เส้นทางท่องเที่ยวนครนายก-ปราจีนบุรี 2 วัน 1 คืน
ถึงนครนายกและปราจีนบุรีจะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปหลายแห่ง เรียกว่าครบทั้งที่เที่ยวทางธรรมชาติ ร้านอาหาร คาเฟ่สุดชิค และแหล่งเรียนรู้ บอกเลยว่าทริปนี้ได้ทั้งความชิลและความรู้ไปแบบเต็ม ๆ
.
ทริปนี้แอดจะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ตามมาดูเลยค่ะ
จังหวัดนครนายก
– Montreux Café & Farm
– วัดจุฬาภรณ์วนาราม
– อุทยานพระพิฆเณศ
– สะพานทุ่งนามุ้ย
จังหวัดปราจีนบุรี
– พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร
– บ้านเล่าเรื่อง…เมืองสมุนไพร
– ภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ
– Café Kantary 304
ร้าน Montreux Café & Farm
เริ่มต้นที่แรกด้วยร้าน Montreux Café and Farm (มองเทรอส์ คาเฟ่ แอนด์ ฟาร์ม) คาเฟ่บรรยากาศดี มีฟาร์มเล็ก ๆ ให้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ
.
ภายในร้านแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนของคาเฟ่ และฟาร์ม
คาเฟ่ให้บริการอาหาร น้ำดื่ม และขนม ใครหิวมาฝากท้องได้ที่นี่เลยค่ะ อร่อยทุกอย่าง
.
ที่ตั้ง : ตำบลบึงศาล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก
โทร. 087 979 7341
เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
พิกัด : https://goo.gl/maps/i31f3oMceZJ6nbzp8
ส่วนฟาร์มจะอยู่ด้านหลังร้าน บรรยากาศสไตล์บ้านทุ่ง มีนาข้าวและสระน้ำเล็ก ๆ ให้พายเรือเล่น หรือจะนั่งให้อาหารปลาชิล ๆ ริมสระก็ได้นะ
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมทำไข่เค็มดินสอพอง ครอบครัวไหนที่มีน้อง ๆ หนู ๆ มาด้วย สามารถมาทำกิจกรรมนี้กันได้ค่ะ
วัดจุฬาภรณ์วนาราม
ไปเที่ยวต่อกันที่วัดจุฬาภรณ์วนาราม วัดนี้สร้างขึ้นในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเจริญพระชนมายุ 50 พรรษา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานนามวัดว่า “วัดจุฬาภรณ์วนาราม” พร้อมทั้งพระราชทานตราสัญลักษณ์ จภ เป็นตราประจำวัด เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550
.
ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดนิยมของจังหวัดนครนายก ไฮไลท์ที่โดดเด่นคือซุ้มต้นไผ่ที่อยู่บริเวณทางเดินเข้าวัด แอดบอกเลยว่าสวยมาก ร่มรื่นสุด ๆ ถ่ายรูปกันได้อย่างเพลิดเพลินเลยค่ะ
.
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
เปิดทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.
โทร. 080 011 3791
พิกัด https://goo.gl/maps/jCpXxNQCw9hGRenE9
หลังจากถ่ายรูปกับซุ้มต้นไผ่แล้ว อย่าลืมเข้าไปไหว้พระด้านในวัดเพื่อเสริมสิริมงคลกันด้วยนะคะ
อุทยานพระพิฆเณศ
อุทยานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม ภายในมีพระพิฆเณศปางประทานพรและปางเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังจัดแสดงพระพิฆเณศ 108 ปางอีกด้วย
.
ที่ตั้ง : 24/4 หมู่ที่ 11 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
โทร. 088 914 1987
พิกัด https://goo.gl/maps/b6SXgaqDk9jHeJvs6
สะพานทุ่งนามุ้ย
ปิดท้ายการท่องเที่ยวจังหวัดนครนายกกันที่สะพานทุ่งนามุ้ย ซึ่งเป็นสะพานไม้ไผ่รูปตัว s มีความยาวประมาณ 150 เมตร ทอดยาวคดโค้งผ่านทุ่งนา เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ บริเวณนี้มีร้านกาแฟและร้านขายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้านให้เราไปอุดหนุนกันด้วย
.
เพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปเที่ยวสะพานทุ่งนามุ้ยได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าใครอยากเห็นทุ่งนาสีเขียวแบบนี้ต้องไปช่วงปลายปีนะคะ
.
ที่ตั้ง : 88 หมู่ที่ 11 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
เปิดทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.
โทร. 094 493 4321
พิกัด https://goo.gl/maps/JDr7ZsK8zbC5Q3dY6
ไปต่อที่จังหวัดปราจีนบุรีกันเลยค่ะ
ที่แรกที่เราจะไปคือ พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร
.
ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อาคารสีเหลืองสดใสสไตล์บาร็อกริมแม่น้ำปราจีนบุรีแห่งนี้ ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตึกที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรสร้างขึ้นด้วยทรัพย์สินส่วนตัว เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ เยือนมณฑลปราจีน และเคยใช้เป็นตึกอำนวยการรักษาผู้ป่วย
.
ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2539
.
ที่ตั้ง : 32/7 หมู่ที่ 12 ตำบลท่างาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.00 น.
โทร. 037 211 289, 037 211 088 ต่อ 2149, 2133
พิกัด https://goo.gl/maps/f741531vS9v3pTQH9
ภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของตึก รวบรวมและอนุรักษ์ตำรายาไทย การแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี
.
