การผจญภัย..ใกล้เมืองกรุงฯ ที่แก่งกระจาน
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางเพียง 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ไฮไลท์ของที่นี่ คือ การขึ้นไปชมวิวทะเลหมอกบนเขาพะเนินทุ่ง สามารถนำรถยนต์ขึ้นไปได้แต่แนะนำเป็นรถขับเคลื่อนกำลังสูง ไม่แนะนำรถเก๋ง หรือสามารถติดต่อเช่ารถสองแถวมีบริการขึ้นเขาพะเนินทุ่งตลอดตามช่วงเวลาที่กำหนดขึ้นลง สามารถติดต่อได้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
ขอบคุณภาพจาก : รถรับจ้างขึ้นเขาพะเนินทุ่ง
เส้นทางขึ้นเขาพะเนินทุ่ง ช่วงแรกๆถนนเรียบ ทางลาดยาง เดินทางสะดวกสบาย บางช่วงมีลักษณะเหมือนอุโมงค์ต้นไม้ สามารถจอดรถลงไปถ่ายรูปสวยๆกันได้
ขอบคุณภาพจาก : รถรับจ้างขึ้นเขาพะเนินทุ่ง
จุดแรกที่สามารถพักรถหรือค้างแรมได้เรียกว่า แค้มป์บ้างกร่าง บริเวณโดยรอบจะเต็มไปด้วยผีเสื้อสวยๆและหิ่งห้อยในเวลากลางคืน สามารถมาชมได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม
หลังจากผ่านแคมป์บ้านกร่างมาเส้นทางค่อนข้างขรุขระ บางจุดต้องผ่านลำธารที่ไหลผ่านถนน บางจุดเป็นเนินเขาค่อนข้างชัน จุดนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เมื่อถึงแคมป์พะเนินทุ่งสามารถกางเต็นท์ค้างแรม โดยจะเช่าเต็นท์ของทางอุทยานฯ หรือเอาเต็นท์มากางเองก็ได้ มีค่าบริการกางเต็นท์ด้วย มีห้องน้ำ มีร้านอาหารของทางอุทยานฯเป็นอาหารตามสั่งหรืออาหารสำเร็จรูปแบบง่ายๆ เช่น มาม่า ปลากระป๋อง เป็นต้น บรรยากาศตอนกลางคืน ถ้าวันไหนฟ้าฝนเป็นใจ ท้องฟ้าเปิด ก็จะได้เห็นดาวเต็มฟ้าแบบนี้
พลาดไม่ได้กลับบรรยากาศทะเลหมอกยามเช้า ที่จุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดกางเต็นท์ ใครตื่นเช้าก่อนเวลา 06.00 น.มารอดูพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกสวยๆก่อนใครได้เลย ที่นี่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สามารถชมได้ทั้งปีแม้กระทั่งฤดูร้อนยังมีทะเลหมอกให้ชม เนื่องจากป่าแก่งกระจานมีความอุดมสมบูรณ์มาก
หลังจากชมวิว ชมทะเลหมอกจนอิ่มใจแล้ว ลงจากเขาพะเนินทุ่งมาพายเรือคายัคชมวิว ชมธรรมชาติรอบๆทะเลสาบเหนือเขื่อนแก่งกระจาน ก็เพลิดเพลินดีไม่น้อย
ถ้ายังมีเวลารอชมแสงเย็นบริเวณสันเขื่อนแก่งกระจาน ที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ จากนั้นจะหาที่พักริมเขื่อนชิวๆนอนอีกสักคืนก็มีบริการหลากหลายที่พร้อมกิจกรรมสนุกๆอีกมายมาย
