สุดสัปดาห์นี้ไปเที่ยวที่ไหนดีนะ…ถ้ายังคิดไม่ออก พวกเราทีมเพื่อนร่วมทางอยากจะชวนเกาะกระแสละครดัง บุพเพสันนิวาส และพาออเจ้าทั้งหลายไปเที่ยว 2 วัน 1 คืน ตามหาแม่นายการะเกดที่จังหวัดใกล้ๆอย่างพระนครศรีอยุธยากันเถิด
สถานที่แรกที่เราจะไปกันคือ วัดใหญ่ชัยมงคล สิ่งที่น่าสนใจของวัดใหญ่ชัยมงคลคือเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น เจดีย์ชัยมงคล เจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรบชนะมังกะยอชวาพระมหาอุปราชของหงษาวดี ด้านหลังวัดมีตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ผู้ที่ศรัทธาเข้ามากราบไหว้ นอกจากนี้ บริเวณรอบๆ ยังมีสวนหย่อมที่สวยงามให้พักผ่อนอีกด้วย
วัดใหญ่ชัยมงคล เปิดทุกวัน 08.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทยไม่เสียค่าเช้าชม ชาวต่างชาติ 20 บาท
หลังจากนั้นเราจะไปต่อกันที่ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับวัดใหญ่ชัยมงคล ที่นี่เราสามารถมองเห็นป้อมเพชรซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ก่อสร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา มีชื่อเสียงในเรื่องของหลวงพ่อโตหรือเจ้าพ่อซำปอกงที่พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวจีนต่างให้ความเคารพนับถือมานาน
สำหรับที่ต่อไป ทางเข้าอาจลึกลับไปสักนิด แต่บรรยากาศคุ้มค่าที่จะมา พิพิธภัณฑ์บ้านฮอลันดาตั้งอยู่ในซอยคานเรือ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาคารสไตล์ยุโรป 2 ชั้น สีสันสดใสสะดุดตา ชั้นล่างเป็นคาเฟ่และร้านจำหน่ายของที่ระลึก ชั้นบนเป็นพิพิธภัณฑ์ความสัมพันธ์ไทย-ฮอลันดา ซึ่งทำออกมาได้น่าสนใจเลยทีเดียว
หากใครสนใจประวัติศาสตร์และอยากมานั่งเล่นดื่มด่ำบรรยากาศแบบชาวดัชต์ สามารถมาที่บ้านฮอลันดาได้ อยู่ไม่ไกลจากวัดพนัญเชิงวรวิหาร เปิดทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชม 50 บาท
เดินเที่ยวมาเหนื่อยๆ แวะทานอาหารกลางวันกันเถอะ ทางเราขอแนะนำร้านผักหวาน ที่นี่มีอาหารหลายประเภทให้เลือกทาน ทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง เช่น ส้มตำ หอยทอด ผัดไท สลัดกุ้งทอด สเต็ก และเมนูขึ้นชื่อของร้านคือ ก๋วยเตี๋ยวผักหวาน
ใครที่สนใจมาลองลิ้มชิมรสอาหารที่ร้านผักหวาน สามารถมาได้ทุกวัน ร้านตั้งอยู่หน้าวัดสุวรรณดาราม เปิดเวลา 08.00 – 19.00น.
cr.รูปภาพจาก facebook ร้านบ้านผักหวาน
กินคาวแล้วไม่กินหวาน มันจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป ต้องปิดท้ายมื้อเที่ยงด้วยขนมแสนอร่อยที่ ร้านบ้านข้าวหนม คาเฟ่ข้าวหนมไทยโบราณ ขายขนมไทยและเครื่องดื่มต่างๆ มีทั้งทำเอง และรับจากร้านในพื้นที่อยุธยา ภายในร้านตกแต่งสไตล์เรโทรนิดๆ จุดเด่นของร้านคือ ร้านกาแฟแบบอนุรักษ์นิยมที่นำเอาขนมไทยแบบต่างๆ มาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
บ้านข้าวหนม ตั้งอยู่บนถนนอู่ทอง เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 19.00 น.
