รวม 8 ที่เที่ยวสไตล์สายฮิป…ที่กาฬสินธุ์

อย่างที่รู้กันว่าการเดินทางในภาคอีสานยังไม่ค่อยสะดวกเพราะที่เที่ยวแต่ละที่อยู่ไกลกันแถมรถโดยสารก็ไม่ค่อยมี แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา เราบินมาลงที่ จ.ร้อยเอ็ด แล้วเช่ารถขับเอง จากร้อยเอ็ดไปกาฬสินธุ์แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น มาดูกันว่าเรามาทำอะไรบ้างที่กาฬสินธุ์

1. เดินดูบ้านไม้เก่าในเมือง เราชอบเดินดูบ้านเรือนตึกเก่า ๆ ถ่ายรูปประตูหน้าต่างสวย ๆ ที่กาฬสินธุ์จะมีย่านวัดกลาง ที่เป็นบ้านไม้เก่าแก่อายุ 80-100 ปี ที่ผู้คนยังอาศัยอยู่ แต่มีบางบ้านก็ร้างไปแล้ว รถราที่นี่ยังไม่เยอะเลยเดินเล่นได้อย่างชิว ๆ ใครอยากมาเดินเล่นให้มาตรงวัดกลางแล้วเดินเล่นรอบ ๆ วัดได้เลย

2. นั่งชิวร้านกาแฟ ในเมืองเล็กๆ เราคิดว่าน่าจะมีร้านกาแฟเก๋ ๆ อยู่ที่ไหนซักที่ เราเดินมาเจอร้าน Cafe de Supak กับร้าน Hug a Mug cafe ซึ่งจัดว่าดีงามทั้งสองร้าน

เริ่มที่ Cafe de Supak เป็นร้านเก๋ ๆ อยู่แทบจะใจกลางเมือง ชั้นบนเป็นโรงแรมชั้นล่างทำเป็นร้านกาแฟที่รีโนเวทซะทันสมัย นอกจากกาแฟ แล้วยังมีเมนูทั้งคาวหวาน เค้ก ฮันนี่โทสต์ วันนั้นเราสั่งมัจฉะลาเต้ อร่อยใช้ได้เลยล่ะ ดื่มไปนั่งชิว ๆ ชมวิวนอกร้านแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว 

ร้าน Hug a Mug Cafe ร้านกาแฟอีกร้านที่ตกแต่งได้ทันสมัยในสไตล์อิฐสีขาว ๆ หน้าร้านจะประดับด้วยต้นเฟิร์นร่มรื่นเชียวล่ะ ที่นี่มีทั้งขนมเค้ก และเครื่องดื่มหลายเมนูให้เลือก ใครเดินเล่นเมื่อย ๆ แล้วมาหยุดนั่งพักได้ที่ร้านนี้

3. ซื้อผ้าแพรวา เราชอบสะสมผ้าพื้นเมืองแบบ “ของมันต้องมี” เห็นผ้าไทยที่ไหนไม่ได้ ต้องขอซื้อติดไม้ติดมือกลับมาก่อน ใส่ไม่ใส่ค่อยว่ากัน ยิ่งผ้าไหมแพรวาสวยๆ ผ้าขึ้นชื่อเอกลักษณ์ของกาฬสินธุ์มีหรือเราจะพลาด ร้านที่เราไปชอปในวันนี้ชื่อร้านแพรวาแม่เนื่อง มีแต่ของสวย ๆ ทั้งนั้นเลยล่ะทั้งผ้าผืน เสื้อผ้าสำเร็จรูป ของที่ระลึก มาที่เดียวซื้อไปฝากพ่อแม่เพื่อนฝูงได้ครบเลยล่ะ

4. เดินชิวยามค่ำที่ตลาดโรงสี ตกเย็นเรามาเดินเล่นหาอะไรกินกันที่ตลาดโรงสี โรงสีเก่าที่ตกแต่งให้เป็นตลาดย้อนยุค มีโซนที่ทำเป็นบ้านไม้สองชั้น และโซนเอาท์ดอร์ นั่งกินไปดูวัยรุ่นกาฬสินธุ์ที่ออกมาแฮงเอาท์กันที่นี่ก็เพลินดีเหมือนกัน เมนูที่เราว่าเด็ดมาก ๆ และห้ามพลาดคือ สเต็กหมูย่างจิ้มแจ่วเนื้อนุ่มสุดๆ ฟินจนต้องสั่ง 2 จาน ไดโนเสาร์ปังเย็น โรตีไดโนเสาร์ ก็อยากให้มาลอง