นอกจากนี้ยังมีสินค้าสมุนไพรของอภัยภูเบศรจำหน่ายด้วย ใครชอบผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร อย่าลืมแวะซื้อกันนะคะ
บ้านเล่าเรื่อง…เมืองสมุนไพร
ไปหาของอร่อยทานกันต่อที่บ้านเล่าเรื่อง…เมืองสมุนไพร
.
บ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของสมุนไพรหลังนี้ เดิมเป็นของครอบครัวเปี่ยมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางและพ่อค้าเก่าแก่ของจังหวัดปราจีนบุรี
ดร. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ได้มอบบ้านหลังนี้ให้แก่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเพื่อใช้ประโยชน์ จึงเป็นที่มาของบ้านเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นทั้งร้านอาหารเพื่อสุขภาพและพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ที่นำเสนอเรื่องราวของสมุนไพรผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงภายในร้าน
.
ที่ตั้ง : 51 ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น.
โทร. 097 021 1037
พิกัด https://goo.gl/maps/khv48AnwC3dKuvhf8
ภายในห้องอาหารมีการจัดแสดงความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไว้ตามส่วนต่าง ๆ ทำให้เห็นว่าสมุนไพรนั้นน่าสนใจและอยู่ไม่ไกลตัวเราเลย
.
อาหารแต่ละเมนูก็น่ากินและมีประโยชน์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ยำทะเลดอกอัญชัน น้ำมะนาวอัญชัน แอดลองชิมแล้ว อร่อยจนต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ
เรายังวนเวียนอยู่กับเรื่องสมุนไพรค่ะ ที่ต่อไปที่จะไปเที่ยวกันนั้นก็คือ เรือนหมอพลอย ซึ่งอยู่ภายในภูมิภูเบศร ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ บางเดชะ
.
“เรือนหมอพลอย” เป็นเรือนไม้หลังใหญ่ที่นายแพทย์ไพโรจน์ นิงสานนท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงหมื่นชำนาญแพทยา (พลอย แพทยานนท์) หมอหลวงในสมัยรัชกาลที่ 5 – รัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นคุณตาของท่าน
.
และต่อมาท่านได้มอบเรือนหลังนี้ให้แก่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อใช้จัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทย
.
ที่ตั้ง : ตําบลบางเดชะ อําเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.
โทร. 097 098 3582
พิกัด https://goo.gl/maps/XcTKNkieAhwKE47QA
เรือนหมอพลอยเป็นเรือนไม้ใต้ถุนสูง ภายในจัด
แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย โดยชั้นล่างจัดเป็น “โซนยาย้อนยุค”
.
มีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรและของฝากเก๋ ๆ ให้เลือกซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ด้วย
.
ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ บริเวณชั้นล่างนี้จะมีกิจกรรม Workshop สาธิตการทำยา และกิจกรรมสุขภาพต่าง ๆ เช่น การทำแป้งร่ำ การทำธูปหอมด้วยสมุนไพร ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมจะแตกต่างกันไปในแต่ละเดือน
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่จำกัดจำนวนคนและไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ โดยกิจกรรมจะมีวันละ 2 รอบ เวลา 10.00 น. และ 14.00 น.
หลังจากทดลองทำยากันไปแล้ว เราก็ขึ้นมาชมนิทรรศการที่ชั้นบนกันบ้าง ซึ่งข้างบนนี้แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ห้องด้วยกัน
.
ห้องแรกคือ “ย้อนรอยหมอหลวง ชื่อหมอพลอย” เป็นห้องที่บอกเล่าถึงชีวประวัติของหมอพลอย และความเป็นมาของเรือนหลังน
มีข้าวของเครื่องใช้ของหมอพลอย และเครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ในอดีตไว้ให้ชมมากมายเลย
ห้องถัดมาเป็นห้อง “หมอไทยนั้นเป็นฉันใด” ในห้องนี้เราจะได้เรียนรู้เรื่องราวของการแพทย์ในแบบต่างๆ ทั้งการแพทย์เชิงระบบ การแพทย์เหนือธรรมชาติ และการแพทย์พื้นบ้าน ซึ่งได้นำมาประยุกต์ใช้ในการแพทย์แผนปัจจุบัน
ส่วนห้องสุดท้ายคือ “หั่น สับ จับมาเป็นยา” ภายในห้องนี้เราสามารถหยิบจับเครื่องไม้เครื่องมือ และลองทำยาด้วยตัวเองได้ด้วย เห็นแล้วนึกถึงละครเรื่อง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง เลยค่ะ
Café Kantary 304
ปิดท้ายทริปท่องเที่ยวของเราแบบชิค ๆ ด้วยการไปนั่งจิบกาแฟชิล ๆ ที่ร้านคาเฟ่ แคนทารี 304
.
ภายในร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นเคาน์เตอร์สำหรับสั่งเครื่องดื่มและอาหาร มีโต๊ะให้นั่งทั้งด้านในและด้านนอก และมีมุมขายของที่ระลึกของทางร้าน เมื่อเดินขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นโซนที่นั่งสไตล์ชิล ๆ
บนผนังภายในร้านตกแต่งด้วยผลงานกราฟฟิตี้รูป “น้องมาร์ดี (Mardi)” ที่ทำให้ไม่ว่ามุมไหนก็น่าถ่ายรูปไปหมด☺️
.
อยากจะบอกว่า นอกจากที่นี่จะเป็นคาเฟ่สุดน่ารักแล้ว ก็ยังครบเครื่องในเรื่องกินอีกด้วย เพราะมีทั้งเครื่องดื่ม เค้ก เครป แพนเค้ก และอาหารฟิวชันเลย
.
ที่ตั้ง: 689 หมู่ที่ 10 ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 07.00-22.00 น.
โทร. 037 239 777
พิกัด https://goo.gl/maps/uCUF2xKmKYd9QUBH8