“มะขามคาเฟ่”

รถรางชมเมืองจะให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สามารถรอขึ้นได้ที่บริเวณหน้าวัดประตูป่องเท่านั้น ไม่มีแวะรับนักท่องเที่ยวระหว่างทางนะคะ 

พิกัดวัดประตูป่อง https://goo.gl/maps/WSJLUHn91gq
.
เส้นทางรถรางเริ่มที่วัดประตูป่อง และจะจอดตามจุดต่างๆ ดังนี้
– วัดปงสนุกเหนือ
– ถนนสายวัฒนธรรม
– สถานปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม เขมโก
– วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม
– บ้านเสานัก
– บ้านหลุยส์ ที เลียวโนเวนส์
– วัดประตูป่อง
.
หากเพื่อนๆ เดินทางไปกันหลายคน และอยากเหมารถรางเที่ยวชมเมืองก็สามารถทำได้ แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้านะคะ โทร. 081 950 9098 (คุณลุงประทีป)

สถานที่แรกที่รถรางจะพาเราไปก็คือ “วัดปงสนุกเหนือ” ค่ะ ระหว่างทางจะมีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายให้ความรู้และตอบคำถามนักท่องเที่ยวด้วยค่ะ 
.
วัดปงสนุกเหนือเป็นวัดสำคัญที่อยู่คู่เมืองลำปางมาช้านาน ภายในวัดเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งสำคัญหลายอย่างที่มีคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมค่ะ ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปไม้ เสาหงส์ ซุ้มประตูโขง และอื่นๆ อีกมากมาย

จากนั้นรถรางก็จะพาเราไปยัง “ถนนสายวัฒนธรรม” ระหว่างทางเพื่อนๆ จะได้เห็นบ้านเรือนเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 100 ปี และยังจะได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนท่ามะโออีกด้วยค่ะ
.
ซึ่งผู้บรรยายก็จะบรรยายไปเรื่อยๆ จนไปถึงร้านค้าชุมชน ที่นั่นมีสินค้าชุมชนให้เราได้เลือกซื้อกันหลายอย่างเลยค่ะ

ไปต่อกันที่ “สถานปฏิบัติธรรมหลวงพ่อเกษม เขมโก” ซึ่งหลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานที่ชาวลำปางและผู้คนทั่วไปให้ความเคารพเลื่อมใสเป็นอย่างมาก 
.
ภายในมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อเกษม ที่สร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้สักการะอีกด้วยค่ะ

สถานที่ถัดมาก็คือ “วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม” หลายๆ คนคงจะคุ้นชื่อ เพราะเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลำปาง 
.
เป็นวัดที่เคยประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต เป็นเวลานานถึง 575 ปี ภายในวัดสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พระบรมธาตุดอนเต้า วิหารพระเจ้าทองทิพย์ มณฑปศิลปะพม่า และวิหารพระพุทธไสยาสน์ 
.
หากมีโอกาสมาเที่ยวลำปาง ต้องห้ามพลาดวัดนี้เลยนะคะ

ออกจากวัดพระแก้วดอนเต้าแล้ว เรามุ่งหน้าไปชม “บ้านเสานัก” บ้านไม้สักโบราณอายุกว่า 100 ปี คำว่า “เสานัก” นั้นหมายถึง มีเสาจำนวนมาก เนื่องจากที่นี่มีเสาถึง 116 ต้นนั่นเอง 
.
บ้านหลังนี้สร้างโดยหม่องจันโอง (ชาวพม่า) และคุณมุกต์ (ต้นตระกูลจันทรวิโรจน์) การก่อสร้างจึงมีลักษณะแบบพม่าผสมล้านนา และเนื่องจากมีเสาไม้สักจำนวนมาก จึงทำให้บ้านตั้งอยู่อย่างคงทนและถาวรมาจนทุกวันนี้

บ้านเสานักเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10.00 – 17.00 น. ค่าบำรุงสถานที่คนละ 50 บาท มีเครื่องดื่มสมุนไพรพร้อมขนมมาให้ด้วย อร่อยกรุบกริบ^^

ภายในบ้านจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดลำปาง มีข้าวของเครื่องใช้โบราณ เฟอร์นิเจอร์สมัยก่อน และรูปภาพเก่าๆ ให้ชมด้วย

รถรางพาเรามาต่อกันที่ “บ้านหลุยส์ ที เลียวโนเวนส์” คฤหาสน์อายุกว่า 112 ปี ของนายห้างค้าไม้ชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นลูกชายของแหม่มแอนนา เลียวโนเวนส์ ครูสอนภาษาอังกฤษในราชสำนักรัชกาลที่ 4 นั่นเอง
.
เรือนหลังนี้เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น หลังคาทรงปั้นหยา ด้านหน้ามีมุขแปดเหลี่ยม ตีเกล็ดไม้โปร่งพร้อมบานหน้าต่างโดยรอบเพื่อระบายอากาศ ด้านล่างมีซุ้มประตูโค้งแบบฝรั่ง 
.
ถ้าย้อนกลับไปในสมัยก่อน จะต้องสวยงามมากแน่ๆ เลยค่ะ

มาถึงสถานที่สุดท้ายกันแล้ว รถรางจะพาเรากลับมาที่ “วัดประตูป่อง” และเจ้าหน้าที่จะพาเราเข้าไปชมภายในวัดค่ะ วัดประตูป่องได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานในปี 2523 
.
ภายในมีวิหารสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ที่หน้าแหนบหรือหน้าบันทำจากไม้สลักลวดลายปิดทองประดับกระจก ถัดลงมาด้านล่างมีโก่งคิ้วหรือสาหร่ายรวงผึ้ง แกะสลักเป็นลายไส้หมูที่เป็นเอกลักษณ์ของลำปางและพะเยา

เข้ามากราบสักการะพระประธานภายในวิหารเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมชมสัตตภัณฑ์และธรรมาสน์ที่งดงาม

ภายในวิหารยังมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวประเพณี 12 เดือนของชาวเหนือ ถึงแม้จะเป็นฝีมือจิตรกรร่วมสมัยแต่ก็สวยงามมากๆ เลยค่ะ

ลืมบอกไปว่า รถรางชุมชนท่ามะโอ เค้ามีพัดและร่มไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะ ใส่ใจกันขนาดนี้ เอาใจแอดไปเลย คราวนี้จะร้อนจะแดดมากแค่ไหนก็ไหวแน่นอน 

Scroll to Top