เส้นทางท่องเที่ยว ระนอง-ชุมพร 3 วัน 2 คืน

ระนอง – ชุมพร 3 วัน 2 คืน 

วันที่ 1
– ภูเขาหญ้า
– ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการร่อนแร่ ชุมชนหาดส้มแป้น
– น้ำนองฮอทสปา

วันที่ 2 
– วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลม่วงกลวง คลองลัดโนด
– บ้านไร่ไออรุณ
– จุดชมวิวเขามัทรี
– บาติกผาแดง ครูอนงค์

วันที่ 3
– จุดชมวิวป่าเขาเขียว
– เจียฟาร์ม
– หาดทุ่งวัวแล่น

วันที่ 1
.
สถานที่แรกที่แอดไปก็คือ ภูเขาหญ้า
ตั้งอยู่ใน อ.เมือง มีลักษณะเป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น มีแต่ต้นหญ้าปกคลุม จึงเป็นที่มาของชื่อภูเขาหญ้า มีทางเดินเท้าขึ้นสู่สันเขาเพื่อชมวิวได้ 360 องศา ภูเขาแต่ละลูกไม่สูงมาก สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้
.
ภูเขาหญ้าสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน-เมษายน) ภูเขาหญ้าจะเป็นสีน้ำตาลทอง แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม) ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว หลายคนจึงนิยมเรียกว่า “ภูเขาหญ้าสองสี”
.
ที่ตั้ง ม.1 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง
เปิดทุกวัน
ไม่เสียค่าธรรมเนียม

ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาการร่อนแร่ ชุมชนหาดส้มแป้น
.
หาดส้มแป้น อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 10 กิโลเมตร เป็นตำบลเล็ก ๆ ท่ามกลางหุบเขา ที่ยังคงเสน่ห์เฉพาะตัวของความเป็นหมู่บ้านที่มีแหล่งแร่ดีบุกเอาไว้ ที่สำคัญหากไปเที่ยวที่นี่ เราสามารถทำกิจกรรมร่อนแร่ได้ด้วยนะ
.
ที่ตั้ง ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนอง
เปิดทุกวัน 09.00-16.00 น. (นัดล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน)
โทร. 080 040 2425, 090 424 8513 (พี่สมโชค)
Facebook : https://www.facebook.com/BaanHatsompaen/

“หาดส้มแป้น” เป็นชุมชนทำเหมืองเก่าที่สำคัญของ จ.ระนอง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การทำเหมืองของที่นี่เป็นลักษณะของเหมืองฉีด (คือใช้กระบอกสูบน้ำ สูบดินทรายและแร่ขึ้นมาจากเหมือง) และเหมืองแล่น (ใช้น้ำฉีดไปที่หน้าดินเพื่อหาแร่) มีเพียงส่วนน้อยที่มีการทำแบบเหมืองหาบ (ใช้คนขุดและหาบแร่ไปล้าง)

ชื่อ “หาดส้มแป้น” เพี้ยนมาจากคำว่า “ห้วยซัมเปียน” ในภาษาจีน ที่แปลว่าลึกเข้าไปในหุบเขา เนื่องจากการค้นหาแร่ดีบุกจะต้องเดินลึกเข้าไปเพื่อหาแร่ในหุบเขา ปัจจุบันแม้แร่ดีบุกจะลดน้อยลง แต่ก็มีการค้นพบแร่ดินขาวคุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของเอเชีย ที่มีชื่อเสียงด้านความโปร่งใสของเนื้อดิน สามารถส่งออกขายทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย

ปิดท้ายวันแรกด้วย น้ำนองฮอทสปา
.
สปาน้ำแร่ร้อนธรรมชาติแห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน จุดเด่นของที่นี่คือ การใช้น้ำแร่ที่ต่อตรงมาจากบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ซึ่งถือเป็นน้ำแร่คุณภาพดีอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว มีคุณสมบัติพิเศษคือ ไม่มีกลิ่นกำมะถัน สามารถใช้ดื่มได้และอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
.
ที่ตั้ง ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.
โทร. 084 625 3444, 077 828 388, 081 666 2285

ประโยชน์ของการแช่น้ำแร่
– กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยขยายหลอดเลือด
– คลายความปวดเมื่อย
– บำรุงผิวพรรณ
– กระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย
.

