เพื่อนร่วมทาง

เที่ยวแบบสายกรีนที่ปทุมธานี ตอนที่ 1

เที่ยวแบบสายกรีนที่ปทุมธานี ท่องเที่ยวสไตล์ใหม่ ใส่ใจธรรมชาติ เรียนรู้การเกษตร อินเทรนด์กับร้านต้นไม้ เอนกายพักผ่อนโฮมสเตย์ริมคลอง ชิมของอร่อยที่ตลาดริมน้ำ อิ่มหนำกับเบเกอรี่และเครื่องดื่มที่คาเฟ่ดอกไม้ในสวน หากขับรถมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร ราว 40 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็เข้าสู่ จังหวัดปทุมธานี หนึ่งในห้าจังหวัดปริมณฑลที่ตั้งอยู่ชิดติดขอบเมืองกรุง บนพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม้ความศิวิไลซ์ได้หลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปทุมธานีกลายเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนาทาง เทคโนโลยีและอุตสาหกรรม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพื้นที่สีเขียว เรือกสวนไร่นาของชาวบ้านอันหนาแน่นไปด้วย พืชผักผลไม้นานาชนิด และวิถีชีวิตของชุมชนริมฝั่งคลอง ที่สัมผัสได้ถึงท่วงทำนองของการดำเนินชีวิตอันเรียบง่าย ฉายให้เห็นเสน่ห์ที่ซุกซ่อนอยู่ในจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งผสานความเป็นเมืองและความเป็นชนบทเอาไว้ได้อย่างสมดุล สำหรับสายเที่ยวรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ชื่นชอบธรรมชาติด้วยแล้ว เราเชื่อว่าปทุมธานีมีสิ่งดี ๆ ให้คุณแอบหลงรัก เราจึงอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับ 12 สถานที่ ดีต่อใจในจังหวัดปทุมธานี นอกจากจะได้ท่องเที่ยว อย่างสบายใจแล้ว ยังได้เก็บเกี่ยวความรู้มากมายระหว่างการเดินทางอีกด้วย จะเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ หรืออยู่พักสัก 2 วัน 1 คืน ให้ชื่นมื่นหัวใจ ได้อ้อยอิ่งใช้ชีวิต ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ก็บอกได้เลยว่าเพลิดเพลินเกินคาดเลยทีเดียว ชวนคุณหวนคืนสู่ธรรมชาติ ในบรรยากาศเหมือนกลับบ้าน สัมผัสความสุขที่หาไม่ได้ในเมืองกรุง ณ บ้านพันไม้ คาเฟ่ แอนด์ ฟาร์ม ริมคลองบางเตย ในอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ที่สามารถแวะเวียนมาเยี่ยมชมได้เฉพาะวันหยุดเท่านั้นด้วยคอนเซปต์ของที่นี่คือ “บ้าน” ซึ่งอาศัยอยู่จริง ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์จึงเป็นที่พักของครอบครัว แต่จะเปิดต้อนรับแขกเพียง 2 วัน คือ เสาร์และอาทิตย์ ตามแนวคิดของคุณโก้เจ้าของร้าน ที่ตั้งใจอยากจะทำบ้านให้มีรายได้ สามารถหาเงินเลี้ยงตัวมันเองได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้เป็นธุรกิจที่มีความสุข อยู่บ้านแล้วก็มีความสุข ได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติจึงเกิดเป็น “บ้าน1000ไม้ Café and Farm” แห่งนี้ บนเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 3 ไร่ ภายในบ้าน ถูกจัดสรรปันส่วนให้เป็นบ่อน้ำ 30 % นาข้าว 30% ทำเกษตรแบบผสมผสาน เช่น การปลูกไม้ผล ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ 30 % และอีก 10% คือบ้านอยู่อาศัย ดังนั้น ในวันหยุดที่บ้านหลังนี้เปิดต้อนรับแขก ที่มาเยือน ก็เสมือนได้มาเรียนรู้การเกษตร ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งคุณโก้ ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ในชีวิตจริง สำหรับเด็กๆ แล้วที่นี่น่าจะเป็นอาณาจักรแห่งความสุข เพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบายสี พายเรือ ทำเสื้อมัดย้อม เล่นทราย เก็บไข่เป็ดไข่ไก่ ทำไข่เค็ม ดำนา ทำสวน ปลูกผักไฮโดร โปนิกส์ ฯลฯ เรียกได้ว่า เป็นการเปิดโลกแห่งจินตนาการและเรียนรู้ผ่านวิถีธรรมชาติ ที่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ หรือมาแบบทั้งครอบครัว ด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ ภายใต้ร่มเงาของต้นจามจุรียักษ์ ก็มีคาเฟ่ให้นั่งพักจิบกาแฟ และเครื่องดื่มเย็นๆ ทานอาหารอร่อยๆ ที่ใช้วัตถุดิบจากในฟาร์ม ชิมขนมโบราณอย่างบ้าบิ่น หรือจะนั่งอ่านหนังสือรับลมเย็นๆ บนบ้านต้นไม้ก็ได้ ที่ศาลาริมแม่น้ำก็ดี ระหว่างรอเด็กๆ ทำกิจกรรมก็ชิลๆ กันได้ทั้งวันเลยทีเดียว.ที่ตั้ง: 48/8 ม. 6 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 12160วัน-เวลา: วันเสาร์-วันอาทิตย์ (และวันหยุดต่อเนื่อง) 10.00 – 17.00 น.ค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชมโทร. 091 998 2466เว็บไซต์: www.facebook.com/บ้าน๑,๐๐๐ไม้cafe’&farm  Wisdom Farm: จิบกาแฟท่ามกลางบรรยากาศแปลงนาอินทรีย์ สัมผัสเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตเกษตร เราเดินเลี้ยวลดไปบนสะพานไม้ไผ่ที่คดเคี้ยวทอดตัวยาวไปตามแปลงนาสีเขียวสด สองฝั่งทางเดินเป็นสระบัวและแปลงนาสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่ พื้นที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งโซนเปิดใหม่ ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี่เอง ชื่อว่าโซน Wisdom Farm แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรภายใต้คอนเซปต์ สืบสาน รักษา ต่อยอด ศาสตร์ของพระราชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยแบ่งออกเป็นฐานการเรียนรู้สัตว์ในวิถีเกษตร หากเดินไปจนสุดสะพานไม้จะพบกับลานชมสัตว์ที่สามารถให้อาหารเหล่าน้องวัว น้องควาย น้องแพะ น้องหมูแคระได้ด้วย หลังจากนั้น เราแวะชมแปลงเกษตรการปลูกพืชแบบผสมผสานที่อยู่ไม่ไกลกัน ถัดไปอีกนิดเป็นโซนเรือนไทย 4 ภาค ที่จำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ สัมผัสเสน่ห์ของวิถีเกษตรไทย ที่สะท้อนความเชื่อ วิถีชีวิต และประเพณี โดยจะมีกิจกรรม work shop ของแต่ละภาคให้เราทำด้วย นอกจากนี้ ยังมีโซนบ้านดิน บ้านฟางที่จำลองการสร้างที่พักอาศัยตามวิถีชีวิตของเกษตรกรที่อยู่อย่างเรียบง่ายใกล้ชิดกับธรรมชาติ แล้วยังสามารถเข้าไปชมเรือขุดคลองสมัยรัชกาลที่ 5 ตื่นตา ตื่นใจกับเครื่องบินที่ใช้ทำฝนหลวงได้อีกด้วย อีกหนึ่งความพิเศษที่เป็นไฮไลท์ของโซนนี้เลย ก็คือ Wisdom Café ร้านกาแฟเกษตรอินทรีย์ริมทุ่งนา ที่เราอยากชวน คุณมานั่งพักจิบกาแฟคุณภาพดี หรือเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ผ่อนคลาย ถ่ายรูปสวยๆ ท่ามกลางบรรยากาศแปลงนาอินทรีย์ เมนูแนะนำของที่นี่ คือ น้ำส้มคั้นสดใหม่ ดื่มแล้วชื่นใจ ไร้สารพิษ ดีต่อสุขภาพ เราแอบเห็นหนึ่งเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่ง ชาเขียวโกโก้หน้าตาน่ากิน ฟินแบบทูอินวันในแก้วเดียว ในส่วนของตัวร้านสร้างด้วยโครงไม้ไผ่ขนาดเล็กแบบโอเพ่นแอร์ มีระเบียงไม้ยื่นออกมาสำหรับเป็นที่นั่งชมวิว หรือจะนั่งข้างนอกร้านก็มีแคร่ไม้ไผ่ ได้ฟีลกลิ่นอายริมทุ่งนาจริงๆ สำหรับ ใครที่ชอบแบบตื่นเต้นนิดๆ ก็มีเปลตาข่ายที่ยื่นออกไปในสระบัว สามารถลงไปนั่ง ไปนอน ถ่ายรูปเก๋ ๆ ลงโซเชียลอวด เพื่อนๆ ก็ดีต่อใจไม่แพ้กัน ที่ตั้ง: หมู่ที่ 13 ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120วัน-เวลา: วันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 9.00 –

