1.เส้นทางเดินป่าเขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี
สุดยอดเส้นทางเดินป่าขึ้นเขาสำหรับนักผจญภัยที่ชอบความหวาดเสียว โดยต้องเริ่มต้นเดินเท้าจากบ้านอีต่อง อ.ทองผาภูมิ สู่เนินเขาหลายลูก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เส้นทางสูงชัน บางจุดเป็นไหล่เขาและแคบ ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดิน โดยเฉพาะเนินเขาลูกสุดท้ายก่อนถึงจุดกางเต็นท์ ชันมากถึงขนาดต้องมีเชือกให้จับเวลาเดินขึ้น-ลง
ไฮไลท์อยู่ที่เส้นทางจากจุดกางเต็นท์ไปยอดเขาช้างเผือก ที่ต้องเดินผ่าน ”สันคมมีด” จุดที่แคบที่สุด หวาดเสียวที่สุด ที่ต้องเดินผ่านไปให้ได้ วิวที่นี่สุดยอด โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตก สวยงามเกินบรรยาย นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่หลายคนอยากไปสัมผัสสักครั้ง ใครจะมาผจญภัยที่นี่ต้องจองล่วงหน้า เพราะมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะค้างแรมบนเขา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โทร. 034 510 979, 098 252 0359
2.เส้นทางเดินป่าดอยภูแว จ.น่าน
ดอยภูแว เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ด้วยความสูง 1,837 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง ต้องเดินเท้าขึ้นดอยด้วยระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร ระหว่างทางจะพบกับจุดชมวิว 360 องศา ถ้าวันไหนสภาพอากาศเป็นใจจะได้พบกับทะเลหมอกสุดตระการตา โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ทะเลหมอกสีขาวตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียวบนยอดดอย ดูสวยงามมาก อากาศก็เย็นสบาย แค่นี้ก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยล้าที่นักผจญภัยทั้งหลายดั้นด้นเดินขึ้นเขามาด้วยความยากลำบากแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 054 731 623, 082 194 1349
3.เส้นทางเดินป่าดอยพุ่ยโค จ.แม่ฮ่องสอน
เป็นดอยที่สามารถขับรถขึ้นไปได้ครึ่งทาง และเดินเท้าต่อแบบสบายๆ ระยะทางไม่ไกล ไม่สูงชันมาก ชมนกชมไม้ได้เรื่อยๆ ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 30 นาทีก็ถึงจุดสูงสุด เป็นดอยที่มีทิวทัศน์สวยงาม โดยเฉพาะในวันที่มีทะเลหมอก บรรยากาศเหมือนอยู่บนสวรรค์ บนยอดดอยมีลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ แต่ไม่มีร้านค้าหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ต้องเตรียมทุกอย่างไปเอง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณชาติชาย (ติดต่อลูกหาบ รถกระบะ บ้านอุมดาเหนือ อ.สบเมย) โทร. 097 272 7693
4.เส้นทางเดินป่าดอยม่อนจอง จ.เชียงใหม่
เป็นอีกหนึ่งยอดดอยที่มีเส้นทางเดินป่าบรรยากาศสวยงาม โดยในช่วงแรกต้องนั่งรถกระบะขึ้นไปก่อน จากนั้นต้องเดินเท้าผ่านป่าและทางราบสลับเนินเขา เนินสุดท้ายก่อนถึงจุดกางเต็นท์ทางค่อนข้างชัน วิวสองข้างทางสามารถมองเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อนสวยงาม
ในช่วงหน้าหนาวเส้นทางจากลานกางเต็นท์ไปยังจุดสูงสุดบนยอดดอยที่เรียกว่า “ผาหัวสิงห์” จะผ่านทุ่งหญ้าที่เปลี่ยนเป็นสีทองสวยงาม สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกได้ชิลๆ นอกจากนี้ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม กุหลาบพันปีจะออกดอกบานสะพรั่งเต็มต้นอยู่เป็นดงตามไหล่เขา ว่ากันว่าเป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย โทร. 085 708 7441
5.เส้นทางเดินป่าเขาหลวง อุทยานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย
เป็นเส้นทางที่มีระยะทางไม่ไกลนัก ประมาณ 4 กิโลเมตรจากที่ทำการอุทยานฯ สู่จุดกางเต็นท์บนเขา แต่ด้วยสภาพเขาที่สูงชันตลอด ล้อมรอบไปด้วยป่ารกทึบ บรรดานักเดินป่าทั้งหลายควรจะฟิตร่างกายให้เต็มที่ก่อนเดินทาง