5. เดินดูตลาดเช้า ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านต้องไปที่ตลาดเช้า ตลาดเช้ากาฬสินธุ์มีเสน่ห์เพราะเงิน 100 บาท สามารถซื้ออะไรได้มากกว่าที่คิด ข้าวของราคาถูก ทั้งพืชผักพื้นเมืองแปลก ๆ ผลไม้ อาหารสด อาหารแห้ง เหมือนเราย้อนกลับไปในอดีตที่ไม่ต้องแคร์กับสภาวะเศรษฐกิจที่วุ่นวาย นี่แหละเสน่ห์ของกาฬสินธุ์ที่เราหลงรัก

6. ถ่ายรูปกับฮูปแต้มสีพาสเทล ที่วัดอุดมประชาราษฎร์ วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ที่มีอายุกว่า 85 ปี สร้างโดยช่างชาวญวน และสิ่งที่พิเศษกว่าวัดอื่น ๆ คือ สิมหรือโบสถ์ที่มีจิตรกรรมฝาผนังหรือฮูปแต้มที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวอีสานด้วยฝีมือการแต้มของช่างชาวอีสาน มีการใช้สีเย็นในโทนพาสเทล เช่น สีฟ้า เหลือง เขียว วาดเป็นเรื่องราวชาดก เช่น พระเวสสันดรชาดก บอกเลยว่าผู้ที่รักงานศิลปะไม่ควรพลาด นอกจากจะได้มาไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แล้วยังได้ชมจิตรกรรมฝาผนังสวย ๆ อีกด้วย

7. ไปตามหาไดโนเสาร์ที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร มากาฬสินธุ์ทั้งทีถ้าไม่ไปที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร ภูกุ้มข้าวก็เหมือนมาไม่ถึงเราเดินทางไปที่ อ.สหัสขันธ์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ที่นี่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยเพราะเป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์และฟอสซิลที่สมบูรณ์และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยล่ะ กระดูกไดโนเสาร์ที่ค้นพบที่บริเวณภูกุ้มข้าวนี้มีอายุถึง 130 ล้านปี ไฮไลท์คือโครงกระดูกไดโนเสาร์จำลองขนาดเท่าตัวจริง ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้องจัดแสดง เหมือนพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศเลย

เค้ามีการแบ่งโซนไล่ไปตามยุคต่าง ๆ มีทั้งไดโนเสาร์ที่พบในประเทศไทยและต่างประเทศ ฟอสซิลของจริงที่จัดแสดงให้เราได้ดูเพื่อศึกษาถึงประวัติความเป็นมาของไดโนเสาร์ในประเทศไทย แถมมีห้องวิจัยที่ทันสมัยสุด ๆ เดินดูในอาคารพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วอย่าลืมขึ้นไปดูหลุมขุดค้นของจริงที่อยู่บนภูกุ้มข้าว จะได้เห็นกระดูกไดโนเสาร์ของจริงตัวมหึมาที่อยู่ในหลุมขุดด้วย น่าตื่นเต้นมากเลยล่ะ เราว่าเด็ก ๆ ต้องชอบที่นี่แน่ ๆ พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์เวลา 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น อย่าไปผิดวันนะ

8. ถ่ายรูปที่สะพานเทพสุดา จากพิพิธภัณฑ์สิรินธรไปไม่ไกลก็มาถึงสะพานข้ามเขื่อนลำน้ำปาว เป็นสะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าจาก จ.หนองคาย อุดรธานี ผ่านกาฬสินธุ์ ไปสู่มุกดาหารที่สำคัญมากเพราะช่วยย่นระยะทางได้เกือบ 100 กิโลเมตร และชาวกาฬสินธุ์ยังใช้ขนส่งผลผลิตทางการเกษตรไปสู่โรงงานซึ่งอยู่คนละฝั่งของสะพาน ช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งไปได้เยอะทีเดียว พอรู้ถึงสตอรี่ของสะพานก็ดูสวยงามเลอค่ามากขึ้นกว่าเดิมเลยล่ะ แถมยังเป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ ด้วย ยิ่งมาช่วงพระอาทิตย์ตกดินนี่สวยสุด ๆ ไปเลย อย่าลืมไปถ่ายรูปกับพี่ไดโนเสาร์ที่ตีนสะพานนะ 

เรามองจากสะพานลงไปจะเห็นแพร้านอาหารลอยอยู่หลายลำในเขื่อน มีนักท่องเที่ยวกระโดดน้ำเล่นกันน่าสนุก เสียดายที่เรามีเวลาน้อยเลยอดเล่นน้ำ

กาฬสินธุ์ยังมีที่เที่ยวอีกหลายแห่งที่เหมาะกับชีวิตสโลว์ไลฟ์ เราว่าจริง ๆ แล้วแค่ได้นั่งๆ นอนๆ เดินเล่นใช้ชีวิตง่ายๆ ไปพร้อมกับชาวกาฬสินธุ์ก็ถือว่าได้ Go Local เป็นการชาร์จพลังเติมความบริสุทธิ์ใส ๆ ให้ชีวิตที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ

Scroll to Top