เที่ยวแบบสายกรีนที่ปทุมธานี ตอนที่ 1 อ่านเพิ่มเติม

ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง

ภาพคลองโอ่งอ่างย่านสะพานเหล็กในความคิดของเพื่อน ๆ เป็นยังไงกันบ้าง ? ถ้ายังคิดว่าเป็นย่านขาย CD เถื่อน หรือยังนึกถึงภาพสะพานข้ามคลองแคบ ๆ โทรม ๆ แออัดล่ะก็ ลืมภาพนั้นไปได้เลย เพราะปัจจุบันคลองโอ่งอ่างอัพเกรดแล้ว ทางกรุงเทพมหานครได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ ขยับขยายย้ายร้านค้าเดิมที่ตั้งปิดคลองทั้งหมดออกไป ฟื้นฟูพื้นที่ให้เป็นระเบียบสวยงาม ทำความสะอาดคลองจนน้ำเริ่มใส รวมทั้งมีการจัดทำ Street Art สวย ๆ เกือบตลอดแนวคลอง กลายเป็นสถานที่เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจให้กับชุมชนและนักท่องเที่ยว ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมีกิจกรรมพิเศษคือ “ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง” อีกด้วย ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง ครอบคลุมพื้นที่ 5 สะพาน (สะพานดำรงสถิต หรือสะพานเหล็ก สะพานภาณุพันธุ์ สะพานหัน สะพานบพิตรพิมุข และสะพานโอสถานนท์) เดินเล่นได้ทั้งสองฟากคลอง โดยโซนสะพานหันจะคึกคักที่สุด ส่วนการเดินทาง แอดแนะนำให้ใช้ MRT เพราะง่ายที่สุด สะดวกที่สุด จาก MRT สถานีสามยอด (ทางออก 1) เดินไม่ถึง 100 เมตรก็ถึงสะพานดำรงสถิตแล้ว เพื่อน ๆ จะได้เห็น Street Art ยาวไปทั้งสองฟากของคลองโอ่งอ่าง สวย ๆ ทั้งนั้น สองฝั่งคลองโอ่งอ่างคือย่านการค้าสำเพ็งและพาหุรัด Street Art ที่นี่จึงมีทั้งภาพวิถีชีวิตของชาวไทย ชาวจีน ชาวแขก ดูไปยิ้มไป ถ่ายรูปกันสนุกเลยทีเดียว จริงอยู่ที่ถนนคนเดินจะเปิดตอน 16.00 น. แต่แอดแนะนำให้มาประมาณ 17.00 น. เพราะเป็นช่วงแดดร่มลมตก ร้านค้าพร้อมเปิดร้านขายแล้วนั่นเอง มีผลงานของคุณ โอ๋ ฟูตอง อาร์ทิสต์สาวสุดเก๋ ด้วยนะ คลองโอ่งอ่าง เปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เวลา 16.00 – 22.00 น.การเดินทาง : รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามยอด | ทางออก 1 เดินเล่นมาถึงช่วงสะพานหัน ก็รู้สึกหิวขึ้นมานิด ๆ อดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปที่ร้าน “เจ๊บ๊วย 60 ปี สะพานหัน” แอดสั่ง ก๋วยจั๊บและปอเปี๊ยะสดเพิ่มเนื้อปู มาลองชิมดู บอกเลยว่าต้องลอง อร่อยมาก โดยเฉพาะปอเปี๊ยะสด ห้ามพลาดเลยนะ!!!.ที่ตั้ง 22 ซอย วานิช 1 แขวง จักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100เปิดทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี 09.30 น. -17.00 น. / ศุกร์-อาทิตย์ 09.30 น. -19.30 น.โทร. 09 4664 4656 อิ่มท้องแล้วก็ไปเดินเล่นกันต่อ เดินไปไม่ไกล ก็เจอตรอก AMA Café/ AMA Hostel ป้ายใหญ่โตสะดุดตา เดินเลี้ยวเข้าไปปุ๊บก็เจอโคมแดงแขวนตกแต่ง ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ เดินต่ออีกไม่กี่ก้าว ก็จะพบกับ AMA Café อยู่ทางด้านขวา ที่นี่เคยเป็นบ้านจีนโบราณอายุนับร้อยปี ก่อนจะรีโนเวทให้เป็นคาเฟ่และโฮสเทลในสไตล์จีนร่วมสมัย สำหรับขาจรแบบแอด จะอยู่ได้แค่ชั้นล่างที่เป็นโซนคาเฟ่ เลือกสั่งได้ตรงเคาน์เตอร์เลย เครื่องดื่มรสชาติดีใช้ได้เลย ทั้งกาแฟ โกโก้ ชาไทย เหมาะกับการนั่งพักสุด ๆ ที่ตั้ง 191 ซอยสะพานหัน ถนน จักรวรรดิ แขวง จักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100เปิดทุกวัน 09.00 น. -17.30 น.โทร. 08 5867 7888 ไหน ๆ ย่านนี้ก็มีทั้งวัฒนธรรมจีนและอินเดียผสมผสานกันอยู่ แล้วเราจะพลาดอาหารอินเดียไปได้ไง เดินข้ามสะพานตามแอดมาฝั่งตรงข้ามกัน เราจะไปที่ร้าน Tony’s Restaurant ร้านนี้เป็นร้านอาหารอินเดียแนว Street Food ราคาเป็นมิตร รสชาติแบบ Home Cook ใครสนใจลองก็เข้ามาเลย เมนูที่แอดสั่งวันนี้ คือ แกงไก่มาซาลา แป้งโรตี และ Lassi (เครื่องดื่มที่ทำจากโยเกิร์ต) ซึ่งแอดสั่งแบบหวานมา รสชาติดื่มง่ายกว่าหลายร้านที่แอดเคยดื่มมาก่อน ประทับใจมากทีเดียว ที่ตั้ง 64/1 ซอย ริมคลองโอ่งอ่าง แขวง วังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200เปิดทุกวัน 11.00 น. -22.00 น. ระหว่างเดินเล่น อย่าลืมมองพื้นนะ มี “ฝาท่อลายศิลป์” สวย ๆ เก๋ ๆ รอให้เพื่อน ๆ ค้นหาอยู่ด้วย ก่อนกลับบ้าน แอดจะพาไปแวะร้าน Ing Teahouse ร้านชานมไข่มุกและขนมไต้หวันอีกสักร้าน มีเมนูให้เลือกสั่งเยอะแยะ เครื่องดื่มอื่นที่ไม่ใช่ชาหรือกาแฟก็มีนะ แอดเลยสั่ง Mojito มาดื่มเพิ่มความสดชื่น ที่ตั้ง 136 ถนน จักรวรรดิ แขวง จักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์ 10.00 น. – 21.00 น.โทร. 08

ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง อ่านเพิ่มเติม

เดินชิลล์…ชมย่านเก่าแก่ จากนานาถึงทรงวาด

ว่างหนึ่งวันแต่ไม่อยากออกนอกเมือง งั้นมาเที่ยวกลางเมืองก็แล้วกัน วันนี้แอดจะชวนไปเดินชิลล์…ชมย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ นั่นก็คือเยาวราชค่ะ ถึงแม้จะเป็นสถานที่เดิม แต่แอดมาได้มาดีไม่มีเบื่อ เพราะแต่ละจุดก็มีเรื่องราวใหม่ ๆ ร้านใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ คราวนี้แอดจะพาไปเดินเล่นที่ซอยนานากับถนนทรงวาดกันค่ะ เป็นย่านที่ครบจบทุกอย่าง ทั้งเดินเที่ยว ตะลุยกิน ชมวิถีชีวิตคนในชุมชน ได้สัมผัสบรรยากาศวัฒนธรรม ที่สำคัญการเดินทางก็แสนจะง่ายอีกด้วย 1.The Mustang Blu Cafe & Restaurant2.Wallflowers Cafe3.Nahim Cafe4.103 Bed and Brews5.เฮงยอดผัก กินไม่รู้อิ่ม6.Baan 2459 Heritage Hotel7.หนูรี่ไอศกรีมเกาลัด เกล็ดหิมะ8.มัสยิดหลวงโกชา อิศหาก9.Woodbrook Bangkok10.เอฟ.วี (F.V)11.ขนมจีบอาเหลียง12.ตึกแขก ถนนทรงวาด13.ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนา (หน้าโรงหนัง) สาขา 214.ปาเฮ่าเถียนมี่ พุดดิ้ง ย่านนานา ซอยนานา ตั้งอยู่บริเวณถนนไมตรีจิตต์ ไม่ไกลจาก MRT สถานีหัวลำโพงมากนัก เดินออกทางออกที่ 1 เราก็จะเจอถนนกรุงเกษม เดินข้ามไฟแดงก็จะพบกับถนนไมตรีจิตต์แล้วล่ะ ระหว่างก้าวเดินหันขวาไปจากตรงนี้จะเป็นสถานีรถไฟหัวลำโพงที่มองไกล ๆ ก็ยังสวยงามและคลาสสิกอยู่เสมอ เมื่อได้กลิ่นสมุนไพร ยาจีนเข้าจมูกเมื่อไหร่ แสดงว่าเราอยู่ในย่านนานาแล้วล่ะ ย่านนี้แต่เดิมมีร้านขายยาจีนหลายร้าน ก่อนจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย บ้านเก่าหลายหลังกลายเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ลับนั่งดื่มชิลล์ยามค่ำคืน เพิ่มสีสันแปลกใหม่ให้ย่านนานาคึกคักต่างจากเยาวราชจุดอื่น เอาล่ะ ไปเดินเล่นกันดีกว่า ในย่านนานา เรายังได้เห็นอาคารเก่าสวยคลาสสิคอยู่หลายอาคารเลย และที่สะดุดตาแอดที่สุดก็คือ The Mustang Blu Cafe & Restaurant ตึกเก่าวินเทจอายุกว่าร้อยปี น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลย ดึงดูดสายตาแบบนี้ต้องเก็บภาพสักหน่อย The Mustang Blu เป็นทั้งที่พักและคาเฟ่ ได้ยินว่าด้านในตกแต่งสวยมาก คงโครงสร้างของตึกสไตล์โคโลเนียลไว้เหมือนเดิม บรรยากาศมีความดิบ และจัดจ้านในสไตล์คิวบา ไว้โอกาสหน้าแอดจะพาชมด้านในนะคะ เปิดทุกวัน เวลา 12.00 – 21.00 น. (ปิดวันพุธ)โทร. 06 2293 6191 ขอบคุณรูปภาพจากเพจ The Mustang Blu Wallflowers Cafe เป็นร้านดังในย่านนานาที่หลายคนน่าจะได้เห็นรูปอยู่บ่อย ๆ หน้าร้านเต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ และไม้เลื้อยหลากหลายชนิด ตัดกับโครงสร้างตึกและการตกแต่งแบบย้อนยุค คุมด้วยโทนสีน้ำตาลและดำ ดูดีเลยทีเดียว มาร้านนี้เสมือนเราได้มานั่งจิบกาแฟในสวนทำนองนั้น บอกเลยว่าเป็นคาเฟ่ที่สามารถเก็บภาพได้ทุกมุมเลย นอกจากความโดดเด่นของร้าน เมนูก็มีเอกลักษณ์ไม่แพ้ใคร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม เบเกอรี เค้กโฮมเมดที่ตกแต่งด้วยดอกไม้จนเป็นซิกเนเจอร์ แอดสั่ง เค้กแครอท เนื้อเค้กนุ่มฟู ท็อปด้วยดอกไม้หน้าตาดูดีเลยทีเดียว เครื่องดื่มก็มีทั้ง Coffee / Non-Coffee / Sparking มีให้เลือกหลากหลายเลยค่ะ ที่ตั้ง 31-33 ซอยนานา แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯเปิดวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 11.00-18.30 / วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-21.00 น.โทร. 09 0993 8653 Nahim Cafe ร้านนี้อ่านว่า นะฮิม คาเฟ่ค่ะ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้าน Wallflowers เลย หาไม่ยาก บอกเลยว่าร้านนี้เน้นแจกความสดใสสุด ๆ ร้านน่ารักมาก (ก.ไก่ล้านตัว) แค่เห็นหน้าร้านก็ทำให้รู้สึกว่าต้องเข้าไปแล้วล่ะ ในร้านตกแต่งในสไตล์แฮนด์คราฟท์ ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นนั่ง ขั้นบันได ผนังที่มีลายเส้นของตัวการ์ตูน นอกจากร้านจะน่ารักแล้ว เมนูแต่ละเมนูก็น่ารักมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นโดนัท โทสต์ เครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลาย คาเฟ่เล็ก ๆ นี้ดูแปลกตาต่างจากร้านอื่นในบริเวณเดียวกัน เป็นความน่ารักท่ามกลางความคลาสสิกของตึกเก่าย่านนานาที่แอดชอบมากเลยทีเดียว ที่ตั้ง 78-104 ซอยนานา แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯเปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-21.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-21.00 น. (ปิดวันพุธ)โทร. 06 5946 8892 103 Bed and Brews เดินไปสักพักแอดก็สะดุดตากับตึกเก่าบริเวณหัวมุมซอยนานา นี่คือ “103 Bed and Brews” โฮสเทลและคาเฟ่ที่นำอาคารเก่ามาปรับปรุง โดยยังคงกลิ่นอายจีนย้อนยุคที่อบอุ่นเอาไว้ ประตูไม้บานเฟี้ยมสีน้ำตาลเข้มตัดกับสีอ่อนของตัวตึก ผสมผสานการตกแต่งในสไตล์จีน ชั้นล่างเป็นคาเฟ่ ส่วนชั้นสองเป็นโฮสเทล ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนที่นอนเล่นมาลองดูกันค่ะ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น. เฮงยอดผัก กินไม่รู้อิ่ม ถึงคราวของคาวกันบ้าง เฮงยอดผัก เป็นร้านราดหน้าชื่อดัง สาขานี้อยู่ปากซอยนานา ขายมานานกว่า 30 ปี มีสโลแกนว่า กินไม่รู้อิ่ม แบบนี้ก็ต้องขอลองซะหน่อย เมนูมีหลากหลายมากค่ะ ทั้งราดหน้าหมี่กรอบ เส้นใหญ่ เส้นหมี่ ผัดซีอิ๊วก็มี แอดสั่งราดหน้าหมี่กรอบใส่ไข่ ทางร้านบอกต้องลองใส่ไข่แล้วจะติดใจ พอได้ลองชิมก็เป็นอย่างที่ว่าเลยค่ะ น้ำเข้มข้น หมูนุ่มละลายในปาก แทบไม่ต้องปรุงเลยล่ะ.ที่ตั้ง 221-227 ซอยนานา ถนนพระราม 4 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯเปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.โทร. 02 222 2648 ย่านทรงวาด ทรงวาดเป็นถนนเส้นเล็ก ๆ ขนานกับถนนเยาวราช เป็นย่านเก่าแก่ที่ยังมีอาคารเก่าอายุร้อยปีหลงเหลือให้ชื่นชม มีศาลเจ้า