ด้านบนมีร้านค้าสวัสดิการ ห้องน้ำ บริการ สามารถเดินป่าชมวิวธรรมชาติสวยๆ ได้ถึง 4 ยอดเขา คือ ยอดพระเขาเจดีย์ ยอดเขาพระแม่ย่า ยอดเขาภูกา และยอดเขานารายณ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติรามคำแหง โทร. 087 313 7897
6.เส้นทางเดินป่าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์
เป็นอุทยานฯ ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เส้นทางเดินป่าเริ่มต้นจากที่ทำการอุทยานฯ ไปจนถึงลานสน ผ่านเนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง เนินมรณะ ซึ่งเป็นเนินสุดท้ายลาดขันที่สุด จนถึงยอดภูสอยดาวที่ความสูง 2,102 เมตร เรียกว่า ”ลานสน” ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง ลักษณะเป็นป่าสนสามใบแวดล้อมด้วยทุ่งหญ้ากว้างใหญ่
ช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายนของทุกปี จะมีดอกไม้ออกดอกเป็นกลุ่มหนาแน่น เช่น ดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอม ในฤดูหนาวจะมีดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ และต้นเมเปิ้ล เป็นต้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทร. 055 436 793, 055 436 001
7.เส้นทางเดินป่าน้ำตกทีลอซู จ.ตาก
การเดินทางไปยังน้ำตกทีลอซู ในช่วงหน้าฝนจะต้องล่องเรือยางจากอุ้มผางเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นเดินเท้าไปยังจุดกางเต็นท์ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งจากจุดนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินป่าไปยังน้ำตกทีลอซู ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร
เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่นี่จะผ่านป่าไผ่และป่าเบญจพรรณ ระหว่างทางมีป้ายสื่อความหมายเกี่ยวกับธรรมชาติและพืชพันธุ์ตามจุดต่างๆให้ได้ศึกษา เมื่อถึงบริเวณน้ำตกจะเห็นละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่ว มองเห็นธารน้ำตกลงมาจากผาหินปูนสูงกว่า 300 เมตรท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ มีทางเดินไปยังจุดชมวิวบนยอดเขาฝั่งตรงกันข้ามซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นน้ำตกทีลอซูได้อย่างสวยงาม ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง โทร. 055 577 318, 055 500 920
8.เส้นทางเดินป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติเขาใหญ่ มีให้เลือกกว่า 20 เส้นทาง มีลักษณะที่แตกต่างกันทั้งระยะทางและสภาพธรรมชาติ แต่ละเส้นใช้เวลาตั้งแต่ 1-2 ชั่วโมง
สภาพทั่วไปของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณและป่าดิบชื้น บางส่วนเป็นทุ่งกว้างสลับกับป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้และสมุนไพรต่างๆจำนวนมาก สัตว์ป่าที่สามารถพบเห็นได้บ่อยระหว่างทางตามทุ่งหญ้า คือ เก้ง กวาง หรือถ้าอยากขึ้นไปส่องดูสัตว์บนหอคอย ก็มีบริการอยู่ 2 จุด คือ บริเวณมอสิงโตและหนองผักชี อาจจะได้พบกับ ช้างป่า หมีควาย หมูป่า ชะนี เม่น พญากระรอก หมาใน ชะมด อีเห็น กระต่ายป่า เป็นต้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โทร. 086 092 6531, 086 092 6529
9.เส้นทางเดินป่าอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี
เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าดิบชื้นผืนใหญ่อีกแห่งหนึ่งของภาคใต้ มีสมญานามว่า “ขุนเขาแห่งป่าฝน” มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีพรรณไม้หายากและเป็นพืชเฉพาะถิ่น ได้แก่ บัวผุด ปาล์มหลังขาว และปาล์มพระราหู เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด มีน้ำตก หน้าผา ถ้ำ และทิวทัศน์เทือกเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านเหนือผืนน้ำอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภาเป็นไฮไลท์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาสก โทร. 077 395 139, 077 395 154-5