หลงป่าดงดิบที่ “หุบป่าตาด” เข้าสู่ยุคดึกดำบรรพ์

หลงป่าดงดิบที่ “หุบป่าตาด” เข้าสู่ยุคดึกดำบรรพ์ที่ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี

ทางเข้าหุบเป็นถ้ำมืดสนิทต้องใช้ไฟฉายส่องทาง แต่ระยะทางไม่ไกลมากนัก เมื่อเดินลอดผ่านเข้ามาภายในหุบมีสภาพเป็นป่าดงดิบ มีอากาศเย็นและชื้น พื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยต้นตาด

ต้นตาดเป็นพืชยุคดึกดำบรรพ์ อยู่ในตระกูลเดียวกับต้นปาล์ม มีใบเป็นแฉก ชอบขึ้นในพื้นที่ป่าดงดิบหนาทึบ (ภาพนี้คือ “ลูกหมาก” ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับลูกของต้นตาด)

เดินต่อเข้าไปเกือบสุดเส้นทางจะพบกับถ้ำอีกหนึ่งถ้ำ เป็นโถงแบบเปิดโล่ง ตรงจุดนี้ถ้าอยากถ่ายภาพให้สวย ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 11.00 -13.00 น. ซึ่งแสงจะส่องลงมายังหุบป่าตาดมากที่สุด (เพื่อนๆ สามารถเข้าชมหุบป่าตาดได้ทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-16.00 น.)

การเดินทางมายังหุบป่าตาด โดยรถยนต์

จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 วิ่งตรงจนถึงอำเภอบางปะอิน จังหวัดอยุธยา จากนั้นแยกซ้ายเปลี่ยนไปใช้ทางหลวงหมายเลข 32 วิ่งตรงจนถึงทางเข้าเมืองอุทัยธานี

จากตัวเมืองอุทัยธานี วิ่งตามทางหลวงหมายเลข 333 ผ่านอำเภอหนองฉาง ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3438 ตรงไปอำเภอลานสัก ประมาณ 21 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปทางเดียวกับทางขึ้นเขาปลาร้าอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ก็ถึงทางเข้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากตัวเมืองอุทัยธานี)

พิกัด https://goo.gl/maps/bvSWP2RR2YM2

การเดินทางโดยรถประจำทาง

จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางโดยรถตู้โดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต 2

จากอำเภอเมืองอุทัยธานี สามารถนั่งรถประจำทางสาย อุทัยธานี-ลานสัก ลงที่ปากทางเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แล้วต่อรถรับจ้างเข้าไปอีก 5 กิโลเมตร (ถ้าไปกันหลายคน สามารถเหมารถจากตัวเมืองเลยก็ได้ครับ ราคาแล้วแต่ตกลงกัน)

หุบป่าตาดสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้ามาช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน เพื่อนๆ จะมีโอกาสได้เห็นกิ้งกือมังกรสีชมพู สัตว์ป่าดึกดำบรรพ์ ที่ในประเทศไทยสามารถพบเจอได้ที่นี่เพียงที่เดียวเท่านั้น
.
กิ้งกือมังกรสีชมพู (Shocking Pink Millipede) มีลวดลายและปุ่มหนามคล้ายมังกร เมื่อโตเต็มที่จะมีลำตัวยาวแค่ประมาณ 7 เซนติเมตรเท่านั้น โดยมันจะคลานอยู่ตามพื้น กำแพง ทางเดินืต้นไม้ และถึงแม้สีสันที่ตัวของมันจะค่อนข้างเด่น แต่ก็ต้องคอยสังเกตให้ดีเพราะตัวค่อนข้างเล็ก (เอาจริงๆพวกเราก็หาไม่เจอด้วยซ้ำ ต้องอาศัยพี่ๆเจ้าหน้าที่และน้องๆวิทยากรช่วยชี้ให้ดู )