จะหนาวมากเป็นพิเศษ เหมาะแก่การเดินทางมาท่องเที่ยว หรือผ่อนคลายจากการเหนื่อยล้าแบบสุด ๆ.ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของชาและพืชเมืองหนาวเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าถูกใจขาช้อปของฝากอย่างแน่นอน เพราะมีการนำมาแปรรูปเพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้นำติดมือกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นไวน์ประเภทต่าง ๆ อาทิ ไวน์ลูกหม่อน ไวน์ลูกท้อ ไวน์มะขามป้อม ฯลฯ รวมไปถึงชาพันธุ์ต่าง ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งชาเขียว ชาอู่หลง และผลไม้อบแห้งนานาชนิดอีกด้วย.นอกจากนี้ บ้านรักไทยยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัส เช่น การเรียนรู้วัฒนธรรมไทย-จีน, การเดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติโดยมีมัคคุเทศก์น้อยในหมู่บ้านเป็นผู้นำทาง, การปั่นจักรยานชมบรรยากาศภายในหมู่บ้าน การขี่ม้าพาข้ามแดนไปชมทิวทัศน์ฝั่งพม่า, การศึกษาวิธีปลูกและทดลองเก็บใบชา ฯลฯ เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ครบจบแน่นอน.บ้านรักไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน น้ำตกผาเสื่อ.เป็นน้ำตกขนาดกลาง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ มีต้นกำเนิดมาจากลำน้ำแม่สะงาจากประเทศพม่า มีน้ำตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูฝนน้ำจะเยอะ กระแสน้ำจะไหลแผ่ลงมาจนเต็มน้ำผาด้านล่าง แต่กระแสน้ำจะไม่นิ่ง ทำให้ไม่เหมาะกับการลงเล่นน้ำ.โดยที่มาของชื่อน้ำตกผาเสื่อนั้นมีหลายกระแส เช่น

เที่ยวแม่ฮ่องสอน มูฟออนเป็นวงกลม อ่านเพิ่มเติม

เตยปาหนัน…ภูมิปัญญางานจักสานจากภาคใต้

เครื่องจักสานเป็นงานหัตถกรรมที่เราคุ้นเคย ถ่ายทอดส่งต่อมาแต่โบราณ วัสดุที่นำมาใช้ทำเครื่องจักสานส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นแต่ละแห่ง เช่น ไม้ไผ่ หวาย ต้นกก ใบลาน ย่านลิเภา ผักตบชวา กระจูด รวมถึง เตยปาหนัน.ว่าแต่…เพื่อน ๆ รู้จักเตยปาหนันกันไหม ถ้ายังไม่รู้จัก ตามมาค่ะ แอดจะพาไปทำความรู้จัก เพราะนี่เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่นำมาทำเครื่องจักสานได้สวยไม่แพ้พืชชนิดอื่น ๆ จนเพื่อน ๆ จะต้องร้องว้าวกับความสวยงามของงานจักสานเตยปาหนันอย่างแน่นอน เตยปาหนัน หรือต้นลำเจียก หรือเตยทะเล พบมากในภาคใต้ เป็นพืชตระกูลปาล์ม มักขึ้นตามริมชายหาด ชายทะเล ป่าโกงกาง ใบของเตยปาหนันมีสีเขียว ยาว มีหนามที่ขอบใบ คุณสมบัติพิเศษคือ มีความเหนียว และเมื่อเอาหนามออกและนำไปลนไฟ เส้นใยจะนุ่ม มีความยืดหยุ่น มันเงา และไม่มีเชื้อรา จึงเหมาะที่จะนำมาทำงานจักสาน.ใครที่มีภูมิลำเนาอยู่ทางภาคใต้ต้องคุ้นเคยกับเครื่องจักสานจากเตยปาหนันอย่างแน่นอน เพราะนิยมนำมาสานเป็นเสื่อ กระสอบ หรือกระเชอใส่ข้าวสาร เรียกได้ว่าเป็นของที่ทุกบ้านต้องมี ปัจจุบันมีการนำเตยปาหนันมาสานเป็นเครื่องใช้หลายแบบ และออกแบบลวดลายให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น สานเป็นกระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเงิน หมวก พวงกุญแจ ปลอกหมอน โคมไฟ กรอบรูป เป็นต้น.หากเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสเดินทางไปภาคใต้ อย่าลืมอุดหนุนสินค้าจากเตยปาหนันกันนะคะ จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์จากเตยปาหนัน คือ จังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง โดยมีกลุ่มแม่บ้านที่รวมตัวกันผลิตสินค้าจากเตยปาหนัน เช่น – กลุ่มผลิตภัณฑ์เตยปาหนัน บ้านหลังสอด ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่โทร. 0 6267 6865, 0 7561 1066 – กลุ่มหัตถกรรมเตยปาหนัน บ้านวังหิน ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่องใต้ จ.กระบี่ โทร. 08 5782 6574 – กลุ่มจักสานเตยปาหนัน บ้านดุหุน ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง โทร. 08 1777 5557.ขอบคุณรูปภาพจาก สานสาด https://www.facebook.com/sarnsard นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ และทำให้ผู้คนรู้จักเตยปาหนันมากขึ้น ผ่านแบรนด์ “สานสาด” ซึ่งใช้วัตถุดิบเตยปาหนันจากจังหวัดตรัง และสานโดยช่างฝีมือจากกลุ่มจักสานเตยปาหนัน บ้านดุหุน จังหวัดตรัง.ขอบคุณรูปภาพจาก สานสาด https://www.facebook.com/sarnsard ด้วยความโดดเด่นที่น่าสนใจ แบรนด์สานสาดถูกเลือกให้เป็นหนึ่งใน Young Thai Designers ของ Talent Thai & Designers’room 2019 นอกจากนี้ยังไปสะดุดตาดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส จนได้รับการชักชวนให้นำผลงานไปเป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ใน Mahanakhon Bangkok SkyBar กรุงเทพฯ.หากสนใจผลิตภัณฑ์ของ สานสาด สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 09 4636 4542 หรือ Facebook: SarnSard.ขอบคุณรูปภาพจาก สานสาด https://www.facebook.com/sarnsard

เตยปาหนัน…ภูมิปัญญางานจักสานจากภาคใต้ อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top