เดินชิลล์…ชมย่านเก่าแก่ จากนานาถึงทรงวาด อ่านเพิ่มเติม

อุดรธานี..เมืองนี้ม่วนหลาย 2 วัน 1 คืน

วันที่ 1หนองประจักษ์กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอกตลาดผ้าบ้านนาข่าส้มตำเจ๊ไก่Dose Factory วันที่ 2ทะเลบัวแดงวัดสันติวนารามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียงStreet Art บ้านเชียง วันที่ 1 จุดแรกแอดจะพาเพื่อน ๆ ไปยังสถานที่ยอดนิยมของอุดรธานี ใครมาเที่ยวที่นี่ก็ต้องมาแวะถ่ายรูปกับเป็ดเหลืองกลางบึงหนองประจักษ์กันแทบทุกคน ที่นี่เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมือง ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี.หนองประจักษ์มีหลายมุมให้เราได้เก็บภาพสวย ๆ ทั้งสะพานแขวน และสวนดอกไม้ รวมทั้งภาพการออกมาพักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกายของชาวเมืองอุดรธานี.ที่ตั้ง : ถนนเพาะนิยม ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ผ้าย้อมสีกลีบบัว กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ถัดมาแอดจะพามาชมมหัศจรรย์บัวแดงสู่ผ้าทอที่ กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก นักท่องเที่ยวสามารถมาทำกิจกรรมย้อมผ้าได้ แต่เดิมกลุ่มทอผ้าบ้านโนนกอกก็มีอาชีพทอผ้าอยู่แล้ว ต่อมาได้พัฒนาต่อยอดด้วยการนำก้านและกลีบของดอกบัวแดงมาใช้เป็นสีย้อมเส้นฝ้าย ในการย้อมสี จะใช้ส่วนของดอกบัวและก้านบัวหรือสายบัวมาต้มเพื่อให้เกิดสี สีที่ได้นั้นสวยงามและติดทนนาน การต้มจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ดอกบัวเมื่อผ่านการต้มแล้ว สีที่ได้จะออกมาเป็นสีทอง ส่วนก้านบัวหลังจากต้มจะออกเป็นสีเงิน ลวดลายการทอส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ใครอยากมาทำกิจกรรมย้อมผ้า สามารถติดต่อล่วงหน้าได้เลย กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอกที่ตั้ง : 63 หมู่ 18 บ้านโนนกอก ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีโทร. 09 3547 8255, 06 1942 8808เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/efpC6uc93VS2AmLt8เว็บไซต์ : www.nairobroo.com/shopping/silk-of-baan-non-kok/ ตลาดผ้านาข่า จังหวัดอุดรธานีขึ้นชื่อเรื่องงานหัตถกรรมโดยเฉพาะผ้าขิด แอดเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปชอปปิ้งผ้าขิดที่ตลาดผ้าบ้านนาข่า ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงเฉลิมพระเกียรติ และหมู่บ้าน OTOP ท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานี.ตลาดผ้าบ้านนาข่าเป็นแหล่งรวมสินค้าหัตถรรมพื้นบ้าน มีทั้งผ้าหมี่ขิด ผ้าไหมลายขิด ซึ่งมีลวดลายสวยงาม มีความมัน วาว และนูน อันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของจังหวัดอุดรธานี นอกจากนี้ ยังจำหน่ายสินค้าอื่น ๆ เช่น เสื้อผ้าฝ้าย หมอนอิง กระเป๋า ผ้าพันคอ เพื่อน ๆ เลือกช้อปกันได้ในราคาไม่ล้มละลาย .ที่ตั้ง : ตำบลบ้านขาว อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีโทร. 08 5013 1060, 08 7230 0300 (กลุ่มตลาดผ้านาข่า)เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.พิกัด : https://goo.gl/maps/fbcubE5XZmaE1nnY8 ร้านส้มตำเจ๊ไก่ มาดูร้านอร่อยเด็ดกันบ้าง ส้มตำเจ๊ไก่ ถูกปากทั้งชาวเมืองอุดรและนักท่องเที่ยว ว่ากันว่าร้านนี้แซ่บนัว ถึงใจ แอดเองก็ไม่ยอมพลาด แต่ขอบอกว่าอย่าไปใกล้มื้ออาหาร เพราะอาจจะต้องรอคิวนานสักหน่อย.เมนูห้ามพลาดที่ทางร้านแนะนำมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเมนูส้มตำต่าง ๆ ตำกุ้งสด ตำหอยแครง ตำโคตรมั่ว รวมทั้งเมนูแซ่บอื่น ๆ อย่างต้มแซ่บกระดูกอ่อน แกงหน่อไม้ หอยต้ม เป็นต้น .ส้มตำเจ๊ไก่ อุดรธานีมี 2 สาขาสาขา 1ที่ตั้ง : 230/28 ซอยศาลเจ้าแม่ทับทิม ถนนอัศวมิตร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีเปิดทุกวัน 10.00-16.00 น.โทร. 08 7373 2128 สาขา 2ที่ตั้ง : 167/16 ถนนนเรศวร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีเปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.โทร. 08 6239 2244 . ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ ส้มตำเจ๊ไก่อุดรธานี สาขา 1 Dose Facetory แซ่บกับส้มตำเจ๊ไก่แล้ว อย่าเพิ่งรีบอิ่มกันนะ เพราะแอดจะพามาต่อที่ร้าน Dose Factory ร้านนี้ดัดแปลงมาจากโรงงานเก่า ตกแต่งแบบ Loft ดูเท่ ๆ ถูกใจทั้งวัยรุ่น วัยเก๋า.อาหารเป็นสไตล์ฟิวชั่น มีทั้งไทยและอิตาเลียนให้เลือก เห็นแล้วหิวอีกรอบ ส่วนกาแฟก็เป็นกาแฟพิเศษจากโรงคั่วของร้านเอง ปิดท้ายกับขนมหวานที่น่ากินไปทุกเมนู ว่ากันว่าใครไปอุดรธานีก็ต้องแวะไปร้านนี้สักมื้อ.ที่ตั้ง : 112/1 ถนนนเรศวร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีเปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.โทร. 09 8661 4642พิกัด : https://g.page/dosefactory?share . ขอขอบคุณรูปภาพจากเพจ Dose Factory วันที่ 2 ทะเลบัวแดงเช้านี้เราจะไปชมอีกหนึ่งไฮไลท์ นั่นคือ ทะเลบัวแดง บึงหนองหานกุมภวาปี ใครไปถึงอุดรธานีจะต้องห้ามพลาด ที่นี่เราจะได้เห็นบัวแดงที่ออกดอกบานสะพรั่งเต็มบึงหนองหานสุดลูกหูลูกตา นี่เองเป็นที่มาของคำว่า “ทะเลบัวแดง” บึงหนองหานเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชน้ำ พันธุ์ปลา พันธุ์นกนานาชนิด และเป็นจุดที่ยังพอจะได้เห็นวิถีการทำประมงพื้นบ้านอีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะกับการชมทะเลบัวแดงของปีคือ ช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ดอกบัวแดงจะบานสวยงามที่สุด หากอยากชมดอกบัวแดงอย่างใกล้ชิด สามารถใช้บริการเรือพาเที่ยวชมได้ เรือนี้เป็นเรือของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรอบบึงหนองหาน ให้บริการอยู่ที่ท่าเรือบ้านเดียม แนะนำให้ล่องเรือในตอนเช้า ช่วงเวลา 06.00-11.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ดอกบัวจะบานสวยเต็มที่ และสภาพอากาศก็ยังไม่ร้อนมากด้วยค่ะกลุ่มเรือบริการท่องเที่ยว ท่าเรือบ้านเดียมโทร. 08 1964 5420, 08 9395 0871– เรือพาเที่ยว (รอบใหญ่) ใช้เวลา 90 นาที ราคา 500 บาท/ลำ นั่งได้ไม่เกิน 10 คน– เรือพาเที่ยว (รอบเล็ก) ใช้เวลา 45 นาที ราคา 300 บาท/ลำ นั่งได้ไม่เกิน