ที่นี่ยังมีบริการอื่น ๆ อีก เช่น
– นวดคลายกล้ามเนื้อ-คลายเส้น
– นวดแผนไทย
– นวดหน้า
– นวดเท้า
– ขัดผิว

วันที่ 2
.
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลบ้านม่วงกลวง คลองลัดโนด
.
หากใครอยากสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดและทำกิจกรรมที่หลากหลาย แอดแนะนำให้มาที่นี่ เพราะมีทั้งล่องเรือชมวิว ปลูกป่าชายเลน กินอาหารทะเลสดอร่อยบนกระชังปลา และล่องแพเปียก
.
ที่ตั้ง ม.3 ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.
โทร. 087 885 7965 (พี่ปรีชา), 082 278 6099 (ผู้ใหญ่ทวน)

กิจกรรมแรกคือการนั่ง “เรือพรีส” ชมวิว เรือนี้มีลักษณะคล้ายเรือหางยาวลำเล็ก ๆ นั่งได้ไม่เกิน 3 คน รวมคนขับ
.
วันที่แอดไปมีฝนตกลงมา สมกับที่เป็น “เมืองฝนแปดแดดสี่” จริง ๆ เพราะฉะนั้นใครมาเที่ยวระนองต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะ เช็คสภาพอากาศล่วงหน้าด้วย แต่จริง ๆ นั่งเรือกลางสายฝนก็สนุกไปอีกแบบเลยล่ะ

อีกจุดของที่นี่ ที่แอดชอบมากก็คือ กระชังปลา หรือเรียกว่าศูนย์เรียนรู้ลอยน้ำ ซึ่งเป็นจุดรับประทานอาหารกลางวันของเรา

มาถึงระนองทั้งที ถ้าไม่กินอาหารทะเลก็อาจถูกแซวว่ามาไม่ถึง ขอบอกเลยว่าอาหารที่นี่อลังการมาก กุ้ง หอย ปู ปลา ละลานตาไปหมด แถมรับประกันความสดและความอร่อย เมนูที่ไม่อยากให้เพื่อน ๆ พลาดเลยก็คือ “แกงกุ้งใส่ใบส้มป่อย” ซุปใสรสชาติคล่องคอ อมเปรี้ยวนิด ๆ เนื้อกุ้งก็หวานเด้ง รสชาติเข้ากันมาก ๆ

ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า อย่ากินเพลินจนลืมชมวิวนะ เพราะถึงแม้ว่าตอนล่องเรือฝนจะตก แต่พอฝนหยุดแล้ว สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาเป็นอะไรที่สุดยอดมากกก หมอกจาง ๆ บนภูเขา น้ำใส ๆ สะท้อนภาพท้องฟ้าที่เริ่มเปิด ลมเย็นพัดเอื่อย ๆ และอาหารอร่อย ๆ วางเต็มโต๊ะ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

กิจกรรมถัดไปตามโปรแกรมก็คือ การล่องแพเปียกชมสันหลังปึ้งกือ(สันหลังกิ้งกือ) ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อนี้ตั้งขึ้นเพื่อให้คล้องกับทะเลแหวกสันหลังมังกรที่ จ.สตูล และไฮไลท์สำคัญก็คือ การปลูกป่าชายเลน ที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังเป็นการช่วยเพิ่มทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย
.
แต่น่าเสียดายที่ฝนตกอีกรอบ ไม่สามารถล่องแพเปียกและปลูกป่าชายเลนได้ แต่ไม่ต้องห่วงนะ แอดหาภาพมาให้เพื่อน ๆ ดูแล้ว
.
แพ็กเกจ 1 วัน สำหรับ 2 – 60 คน เดินทางเอง ราคา 1,350 ต่อคน
บริการรับ-ส่ง เมืองระนอง 1,900 ต่อคน
.
โปรแกรมกิจกรรม ณ คลองลัดโนด
จุดนัดพบ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ท่าเรือคลองลัดโนด
– นั่งเรือพรีส ชมระบบนิเวศป่าชายเลน และชมทัศนียภาพของอ่าวกะเปอร์ ทะเลสาบระนอง
– ร่วมอนุรักษ์ปลูกป่าโกงกางที่แปลงปลูกชุมชน และชมสันทรายม้าน้ำ
– กินซีฟู้ดบนกระชัง และนั่งกินลมชมวิว พักผ่อนตามอัธยาศัย
– ล่องแพเปียก เล่นน้ำทะเลแหวกที่สันหลังปึ้งกือ ชมวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง พร้อมทั้งชมชุมชนไร้แผ่นดิน
– ขึ้นฝั่ง อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ที่ศูนย์เรียนรู้ตำบลม่วงกลาง
– เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

บ้านไร่ไออรุณ
.
ตั้งอยู่ใน อ.กะเปอร์ เป็นทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร และฟาร์มสเตย์ บรรยากาศและการตกแต่งของที่นี่ มีความน่ารักและอบอุ่นแฝงอยู่แทบทุกมุมเลย
.
21 ม.7 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
โทร. 096 938 2981
Facebook : https://www.facebook.com/baanraiiarun/