cr. facebook ร้านบ้านข้าวหนม
หนังท้องตึง หนังตายังหย่อนไม่ได้นะจ๊ะ เราต้องไปเที่ยวกันต่อ เราไปต่อกันเลยที่ วัดมหาธาตุ หากพูดถึงวัดนี้เราจะต้องนึกถึงความมหัศจรรย์ของเศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีที่อยู่ในต้นไม้ ซึ่งพลาดไม่ได้ที่จะต้องไปถ่ายรูป
วัดราชบูรณะ อยู่ไม่ไกลจากวัดมหาธาตุ เราสามารถเดินไปถึงได้ จุดเด่นของวัดคือ ปรางค์ประธานที่มีขนาดสูงใหญ่ ก่อด้วยอิฐบนฐานสี่เหลี่ยม ด้านในพระปรางค์สามารถเดินลงไปชมจิตรกรรมฝาผนังและชมกรุสมบัติในสมัยอยุธยาได้อีกด้วย
เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท
ปิดท้ายการเที่ยวในวันที่ 1 ด้วยวัดไชยวัฒนาราม เชื่อกันว่าสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ในปี พ.ศ.2173 เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา แต่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือนครละแวกโดยจำลองแบบมาจากปราสาทนครวัด
ซึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจคือ ปรางค์ประธานและเมรุทิศ เมรุรายที่อยู่ล้อมรอบนั้นเอง
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท
หลังจากเที่ยวกันมาทั้งวัน ต้องหาอะไรฟินๆทานสักหน่อย พูดถึงอยุธยา ก็ต้องนึกถึงกุ้งเผาเป็นอันดับแรก ร้านแพกรุงเก่าเป็นร้านที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก เพราะเป็นร้านเก่าแก่ มีอาหารหลายหลายประเภท โดยเฉพาะกุ้งเผาที่มีหลายขนาด ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดถือว่าเด็ด พลาดไม่ได้จริงๆ
ร้านแพกรุงเก่า ตั้งอยู่บนถนนอู่ทอง เปิดทุกวัน 10.00-21.00 น.
ที่พักสำหรับทริปนี้ เราพักที่ Riverview Place บรรยากาศดี อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
วันที่ 2
เช้านี้ตักบาตรยามเช้า บนถนนอู่ทอง ได้ซึมซับบรรยากาศของชาวบ้านด้วยนะออเจ้า
หลังจากตักบาตรช่วงเช้ากันแล้ว เริ่มที่ วิหารมงคลบพิตร นมัสการพระมงคลบพิตร พระพุทธรูปปางมารวิชัย หนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของพระนครศรีอยุธยาและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ บริเวณรอบๆมีร้านขายของฝากขนาดใหญ่ด้วย หากใครได้ติดตามละครบุพเพสันนิวาสก็จะได้เห็นว่ามีฉากวิหารมงคลบพิตรให้ได้ชมกันด้วย ฉะนั้นไม่พลาดที่จะไปกันนะคะ
เยี่ยมชมวัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดที่อยู่ในเขตพระราชวังหลวง เหมือนกับวัดพระศรีรัตนศาสดารามในกรุงเทพฯ มีเจดีย์ทรงระฆัง 3 องค์ที่งดงาม เป็นสัญลักษณ์ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ ระหว่างเจดีย์แต่ละองค์มีมณฑปก่อคั่นไว้
สามารถเที่ยวชมวัดได้ทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.
มาต่อกันที่ วัดพุทไธศวรรย์ ฝั่งตรงข้ามของเกาะเมือง เป็นพระอารามหลวงที่ยังคงสภาพดี ข้าจึงพาออเจ้าทั้งหลายมาชมความงดงามของวัด ซึ่งสร้างขึ้นในบริเวณที่ประทับเดิมของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง เรียกว่า ตำหนักเวียงเหล็ก หรือ เวียงเล็ก สิ่งที่น่าสนใจคือ ปรางค์ประธาน ที่มีศิลปะแบบขอม นอกจากนี้ยังมีพระอุโบสถ หมู่พระเจดีย์สิบสององค์ และวิหารพระนอนให้ชมกันอีกด้วย
เที่ยวกันมาสักพักแล้วได้เวลาหาอะไรรองท้อง เราจึงไปกันที่ตลาดน้ำวัดท่าการ้อง มาที่นี่แล้วเราจะได้ทั้งเที่ยวในวัดและสามารถเลือกซื้อของกิน มีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
ก่อนจะกลับบ้านเราต้องมีของติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของ
ฝากกันหน่อย ของฝากขึ้นชื่อของอยุธยาก็จะต้องไม่พลาด “โรตีสายไหม” ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายเป็นสิบๆร้าน แหล่งจำหน่ายอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา หรือริมถนนอู่ทอง
cr. facebook ร้านโรตีสายไหมอาบีดีน