อุดรธานี..เมืองนี้ม่วนหลาย 2 วัน 1 คืน อ่านเพิ่มเติม

เพชรบูรณ์ 2 วัน 1 คืน ชมดอกไม้ รับลมหนาว

วันนี้แอดมีเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ 2 วัน 1 คืนมาฝาก เพื่อน ๆ ทริปนี้แอดรับรองว่าได้ภาพงาม ๆ กลับไปอวดชาวแก๊งค์แน่นอน  วันที่ 1จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะจุดชมทะเลหมอกเขาค้อพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก วันที่ 2ไร่ G.B. ทุ่งกังหันลมไร่ B.N.The Blue Sky Gardenวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วันที่ 1 สำหรับที่แรก แอดจะพามาที่จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ ห่างจากอำเภอเขาค้อประมาณ 13 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 2258 เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา นักท่องเที่ยวมักจะมากางเต็นท์เพื่อรอชมทะเลหมอกยามเช้า.ในอดีตบริเวณเขาตะเคียนโง๊ะเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายคอมมิวนิสต์ เป็นสมรภูมิรบแห่งหนึ่งในเขาค้อ ปัจจุบันกลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอก จากจุดนี้ เราสามารถมองออกไปเห็นเขาปู่ เขาย่า เขาค้อ และทุ่งแสลงหลวงได้อีกด้วย.แม้ที่นี่จะมีการบริการที่พัก จุดกางเต้นท์ แต่แอดขอแนะนำผู้มาพักค้างให้เตรียมเสบียงอาหารมาเอง.ที่ตั้ง : ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ จุดชมวิวชมวิวทะเลหมอก เขาค้อ จุดต่อไปคือจุดชมทะเลหมอกเขาค้อ ห่างจากเขาตะเคียนโง๊ะประมาณ 16 กิโลเมตร เส้นทางเป็นถนนไหล่เขา ต้องระมัดระวังในการเดินทางด้วย เขาไม่ง้อมาเขาค้อดีกว่า วลีนี้คงเคยได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกและวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม และยังเป็นจุดแรก ๆ ที่นักท่องเที่ยวนึกถึง และจัดให้อยู่ในลิสต์ที่ต้องมาเช็คอินอากาศที่เขาค้อจะเย็นตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูหนาวจะมีหมอกหนาและเยอะกว่าค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ตลอดค่ะ.ที่ตั้ง : ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ห่างจากที่ว่าการอำเภอเขาค้อไปทางทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร ริมทางหลวงหมายเลข 2196 เราจะพบกับพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก เป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างสุโขทัย และรัตนโกสินทร์ประยุกต์ ภายในเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูป ส่วนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐธาตุของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานให้กับประชาชนในพื้นที่ หลังจากยุติการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย.ที่ตั้ง : หมู่ 4 ตำบลเขาค้อ บ้านกองเนียม อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น. วันที่ 2 ไร่ GB ทุ่งกังหันลม เช้านี้เราจะไปชมวิวทุ่งกังหันลมที่ไร่ GB ซึ่งห่างจากเจดีย์กาญจนาภิเษกไปประมาณ 8 กิโลเมตร จากไร่ GB เราจะสามารถมองเห็นทุ่งกังหันลมของเขาค้อได้อย่างชัดเจนที่สุด กังหันลมเหล่านี้คือแหล่งผลิตพลังงานสะอาด โดยใช้พลังลม ดำเนินงานโดย บริษัท เด็มโก้ จำกัด อยู่นอกเขตไร่ GB ส่วนไฮไลต์ในไร่ GB คือสวนดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ เช่น ดอกเวอร์บีน่า ดอกฮอลลี่ฮ็อค ดอกดาวเรืองฝรั่งเศส เป็นต้น สวยงามเหมาะกับการถ่ายรูปมาก ๆ ภายในไร่ GB ไม่มีบริการที่พัก แต่มีบริการร้านอาหารพื้นบ้าน ร้านกาแฟ ชาร้อน ชานมไข่มุก เป็นต้น.ที่ตั้ง : หมู่บ้านเพชรดำ ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.โทร. 064 304 8222ค่าเข้าชม 10 บาท/คน ไร่ B.N. ถัดมาเราจะไปตะลุยชมทุ่งดอกไม้ที่ไร่ B.N.กัน ขับรถจากไร่ GB ไปประมาณ 14 กิโลเมตร ก็จะถึงไร่ B.N. ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับความนิยมมากว่า 50 ปี จำหน่ายผัก ผลไม้ ทั้งสดและแปรรูป รวมทั้งดอกไม้สวย ๆ ด้วย ที่นี่มีสวนดอกไม้ให้เลือกชม 2 โซน คือ ไร่ B.N. และ The Front by B.N. Farm สามารถเดินถึงกันได้ประมาณ 600 เมตร ที่ตั้ง : ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.โทร. 056 750 419 The Blue Sky Garden ออกจากไร่ B.N. เราไปกันต่อที่ The Blue Sky Garden ห่างจากไร่ B.N. ประมาณ 6 กิโลเมตร ที่นี่เป็นสวนอังกฤษขนาดกว่า 10 ไร่ แบ่งเป็น 4 โซนหลัก ๆ มีจุดถ่ายรูปมากกว่า 20 จุด มีทั้งโซนสวนดอกไม้นานาพันธุ์ โซนทุ่งวงกต มีหอคอยสำหรับชมวิวโดยรอบด้วยนะ.นอกจากนี้ ยังมีโซนลานกิจกรรมสำหรับจัดงานอีเวนท์ และโซนกระท่อมน้อยกลางสวน ที่เป็นร้านกาแฟสำหรับนั่งจิบเครื่องดื่มพร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกไปด้วย หรือถ้าเพื่อน ๆ อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ด้วยการถือตะกร้าปิกนิกมานั่งอ่านหนังสือ จิบเครื่องดื่มกลางสวนเก๋ ๆ ทางร้านก็มีให้บริการ แต่แอดขอแนะนำให้โทรจองล่วงหน้านะคะ ราคาชุดละ 499 บาท ประกอบด้วยเครื่องดื่ม 3 ชนิด พร้อมด้วยผลไม้ และแซนด์วิช (1 ชุดสำหรับ 2 คน).ที่ตั้ง : เดอะ บลูสกาย รีสอร์ท เขาค้อ ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์เปิดทุกวัน