ล๊อบบี้ต้อนรับ(สำหรับผู้เข้าพัก) และเคาน์เตอร์สั่งอาหารเป็นเรือนไม้ไผ่ 2 ชั้น มีที่นั่งทั้งด้านบนและด้านล่าง มีลำธารที่เกิดจากฝายเล็ก ๆ และน้ำตกไหลผ่าน มีโต๊ะ เก้าอี้ และเปลเชือก ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

ส่วนเรื่องกินไม่ต้องห่วง ผลผลิตทางการเกษตรของที่นี่เป็นเกษตรอินทรีย์ นอกจากจะปลูกไว้กินเองในครอบครัวและที่พักแล้ว ยังแบ่งขายอีกด้วย รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน นอกจากนี้แอดยังได้รู้มาอีกว่า ทางบ้านไร่ไออรุณตั้งใจมาก ๆ ที่จะช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้เดินหน้าไปพร้อมกับที่พัก
.
น่าเสียดายที่วันนั้นแอดกินข้าวมาก่อนแล้ว จึงสั่งแต่เครื่องดื่ม พนักงานเล่าให้แอดฟังว่า ที่นี่ใช้แก้ว Bio ที่ผลิตจากพืช สามารถย่อยสลายได้ 100% ส่วนหลอดทำจากกระดาษ ใช้ได้เกือบ ๆ 2 ชั่วโมง สัมผัสได้ถึงความตั้งใจและใส่ใจในทุกรายละเอียดของที่นี่ สมกับแนวคิดที่ว่า “สิ่งเล็ก ๆ จากในไร่ ด้วยหัวใจ…ถึงมือคุณ” จริง ๆ

จุดชมวิวเขามัทรี
.
ตั้งอยู่บนเส้นทาง ชุมพร-ปากน้ำ-หาดทราย เป็นจุดชมวิวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของ จ.ชุมพร ที่สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว จากที่นี่จะมองเห็นชุมชนปากน้ำชุมพรและชายหาดของทะเลชุมพรที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปกัน โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน
.
ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร
เปิดทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.
โทร. 082 480 2161 (ร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ ณ จุดชมวิวเขามัทรี)

ทางด้านทิศตะวันออก มีร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ที่มีระเบียงให้ชมวิว นั่งมองวิวทะเลไป จิบกาแฟพร้อมละเลียดเค้กไป เพลินมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ ร้านกาแฟที่นี่ยังเป็นจุดจำหน่ายสินค้าของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟบ้านถ้ำสิงห์อีกด้วย แอดก็เลยอดไม่ได้ที่จะซื้อกาแฟโรบัสต้าคั่วบดชื่อดังของ จ.ชุมพร กลับไปด้วย 2 ถุง

ด้านทิศตะวันตก จะเห็นชุมชนปากน้ำชุมพร ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่เนื่องจากเป็นท่าเทียบเรือประมง ถือเป็นจุดถ่ายภาพยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ หากใครหิว ใกล้ ๆ ก็ยังมีร้านอาหารเล็ก ๆ คอยให้บริการอีกด้วย

นอกจากนี้ บริเวณจุดชมวิวยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมหรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางมหาราชลีลา ประทับหันหน้าออกไปทางชายทะเลชุมพร ถ้าเพื่อน ๆ แวะไปชมวิวแล้ว ก็อย่าลืมไปสักการะเพื่อเสริมสิริมงคลกันด้วยนะ

บาติกผาแดง ครูอนงค์
.
ก่อนหมดวัน แอดแวะไปที่กลุ่มบาติกผาแดง ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้และจำหน่ายสินค้าจากผ้าบาติก ที่เริ่มต้นจากสมาชิกเพียง 4-5 คน และได้รับการตอบรับที่ดีเรื่อยมา จนได้รับรางวัล OTOP 4 ดาวเมื่อปี พ.ศ 2552
.
ที่ตั้ง 11/2 ม.1 ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร
เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
โทร. 084 414 7391, 083 102 0356
Facebook : https://www.facebook.com/batikphadang

นอกจากจะมีสินค้าจำหน่ายแล้ว เพื่อน ๆ ยังสามารถศึกษาวิธีการทำผ้าบาติกและผ้ามัดย้อมได้อีกด้วย แอดยืนคุยกับคุณป้าที่กำลังเพนท์ผ้าบาติก ดูไปคุยไป รู้ตัวอีกทีก็เพนท์เกือบเสร็จแล้ว คุณป้าบอกว่าปกติใช้เวลาทำตั้งแต่การเพนท์ไปจนถึงตากแห้งประมาณ 2 วันต่อผ้า 1 ผืน ถ้าเพื่อน ๆ อยากลองทำเองก็ได้เช่นกัน โดยค่าใช้จ่ายสำหรับการทำผ้าเช็ดหน้า 1 ผืน เริ่มต้นที่ 50 บาท

