สิ่งที่ต้องไปชมเมื่อมาถึงผาแต้มก็คือ ภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ที่เรียงรายอยู่บริเวณด้านล่างของหน้าผา มีอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 – 4,000 ปี เป็นภาพเขียนสีที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ความยาวทั้งหมดประมาณ 1,600 เมตร แบ่งออกเป็น 4 จุด คือ ผาขาม ผาแต้ม ผาหมอนน้อย และผาหมอน ซึ่งทางอุทยานฯ ได้ทำทางเดินจากหน้าผาด้านบนลงไปชมภาพเขียนสีเหล่านี้
ภาพเขียนสีเหล่านี้ มีทั้งภาพคน สัตว์ เครื่องมือเครื่องใช้ สัญลักษณ์ ลวดลายเรขาคณิต ฯลฯ ซึ่งบอกเล่าถึงพิธีกรรม ความเชื่อ และวิถีชีวิตของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์
การเดินทางไปชมภาพเขียนสีต้องใช้เวลากันสักหน่อย จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าไปประมาณ 500 เมตร จึงจะถึงจุดแรกของการชมภาพเขียนสีโบราณ
พาไปชมส่วนสำคัญไปแล้ว เราก็จะมาแนะนำส่วนอื่นๆ กันต่อ อย่างที่แอดได้เกริ่นไปตอนแรกแล้วว่า ผาแต้มที่เดียวเราสามารถเที่ยวได้ทั้งวันเลย
เริ่มจากชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าตรู่ที่ผาแต้ม ซึ่งผาแต้มนั้นเป็นหน้าผาสูงชันที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และยังเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครอีกด้วย
หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ขึ้นมาด้านบนของผาแต้ม ชมวิวแม่น้ำโขง เส้นแบ่งพรมแดนตามธรรมชาติระหว่างไทย-ลาว
พอแดดเริ่มร้อน เราก็ไปต่อกันที่ “น้ำตกทุ่งนาเมือง” ขับรถออกมาจากจุดชมพระอาทิตย์ประมาณ 38 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก เกิดจากลำห้วยทุ่งนาเมืองซึ่งเป็นร่องน้ำที่รองรับน้ำจากภูเขา จึงมีน้ำแค่ช่วงฤดูฝนเท่านั้น
จุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปก็คือ “เถาวัลย์ยักษ์” ที่อยู่ระหว่างทางเดินไปน้ำตกนั่นเอง
จากนั้นไปต่อกันที่ “น้ำตกลงรู หรือน้ำตกแสงจันทร์” สถานที่ท่องเที่ยวมีชื่ออีกแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จุดจอดรถกับตัวน้ำตกไม่ไกลกันมาก สามารถเดินทางไปชมได้อย่างสะดวก
ลักษณะเด่นคือเป็นน้ำตกแห่งเดียวในไทยที่ไหลลงรู ผ่านช่องหินที่ธรรมชาติเว้นไว้ให้อย่างพอเหมาะพอดี ลงมาสู่เพิงผาด้านล่าง หากเดินทางมาชมในช่วงเที่ยงซึ่งแสงอาทิตย์ลอดผ่านรูพอดี จะมองเห็นสายน้ำตกเหมือนแสงจันทร์
ด้านบนยังสามารถขึ้นไปชมวิวได้ด้วย
หลังจากไปเล่นน้ำเบาๆ แล้ว มาต่อกันที่ “น้ำตกสร้อยสวรรค์” เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงประมาณ 20 เมตร เกิดจากลำธาร 2 สาย คือห้วยสร้อยและห้วยไผ่ ที่ไหลมาบรรจบกัน จากจุดจอดรถต้องเดินเท้าต่อเข้ามาประมาณ 500 เมตร จึงจะถึงจุดเล่นน้ำ
ที่นี่มีร้านอาหารให้บริการด้วยนะ
ก่อนกลับ แวะถ่ายภาพกับ “เสาเฉลียง” เสาหินธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลมเป็นเวลานับล้านปี มีลักษณะคล้ายดอกเห็ดเรียงรายกันอยู่มากมาย ซึ่งเราจะพบเห็นซากเปลือกหอย กรวด ทราย อยู่ในเนื้อหิน
นักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่าเมื่อประมาณล้านกว่าปีมาแล้ว บริเวณนี้คงจะเคยเป็นทะเลมาก่อน
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
ภายในอุทยานฯ มีบ้านพักจำนวน 6 หลัง รวมทั้งยังมีลานกางเต็นท์ที่กว้างขวาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม โทร 045 252 581
ททท. สำนักงานอุบลราชธานี โทร 045 243 770
การเดินทาง
จากอำเภอโขงเจียม ใช้ทางหลวงหมายเลข 2134 แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 2112 เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 8 ให้เลี้ยวขวาไปยังผาแต้มอีกประมาณ 5 กิโลเมตร
พิกัด : https://goo.gl/maps/4mP3QYSnce92