เพชรบูรณ์ 2 วัน 1 คืน ชมดอกไม้ รับลมหนาว อ่านเพิ่มเติม

ชิล เที่ยว เจ้าพระยา

สำหรับสายชิล การได้ไปเที่ยวถ่ายรูป นั่งจิบกาแฟ กินขนม ชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก็เป็นอะไรที่มันแสนจะผ่อนคลายแล้ว วันนี้แอดเลยจะมาแนะนำสถานที่ที่จะทำให้สายชิลได้ไปถ่ายรูปเล่น และได้รู้สึกผ่อนคลายที่ริมน้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ กันจ้า และถ้าอยากสนุกกันมากขึ้นก็ลองเดินทางกันทางน้ำดู อาจจะเป็นเรือด่วน หรือเรือข้ามฟากก็ได้ ได้ฟิลลิ่งแปลกใหม่กันไปอีกอย่างนะ ลองตามมาดูกัน แผนที่ เอาไว้ดูกันพอสังเขปจ้า.ร้านชิล ๆ แถวริมแม่น้ำเจ้าพระยาของเราวันนี้จะอยู่โซนระหว่างสะพานพระปกเกล้าและสะพานตากสินนะ เราอาจจะเลือกเริ่มต้นจากจุดแรกที่ตลาดน้อย สามารถนั่งเรือด่วนมาลงท่าสีพระยา แล้วก็เดินไปที่ตลาดน้อยได้ ที่แรกของเราก็คือ “Mother Roaster (ตลาดน้อย)”.Cafe ลึกลับในย่านตลาดน้อย ใครที่ไปตลาดน้อยบ่อย ๆ ในซอยตรอกศาลเจ้าโรงเกือก อาจจะคุ้นเคยกับประตูบานนี้ ที่ข้าง ๆ จะมีรูปวาดเด็ก ๆ อยู่ แต่ถ้าลองดูให้ดีก็จะรู้ว่า มันมีร้าน Cafe อยู่ข้างบนนะ ลองตามมาดูกันเลย เมื่อเข้ามาข้างในสิ่งแรกที่เห็น กองอะไหล่ล้อต่าง ๆ มากมายเลย มันจะใช่ Cafe มั้ยนะ หันมาทางซ้ายมีบันไดด้วย เดินขึ้นไปดูกัน อ่า เริ่มเห็นแสงสว่างกันแล้ว ก็ดูร่มรื่นอยู่นะ ต้องเข้าไปดูข้างในซะแล้ว ชัดเลยมันคือ Cafe.ที่ Mother Roaster เขาจะโดดเด่นด้วยรสชาติกาแฟคุณภาพดีจากเครื่อง ROK Presso ที่ดริปและคั่วเองจากฝีมือ Mother บาริสต้าสุดเท่ มุมนั่ง Slow Bar เอาไว้นั่งคุยกันได้นะ Mother บาริสต้าสุดเท่ของเรา ที่ลงมือคั่วเมล็ดกาแฟด้วยตัวเอง  ที่นี่เหมาะกับคอกาแฟเลย มีเมล็ดกาแฟหลายแบบให้ได้เลือกลิ้มรสกันเลย  ของตกแต่งก็น่ารัก ๆ มีพร็อพไว้ถ่ายรูปกันสบายเลย มุมนั่งชิลเขาก็มีเยอะ แสงก็ดี ถ่ายรูปสวย ๆ กันได้นะ Cafe ต่อไป “บ้านริมน้ำตลาดน้อย”.Cafe นี้อยู่ติดริมแม่น้ำเลยจ้า เดินต่อมาจากซอยศาลเจ้าโรงเกือก เมื่อผ่านศาลเจ้าโรงเกือกแล้ว ทางริมซ้ายมือริมแม่น้ำ เราก็จะเห็น Cafe สุดชิลนี้ ลองเข้าไปดูข้างในกัน ที่นั่งริมแม่น้ำนี้ เอาไว้นั่งชิล ๆ ผ่อนคลายอารมณ์ กันได้เลย ช่วงเย็นใกล้พระอาทิตย์ตกก็น่าจะสวยน่าดู ข้างในร้านมีที่นั่งเยอะแยะเลย มุมนี้ กลางคืนคงสนุกนะเนี่ย ที่นั่งก็มีมุมให้ถ่ายรูปได้เยอะแยะ เครื่องดื่มเย็น ๆ เขาก็มีให้เลือกหลายแบบ กินแล้วก็ชื่นนนใจ ขนมนี่ก็หน้าตาน่ากิน  ขนมแบบไทย ๆ ก็มี ดูเข้าบรรยากาศกันไปอีกแบบ Cafe ต่อมา “1608 Cafe & Bistro”.Cafe สุดชิลริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกแล้ว หลังจากที่เราหลุดออกมาจากย่านตลาดน้อยแล้ว ตรงสุดทางซอยวานิช 2 เราก็จะเห็นวัดปทุมคงคมราชวรวิหาร ให้เราเดินออกมาที่ถนนทรงวาด เดินผ่านหน้าวัดไปเราจะเห็นป้อมตำรวจ ก็เดินเข้าไปในซอยนั้นเลยจ้า.ที่นี่จะมีคนจองที่นั่งเข้ามาล่วงหน้า ทางที่ดีลองสอบถามกับทางร้านก่อนนะ ช่วงนี้โควิดก็ไม่มีอะไรแน่นอน เขาอาจจะยังควบคุมพื้นที่อยู่ ติดต่อจากทางเพจเขาเลย.FB: Doo Nam 1608 ถ้านั่งเรือด่วนผ่านมา ก็จะเห็นวิวของร้านแบบนี้  เดินเข้ามาจากซอยป้อมตำรวจ ก็จะเห็นทางเข้าประมาณนี้ ข้างหน้าจะมีเศษเหล็กกองเอาไว้ ดูทางเข้ากันดีดี มีป้ายโปสเตอร์เล็ก ๆ แปะไว้ให้เห็นหน่อยนึง สังเกตกันดีดีนะ เมื่อเดินผ่านเศษเหล็กเข้ามาในซอยทางซ้ายมือเราก็จะเห็นหน้าร้าน ก็แหวกม่านเข้าไปเลย เคาน์เตอร์บาร์ในร้าน น้อง ๆ พนักงานก็จะคอยต้อนรับอยู่ ช่วงเย็น ก่อนพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า เราก็จะได้แสงสวย ๆ สะท้อนกับริ้วแม่น้ำ มันก็น่าจะได้มุมถ่ายรูปดีดีหลายจุดเลย  มุมในร้านเขาก็ดูกันเองมาก มุมนี้ก็งานศิลปะ ใครอยากจะถ่ายรูปไว้เป็นความทรงจำก็ได้นะ มุมนั่ง Slow Bar.เครื่องดื่มเย็น ๆ กับบรรยากาศสุดชิลริมแม่น้ำ แสงก็สวยด้วย มันคือดี ไว้นั่งคุยกันได้นะ มุมนี้ก็ชิลไปอีกแบบ Cafe ต่อไป อยู่ติดกับศาลกวนอูเลย.“My Grandparent’s House บ้านอากงอาม่า”.แค่ชื่อก็ดูเป็นกันเองมาก Cafe นี้ เป็นบ้านไม้เรือนไทยที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์และเรื่องราวของต้นตระกูลจีน “ทังสมบัติ” ผู้ผลิตและจำหน่าย น้ำปลาตรารวงทอง มีใครเคยเห็นกันบ้างนะ.การเดินทางมาที่นี่ อาจจนั่งเรือข้ามฟากจากท่าราชวงศ์มายังท่าดินแดงแล้วต่อรถอีกที ใครจะเดินก็ไม่ว่ากัน หรือจะนั่งเรือด่วนมาลงที่ท่าสะพานพุทธ ขึ้นสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ข้ามฟากมา และแวะชมพิพิธภัณฑ์สวนสมเด็จย่าก่อน เหนื่อยก็ค่อยเข้ามานั่งพักหาอะไรกินกันที่นี่ได้ ถึงจะเปิดเป็น Cafe แต่ข้างในบ้านก็ดูเป็นกันเอง เหมือนนั่งอยู่ในบ้าน และยังมีร่องรอยเรื่องราวให้ได้ศึกษากันด้วย อาหารว่างและเครื่องดื่มที่นี่ก็จะเป็นแนวแบบคลาสสิก ที่ทำให้นึกถึงวิถีชีวิตผู้คนในสมัยก่อน อาหารว่างบางอย่าง ก็อาจจะหาทานได้ยากนะ อย่างเช่น “กุ้งโสร่ง” มีทั้งแบบไทยและแบบจีนเลย น้ำปลาตรา “รวงทอง” เคยเห็นกันมั้ย ปัจจุบันเขาก็ยังทำขายกันอยู่ พอออกมาจากนอกบ้านก็ยังมีมุมเก๋ ๆ ไว้ให้ถ่ายรูปกันได้  มุมจากตึกข้างบน ที่ยังเป็นสถาปัตยกรรมแบบโบราณ