วันที่ 3
.
จุดชมวิวป่าเขาเขียว
.
เช้าวันสุดท้าย แอดออกจากที่พักตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปที่ จุดชมวิวป่าเขาเขียว แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.สวี ที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิว “สองทะเล” ซึ่งหมายถึงทะเลหมอกและทะเลอ่าวไทยนั่นเอง
.
ค่าบริการรถ 4WD คันละ 400 บาท (นั่งได้ไม่เกิน 10 คน)
ค่าเช่าเต็นท์หลังละ 100 บาท/คืน
.
ที่ตั้ง หมู่ 8 ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร
เปิดทุกวัน
โทร. 092 242 2893 (พี่อุ้ม)

การเดินทางขึ้นจุดชมวิวป่าเขาเขียว เพื่อน ๆ ต้องไปที่จุดบริการนักท่องเที่ยวเพื่อนั่งรถกระบะ 4WD ที่ทางผู้นำชุมชนและชาวบ้านเตรียมไว้คอยบริการรับ-ส่ง นั่งไปประมาณ 10 นาทีก็ถึงจุดจอดรถบนเขา จากนั้นต้องเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ทางเดินเป็นดินสลับกับหิน บางจุดมีบันไดดินให้เดิน ซึ่งอาจจะเหนื่อยนิดหน่อยเพราะเป็นการเดินขึ้นเขาและทางค่อนข้างชัน

เมื่อถึงจุดชมวิว ต้องบอกเลยว่าหายเหนื่อยและคุ้มค่าที่ตื่นเช้าจริง ๆ เนื่องจากวิวสวยมากกกก หันไปทางทิศตะวันออกก็เจอ “ทะเลอ่าวไทย” ไกลจนสุดสายตา ยามพระอาทิตย์ขึ้นจะเห็นเส้นขอบฟ้าเป็นสีส้มอมทองตัดกับสีฟ้าของขอบน้ำ สวยงามมาก

ทางทิศตะวันตกก็สวยไม่แพ้กัน จะเห็น “ทะเลหมอก” ลอยเป็นปุยสีขาวปกคลุมภูเขาสีเขียวไปทั่ว มองแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็สวย สวยจนแอดไม่รู้จะบรรยายยังไงเลยทีเดียว
.
ปัจจุบันที่นี่มีลานกางเต็นท์ที่รองรับได้ 10 หลัง และในอนาคตจะสร้างเพิ่มให้รองรับได้ประมาณ 50-60 หลัง นักท่องเที่ยวสามารถแวะสักการะศาล “ปู่เจ้าเขาเขียว” ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย

เจียฟาร์ม
.
หลังจากชมวิวสองทะเลสวย ๆ แล้ว แอดมาแวะซื้อของฝากที่ เจียฟาร์ม ร้านของฝากคุณภาพจากทะเลชุมพร มีทั้งอาหารทะเลแปรรูป ปลาหมึกแห้ง ปลาอินทรีย์ ปลากุเลาหอม กาแฟคั่ว แต่ที่โดดเด่นมาก ๆ ก็คือกุ้งแห้งออแกนิค ที่รสชาติเค็มน้อย หอม หวานเนื้อกุ้ง เพราะใช้กุ้งสด ๆ จากทะเลนั่นเอง
.
ที่ตั้ง 100/48 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.
โทร. 062 514 4564
Facebook : https://www.facebook.com/Chiasfarm

หาดทุ่งวัวแล่น
.
ก่อนกลับแอดแวะมาที่ “หาดทุ่งวัวแล่น” ชายหาดขึ้นชื่อของ อ.ปะทิว เป็นหาดทรายที่มีความลาดเอียงน้อย เม็ดทรายขาวสะอาดเนียนละเอียด น้ำทะเลใสเหมาะสำหรับเล่นน้ำและถ่ายรูปมาก ๆ

.
ที่ตั้ง ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร
เปิดทุกวัน

ตามตำนานเล่าว่า แต่ก่อนหาดทุ่งวัวแล่นเป็นป่า มีสัตว์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก วันหนึ่งนายพรานยิงวัวป่าจนล้มลง และเตรียมแล่เนื้อเพื่อเป็นอาหาร แต่จู่ ๆ วัวกลับลุกขึ้นและวิ่งหนีเข้าป่าหายไป จึงเป็นที่มาของชื่อหาดทุ่งวัวแล่นนั่นเอง

เผยแพร่ใน Facebook : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง วันที่ 9 กันยายน 2563

Scroll to Top