ชิล เที่ยว เจ้าพระยา อ่านเพิ่มเติม

บ้านหนองเจ็ดหน่วย

อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวแบบสัมผัสกับความหนาวและสัมผัสกับธรรมชาติ ที่นอกจากไปชมธรรมชาติของป่าสนที่สวยงามภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) แล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจ  วันนี้แอดจะมาแนะนำชุมชนเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ นั่นคือ “บ้านหนองเจ็ดหน่วย” ที่มีสถานที่และกิจกรรมที่น่าสนใจให้เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่มาท่องเที่ยวกันจ้า  ชุมชนบ้านหนองเจ็ดหน่วย ชุมชนเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่อยู่อาศัยของชาวปกาเกอะญอ ที่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เงียบสงบ พึ่งพาธรรมชาติในการประกอบอาชีพ ชุมชนนี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปชมวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชน นอกจากจะได้ไปสัมผัสกับการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติแล้ว ยังได้เรียนรู้การทำกิจกรรมต่างๆ ของชาวบ้านในชุมชน เช่น การย้อมผ้าฝ้ายที่ย้อมด้วยสีที่ทำมาจากวัตถุดิบที่มีอยู่ตามธรรมชาติในชุมชน เช่น สีฟ้าทำมาจากต้นห่อคอเด๊าะ (หรือผลจากต้นปิ้งขาว) สีเทาทำมาจากมะขามป้อมและขี้เถ้า สีส้มทำมาจากดอกคำแสด (หรือดอกคำเงาะ) รวมทั้งวิธีการปั่นฝ้าย การทอผ้าฝ้าย การปักผ้าฝ้าย การทำอาหารท้องถิ่นอย่างข้าวต้มมัด (ที่นี่เค้าจะเรียกว่าเมตอ) นอกจากนี้ที่นี่ยังมีโฮมสเตย์น่ารักๆ เจ้าของบ้านก็น่ารัก เป็นกันเอง ทำอาหารอร่อย ให้เราได้พักผ่อนและสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ วัดจันทร์ วัดนี้ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนในอำเภอกัลยาณิวัฒนา เป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี ไฮไลท์ของวัดนี้คือวิหารที่เดิมตรงช่วงบนผนังด้านหน้าถูกทำเป็นช่องลมโปร่ง ต่อมาช่างชาวปกาเกอะญอจึงได้นำกระจกกรองแสงสีดำมาติดกันขโมยปีนเข้ามา ทำให้วิหารหลังนี้ดูคล้ายมีแว่นตาขนาดใหญ่สวมอยู่ จึงได้ฉายาว่า “วิหารแว่นตาดำ” หรือ “วิหารเรย์แบนด์” ที่มีความโดดเด่นแปลกตาเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ร้าน Porwa Pizza & Drip Coffee ร้านพิซซ่าที่ทำในคอนเซ็ปต์พิซซ่าหน้าฤดูกาล เลือกใช้วัตถุดิบในช่วงเวลานั้นๆ มาทำหน้าพิซซ่า เช่น เห็ดเผาะ ลูกหม่อน อโวคาโด นักท่องเที่ยวที่ไปสามารถทำพิซซ่าเองได้ด้วย นอกจากพิซซ่าร้านนี้ยังมีเครื่องดื่มแสนอร่อย และของที่ระลึกน่ารักๆ ขายด้วยจ้า ขอบอกเลยว่าเจ้าของร้านใจดีมากๆ อีกอย่างถ้าใครชอบเที่ยวและยังชื่นชอบในการเล่นสเก็ตบอร์ดก็อยู่คุยกับเจ้าของร้านได้ยาวๆเลย เพราะพี่เค้าเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสเก็ตบอร์ดมากๆ เลยจ้า

บ้านหนองเจ็ดหน่วย อ่านเพิ่มเติม

Scroll to Top